memorable guy ผู้ชายที่ไม่เคยลืม
เขียนโดย BLACK_SEA
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.02 น.
แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 12.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) สวนแห่งความหลัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรุ่งเช้า โทโมะขับรถไปจอดที่หน้าบ้านแก้ว เปิดประตูลงจากรถแล้วกดออดเรียกคนในบ้าน
‘ติ๊งต่อง’
ชั่วอึดใจเดียว หญิงสาวร่างบางก็เดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง
“อ้าว พี่โทโมะ สวัสดีค่ะ มาแต่เช้าเชียวมีอะไรรึเปล่าคะ เข้ามาก่อนค่ะๆ”
แก้วกำลังจะเปิดประตูให้โทโมะนำรถเข้าไปจอดข้างในแต่โทโมะจับประตูเอาไว้
“ไม่ต้องหรอก พี่มารับแก้วน่ะ มา ขึ้นรถเลย”
“ฮะ.. รับไปไหนแต่เช้าอ่ะ งั้นรอแปปนึงนะ” หญิงสาวทำหน้างงๆ ก่อนจะเดินหายเข้าบ้านไป
แก้วขึ้นไปบนห้อง หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายแล้วเดินลงมาผ่านห้องนั่งเล่น
“ไปไหนแต่เช้าน่ะลูก” แม่มลละสายตาจากทีวี แล้วหันมาถามแก้ว
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ พี่โทโมะมารับแต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน”
“โอเคจ้ะ ไปกับว่าที่คู่หมั้นแม่ก็ไม่ห่วงอะไรแล้ว”แม่มลยิ้มให้แก้วก่อนจะหันไปดูทีวีต่อ
แก้วยิ้มตอบแล้วเดินออกมาจากบ้าน เปิดประตูรถขึ้นนั่งข้างๆคนขับ
“ทำไมนานจัง” พูดจบก็ออกรถทันที
“ก็..แวะคุยกับแม่นิดหน่อย แล้วนี่เราจะไปไหนกันคะ”
“เดี๋ยวก็รู้เอง”
ระหว่างทางบนรถมีแต่ความเงียบ ก่อนที่แก้วจะเปิดเพลงทำลายความเงียบนั้น โทโมะนั่งครุ่นคิดไปเรื่อยๆ จนรถหยุดลงที่หน้าร้านชุดแต่งงาน
“เอ๋??”แก้วมองไปรอบๆแล้วทำหน้าสงสัย
โทโมะนิ่งแล้วคิด..
โทโมะลังเลอยู่สักพักก่อนจะออกรถไปรถหยุดลงอีกครั้งที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ป่ะ ลงไปกินข้าวกัน”โทโมะดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูรถออกไป
แก้วลงจากรถแล้วมองไปรอบๆแล้วรู้สึกคุ้นๆ เหมือนกับว่าเคยมาที่นี่มาก่อน แต่แล้วก็หายสงสัยเมื่อคำพูดหลุดออกจากปากโทโมะ
“ร้านนี้เมื่อก่อนเรามากินด้วยกัน จำได้มั้ยแก้ว”
“ก็ว่าคุ้นๆอยู่ค่ะ” แก้วตอบแล้วเดินตามโทโมะไป
ทั้งคู่เดินเข้ามาในร้าน เนื่องจากเวลานั้นยังคงเช้าๆอยู่คนเลยไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ สักพักก็มีพนักงานเดินออกมาต้อนรับ
“กี่ท่านคะ”พนักงานสาวสวยถามแล้วยิ้มหวานให้
“สองครับ”
“เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานพาทั้งคู่มานั่งที่โต๊ะตัวหนึ่ง
ทั้งสองคนนั่งลงแล้วสั่งอาหาร เพียงไม่นานอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะทั้งคู่ลงมือทานอาหารตรงหน้า สักพักหนึ่ง โทโมะก็เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา
“อ่ะแก้ว กินนี่” โทโมะพูดพลางตักกุ้งให้แก้ว
“ขอบคุณค่ะ พี่โทโมะกินนี่สิ” แก้วพูดพลางตักหมูสับให้โทโมะ
“นี่แกล้งพี่ใช่มั้ยเนี่ย” โทโมะส่ายหัวไปมา
“ฮ่าๆๆ แหย่เล่นนิดเดียวเอง แก้วรู้น่าว่าพี่ไม่กินหมูอ่ะ แก้วกินเองๆ พี่โทโมะเอานี่ดีกว่า” แก้วหัวเราะแล้วตักน่องไก่ไปใส่จานโทโมะ
“ดีมากกกกกก” โทโมะยกมือขึ้นขยี้หัวแก้ว
“พี่โทโมะ หัวยุ่งหมดแล้วววววว หยุดเลยยยยย” แก้วโวยวายก่อนจะปัดมือโทโมะออก
“นั่งกินเฉยๆเลย พี่โทโมะบ้า!”แก้วพูดก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ ไม่นานนักทั้งคู่ก็กินเสร็จ
“อิ่มจัง”แก้วพูดแล้วลูบท้องตัวเอง
“อิ่มก็ดีแล้ว งั้นเราไปกันเลยเถอะ” โทโมะเรียกเช็คบิล แล้วทั้งคู่ก็ออกจากร้านไปขึ้นรถ
“พี่โทโมะ เดี๋ยวแก้วขอแวะหาเพื่อนแปปนึงนะ” แก้วหันไปบอกโทโมะ
“ได้สิ ที่ไหนล่ะ”โทโมะพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงอนุญาต
“ข้างหน้าเลี้ยวซ้ายค่ะ” แก้วชี้ทางให้โทะโมะ
ไม่นานนักก็ถึงหน้าบ้านเพื่อนของแก้วแก้วลงไปกดออดหน้าบ้าน สักพักก็มีสาวร่างเล็กเดินออกมาเปิดประตูให้
“ฟางงงงงง” แก้วกอดฟางทันทีที่ฟางเปิดประตูออกมา
“อ้าว แก้ว ไปไงมาไงเนี่ย”ฟางที่โดนแก้วกอดได้แต่ยืนงง
“มากับพี่โทโมะอ่ะ” แก้วคลายอ้อมกอดแล้วชี้ไปที่รถ
“ว้าวๆ งั้นชวนพี่เค้าเข้ามานั่งข้างในก่อนๆ” ฟางดันตัวแก้วไปที่รถทันที
เมื่อแก้วเรียกให้โทโมะลงมาจากรถ สาวร่างเล็กพาทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาห้องรับแขกของบ้าน
“ฟาง นี่พี่โทโมะนะ พี่โทโมะนี่ฟางเพื่อนแก้วเองค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่โทโมะ” ฟางยิ้มแย้มทักทายด้วยสีหน้าเป็นมิตรพร้อมยื่นมือออกไป
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับน้องฟาง” โทโมะยิ้มตอบแล้วยื่นมือออกไปจับมือฟาง
“โทโมะรู้จักแก้วมานานแล้วหรอคะ”ฟางปล่อยมือออกแล้วถามขึ้น
“ก็ตั้งแต่จำความได้พี่ก็เห็นแก้วมาตลอดเลย มีช่วง 15 ปีที่พี่ไปเรียนต่อเนี่ยแหละที่ไม่ได้เจอกัน” โทโมะอธิบาย
“โอ้โห อย่างนี้ก็รู้จักกันมานานมากแล้วสิคะ” ฟางทำหน้าตกใจ
“เรียกว่าทั้งชีวิตของแก้วเลยดีกว่า ฮ่าๆๆ” โทโมะพูดขำๆ
แล้วทั้งสามคนก็คุยกันอย่างสนุกสนาน จนเวลาล่วงเลยผ่านไป..
“โหย พี่โทโมะอ่ะ เม้าท์แก้วซะภาพลักษณ์ที่แก้วสร้างมาไม่มีเหลือเลย” แก้วทำหน้างอ
“ฟางว่ามันก็ตลกดีนะแก้ว ฟางได้เห็นแก้วในมุมที่ไม่เคยเห็นด้วย ฮ่าๆๆๆ” ฟางหัวเราะลั่น
“แต่ตอนเด็กแก้วเป็นอย่างนั้นจริงๆนะ ฮ่าๆๆ” โทโมะหัวเราะบ้าง
“โห่ย พอกัน ทั้งคู่เลย งอนแล้ว” แก้วทำแก้มป่องก่อนจะหันหลังให้คนทั้งคู่
“โอ๋ๆๆ ง้อนะ ง้อๆๆๆ” ฟางลุกขึ้นมายืนหน้าแก้วแล้วยื่นนิ้วก้อยมาให้
“ก็ได้ นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนกันนะเนี่ย” แก้วยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับฟาง
“พี่โทโมะไม่ง้อแก้วบ้างหรอคะ ฟางง้อเสร็จแล้วน้า” ฟางมองไปทางโทโมะ แล้วแก้วก็หันตามไป
“ไม่งอนนะคนดีของพี่ มาๆเกี่ยวก้อยกันๆ” โทโมะยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้า
“จะดีดีมั้ยเนี่ย”แก้วสะบัดหน้าไปอีกทาง
“น่านะ ดีกัน” โทโมะยังคงยื่นนิ้วก้อยมาให้
“ก็ได้ค่ะ เห็นว่าเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆนะเนี่ย” แก้วยื่นมืออีกข้างไปเกี่ยวก้อยกับโทโมะ
“โอเคค่า ไม่งอนแล้วทั้งคู่” แก้วปล่อยมือออกจากฟางและโทโมะ
โทโมะเมื่อปล่อยมือออกจากแก้วแล้วก็ก้มมองนาฬิกา
“อ๊ะ! บ่ายสามแล้วหรอ น้องฟาง พี่ว่าเดี๋ยวพี่ขอตัวพาแก้วกลับก่อนนะ คุยเพลินจนลืมดูเวลาเชียว”
“ค่ะ เชิญเลยค่ะ ไว้ครั้งหน้ามากันใหม่นะคะ บ้านฟางยินดีต้อนรับเสมอค่ะ” ฟางยิ้มแย้มก่อนจะออกไปส่งทั้งคู่ขึ้นรถออกไป
“บ๊ายบายนะฟาง แล้วจะมาหาใหม่” แก้วลดกระจกลงโบกมือลาเพื่อน
และแล้วรถถูกขับเคลื่อนออกจากบ้านฟางไปหยุดลงที่สถานที่หนึ่ง..
ทั้งคู่เดินลงมาจากรถ แก้วเดินตามโทโมะไปแล้วพบสนามเด็กเล่นที่เป็นพื้นทรายเอาไว้ให้เด็กได้ก่อเล่นกัน
“ที่นี่มัน.. “ แก้วนึกถึงเหตุการณ์ในวัยเด็ก
.
.
แก้วกำลังนั่งวาดรูปบนผืนทรายอยู่กลางสนาม
‘แก้วเล่นทรายอยู่หรอ รูปคนอีกแล้วทำไมวาดแค่คนเดียวตลอดเลยอ่ะ ไม่เอาๆ มาๆเดี๋ยวพี่ช่วย’ โทโมะเดินเข้าไปนั่งยองๆลงข้างๆเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก่อนจะช่วยวาดร่างคนอีกสองคน
‘เสร็จสักที’ โทโมะพูดแล้วปาดเหงื่อ
‘นี่..พ่อ’ โทโมะชี้ไปที่รูปที่ตัวใหญ่ที่สุดทางซ้ายมือ
‘นี่..แม่’ ชี้ไปที่ตัวด้านขวามือ
‘นี่..ลูก’ ชี้ไปที่ตัวที่เล็กที่สุดระหว่างกลาง
‘น่ารักจังพี่โทโมะ’ แก้วมองรูปบนพื้นทรายก่อนจะยิ้มออกมา
‘หมายถึงพี่หรือว่าไงฮ่าๆๆ’ โทโมะยิ้มเขินๆ
‘ไม่ๆ แก้วหมายถึงตัวนี้น่ารัก..’ แก้วพูดแล้วชี้ไปที่ตัวตรงกลางที่เล็กที่สุด
‘ทำอะไรกันอยู่จ๊ะเด็กๆ’ แม่ของโทโมะและแก้วเดินเข้ามาหาเด็กทั้งสองพร้อมน้ำหวานในมือ
‘เย้ๆๆ’ แก้วกับโทโมะยิ้มดีใจแล้ววิ่งไปรับน้ำหวานมายกดื่มทันที
‘แม่ขา แม่ดูสิ ตัวนี้น่ารักจัง’ แก้วพูดแล้วชี้ไปที่รูปของตัวเล็กบนพื้นทราย
‘วาดรูปพ่อแม่ลูกกันอยู่หรอจ๊ะ’ แม่มองดูรูปบนพื้นทราย
‘ใช่ค่ะ คุณแม่ แก้วอยากได้บ้างจัง’ แก้วเดินเข้าไปกอดแม่ โทโมะและแม่ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
‘เดี๋ยวพอหนูโตขึ้น หนูก็จะมีจ้ะ’ แม่ลูบหัวแก้วเบาๆ
‘แล้วต้องทำยังไงถึงจะมีลูกได้คะ คุณแม่’ เจอคำถามนี้เข้าไปคุณแม่ทั้งสองก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
‘แม่ว่า..อันนี้เดี๋ยวโตแล้วหนูก็รู้เองแหละจ้ะ’ แม่มลตอบ
‘ค่ะแม่ โตขึ้นแก้วจะต้องมีลูกให้ได้เลย’เด็กหญิงตอบด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
‘แต่งกะพี่โทโมะเลยมั้ยล่ะลูกแม่สนับสนุนนะ’ แม่ของโทโมะพูดแล้วขำ
‘แต่งคือยังไงครับ’ โทโมะถามด้วยความสงสัย
‘ก็มาอยู่ด้วยกันแล้วก็มีลูกไงจ๊ะ’ แม่ของโทโมะตอบ
‘งั้นแก้วจะแต่งๆ นะคะคุณแม่ ให้แก้วแต่งนะ’ แก้วเขย่าแขนผู้เป็นแม่เบาๆ
‘รอโตกว่านี้หน่อยนะลูก แต่งงานเนี่ยต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเลยนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ’ คุณแม่มอง
ลูกสาวแล้วขำออกมา
‘เอาครับๆ ถ้าจะได้อยู่เล่นกับน้องแก้วตลอดไป ผมจะแต่งครับๆ’ โทโมะกระโดดโลดเต้น
‘ต้องให้แม่ไปขอน้องเค้าจากแม่มลก่อนสิลูก’ แม่ของโทโมะยิ้มให้ลูกชาย
‘งั้นแม่ไปขอแก้วให้ผมนะ’ โทโมะเดินไปกอดแขนแม่ของตัวเอง
‘เอางั้นหรอ ก็ได้นะ รอพวกหนูบรรลุนิติภาวะก่อนละกัน ว่าแต่ที่พูดๆกันมา มลเห็นด้วยมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ’ แม่ของโทโมะพูดแล้วหันไปหาแม่ของแก้ว
‘ก็โอเคนะ ลูกสาวฉันกับลูกชายเธอก็สนิทกันดี อย่างนี้เราก็จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วสิ’ แม่ของแก้วและโทโมะยิ้มให้กัน
‘ถ้าโตแล้ว แม่อย่าลืมไปขอแก้วให้ผมด้วยนะ ห้ามลืมนะแม่! แก้วจะได้เล่นกับผมไปตลอดชีวิตเลยไง’ โทโมะพูดย้ำแม่
‘จ้าๆ โตแล้วแม่ขอให้แน่ ไม่ต้องห่วง’ โทโมะได้ยินดังนั้นก็เข้าไปกอดแม่แน่น
‘ขอบคุณครับแม่’ โทโมะคลายอ้อมกอดแล้วเดินไปหาแก้ว
‘แก้ว เราไปเล่นตรงนั้นกันมั้ย’ โทโมะชี้ไปทางชิงช้า
‘เอาสิพี่โทโมะ’ แก้วพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่ชิงช้า
‘แก้วนั่งสิ เดี๋ยวพี่ไกวชิงช้าให้’ แก้วนั่งลงบนชิงช้าแต่โทโมะก็ยังไม่เริ่มไกวชิงช้าเสียที
‘รอแปปนึงนะแก้ว’ โทโมะวิ่งไปหยิบอะไรบางอย่างหลังพุ่มไม้
‘อ๊ะ’ แก้วร้องขึ้นเมื่อมีอะไรสวมลงมาที่หัว มือเล็กๆสองมือหยิบสิ่งนั้นลงมาดู
‘ว้าว มงกุฎดอกไม้สวยจังเลยพี่โทโมะ’ แก้วมองมงกุฎดอกไม้แล้วอมยิ้ม
‘ใส่ไว้สิพี่นั่งทำตั้งนานนะ’ โทโมะพูดแล้วหยิบมงกุฎดอกไม้กลับมาสวมไว้ที่หัวของเด็กหญิงเช่นเดิม
‘พี่โทโมะทำเองเลยหรอ’
‘ทำให้เจ้าหญิงน้อยของพี่ไง’
‘ขอบคุณค่ะพี่โทโมะ แก้วชอบมากๆเลย แก้วจะเก็บไว้อย่างดีเลย’ แก้วหันไปยิ้มให้โทโมะ ทั้งคู่ยิ้มให้กันและกัน
‘แก้ว.. โตแล้วอย่าลืมแต่งงานกับพี่นะ’ โทโมะพูดขึ้นมา
‘พี่โทโมะก็อย่าลืมให้แม่มาขอแก้วนะ’ แก้วตอบแล้วเอนหลังลงไปพิงหน้าอกของเด็กชายข้างหลัง
‘ได้สิ พี่คงไม่ลืมหรอกเดี๋ยวเราก็จะได้อยู่เล่นกันตลอดไปแล้วเนาะแก้ว’ โทโมะเอามือลูบผมคนที่กำลังพิงตัวเองอยู่ แก้วเอนตัวกลับมานั่งตรงบนชิงช้า
‘พี่ไกวแล้วนะ’ โทโมะค่อยๆเริ่มไกวชิงช้าเบาๆ
.
.
“แก้ว คิดอะไรอยู่น่ะ” เสียงของชายหนุ่มเรียกสติของหญิงสาวให้กลับคืนมา
“อ๋อ ก็เรื่อยเปื่อยค่ะ”แก้วที่นั่งอยู่บนชิงช้าที่โทโมะกำลังไกวให้ตอบออกมา ว่าแต่เธอมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย...
“ไม่ใช่คิดถึงเรื่องในอดีตอยู่หรอ” โทโมะถาม
“ก็..นิดนึง ว่าแต่ทำไมแก้วมานั่งตรงนี้ได้อ่ะเนี่ย” แก้วทำหน้างงๆ
“นี่เหม่อจนไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ยเนี่ย ก็พี่ชวนมานั่งแล้วแก้วก็มาไง” โทโมะส่ายหน้าเบาๆๆกับอาการจิตหลุดขั้นรุนแรงของแก้ว
“เหออออ แก้วจำไม่เห็นได้เลย”หญิงสาวทำหน้าเหลอหลา
“มาจูนหน่อยมั้ย” โทโมะหยุดไกวชิงช้าแล้วเอามือมาบีบนวดตรงศีรษะของแก้ว
“ฮืม สบาย อ๊ะ เอาอีกๆ” แก้วท้วงเมื่อโทโมะปล่อยมือออก
“พอแล้วน่า นี่จะหกโมงเย็นแล้ว ไปกินข้าวแล้วจะได้กลับบ้านกัน” โทโมะพูดก่อนทั้งคู่จะเดินออกไปจากสนามเด็กเล่นนั้น จากนั้นโทโมะก็พาแก้วไปกินข้าวเย็นด้วยกันก่อนจะพาแก้วไปส่งที่บ้าน
“พี่กลับก่อนนะ”โทโมะเลื่อนกระจกลงพูดกับแก้วเมื่อแก้วลงจากรถไป
“ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่โทโมะ กลับบ้านดีๆนะคะ” แก้วยิ้มแย้มโบกมือลาโทโมะ โทโมะยิ้มตอบนิดหนึ่งก่อนจะออกรถไป แก้วมองรถโทโมะวิ่งไปจนลับตาแล้วก็เดินเข้าบ้านไป
“เป็นไงลูก ไปไหนกันมา กินข้าวมาหรือยัง แล้วพี่โทโมะน่ารักไหม” แม่มลถามขึ้นเมื่อเห็นแก้วเดินเข้ามา
“แม่ถามช้าๆก็ได้นะคะ ฮ่าๆ ก็ดีค่ะวันนี้พี่โทโมะพาแก้วไปตั้งหลายที่แน่ะ แก้วกินข้าวเรียบร้อยแล้วก่อนมาค่ะ แล้วก็คำถามสุดท้ายก็...รู้ๆกันอยู่นะคะ” แก้วตอบทีละคำถามแล้วหน้าขึ้นสีเมื่อตอบคำถามสุดท้าย
“จ้า ไม่บอกก็รู้จ้า นี่กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำนอนได้แล้วแหละลูก” แม่มลไล่แก้วขึ้นไปข้างบนก่อนจะหันไปสนใจทีวีที่เปิดไว้
“ค่ะแม่” แก้วตอบรับก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนห้องนอน
---------
แหะๆ หายไปนานเลย
ยาวไปมั้ยหว่า?
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ