FIC B2ST เกลียด หลง รัก
10.0
เขียนโดย JR_ST
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.02 น.
6 บท
0 วิจารณ์
10.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.12 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) บท 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบท 1
บางครั้งความรักของผมก็เป็นบทเรียนที่คอยเตือนใจว่าคนเราไม่ควรให้ความหวังกับใคร อย่าเชื่อใจใครมากเกินไป เพราะตัวเองจะถูกคนๆนั้นหักหลังอย่างที่แล้วมา ความเจ็บในตอนนั้นผมไม่เคยลืมมันเลย ผมจึงตั้งเป้าหมายชีวิตว่าโตไปอยากเป็นผู้จัดการของพวกดารานักร้อง เพราะอะไรน่ะเหรอ เหตุเพราะว่าผมอยากสร้างขอบเขตชีวิตของพวกคนเหล่านั้นเท่านี้เอง ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย และความฝันผมก็เป็นจริง ผมได้เป็นผู้จัดการแล้ว แต่ผมยังหาบริษัทสักแห่งไม่ได้เลย
“ ฮยอนซึงอา นายมาททำงานที่บริษัทพ่อฉันเถอะนะ ยังไงนายก็อยากเป็นผู้จัดการไม่ใช่เหรอ “ โยซอบพูดเชิญชวนกับฮยอนซึงขณะที่กำลังเดินเล่นกันในห้างสรรพสินค้า
“ เอ่อ... “ ฮยอนซึงลังเล ถึงเขายังคงหางานไม่ได้แต่เขาก็ไม่อยากพึ่งพาคนอื่นหรอก ยิ่งเป็นโยซอบเขายิ่งเกรงใจ โยซอบช่วยฮยอนซึงหลายอย่างมาก มากจนไม่สามารถตอบแทนได้เลย
“ นะนะ ฮยอนซึง พ่อฉันก็อยากให้นายไปทำงานด้วยนะ เห็นว่านายว่างงาน ยังไม่มีงานทำ เรื่องนี้พ่อกับฉันก็ปรึกษากันแล้ว พ่อตกลงว่าจะให้นายมาทำงานที่บริษัทนะ ฮยอนซึงอา...” โยซอบพูดรวดเดียวจบแล้งทำหน้าตาออดอ้อนฮยอนซึงให้ใจอ่อนลงแล้วยอมตกลงรับคำขอของเขา
เขาอยากให้ฮยอนซึงมาทำงานกับเขา เขาห่วงฮยอนซึง ไม่อยากให้ฮยอนซึงอยู่อย่างเดียวดาย ใครกันอยากให้เพื่อนอยู่คนเดียว คนมันห่วงเพื่อนนี่นา
“ นายพูดเป็นชุดใส่ฉันแบบนี้ กะจะไม่ให้ฉันแย้งสักหน่อยเลยเหรอ”ฮยอนซึงบอกเสียงติดตลก
“ แฮ่ๆ ฉันกลัวนายปฏิเสธ ^_^ “ โยซอบพูดปนหัวเราะพร้อมกับเกาหัว ฮยอนซึงยิ้มแล้วเอื้อมมือไปลูบกลุ่มไรผมสีน้ำตาลนั่น
“ เฮ้อ ก็ได้ ฉันตกลง “ ฮยอนซึงตอบตกลง ร่างบางใบหน้าเด็กหลมเล็กกระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่แล้วลากคอเพื่อนไปซื้อขนม
“ เย่ ในที่สุดนายก็ตกลง งั้นไปกินขนมกัน”โยซอบเริงร่าดีใจบอกเพื่อน
“ โยซอบ ขนมเต็มมือพวกเราแล้วนะ” ฮยอนซึงชูถุงพลาสติกที่บรรจุพวกขนมของกินมากมายที่เพื่อนตัวแสบเลือกซื้อมาโดยไม่ถามไถ่ฮยอนซึง
“ ก็กินที่ร้านไง “
“ แต่ว่า..” ไม่ทันที่ฮยอนซึงจะพูดจบ โยซอบก็ลากฮยอนซึงแล้ว เขารู้ว่าฮยอนซึงเป็นคนอย่างไร เขาอยากให้ฮยอนซึงเที่ยวโดยไม่ต้องเกรงใจเขา ถึงแม้ขนมจะเต็มมือก็ตาม เขาไม่สน เงินมีไว้ผลาญอย่างเดียว เงินมันเยอะเกินความจะเป็น...
ร้าน Sweet Coffee
เมื่อสองหนุ่มเข้ามาในร้าน ชายเรือนผมสีน้ำตาลรีบเดินไปสั่งก่อนเลยส่วนชายผมสีโอรสเดินไปจองโต๊ะให้ก่อน พวกเขารู้หน้าที่ของตนเองเพราะเป็นร้านที่เคยมากินหลายครั้งแล้วโดยเพื่อนตัวแสบชอบชวนเขามากินหลายครั้ง
“ พี่ฮะ เอาอันนี้ อันนี้ และก็อันนี้ “ โยซอบจิ้มมือลงบนรูปเมนูสั่งพนักงานแคชเชียร์ เธอตกใจ ผู้ชายอะไรกันตัวก็เล็กนิดเดียว แต่กินจุจริงๆ
“ เอ่อ คะ รอสักครู่นะคะ “ พนักงานบอกแล้วเดินเข้าข้างใน โยซอบพยักหน้าแล้วเดินหาหาฮยอนซึง เขามองหาหัวสีโอรสที่เป็นจุดเด่นของฮยอนซึง เขาหาอย่างรีบร้อน คนก็เยอะ ท่ามกลางร้านที่เต็มไปด้วยลูกค้าที่เยอะเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นโอกาสดีที่วัยทำงานจะมาเที่ยว มาพัก ทำให้โยซอบเดินไปชนใครบางคนเข้า
“ ปัก “
ร่างของโยซอบเซไปข้างหนึ่งแล้วตั้งหลักมองร่างที่เขาชน ชายร่างสูงเรือนผมสีดำโครงหน้ายาวเหลี่ยมสวมแว่นสีดำปกปิดหน้าตาใส่หมวกสีดำ ชายร่างสูงโค้งคำนับขอโทษโยซอบ
“ เอ่อ ขอโทษครับ “ แล้วเขาก็เดินจากไป
“ คนอะไรแต่งตัวพิลึกชะมัด “ โยซอบเอ่ย ก่อนจะมองหาฮยอนซึงอีกครั้ง ไม่นานเขาก็เจอฮยอนซึง ฮยอนซึงนั่งเล่นอ่านหนังสือรอเขา เขารีบทักแล้วเข้าไปนั่ง
“ ฮยอนซึงอา ฉันหานายตั้งนานเลยนะ มานั่งอยู่ตรงนี้นี่เอง “
“ ฮ่าๆ โทษทีที่เลือกที่ลึกไปหน่อย พอดีอยากอ่านหนังสือเงียบๆน่ะ “ ฮยอนซึงบอกแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือขนาดกลางต่อ โยซอบเห็นจึงเกิดความสงสัยจึงชะหน้าเข้าไปดู
“ เอ่อ นายอ่านภาษาอังกฤษออกเหรอ “ โยซอบถาม เนื้อหาในหนังสือที่ฮยอนซึงอ่านบทความทั้งหมดล้วนแต่เป็นภาษาอังกฤษ [ ตัวจริงฮยอนซึงอ่านไม่ออกหรอกค่ะ ]
“ อืม ฉันชอบน่ะ เบื่อภาษาเกาหลี ชอบอะไรแปลกใหม่ “ ฮยอนซึงเอ่ยก่อนจะก้มหน้าอ่านต่อ
“ นายนี่นะ ขยันจัง ไม่เหมือนฉันเลย ภาษาอังกฤษยากจะตาย แปลก็ยาก...ตู้ด ตู้ด “ จู่ๆเสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์ของโยซอบก็ดังขึ้น โยซอบกดมารับทันที
“ มีอะไรเหรอครับพ่อ “
“ (โยซอบ มาหาพ่อด่วยที่บริษัท)“ เสียงในสายพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูรีบร้อน
“ เอ่อ ครับ ครับ “ โยซอบรีบตอบทันทีแล้วกดวางสาย เขาลุกจากเก้าอี้
“ มีอะไรเหรอโยซอบ “ ฮยอนซึงถามเมื่อเห็นเพื่อนของเขามีทีท่าที่ดูรุกรี้รุกรนอย่างมากหลังจากวางสายไป
“ พ่อฉันเรียกน่ะ ฉันไปก่อนนะ ส่วนของฉันยกให้นายหมด รบกวนด้วยนะ “ แล้วโยซอบก็รีบเดินออกไปปล่อยให้ฮยอนซึงนั่งอึนอยู่คนเดียว
นิ้วเรียวหยิบสมุดในกระเป๋าแล้วเปิดไปยังหน้าหนึ่ง หน้าที่มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในรูปถ่ายในท่ากอดกับฮยอนซึง มันช่างเป็นรูปที่อบอุ่น มันสวยมาก แต่ว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่อาจจะเอาผู้ชายคนนี้ในรูปถ่ายกลับมาได้ แม้เขาจะเจ็บมากแค่ไหนแต่เขาก็ยังรักผู้ชายคนนี้อยู่ดี ถึงแม้ว่าร่างสูงในรูปถ่ายจะเคยทำให้เขาทรมานใจแค่ไหนก็ตาม
“ จุนฮยอง...” ปากบางสีชมพูเอ่ยก่อนจะตามด้วยสายน้ำอุ่นๆที่ค่อยๆหลั่งไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลนั้น
เช้าวันสดใสท้องฟ้าแจ่มใส ใบไม้พลิ้วไหวตามทิศทางและแรงของลมเย็นๆในเมื่อแห่งหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากมายต่างสัญจรไปมาและรถยนต์นานาชนิดต่างขับเคลื่อนบนถนน ชายร่างบางเรือนผมสีโอรสพร้อมกับกระเป๋าใบหนึ่งที่ในนั้นมีเอกสารสำหรับสมัครงาน เขากำลังเดินทางไปยังบริษัทแห่งหนึ่งโดยนั่งรถประจำทาง
บริษัท Cube
ในที่สุดฮยอนซึงก็มาถึง เขาถอนหายใจหนึ่งครั้งเพราะตื่นเต้นก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปยังบริษัท เมื่อเขาเข้าไป บริษัทนี้มันใหญ่จริงๆเขาไม่เคยเข้ามาก่อนหน้านี้เลย ตอนนี้โยซอบอยู่ไหนนะ เป็นคนชวนเขาเข้ามาแท้ๆ เขาล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วกดเบอร์ของโยซอบอย่างชำนาญ
“ (ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด) “
“ เฮ้อ โยซอบรัยซักทีสิ “
“ (ตู้ด ตู้ด...ฮัลโหล) “เสียงในสายเอ่ย
“ โยซอบฉันเข้ามาในบริษัทแล้ว นายอยู่ไหน “ ฮยอนซึงถาม
“ เอ่อ ฉันอยู่ข้างบนน่ะ เดี๋ยวฉันลงไปรับนะ ตู้ด “ แล้วโยซอบก็ตัดสายทิ้ง ฮยอนซึงบ่นเล็กน้อยก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลง แล้วยืนรอโยซอบบี้เพื่อนรักต่อไป...
ชายร่างสูงในชุดสุดเท่ห์เลื้อสีดำสลับขาวลายทางแนวนอนเสื้อนอกสีสีดำประกอบกับยีนส์สีเทาและรองเท้าผ้าใบสีขาวดำ [อาจจะไม่เท่ห์ก็ได้]เดินมาพร้อมกับหญิงร่างบางในชุดเดรสสีม่วงเดินควงแขนเหมือนคู่รักเข้ามาในบริษัท ทั้งคู่ต่างเป็นจุดสนใจของคนในบริษัท เหล่าแฟนคลับที่อยู่ด้านนอกต่างกรี๊ดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงพวกเธอดั่งเสียงนกหวีดได้เลย
“ กรี๊ดดด จุนฮยอง จุนฮยอง กรี๊ดดด “
ฝ่ายฮยอนซึงที่ยืนรอโยซอบอยู่นั่นเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดวีดแตกของเหล่าแฟนคลับถึงกลับสะดุ้ง
“ กรี๊ดดด จุนฮยอง...” เขาตกใจกับชื่อจุนฮยอง จุนฮยองคนรักเก่า แต่ว่าจุนฮยองในประเทศนี้มันมีหลายคนจะตายไป อย่าสนใจไปเลย เขาส่ายหัวไปมา ไล่ความคิดในหัวออกไป ชายหนุ่มคู่หนึ่งเดินเลี่ยงไปอีกทาง ฮยอนซึงสังเกตเห็นแฟนคลับจำนวนเยอะแยะมากมายผ่านประตูกระจกนั่น
“ คนอะไรจะเยอะขนาดนี้นะ “ เขาเอ่ย สงสัยคนที่ชื่อ “ จุนฮยองคงดังมากๆแน่เลย สุดยอดจริงๆ ส่วนใหญ่แฟนคลับจะเป็นผู้หญิง แล้วแฟนคลับดาราชายที่ไหนมีผู้ชายที่ไหนเล่า นับวันสมองผมเริ่มเพี้ยนขึ้นทุกทีแล้วนะ
ไม่นานโยซอบก็ลงมาเจอฮยอนซึงยืนรอหน้าตายไม่ตอบรับบุญ ฮยอนซึงรอเขานานมาก รอประมาณยี่สิบนาที กว่าโยซอบจะลงมาถึง ที่จริงโยซอบก็มีหลงทางบ้างถึงจะเข้ามาในบริษัทเป็นประจำ
“ ซึงอา ฉันมาแล้ว “ โยซอบโบกมือทักแล้วเดินเข้าไปหาฮยอนซึงที่ตอนนี้กำลังหน้าบูด
“ ย่าห์ นายมาช้าจังนะ ฉันรอนายนายมากเลยนะ “ ฮยอนซึงบ่น โยซอบเอื้อมมือไปตบบ่า
“ แย่จัง ซึงคนสวยอารมณ์เสียซะแล้ว “ โยซอบแอบแซวฮยอนซึงเล็กน้อย ฮยอนซึงตีแขนโยซอบอย่างแรง เขาไม่ชอบให้ใครมาชมหรือบอกว่าเขาสวย เมื่อได้ยินเขาจะตีที่เจ้าตัวเจ้าของคำพูดนั้นทันที ติดเป็นนิสัยแล้ว
“ แปะ นี่โยซอบบี้ นายอย่ามาเรียกชื่อฉันแล้วลงท้ายด้วยคำว่า “สวย “ ได้มั้ยเนี่ย “
“ ทีนายล่ะ เรียกฉันง่าโยซอบบี้อ้า ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ “ โยซอบแย้ง ทั้งคู่มองหน้ากัน สองสายตาต่างจ้องมองกัน ฮยอนซึงกับโยซอบหลุดขำออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“ ฮ่าๆๆ ก็จริง ฮึๆๆ “ ฮยอนซึงพูดไปขำไป
“ อืม ฮึๆๆ ซึงนายบ้าหรอ อย่าหัวเราะสิ “
“ ฮ่าๆๆ โฮ้ย เหนื่อย โยซอบไปกัน “ เมื่อฮยอนซึงหยุดขำจึงบอกโยซอบให้พาไปซักที โยซอบพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วเดินจูงมือฮยอนซึง ระหว่างทางโยซอบก็เล่าเรื่องต่างๆนานา เมาท์เรื่องนั่นเรื่องนี่ให้ฮยอนซึงได้ฟัง เขาพูดมากจนฮยอนซึงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงบทสนทนาของโยซอบได้เลย เพื่อนของเขาพูดมากจริงๆ
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องท่านประธานอย่างรวดเร็ว โยซอบดันประตูเข้าไปฮยอนซึงเดินตามโยซอบไปติดๆ ท่านประธานที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามา ถึงแม้จะไม่ใช่หลานแท้ๆแต่เขาก็รักและเอ็นดูฮยอนซึงเหมือนลูกในสายเลือด ชายวัยกลางคนลุกออกจากที่เดินไปต้อนรับฮยอนซึง
“ฮยอนซึงฉันรอเธอตั้งนาน “ ท่านประธานเอ่ยพร้อมทำท่าจะโผกอดฮยอนซึงแต่ภูกโยซอบกันเอาไว้
“ ไม่ต้องเลยพ่อ ทีผมมาหาพ่อ พ่อไม่เคยทำกับผมแบบนี้เลยนะ”ลูกชายแสนน่ารักพูดด้วยความน้อยใจ พองลมในกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างทำให้แก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นมาเหมือนอมลูกมะนาวไว้ในปาก
“ โยซอบเอ๊ย แกไปเอานิสัยแม่แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยห้ะ “ ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม
“ พ่ออ่ะ “ เด็กชายน้อยยิ่งงอนเข้าไปใหญ่ โยซอบกอดอกหายใจแรงใส่ก่อนจะหันหลังให้กับพ่อตนเอง ให้รู้ซะบ้างเวลาลูกตัวเองงอนมันเป็นยังไง
“ แกนี่ก็ทำตัวเป็นเด็ก ดูฮยอนซึงเป็นตัวอย่างบ้าง เป็นเด็กดี ไม่งอคนอื่น” คำพูดของประธานยิ่งทำให้โยซอบโกรธเข้าไปใหญ่ ความโกรธพุ่งปรี้ดสูง โยซอบอดไม่ได้ที่จะระเบิดออกมากลางห้องต่อหน้าเพื่อนของตนเองที่ยังคงบริสุทธิ์
“ พ่อไม่เข้าใจผมเลย พ่อเคยสนใจผมบ้างมั้ยเนี่ย สนใจแต่งาน ผมงอนพ่อพ่อก็มาง้อผมบ้างดิ ไม่ใช่เอาแต่เมินผม พ่อไม่ต้องมายุ่งกับผมเลยนะ ผมต้องมาขอร้องผมอะไรด้วย ผมไปเล่า “ โยซอบสบถรัวๆใส่ผู้เป็นพ่อหนึ่งชุดก่อนที่จะเดินออกจากห้อง
ปึง ปึง ปึง...ปัง เสียงฝีเท้าของโยซอบดังมากพื้นแทบจะพังตามด้วยเสียงปิดประตูที่ดังมาก ฮยอนซึงสะดุ้งตกใจกับเสียงปึงปังฝีเท้าและเสียงปิดประตูของโยซอบ
ย่าห์ เพื่อนผมวีนแตกซะแล้ว ฮยอนซึงคิด
“ เฮ้อ โยซอบอารมณ์เสียไปแล้วนะครับคุณลุง “ ฮยอนซึงบอกกับชายวัยกลางคน แต่หาไม่ว่าเขาจะสนใจ เขารู้นิสัยยลูกชายตนเองเป็นอย่างดี ลูกของเขามีนิสัยโกรธง่ายหายเร็ว วันพรุ่งนี้เดี๋ยวก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ชายวัยกลางคนเดินไปนั่งที่ก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่อง สีหนี้ท่ดูจริงจังทำให้ดูขรึมมากกว่าเดิม
“ งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเถอะนะ ฉันต้องการให้เธอเป็นผู้จัดการของบริษัทฉันและฉันจะให้เธอไปเป็นผู้จัดการของนักร้องคนหนึ่งนะฮยอนซึง “ ท่านประธานบอกกลับฮยอนซึง ฮยอนซึงตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก ฮยอนซึงพยักหน้า
“ ครับ ผมจะพยายามครับ “
“ ขอดูเอกสารสมัครงานหน่อย” ท่านประธานเอ่ย ฮยอนซึงหยิบพวกเอกสารนั้นออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับประธาน เขารับมันมาแล้วกวาดสายตาลงไล่อ่านอย่างละเอียด เขากลับต้องตกใจเมื่อพบว่าผลการเรียนของฮยอนซึงดีมาก จนไม่น่าเชื่อเลย
“ โห เธอเรียนเก่งมากเลย ทุกวิชาได้เกรดเอบวกหมดเลยนะฮยอนซึง เก่งกว่าลูกชายฉันอีก [ไม่แน่ใจว่าเกาหลีเขาเรียกแทนอักษรอังกฤษแทนตัวเลขรึเปล่านะ] “ ท่านประธานเอ่ยชมฮยอนซึงอีกครั้งแต่แอบเปรียบเทียบกับลูกชายตนเอง
“ เอ่อ ครับ ที่จริงโยซอบก็เรียนเก่งเหมือนกันนะครับ “ ฮยอนซึงบอก เห็นคุณลุงเอาแต่ชมตนเองเลยอยากให้ชมลูกตนเองบ้าง ท่านประธานพยักหน้า
“ อืม ฉันก็ควรจะชมลูกตัวเองบ้าง เห็นทีต้องไปง้อซะแล้ว ฮ่าๆ...ฮยอนซึงเดี๋ยวซักพักเราจะมีประชุม เธอช่วยโทรบอกไอโยซอบด้วยนะ “ ท่านประธานบอก
“ แล้วประชุมกี่โมงครับ “
“ เก้าโมง ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่ ฝากด้วยนะ ฮยอนซึง “
“ ครับ ขอบคุณมากครับ “ ฮยอนซึงโค้งคำนับแล้วเดินออกจากห้องไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโยซอบ
“ (ตู้ด...ฮัลโหล )“
“ อ่า โยซอบเดี๋ยวจะมีประชุมตอนเก้าโมงนะ นี่นายอยู่ไหน “
“ (อยู่ข้างนอก เดี๋ยวฉันเข้าไปนะฮยอนซึง)“
“ อืม ว่าแต่ห้องประชุมอยู่ไหนน่ะ “
“( อืม นายเดินตามที่ฉันบอกนะ...)”โยซอบบอกในสาย ฮยอนซึงเดินตามที่โยซอบบอก
ฮยอนซึงเดินมาถึงหน้าห้องใดห้องหนึ่ง มีประตูไม้อัดบานใหญ่ เขาเลื่อนเปิดประตูออก เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ แลมองซ้ายขวาว่ามีใครอยู่มั้ย ปรากฏว่ามี ร่างของเด็กผู้หญิงผมตัดสั้นผมหยิกสีบรอนด์คนหนึ่งกำลังนั่งล่นโทรศัพท์อย่างเพลิดเพลินใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองมาทางฮยอนซึง
“ เอ่อ สวัสดีครับ...” ฮยอนซึงโค้งตัวลงอีกครั้ง
“ เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอ“ ผู้หยิงเสียงใสเอ่ยถาม
“ จาง ฮยอนซึง ครับ“
“ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ“ เธอเดินมาทางฮยอนซึงแล้วจับมือทักทายสไตล์ชาวฝรั่ง
“ ฉันชื่อ คิม ฮยอนอา ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เอ่อ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ ?“ ฮยอนอาถามเขาอีกครั้ง
“ ผู้จัดการครับ“
“ อ๋อค่ะ...คุณฮยอนซึงไปนั่งกันเถอะค่ะ“ ฮยอนอาจับมือจูงฮยอนซึงไปนั่งทันที
เมื่อฮยอนอานั่งฮยอนซึงเลือกที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอแต่ฮยอนอาไม่ยอม เธอลุกขึ้นไปจูงฮยอนซึงเข้ามานั่งข้างๆเธอ เหตุเพราะว่าเธอเหงา ข้างๆมันโหวงเหวง เธอเกลียดบรรยากาศแบบนี้ที่สุดเลย
“อ่ะ” ฮยอนซึงอุทานเล็กน้อยเมื่อถูกจูงโดยไม่ทันตั้งตัว ผู้หญิงคนนี้มือไวจริงๆ
“ นั่งลงข้างๆฉันเถอะค่ะ ฉันเหงาน่ะ“ ฮยอนอาพูดขอร้องพร้อมกับทำหน้าอ้อนวอนฮยอนซึง ฮยอนซึงเมื่อเห็นใบหน้าอ้อนวอนแสนน่ารักยอมนั่งลงเพราะไม่อยากขัดใจเธอ ฮยอนซึงยิ้มหวานให้กับฮยอนอา ฮยอนอาถึงกับใจละลายรอยยิ้มหวานและดวงตาเรียวเฉียบขาดของฮยอนซึงที่ส่งมาให้
“ ว้าว ดวงตาและรอยยิ้มของคุณงดงามากเลยนะ อย่างกับผู้หญิงเลย“ เธอเอ่ยชมฮยอนซึง ผู้หญิงตรงหน้าฮยอนซึงช่างสดใสร่าเริ่งและบริสุทธิ์เหมือนกับตัวเขาในอดีตที่ยังร่าเริงสดใสเหมือนเธอ ถึงแม้จะถูกชมออกไปว่าสวย งดงาม แต่ข้างในมันต่างกันสิ้นเชิง ข้างในมันปนเปื้อนเต็มไปด้วยความหม่นหมองไปด้วยผู้ชายคนนั้นหมดแล้ว ผู้ชายที่หักหลัง ทรยศ ทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้กับเขาไว้
“ เอ่อ คุณฮยอนซึงค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ“ ฮยอนอาเรียกฮยอนซึงเมื่อเห็นฮยอนซึงเหม่อลอย แสดงสีหน้าโศกเศร้า
“ ไม่เป็นนนไรครับ“
“ อ๋อค่ะ“
ไม่นานคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันเข้ามา มีทั้งนักร้องจากวงต่างๆของบริษัทนี้ นักแต่งเพลงและคนอื่นๆอีกมากมาย พูดได้ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งใหญ่และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทุกคนจะได้เข้ามา หลังจากนั้นทุกคนต้องทำงานกันอย่างหนักมากเลยทีเดียว ถึงแม้จำนวนคนจะมากพอสมควรดูเหมือนขาดใครบางคนไปที่สำคัญกับฮยอนซึงเป็นอย่างมาก...โยซอบบี้เพื่อนรักยังไงล่ะ
ผู้ชายตัวเล็กลักษณะใบหน้ากลมกำลังวิ่งเข้าบริษัทของคุณพ่ออย่างรวดเร็ว เขาดันนั่งจิบกาแฟเพลินซะได้ เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด เสียงหอบหายใจดังฮึดฮัด
“ วืด“ ประตูเปิดอัตโนมัติเปิดออกเมื่อเซ็นเซอร์แสกนร่างของมนุษย์ ผู้ชายตัวเล็กรีบวิ่งไปทางขึ้นบันไดทันที แต่การวิ่งของเขามันไม่ง่ายดาย เวลานี้พนักงานต่างพากันเข้ามาทำงาน ไหล่เล็กชนกับไหล่แกร่ง
ปัก ตุบ...ร่างของผู้ชายตัวเล็กล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างแรง ชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำรีบหันมามองทันทีเมื่อเสียงเล็กอุทานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ เป็นอะไรรึเปล่าครับ“ เขาถาม คนตัวเล็กเงยหน้ามองเจ้าของเสียงทุ้มที่ทักถามมา ใบหน้าคม ดวงตาสองชั้น จมูกโด่ง มีโหนกแก้มนิดๆ ช่างหล่ออะไรอย่างนี้นะ โยซอบคิดในใจ
มือใหญ่ของชายตรงหน้ายื่นมาหาโยซอบ โยซอบรับมันมาแล้วพยุงตัวขึ้น
“ ขอบคุณครับ ไม่เป็นไร ” โยซอบก้มหัวเล็กน้อยแล้วกล่าวขอบคุณจากนั้นจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว ชายร่างสูงอยาจะถามชายตัวเล็กแต่เขาไวอย่างกับจับจรวดปล่อยกระสวย ร่างสูงมุ่งตรงไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นอื่น....
“ ครืด “ โยซอบเปิดประตูออกมา คนในห้องต่างมองโยซอบเป็นตาเดียวกันบางคนก็มองเขาแบบไม่พอใจ บางคนมองแล้วยิ้มให้ โยซอบเดินเข้าไปอย่างช้าๆแล้วกล่าวทักทาย ทุกคนตอบรับ ฮยอนซึงที่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือ เมื่อได้ยินเขาเลิกสนใจแล้วเงยหน้ามองหาต้นเสียง เขาดีใจที่โยซอบเพื่อนรักมาซักที โยซอบเมื่อเห็นฮยอนซึงจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วนั่งลงตรงที่ที่ว่างอยู่ข้างๆฮยอนซึงโดยมีฮยอนอานั่งข้างๆฮยอนซึงแต่โยซอบไม่เห็น โยซอบทักทายฮยอนซึงเล็กน้อย
“ อันยอง ซึง “
“ อันยอง ทำไมนายมาช้านักล่ะ “ ฮยอนซึงถามกลับ
“ พอดีฉันนั่งจิบกาแฟเพลินน่ะ ฮ่าๆ “ โยซอบตอบและหัวเราะกลบเกลื่อน ฮยอนซึงส่ายหน้ากับความลืมตัวของโยซอบ ฮยอนอาเมื่อเห็นทั้งสองคุยกันดีนักจึงหาเรื่องคุยไปแจมด้วย
“ อะแฮ่ม ฉันก็อยู่ตรงนี้ด้วยนะคะ พี่โยซอบ...” เธอส่งเสียง ทั้งฮยอนซึงและโยซอบหันไปพร้อมกัน
“ อ้าว โทษที ฉันไม่เห็น เธอตัวเล็กไป “ โยซอบพูดกวนประสาทฮยอนอาให้โมโห
“ เชอะ พูดไม่ดูตัวเองเลยนะ ตัวเองก็ตัวเล็กเหมือนกันนี่ “
“ ฉันยอมเธอล่ะ ยังเถียงเก่งไม่เปลี่ยน “
“ พี่ก็เหมือนกัน เรียบร้อยให้เหมือนกับคุณ เอ้ย ไม่สิ พี่ฮยอนซึงซะบ้าง “เธอพูดตะกุกตะกักเมื่อต้องเปลี่ยนจากคุณฮยอนซึงเป็นพี่ฮยอนซึงแทน ฮยอนซึงยิ้มให้
“ อย่าเป็นแบบฉันเลย เป็นแบบเดิมดีแล้วล่ะ “ ฮยอนซึงบอกฮยอนอา เขาพยายามฝืนยิ้มเพื่อปกปิดปมในใจ โยซอบรู้ว่าที่ฮยอนซึงพูดหมายถึงอะไร โยซอบเลยอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศนี้ซะ
“ นี่ ตอนก่อนขึ้นบันไดฉันชนคนอื่นมาด้วย ไม่รู้ไหล่หักรึเปล่าเนี่ย “ โยซอบทำเสียงโอดโอยแล้วจับไหล่เพื่อเรียกความสนใจ อย่างที่คาดไว้ ฮยอนอาเปลี่ยนมาถามโยซอบอย่างว่าง่าย
“ ทำไมพี่บ่นเหมือนคนแก่จัง “ เธอเอ่ย โยซอบถึงกับหน้าเหวอ
“ ย่าห์ ไม่คิดจะห่วงฉันรึไงเนี่ย ไอ้เด็กหัวเห็ดทองนี่ “ โยซอบสบถรัวออกมาอย่างเป็นทางการ ทั้งฮยอนอาและฮยอนซึงระเบิดหัวเราะออกมารวมทั้งคนอื่นๆ เสียงของชายหญิงคู่นี้ดังกึกก้องแทนเสียงคนอื่นๆที่กำลังนั่งคุยกันแทน
ประธานยังเดินเข้ามาในห้องมุ่งตรงไปที่นั่งประจำของตนเอง ทุกคนกล่าวสวัสดีพร้อมกัน หลังจากนั้นประธานยังก็เริ่มอธิบายเรื่องที่ประชุมในวันนี้
“ เรามาเริ่มกันดีกว่านะ เริ่มจาก โยซอบ “
“ ครับ “ โยซอบขานรับ ทำหน้างงงวย
“ เธอจะมีคนมาแต่งเพลงให้นะ ต่อไปนี้ตั้งใจทำงานด้วยนะ “ โยซอบพยักหน้ารับ
“ ฮยอนซึง ต่อไปนี้เธอต้องไปดูแลจุนฮยองนะ วันนี้นายเตรียมตัวได้เลย สักพักนายจะเจอเขาที่ห้องอัด ” ประธานอธิบายให้ฮยอนซึงรับทราบ ฮยอนซึงพยักหน้ารับ
“ และฮยอนอา วันนี้เธอต้องมาอัดเพลงกับพวกพี่ๆเธอ รออยู่ที่ห้องอัดแล้ว “ ฮยอนอาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เธอจึงทักท้วงไป
“ แล้วทำไมฉันต้องมารอที่นี่ ทำไมพวกพี่ไม่มารอที่นี่กับฉันล่ะคะ“
“ ถ้าพวกเขามา ฉันรู้ดีนะ เธอจะเบี้ยวใช่มั้ยล่ะ “ ประธานเอ่ยบอก ฮยอนอาถึงกับนิ่ง พูดอะไรไม่ออก ที่ประธานพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด
หลังจากที่เลิกประชุม ฮยอนอาและโยซอบพาฮยอนซึงไปที่ห้องอัด ฮยอนซึงแอบกังวลเล็กน้อยกับคนที่ชื่อว่า จุนฮยอง ว่าจะเป็นคนรักเก่าของเขารึเปล่า เขาหวังว่าจะไม่ใช่หรอกนะ....
END
อ่า มาอีกตอนโทษทีที่มาช้านะคะ 555 ช่วงนี้ขี้เกียจติดคอม ติดฟิค ติดการ์ตูนวาย ติดคลิป MBLAQ เกมเมล็ดงา อะไรเยอะแยะไปหมดของไอดอลเกาหลี
บางครั้งความรักของผมก็เป็นบทเรียนที่คอยเตือนใจว่าคนเราไม่ควรให้ความหวังกับใคร อย่าเชื่อใจใครมากเกินไป เพราะตัวเองจะถูกคนๆนั้นหักหลังอย่างที่แล้วมา ความเจ็บในตอนนั้นผมไม่เคยลืมมันเลย ผมจึงตั้งเป้าหมายชีวิตว่าโตไปอยากเป็นผู้จัดการของพวกดารานักร้อง เพราะอะไรน่ะเหรอ เหตุเพราะว่าผมอยากสร้างขอบเขตชีวิตของพวกคนเหล่านั้นเท่านี้เอง ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย และความฝันผมก็เป็นจริง ผมได้เป็นผู้จัดการแล้ว แต่ผมยังหาบริษัทสักแห่งไม่ได้เลย
“ ฮยอนซึงอา นายมาททำงานที่บริษัทพ่อฉันเถอะนะ ยังไงนายก็อยากเป็นผู้จัดการไม่ใช่เหรอ “ โยซอบพูดเชิญชวนกับฮยอนซึงขณะที่กำลังเดินเล่นกันในห้างสรรพสินค้า
“ เอ่อ... “ ฮยอนซึงลังเล ถึงเขายังคงหางานไม่ได้แต่เขาก็ไม่อยากพึ่งพาคนอื่นหรอก ยิ่งเป็นโยซอบเขายิ่งเกรงใจ โยซอบช่วยฮยอนซึงหลายอย่างมาก มากจนไม่สามารถตอบแทนได้เลย
“ นะนะ ฮยอนซึง พ่อฉันก็อยากให้นายไปทำงานด้วยนะ เห็นว่านายว่างงาน ยังไม่มีงานทำ เรื่องนี้พ่อกับฉันก็ปรึกษากันแล้ว พ่อตกลงว่าจะให้นายมาทำงานที่บริษัทนะ ฮยอนซึงอา...” โยซอบพูดรวดเดียวจบแล้งทำหน้าตาออดอ้อนฮยอนซึงให้ใจอ่อนลงแล้วยอมตกลงรับคำขอของเขา
เขาอยากให้ฮยอนซึงมาทำงานกับเขา เขาห่วงฮยอนซึง ไม่อยากให้ฮยอนซึงอยู่อย่างเดียวดาย ใครกันอยากให้เพื่อนอยู่คนเดียว คนมันห่วงเพื่อนนี่นา
“ นายพูดเป็นชุดใส่ฉันแบบนี้ กะจะไม่ให้ฉันแย้งสักหน่อยเลยเหรอ”ฮยอนซึงบอกเสียงติดตลก
“ แฮ่ๆ ฉันกลัวนายปฏิเสธ ^_^ “ โยซอบพูดปนหัวเราะพร้อมกับเกาหัว ฮยอนซึงยิ้มแล้วเอื้อมมือไปลูบกลุ่มไรผมสีน้ำตาลนั่น
“ เฮ้อ ก็ได้ ฉันตกลง “ ฮยอนซึงตอบตกลง ร่างบางใบหน้าเด็กหลมเล็กกระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่แล้วลากคอเพื่อนไปซื้อขนม
“ เย่ ในที่สุดนายก็ตกลง งั้นไปกินขนมกัน”โยซอบเริงร่าดีใจบอกเพื่อน
“ โยซอบ ขนมเต็มมือพวกเราแล้วนะ” ฮยอนซึงชูถุงพลาสติกที่บรรจุพวกขนมของกินมากมายที่เพื่อนตัวแสบเลือกซื้อมาโดยไม่ถามไถ่ฮยอนซึง
“ ก็กินที่ร้านไง “
“ แต่ว่า..” ไม่ทันที่ฮยอนซึงจะพูดจบ โยซอบก็ลากฮยอนซึงแล้ว เขารู้ว่าฮยอนซึงเป็นคนอย่างไร เขาอยากให้ฮยอนซึงเที่ยวโดยไม่ต้องเกรงใจเขา ถึงแม้ขนมจะเต็มมือก็ตาม เขาไม่สน เงินมีไว้ผลาญอย่างเดียว เงินมันเยอะเกินความจะเป็น...
ร้าน Sweet Coffee
เมื่อสองหนุ่มเข้ามาในร้าน ชายเรือนผมสีน้ำตาลรีบเดินไปสั่งก่อนเลยส่วนชายผมสีโอรสเดินไปจองโต๊ะให้ก่อน พวกเขารู้หน้าที่ของตนเองเพราะเป็นร้านที่เคยมากินหลายครั้งแล้วโดยเพื่อนตัวแสบชอบชวนเขามากินหลายครั้ง
“ พี่ฮะ เอาอันนี้ อันนี้ และก็อันนี้ “ โยซอบจิ้มมือลงบนรูปเมนูสั่งพนักงานแคชเชียร์ เธอตกใจ ผู้ชายอะไรกันตัวก็เล็กนิดเดียว แต่กินจุจริงๆ
“ เอ่อ คะ รอสักครู่นะคะ “ พนักงานบอกแล้วเดินเข้าข้างใน โยซอบพยักหน้าแล้วเดินหาหาฮยอนซึง เขามองหาหัวสีโอรสที่เป็นจุดเด่นของฮยอนซึง เขาหาอย่างรีบร้อน คนก็เยอะ ท่ามกลางร้านที่เต็มไปด้วยลูกค้าที่เยอะเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นโอกาสดีที่วัยทำงานจะมาเที่ยว มาพัก ทำให้โยซอบเดินไปชนใครบางคนเข้า
“ ปัก “
ร่างของโยซอบเซไปข้างหนึ่งแล้วตั้งหลักมองร่างที่เขาชน ชายร่างสูงเรือนผมสีดำโครงหน้ายาวเหลี่ยมสวมแว่นสีดำปกปิดหน้าตาใส่หมวกสีดำ ชายร่างสูงโค้งคำนับขอโทษโยซอบ
“ เอ่อ ขอโทษครับ “ แล้วเขาก็เดินจากไป
“ คนอะไรแต่งตัวพิลึกชะมัด “ โยซอบเอ่ย ก่อนจะมองหาฮยอนซึงอีกครั้ง ไม่นานเขาก็เจอฮยอนซึง ฮยอนซึงนั่งเล่นอ่านหนังสือรอเขา เขารีบทักแล้วเข้าไปนั่ง
“ ฮยอนซึงอา ฉันหานายตั้งนานเลยนะ มานั่งอยู่ตรงนี้นี่เอง “
“ ฮ่าๆ โทษทีที่เลือกที่ลึกไปหน่อย พอดีอยากอ่านหนังสือเงียบๆน่ะ “ ฮยอนซึงบอกแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือขนาดกลางต่อ โยซอบเห็นจึงเกิดความสงสัยจึงชะหน้าเข้าไปดู
“ เอ่อ นายอ่านภาษาอังกฤษออกเหรอ “ โยซอบถาม เนื้อหาในหนังสือที่ฮยอนซึงอ่านบทความทั้งหมดล้วนแต่เป็นภาษาอังกฤษ [ ตัวจริงฮยอนซึงอ่านไม่ออกหรอกค่ะ ]
“ อืม ฉันชอบน่ะ เบื่อภาษาเกาหลี ชอบอะไรแปลกใหม่ “ ฮยอนซึงเอ่ยก่อนจะก้มหน้าอ่านต่อ
“ นายนี่นะ ขยันจัง ไม่เหมือนฉันเลย ภาษาอังกฤษยากจะตาย แปลก็ยาก...ตู้ด ตู้ด “ จู่ๆเสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์ของโยซอบก็ดังขึ้น โยซอบกดมารับทันที
“ มีอะไรเหรอครับพ่อ “
“ (โยซอบ มาหาพ่อด่วยที่บริษัท)“ เสียงในสายพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูรีบร้อน
“ เอ่อ ครับ ครับ “ โยซอบรีบตอบทันทีแล้วกดวางสาย เขาลุกจากเก้าอี้
“ มีอะไรเหรอโยซอบ “ ฮยอนซึงถามเมื่อเห็นเพื่อนของเขามีทีท่าที่ดูรุกรี้รุกรนอย่างมากหลังจากวางสายไป
“ พ่อฉันเรียกน่ะ ฉันไปก่อนนะ ส่วนของฉันยกให้นายหมด รบกวนด้วยนะ “ แล้วโยซอบก็รีบเดินออกไปปล่อยให้ฮยอนซึงนั่งอึนอยู่คนเดียว
นิ้วเรียวหยิบสมุดในกระเป๋าแล้วเปิดไปยังหน้าหนึ่ง หน้าที่มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในรูปถ่ายในท่ากอดกับฮยอนซึง มันช่างเป็นรูปที่อบอุ่น มันสวยมาก แต่ว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่อาจจะเอาผู้ชายคนนี้ในรูปถ่ายกลับมาได้ แม้เขาจะเจ็บมากแค่ไหนแต่เขาก็ยังรักผู้ชายคนนี้อยู่ดี ถึงแม้ว่าร่างสูงในรูปถ่ายจะเคยทำให้เขาทรมานใจแค่ไหนก็ตาม
“ จุนฮยอง...” ปากบางสีชมพูเอ่ยก่อนจะตามด้วยสายน้ำอุ่นๆที่ค่อยๆหลั่งไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลนั้น
เช้าวันสดใสท้องฟ้าแจ่มใส ใบไม้พลิ้วไหวตามทิศทางและแรงของลมเย็นๆในเมื่อแห่งหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากมายต่างสัญจรไปมาและรถยนต์นานาชนิดต่างขับเคลื่อนบนถนน ชายร่างบางเรือนผมสีโอรสพร้อมกับกระเป๋าใบหนึ่งที่ในนั้นมีเอกสารสำหรับสมัครงาน เขากำลังเดินทางไปยังบริษัทแห่งหนึ่งโดยนั่งรถประจำทาง
บริษัท Cube
ในที่สุดฮยอนซึงก็มาถึง เขาถอนหายใจหนึ่งครั้งเพราะตื่นเต้นก่อนก้าวเท้าเดินเข้าไปยังบริษัท เมื่อเขาเข้าไป บริษัทนี้มันใหญ่จริงๆเขาไม่เคยเข้ามาก่อนหน้านี้เลย ตอนนี้โยซอบอยู่ไหนนะ เป็นคนชวนเขาเข้ามาแท้ๆ เขาล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วกดเบอร์ของโยซอบอย่างชำนาญ
“ (ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด) “
“ เฮ้อ โยซอบรัยซักทีสิ “
“ (ตู้ด ตู้ด...ฮัลโหล) “เสียงในสายเอ่ย
“ โยซอบฉันเข้ามาในบริษัทแล้ว นายอยู่ไหน “ ฮยอนซึงถาม
“ เอ่อ ฉันอยู่ข้างบนน่ะ เดี๋ยวฉันลงไปรับนะ ตู้ด “ แล้วโยซอบก็ตัดสายทิ้ง ฮยอนซึงบ่นเล็กน้อยก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลง แล้วยืนรอโยซอบบี้เพื่อนรักต่อไป...
ชายร่างสูงในชุดสุดเท่ห์เลื้อสีดำสลับขาวลายทางแนวนอนเสื้อนอกสีสีดำประกอบกับยีนส์สีเทาและรองเท้าผ้าใบสีขาวดำ [อาจจะไม่เท่ห์ก็ได้]เดินมาพร้อมกับหญิงร่างบางในชุดเดรสสีม่วงเดินควงแขนเหมือนคู่รักเข้ามาในบริษัท ทั้งคู่ต่างเป็นจุดสนใจของคนในบริษัท เหล่าแฟนคลับที่อยู่ด้านนอกต่างกรี๊ดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงพวกเธอดั่งเสียงนกหวีดได้เลย
“ กรี๊ดดด จุนฮยอง จุนฮยอง กรี๊ดดด “
ฝ่ายฮยอนซึงที่ยืนรอโยซอบอยู่นั่นเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดวีดแตกของเหล่าแฟนคลับถึงกลับสะดุ้ง
“ กรี๊ดดด จุนฮยอง...” เขาตกใจกับชื่อจุนฮยอง จุนฮยองคนรักเก่า แต่ว่าจุนฮยองในประเทศนี้มันมีหลายคนจะตายไป อย่าสนใจไปเลย เขาส่ายหัวไปมา ไล่ความคิดในหัวออกไป ชายหนุ่มคู่หนึ่งเดินเลี่ยงไปอีกทาง ฮยอนซึงสังเกตเห็นแฟนคลับจำนวนเยอะแยะมากมายผ่านประตูกระจกนั่น
“ คนอะไรจะเยอะขนาดนี้นะ “ เขาเอ่ย สงสัยคนที่ชื่อ “ จุนฮยองคงดังมากๆแน่เลย สุดยอดจริงๆ ส่วนใหญ่แฟนคลับจะเป็นผู้หญิง แล้วแฟนคลับดาราชายที่ไหนมีผู้ชายที่ไหนเล่า นับวันสมองผมเริ่มเพี้ยนขึ้นทุกทีแล้วนะ
ไม่นานโยซอบก็ลงมาเจอฮยอนซึงยืนรอหน้าตายไม่ตอบรับบุญ ฮยอนซึงรอเขานานมาก รอประมาณยี่สิบนาที กว่าโยซอบจะลงมาถึง ที่จริงโยซอบก็มีหลงทางบ้างถึงจะเข้ามาในบริษัทเป็นประจำ
“ ซึงอา ฉันมาแล้ว “ โยซอบโบกมือทักแล้วเดินเข้าไปหาฮยอนซึงที่ตอนนี้กำลังหน้าบูด
“ ย่าห์ นายมาช้าจังนะ ฉันรอนายนายมากเลยนะ “ ฮยอนซึงบ่น โยซอบเอื้อมมือไปตบบ่า
“ แย่จัง ซึงคนสวยอารมณ์เสียซะแล้ว “ โยซอบแอบแซวฮยอนซึงเล็กน้อย ฮยอนซึงตีแขนโยซอบอย่างแรง เขาไม่ชอบให้ใครมาชมหรือบอกว่าเขาสวย เมื่อได้ยินเขาจะตีที่เจ้าตัวเจ้าของคำพูดนั้นทันที ติดเป็นนิสัยแล้ว
“ แปะ นี่โยซอบบี้ นายอย่ามาเรียกชื่อฉันแล้วลงท้ายด้วยคำว่า “สวย “ ได้มั้ยเนี่ย “
“ ทีนายล่ะ เรียกฉันง่าโยซอบบี้อ้า ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ “ โยซอบแย้ง ทั้งคู่มองหน้ากัน สองสายตาต่างจ้องมองกัน ฮยอนซึงกับโยซอบหลุดขำออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“ ฮ่าๆๆ ก็จริง ฮึๆๆ “ ฮยอนซึงพูดไปขำไป
“ อืม ฮึๆๆ ซึงนายบ้าหรอ อย่าหัวเราะสิ “
“ ฮ่าๆๆ โฮ้ย เหนื่อย โยซอบไปกัน “ เมื่อฮยอนซึงหยุดขำจึงบอกโยซอบให้พาไปซักที โยซอบพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วเดินจูงมือฮยอนซึง ระหว่างทางโยซอบก็เล่าเรื่องต่างๆนานา เมาท์เรื่องนั่นเรื่องนี่ให้ฮยอนซึงได้ฟัง เขาพูดมากจนฮยอนซึงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงบทสนทนาของโยซอบได้เลย เพื่อนของเขาพูดมากจริงๆ
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องท่านประธานอย่างรวดเร็ว โยซอบดันประตูเข้าไปฮยอนซึงเดินตามโยซอบไปติดๆ ท่านประธานที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามา ถึงแม้จะไม่ใช่หลานแท้ๆแต่เขาก็รักและเอ็นดูฮยอนซึงเหมือนลูกในสายเลือด ชายวัยกลางคนลุกออกจากที่เดินไปต้อนรับฮยอนซึง
“ฮยอนซึงฉันรอเธอตั้งนาน “ ท่านประธานเอ่ยพร้อมทำท่าจะโผกอดฮยอนซึงแต่ภูกโยซอบกันเอาไว้
“ ไม่ต้องเลยพ่อ ทีผมมาหาพ่อ พ่อไม่เคยทำกับผมแบบนี้เลยนะ”ลูกชายแสนน่ารักพูดด้วยความน้อยใจ พองลมในกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างทำให้แก้มทั้งสองข้างป่องขึ้นมาเหมือนอมลูกมะนาวไว้ในปาก
“ โยซอบเอ๊ย แกไปเอานิสัยแม่แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยห้ะ “ ชายวัยกลางคนเอ่ยถาม
“ พ่ออ่ะ “ เด็กชายน้อยยิ่งงอนเข้าไปใหญ่ โยซอบกอดอกหายใจแรงใส่ก่อนจะหันหลังให้กับพ่อตนเอง ให้รู้ซะบ้างเวลาลูกตัวเองงอนมันเป็นยังไง
“ แกนี่ก็ทำตัวเป็นเด็ก ดูฮยอนซึงเป็นตัวอย่างบ้าง เป็นเด็กดี ไม่งอคนอื่น” คำพูดของประธานยิ่งทำให้โยซอบโกรธเข้าไปใหญ่ ความโกรธพุ่งปรี้ดสูง โยซอบอดไม่ได้ที่จะระเบิดออกมากลางห้องต่อหน้าเพื่อนของตนเองที่ยังคงบริสุทธิ์
“ พ่อไม่เข้าใจผมเลย พ่อเคยสนใจผมบ้างมั้ยเนี่ย สนใจแต่งาน ผมงอนพ่อพ่อก็มาง้อผมบ้างดิ ไม่ใช่เอาแต่เมินผม พ่อไม่ต้องมายุ่งกับผมเลยนะ ผมต้องมาขอร้องผมอะไรด้วย ผมไปเล่า “ โยซอบสบถรัวๆใส่ผู้เป็นพ่อหนึ่งชุดก่อนที่จะเดินออกจากห้อง
ปึง ปึง ปึง...ปัง เสียงฝีเท้าของโยซอบดังมากพื้นแทบจะพังตามด้วยเสียงปิดประตูที่ดังมาก ฮยอนซึงสะดุ้งตกใจกับเสียงปึงปังฝีเท้าและเสียงปิดประตูของโยซอบ
ย่าห์ เพื่อนผมวีนแตกซะแล้ว ฮยอนซึงคิด
“ เฮ้อ โยซอบอารมณ์เสียไปแล้วนะครับคุณลุง “ ฮยอนซึงบอกกับชายวัยกลางคน แต่หาไม่ว่าเขาจะสนใจ เขารู้นิสัยยลูกชายตนเองเป็นอย่างดี ลูกของเขามีนิสัยโกรธง่ายหายเร็ว วันพรุ่งนี้เดี๋ยวก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ชายวัยกลางคนเดินไปนั่งที่ก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่อง สีหนี้ท่ดูจริงจังทำให้ดูขรึมมากกว่าเดิม
“ งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเถอะนะ ฉันต้องการให้เธอเป็นผู้จัดการของบริษัทฉันและฉันจะให้เธอไปเป็นผู้จัดการของนักร้องคนหนึ่งนะฮยอนซึง “ ท่านประธานบอกกลับฮยอนซึง ฮยอนซึงตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก ฮยอนซึงพยักหน้า
“ ครับ ผมจะพยายามครับ “
“ ขอดูเอกสารสมัครงานหน่อย” ท่านประธานเอ่ย ฮยอนซึงหยิบพวกเอกสารนั้นออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับประธาน เขารับมันมาแล้วกวาดสายตาลงไล่อ่านอย่างละเอียด เขากลับต้องตกใจเมื่อพบว่าผลการเรียนของฮยอนซึงดีมาก จนไม่น่าเชื่อเลย
“ โห เธอเรียนเก่งมากเลย ทุกวิชาได้เกรดเอบวกหมดเลยนะฮยอนซึง เก่งกว่าลูกชายฉันอีก [ไม่แน่ใจว่าเกาหลีเขาเรียกแทนอักษรอังกฤษแทนตัวเลขรึเปล่านะ] “ ท่านประธานเอ่ยชมฮยอนซึงอีกครั้งแต่แอบเปรียบเทียบกับลูกชายตนเอง
“ เอ่อ ครับ ที่จริงโยซอบก็เรียนเก่งเหมือนกันนะครับ “ ฮยอนซึงบอก เห็นคุณลุงเอาแต่ชมตนเองเลยอยากให้ชมลูกตนเองบ้าง ท่านประธานพยักหน้า
“ อืม ฉันก็ควรจะชมลูกตัวเองบ้าง เห็นทีต้องไปง้อซะแล้ว ฮ่าๆ...ฮยอนซึงเดี๋ยวซักพักเราจะมีประชุม เธอช่วยโทรบอกไอโยซอบด้วยนะ “ ท่านประธานบอก
“ แล้วประชุมกี่โมงครับ “
“ เก้าโมง ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่ ฝากด้วยนะ ฮยอนซึง “
“ ครับ ขอบคุณมากครับ “ ฮยอนซึงโค้งคำนับแล้วเดินออกจากห้องไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโยซอบ
“ (ตู้ด...ฮัลโหล )“
“ อ่า โยซอบเดี๋ยวจะมีประชุมตอนเก้าโมงนะ นี่นายอยู่ไหน “
“ (อยู่ข้างนอก เดี๋ยวฉันเข้าไปนะฮยอนซึง)“
“ อืม ว่าแต่ห้องประชุมอยู่ไหนน่ะ “
“( อืม นายเดินตามที่ฉันบอกนะ...)”โยซอบบอกในสาย ฮยอนซึงเดินตามที่โยซอบบอก
ฮยอนซึงเดินมาถึงหน้าห้องใดห้องหนึ่ง มีประตูไม้อัดบานใหญ่ เขาเลื่อนเปิดประตูออก เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ แลมองซ้ายขวาว่ามีใครอยู่มั้ย ปรากฏว่ามี ร่างของเด็กผู้หญิงผมตัดสั้นผมหยิกสีบรอนด์คนหนึ่งกำลังนั่งล่นโทรศัพท์อย่างเพลิดเพลินใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองมาทางฮยอนซึง
“ เอ่อ สวัสดีครับ...” ฮยอนซึงโค้งตัวลงอีกครั้ง
“ เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอ“ ผู้หยิงเสียงใสเอ่ยถาม
“ จาง ฮยอนซึง ครับ“
“ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ“ เธอเดินมาทางฮยอนซึงแล้วจับมือทักทายสไตล์ชาวฝรั่ง
“ ฉันชื่อ คิม ฮยอนอา ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เอ่อ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ ?“ ฮยอนอาถามเขาอีกครั้ง
“ ผู้จัดการครับ“
“ อ๋อค่ะ...คุณฮยอนซึงไปนั่งกันเถอะค่ะ“ ฮยอนอาจับมือจูงฮยอนซึงไปนั่งทันที
เมื่อฮยอนอานั่งฮยอนซึงเลือกที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอแต่ฮยอนอาไม่ยอม เธอลุกขึ้นไปจูงฮยอนซึงเข้ามานั่งข้างๆเธอ เหตุเพราะว่าเธอเหงา ข้างๆมันโหวงเหวง เธอเกลียดบรรยากาศแบบนี้ที่สุดเลย
“อ่ะ” ฮยอนซึงอุทานเล็กน้อยเมื่อถูกจูงโดยไม่ทันตั้งตัว ผู้หญิงคนนี้มือไวจริงๆ
“ นั่งลงข้างๆฉันเถอะค่ะ ฉันเหงาน่ะ“ ฮยอนอาพูดขอร้องพร้อมกับทำหน้าอ้อนวอนฮยอนซึง ฮยอนซึงเมื่อเห็นใบหน้าอ้อนวอนแสนน่ารักยอมนั่งลงเพราะไม่อยากขัดใจเธอ ฮยอนซึงยิ้มหวานให้กับฮยอนอา ฮยอนอาถึงกับใจละลายรอยยิ้มหวานและดวงตาเรียวเฉียบขาดของฮยอนซึงที่ส่งมาให้
“ ว้าว ดวงตาและรอยยิ้มของคุณงดงามากเลยนะ อย่างกับผู้หญิงเลย“ เธอเอ่ยชมฮยอนซึง ผู้หญิงตรงหน้าฮยอนซึงช่างสดใสร่าเริ่งและบริสุทธิ์เหมือนกับตัวเขาในอดีตที่ยังร่าเริงสดใสเหมือนเธอ ถึงแม้จะถูกชมออกไปว่าสวย งดงาม แต่ข้างในมันต่างกันสิ้นเชิง ข้างในมันปนเปื้อนเต็มไปด้วยความหม่นหมองไปด้วยผู้ชายคนนั้นหมดแล้ว ผู้ชายที่หักหลัง ทรยศ ทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้กับเขาไว้
“ เอ่อ คุณฮยอนซึงค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ“ ฮยอนอาเรียกฮยอนซึงเมื่อเห็นฮยอนซึงเหม่อลอย แสดงสีหน้าโศกเศร้า
“ ไม่เป็นนนไรครับ“
“ อ๋อค่ะ“
ไม่นานคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันเข้ามา มีทั้งนักร้องจากวงต่างๆของบริษัทนี้ นักแต่งเพลงและคนอื่นๆอีกมากมาย พูดได้ว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งใหญ่และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทุกคนจะได้เข้ามา หลังจากนั้นทุกคนต้องทำงานกันอย่างหนักมากเลยทีเดียว ถึงแม้จำนวนคนจะมากพอสมควรดูเหมือนขาดใครบางคนไปที่สำคัญกับฮยอนซึงเป็นอย่างมาก...โยซอบบี้เพื่อนรักยังไงล่ะ
ผู้ชายตัวเล็กลักษณะใบหน้ากลมกำลังวิ่งเข้าบริษัทของคุณพ่ออย่างรวดเร็ว เขาดันนั่งจิบกาแฟเพลินซะได้ เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด เสียงหอบหายใจดังฮึดฮัด
“ วืด“ ประตูเปิดอัตโนมัติเปิดออกเมื่อเซ็นเซอร์แสกนร่างของมนุษย์ ผู้ชายตัวเล็กรีบวิ่งไปทางขึ้นบันไดทันที แต่การวิ่งของเขามันไม่ง่ายดาย เวลานี้พนักงานต่างพากันเข้ามาทำงาน ไหล่เล็กชนกับไหล่แกร่ง
ปัก ตุบ...ร่างของผู้ชายตัวเล็กล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างแรง ชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำรีบหันมามองทันทีเมื่อเสียงเล็กอุทานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ เป็นอะไรรึเปล่าครับ“ เขาถาม คนตัวเล็กเงยหน้ามองเจ้าของเสียงทุ้มที่ทักถามมา ใบหน้าคม ดวงตาสองชั้น จมูกโด่ง มีโหนกแก้มนิดๆ ช่างหล่ออะไรอย่างนี้นะ โยซอบคิดในใจ
มือใหญ่ของชายตรงหน้ายื่นมาหาโยซอบ โยซอบรับมันมาแล้วพยุงตัวขึ้น
“ ขอบคุณครับ ไม่เป็นไร ” โยซอบก้มหัวเล็กน้อยแล้วกล่าวขอบคุณจากนั้นจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว ชายร่างสูงอยาจะถามชายตัวเล็กแต่เขาไวอย่างกับจับจรวดปล่อยกระสวย ร่างสูงมุ่งตรงไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นอื่น....
“ ครืด “ โยซอบเปิดประตูออกมา คนในห้องต่างมองโยซอบเป็นตาเดียวกันบางคนก็มองเขาแบบไม่พอใจ บางคนมองแล้วยิ้มให้ โยซอบเดินเข้าไปอย่างช้าๆแล้วกล่าวทักทาย ทุกคนตอบรับ ฮยอนซึงที่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือ เมื่อได้ยินเขาเลิกสนใจแล้วเงยหน้ามองหาต้นเสียง เขาดีใจที่โยซอบเพื่อนรักมาซักที โยซอบเมื่อเห็นฮยอนซึงจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วนั่งลงตรงที่ที่ว่างอยู่ข้างๆฮยอนซึงโดยมีฮยอนอานั่งข้างๆฮยอนซึงแต่โยซอบไม่เห็น โยซอบทักทายฮยอนซึงเล็กน้อย
“ อันยอง ซึง “
“ อันยอง ทำไมนายมาช้านักล่ะ “ ฮยอนซึงถามกลับ
“ พอดีฉันนั่งจิบกาแฟเพลินน่ะ ฮ่าๆ “ โยซอบตอบและหัวเราะกลบเกลื่อน ฮยอนซึงส่ายหน้ากับความลืมตัวของโยซอบ ฮยอนอาเมื่อเห็นทั้งสองคุยกันดีนักจึงหาเรื่องคุยไปแจมด้วย
“ อะแฮ่ม ฉันก็อยู่ตรงนี้ด้วยนะคะ พี่โยซอบ...” เธอส่งเสียง ทั้งฮยอนซึงและโยซอบหันไปพร้อมกัน
“ อ้าว โทษที ฉันไม่เห็น เธอตัวเล็กไป “ โยซอบพูดกวนประสาทฮยอนอาให้โมโห
“ เชอะ พูดไม่ดูตัวเองเลยนะ ตัวเองก็ตัวเล็กเหมือนกันนี่ “
“ ฉันยอมเธอล่ะ ยังเถียงเก่งไม่เปลี่ยน “
“ พี่ก็เหมือนกัน เรียบร้อยให้เหมือนกับคุณ เอ้ย ไม่สิ พี่ฮยอนซึงซะบ้าง “เธอพูดตะกุกตะกักเมื่อต้องเปลี่ยนจากคุณฮยอนซึงเป็นพี่ฮยอนซึงแทน ฮยอนซึงยิ้มให้
“ อย่าเป็นแบบฉันเลย เป็นแบบเดิมดีแล้วล่ะ “ ฮยอนซึงบอกฮยอนอา เขาพยายามฝืนยิ้มเพื่อปกปิดปมในใจ โยซอบรู้ว่าที่ฮยอนซึงพูดหมายถึงอะไร โยซอบเลยอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศนี้ซะ
“ นี่ ตอนก่อนขึ้นบันไดฉันชนคนอื่นมาด้วย ไม่รู้ไหล่หักรึเปล่าเนี่ย “ โยซอบทำเสียงโอดโอยแล้วจับไหล่เพื่อเรียกความสนใจ อย่างที่คาดไว้ ฮยอนอาเปลี่ยนมาถามโยซอบอย่างว่าง่าย
“ ทำไมพี่บ่นเหมือนคนแก่จัง “ เธอเอ่ย โยซอบถึงกับหน้าเหวอ
“ ย่าห์ ไม่คิดจะห่วงฉันรึไงเนี่ย ไอ้เด็กหัวเห็ดทองนี่ “ โยซอบสบถรัวออกมาอย่างเป็นทางการ ทั้งฮยอนอาและฮยอนซึงระเบิดหัวเราะออกมารวมทั้งคนอื่นๆ เสียงของชายหญิงคู่นี้ดังกึกก้องแทนเสียงคนอื่นๆที่กำลังนั่งคุยกันแทน
ประธานยังเดินเข้ามาในห้องมุ่งตรงไปที่นั่งประจำของตนเอง ทุกคนกล่าวสวัสดีพร้อมกัน หลังจากนั้นประธานยังก็เริ่มอธิบายเรื่องที่ประชุมในวันนี้
“ เรามาเริ่มกันดีกว่านะ เริ่มจาก โยซอบ “
“ ครับ “ โยซอบขานรับ ทำหน้างงงวย
“ เธอจะมีคนมาแต่งเพลงให้นะ ต่อไปนี้ตั้งใจทำงานด้วยนะ “ โยซอบพยักหน้ารับ
“ ฮยอนซึง ต่อไปนี้เธอต้องไปดูแลจุนฮยองนะ วันนี้นายเตรียมตัวได้เลย สักพักนายจะเจอเขาที่ห้องอัด ” ประธานอธิบายให้ฮยอนซึงรับทราบ ฮยอนซึงพยักหน้ารับ
“ และฮยอนอา วันนี้เธอต้องมาอัดเพลงกับพวกพี่ๆเธอ รออยู่ที่ห้องอัดแล้ว “ ฮยอนอาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เธอจึงทักท้วงไป
“ แล้วทำไมฉันต้องมารอที่นี่ ทำไมพวกพี่ไม่มารอที่นี่กับฉันล่ะคะ“
“ ถ้าพวกเขามา ฉันรู้ดีนะ เธอจะเบี้ยวใช่มั้ยล่ะ “ ประธานเอ่ยบอก ฮยอนอาถึงกับนิ่ง พูดอะไรไม่ออก ที่ประธานพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด
หลังจากที่เลิกประชุม ฮยอนอาและโยซอบพาฮยอนซึงไปที่ห้องอัด ฮยอนซึงแอบกังวลเล็กน้อยกับคนที่ชื่อว่า จุนฮยอง ว่าจะเป็นคนรักเก่าของเขารึเปล่า เขาหวังว่าจะไม่ใช่หรอกนะ....
END
อ่า มาอีกตอนโทษทีที่มาช้านะคะ 555 ช่วงนี้ขี้เกียจติดคอม ติดฟิค ติดการ์ตูนวาย ติดคลิป MBLAQ เกมเมล็ดงา อะไรเยอะแยะไปหมดของไอดอลเกาหลี
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ