Princess diary บันทึกรักฉบับเจ้าหญิง

9.4

เขียนโดย Chapond

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.39 น.

  35 ตอน
  445 วิจารณ์
  67.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 23.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) อย่าบอกให้ใครรู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แก้ว เดี๋ยวเช็ดตัวก่อนนะ”เมื่อโทโมะออกไปแล้ว พิมก็พูดก่อนจะพยายามปลุก แต่แก้วได้แต่ร้อง

อื้อ อา เพราะไข้ขึ้น ไม่มีแรงแม้จะลืมตา พิมจึงจัดการถอดเสื้อผ้าแก้วออกเพื่อเช็ดตัวให้

 

 

 

 

 

“เอ๊ะ ตรานี่ ทำไมแก้วถึงมีตรานี่”พิมพลิกแก้วเพื่อจะเช็ดตัวที่หลังต้องแปลกใจที่เห็นตรานกอินทรีย์

โบราณของกษัตริย์องค์ก่อนอยู่บริเวณด้านหลังเอวของแก้ว ก่อนจะจัดการใส่เสื้อผ้าและเฝ้าไข้แก้ว

ตลอดทั้งวันตามคำสั่งที่โทโมะสั่งเมื่อกี้นี้

 

 

 

 

 

“เป็นยังไงบ้างพิม ยัยเด็กดื้อฟื้นมั้ย”โทโมะถามเมื่อเรียนเสร็จก็รีบกลับมาหาแก้วที่ห้องไม่ได้หนีไป

เที่ยวที่ไหนอีก พิมส่ายหน้าเพราะแก้วไม่มีท่าทีจะฟื้นเลย

 

 

 

 

 

“สงสัยแก้วคงจะเพลียน่ะเพคะ เมื่อกี้แม่ครัวมาตามให้พิมไปช่วยงานที่ครัว เดี๋ยวพิมมานะเพคะ”พิม

ที่เห็นแววตาโทโมะที่มองแก้วก็เศร้าก่อนจะรีบออกจากห้องไปทันที

 

 

 

 

 

“ยัยเด็กดื้อ เป็นไง เป็นไข้เลยล่ะสิ”โทโมะพูดเมื่อนั่งลงข้างเตียงแล้วลูบผมแก้วอย่างอ่อนโยนก่อน

จะเอนหลังพิงตัวเองข้างๆแก้ว

 

 

 

 

 

 

“แม่จ๋า อย่าเป็นอะไรนะ”แก้วละเมออกมาเป็นห่วงแม่จนโทโมะชะงัก

 

 

 

 

 

“ยัยบ้า ห่วงตัวเองก่อนสิ แม่เธออยู่ในความดูแลของหมอหลวงแล้วน่า”โทโมะส่ายหน้ากับแก้ว

ขนาดตัวเองยังป่วยก็ไม่วายจะเป็นห่วงคนอื่น ดูแลตัวเองบ้างสิ

 

 

 

 

 

“พี่กู้ด แก้วเจ็บ อย่าทำแก้ว”แก้วละเมอร้องออกมาจากความทรงจำวัยเด็กที่เธอมักจะถูกกู้ดดี้แกล้ว

เสมอ

 

 

 

 

 

 

“เป็นพี่น้องประสาอะไรเนี่ย แกล้งน้องจนน้องกลัวเลยหรอเนี่ย”โทโมะมองแก้วที่ดิ้นแล้วกอดตัวเอง

ก็รีบกอดแก้วไว้เพราะกลัวแก้วตกเตียง

 

 

 

 

 

 

ตึกๆ

 

 

 

 

เมื่อโทโมะกอดแก้ว สัมผัสลงหายใจร้อยๆทำให้เขาหน้าแดงใจเต้นรัว ความรู้นี้มันอะไรกัน

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องกลัวนะแก้ว พักผ่อนเถอะนะ”โทโมะกระซิบข้างหูก่อนจะเอามือปาดน้ำตาที่ไหลมาจากหาง

ตาแก้วที่กลับ แล้วก้มลงหอมแก้มแก้วอย่างอ่อนโยน แล้วรีบเด้งไปนั่งตามปกติเมื่อได้ยินเสียงประตู

ที่พิมบิดลูกบิดเปิดเข้ามาพร้อมกับหนังสือราชวงค์เก่าๆจากห้องหนังสือ

 

 

 

 

 

“เอาหนังสือมาทำไมน่ะพิม”โทโมะมองพิมอย่างแปลกใจว่าพิมสนใจหนังสือตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

 

 

 

 

“จริงด้วยเพคะองค์ชาย ตรานกอินทรีย์โบราณนี่เป็นตราของราชวงค์กษัตริย์องค์ก่อนที่ราชวงค์ของ

องค์ชายจะมาปกครองนี่เพคะ”พิมเปิดหนังสือแล้วเอาตรานกอินทรีย์ให้โทโมะดู ทำให้โทโมะนึกได้

 

 

 

 

 

 

“จริงสิ นี่เธอเห็นตรานั่นบนตัวแก้วแล้วล่ะสิ”โทโมะพูด พิมพยักหน้า

 

 

 

 

 

“บุคคลที่สืบเชื้อสายราชวงค์เท่านั้นถึงจะมีตราสัตว์โบราณประจำราชวงค์นี้ได้”โทโมะพูดแล้วมอง

ตรานกฟีนิกซ์ของราชวงค์ตัวเอง ที่ตอนเด็กๆเขาถูกเสด็จพ่อให้ปั๊มตรานี่ที่ด้านหลัง

 

 

 

 

 

“ตอนที่พิมเด็กๆ พ่อแม่บอกว่าราชวงค์องค์ก่อนมีโอรส2พระองค์ แต่วันนั้นได้เกิดกบฏมาลอบ

สังหารโค่นล้มราชวงค์ ถ้าเสด็จพ่อองค์ชายไม่มาพร้อมพวกทหารจากวังไปช่วย องค์ชายกั้งคงไม่

รอด และองค์พี่ที่ได้ขวบนึงนั้นหายสาบสูญ”พิมพูดถึงช่วงนั้นที่มีการเกิดกบฏแล้วกษัตริย์และราชีนี

องค์ก่อนต้องสิ้นพระชนม์เหลือรอดแค่องค์ชายกั้งจนกษัตริย์kzเหนือองค์ปัจจุบันต้องรับเป็นยุตรบุญ

ธรรม เป็นน้องชายของโทโมะที่อายุได้3ขวบ

 

 

 

 

 

“งั้น นี่เป็นความลับของเรา2คน พิม ชั้นมอบหมายให้เธอไปตามหาองค์ชายที่หายสาบสูญตามเนิน

เขาที่เกิดเหตุ เอาธามไทไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ได้เรื่องยังไงกลับมาบอกชั้นด้วย”โทโมะสั่ง พิ

มรับคำก่อนจะรีบออกไปจัดการทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

“เธอเป็นใครกันแน่แก้ว”โทโมะพูดแล้วมองร่างบางที่หลับอยู่ด้วยความสงสัย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จะไปไหนน่ะองค์หญิง”เสียงพูดผ่านไมค์พูดขึ้นเมื่อป๊อปปี้เห็นฟางผ่านกล้องวงจรปิดหยิบหมวก

และสวมรองเท้ากับพ้อยท์อยู่

 

 

 

 

 

“อ้าว นายไม่ได้หลับหรอกหรอ”ฟางตกใจเพราะก่อนที่เธอจะไป พ้อยท์แกล้งเอาชาไปให้ป๊อปปี้

และรีบกลับมารายงานว่าป๊อปปี้หลับอยู่

 

 

 

 

 

“เอ้า ผมน่ะบอดี้การ์ดองค์หญิงนะครับ เป็นมือ1ของประเทศ องค์หญิงน่ะจะมาหาว่าผมหลับไม่ได้

เมื่อกี้ผมแค่พักสายตา”ป๊อปปี้ตอบ

 

 

 

 

 

“ก็เราเห็นแม่บ้านเค้าทานเส้นๆน่ะเหมือนสลัดเลยแต่เป็นมะละกอ เห็นเค้าเรียกว่าส้มตำๆเนี่ยล่ะ

ได้ยินว่าซื้อที่หน้าปากซอย น่านี่มันตอนกลางวันแล้วเราไปแปปเดียวเองนะ”ฟางรีบอ้อน

 

 

 

 

 

 

“แล้วองค์หญิงกับคุณพ้อยท์สั่งเป็นหรอ”ป๊อปปี้ถาม 2สาวยิ้มและส่ายหน้าทันที

 

 

 

 

 

“งั้นรอแปป”ป๊อปปี้พูดแล้วปิดไมค์ก่อนจะออกมาจากห้องเพื่อพาฟางไปข้างนอกเพราะกราฟต้องไป

คุยกับหัวหน้า และเขื่อนไปทำงานที่สถานฑูต

 

 

 

 

 

 

 

“ผมว่า วันนี้คนไม่เยอะ เราทานที่ร้านละกันนะครับ มา เดี๋ยวผมสั่งให้”ป๊อปปี้พูดแล้วยิ้มให้ฟางและ

พ้อยท์สักพักส้มตำและอาหารอีสานก็ถูกวางลงเต็มโต๊ะ

 

 

 

 

 

“เนี่ยน่ะ คือข้าวเหนียว ต้องกินแบบนี้”ป๊อปปี้พูดแล้วบิดข้าวเหนียวแล้วจิ้มลงในน้ำส้มตำก่อนจะใช้

ส้อมตักส้มตำเข้าปากไป

 

 

 

 

 

“ลองบ้างๆ”ฟางและพ้อยท์พูดแล้วลองกินบ้าง

 

 

 

 

“อ๊า เผ็ดจัง”ฟางร้องเมื่อทานส้มตำไป

 

 

 

 

 

“เอางี้ผมสั่งไม่เผ็ดอีกจานให้นะครับ”ป๊อปปี้พูดแล้วส้มตำแบบไม่เผ็ดของฟางก็วางลงหน้าฟาง

 

 

 

 

 

“อร่อยจัง”ฟางยิ้มก่อนจะนั่งกินเอาๆ จนป๊อปปี้และพ้อยท์อดยิ้มกับความร่าเริงสดใสของฟางไม่ได้

 

 

 

 

 

“ทำไมไม่กินผัก”ฟางพูดเมื่อเห็นป๊อปปี้กินทุกอย่างยกเว้นมะเขือเทศในจาน

 

 

 

 

“ผมอิ่มแล้วครับ”ป๊อปปี้พูดแล้วยิ้มแล้วแกล้งดื่มน้ำทันที

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ผักมีประโยชน์จะตาย กิน นี่เราสั่งให้กิน”ฟางพูดแล้วเอาส้อมจิ้มมะเขือเทศครึ่งซีกยื่นจ่อตรง

ปากป๊อปปี้ทันที

 

 

 

 

 

“นี่ถ้าผมไม่กินนี่ระเบิดจะลงใช่มั้ยคุณพ้อยท์”ป๊อปปี้หันไปขอตัวช่วย พ้อยท์พยักหน้า ป๊อปปี้จึงต้อง

อ้าปากให้ฟางยัดมะเขือเทศเข้าปากป๊อปปี้ทันที ชายหนุ่มเคี้ยงอย่างลำบาก ฟางได้แต่หัวเราะหึๆ

 

 

 

 

 

 

 

“อิ่มจัง มื้อนี้นายเลี้ยงด้วย”ฟางพูดเมื่อทั้ง3คนเดินกลับ

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวถ้าพาองค์หญิงมากินทุกวันๆนะ ผมนะไม่ห่วงเรื่องตังค์หมด แต่ผมว่าองค์หญิงต้องอ้วน จน

เป็นฮิบโปน้อยแน่ๆ555”ป๊อปปี้แกล้งแซวฟางทันที

 

 

 

 

 

 

 

เพี้ยะ

 

 

 

 

ฟางฟาดลงไปเต็มๆแขนป๊อปปี้ก่อนจะหยิกจนป๊อปปี้ต้องเอี้ยวตัวหนี

 

 

 

 

 

 

“ว่าเรางั้นหรอๆ นี่แน่ะๆ”ฟางพูดแล้วหมายจะไล่หยิกป๊อปปี้ ทั้งคู่วิ่งไล่กันไปมาระหว่างทางกลับบ้าน

อย่างสนุกสนานก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์ป๊อปปี้ดังขึ้น

 

 

 

 

 

“ฮัลโหลครับแม่”ป๊อปปี้รับสายแม่ตัวเองแล้วคุยกันสักพักก่อนจะวาง

 

 

 

 

 

“มีอะไรรึเปล่าป๊อปปี้”ฟางรีบถาม

 

 

 

 

 

 

“แม่ผมอยากให้ผมกลับบ้านไปน่ะครับเพราะว่าวันนี้มีพวกนายทุนมาขอซื้อที่ที่สวนแม่ผม เอ่อ ผม

ว่า”ป๊อปปี้พูดอึกอักเพราะเขาไม่อยากทิ้งฟางไม่ไหน

 

 

 

 

 

“เรารู้ว่านายห่วงเราเอางี้ งั้นพวกเราก็ไปบ้านแม่นายเลย จะได้ถือเป็นการพักผ่อนด้วย ใช่มั้ยพ้อ

ยท์”ฟางพูดแล้วหันไปหาพ้อยท์ พ้อยท์พยักหน้าเพราะไม่อยากให้ป๊อปปี้ทิ้งแม่อยู่คนเดียว

 

 

 

 

 

“เอางั้นก็ได้ครับ”ป๊อปปี้พูด ฟางยิ้มดีใจก่อนจะรีบดึงมือป๊อปปี้ให้วิ่งกลับบ้านไปด้วยกันเพื่อเตรียมตัว

เก็บเสื้อผ้าออกเดินทางไปบ้านสวนของป๊อปปี้ที่ชานเมืองกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ้า เขื่อนยังไม่มาหรอคะคุณกราฟ”ฟางแปลกใจที่เขื่อนยังไม่กลับมาพร้อมกราฟตามปกติ

 

 

 

“มันบอกจะไปซื้อของให้แม่มันอ่ะครับองค์หญิง”กราฟพูด

 

 

 

 

 

“งั้นคุณกราฟบอกให้เขื่อนตามไปที่บ้านสวนของนายป๊อปปี้ด้วยนะคะ วันนี้พวกเราจะไปนอนบ้าน

สวนกัน”ฟางพูดแล้วยิ้ม กราฟพยักหน้าก่อนจะพากันขึ้นรถไป โดยที่ป๊อปปี้เป็นคนขับ กราฟนั่งข้าง

หน้าแล้วมีฟางและพ้อยท์นั่งด้านหลัง และตลอดทางป๊อปปี้แอบมองฟางผ่านกระจกด้านหน้าตลอด

และแอบยิ้มให้ฟางเช่นเดียวกับฟางที่แอบยิ้มกลับให้ป๊อปปี้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรนะ ที่องค์หญิงรอดได้เพราะมีบอดี้การ์ดฝีมือดีที่ไทยดูแลงั้นหรอ”โฟร์วางสายจากพวกกบฏที่

ส่งตัวไปลอบสังหารฟางที่เมืองไทยแล้วอารมณ์เสียเมื่อได้รับข่าวกลับมาว่าฟางยังปลอดภัย

 

 

 

 

 

 

“เอาอย่างงี้สิองค์หญิง ถ้าไปหาที่ไทยแล้วมีคนปกป้อง เราก็จัดการกับคนที่องค์หญิงเล็กรักทีสุดสิ

พะยะค่ะ”แบงค์ที่เดินมากอดปลอบโฟร์แล้วพูดแนะโฟร์ทันที

 

 

 

 

 

“นั่นน่ะสิ ชั้นก็คิดไว้อย่างนั้นเหมือนกัน ถ้าเสด็จพ่อเป็นอะไรไปยัยฟางต้องกลับมาดูใจเสด็จพ่อ

แน่ๆ”โฟร์ยิ้มเยาะกับแบงค์ก่อนจะเอาห่อยาในกระเป๋าออกมา

 

 

 

 

แก้วเป็นใครกันนะ ต้องติดตาม ส่วนป๊อปฟางนี่เตรียมตัวพากันหนีตายได้เลย 5555

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา