Fic Naruto พันธสัญญาสีดำ ความเศร้า ความรัก ภาค1
9.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 07.27 น.
71 ตอน
68 วิจารณ์
93.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 21.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
67) บทที่ 60 ปีศาจหลากอารมณ์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทีมเหยี่ยวชายหนุ่มปริศนาได้ร่วมเดินทางเพื่อไปที่ฐานลับใหญ่ของแสงอุสา ซาสึเกะคอยจับตาดูหนุ่มแปลกหน้าอย่าไม่คลาดสายตา เหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะมันดันถือโลงที่ใส่ร่างของซากุระเอาไว้ อ้างว่า จะตรวจอาการไปด้วย ไอ้เค้าไม่ใช่หมอเลยไม่เถียงแต่ มองไปมองมา ทำไมเค้ารู้สึกว่า คนที่ชื่อฮารุมีความคล้ายกับซากุระไปหลายส่วน…นี่เราคิดถึงซากุระมากเกินไปจนฟุ้งซ่านรึไงนะ…
โทบิสังเกตว่าสองสาวและลูกทีมคนอื่นๆเริ่มล้า ซุยเงสึโอดครวญ”นี่...พักก่อนเต๊อะ จะตายแล้ว”
“ก็ได้ครับ สิบนาที”
ซุยเงสึทำตาโต…ขุ่นพระสิบนาที แต่เราเดินทางโดยไม่พักกันสิบชั่วโมง ไอ้ปีศาจนี่!...
ทีมเหยี่ยวต่างอ่อนล้า นั่งพักกันอย่างสิ้นเรี่ยวแรง ผิดกับคนสามคน?คือซาสึเกะ โทบิและคุณหมอปีศาจ
ซุยเงสึคิด…บรรพบุรุษเป็นคนเหล็กรึไงไอ้พวกนี้!...
โทบิเห็นว่าทีมยังคงอ่อนล้า”เราหาทำเลที่พักกันดีกว่านะ ไม่งั้นก่อนจะไปถึงมีหวังหมดแรงตายก่อน”
ฮารุยิ้มหวาน”ได้ครับ พักที่นี่ ผมเหนื่อยแล้ว หาฟืนมาก่อไฟสิ”เด็กหนุ่มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลสร้างความหมั่นไส้แก่ซุยเงสึเป็นอย่างมาก
…เหนื่อยเป็นด้วยเราะ ไอ้ปีศาจ…
จู่ร่างของเด็กหนุ่มก็พุ่งเข้ามาคล่อมนินจาน้ำ และบีบกรามให้อ้าปาก”ก่นด่าในใจเป็นตุ๊ดแบบนี้ พ่อไม่ปลื้มนะ แบบนี้มันน่าเอาสารดูดความชื้นรุ่นพิเศษให้กินดีไหมเอ่ย…”
“อย่านะ…”
ตาสีมรกตฉายแววน่าสะพรึง”ทีแบบนี้มาขอความเมตตา…อยากจะรู้เหลือเกินว่า ตอนที่มีคนขอความเมตตาน่ะแกให้เค้ารึเปล่า…”
จูโกะจำต้องห้าม”พอได้แล้วน่า”
ฮารุแสยะยิ้ม”ปล่อยก็ได้…ที่ปล่อยเพราะง่วงแล้ว”
เด็กหนุ่งกลับไปที่เดิม แล้วนำคัมภีร์ออกมาม้วนหนึ่งแล้เปิดออกมา
ปุ๊ง!
เต้นท์สีดำขนาดเล็กพร้อมนอนได้ออกมา ร่างเล็กนั้นได้เข้าไปแล้วโผล่หัวออกมาด้วยรอยยิ้ม”ห้ามกวนนะครับ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”
ทีมเหยี่ยวจำต้องก่อไฟนอนใต้ต้นไม้ไปตามเรื่อง แต่ซาสึเกะเลือกที่จะนอนใกล้ๆกับเต้นท์สีดำนั่น เพราะเธอยังอยู่ในกำมือของมัน
เช้าวันต่อมา หิมะนั้นกำลังโปรยปราย
ทีมเหยี่ยวยังคงหลับสนิทเพราะยังคงเหนื่อยล้า
เต้นท์สีดำก็เปิดออก ฮารุออกจากเต้นท์นำกระบอกน้ำมาเทใส่มือเพื่อล้างหน้าและบ้วนปาก หลังจากจัดการธุระเรียบร้อย ก็เดินเก็บเต้นท์และเดินเล่นไปมา
“จะไปไหน”ซาสึเกะที่ตามมาร้องถาม
“หนีมั้งครับ แค่เดินเล่น ผมมีสัจจะพอ”
“นายคือใครกันแน่”
“ผมบอกไปแล้วนะ ผมคือทายาทคนสุดท้ายของตระกูลผู้พิทักษ์สมบัติราชวงศ์”
“นายมาจากไหน”
“ไม่รู้สิ เท่าที่จำความได้ ผมและครอบครัวก็ร่อนเร่ไปเรื่อยๆน่ะนะ มันก็ไม่ต่างจากตระกูลฮารุโนะนักหรอก”
“นายรู้ด้วยเหรอ?”
“โอ้ ผมอยู่มานานกว่าที่เห็นนะ คุณจำน้ำตกนิลกาฬได้ใช่ไหม ที่นั่นน่ะ…คือที่ตายของสามพี่น้องฮารุโนะ อาวุธวิญญาณกำเนิดขึ้นที่นั่นแหละ ผมมาที่นั่นเพื่อซ่อนของก็สามเดือนให้หลังนะ”
“ตระกูลฮารุโนะ ถือเป็นตระกูลพิทักษ์สมบัติรึเปล่า?”
“ไม่ครับ พวกเค้าคือหมอยาจากจีน…แต่โชคไม่ดีที่เข้ามาในประเทศนี้ตอนที่เรื่องของตระกูลผมบูมๆพอดี เลยซวยโดนตามล่า ฆ่าล้างจวนจะหมดตระกูลแบบนี้”
“รู้ดีจัง”
“ผมเคยคุยกับคนจากตระกูลนั้นน่ะ มีอะไรจะซักอีกไหมครับ ผมจะบิดแล้ว”
“กวนตีน”
“ถือเป็นคำชมนะ หายเหนื่อยกันรึยัง เราต้องรีบนะครับ”
“ดูรีบจังนะ”
“ผมมีแปลนจะเดินทางไปอีกหลายๆที่นะครับ ไม่ได้มีเวลามากนักหรอก เวลาเป็นสิ่งมีค่า อะไรก็แลกมาไม่ได้หรอกนะ”
“มาร่วมมือกันดีกว่า”
“หือ?”
“เราต้องการความสามารถของนาย”
“แล้วผมจะได้อะไรล่ะครับ”
“ทุกอย่าง…ที่นายต้องการ”
เด็กหนุ่มยิ้มหวาน แล้วเข้าไปใกล้ ซาสึเกะได้กลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนๆโชยมา เทียบกันแล้ว คนๆนี้ตัวเล็กกว่าเข้ามาก เผลอๆตัวอาจจะเท่ากับซากุระเลยที่เดียว
“ถ้าเป็นตัวคุณล่ะ”
ตาสีดำสบเข้ากับสีมรกตคมงาม สองมือของร่างสูงเผลอโอบให้ร่างนั้นเข้าใกล้ แต่ฮารุยิ้มหวานพร้อมทั้งจับคนตรงหน้าคล่อม
“ชอบแบบนี้ก็ไม่บอกนะ หรือว่าหิว หึๆ”
“ดะ เดี๋ยวจะทำอะไร”
เด็กหนุ่มโน้มหน้าเข้าไปใกล้”แค่หยอกเล่น ผมไม่ใช่ไม้ป่าเดียวกันซะหน่อย เอ๊ะหรือว่าคุณเคลิ้มเหรอ? ไม่เอาน่า อย่าทำตัวเหมือนสาวงามที่กำลังโดนโจรป่าปล้ำเลย”
เด็กหนุ่มลุกออกจากตัว ทำเอาซาสึเกะโกรธจนหน้าแดงกับคำพูดของไอ้คนๆนี้ เค้าพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้เผลอเผาเจ้าคนๆนี้
“หึๆผมว่า เราเดินทางต่อเถิด”ฮารุเอ่ยเสียงแผ่วดั่งเสียงกระซิบ”เวลาคุณโกรธ ดูบ้าพลังและมีชีวิตชีวาดีนะ”
ซาสึเกะคิด คนๆนี้มันหลากอารมณ์ ผีเข้าผีออกจริงๆ เค้าดูไม่ออกเลยจริงๆ
...
'เมี๊ยว ร้ายกาจจัง นายใครหว่า แต่หนาวชะมัดเลย'
ทามะที่ตามมา ตัวสั่นเล็กน้อย มันต้องตามมาช่วยนายของมัน แต่แบบนี้ไม่น่าห่วง มันรับรองเลยว่า รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมมารอแล้ว เก่งจริงจริ๊ง น่ากลั๊ว น่ากลัว
มาอัพแล้วเม้นด้วยนะคะ พอดีว่าเกิดปัญหาเลยไม่ได้มาอัพนาน ฝากฟิคและนิยายเรื่องอื่นด้วยนะคะ
โทบิสังเกตว่าสองสาวและลูกทีมคนอื่นๆเริ่มล้า ซุยเงสึโอดครวญ”นี่...พักก่อนเต๊อะ จะตายแล้ว”
“ก็ได้ครับ สิบนาที”
ซุยเงสึทำตาโต…ขุ่นพระสิบนาที แต่เราเดินทางโดยไม่พักกันสิบชั่วโมง ไอ้ปีศาจนี่!...
ทีมเหยี่ยวต่างอ่อนล้า นั่งพักกันอย่างสิ้นเรี่ยวแรง ผิดกับคนสามคน?คือซาสึเกะ โทบิและคุณหมอปีศาจ
ซุยเงสึคิด…บรรพบุรุษเป็นคนเหล็กรึไงไอ้พวกนี้!...
โทบิเห็นว่าทีมยังคงอ่อนล้า”เราหาทำเลที่พักกันดีกว่านะ ไม่งั้นก่อนจะไปถึงมีหวังหมดแรงตายก่อน”
ฮารุยิ้มหวาน”ได้ครับ พักที่นี่ ผมเหนื่อยแล้ว หาฟืนมาก่อไฟสิ”เด็กหนุ่มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลสร้างความหมั่นไส้แก่ซุยเงสึเป็นอย่างมาก
…เหนื่อยเป็นด้วยเราะ ไอ้ปีศาจ…
จู่ร่างของเด็กหนุ่มก็พุ่งเข้ามาคล่อมนินจาน้ำ และบีบกรามให้อ้าปาก”ก่นด่าในใจเป็นตุ๊ดแบบนี้ พ่อไม่ปลื้มนะ แบบนี้มันน่าเอาสารดูดความชื้นรุ่นพิเศษให้กินดีไหมเอ่ย…”
“อย่านะ…”
ตาสีมรกตฉายแววน่าสะพรึง”ทีแบบนี้มาขอความเมตตา…อยากจะรู้เหลือเกินว่า ตอนที่มีคนขอความเมตตาน่ะแกให้เค้ารึเปล่า…”
จูโกะจำต้องห้าม”พอได้แล้วน่า”
ฮารุแสยะยิ้ม”ปล่อยก็ได้…ที่ปล่อยเพราะง่วงแล้ว”
เด็กหนุ่งกลับไปที่เดิม แล้วนำคัมภีร์ออกมาม้วนหนึ่งแล้เปิดออกมา
ปุ๊ง!
เต้นท์สีดำขนาดเล็กพร้อมนอนได้ออกมา ร่างเล็กนั้นได้เข้าไปแล้วโผล่หัวออกมาด้วยรอยยิ้ม”ห้ามกวนนะครับ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”
ทีมเหยี่ยวจำต้องก่อไฟนอนใต้ต้นไม้ไปตามเรื่อง แต่ซาสึเกะเลือกที่จะนอนใกล้ๆกับเต้นท์สีดำนั่น เพราะเธอยังอยู่ในกำมือของมัน
เช้าวันต่อมา หิมะนั้นกำลังโปรยปราย
ทีมเหยี่ยวยังคงหลับสนิทเพราะยังคงเหนื่อยล้า
เต้นท์สีดำก็เปิดออก ฮารุออกจากเต้นท์นำกระบอกน้ำมาเทใส่มือเพื่อล้างหน้าและบ้วนปาก หลังจากจัดการธุระเรียบร้อย ก็เดินเก็บเต้นท์และเดินเล่นไปมา
“จะไปไหน”ซาสึเกะที่ตามมาร้องถาม
“หนีมั้งครับ แค่เดินเล่น ผมมีสัจจะพอ”
“นายคือใครกันแน่”
“ผมบอกไปแล้วนะ ผมคือทายาทคนสุดท้ายของตระกูลผู้พิทักษ์สมบัติราชวงศ์”
“นายมาจากไหน”
“ไม่รู้สิ เท่าที่จำความได้ ผมและครอบครัวก็ร่อนเร่ไปเรื่อยๆน่ะนะ มันก็ไม่ต่างจากตระกูลฮารุโนะนักหรอก”
“นายรู้ด้วยเหรอ?”
“โอ้ ผมอยู่มานานกว่าที่เห็นนะ คุณจำน้ำตกนิลกาฬได้ใช่ไหม ที่นั่นน่ะ…คือที่ตายของสามพี่น้องฮารุโนะ อาวุธวิญญาณกำเนิดขึ้นที่นั่นแหละ ผมมาที่นั่นเพื่อซ่อนของก็สามเดือนให้หลังนะ”
“ตระกูลฮารุโนะ ถือเป็นตระกูลพิทักษ์สมบัติรึเปล่า?”
“ไม่ครับ พวกเค้าคือหมอยาจากจีน…แต่โชคไม่ดีที่เข้ามาในประเทศนี้ตอนที่เรื่องของตระกูลผมบูมๆพอดี เลยซวยโดนตามล่า ฆ่าล้างจวนจะหมดตระกูลแบบนี้”
“รู้ดีจัง”
“ผมเคยคุยกับคนจากตระกูลนั้นน่ะ มีอะไรจะซักอีกไหมครับ ผมจะบิดแล้ว”
“กวนตีน”
“ถือเป็นคำชมนะ หายเหนื่อยกันรึยัง เราต้องรีบนะครับ”
“ดูรีบจังนะ”
“ผมมีแปลนจะเดินทางไปอีกหลายๆที่นะครับ ไม่ได้มีเวลามากนักหรอก เวลาเป็นสิ่งมีค่า อะไรก็แลกมาไม่ได้หรอกนะ”
“มาร่วมมือกันดีกว่า”
“หือ?”
“เราต้องการความสามารถของนาย”
“แล้วผมจะได้อะไรล่ะครับ”
“ทุกอย่าง…ที่นายต้องการ”
เด็กหนุ่มยิ้มหวาน แล้วเข้าไปใกล้ ซาสึเกะได้กลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนๆโชยมา เทียบกันแล้ว คนๆนี้ตัวเล็กกว่าเข้ามาก เผลอๆตัวอาจจะเท่ากับซากุระเลยที่เดียว
“ถ้าเป็นตัวคุณล่ะ”
ตาสีดำสบเข้ากับสีมรกตคมงาม สองมือของร่างสูงเผลอโอบให้ร่างนั้นเข้าใกล้ แต่ฮารุยิ้มหวานพร้อมทั้งจับคนตรงหน้าคล่อม
“ชอบแบบนี้ก็ไม่บอกนะ หรือว่าหิว หึๆ”
“ดะ เดี๋ยวจะทำอะไร”
เด็กหนุ่มโน้มหน้าเข้าไปใกล้”แค่หยอกเล่น ผมไม่ใช่ไม้ป่าเดียวกันซะหน่อย เอ๊ะหรือว่าคุณเคลิ้มเหรอ? ไม่เอาน่า อย่าทำตัวเหมือนสาวงามที่กำลังโดนโจรป่าปล้ำเลย”
เด็กหนุ่มลุกออกจากตัว ทำเอาซาสึเกะโกรธจนหน้าแดงกับคำพูดของไอ้คนๆนี้ เค้าพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้เผลอเผาเจ้าคนๆนี้
“หึๆผมว่า เราเดินทางต่อเถิด”ฮารุเอ่ยเสียงแผ่วดั่งเสียงกระซิบ”เวลาคุณโกรธ ดูบ้าพลังและมีชีวิตชีวาดีนะ”
ซาสึเกะคิด คนๆนี้มันหลากอารมณ์ ผีเข้าผีออกจริงๆ เค้าดูไม่ออกเลยจริงๆ
...
'เมี๊ยว ร้ายกาจจัง นายใครหว่า แต่หนาวชะมัดเลย'
ทามะที่ตามมา ตัวสั่นเล็กน้อย มันต้องตามมาช่วยนายของมัน แต่แบบนี้ไม่น่าห่วง มันรับรองเลยว่า รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมมารอแล้ว เก่งจริงจริ๊ง น่ากลั๊ว น่ากลัว
มาอัพแล้วเม้นด้วยนะคะ พอดีว่าเกิดปัญหาเลยไม่ได้มาอัพนาน ฝากฟิคและนิยายเรื่องอื่นด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ