[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  74.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

13) แปลก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
 
[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!
Chapter 13
แปลก
 
 
 
“ขอบคุณจริงๆที่เธอยังรัก ไม่เคยเปลี่ยน ถึงฉันจะดีจะเลวขนาดไหน…..”เสียงร้องเพลงดังไปทั่วบริเวณรอบกองไฟที่เหล่านักศึกษากำลังสนุกกับกิจกรรมยามค่ำคืนก่อนที่พรุ่งนี้จะได้ลุยงานกันอย่างเต็มที่
 
“วู้ๆๆ เพราะมากเลย”เสียงปรบมือและคำชมดังไปทั่ว
 
“นี่ ฮยอนซึง นายมาร้องเพลงหน่อยสิ”ลีทึกเอ่ยขึ้นทุกคนต่างหันหน้าไปมองฮยอนซึงที่นั่งยิ้มแห้งๆอยู่
 
“ใช่ๆฮยอนซึง พวกเราอยากฟังเสียงนาย คิดถึงเสียงอันไพเราะนั่นจังเลย”เรียวอุคก็ช่วยเสริม แล้วทุกคนก็เริ่มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย จุนฮยองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจ้องมองฮยอนซึงอย่างสนใจ เพียงเพราะอยากจะเห็นด้านที่ไม่เคยเห็นจากฮยอนซึงบ้าง มันช่างแปลกเสียจริงๆ
 
“นะนะนะ ฮยอนซึง ร้องเพลงๆๆ”แล้วทุกคนก็เริ่มส่งเสียงเรียกร้องกันเป็นการใหญ่ ฮยอนซึงมองหน้าทุกคนอย่างลำบากใจ แต่พอหันไปเจอกับสายตาของจุนฮยองที่นั่งมองเขาอยู่ก็เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
 
“ร้องสิฮยอนซึง”เพื่อนคนหนึ่งดันตัวฮยอนซึงให้ลุกขึ้นไปยืนอยู่กลางวงล้อมเพื่อนๆกว่าห้าสิบคน ฮยอนซึงยิ้มแล้วก็โค้งหัวอย่างอายๆให้กับทุกคน
 
“เพลงเดิมนะ”มือกีตาร์ดงแฮเอ่ยขึ้น ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงขึ้นมา จุนฮยองตอนนี้นั่งอยู่ไม่เป็นสุขเพราะหัวใจกำลังรู้สึกเต้นแปลกๆที่ได้เห็นท่าทางอายๆของฮยอนซึงอย่างนั้น
 
กี่เรื่องราวที่ใครพูดกัน มันไม่เหมือนที่ฉันได้ยิน….เธอเป็นใคร เป็นแบบไหนไม่รู้เลย…
 
เพียงแค่ฮยอนซึงอ้าปากร้องเพลงออกมา ทุกคนก็ตกอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์เพลิดเพลินไปกับเสียงร้องของฮยอนซึง ไม่เว้นแม้แต่จุนฮยองคนที่ไม่ชอบฟังเพลงเท่าไหร่นัก
 
ราวกับเธอช่างดีมากมาย แต่ก็กลายว่าไม่ใช่เลย…แปลกใช่ไหม คนที่เราเคยไว้ใจ…สิ่งที่ใครเห็นกับสิ่งที่เธอเป็น ตกลงว่าเธอจะเอายังไงกับฉัน ไม่รู้เธอมาแบบไหน…เธอจะดีหรือเธอจะร้าย ก็ฉันยังไม่เข้าใจ ว่าใจที่จริงของเธอต้องการสิ่งไหน…
 
ฮยอนซึงเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเพลง ทำให้เพลงดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น เขายิ้มและสบตากับทุกคนพร้อมกับโยกตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างที่เคยเป็น การกระทำของเขาทำให้จุนฮยองที่นั่งมองอยู่ถึงกลับอดอมยิ้มตามไม่ได้
 
บอกฉันสักทีได้ไหม เธอจะดีหรือเธอจะร้าย…อยากรู้ถึงความจริงข้างใน ไม่อยากเสียใจเสียน้ำตา…
 
ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เขาบอกว่ามักจะผ่านไปเร็ว มันคงจะจริงอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ฮยอนซึงนั่งมองแม่น้ำที่นิ่งสงบในยามค่ำคืน เขายิ้มออกมาอย่างรู้สึกมีความสุข เหมือนตัวเองกำลังจะกลับไปเป็นฮยอนซึงคนเดิม คนที่ทุกคนต่างพากันชื่นชมในความร่าเริงและสดใจของเขา
 
แกรก
 
เสียงเหยียบกิ่งไม้ทำให้ฮยอนซึงสะดุ้ง เขาหันไปมองก็พบว่าเป็นหนึ่งในสามคนที่เขาเกลียดอย่างไม่อยากให้อภัย ฮยอนซึงหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
 
“ขอโทษนะที่เข้ามารบกวนเวลาของนาย”ฮยอนซึงไม่สนใจคนที่กำลังพูด
 
“ฮยอนซึง”
 
“บอกแล้วว่าอย่ามาเรียกชื่อฉัน”ฮยอนซึงพูดเสียงเรียบ ดูจุนที่ยืนอยู่ข้างหลังถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
 
“สร้อยนั่น ของนายเหรอ”ดูจุนตัดสินใจถามออกไป ฮยอนซึงหันไปมองหน้าดูจุนอย่างไม่เข้าใจ
 
“แกถามทำไม”
 
“ฉันอยากรู้ ช่วยตอบหน่อยได้ไหม”
 
“หึ ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบคำถามคนชั่วอย่างแก”ดูจุนมองแผ่นหลังของฮยอนซึงอย่างรู้สึกผิด
 
“นายคือเด็กคนนั้นใช่ไหม”ฮยอนซึงหันไปมองดูจุนอีกครั้ง
 
“แกพูดอะไร”
 
“เด็กที่ช่วยชีวิตฉันไว้เมื่อสิบปีที่แล้วน่ะ นายใช่ไหม”ฮยอนซึงลุกขึ้นแล้วมองหน้าดูจุน
 
“พูดบ้าอะไรของแก ฉันไม่เคยรู้จักแกเลยด้วยซ้ำ เพ้อเจ้ออะไรไม่ทราบ”
 
“สร้อยที่นายใส่ ฉันจำมันได้ ตอนที่ฉันจมน้ำวันนั้นเมื่อสิบปีที่แล้ว ฉันก็เห็นเด็กคนหนึ่งใส่สร้อยเส้นนี้อยู่”ฮยอนซึงยกมือขึ้นไปสัมผัสสร้อยคอตัวเองก่อนจะก้มลงมอง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจที่ดูจุนพูด
 
“ดูจุน ฉันชื่อดูจุน”ฮยอนซึงเริ่มที่จะเอะใจกับดูจุนบ้างเมื่อได้ยินชื่อ เขาพยายามนึกว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน
 
“นายนึกออกหรือยัง เมื่อสืบปีที่แล้วที่แม่น้ำข้างโรงเรียน”ฮยอนซึงยิ่งขมวดคิ้วอย่างสงสัยเข้าไปใหญ่ เขามองใบหน้าดูจุนอย่างเพ่งพินิจ แล้วภาพในอดีตก็โผล่เข้ามาในสมองของฮยอนซึง แต่เขากลับหัวเราะออกมาเบาๆ
 
“ฉันเนี่ยนะจะช่วยแก น้ำฉันยังว่ายไม่เป็นเลย จะช่วยแกได้ยังไง”คำพูดของฮยอนซึงเล่นเอาดูจุนถึงกลับมึนงง
 
“ก็ฉันลืมตาขึ้นมาแล้วเจอกับนาย”
 
“ฉันจะบอกอะไรให้นะว่า ฉันไม่ได้ช่วยแกแน่นอนล้านเปอร์เซ็น”ฮยอนซึงพูดเสียงหนักแน่นก่อนจะเดินออกไป ดูจุนได้แต่มองร่างของฮยอนซึงที่เดินจากไป
 
“ไม่ใช่นาย แล้วทำไมนายถึงไปอยู่ตรงนั้น แล้วใครกันที่ช่วยฉัน แปลกจัง”
 
“เฮ้อ”ฮยอนซึงเดินขยี้ตามาจนถึงเต้นท์ของตัวเอง เขาเหลือบมองเต้นท์ของจุนฮยองเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่ามีคนนอนหลับอยู่ ฮยอนซึงคลานเข้าเต้นท์ตัวเองก่อนจะหยิบหมอนมาวางแล้วก็ล้มตัวลงนอน
 
พรึ่บ!!!
 
แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ถูกกอดจากด้านหลัง
 
“ผัวรอเมียตั้งนานแหนะ จุ๊บ”จุนฮยองพูดพร้อมกับจูบท้ายทอยฮยอนซึงเบาๆ เขาสะดุ้งและพยายามที่จะแกะมือออก
 
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่ปล่อยฉันแหกปากร้องจริงด้วยๆ”ฮยอนซึงพูดเสียงสั่น ถึงแม้จะทำปากกล้าแค่ไหนเขาก็ยังคงรู้สึกกลัวจุนฮยองอยู่ดี
 
“ก็เอาสิ พวกนั้นจะได้มาเห็นนายกับฉันกำลัง….กันอยู่”
 
หมับ!!!
 
“เฮือก!!”ฮยอนซึงสะดุ้งเมื่อถูกมือของจุนฮยองสัมผัสที่จุดอ่อนไหวของตัวเอง ตอนนี้ตัวของฮยอนซึงเริ่มสั่นด้วยความกลัว จุนฮยองแสยะยิ้มออกมาก่อนจะจูบฮยอนซึงที่ซอกคอจากด้านหลัง ฮยอนซึงได้แต่นอนตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่สิ เขาไม่กล้าเสียมากกว่า
 
“ตัวนายหอมอีกแล้ว”จุนฮยองสูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของฮยอนซึงไปทั่ว เขากอดฮยอนซึงแน่นขึ้น นั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกลัวของฮยอนซึง จุนฮยองหลับตาลงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา
 
“นอนนิ่งๆถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
 
“เอามือออกไป”
 
“ไม่ได้ยินเหรอ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็นอนนิ่งๆอยู่แบบนี้แหละ”ฮยอนซึงไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่นอนนิ่งตามที่จุนฮยองบอก  จุนฮยองยิ้มออกมาบางๆก่อนจะกระชับกอดแน่นขึ้นอีก
 
ให้ตายเถอะ ทำไมอารมณ์ไม่หายไปซะที
 
จุนฮยองพยายามข่มตาหลับอย่างข่มใจ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของ ฮยอนซึงนั้นมีผลกับความรู้สึกของเขามากอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่ได้เห็น เพียงแค่ได้มองก็ทำให้เขารู้สึกดี ฮยอนซึงเหล่ตามองจุนฮยองเล็กน้อย
 
“หันหน้ามา”ความอดทนของจุนฮยองเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ
 
“ไม่”
 
“ฉันบอกให้หันหน้ามา ไม่ได้ยินหรือไง”
 
“ได้ยิน แต่ไม่”
 
พรึ่บ!!!
 
จุนฮยองออกแรงพลิกตัวของฮยอนซึงให้หันหน้ามาเผชิญกับเขา ฮยอนซึงจ้องตาจุนฮยองอย่างไม่กระพริบ จุนฮยองดึงฮยอนซึงเข้ามากอดใกล้ตัวเองมากขึ้น ก่อนจะยกขาก่ายตัวของฮยอนซึง
 
“เอาออกนะ อึดอัด”
 
“ไม่”จุนฮยองไม่พูดเปล่าแต่หลับตาลงพร้อมที่จะนอน ฮยอนซึงได้แต่จิ๊ปากอย่างไม่พอใจ
 
“ถ้าไม่อยากเป็นของฉันก็นอนเฉยๆ ถ้าหากฉันรู้สึกตัวหรือตื่นมาแล้วฉันกับนายไม่ได้อยู่ในท่านี้เตรียมตัวขึ้นสวรรค์ได้เลย”คำขู่ของจุนฮยองเล่นเอาฮยอนซึงถึงกลับขนลุกซู่ เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะข่มตาหลับอย่างไม่มีทางเลือก จุนฮยองค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วก็มองใบหน้าของฮยอนซึงที่กำลังหลับตาอยู่อย่างยิ้มๆ แล้วมืออีกข้างของเขาก็เอื้อมไปสัมผัสกับจมูกของฮยอนซึงเบาๆ การกระทำนั้นทำให้ฮยอนซึงที่หลับอยู่ดิ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา จุนฮยองยิ้มออกมาบางๆก่อนจะแตะที่ริมฝีปากของฮยอนซึง แล้วก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปจูบเบาๆอย่างอดใจไม่อยู่
 
“ให้ตายเถอะ!”จุนฮยองพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะก้มลงไปจูบอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้งอย่างห้ามใจไม่ได้ เขากำหมัดตัวเองแน่นเพื่อที่จะข่มใจไม่ให้ทำอะไรไปมากกว่านี้ จุนฮยองกระชับกอดฮยอนซึงให้แน่นยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเอาคางวางไว้บนหัวของฮยอนซึงแล้วก็ค่อยๆหลับตาลง
 
“ฝันดีนะ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ติ๊ด
 
เสียงข้อความในมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ดูจุนเพียงแค่หันไปมองแล้วก็ไม่สนใจอย่างเดิม เขายังคงนั่งอ่านหนังสือต่อไป
 
ติ๊ดๆๆ
 
แล้วข้อความก็ดังเข้าเรื่อยๆอย่างไม่หยุด แต่ดูจุนก็ยังไม่สนใจอย่างเดิม แต่สักพักเสียงข้อความนั้นก็หายไป แสดงว่าคนที่กำลังส่งมาคงจะเลิกส่งหรือไม่ก็ง่วงจนหลับไปแล้ว ดูจุนปิดหนังสือลงก่อนจะล้มตัวลงนอน
 
“ถ้าไม่ใช่นาย แล้วเป็นใครๆได้”
 
ติ๊ด
 
ดูจุนสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตกใจเมื่อเสียงข้อความเข้ามาอีกครั้ง เขาถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดู
 
“ข้อความจากโยซอบ ชิส”ดูจุนเปิดข้อความอ่านอย่างไม่ใส่ใจนัก ข้อความจากโยซอบก็จะเป็นคล้ายกันหมด ถ้าไม่บอกว่าคิดถึง ก็จะบอกว่านอนได้แล้วในเวลาอย่างนี้
 
“เอ๋”ดูจุนเอะใจกับข้อความอันหนึ่งที่ไม่เหมือนกับอันก่อนๆ เขาเปิดดูด้วยความสนใจ
 
….เก้าปีแล้วนะ อีกไม่นาน รุ่นพี่ลืมหรือยัง….
 
ดูจุนขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เขากำมือถือแน่น ข้อความของโยซอบกำลังแล่นอยู่ในสมองของเขา
 
สิบปี สิบปี เขายังจำมันได้ดี ไม่เคยลืม จำมันอย่างมีความสุข จนกระทั่งเกิดเรื่องนั้นขึ้น เรื่องที่ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่สุด
 
 
 
 
 
 
 “พี่ดูจุน”เสียงใสๆของเควิลดังเข้ามาพร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดออก     ดูจุนหันไปมองน้องชายที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว
 
“อยู่ ม.ปลายแล้วยังทำตัวแบบนี้อีกนะเควิล”
 
“ง่า ก็เควิลเป็นแบบนี้นี่นา พี่ดูจุนอา”เควิลเดินเข้ามากอดคอของดูจุนจากด้านหลัง
 
“มีอะไรอีกล่ะ อ้อนหนักเชียว”
 
“แนะ พี่รู้ทันเควิลอีกแล้วอ่า เซ็งเลย”เควิลเดินหน้ามุ่ยไปนั่งบนเตียงนอนของดูจุน
 
“ว่ามาสิ”
 
“บอกพี่เพียงคนเดียว แล้วก็ต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด โดยเฉพาะโยซอบ”ดูจุนกระพริบตาเล็กน้อย เขามองน้องชายตัวเองอย่างมึนงง
 
“อื้ม”เพียงเท่านั้นเควิลก็ยิ้มกว้างออกมา
 
“บอกมาสิว่าเรื่องอะไร”
 
“อิอิ เควิลแค่อยากให้พี่ช่วยน่ะ”
 
“ช่วย ช่วยอะไรเหรอ”
 
“ช่วยเรื่องโยซอบ”
 
“โยซอบ เรื่องอะไร โยไปทำเรื่องอะไร”
 
“เปล่า”เควิลเดินเข้ามานั่งลงตรงหน้าดูจุนก่อนจะจับมือของดูจุนเบาๆ
 
“ช่วยให้โยซอบรักเควิลไง”
 
กึก
 
คำพูดที่ได้ยินและรอยยิ้มของน้องชายทำให้ดูจุนถึงกลับลืมหายใจไปชั่วขณะ ดูจุนมองเควิลนิ่ง
 
“พี่ดูจุนๆ”
 
“ฮะ หืม”ดูจุนยิ้มบางๆให้กับน้องชาย ตอนนี้เขาแทบไม่อยากจะอยู่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ
 
“ตกลงพี่จะช่วยเควิลนะ นะนะนะนะ”เควิลออดอ้อนดูจุนอีกครั้ง เขามองหน้าน้องชายที่รักเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวเบาๆแล้วก็ยิ้มออกมา
 
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
 
“เย้ๆๆ รักพี่ดูจุนที่สุดในโลกเล้ยยย”เควิลลุกขึ้นแล้วก็กระโดดไปมาบนเตียงอย่างมีความสุข ดูจุนได้แต่มองภาพน้องชายอย่างเศร้าๆ เขากำหมัดตัวเองแน่น แน่นจนทำให้รู้สึกเจ็บมือได้
 
“ทำไมนั่งเหม่อล่ะ”ดูจุนกระพริบตามองโยซอบที่นั่งยิ้มน่ารักอยู่ข้างๆ ตอนนี้เขาเองก็ได้กลายเป็นหนุ่มแล้วเหมือนกับเควิล แต่ก็ยังคงภาพของเด็กหนุ่มเมื่อเจ็ดปีก่อนไว้อยู่
 
“เปล่านี่ ทำไม ไม่เข้าใจการบ้านตรงไหน”โยซอบมองหน้าดูจุนเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้วก็ส่ายหน้า
 
“อ้าว ก็ไหนเรียกพี่มาจะให้ช่วยสอนการบ้านไม่ใช่เหรอ”
 
“อื้ม แต่เค้าทำเสร็จแล้ว”
 
“หือ แล้วเรียกพี่มาทำไม”ดูจุนเสียงดังเล็กน้อย โยซอบทำหน้าเศร้านิดๆ
 
“เหงา คิดถึงแม่งั้นเหรอ”โยซอบเงยหน้ามองดูจุนก่อนจะหยักหน้า แล้วก็โผเข้ากอดดูจุน
 
“คิดถึงมากๆ มากที่สุด ฮึก เค้าไม่เข้าใจเลย ฮือออ”ดูจุนลูบหัวของโยซอบเบาๆเป็นการปลอบใจ
 
“อย่าร้องไห้สิ โยยังมีพี่อยู่นะ”คำพูดของดูจุนสร้างความรู้สึกดีให้กับโยซอบเป็นอย่างมาก โยซอบผละออกจากอ้อมกอดแล้วมองหน้าดูจุนทั้งน้ำตา
 
“จะไม่ทิ้งเค้าและดูแลเค้าใช่ไหม พี่บอกอย่างนั้นกับแม่ พี่จะทำจริงๆใช่ไหม”ดูจุนยิ้มออกมาบางๆก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาให้กับโยซอบ
 
“พี่พูดแล้วนี่”โยซอบยิ้มออกมาก่อนจะโผเข้ากอดดูจุนอีกครั้ง
 
“ต้องทำนะ อย่าทิ้งเค้านะ อย่าทำให้เค้าเสียใจนะ”
 
“อื้ม”ดูจุนกระชับกอดโยซอบแน่น หัวใจของเขากำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างฉุดไม่อยู่ น่าแปลกที่เขารู้สึกมีความสุข มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับโยซอบ แต่ต่อไป คงไม่มีแล้วสินะ
 
เควิล พี่ขอโทษนะ แต่พี่ขอเวลาหน่อย แล้วพี่จะทำเพื่อนาย
 
 
 
 
โยซอบยิ้มออกมาบางๆทั้งน้ำตาที่กำลังไหลเมื่อคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา เขามองมือถือที่วางอยู่บนเตียง มันยังคงนอนนิ่งไม่มีเสียงอะไรอย่างเคย
 
“ฮึกๆ รุ่นพี่ ฮึกๆ”น้ำตาของโยซอบไหลออกมามากมาย เขาเสียใจเป็นอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วเขาก็รู้ดีว่าดูจุนเสียใจมากแค่ไหน ไม่งั้นดูจุนคงไม่ทำกับเขาแบบนี้ ทำให้เขาเสียใจทั้งๆที่เคยบอกว่าจะไม่ทำอย่างนั้น โยซอบค่อยๆเดินไปนั่งบนเตียงแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาดูหน้าจอที่ว่างเปล่า
 
“ลืม ได้โปรดเถอะ อย่าลืมเลยนะรุ่นพี่”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ไปไม่ได้เหรอครู ผมรู้สึกว่ากำลังจะไม่สบายนะอาทิตย์นี้อ่า”เสียงของกีกวังโวยวายขึ้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะถูกส่งไปช่วยค่ายอาสาสมัคร สีหน้าและแววตาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากไป ผิดกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่ยิ้มร่าและดูท่าจะมีความสุขเสียจริงๆ
 
“คงไม่ได้หรอก พวกนั้นต้องการคนเพิ่มน่ะ ถือว่าทำบุญก็แล้วกันนะ”
 
“หึ ผมกำลังอยากจะทำบาปมากกว่า นะนะครูนะ”กีกวังออดอ้อนครูอีกครั้ง
 
“ยังไงก็ไม่ได้ ยื่นคำขาด นายต้องไป จบ!”แล้วครูก็เดินหน้านิ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้กีกวังยืนอ้าปากเหวอส่วนโยซอบนั่งยิ้มอย่างมีความสุข
 
“ให้ตายเถอะ ทำไมจะต้องเป็นฉันด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
 
“เพราะนายดูแข็งแรงไง”
 
“ฉันดูแข็งแรงตรงไหนไม่ทราบ ตัวออกจะเล็ก ชิส”
 
“ตรงนี้ไง”โยซอบจับที่หน้าอกของกีกวังและแขนที่ดูแข็งแรงของเขา เพราะกล้ามของกีกวังนั่นเอง เหอะๆ
 
“ให้ตายเถอะ เอามันออกดีไหมเนี่ย จะได้ไม่ต้องไปลำบาก ฉันอยากจะนอนตีพุงกินดีอยู่ดีอยู่ที่บ้านอ๊ะ”โยซอบส่ายหน้าให้กับอาการที่เหมือนเด็กของเพื่อนอีกครั้ง
 
“นายนี่ เวลาไม่พอใจหรืออารมณ์ไม่ดีก็มักจะทำตัวยังกับเด็กอยู่เรื่อยเลย ให้ตายเถอะเพื่อนฉัน”กีกวังหนันห้าหงิกๆมามองโยซอบเล็กน้อย
 
ตุบ!!
 
“ก็ไม่อยากไป ไม่อยากไปนี่นา แงๆๆ”กีกวังลงไปนั่งชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้น   โยซอบแทบจะหลุดขำออกมา
 
“ปัญญาอ่อน นี่หรือคนที่ทำให้เค้าสบายใจได้มาตลอด”กีกวังหยุดงอแงแล้วก็ลุกขึ้นจ้องหน้าโยซอบ
 
“ฉันไม่อยากไป ทำไมจะต้องเป็นฉันด้วย ครูก็น่าจะรู้นี่นาว่าฉันเป็นคนยังไง แล้วทำไมจะต้องเอาฉันไปอีก ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องแบบนี้จะไปช่วยหรือจะไปทำลายกันแน่”กีกวังหน้าหงิกอีกรอบก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้
 
“เอาเถอะน่า นายไม่คิดถึงพี่ฮยอนซึงเหรอ”
 
“เอ้อ จริงด้วยสิ พี่ชายฉันอยู่นั่นนี่นา อ๊ะ ดีเลยจะได้ไปอยู่เป็นพี่ ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไรดูแลซึม อิอิ กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้ากันโยซอบ ป่ะ”แล้วกีกวังก็จับมือโยซอบก่อนจะเดินออกไป
 
“ให้ตายเถอะกีกวัง นายประหลาดสุดๆเลยอ๊ะ”
 
“ขอบคุณมากเลยนะครับครู”เสียงนุ่มๆที่ฟังดูก็รู้ว่าเจ้าของเสียงหล่อพูดขึ้น เขายิ้มให้กับครูที่เพิ่งเดินมาจากกีกวังเมื่อสักครู่
 
“นี่ถ้าเธอไม่ใช่ลูกเพื่อนครูนะ ไม่มีทางช่วยหรอก เอากีกวังไปค่ายอาสา คิดได้ยังไงดงอุน”ดงอุนไม่ได้ตอบอะไรแค่ยิ้มบางๆก็เท่านั้น
 
“ไม่รู้ว่าหมอนั่นไปแล้วจะไปสร้างความวุ่นวายหรือเปล่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายต้องรับผิดชอบนะ”
 
“ครับ ผมจะรับผิดชอบเองทุกอย่าง ถ้าหากหมอนั่นทำอะไรเดือดร้อน ผมจะรับผิดชอบเอง”
 
“ก็ได้ ไปโน่นก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ถ้าขืนเป็นอะไรกลับมาพ่อเธอได้มาบ่นกับครูหูชาแน่ที่ให้เธอไปในที่แบบนั้น”
 
“รับรองครับ ผมจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”ดงอุนยิ้มให้ครูก่อนจะโค้งหัวเป็นการบอกลา
 
“กีกวัง ฉันรู้ชื่อของนายแล้วนะ แล้วเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น กีกวัง หึหึ”
 
 
 
 
 
 
-----------------
13-07-2014
ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
 
#ฟิคแบดเลิฟ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา