{GOT7} Wolves ♡ เจ้ามนุษย์ สนใจหน่อยสิ (Markbam ft.Woogyu)
10.0
เขียนโดย techaa
วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.26 น.
5 ตอน
1 วิจารณ์
13.38K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 20.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) 03 เรียกร้องความสนใจครั้งที่หนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBambam’s speaking
ครั้งที่เเล้วมันจบลงที่ว่าพี่ซองกยูจะเอาชุดให้อี้เอินใส่ใช่มั้ยครับ?..
ทำไมตอนนี้ผมต้องมานั่งเช็ดตัวให้เขาเเบบนี้ล่ะ.. -_______- ง่วงเเล้วอะพูดเลยยย ใกล้จะงอเเงเเล้วจริงจังงง ถ้าถามว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน ก็ยังอยู่ที่ห้องทำงานพี่ซองกยูเหมือนเดิมครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ นี่มันจะตีสามเเล้วนะเฟร้ยยย ดีนะที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ถ้ามีเรียนพี่ซองกยูคงไล่ผมไปนอนนานเเล้ว
“นี่.. จริงๆเเล้วข้าไม่น่าให้เจ้าเรียกว่าอี้เอินเลย เจ้าเรียกข้าว่ามาร์คได้ไหม ?”
ชายหัวเเดงตัวปัญหาพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆ เเหม.. ชื่อมาร์ค ปะกิดมาเชียยะ ทำไมมันต่างกับอี้เอินจังง
“เเล้วตกลงนายชื่ออะไรกันเเน่ หมาป่าเขามาชื่อเล่นชื่อจริงกันด้วยเหรอ ?”
ผมถามต่อ อี้เอินก็ยักไหล่น้อยๆ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
ตอนนี้เขาใส่อยู่เเค่บอกเซอร์สั้นๆของพี่ซองกยูเท่านั้น เเล้วนอกนั้นก็เปลือยหมดอยู่ดี.. หน้าน่ะเอาออกไปไกลๆได้มั้ยย ใจนี่ก็เต้นจริง เฉยไว้ลูกเฉยไว้ เสียงดังเดียวเขาได้ยินเอาเเล้วไม่งามลูกกกกกกก
เเต่เหมือนใจมันจะไม่ค่อยฟังผมเท่าไหร่ ผมรู้ตัวว่าตาเขาจ้องอยู่ที่หน้าผมที่กำลังเช็ดเเขนเขาอยู่ เพราะเป็นต้นเเขน
ก็เลยต้องขยับเข้าไปใกล้หน่อยเท่านั้นเเหละ ไม่ได้ตั้งใจจะใกล้นะฟังไว้! เเต่เอาตรงๆครับ เเขนพี่เเกเเน่นมาก -//- น้องแบมเขินนน
“ร.. เรียกก็เรียกสิ ช่วยเลิกพูดข้าๆเจ้าๆได้มั้ย.. มันเเบบ จั๊กจี้อ้ะ”
รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังย้อนยุคยังไงชอบกลมาขึ้นข้าขึ้นเจ้าเนี่ย ผมขยับออกมาทันทีที่เช็ดเเขนเสร็จ เหลือด่านสุดท้ายละ.. ลำตัว.. หรือก็คือตั้งเเต่คอยันท้องน้อย เช็ดยังไงดีครับ?เเค่เช็ดเเขนมาร์คยังเเกล้งผมขนาดนี้เลย เเล้วชิดเเบบนั้นจะเหลือเรอะ.. ให้ใจผมพักบ้างนะครับนะ..
“ข้.. เลิกพูดก็ได้ เเล้วก็ต้องเรียกว่า พี่มาร์ค ต่างหากล่ะ อายุน้อยกว่านี่”
ผมตวัดตามมองเขา.. จะเอาอะไรมากมายห้ะะะ พี่มาร์คๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮึ่ยยยย! เเต่นี่แสดงว่าหน้าผมก็เด็กใช้ได้นะเนี่ย เเล้วพี่มาร์คกับน้องเเบมนี่ก็เข้ากันไม่หยอก.. เเบมเเบม!!!! อะไรรรร!!!!T^T
“อ่ะ.. พี่ลืมถามไป ชื่ออะไรเหรอ ?”
ถึงขั้นขนาดมานั่งเช็ดตัวให้เเล้วเพิ่งมาถามชื่อให้เนี่ย มันน่านักกกกกก วุ้ยยยยย คนเค้าอุตส่าห์ตั้งใจจับ เอ้ย! เช็ดด
“แบมแบม”
ผมกระเเทกเสียงใส่พี่มาร์คเล็กน้อยตามอารมณ์น้อยใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เช็ดเองไปเลยก็เเล้วกัน
“หลังจากนี้พี่เช็ดเองนะครับ”
ผมยันตัวลุกขึ้นเเล้วเเกล้งโยนผ้าใส่อีกคน ผมไม่ทันได้มองหรอกว่าโยนไปตรงไหน เพราะฉะนั้น..
“โอ้ย!”
ผมหันกลับไปทันที ภาพที่เห็นคือมือขาวสองข้างที่กำลังกอดผ้าเข้าหาตัว มือสองมือทางอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจ
เป็นโรคหัวใจเหรอ ?
ในตอนนั้นนั่นเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในหัว ผมจึงเดินกลับไปหาเขาอีกที เเต่ก็..
“โอ้ยย!”
เสียงเเหบทุ้มดังขึ้นอีกครั้งก่อนมือที่สองข้างที่ประสานกันกำเเน่น ใบหน้าคมฉายเเววเจ็บปวดทันที
“พี่มาร์ค! เป็นอะไร?!.. พี่ซองกยู!! มานี่เร็ว!!”
ผมรีบตะโกนบอกพี่ซองกยูทันที เเต่เหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้ยิน ผมเลยกำลังจะวิ่งออกไปตาม เเต่มือหนาก็ดึงข้อมือผมไว้ซะก่อน
“ไม่.. ไม่ต้อง..”
พี่มาร์คดูจะผ่อนคลายขึ้น เเล้วก็ยิ้มหล่อออกมาซะงั้น ..
..
“หัวใจพี่ละลายอยู่ที่ตรงนั้น น้องเเบมเหยียบลงมามันเลยเจ็บน่ะครับ”
……………………
…………….
…….
..
.
ฉ่า..เสียงหน้าผมเองครับ
“ไหนๆก็จะเปลี่ยนชุดแล้ว พี่ว่าแบมเช็ดตัวให้เขาหน่อยดีมั้ย?”
ครับ.. ดีครับ เเบมเช็ดเองครับ.. พี่ซองกยู.. ทิ้งปลาย่างไว้กับเเมวน่ะเคยได้ยินไหม .. นี่พี่ทิ้งน้องไว้กับหมาป่าขี้เต๊าะได้ยังไง T_____T หัวใจผมพังไปใครรับผิดชอบบบบ?!
“บ้าเหรอ.. ”
ผมพูดเสียงเบาเเล้วเดินหนีมา ขนาดหันหลังยังรู้เลยว่าเเอบหัวเราะอยู่ ฝากไว้ก่อนเถอะะะ! ตอนออกจากห้องหางตาผมก็เห็นว่าเขาเช็ดตัวเองเเล้ว เช็ดเองก็ได้นี่ เฮอะะ เเล้วนี่พี่ซองกยูไปไหนนะ? ผมเลิกคิดเรื่องพี่มาร์คเเล้วเดินหาพี่ชายทันที
“พี่ซองกยูค้าบบบ อยู่ไหนอ่.. อ่อ.. หลับเเล้ว”
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็เจอพี่ซองกยูที่นอนหนุนเจ้านามูอยู่ ไหนว่าจะรอฟังเรื่องพี่มาร์คไง? หมาป่าสีขาวเทาก็ยอมให้เจ้านายที่รักนอนหนุนอย่างว่าง่าย หนอย.. ทิ้งผมมานอนนี่เอง พวกใจร้าย!
“น้องแบมครับ”
“เฮ้ย!”
ระหว่างที่ผมถ้ำมองพีชายที่นอนอืดไปเเล้ว ก็สะดุ้งกับเสียงที่มาจากข้างหลัง เสื้อยืดตัวโคร่งของพี่ซองกยู.. มันมีคนใส่ให้หล่อได้ก็วันนี้เเหละครับ ผมสีเพลิงยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เสื้อคอกว้างเผยช่วงต้นคอลงมาเกือบถึงหน้าอก พูดถึงใจผมก็เต้นตึกตักน้อยๆ.. หวั่นไหวง่ายไปรึเปล่าเเบมแบม?
“โกรธพี่เหรอ?”
เสียงต่ำถามด้วยเสียงเบาๆเพราะเห็นอีกสองชีวิตนอนอยู่บนเตียง ถ้าพี่มาร์คไม่พูดผมว่าผมน่าจะลืมไปเเล้วล่ะ เเกล้งกันดีนัก ผมเอาคืนซักนิดนึงละกันนะครับ
“น้องแบมครับ”
คิดได้เเบบนั้นผมเลยเดินออกมาเลยโดยไม่สนใจพี่มาร์คเเล้วตรงเข้าห้องตัวเองทันที กว่าจะหันไปปิดประตู อีกคนก็ตามเข้ามาเรียบร้อยเเล้ว เจ็บอยู่เเล้วทำไมถึงเดินเร็วได้แบมนั้นล่ะะ ทำไงล่ะทีนี้ คนตัวโตกว่ายังเรียกชื่่อผมไม่หยุด เเต่ผมก็ไม่ได้หันไปมองสักนิด
“ดอกไม้ครับ.. สนใจพี่หน่อยน้าาา พี่จะไม่เเกล้งเเล้วนะ ดีกันนะครับ น้าาา”
พี่มาร์คยกสองมือขึ้นมากำข้างเเก้มพร้อมปากล่างที่ยื่นออกมาอย่างน่ารัก ตัวก็ใหญ่มาง้อมุ้งมิ้งเเบบนี้ได้ยังงายยยยยยย น่ารักเกินไปเเบมหวั่นไหวววววตอนนี้หน้าผมคงจะเหวอน่าดู ดูจากที่พี่มาร์คเริ่มจะยิ้ม
“ไม่รู้ล่ะ!”
เเต่ก็ไม่วายงี่เง่าใส่ต่อไป ผมไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย.. ที่หนีหน้าไปน่ะเขินหรอก ที่เรียกว่าดอกไม้น่ะ คนมันเขินนน วู้! ผมเดินลงไปทิ้งตัวบนเตียงเหมือนไม่สนใจ เเต่หลับตาไปโดยที่เเอบดูอีกคนอยู่ ถ้าเขาคิดสักนิดก็น่าจะเดาได้ว่าผมคงยังไม่นอนเเน่ๆ ก็เเน่ล่ะ น้ำท่ายังไม่ได้อาบเลยครับคุณ.. ผมนอนตะเเคงมาฝั่งที่พี่มาร์คยืนอยู่ ร่างสูงยืนกอดอกพิงประตูอยู่ครู่นึง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ จนผมต้องหลับตาลงให้สนิด ร่างกายรู้สึกถึงเเรงยวบที่เตียง
“อ้ะ.. ”
สัมผัสเย็นๆบนมือข้างที่ผมวางอยู่บนเตียงทำให้ผมลืมตาขึ้น
“หายโกธรกันเถอะนะ ข้าผิดไปเเล้ว..”
จมูกของเย็นของเขากำลังถูไถไปมาที่มือขวาของผมเหมือนจะอ้อน สรรพนามถึงเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทำไมตอนนี้ผมถึงคิดว่าแบบนี้มันเหมาะกับเขามากกว่านะ เสียงทุ้มแบบนี้ฟังเเล้วรู้สึกดีชะมัด.. เวลาที่ทำผิดนามูก็ทำเเบบนี้กับพี่ซองกยูเหมือนกัน เเต่ตอนนี้พี่มาร์คเป็นคนนะไม่ใช่หมาป่า! หน้าร้อนมากครับพูดเลย ถึงมันจะดูเเปลกนิดหน่อย เเต่ผมคิดว่านี่มันน่ารักมาก คนอะไรเนี่ยยยย -//- เเล้วตอนนี้หน้าผมคงบูดๆเบี้ยวๆเพราะทั้งเขินทั้งยิ้มทั้งพยายามจะกลั้นยิ้ม
“หายเเล้วน่า.. พี่มาร์คไปนอนตรงนู้นนะครับ แบมจะไปอาบน้ำ เดี๋ยวออกมาเเล้วเเบมหยิบผ้าห่มให้”
ผมพูดบอกเสียงเบา ทำตัวไม่ถูกครับงานนี้.. เขาเลยหยุดเเล้วขึ้นมายิ้มหล่อให้ผมเเทน ผมชี้โบ้ยไปทางโซฟาตัวยาวที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำโดยที่ไม่มองหน้าพี่มาร์ค มองตอนนี้ก็เห็นว่าเขินเส้!
อาบน้ำเสร็จก็เห็นว่าพี่มาร์คหลับคาโซฟาตามที่ผมบอกไปเเล้ว ผมเดินไปหยิบผ้าห่มมาตามที่บอกเขาไว้ เสื้อบางๆกับบ๊อกเซอร์เเค่นี้คงจะหนาวแน่ๆ พอเดินกลับมาผมก็ห่มผ้าให้พี่มาร์คเเล้วดึงผ้าให้เเน่ใจว่าคลุมทุกส่วน ร่างสูงของเขาขยับเข้าหาผ้าห่มอย่างไม่รู้ตัว .. ผมก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าผมเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเหมือนกันนะ
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
กระซิบเบาๆเเล้วเดินไปปิดไฟ ก่อนจะมาล้มตัวลงนอนบ้าง ผมถอนหายใจเบาๆ เหลือบตามองนาฬิกาดิจิตอลที่แผดเเสงสีฟ้าอ่อนๆอยู่บนหัวเตียงก็เห็นว่ามันเกือบจะตีสี่อยู่เเล้ว ผมคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ มันวุ่นวายนะ แปลกมากด้วย แปลกอยู่เเล้วที่มีหมาป่าเป็นสัตว์เลี้ยง เเต่ก็แปลกเข้าไปอีกที่มีพี่ชายของสัตว์เลี้ยงของผมโผล่มา เเล้วสุดท้ายดันเป็นคนได้ด้วย เเบบนี้มันนับเป็นมนุษย์หมาป่ารึเปล่านะ? ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงยอมรับได้เร็วขนาดนี้ เหมือนโลกนี้จะมีอะไรที่พวกเราไม่รู้อยู่อีกเยอะเลยล่ะครับ พี่มาร์คก็.. ดูๆตอนนี้ก็ไม่ได้จะมีท่าทางว่าจะมาร้าย เเถมยังมาเอ่อ.. จีบผมนู่นนี่อีก เเบบนั้นเขาเรียกจีบรึเปล่า.. คนชมผมน่ารักก็มีอยู่หรอก หรือเพราะตอนนี้เป็นหมาป่าชมผมก็เลยเขิน?
เเต่ก็นะ บอกตามตรงผมก็เหงานะครับ.. ใครๆก็อยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆเนอะ นานเเล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้ชอบใคร วัยนี้จะรักใครชอบใครบ้างมันก็ไม่เเปลกหรอกครับ นี่ผมก็อายุสิบเจ็ด กำลังอยู่ในวัยว้าวุ่น คึคึ เเม่บอกว่า ใครพยายามทำให้แบมยิ้มในวันที่แบมอ่อนเเอ คนนั้นน่ะ แบมควรจะเก็บไว้พิจรณา พี่มาร์คจะอยู่ตรงนี้ถึงตอนที่ผมมีช่วงเวลาแบบนั้นรึเปล่านะ?
ผมตื่นมาตอนประมาณเกือบจะเที่ยง ภาพเเรกที่เห็นคือพี่มาร์คที่ยังนอนอยู่ในผ้าห่มเหมือนเดิม ท่าเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ในขณะที่ผมตื่นมานี่หมอนผ้าห่มกระจุยกระจายไปหมด .. เเหม ดีนะผมตื่นก่อน ไม่งั้นอายเขาเเย่ ผมเดินไปดึงผ้าห่มคลุมตัวพี่มาร์คให้มิดชิดก่อนจะเดินออกไปล้างหน้าแปรงฟัน
“ตายล่ะ..”
ผมอดพูดออกมาเบาๆไม่ได้เนื่องจากว่า สภาพหน้าผ้มมมมม มายก็อดดดดด ถุงใต้ตานี่อย่างใหญ่ ดำาาาา ฮือออออ สภาพหน้าไม่ไหวจริงๆครับ นอนดึกบ่อยๆเเล้วเป็นเเบบนี้ตลอดเลย ฮึ่ยยยยยย! ไม่ได้ๆ ทาครีมครับทาครีมไหนๆมีอะไรทาๆไปให้หมดดด
ผมเดินออกจากห้องไปที่ห้องครัวหลังจากโปะทุกอย่างที่เห็นลงบนหน้า ก็เห็นพี่ซองกยูทำอะไรยุกยิกๆอยู่ที่กระทะ พอกลิ่นหอมเนยลอยมาเข้าโดนจมูกเท่านั้นเเหละ
“โครกกกครากกกก”
เอ๊ะเสียงอะไร.. ?
“พี่ซองกยูวววววววววววว”
ผมเดินไปกอดพี่ชายอย่างออดอ้อน ก่อนจะรู้สึกเหมือนมรอะไรมาดันๆที่ขา ..นามูนี่เอง ไอ่หมาหวงก้าง!!
“เพิ่งตื่นเหรอแบม? เเดดตรงหัวเเล้วเนี่ย”
พี่ซองกยูชอบพูดจาเหมือนคุณปู่ครับ เป็นอีกหนึ่งคาเเร็กเตอร์ของพี่เขา มือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ เเล้วกลับลงไปง่วนกับขนมปังบนกระทะต่อ รู้จักมั้ยครับ ? ขนมปังชุบนมชุบไข่เเล้วทอดบนกระทะอะ เรียกให้ไฮโซก็เฟรนช์โทสท์ครับ(บวกระดับสำเนียงเเด๊ะเเด๋ตามใจชอบครับ คึคึ)
“แบม.. เเล้วตกลงเมื่อคืนมันยังไง หลังจากพี่เข้าห้องไป รู้ตัวอีกทีก็เช้าเเล้วว่ะ อี้เอินยังอยู่ที่นี่รึเปล่า?”
เอ่อ.. ถามซะเช้า เหมือนสมองผมจะยังไม่ทำงานดี เลยคิดอะไรไม่ค่อยออก ผมพูดไปตอนนี้ผมคงพูดไม่ออกอะครับ รอเจ้าตัวตื่นเเล้วมาเล่าทีเดียวน่าจะดีกว่ากันเยอะ
“ผมว่าพี่รอเจ้าตัวตื่นดีกว่า ..ตอนนี้เขานอนอยู่ในห้องผม”
พี่ซองกยูเลิกคิ้ว
“แบมไปปลุกดิ พี่ว่านี่นอนกินไปครึ่งเมืองละ”
“..ครับๆ”
ผมมันก็ได้เเต่ก้มหน้ารับคำสั่งล่ะน้าาาาาาาาาาาา -_- เดินมาถึงผมก็เห็นพี่มาร์คนั่งหน้าง่วงอยู่บนโซฟาเเล้ว ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องเสียเเรงปลุก ว่าเเต่จะบอกยังไงดี
“พี่มาร์คครับ.. ออกมากินข้าวมั้ย? เเบบ.. พี่กินอาหารปกติได้รึเปล่าครับ?”
คนตัวสูงหันมามองผมด้วยตาปรือๆ เเล้วพยักหน้าให้ผม เขาเองก็ดูเพลียเหมือนกันนะ ไม่ใช่เเค่ผมคนเดียว ผมเห็นว่าเขาพยายามจะลุกขึ้น เลยเดินเขาไปใกล้อีกหน่อยเพื่อช่วยเขาลุกขึ้นมาดีๆ เดี๋ยวจะล้มไปซะก่อน ใบหน้าคมหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ ก่อนจะจับมือที่ผมยื่นไปช่วยพยุงเเล้วดึงตัวเองขึ้นมายืนอย่างระวัง
“ขอบใจนะ”
..เหมือนหน้าร้อนนิดๆ นืดเดี๊ยว! ผมต้องพาเขาเดินไปเข้าห้องน้ำ (รอข้างนอกครับ คิดอะไรอะ?)เเล้วเดินมาที่ห้องครัว เข้ามาก็เห็นพี่ชายนั่งรออยู่ที่โต๊ะ พี่มาร์คหันมามองผมนิดๆ ผมก็เเค่กระพริบตากลับไป ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน =_=
“มานั่งสิ”
จนพี่ซองกยูเรียกให้ไปนั่ง ผมก็พาเขาไปนั่งที่โต๊ะ เเล้วเดินพาตัวเองไปนั่งข้างพี่ซองกยูเเทน ผมไม่คิดว่าพี่ซองกยูจะโกรธหรือจะกลัวอะไรเเล้วล่ะตอนนี้ คงเเค่อยากรู้เฉยๆ
“กินก่อนเเล้วกัน นายคงหิว เเต่เสร็จเเล้วช่วยบอกด้วยว่าตกลงนายเป็นใครอะไรยังไง”
“ขอบคุณมาก”
พี่มาร์ครับจานที่พี่ซองกยูส่งให้ก่อนจะเริ่มลงมือกินทันที คงจะหิวจริงๆล่ะ นามูที่นั่งอยู่เดินมาอยู่ข้างๆพี่มาร์คเเทน พี่มาร์คหันไปมองนามูสักพักเเล้วค่อยหันมากินต่อ ผมว่าต้องคุยกันเเน่ๆ พี่ซองกยูนั่งทำหน้าจะหลับอยู่ตรงข้ามพี่มาร์ค หรือข้างๆผมนี่เอง ทำให้ผมดูไม่ออกว่าพี่เขามองคนผมเเดงที่กำลังส่งสายตากับหมาป่าตัวใหญ่นี่อยู่รึเปล่า เเต่นั่งรอเเบบนี้พี่เขาคงกดดันเหมือนกันเเฮะ
..คิดอีกทีก็คงไม่นะครับ เห็นว่าพี่อีกคนกินใกล้จะหมดเต็มที.. นี่กินหรือกรอกครับหื้ม ? เเต่คงไม่เเปลกครับ ร่างจริงตัวก็ไม่ใช่เล็กๆเลย ขนมปังสามสี่แผ่นนี่ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าเขาจะอิ่มหรือเปล่า
“เสร็จเเล้วเหรอ?”
พี่ซองกยูนั่งเท้าคางมองคนฝั่งตรงข้าม โอเคครับ ลืมตาอยู่นะลืมตาอยู่ ฮึฮึ พี่มาร์คยิ้มรับก่อนจะวางส้อมกับมีดลง
“ข้าเล่าเเล้วไม่ต้องตกใจไปนะ”
ผมกับพี่ซองกยูก็พยักหน้ารับ เเล้วเตรียมตัวตั้งใจฟังเต็มที่ ทำเอาพี่มาร์คยิ้มออกมาบางๆ ตาคมมองมาที่ผม ผมก็มองกลับอย่างไม่ได้คิดอะไร
“ข้าชื่อต้วนอี้เอิน เเต่เรียกมาร์คคงจะง่ายกว่า ก็อย่างที่เห็น ข้าเป็นหมาป่า.. ฝูงของข้าอยู่ที่เทือกเขาต้าซิงอันในประเทศจีน กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ก็ใช้เวลาร่วมสองเดือน ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาพี่ชายต่างสายเลือดที่หายออกจากฝูงไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ระหว่างทางดันมาโดนมนุษย์ทำร้ายเอาเสียก่อน เลยต้องมาลำบากพวกเจ้าเเบบนี้ อย่างที่พวกเจ้าเห็นว่าภาษาที่พวกเจ้าใช้ไม่ใช่ภาษาที่พวกข้าใช้กัน พวกเราเพียงเเค่รับรู้ภาษามนุษย์มาบ้างเท่านั้น ให้เอามาพูดมาจาพวกข้าคงทำไม่ได้ ถึงตอนนี้ที่ข้าพูดอยู่ มันอาจจะฟังเเล้วต่างกันเพียงสรรพนาม เเต่ถ้าเจ้าเอาสิ่งของที่ฝ่ายพวกเจ้ามีมาให้พวกข้าเรียกกันล่ะก็ คงจะต่างกันชัดกว่านี้”
ผมกับพี่ซองกยูหันมองหน้ากัน ถึงบางส่วนผมจะฟังมาเเล้วครั้งหนึ่ง เเต่ยังไงผมก็ยังเชื่อสนิทใจไม่ได้สักที เเล้วท่าทีของพี่มาร์คก็เปลี่ยนไปเป็นขรึมๆด้วย เมื่อคืนไม่ใช่เเบบนี้สักหน่อย.. ผมยอมรับว่าผมชอบเเบบเมื่อคืนมากกว่าอะ -//-
พี่ซองกยูเริ่มถามนู่นนี่่นั่นไปเรื่อย เช่นว่าพวกหมาป่าคุยกันได้รึเปล่า หรือหมาป่ามีร่างคนทุกตัวหรือเปล่า เหมือนพี่มาร์คจะพยายามเลี่ยงการพูดถึงพี่ชายตัวเอง โชคดีไปที่พี่ซองกยูไม่ได้ถามออกไปเหมือนกัน เราคุยกันอยู่พักนึง ก็ดูเหมือนพี่ซองกยูจะถูกชะตากับชายร่างสูงผมเเดงคนนี้ไม่ใช่เล่น ไม่งั้นเเล้ว ปกติพี่ซองกยูไม่ใช่คนพูดเยอะอะไรมากมายขนาดนี้ครับ นี่เล่นยิงคำถามไม่หยุดเลย ผมเริ่มเข้าใจที่พี่มาร์คพูดว่าภาษาที่เราใช้มันไม่เหมือนกันเเล้วล่ะครับ ผมคิดว่ามันเหมือนกันนะ เเต่พวกเขาใช้สรรพนามที่โบราณกว่า เเละที่บอกว่าอย่างอื่นต่างกัน มันเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักมากกว่า
อย่างเวลาผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น พี่มาร์คก็จะมองเเล้วถามว่า
‘เจ้านั่นคืออะไรหรือ ? เหตุใดมันจึงปล่อยแสงออกมาเช่นนั้นล่ะ ?’
ผมก็ต้องอธิบายยาวตั้งเเต่ปุ่มนี้ปุ่มนั้นเอาไว้ทำอะไรเเล้วโทรศัพท์มีแบบไหนบ้างทำอะไรได้บ้าง.. เหนื่อยใช้ได้นะครับกว่าจะเข้าใจแต่ละอย่างเนี่ยคุยไปคุยมา ผมก็เริ่มอยากจะรู้ว่าเเล้วเเบบนี้เขาไม่ไปไหนต่อเหรอ ? ถ้าเขาไม่บอกพี่ซองกยูว่าเจอพี่ชายของตัวเองเเล้ว หรือก็คือนามูที่นั่งตาใสอยู่ข้างๆนี่เอง จู่ๆพี่ซองกยูก็ถามพี่มาร์คออกไปซะอย่างนั้น
“นายจะอยู่ที่นี่ก่อนมั้ย? หรือว่าจะต้องออกไปตามหาพี่ชายต่อ?”
โป๊ะเชะ! ทีนี้ผมก็ไม่ต้องเสียฟอร์มถามเองเเล้วไง พี่มาร์คเงียบไปพักหนึ่ง เเต่ถ้าไม่อยู่ที่นี่ทั้งๆที่เจอพี่ชายเเล้ว เเล้วพี่มาร์คจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
“ให้ว่ากันตามตรง ข้าเองก็ไม่รู้จะไปไหนเช่นกัน เงินทองอะไรก็ไม่มีติดมา เพราะฉะนั้น ถ้าข้าจะขออยู่ที่นี่ไปก่อนได้หรือเปล่า?”
ผมกับพี่ซองกยูมองหน้ากันอีกครั้ง คิ้วเรียวชูขึ้นข้างหนึ่งเหมือนจะถามผมว่าจะเอายังไง
“แบมแล้วแต่พี่แหละครับ”
“..อืม”
พี่ซองกยูทำหน้าเครียดเล็กๆสังเกตุจากคิ้วสองข้างที่ขมวดเล็กๆ
“ก็ได้นะ.. เเต่นายต้องช่วยแบมทำงานบ้านด้วย ถือเป็นค่าเช่า”
_______________________________________________________
ตรงนี้มีคนอ่านมั้ยเอ่ย -..- ขอโทษที่มาช้าค่ะ คือออออ มันฃ็อคอินไม่ได้อ่า เลยไม่ได้มาอัพเลยวันนี้มาลองดันได้ เดี๋ยวอัพตอนสี่ตอนห้าให้เลยน้าาาา ถ้ามีคนรอก็ขอบคุณมากค่าาา :D
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ