พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท2 YAOI 18+
8.9
เขียนโดย sebbynoi
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.33 น.
40 บทที่ 2 พ่อบ้านผู้นั้น กับเรื่องในอดีด
11 วิจารณ์
108.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557 10.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
28) ตอนที่ 28
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"อืม ตอนจะเข้าไปที่ประตูพิพากษานั้นรู้สึกยังไงเหรอเซบาสเตียน"ชิเอลถามขึ้นพรางมองหน้าเซบาสเตียน"ตื่นเต้นมากครับ เป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยล่ะ ก่อนที่พวกเราปีศาจผู้จะไปบุกเบิกจะได้เดินทางข้ามมิติกัน จะต้องทำพิธีสังเวยประตูซึ่งผู้ที่จะเดินทางต้องสละเลือดตนเองอย่างละนิดอย่างละหน่อยให้ได้ครบ100 ลิตร ดังนั้นคนที่จะเดินทางไปบุกเบิกได้จะต้องร่วมมือกันสละเลือดของแต่ละคนใส่ลงไปที่หน้าซุ้มประตูให้ครบ100 ลิตร เพื่อทำพิธีเปิดประตูมิติข้ามจักรวาล สังเวยเลือดแด่ทวารบาลประตู "เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ"แล้วนายร่วมบริจาคเลือดด้วยเปล่าเซบาสเตียน"ชิเอลถามอย่างสนใจ"ไม่ได้ให้หรอกครับ ผมแอบอยู่ในกองสัมภาระขืนปรากฏตัวก็ถูกคนรู้จักของครอบครัวจับได้น่ะสิ การเดินทางบุกเบิกครั้งนี้มีกฏห้ามเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดไปเด็ดขาด ไม่มีเด็กคนไหนไปเลยสักคนเดียว มีผมคนเดียวนี่แหละที่กล้าบ้าบิ่นไปเพียงคนเดียว"เซบาสเตียนตอบพรางทำหน้าแดงๆด้วยความเขิน"แหมๆเป็นตัวแทนเด็กล่ะสิ นายนี่ใจกล้าบ้าบิ่นจริงๆเลยนะ"ชิเอลพูดยิ้มๆพรางมองหน้าเซบาสเตียนอย่างชื่นชมในความกล้าของเขา"ในเมื่อมีกฏห้ามแบบนั้นแล้วนายเข้าไปได้ยังไงไม่ถูกทวารบาลเล่นงานเอาเหรอ"ชิเอลตั้งข้อสังเกต "ไม่ขอรับ เพราะผมซ่อนตัวมิดชิดแล้วกลั้นหายใจตอนที่พวกนั้นเข็นรถเข็นกองสัมภาระลอดผ่านประตูมิติหายเข้าไปในแสงนั้น ในยามที่ประตูปิดมันก็คือซุ้มประตูลอดผ่านไปอีกด้านหนึ่งในพื้นที่เดียวกันเหมือนตอนที่เราผ่านซุ้มประตูเข้ามาในเมืองซาตานไงขอรับ แต่ว่าในยามที่ประตูเปิดออกเวลาเข้าไปจะหายไปกับแสงสว่างเหมือนกับลอดผ่านม่านแสงทะลุข้ามจักรวาล"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ"แล้วตอนลอดผ่านม่านแสงรู้สึกยังไง"ชิเอลถามเขาอยากให้ประตูมิติที่เมืองซานตานเปิดจังอยากลองเดินทางข้ามจักรวาลมั่ง"ก็แค่แสบตาเวลาเข้าไปในแสงจ้านั่นแหละครับแต่มันไม่ร้อนไม่เย็นอากาศปกติ แสงจ้ามากในห้วงมิติมองอะไรไม่เห็นเลยนอกจากสีขาวโพรนผมต้องปิดตาเพราะแสงจ้ามากตอนข้ามผ่านมิติ แล้วพอลืมตาอีกทีก็ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าแสงจ้านั้นหายไปแล้วนั่นแหละ พอลืมตามาก็เห็นทิวทัศน์ที่แปลกตาแต่ว่ามีสภาพแวดล้อมไม่แตกต่างเท่าไหร่กับโลกปีศาจเลย ประตูมิติพาพวกเราทะลุมาโผล่ยังผืนหญ้าของทุ่งกว้างๆตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก ร้องออกมาว่า ว้าววว นี่เหรอโลกมนุษย์เบาๆไม่ให้เจ้าพวกปีศาจพวกนั้นได้ยินไม่งั้นโดนพากลับบ้านแน่ แล้วจากนั้นก็แอบซ่อนในนั้นไปตลอดจนพวกนั้นเดินทางจากทุ่งกว้างไปเรื่อยๆจนเข้าไปในตัวเมือง พวกปีศาจผู้ใหญ่พวกนั้นก็ปลอมแปลงเป็นร่างมนุษย์เพื่อที่จะทำตัวกลมกลืนแฝงตัวไปในหมู่มนุษย์ แต่กลิ่นเลือด เนื้อ ของพวกนั้นมันเป็นตัวปลุกอารมณ์กระตุ้นต่อมความหิวกระหายของพวกปีศาจน่ะสิ จนบางทีเกือบได้เห็นพวกนั้นจับมนุษย์มากินแล้วแต่ยังดีที่พวกนั้นไม่ได้ทำแค่มองดูอาหารอย่างหิวกระหายเท่านั้น ส่วนปีศาจเด็กอย่างผมกลับมองดูพวกมนุษย์อย่างตื่นเต้น รู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของพวกมนุษย์ไม่ได้แตกต่างจากปีศาจเท่าไหร่เลย "เซบาสเตียนบอกพรางจ้องหน้าชิเอล"อืมแล้วจากนั้นนายทำไงต่อ พวกปีศาจพวกนั้นรู้หรือยังว่านายแอบอยู่ในกองสัมภาระน่ะ"ชิเอลถามพรางหลบตาคนจ้องมองไปทางอื่น"ไม่รู้ขอรับผมแอบอยู่จนกว่าจะรถเข็นจะหยุดน่ะ แล้วพอพวกนั้นหยุดผมก็รีบลงมาจากรถเข็นทันทีเลยแล้วไปหลบซ่อนตัวตามมุมตึก ด้วยความที่ตนเองเป็นเด็กตัวเล็กเลยหาที่หลบได้เกือบทุกทีจากนั้นผมก็แยกจากพวกนั้นแล้วก็เริ่มเดินสำรวจเมืองมนุษย์เล่นคอยมองดูความเป็นไปของคนพวกนั้น บ้างจับจ่ายซื้อของบ้างพูดคุยกัน บ้างพาครอบครัวขึ้นรถม้า พวกมนุษย์มีทั้งชาย หญิง ลูกเด็กเล็กแดง เต็มเมืองเดินกันขวักไขว่เต็มไปหมด ผมก็เลยแฝงตัวเข้าไปในสภาพของผมก็ดูไม่ต่างจากเด็กมนุษย์เท่าไหร่ พวกมนุษย์เลยไม่สงสัยคิดว่าผมเป็นแบบพวกเขา ผมอดคิดไม่ได้ว่าต่อไปอนาคตของคนเหล่านั้นจะเป็นยังไงเพราะตอนนี้เมืองของพวกนั้นได้ถูกปีศาจต่างมิติรุกรานเสียแล้วโดยที่พวกนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดเดียว"เซบาสเตียนพูดอย่างเนือยๆ"แล้วนายไปเตือนพวกนั้นหรือเปล่าว่ามีปีศาจมาบุกโลก"ชิเอลถาม เซบาสเตียนส่ายหน้า"ไม่ได้บอกครับ หากไปบอกจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น แล้วคนที่จะโดนเล่นงานคือผมเอง ปีศาจพวกนั้นมันไม่กินพวกเดียวกันก็จริงแต่ว่าหากใครไปทำให้พวกมันโกรธมันก็อาจจะจับมาฆ่าได้ หรือทำร้ายกันเองได้ ผมไม่กล้าเสี่ยงหรอก พวกนั้นมีแต่คนรู้จักของท่านพ่อทั้งนั้นเลย และรู้จักตัวผมเป็นอย่างดีเลยด้วยหากพวกนั้นรู้ว่าผมมาก่อเรื่องยุ่งที่นี่ละก็โดนจับส่งตัวกลับไปทันทีเลย"เซบาสเตียนพูดพรางเอาแขนตนเองมาบีบนวดนี่เขานั่งเล่าเรื่องของตนเองผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเลยเมื่อยตัวนิดหน่อย"โหอย่างงี้ก็ค่อนข้างเสี่ยงอยู่นะ อยู่ท่ามกลางคนรู้จักแบบนี้ นายอาจโดนจับกลับไปได้ทุกเมื่อเลยสิ ท่าจะลำบากน่าดูแล้วนายทำไงถึงรอดมาจนเจอกับครอบครัวคุณเฟรชเชอร์เข้าล่ะ" ชิเอลถามตอนนี้เขายังคงนอนตะแคงอยู่ไม่ได้เปลี่ยนท่าเลย"ปลอมตัวขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ"แล้วปลอมตัวยังไง นายมีเวทมนต์ปลอมตัวด้วยเหรอ"ชิเอลถามอย่างแปลกใจ"เปล่าขอรับ ผมยังเด็กเกินกว่าจะทำได้ท่านพ่อไม่ยอมสอนกลัวผมเอาไปเล่นซน ผมเลยไม่รู้วิธีแปลงร่าง ผมไม่เหมือนโคลวเจ้าปีศาจแมงมุมนั้นมันแปลงร่างเก่งมาตั้งแต่แปดขวบแล้วเจ้านั้นพ่อมันสอน ผมล่ะอดอิจฉามันไม่ได้เลยจริงๆ ผมเลยอ้อนวอนท่านพ่อให้สอนผมมั่งแต่ท่านพ่อก็เอาแต่บอกว่าผมยังเด็กๆอยุ่แบบนั้นไม่ยอมสอนให้สักที พึ่งจะมาสอนให้ตอนผมอายุสิบห้าถึงจะได้เรียน ช้ากว่าเจ้าโคลวแต่ผมก็เรียนรู้ได้ไวอยู่ดีแหละ เลยแปลงร่างได้ตอนอายุสิบห้าน่าเสียดายถ้าอายุสิบเอ็ดผมทำได้ก็ไม่ต้องมาลำบากลำบนแบบนี้หรอก"เซบาสเตียนพูดอย่างเจ็บใจเล็กน้อย ชิเอลหัวเราะชอบใจ"อืมแล้วนายปลอมตัวยังไงในเมื่อตอนนั้นนายยังแปลงร่างไม่ได้น่ะ"ชิเอลถามยิ้มๆ"ก็แค่เปลี่ยนการแต่งตัวเปลี่ยนทรงผมเอาน่ะสิแล้วคอยหลบซ่อนไม่ไปจ๊ะเอ๋กับพวกนั้นก็รอดแล้วครับ แต่ว่าในสภาพนั้นผมจะเอาเงินที่ไหนไปหาซื้อเสื้อผ้ามนุษย์มาใส่ล่ะ เพราะไม่ได้นำเงินติดตัวมาเลย เงินในโลกปีศาจก็ใช้ที่โลกมนุษย์ไม่ได้ด้วย ผมก็เลยไปขโมยเงินพวกมนุษย์ตามร้านค้ามาได้เงินไม่เท่าไหร่เอง แรกๆก็ทำสำเร็จนะ เพราะผมวิ่งเร็วพวกนั้นวิ่งตามไล่จับผมไม่ทันหรอก แต่พอผมจะทำอีกครั้งกับร้านค้าอื่นๆในตอนกลางคืนคราวนี้ไม่โชคดีเหมือนครั้งแรก ผมถูกจับส่งตำรวจ เพราะเจ้าของร้านไหวตัวทัน ผมประมาทไปหน่อยเลยโดนจับต่อให้วิ่งเร็วแค่ไหนแต่ผมก็เป็นเด็กหากถูกรุมจับก็จอดอยู่ดี ใช้พลังปีศาจไม่ได้ด้วยเพราะจะทำให้พวกนั้นแตกตื่น ผมก็เลยโดนจับอย่างง่ายดาย แล้วก็ถูกตำรวจจับฟาดก้นด้วยมือเปล่าไปหลายทีเลย แล้วตำรวจนั่นก็พูดอะไรไม่รู้ ตอนนั้นผมยังไม่รู้ภาษาของมนุษย์ก็เลย ฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยได้แต่นิ่งเงียบ จนตำรวจคนที่สอบสวนผมคิดว่าผมกวนประสาทจับผมตีอีก แต่มันไม่เจ็บหรอกนะแรงของมนุษย์น่ะไม่ระคายผิวของผมเลยสักนิดต่อให้คนนั้นตีผมแรงขนาดไหนก็ตาม ตอนนั้นผมพยายามหาทางหลีกเลี่ยงในการสนทนากับมนุษย์ที่ถูกเรียกว่าตำรวจให้ได้จึงคิดแผนทำทีว่าตนเองเป็นใบ้ขึ้นมา ซึ่งทำได้แนบเนียนดีด้วยเพราะตอนที่โดนตีผมไม่ร้องเลยสักแอะ ตำรวจเลยเข้าใจว่าผมเป็นใบ้พูดไม่ได้ เขามองผมด้วยความกลุ้มใจว่าจะจัดการกับผมยังไงดี"เซบาสเตียนบอกเนือยๆเขารู้สึกอายจริงๆที่ต้องเล่าวีรกรรมสุดแสบให้นายน้อยฟัง"หึหึหึ นายเองตอนเด็กก็โดนตีบ่อยเหมือนกันนี่นะ แล้วไงต่อล่ะ นายตำรวจนั้นทำไงกับนายในเมื่อนายแกล้งเป็นใบ้ "ชิเอลพูดยิ้มพรางมองดูเซบาสเตียนอย่างขบขัน"บังคับให้ผมเขียนแทนน่ะสิ แต่ผมเป็นปีศาจไม่รู้จักภาษาเขียนของมนุษย์หรอก เลยนั่งวาดรูปเล่นตำรวจนั้นมาเห็นเลยโดนเขกหัวเข้าให้หนึ่งที แล้วตวาดใส่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร เพราะอยู่ที่โลกปีศาจใช้แต่ภาษาของปีศาจ ผมก็เลยแกล้งพูดว่า แบะ แบะ บู๊ แล้วทำหน้าสงสัย จากนั้นก็วาดรูปต่อแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินนายตำรวจนั่น ถึงได้ยินก็ไม่เข้าใจว่าพูดว่าอะไรเลยทำหูทวนลมไปซะ เจ้าตำรวจนั้นมองผมตาขวางเลย โกรธจนหน้าแดง แล้วตะโกนโหวกเหวกอะไรไม่รู้ ผมทำท่าเอ๋อไม่เข้าใจที่นายตำรวจนั้นพูด จากนั้นก็เอากระดาษเปล่าอีกแผ่นมาวาดต่อ โดยวาดเป็นรูปนายตำรวจนั้นโดนแขวนคอ ฮ่า ฮ่า นึกแล้วยังขำตัวเองไม่หายเลยไม่รู้ผมทำไปได้ไง"เซบาสเตียนพูดพรางหัวเราะขำตนเอง"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายนี่เหลือเกินจริงๆ นายตำรวจนั้นไม่เส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนเหรอ นายเล่นกวนประสาทเขาแบบนั้น แล้วตำรวจนั่นทำไงในเมื่อสื่อสารกันไม่รู้เรื่องน่ะ"ชิเอลถามยิ้มๆ"วาดรูปเอาขอรับ เขาเห็นผมเอาแต่วาดรูปเลยคิดว่าใช้รูปสื่อสารกันจะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่า ผมเรียนรู้ภาษาของมนุษย์จากการวาดรูปนั่นแหละ เขาวาดตัวเด็ก แล้วชี้มาที่ผม ผมพยักหน้า แล้วจากนั้นเขาก็วาดบ้านลงไปแล้วชี้มาที่ผมอีก ผมก็พยักหน้า ตอนนั้นเขาพูดไปด้วยวาดไปด้วยเลยทำให้ผมได้เรียนรู้ภาษาของเขาได้โดยไม่ยากเลย กว่าจะสื่อสารกันได้แต่ละคำแต่ละประโยคเล่นทำเอานายตำรวจแทบประสาทกินเลย ฮ่า อ่า ฮ่า" เซบาสเตียนพูดกลั๊วหัวเราะนึกขำตนเองตอนเด็กๆ"อืมๆแล้วไงต่อ "ชิเอลเร่งให้เซบาสเตียนเล่าต่อ"พอวาดตัวเด็ก วาดบ้าน แล้วต่อมาก็วาดตัวคนอีกสองคน คนหนึ่งผมสั้นใส่กางเกง อีกคนผมยาวใส่กระโปรง แล้วชี้มาที่ผม ผมก็เลยเข้าใจว่า เขาต้องการถามว่าผมเป็นใคร พ่อแม่ชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ถึงจะรู้ว่านายตำรวจนั้นถามว่าอะไรแต่ว่าผมจะตอบว่ายังไงล่ะ ชื่อตัวเองก็เขียนไม่ถูก ผมได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้จะทำยังไง แล้วทำทีเป็น ขีดคร่ารูปที่เขาวาด ที่รูปบ้าน รูปชายหญิง เหลือเพียงรูปเดียวที่ไม่ได้ขีดคร่า คือตัวเด็ก ทำให้เขารู้ว่าผมตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีบ้าน อยู่เพียงลำพังตัวคนเดียว นายตำรวจเลยมองดูผมอย่างสงสาร เขาคงคิดว่าเด็กคนนี้น่าสงสารยิ่งนัก พูดไม่ได้ หูก็ไม่ได้ยิน พ่อแม่ไม่มี บ้านไม่มี ช่างอนาถาจริงๆ " เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ ชิเอลมองดูพ่อบ้านจอมเจ้าเล่ห์ของเขาด้วยความทึ่ง ฉลาดตั้งแต่เด็กเลย สามารถเรียกความสงสารกับตำรวจได้ด้วย แม้จะเป็นความบังเอิญก็เถอะ"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายนี่กลายเป็นเด็กอนาถาไปซะแล้วสิ น่าสงสารจริงจริ๊ง แล้วตำรวจนั้นทำไงในเมื่อรู้ว่านายอยู่คนเดียว"ชิเอลถาม"เขาก็วาดรูปตัวเขา แล้วชี้มาที่ผม จากนั้นก็วาดบ้านแล้วชี้ไปที่ตัวเขา แล้วก็วาดเตียงชี้มาที่ตัวผม สื่อว่าเขาจะให้ผมไปนอนบ้านเขาชั่วคราวน่ะครับ แต่ผมส่ายหน้าแล้วขีดคร่าทุกอย่างเลย แล้วลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนีนายตำรวจไป แต่ผมกลับถูกจับแขนเอาไว้ลากมาที่โต๊ะที่มีกระดาษวางไว้ จากนั้นเขาก็วาดรูปดวงจันทร์ แล้ววาดเด็ก แล้วทำรูปกากาบาท จากนั้นก็วาดประตู แล้วส่ายหน้า ผมเลยเข้าใจว่า กลางคืนเด็กไม่ควรออกไปข้างนอก แล้วเขาก็ชี้มาที่ผม แล้วชี้ไปที่ประตู จากนั้นก็ชี้มาที่เขาแล้วก็เอามือของเขามาตบก้นผม สื่อว่าถ้าผมออกไปตอนนี้เขาจะตีก้นผม การสื่อสารแบบนี้มันก็ทำให้ผมพอจะเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้บ้างแล้ว ผมเรียนรู้ได้เร็ว เขาพูดพรางทำท่าไปด้วยหรือไม่ก็วาดรูปไปด้วย เลยได้รู้คำต่างๆและประโยคต่างๆมาเยอะเลยในช่วงเวลาที่ผมอยู่กับตำรวจคนนั้นน่ะ แล้วพอเขาห้ามไม่ให้ผมออกไป เขาก็ชวนผมไปพักบ้านเขาอีก ผมส่ายหน้า เขาจึงคว้าแขนลากตัวผมพาไปข้างในที่มีซี่กรงขัง แล้วก็วาดรูปเด็ก บ้าน ตำรวจ แล้วก็ขีดคร่าบ้านออก จากนั้นก็ชี้มาที่ผม แล้วก็ชี้ไปที่กรงขัง สื่อว่า ถ้าผมไม่ไปพักที่บ้านของเขา ผมจะต้องอยู่ในกรงขัง " เซบาสเตียนบอก"แล้วนายตอบว่าไง ตกลงไปพักกับนายตำรวจนั่นหรือเปล่า"ชิเอลถามอย่างลุ้นๆ"ผมตอบตกลงครับ ไม่อยากนอนในกรงหรอกไปพักกับตำรวจสักคืนก็ดีเหมือนกัน ผมเลยตอบโดยการวาดบ้าน ชี้ไปที่ตำรวจ แล้วชี้มาที่ผมแล้วพยักหน้า นายตำรวจเลยยิ้มให้ แล้วจากนั้นเขาก็พาผมไปพักกับเขาที่บ้านหลักจากที่เขาเลิกงานแล้ว" เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ"อืมแล้วนายก็เลยไปนอนที่บ้านตำรวจนั่นเหรอ เซบาสเตียน"ชิเอลถาม เซบาสเตียนพยักหน้า"ใช่ขอรับ ตอนจะกลับเขาจูงมือผมพาออกไปที่รถม้าแล้วส่งตัวผมเข้าไปข้างในแล้วตามผมขึ้นไป รถม้าก็ออกแล่นไปยังบ้านของเขา ผมก็ชะโงกหน้าออกไปดูวิวที่หน้าต่างอย่างตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งในตู้รถม้าในเมืองมนุษย์ ที่เมืองปีศาจไม่มีรถม้าแบบนี้ ส่วนใหญ่หากเดินทางใกล้ๆจะขี่ม้าปีกาซัส หรือ ไคมีล่าไป หรือไม่ก็ใช้ปีกของตนเอง หากไปไหนไกลๆเราจะขี่มังกรไป "เซบาสเตียนบอกชิเอลอ้าปากค้าง"ขี่มังกร !!! ว้าวน่าสนุกดีนี่ ฉันอยากลองขี่มั้งจังไว้วันไหนจะกลับโลกปีศาจพาฉันไปด้วยนะเซบาสเตียน"ชิเอลร้องอย่างตื่นเต้น มันคงจะน่าสนุกตื่นเต้นไม่น้อยถ้าได้ขี่มังกรตัวใหญ่ๆ"หึหึหึ มันดุมากนะขอรับมังกรต้องคนที่เลี้ยงมันเท่านั้นถึงจะขี่มันได้ ถ้าเป็นคนอื่นไปขี่ มันอาจจะกัดเอา"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆมองหน้าชิเอลอย่างเอ็นดู ที่ชิเอลท่าทางตื่นเต้นไม่น้อยเลยเรื่องมังกร"ชิ ไม่ลองไม่รู้นี่นาเซบาสเตียนเอาเถอะน่า ยังไงถ้ามีโอกาสฉันก็จะลองขี่มังกรให้ได้เลย นายต้องหามาให้ฉันขี่นะเข้าใจป่ะ "ชิเอลพูดอย่างร่าเริง"ได้ขอรับ ไว้ผมจะให้นายน้อยลองหัดขี่ดูก็ได้ถ้าคุณจะไปที่นั้นน่ะนะ แต่ผมคงจะยังไม่กลับในช่วงนี้หรอก ผมชอบอยู่ที่โลกมนุษย์มากกว่า "เซบาสเตียนพูด ชิเอลหันมามองหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ แหมเจ้านี่ชอบขัดใจเขาเรื่อยเลย"เอาหล่ะ ผมเล่าต่อนะ หลังจากที่ผมได้นั่งรถม้าไปบ้านนายตำรวจนั่นเขาก็พาเข้ามาในบ้าน ผมก็มองสำรวจดู อืมบ้านไม่ใหญ่โตเท่าไหร่นัก ท่าทางจะไม่ค่อยรวยเป็นตำรวจนี่นะ แล้วผมก็เข้าไปสำรวจในบ้าน ในห้องต่างๆ นอกจากตัวตำรวจแล้วก็มีอยุ่อีกคนเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับท่านแม่ของผมแล้วคนละชั้นกันเลยท่านแม่ของผมสวยที่สุดในโลกปีศาจเลยนะ "เซบาสเตียนบอกชิเอลหัวเราะ"แหมๆไม่ค่อยจะยกยอแม่ตัวเองเลยนะเซบาสเตียน อยากรู้จริงๆว่าระหว่างแม่ของฉันกับแม่ของนายใครสวยกว่ากัน"ชิเอลชักรู้สึกหมั่นไส้พ่อบ้านขึ้นมาตงิดๆ"ไม่รู้สิครับคงสวยทั้งคู่มั้ง หึหึหึ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ"ไหนเอารูปแม่นายมาให้ดูหน่อยสิ นายเคยเห็นแม่ของฉันแล้วนี่แต่ฉันยังไม่เคยเห็นแม่ของนายเลย"ชิเอลพูดพรางยื่นแขนมาขอเซบาสเตียนดูรูปแม่ของเขา"เสียใจด้วยขอรับ ผมไม่ได้พกติดตัว ไว้นายน้อยไปโลกปีศาจค่อยไปดูเองแล้วกันขอรับ เอาหล่ะเล่าต่อนะ พอผมเข้ามาพักที่บ้านนายตำรวจก็เจอกับผู้หญิงอีกคนผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร นายตำรวจก็ไม่ได้บอกด้วยว่าใครถึงเขาบอกอะไรผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะนะ เขาเลยตัดความรำคาญไม่เล่าหรือพูดอะไรกับผมมากนัก แค่พาผมไปที่ห้องนอนว่างๆซักห้องหนึ่งจากนั้นก็ชี้มาที่ตัวผมแล้วชี้ไปที่เตียง ผมก็พยักหน้าเข้าใจว่าเขาอยากให้ผมนอนพักที่ห้องนี้ ด้วยความที่เป็นเด้กแล้วกำลังเพลียเลยยอมนอนแต่โดยดี นายตำรวจนั้นก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับผมมากนักพอเห็นว่าผมนอนแล้วเขาก็ปิดประตูแล้วปลอยให้ผมพักผ่อน ผมก็หลับไปเลยตลอดทั้งคืน ผมเป็นพวกนอนง่ายหลับง่ายอยู่แล้วนอนที่ไหนก็หลับได้ " เซบาสเตียนพูดพรางหยุดเล่าชั่วคราว เขาชักอยากกินน้ำขึ้นมาพูดนานๆแล้วคอจะแห้ง เลยลุกขึ้นเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาดื่มหลายอึกจนหมดแก้ว ชิเอลมองตาม"อะไรนายกินน้ำด้วยเหรอ เซบาสเตียน"ชิเอลถามอย่างแปลกใจ"ก็พูดนานๆแล้วมันคอแห้งนี่ครับ ขอผมพักแป๊บนะ เดี่ยวเล่าต่อ"เซบาสเตียนบอกพรางกระดกน้ำดื่มอึกๆจนหมดแก้ว แล้วหยุดพูดชั่วคราว ชิเอลมองดูพอเห็นพ่อบ้านกินน้ำเลยอยากกินมั่ง"นี่เซบาสเตียนไหนๆนายก็กินน้ำแล้ว รินมาเผื่อฉันสักแก้วสิ"ชิเอลร้องขอบ้าง"ได้ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับพรางเอาน้ำเย็นๆในเหยือกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กๆมารินใส่แก้วให้นายน้อย น้ำนั้นจริงๆเป็นน้ำที่เตรียมไว้ให้ชิเอลดื่มนั่นแหละแต่ชิเอลไม่ค่อยกินน้ำเลยตั้งเอาไว้เฉยๆ พอเห็นเซบาสเตียนกินเลยกินตาม"อ่ะนี่ขอรับนายน้อย ค่อยๆดื่มระวังสำลัก"เซบาสเตียนถือแก้วใส่น้ำมาเกือบเต็มเอามาป้อนพรางคอยพยุงตัวนายน้อยให้เงยขึ้นดื่มน้ำ "อาการของนายน้อยเป็นไงบ้างขอรับ ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า "เซบาสเตียนถามอย่างเป็นห่วง"อืมก็ค่อยยังชั่วมากขึ้นแล้วล่ะ ยาของนายดีเหมือนกันนะ แต่ก็ยังไม่หายเจ็บอยู่ดี ต้องทาอีกกี่ครั้งกว่าจะหายล่ะ"ชิเอลถามพรางกระดกแก้วน้ำดื่มจนหมดแก้ว แล้วเซบาสเตียนก็เอาแก้วเปล่าไปเก็บที่โต๊ะเล็ก"ไม่แน่ใจว่ากี่ครั้งนะครับ ก็ทาจนกว่านายน้อยจะหายเจ็บนั้นแหละ เดี๋ยวเย็นๆค่อยทา ตอนนี้ผมเมื่อยปากจังเลยขอพักแป๊บนะครับ "เซบาสเตียนขออนุญาติชิเอลพยักหน้า "อืมพักสักหน่อยก็ได้ ฉันชักง่วงอีกแล้วขอนอนหน่อยแล้วกัน นายไปพักก่อนก็ได้ไว้อีกสักสองชั่วโมงค่อยมาเล่าให้ฟังต่อ"ชิเอลบอกพรางล้มตัวลงนอนตะแคงคว่ำแล้วหลับตาลงทันที"เยสมายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับ"งั้นผมขอตัวไปพักนะครับ"เซบาสเตียนบอก "อืม"ชิเอลพยักหน้าพรางหลับตาลงแล้วเซบาสเตียนก็เดินออกไปจากห้องกลับไปห้องตัวเองพักผ่อนสักสองชั่วโมงรอให้นายน้อยนอนหลับไปงีบหนึ่งก่อน แล้วค่อยมาเล่าให้ฟังต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ