พ่อบ้านปีศาจ ตอนชิเอลเป็นปีศาจ บท1 YAOI 18+
เขียนโดย sebbynoi
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17.36 น.
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557 10.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ตอนที่ 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"หึหึ พอรู้สึกสบายล่ะก็หลับเลยนะครับ นายน้อยเนี่ย เด็กจริงๆ " เซบาสเตียนแซวขณะที่กำลังบินขึ้นเขาไปอย่างช้าๆ เขาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่ต้องบินแบบนี้ แต่ในเมื่อนายน้อยของเขาไม่ชอบความเร็ว พ่อบ้านอย่างเขาคงต้องตามใจบินไปช้าๆ
"zzzzzz..."ชิเอลหลับไปแล้วไม่โต้เถียงอีก เซบาสเตียนจึงบินขึ้นเขาไปเงียบๆ อย่างช้าๆอ้อยอิ่งขึ้นไต่ระดับไปเรื่อยๆจนกระทั่ง หลายนาทีต่อมา ในที่สุดเซบาสเตียนก็พาชิเอลขึ้นมาบนยอดเขาได้เสียที ต่อไปก็เดินบนยอดเขาตรงไปจนไปสุดทางที่เป็นหน้าผาสูงเสียดฟ้า ก้มมองลงไปยังเหวลึกด้านล่างก่อนจะกระโจนบินข้ามไปยังภูเขาอีกลูกที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึงความสูงลดหลั่นลงมา
เซบาสเตียนค่อยๆร่อนลงมาบนยอดเขาอีกลูกช้าๆ จากนั้นก็ไปต่อ ซึ่งต้องผ่านภูเขาลูกอื่นๆที่มีความสูงเตี้ยไม่เท่ากันอีก 3 ลูก จนกระทั่งมาถึงภูเขาลูกสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุดประมาณเท่าตึก100 ชั้นได้ ซึ่งด้านหลังภูเขาลูกนี้ด้านล่างคือใจกลางเกาะปีศาจที่เป็นพื้นที่ราบมีทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นทางที่จะไปบ้านของเขา
หลังจากนั้นเซบาสเตียนค่อยๆบินไต่ระดับไปช้าๆเช่นเดิมจนในที่สุดก็ขึ้นมาบนยอดเขาลูกสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย และเดินมาจนสุดทาง จากนั้นก็หยุดยืนริมหน้าผาสุงชันเสียดฟ้า กำลังตัดสินใจที่จะร่อนลงไปยังพื้นด้านล่าง ถ้าหากเขามาคนเดียวคงจะไม่มีความลังเลเลยสักนิดเดียวแต่ตอนนี้เขาไม่ได้มาคนเดียวเนี่ยสิ
"ถ้าเรามาคนเดียวคงไม่ต้องลังเลยที่จะร่อนลงไป แต่ว่าในตอนนี้.." เขาถอนใจพรางก้มลงมองดูร่างน้อยๆที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนอย่างครุ่นคิด
"ถ้าพาดิ่งพสุทา นายน้อยจะตื่นมัยนะ" เซบาสเตียนลังเล มองลงไปด้านล่างที มองหน้านายน้อยที จากนั้นเขาก็คิดอะไรได้ขึ้นมา
"เอาหละ เปลี่ยนท่าอุ้มดีกว่าอุ้มแบบนี้นายน้อยคงไม่รู้สึกปลอดภัย" จากนั้นเซบาสเตียนเปลี่ยนท่าอุ้มเป็นอุ้มช้อนก้นเอาตัว ชิเอลแนบกับอกค่อยๆโน้มหัวเด็กหนุ่มซบลงกับบ่าแล้วเอาแขนโอบหลังเอาไว้ (ท่าพ่ออุ้มลูก) จากนั้นก็ค่อยๆร่อนลงไปอย่างช้าๆ พยายามรักษาระดับความเร็วให้คงที่ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป เพื่อให้นายน้อยของเขาหลับไปได้อย่างสบายๆ และรู้สึกปลอดภัย
ในขณะที่พาร่อนลงไปยังพื้นด้านล่างอย่างช้าๆ สายลมเย็นๆประทะใบหน้าของพวกเขาทั้งสองตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชิเอลตื่นขึ้นมาเพราะ เซบาสเตียนค่อยๆร่อนไต่ระดับลงอย่างช้าๆ และคงจะรู้สึกปลอดภัยที่มีแขนของเซบาสเตียนรองรับตัวเขาอยู่จึงหลับสนิทอย่างสบายไม่รับรู้ถึงความกดอากาศเท่าไหร่นัก
หลายนาทีต่อมา ในขณะที่เซบาสเตียนร่อนลงไปข้างล่างอย่างช้าๆไปเรื่อยๆ เขาก็ก้มลงมองดูหน้าชิเอลแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อยังเห็นว่าเด็กหนุ่มในอ้อมแขนยังคงหลับสนิทในขณะที่เขาพาบินร่อนลงมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว
"หึหึ ไม่ตื่นจริงๆด้วยสินะพออุ้มแบบนี้ คุณคงรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยล่ะสินะ เอาหละ อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงพื้นด้านล่างแล้วล่ะครับ แล้วจากนั้นผมจะปลุกคุณเอง"เซบาสเตียนกระซิบข้างๆหูชิเอลอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ในขณะที่กำลังพาร่อนลงข้างล่างไปเรื่อยๆ ซึ่งใช้เวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะลงถึงพื้นด้านล่างแล้ว
หลักจากที่ค่อยๆร่อนลงมาเรื่อยๆ จนในที่สุด พ่อบ้านหนุ่มกับเด็กหนุ่มก็ร่อนลงมาจนเท้าแตะกับพื้นหญ้าที่รายล้อมไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้หลากสีสัน บางดอกกลีบหลุดลอยปลิวไปตามกระแสลมปะทะร่างของพวกเขาทั้งสอง เซบาสเตียนสบัดผมให้กลีบดอกไม้บางกลีบหลุดออกไปจากเส้นผม และใบหน้าของตน จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองตรงไปยังเบื้องหน้าทางทิศตะวันออก ซึ่งหากเดินผ่านทุ่งดอกไม้นี้ไปอีก 10 เมตร ก็จะพบกับประตูทางเข้าสู่เมืองปีศาจซึ่งเป็นเส้นทางที่จะไปบ้านของเขา
"นายน้อยขอรับ เราใกล้จะถึงแล้วนะครับ ตื่นเถิด" เซบาสเตียนกระซิบพูดกับชิเอลเบาๆในขณะที่พาเดินฝ่าทุ่งดอกไม้ตรงไปยังทางที่อยู่ทิศตะวันออก
ชิเอลค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อถูกเซบาสเตียนปลุก เงยตัวขึ้นจากบ่าของพ่อบ้านหนุ่มอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในท่านี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าหลับอยู่ในอ้อมแขน แต่ตอนนี้หัวเขากับซบอยุ่บนบ่า ท่าอุ้มเปลี่ยนไปชิเอลเงยหน้าขึ้นมองหน้าพ่อบ้านหนุ่มอย่างสงสัย
"เซบาสเตียนทำไม ฉันถึงอยู่ในท่านี้ได้ล่ะ นายเปลี่ยนท่าอุ้มฉันตอนไหน" ชิเอลถามพรางขยี้ตา
"เปลี่ยนตอนที่จะร่อนลงมาจากภูเขาลุกสุดท้ายน่ะสิขอรับ ท่านั้นเวลาร่อนลง นายน้อยจะรู้สึกกลัวตกลงมาได้ จึงอุ้มให้กระชับหน่อย นายน้อยถึงได้หลับอย่างสบายไร้กังวลยังไงล่ะครับ " เซบาสเตียนพูดพรางเอามือมาปัดกลีบดอกไม้ที่ติดอยู่ที่แก้มของชิเอลออกอย่างอ่อนโยน
ชิเอลตกใจถึงกับหน้าแดงระเรื้อด้วยความเขิน รีบเบือนหน้าหนีแล้วทำเป็นโกรธ
"ยุ่งน่า ! แค่กลีบดอกไม้ ฉันทำเองได้ " ตวาดใส่เสียงดัง ปัดมือของเซบาสเตียนออกไปทันที แล้วเอามือปัดเศษดอกไม้ที่ติดบนหัว บนเสื้อตัวนอกออกเร็วๆแก้เขิน
พ่อบ้านหนุ่มถึงกับอมยิ้มขำในท่าทีเขินอายของนายน้อย จนทำให้ชิเอลยิ่งหน้าแดงขึ้นไปใหญ่เลย
"ขำอะไรของนาย " ตวาดใส่แล้วทุบไหล่พ่อบ้านหนุ่มแรงๆในขณะที่ตนกำลังถูกอุ้มอยู่
"โอยยาๆ ! เจ็บนะขอรับ นายน้อยทุบผมทำไมเนี่ย " เซบาสเตียนเอามือข้างที่ยังพอว่างอยู่คอยกันไม่ให้ชิเอลทุบไหล่ได้เขาอีก ส่วนอีกข้างที่ไม่ว่างเพราะกำลังรองช้อนตัวนายน้อยอยู่ (อุ้มช้อนก้น)
ชิเอลพอถูกเซบาสเตียนคอยกันไว้ไม่ให้ทุบไหล่อีกจึงหยุดแค่นั้น
"ดี สม อยากมาขำฉันดีนัก นี่แน่ะ " ชิเอลพูดพรางเอามือพลักไหล่เซบาสเตียนแรงๆ แล้วหันไปมองรอบๆก็ยังไม่เห็นอะไรนอกจากทุ่งดอกไม้ จึงหันมาถามพ่อบ้านหนุ่ม "ว่าแต่ ...ที่นี่ที่ไหน แล้วบ้านนายล่ะ"
"เส้นทางที่จะเข้าไปยังเมืองปีศาจขอรับ บ้านผมอยู่อีกไกลเล็กน้อย ถ้าเดินไปนะ แต่บินไปแป๊บเดียวก็ถึงขอรับ เอ้าลงไปก่อนนะขอรับ ผมชักเมื่อยแขนแล้ว ขอพักหน่อย"บอกพร้อมกับปล่อยตัวชิเอลลงมายืนทันที จากนั้นเขาก็ทรุดลงนั่งบนพื้นหญ้า แล้วบีบนวดแขนตัวเองไปมา เพื่อพักแขนที่ปวดเมื่อย เนื่องจากอุ้มนายน้อยมานาน และก็เหนื่อยจากการเดินทางที่ยืดเยื้อยาวนานนี้มาก
ชิเอลที่ถูกปล่อยให้ลงมายืนกระทันหัน ถึงกับหงุดหงิด เขายังง่วงอยู่เลยอยากจะนอนต่ออีกหน่อยจะรีบปลุกเขามาทำไมกันนะยังไม่ถึงเลยแท้ๆ
"นายจะรีบปลุกฉันทำไมกันเนี่ย ! ยังอีกตั้งไกล ฉันยังง่วงอยู่เลยนะ ฮ้าาาาว" ชิเอลตวาดใส่เซบาสเตียนพราง อ้าปากหาวพราง แล้วทำท่าจะเดินไปขี่หลังเซบาสเตียนที่กำลังนั่งพักอยู่บนพื้น "แบกที ฉันง่วงอยากจะนอนต่อ"
เซบาสเตียนนั่งเฉยไม่ขยับแม้นายนอยจะอ้อนขอขี่หลังก็ตาม
"ไม่ไหวละครับ ผมเองก็เมื่อยเป็นนะครับ อุ้มมาตั้งนาน บินช้าๆมันเหนื่อยกว่าบินเร็วนะ มันต้องเกร็งปีกต้านลม ต่อไปจะเดินไปนะครับไม่อุ้มแล้ว ถ้าง่วงมากก็นอนมันบนพื้นนี่แหละ ไว้พรุ่งนี้ผมค่อยมารับ ผมจะเดินกลับไปนอนที่บ้านก่อน.. แล้วนี่มาขี่หลังผมทำไม ลงไปเลย เหนื่อยแล้ว" เซบาสเตียนโวยวายแล้วพยายามสะบัดตัวนายน้อยให้ลงไปจากหลังของเขา
"ก็ฉันง่วงนี่ ในเมื่อนายไม่ยอมอุ้มก็แบกฉันแทนสิ.. น้าาาา" ชิเอลทำเสียงอ้อนไม่ยอมแพ้ พยายามปล้ำจะขี่หลังเซบาสเตียนให้ได้ เซบาสเตียนคอยผลักดันออกไม่ยอมให้ขี่หลังง่ายๆชิเอลไม่ยอม ยังไงต้องขี่ให้ได้จึงใช้ไม้ตายจัดการ เรื่องอะไรเขาจะยอมเดินไปล่ะ มีพ่อบ้านอยู่ทั้งคนก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์สิ
"ฉันไม่ยอมนอนที่นี่เด็ดขาด จงแบกฉันไปเดี่ยวนี้เซบาสเตียน นี่คือคำสั่ง " ชิเอลใช้ตาขวาออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด ในเมื่ออ้อนดีๆไม่ยอมดีนัก ออกคำสั่งซะเลย
เซบาสเตียนที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้าหันมาจ้องหน้านายน้อยอย่างเหนื่อยใจ ชิเอลยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสีแดงวาวเรืองแสงขึ้นเมื่อพันธะสัญญาจากตาขวาทำงาน บงการพ่อบ้านหนุ่มให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่อาจขัดขืนได้
"ในเมื่อนายเป็นพ่อบ้านของฉันก็ต้องทำตามคำสั่งฉันล่ะนะเซบาสเตียน.. นี่คือคำสั่งแบกฉันไปบ้านนายเดี๋ยวนี้"ปีศาจน้อยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินไปจับไหล่เซบาสเตียนไว้เพื่อเตรียมขึ้นขี่หลัง ซึ่งคราวนี้เซบาสเตียนไม่สะบัดออก ตาของพ่อบ้านเรืองแสงขึ้นเช่นกันเพื่อตอบรับคำสั่งจากพันธะสัญญา
"มัดมือชกกันชัดๆเลย นายน้อยเนี่ย เฮ้ยยยย "ถึงจะยอมแต่ก็ไม่วายที่จะบ่น ชำเลืองมองหน้านายน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ชิเอลยิ้มกริ่ม ตอนนี้เขาสามารถปีนขึ้นขี่หลังเซบาสเตียนได้สำเร็จแล้วก็กอดคอพ่อบ้านหนุ่มไว้ทันที
"เอาหล่ะไปต่อกันเถอะเซบาสเตียน ขอฉันหลับบนหลังนายต่อนะ" ชิเอลพูดพรางชี้นิ้วสั่งให้มุ่งตรงไปข้างหน้าจากนั้นก็ซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของพ่อบ้านหนุ่มแล้วหลับต่อทันที
"เยส มายลอร์ด" เซบาสเตียนตอบรับอย่างไม่เต็มใจ แล้วพานายน้อยแบกเดินตรงไปยังทางเข้าสู่เมืองปีศาจอย่างเหนื่อยล้า พรางบ่นในใจว่า "ข้าทำเวรทำกรรมอะไรมาว้า ถึงได้ซวยแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น"
เซบาสเตียนเดินแบกชิเอลไปบ่นในใจไปเรื่อย จนมาถึงหน้าซุ้มประตูเข้าสู่เมืองปีศาจ ซึ่งในตอนนี้ในเมืองคงจะเงียบเชียบเพราะเป็นเวลากลางคืน พวกปีศาจส่วนใหญ่ในเมืองต่างเข้านอนกันหมด ยกเว้นพวกแวมไพร์ที่ชอบหาเหยื่อยตอนกลางคืน ชอบแอบไปล่าเหยื่อในเมืองมนุษย์เป็นประจำ บางทีก็เลือกกินเลือดพวกปีศาจกันเองหากหาเหยื่อยมนุษย์มาสังเวยไม่ได้
ในระหว่างที่กำลังจะเดินผ่านซุ้มประตูสีแดงเลือดที่เขียนด้วยอักษรรูนโบราณสีทองอร่าม ว่า -เมืองซานตาน- มีคำขวัญ
เล็กๆเขียนสลักไว้ข้างใต้ชื่อเมืองสีทองเด่นชัดว่า-- ผู้ใดที่ไม่ใช่ซานตานหากผ่านประตูนี้ไปมันผู้นั้นต้องตาย--
เซบาสเตียนหยุดเดินกระทันหันเมื่อเห็นความผิดปกติ เขาเงยหน้าพิจารณาซุ้มประตูอย่างแปลกใจ ว่าทำไมมันไม่เหมือนประตูบานเดิมที่เขาเคยผ่านไปมาบ่อยๆตอนที่อยู่ที่นี่ก่อนจะมาทำพันธะสัญญากับชิเอล
"ทำไมประตูมีรูปร่างแปลกๆ มีใครเอามาเปลี่ยนหรือเปล่านะ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้นี่ นี่มันไม่ใช่ประตูที่โลกนี้แล้ว เท่าที่จำได้ เราเคยเห็นมันตอนอยู่ที่โลกปีศาจ" เซบาสเตียนลำพึงกับตัวเองเบาๆ สายตาจ้องมองไปยังซุ้มประตูสีแดงเลือดแล้วเอามือแตะที่เสาสีแดงพิจารณาอย่างละเอียด
"ไม่ผิดแน่ นี่มันประตูพิพากษา ไม่ใช่ประตูในโลกนี้เสียแล้ว ปีศาจตนไหนกันนะเอามาเปลี่ยนเสียได้ อันตรายจริงๆ "แล้วเขาก็จำได้ มันคือประตูพิพากษา เขาเคยได้ยินมาจากท่านพ่อของเขาเคยบอกไว้ตอนที่เขายังเด็กและยังอยู่ที่โลกปีศาจว่า ประตูนี้จะกลืนกินวิญญาณของมนุษย์หากนำมนุษย์ผ่านเข้าไปจะตายทันที
จากนั้นเซบาสเตียนเอี้ยวคอหันมาดูนายน้อย เขายังจำได้ดีว่านายน้อยเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แม้ตอนนี้เป็นปีศาจไปแล้วก็ตามแต่ประตูนี้จะให้ผ่านไปได้หรือเปล่านะ จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ถ้าเขาพาชิเอลผ่านประตูนี้เข้าไปข้างใน เซบาสเตียนลังเล ยังไม่กล้าพานายน้อยเข้าไป เพราะตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่มีมนุษย์คนไหนถูกทำให้กลายเป็นปีศาจมาก่อนเลย และเขาไม่แน่ใจด้วยว่านายน้อยเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์ทั้งร่างกายและวิญญาณหรือเปล่า
"จะทำไงดีล่ะ นายน้อยเป็นปีศาจเต็มตัวหรือเปล่านะ หรือเป็นแต่ร่างกาย แล้วเลือด และ จิตวิญญาณล่ะ ยังเป็นมนุษย์อยู่มัยนะ ฮันนาก็ไม่บอกด้วยว่าเด็กคนนี้ถูกทำให้เป็นปีศาจแบบไหนกันแน่ ครึ่งปีศาจหรือปีศาจเต็มตัว ถ้าหากพาผ่านประตูนี้ไปเด็กคนนี้จะเจอกับอะไรมัยนะ"เซบาสเตียนลำพึงกับตัวเองเบาๆ สายตาจ้องมองไปยังซุ้มประตูสีแดงเลือดนั้นอย่างกังวล เขารู้สึกงงมากที่ประตูของโลกปีศาจมาปรากฏในโลกมนุษย์นี้ได้อย่างไร นี่เขาไปอยู่กับนายน้อยเพียงแค่ 1 ปีเองทำไมประตูถึงถูกเปลี่ยนไปได้ล่ะ
"เอาหล่ะลองทดสอบดูหน่อยละกัน ขออภัยนะครับนายน้อย ทนเจ็บนิดนึงนะขอรับ"เซบาสเตียนจับแขนชิเอลที่กำลังหลับสนิทอยู่บนหลังของเขาไว้ข้างหนึ่งยื่นตรงมาข้างหน้าแล้วใช้เล็บคมๆจิกให้เลือดไหลออกมา จากนั้นก็บีบเลือดหยดลงไปที่หน้าซุ้มประตู เพื่อทอสอบว่าเป็นมนุษย์หรือปีศาจ
"ถ้าเป็นปีศาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเลือดมีความเป็นมนุษย์ละก็ประตูจะกรีดร้องทันที " แล้วเซบาสเตียนก็รอคอยให้ประตูนั้นได้ดื่มเลือดสดๆของชิเอลเข้าไป แล้วรอดูผล
หลังจากที่เซบาสเตียนเฝ้ารอดูผลทดสอบอยู่หลายนาที ไม่มีที่ท่าว่าประตูจะร้องออกมาเลย แสดงว่าชิเอลเป็นปีศาจจริงๆสินะ คงพาผ่านไปได้สินะ
"ไม่ร้องงั้นเหรอ ข้าพาเด็กคนนี้ผ่านไปได้สินะใช่มัย"เซบาสเตียนพูดกับประตูจากนั้นเสียงของประตูก็ดังก้องที่หูของเขา ประตูพิพากษามันบอกว่า --ได้ข้าจะให้เจ้ากับเด็กนั้นผ่านไป แต่... ข้าติดใจเลือดของเด็กนั้นเสียแล้ว เอามาให้ฆ่าอีก 10 ลิตร--
เซบาสเตียนถึงกับทำหน้าเหวอ
"10 ลิตร ! ช่างเป็นประตูที่ตระกละจริงๆเลยนะท่าน ตั้ง 10 ลิตร เด็กคนนี้ได้ซีดกันพอดี " เซบาสเตียนพยายามต่อรอง
"ขอแค่ ลิตรเดียวไม่ได้เหรอ หรือไม่ก็เอาเลือดข้าไปแทน"
--เลือดเจ้าอร่อยเหมือนกับเด็กของเจ้างั้นเหรอ-- ประตูถามอย่างสนใจ
"ไม่ลองไม่รู้ ข้าจะแบ่งให้ลองละกัน เลือดข้ามีเยอะ" ว่าแล้วเซบาสเตียนก็ใช้เขี้ยวของตนกัดที่ข้อมือตนเองจากนั้นเอาไปป้ายที่เสาของซุ้มประตูพิพากษา หลังจากนั้นก็รอผล
-- อืมเลือดเจ้าก็ใช้ได้ เลือดบริสุทธ์ เจ้าเป็นปีศาจชั้นสูงสินะ--เจ้าประตูพิพากษาช่างพูดมากซะจริง
"จะชั้นสูงหรือไม่ ข้าไม่สน ขอแค่ให้ข้าได้พาเด็กคนนี้ผ่านประตูไปอย่างปลอดภัยก็พอ ข้าจะมอบเลือดของข้าให้ท่านตามต้องการ "เซบาสเตียนพยายามต่อรองกับประตูเพื่อให้ผ่านไปอย่างปลอดภัย
--ได้เอามาเลย แล้วข้าจะให้เจ้ากับเด็กนั่นผ่าน ว่าแต่ข้าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่ง เลือดของเด็กนั้นแปลกๆนะ--
"แปลกยังไงหรือขอรับ "เซบาสเตียนถาม
-- มันเป็นเลือดปีศาจก็จริง แต่รสชาติเหมือนเลือดมนุษย์อร่อยสุดบรรยายจนข้าติดใจ เลือดเจ้าก็ไม่ยิ่งหย่อนนะบริสุทธิ์และหอมหวาน อร่อยทั้งคู่ -- ประตูพิพากษาพูดเสียงก้องกังวาลในหู ดุท่าจะติดใจจริงๆ
"ตกลงจะเอาเลือดข้ามัย ข้าจะได้แบ่งให้ " เซบาสเตียนถามพร้อมกับบีบเลือดหยุดลงไปที่หน้าซุ้มประตูสีเลือด
เมื่อประตูตอบว่า-เอา ข้าขอประมาณ 10 ลิตรหยดลงมาจนกว่าข้าจะบอกว่าพอ--
"ได้ ข้าจัดให้ตามที่ขอ กินให้อิ่มละกัน "แล้วเซบาสเตียนก็ปล่อยให้เลือดของเขาหยดลงไปบนขอบซุ้มประตูไปเรื่อยๆ จนกระทั่งประตูได้รับเลือดมาเต็มอิ่ม
--พอแล้วพ่อหนุ่ม ข้าอิ่มแล้ว เลือดเจ้าอร่อยมาก ข้าพอใจแล้วต่อไปนี้ เจ้ากับเด็กของเจ้าจะผ่านประตูนี้ได้ตลอดไป
ข้าอนุญาติ--
"ขอบใจท่านมาก ว่าแต่ข้ายังติดใจสงสัยอยู่อย่าง ทำไมประตูอย่างท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้
ใครเป็นคนนำท่านมายังโลกมนุษย์ " เซบาสเตียนถามแล้วเอาข้อมือที่ชุ่มไปด้วยเลือดมาเลียให้เลือดหยุดไหล จากนั้นไม่นานแผลก็สมานตัวอย่างรวดเร็วจนไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
-- ราชาปีศาจ นำข้ามาที่นี่เมื่อปีที่แล้ว ...-- ประตูตอบแล้วจากนั้นก็เงียบไป เซบาสเตียนดวงตาเบิกกว้างด้วยความคาดไม่ถึง
"ทำไมกันล่ะ ราชาคิดจะทำอะไรกันแน่น่ะท่านประตู" เซบาสเตียนถามแล้วเอามือวางบนเสาสีแดง แต่ประตูนั้นกลับเงียบไม่ตอบอะไรอีก
"ตอบข้ามาสิ ข้าอยากรู้ " เซบาสเตียนเอามือตบไปที่เสา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ข้าบอกให้ตอบข้า ! ได้ยินข้ามัยท่านประตู "เซบาสเตียนตะโกนก้อง พร้อมกับใช้เท่าถีบเสาเพื่อให้ประตูบอกเขาถึงแผนการของราชา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บนหลังของเขานี่สิเริ่มขยับตัวแล้วเพราะเสียงตะโกนดังลั่นเมื่อครู่ ดูเหมือนจะทำให้ชิเอลตื่นเสียแล้ว
"มีอะไรงั้นเหรอเซบาสเตียน นายตะโกนทำไมน่ะ ฉันตกใจตื่นเลยนะ! "ชิเอลบ่นใส่เซบาสเตียนเสียงงัวเงียปนหงุดหงิด เซบาสเตียนหันมายิ้ม
"ไม่มีอะไรหรอกครับนายน้อย ข้า เอ้ย ผมแค่ลองเสียงเฉยๆ "พูดพรางถีบเสาพรางมองที่หน้าป้ายซุ้มประตูอย่างหงุดหงิด "งั้นเหรอเซบาสเตียน แล้วนายลองเสียงทำไม จะกวนประสาทฉันเหรอ" ชิเอลถามเสียงหงุดหงิดที่เซบาสเตียนทำเสียงดังรบกวนการนอนของเขา จึงอารมณ์ไม่ค่อยดี
"เปล่าขอรับ ไม่มีอะไรจริงๆ.... เอ่อ เราไปกันต่อเถอะขอรับ"เซบาสเตียนรีบตัดบทจากนั้นก็แบกชิเอลเดินผ่านประตูไป ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชิเอลมองดูอย่างสงสัยแล้วพอยกมือขึ้น เขาก็รู้สึกเจ็บๆที่ข้อมือนิดๆ แต่พอเอาแขนตนเองมาดูแล้วกลับไม่มีรอยแผลใดๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ