Princess diary บันทึกรักฉบับเจ้าหญิง

9.4

เขียนโดย Chapond

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.39 น.

  35 ตอน
  445 วิจารณ์
  67.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 23.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) องค์หญิงเอาแต่ใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่องค์หญิงจะเสด็จไหนรึเพคะ”พ้อยท์แปลกใจที่เห็นฟางแต่งตัวเตรียมตัวออกไปข้างนอก

 

 

 

“เราก็อยากจะออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง และอีกอย่างนะ เราไม่อยากจะอยู่ในบ้านที่เต็มไป

ด้วยกล้องวงจรปิดแบบนี้หรอก อึดอัดจะแย่”ฟางบ่นอุบอิบแล้วค้อนไปที่กล้องวงจรปิด นี่ดีนะ ติดแต่

มุมที่เธอนอน ถ้ามาติดโซนที่เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอคงกรี้ดลั่นบ้านและสั่งทหารของเสด็จพ่อ

เอาตัวไปจับยิงเป้าซะให้เข็ด

 

 

 

 

“แต่องค์หญิงต้องบอกนายป๊อปปี้ก่อนนะเพคะเพื่อความปลอดภัย”พ้อยท์รีบพูด

 

 

 

 

 

 

“ไม่เอา เราจะบอกนายนั่นทำไม บอกไปก็ไม่เป็นส่วนตัวสิ เราบอกแค่พ้อยท์ดีกว่า ไปด้วยกันแปป

เดียวเอง น้าๆๆๆ เพราะเมืองไทยน่ะเป็นเมืองร้อนไม่เหมือนKzที่อากาศเย็น เราต้องไปหาเสื้อผ้า

ใหม่นะ”ฟางพูด

 

 

 

 

 

“แต่องค์หญิงเพคะ”พ้อยท์พยายามแย้ง

 

 

 

 

 

“นี่เราอยู่ที่เมืองไทยมันไม่ได้อันตรายอะไรนิพ้อยท์ เพราะฉะนั้น นายนั่นก็ไม่ต้องไป”ฟางรีบพูด

ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินลงมาจากห้องนอนโดยมีพ้อยท์ตามมาติดๆ

 

 

 

 

 

 

 

“อ้าวองค์หญิงจะเสด็จไปไหนพะยะค่ะ”เขื่อนและกราฟที่แวะมาหาที่บ้านก็ทักเมื่อเห็นฟาง

 

 

 

 

 

“อยู่กันแค่2คนเองหรอ แล้วนี่นายป๊อปปี้ไปไหนแล้วล่ะ”ฟางถามและมองหาป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มีอะไรให้ผมรับใช้รึเปล่าครับ เอ้าะๆ พะยะค่ะ”ป๊อปปี้โผล่พรวดมาข้างๆฟางแล้วพูด

 

 

 

 

 

“เราจะออกไปเที่ยวข้างนอก พ้อยท์บอกว่านายถือกุญแจรถที่ทางสถานฑูตให้มาขอกุญแจรถให้เรา

ด้วย”ฟางพูดจบก็แบมือขอกุญแจรถทันที

 

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ครับวันนี้องค์หญิงจะไปไหนไม่ได้ เพราะองค์หญิงพึ่งมาถึงเมื่อวานนี้เอง”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

“ทำไมจะไม่ได้ เราต้องการออกไปวันนี้ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้”ฟางเริ่มหงุดหงิด

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ครับ เพราะเรายังไม่ได้ตกลงเลยว่าองค์หญิงต้องการไปเที่ยวสถานที่ไหน และผมยังไม่ได้

ตรวจสอบ องค์หญิงจะไปไหนไม่ได้เพราะมันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวองค์หญิงเอง”ป๊อปปี้พูดนิ่งๆแล้ว

หันหลังกลับไป ฟางเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็โมโหกว่าเดิมที่ป๊อปปี้เริ่มเข้ามาก้าวก่ายวุ่นวายกับเธอมาก

เกินไปแล้วก็เปิดกระเป่าเอาปืนพกขนาดจิ๋วที่มีจ่อป๊อปปี้ทันที

 

 

 

 

 

 

 

“องค์หญิงพะยะค่ะ วางปืนลงเถอะ เดี๋ยวปืนจะลั่นเอาแล้วเป็นเรื่องใหญ่”กราฟ พ้อยท์และเขื่อนต่าง

ตกใจกับฟาง ก่อนที่กราฟจะรีบไกล่เกลี่ยให้ฟางวางปืนลง

 

 

 

 

 

“นี่พูดไม่รู้เรื่องรึยังไง ว่าเราต้องการจะออกไปข้างนอกวันนี้ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้เลย เอากุญแจรถ

มา”ฟางเดินถือปืนเข้าไปใกล้ป๊อปปี้แล้วพูดขู่จะเอากุญแจรถ

 

 

 

 

 

“ถ้าอยากได้กุญแจมากก็ยิงผมเลยสิครับองค์หญิง”ป๊อปปี้พูดท้าทายฟางอย่างไม่กลัว

 

 

 

 

 

“นี่อย่าคิดว่าเราไม่กล้ายิงนายนะ”ฟางพูด“ผมรู้ว่าองค์หญิงกล้า ยิงสิครับ”ป๊อปปี้พูด ฟางเริ่มลังเล

เพราะป๊อปปี้ไม่มีท่าทีกลัวเธอและปืนเลยแม้แต่น้อย แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้นป๊อปปี้ดันกระบอกปืน

ขึ้นฟ้าและรวบฟางไปกอดจากด้านหลังก่อนจะดันปืนลงทำให้ฟางตกอยู่ในอ้อมกอดป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

“เวลาจะยิงใครน่ะ อย่าตัดสินใจนาน เข้าใจนะครับองค์หญิง”ป๊อปปี้พูดก่อนจะถอดเอากระสุนปืนใน

ปืนออกมา

 

 

 

 

 

“ผมคือมืดอาชีพนะครับ ไม่งั้นเขื่อนกับพี่กราฟคงไม่ขอให้ผมมาคุ้มกันองค์หญิงหรอก เรื่องง่ายๆแค่

นี้อย่าคิดว่าจะทำอะไรผมได้ เอาล่ะครับ กลับขึ้นไปบนห้องเถอะครับ”ป๊อปปี้พูดแล้วริบปืนฟาง

ท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน ฟางฮึดฮัดสะบัดตัวเดินหนีป๊อปปี้ก่อนจะนึกอะไรได้แล้วหันหน้า

มาประจันหน้าอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

“นายป๊อปปี้ เราเป็นองค์หญิงนะ เราคือเจ้านายของนาย ไม่ใช่นายคือเจ้านาย นายไม่มีสิทธิมาบงคับ

บังคับให้เราทำโน่นได้ทำนี่ไม่ได้แบบนี้ วันนี้นายไม่พร้อมจะออกไป แต่เราพร้อมเข้าใจมั้ย ถ้ายัง

วุ่นวายกับเราอีก เราจะเปลี่ยนบอดี้การ์ด”ฟางโมโหมากรีบประกาศกร้าวก่อนจะเดินปึงปังออกไปเรียก

แท๊กซี่ที่หน้าบ้านทันที ป๊อปปี้รีบวิ่งไปคว้าแขนฟางก่อนจะตามาด้วยพ้อยท์ เขื่อนและกราฟ

 

 

 

 

 

 

“ถ้าองค์หญิงอยากไปมาก เดี๋ยวผมขับรถให้”ป๊อปปี้พูดแล้วแอบถอนหายใจเดินไปสตาร์ทรถ ฟาง

มองแล้วยิ้มอย่างพอใจที่สุดท้ายเธอก็สั่งป๊อปปี้ได้ หึ คิดหรอว่านายจะบังคับองค์หญิงอย่างเราได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมว่าองค์หญิงกับคุณพ้อยท์เปลี่ยนที่ดีกว่า ผมไม่ได้ตรวจสอบสถานที่ก่อนมา เลยไม่รู้ว่าที่นี่วันนี้

คนเยอะมากแบบนี้”ป๊อปปี้พูดพลางมองคนเยอะแยะในห้าง

 

 

 

 

 

 

 

“แล้วยังไง เรามาถึงที่นี่แล้วจะเปลี่ยนที่งั้นหรอ เราไม่เปลี่ยนเราจะซื้อของที่นี่”ฟางกอดอกเชิดใส่

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นองค์หญิงก็ระวังละกันพะยะค่ะ”ป๊อปปี้ย้อนใส่ฟาง

 

 

 

 

 

“เราจะระวังตัวทำไมกันในเมื่อหน้าที่ที่คอยระวังให้เราคือหน้าที่ของนาย อ้อ รู้แล้วก็เดินตามมา”ฟาง

สั่ง

 

 

 

 

 

 

“คนก็ออกจะพลุกพล่านไม่เห็นจะอันตรายตรงไหนเลยคุณป๊อป”พ้อยท์เดินมาพูดขณะฟางเลือก

เสื้อผ้า

 

 

 

 

 

 

 

“เพราะคนเยอะแบบนี้ล่ะครับคือที่ที่อันตรายที่สุด และเป็นที่ที่บอดี้การ์ดอย่างพวกผมเกลียดที่สุด

เพราะไม่รู้ว่าคนร้ายจะแฝงตัวมาจากตรงไหนบ้าง”ป๊อปปี้พูดแล้วมองไปรอบๆคอยระวังภัย

 

 

 

 

 

 

“ชิ ทำเป็นขี้เก็กสั่งโน่นสั่งนี่ เดี๋ยวจะใช้ให้ถือของซะให้เข็ด”ฟางที่มองมาจากในร้านที่เห็นป๊อปปี้ยืน

คุ้มกันก็แอบบ่นก่อนจะจัดการเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ซื้อโน่นซื้อนี่จนป๊อปปี้ถือถุงเสื้อผ้าเต็ม2มือ

 

 

 

 

 

 

 

“นี่องค์หญิงซื้อมาใส่คนเดียวรึว่าเอาไปขายครับเนี่ย”ป๊อปปี้เริ่มบ่นเมื่อเห็นฟางซื้อเสื้อผ้าเยอะมาก

 

 

 

 

“นี่มันเรื่องของเรา เงินของเราเราอยากจะซื้ออะไรก็เรื่องของเรานายเป็นแค่คนที่เราจ้าง ห้าม

บ่น”ฟางว่า

 

 

 

 

 

“ผมก็แค่หวังดี การที่องค์หญิงซื้อของมากมายแบบนี้น่ะมันสิ้นเปลืองนะครับ”ป๊อปปี้เตือน

 

 

 

 

 

“นี่มันเรื่องของเราไม่ต้องมาสั่งเรา พ้อยท์ไปกัน”ฟางเชิดแล้วดึงมือพ้อยท์ไป ป๊อปปี้ส่ายหน้าเอือมๆ

 

 

 

 

 

 

“ว้าว นี่เค้าเรียกว่าเชิดสิงโตใช่มั้ยพ้อยท์ เราเข้าไปดูกันเถอะ”ฟางชี้ไปที่การแสดงเชิดสิงโตที่จัดใน

ห้างอย่างตื่นเต้นก่อนจะรีบเข้าไปแต่ป๊อปปี้รีบมาขวาง

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ครับตรงนี้คนพลุกพล่านเกินไปมันจะเป็นอันตรายสำหรับองค์หญิง”ป๊อปปี้สั่งฟางได้แต่ฮึดฮัด

แล้วเดินหนีไปทันที

 

 

 

 

 

 

 

“คนบ้า บ้าอำนาจ เผด็จการที่สุด นี่เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”ฟางบ่น

 

 

 

 

 

 

“ว้าว สวยจังไปกันเถอะพ้อยท์”ฟางพูดเมื่อมาถึงห้องเสื้อในห้างที่เป็นดีไซน์เก๋ไก๋แปลกตา ซึ่งเรียก

ความสนใจให้กับฟางมากก่อนจะรีบเข้าไปดูเสื้อผ้าในร้าน

 

 

 

 

 

 

“สนใจตัวไหนบอกได้นะคะหรือถ้าอยากแต่งลุคไหนทางร้านเราจะแนะให้นะคะ”เสียงใสของสาว

สวยคนหนึ่งเดินมาทักฟางพร้อมกับยิ้มตาหยีจนเห็นลักยิ้ม

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฟย์”ป๊อปปี้เดินตามเข้ามาแล้วเรียกสาวคนนั้น แล้วมองเฟย์นิ่งจนฟางมองตามอย่างสงสัย

 

 

 

 

 

“อ้าวป๊อป นี่ลูกค้าป๊อปหรอเป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย”เฟย์รีบทักป๊อปปี้ทันที

 

 

 

 

 

“เอ่อ เราสบายดีแล้วเฟย์ล่ะเป็นไงกิจการขายดีมั้ย”ป๊อปปี้พูดแล้วหันไปมองเฟย์

 

 

 

 

 

“อ๋อ ดีจ้ะ นี่นะต้องสั่งล๊อตใหม่มาลงอีกด้วยเดี๋ยวว่าจะรับสูทของผู้ชายมาด้วยล่ะ เอ่อ ป๊อปกับเขื่อน

อย่าลืมมาอุดหนุนนะ”เฟย์รีบพูดทำให้ป๊อปปี้สะดุดเมื่อเฟย์พูดถึงเขื่อนซึมลงไปทันที

 

 

 

 

 

 

“อืม เราจะบอกนะ”ป๊อปปี้พูดนิ่งๆแล้วเดินออกไปรอหน้าร้าน ฟางและพ้อยท์มองท่าทางป๊อปปี้อย่าง

สงสัยแล้วมองว่าผู้หญิงคนนี้คือใครกันนะ ทำไมป๊อปปี้ที่จู้จี้จุกจิกกับเธอถึงถอยห่างออกมาได้

 

 

 

 

 

 

“ว้าว ขอบคุณนะคะ ชุดร้านคุณเฟย์สวยๆทั้งนั้นเลย ไว้ฟางจะกลับมาอุดหนุนอีกนะคะ”ฟางยิ้มเมื่อ

เดินออกมาจากร้านพร้อมพ้อยท์และเฟย์เอาถุงเสื้อผ้าถุงโตให้ป๊อปปี้ถือ

 

 

 

 

 

 

 

“ได้เลยค่ะ มีลูกค้าน่ารักๆแบบนี้ยินดีเลยค่ะ แล้วเจอกันนะป๊อปปี้ บาย”เฟย์พูดแล้วยิ้มหวานให้

ป๊อปปี้ที่หยิ้มเจื่อนๆก่อนทั้งหมดจะแยกออกมาจากร้านเฟย์แล้วแวะที่ร้านไอติม

 

 

 

 

 

 

 

“นั่นคือคนรักของนายหรอ”ฟางถามเมื่อนั่งอยู่ในร้าน

 

 

 

 

“เปล่าครับ”ป๊อปปี้ตอบนิ่งๆ

 

 

 

 

 

“หรอ ไม่ใช่แล้งทำไมถึงทำหน้าเศร้าล่ะ เราว่านี่ต้องเป็นคนรักเก่าของนายแน่ๆเลยป๊อปปี้ เป็นอะไร

จบกันไม่ดีงั้นหรอ ทั้งๆคุณเฟย์น่ารักแบบนี้ทำไมนายถึงเลิกได้ล่ะ”ฟางถามต่อทันที

 

 

 

 

 

“นี่องค์หญิงนี่มันเรื่องส่วนตัวของผมนะครับ ถ้าองค์หญิงว่างมากเนี่ยผมว่า นั่นไงไอติมมาแล้ว ทาน

ไอติมเถอะพะยะค่ะ”ป๊อปปี้รีบพูดตัดบทประชดฟางเมื่อไอติมถูกเสิร์ฟที่โต้ะ

 

 

 

 

 

“เราสั่งมาตั้งเยอะทานคนเดียวเราทานไม่หมดหรอก เอ วันนี้นายทั้งขับรถทั้งถือของให้เราทั้งวัน

เดี๋ยวเราป้อนให้นะ”ฟางยิ้มหวานก่อนจะตักวิปครีมคำโตยัดปากป๊อปปี้จนปากเลอะแล้วจัดการบีบปาก

ป๊อปปี้ให้อ้าแล้วยัดไอติมไปหลายคำ และตามด้วยเอาวิปครีมป้ายแก้มป๊อปปี้ก่อนจะหัวเราะออกมา

อย่างสะใจ

 

 

 

 

 

 

“องค์หญิงเพคะทำกิริยาไม่น่ารักเลยนะเพคะ”พ้อยท์แบบหยิกฟางเชิงดุทีนึง

 

 

 

 

 

 

“พ้อยท์ก็เห็นว่านายนี่น่ะทำตัวไม่น่ารักกับเราก่อนนะ สมน้ำหน้าแบบนี้ต้องโดนสั่งสอน”ฟางรีบพูด

ก่อนจะหันไปแลบลิ้นใส่ป๊อปปี้อย่างสะใจ จนป๊อปปี้แอบย่นจมูกใส่นิดนึง

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรครับ”ป๊อปปี้พูดจบฟางก็เอาวิปครีมป้ายแก้มอีกข้างและหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่ได้

แกล้ง

 

 

 

 

พอทำเรื่องใสๆ คนอ่านก็หาย สงสัยต้องกลับไปแต่งดราม่าแล้วล่ะมั้ง เห้อออ

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา