เพียงเงา

9.5

เขียนโดย sunyo

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.35 น.

  51 ตอน
  435 วิจารณ์
  79.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 23.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) มันเกิดอะไรกับใจดวงนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                             บ้านหลังใหญ่ที่อยู่กลางใจเมือง มีชายหนุ่มสวมสูทดำนับร้อยคนยื่นอยู่ตามบริเวณบ้าน  ทั้งหมดใส่แว่นดำพร้อมทั้งมีเข็มกลัดสัญลักษณ์ติดที่ปกเสื้อ  ไม่นานมีรถเข้ามาภายในบ้านติดกันสี่คัน  ก่อนที่สองคนจะวิ่งไปเปิดประตูรถให้กับผู้ที่นั่งอยู่ในรถ 

 

 

 

 

           "  บอม เดี๋ยวตามชั้ลเข้าไปที่ห้องทำงาน " ชายกลางวัยเอ่ยขึ้น ก่อนที่บอมจะก้มหัวเป็นการรับคำ  แล้วชายผู้นั้นก็เดินเข้าบ้านไป 

 

 

 

           " คงจะไปเลียขานายใหญ่เหมือนเดิมซินะ " ทรงกรด คนสนิทของชายกลาวัยพูดอย่างเย้ยหยัน

 

 

 

           " ฉันเป็นคน และเป็นคนที่ไม่ใช่นิสัยหมา " บอมพุดจบก็เดินเข้าบ้านไป ทรงกรด กำหมัดแน่น ทั้งโกรธทั้งแค้นที่โดยหักหน้า

 

 

 

 

                   ก๊อก ๆๆๆ บอมยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง คนในห้องอนุญาต บอมเดินเข้าไปอย่าง

 

 

 

 

            "  นี่รางวัลของชั้ล สำหรับคนที่ทำให้ชั้ลมีรายได้มหาศาล " เมฆา ผู้ทรงอิทธิพลรายใหญ่ที่สุด ผู้ที่เป็นนายใหญ่ที่ ทีมของผู้กองไตรคุณกำลังตามตัว  เขายื่นสร้อย พร้อมแหวน 1 วงให้กับบอม

 

 

 

           " นายครับ คือ ผม...   " บอมหยิบสร้อมขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าจี้ของสร้อมเส้นนั้น เป็นจี้สัญลักษณ์ของกลุ่ม ก็อ้ำๆอึ้งๆ ไม่กล้ารับ 

 



           " สร้อยกับแหวน เป็นของผู้หญิง ชั้ลให้นายเอาสร้อยเส้นนี้ไปใหเ้ผู้หญิงของนาย  " เมฆาพูด พลางนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่

 



             " ผมยังไม่มีใคร " บอมพูด

 



            " เก็บเอาไว้ สร้อยและแหวนกับจี้สัญลักษณ์ ชั้ลจะมอบให้เฉพาะคนที่ภักดีต่อชั้ลเท่านั้น นายน่าจะรู้ว่าชั้ลเป็นคนมีอิทธิพลต่อเมืองนี้มากแค่ไหน ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชั้ล ไม่มีใครไม่รู้จัก King Fox  เพราะฉะนั้น ผู้หญิงคนไหนที่สวมใส่สร้อยคอ ที่มีจี้ ตัวKF จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ เธอจะปลอยภัยในทุกอย่าง  รับไปซะ " เมฆาพุดอย่างจริงจัง และเสียงหนัก บอมจำต้องรับมันไว้ 

 


 
             "  นายเป็นคนที่ชั้ลไว้ใจ แต่ถ้านายหนักหลังชั้ล ผลก็คือ ตาย สถานเดียวเหมือนกัน " เมฆาพูด

 



            " นายใหญ่ชุบเลี้ยงชีวิตผมมา ผมไม่มีวันหักหลังนายใหญ่แน่นอนครับ " บอมพูดอย่างจริงจัง  เมฆายิ้ม 

 



            "  ดี  ชั้ลเลือกคนไม่ผิดจริงๆ พร้อมจะรับงานต่อไปแล้วยัง  " เมฆาพูด 

 



            " พร้อมครับ  " บอมพูด

 

 



               "  ส่งยาบ้าให้พ่อค้ารายย่อยทุกราย  อย่าให้พวกหมู หมา กา ไก่ มันรู้เด็ดขาด " เมฆาพูด 

 



              " ครับนาย " บอมพด 

 



             " ดี เรื่อง เวลา สถานที่ ไปจัดการให้เรียบร้อย รายชื่อพ่อค้ารายย่อย อยู่ในห้องลับชั้ลใต้ดิน " เมฆาพูดจบก็หมุนเก้าอี้ัหันหลังให้กับบอม บอมก้มหัวเคารพ แล้วเดินออกไปหนาบ้าน

 

 



             " นายใหญ่เรียกแกเข้าไปทำไม " ทรงกรดถามอย่างสงสัย

 



             " ชั้ลจำเป็นต้องรายงานแกมั้ย " บอมพูด 

 

 



             "  อย่าคิดจะอยู่เหนือกว่าชั้ลนะไอบอม แกมันก็แค่เด็กใหม่ที่มาอยู่หลังชั้ล ยังไงนายใหญ่ก็ไม่มีวันเห็นแกดีกว่าชั้ล " ทรงกรดพูดอย่งใส่อารมณ์

 

 



             " เด็กใหม่อย่างชั้ล ก็มีฝีมือไม่น้อยไปกว่าแก อาจจะมีฝีมือมากกว่าแกซะด้วยซ้ำ " บอมพูดจบก็เดินออกไป ทรงกรดมองไล่หลังไปอย่างเอาเรื่อง แต่ต้องข่มอารมณ์เอาไว้

 

 

 

 

 

                       ห้องนอนหรู ภายในบ้านหลังใหญ่โต กับหญิงร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง โดยมีองครักษ์ร่างสูงที่นอนเฝ้าอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ห่างหายไปไหน ไม่นานนักร่างเล็กก็ขยับเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาแห่งความเศร้าจะเบิกกว้างอีกครั้ง 

 

 

 



                "  =.= " แก้วลุกขึ้นมานั่งโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าโทโมะนานฟุบอยู่ใกล้ๆ  มือเล็กกุมหน้าผากตัวเล็กเพราะรู้สึกปวดหัวอย่างมาก 

 



             " ตื่นแล้วหรอ ปวดหัวรึปล่าว "  โทโมะที่งัวเงียตื่นขึ้นมา พอเห็นแก้ว นั่งกุมขมับตัวเอง ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง 

 



             " เห้ย ! นี้นายมาอยู่ในห้องชั้ลได้ยังไง นายทำอะไรชั้ลรึปล่าว " แก้วถอยหนีอย่างเร็วเมื่อได้ยินเสียงและเห็นหน้าโทโมะ เธอลุกออกจากเตียงไปยื่นอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องในสภาพที่ยังมึนๆงงๆอยู่ โทโมะลุกขึ้นยื่น จะเดินตามไปแต่พอเห็นหน้าแก้วที่ยื่นตื่นตระหนกอยู่ ก็ไม่กล้าเข้าไป ได้แต่ยื่นอธิบายอยู่ห่างๆ

 

 


             "  ชั้ลไม่ได้ทำอะไร เมื่อคืนเธอดื่มหนักไปหน่อย ชั้ลก็เลยพามานอนที่นี้ แล้วชั้ลก็เพลอหลับไป " โทโมะพูด แก้วมองหน้าชั่งใจ เพราะไม่เชื่อเท่าไหร่

 

 



             "  เสื้อผ้าเธออยู่ครบ เสื้อผ้าชั้ลก็อยู่ครบ สภาพเตียงยังปกติ  " โทโมะพูด แก้วหันมองตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบ มองร่างโทโมะ ก็พบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบ มองไปที่เตียงก็พบว่าเตียงยังอยู่ปกติ ผ้าปูเตียงไม่ได้หลุดลุ้ย เหมือนตอนที่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ

 



             " แล้วทำไมไม่พาชั้ลไปที่ห้องตัวเอง " แก้วพูด 

 



            " เธอมานอนห้องนี้แล้วกัน ห้องนั้นชั้ลจะเก็บของที่ไม่ใช้แล้ว " โทโมะพูดหน้านิ่ง  แก้วมองหน้าอย่าง งงๆ 

 

 


           " เก็บของอะไร นายซื้อของใหม่เข้าบ้านหรอ " แก้วยังงงอยู่ 

 



           " เออ ก็ซื้อของใหม่มาสิ ตกลงจะนอนมั้ยห้องนี้ หือจะไปนอนห้องเดียวกับชั้ล  ก็ได้นะ จะได้ทำอะไรง่ายๆหน่อย " โทโมะพูด

 



           " ไม่ๆๆๆ ชั้ลอยู่ห้องนี้แหละดีแล้ว " แก้วพูดจบ โทโมะจะเดินออกไปจากห้อง  แก้วจะเดินตามไป 

 



           " จะไปไหน " โทโมะหันหน้ามาถาม แก้วปวดหัวจนไม่ได้ยินเสียงโทโมะ เธอเดินต่อไปจนชนโทโมะ เซจะล้ม แต่โทโมะรับไว้ทัน แก้วสบัดศรีษะอย่างแรงเพื่อเรียกสติ แต่ก็เหมือนว่าสติสตางค์จะยังไม่กลับมา

 



           " ชั้ลว่าชั้ลไม่สบาย " แก้วพูด อย่างมึนๆ 

 



           " ไม่ใช่ว่าไม่สบายหรอก เธอแฮ้งเหล้า " โทโมะพูดพลางประคองแก้วไปนั่งที่เตียง

 



           " เมื่อคืนชั้ลดื่มหนักเลยหรอ " แก้วพูด

 



           " ก็ใช่ได้ ดื่มไปเพรียวๆ เกือบหมดขวด ก่อนหน้าก็ไม่รู้ว่าดื่มมาเท่าไหร่ " โทโมะพูด 

 



            " แล้วนายดื่มด้วยรึเปล่า " แก้วพูด

 



            " ไม่ได้ดื่ม " โทโมะพูด

 



            " ชั้ลว่านายแปลกๆเหมือนคนเมาเหล้านะ " แก้วพูด

 



           " แปลกยังไง ชั้ลก็ปกติดีนิ " โทโมะพูด มองแก้วอย่างงงๆ แก้วก็มองโทโมะอย่างไม่เข้าใจ

 



           "  ก็แปลกตรงที่นายมาทำดีกับชั้ลไง ไม่โกรธไม่เกลียดชั้ลแล้วหรอ " แก้วถาม แววตาเธอดูเศร้าไปมาก  โทโมะอ้ำๆอึ้งๆ 

 



          " อย่าเรื่องมากได้มั้ย ชั้ลจะดีจะร้ายมันก็เรื่องของชั้ล วันไหนชั้ลอารมณ์ดีชั้ลก็ดี วันไหนชั้ลอารมณืไม่ดี ชั้ลก็ร้าย แล้วเธอก็ต้องรับให้ได้ทุกอย่างที่ชั้ลเป็น " โทโมะลุกขึ้นยื่นโวยวาย กลบเกลื่อนข้อสงสัยของแก้ว




          " ชั้ลว่านายคงจะหายเมาแล้วหละ เพราะนายกลับมาเป็นปกติแล้ว  " แก้วมอง แววตาดูเศร้า เหมือนเดิม  โทโมะไม่กล้าสบตา  รีบเดินออกไปจากห้อง  แก้วลองไล่หลังไป กอนจะล้มตัวลงนอน

 

 


          " กินนี้ แล้วก็ตอน ทำตัวให้หายเร็วๆ พรุ่งนี้จะได้ไปทำงานกับชั้ล " โทโมะพูดพลางยื่นน้ำมะนาวให้แก้ว แก้วลืมตาขึ้นมามอง อย่างงงๆกับท่าทีของโทโมะ  เธอพยุงร่างขึ้นมานั่ง จะพูดกับเขา แต่โทโมะกลัลเดินออกจากห้องไปซะก่อน 

 



          " = . = "  แก้วหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาดื่ม รวดเดียวหมด โทโมะที่แอบมองอยู่ข้างนอกเปรี้ยวปากแทน แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ 

 



           " กินยังกับคนท้อง " โทโมะพูด ก่อนจะปิดประตูห้องแก้วแล้วเดินไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน 

 

 

 

 

                    ทางด้านวีรวิทย์ ก็พยามโทรหาแก้ว แต่ก็โทรไปติด  เขามองโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ไม่นานเลขาหน้าห้องก็เข้ามาในห้องวีรวิทย์

 

 



               " ท่านประธานค่ะ คุณอิทธิส่งพนักงานมาทำหน้าที่แทนพนักงานคนเก่าที่ลาออกไปแล้ค่ะ " เลขาพูด วีรวิทย์หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที

 

 



               " อือๆ บอกให้ไปทำงานกับคุดชาได้เลย  ผมให้คุณเดชารับผิดชอบงานนี้ต่อจากผมแล้ว " วีรวิทย์ดูผิดหวังเป็นอย่างมาก เลขาพยักหน้าและเดินออกไป 

 

 



                " พี่วีของกวางเป็นอะไรไปหรอค่ะ หน้าเครียดเฉียว " กวางที่แต่งตัวสวย เดินเข้ามาหาวีรวิทย์ก่อนจะเข้าไปคลอเคลียวีรวิทย์

 

 



               " ไม่มีอะไร เครียเรื่องงานนิดหน่อย " วีรวิทย์พูดอย่างปัดๆ เพราะไม่มีอารมณ์สวีทหวานอย่างกวาง

 



               " คงจะเครียดเรื่องที่แก้วไม่สามารถมาทำงานให้พี่ได้ใช่มั้ยค่ะ " กวางเริ่มโกรธ เมื่อรู้สึกว่าวีรวิทย์ไม่สนใจเธอเหมือนอย่างก่อน

 


 
               " นี่กวางรู้เรื่องงนี้ได้ยังไง แล้วรู้รึเปล่าว่าทำไมแก้วถึงลาออก " วีริทย์ถามอย่างตั้งใจ ผิดกับกวางที่รู้สึกเจ็บที่วีรวิทย์สนใจในตัวแก้วมากขนาดนี้

 

 



               " พี่ไม่ต้องรู้หรอกว่ากวางรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แต่กวางอยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงสนใจมันนักหนา " กวางพูดแล้วร้องไห้ออกมา วีรวิทย์อึ้งไป 

 




               " กวางอย่าร้องไห้สิ คือ แก้วเค้าแค่ทำงานเก่ง พี่เสียคนทำงานดีๆไป ก็ต้องเครียดซิค่ะ " วีรวิทย์พูด พลางเดินเข้าไปเช็ดน้ำตาให้กวาง

 

 



               "  พี่แน่ใจหรอค่ะ ว่าแค่นั้นจริงๆ  พี่รักกวางอยู่อีกรึเปล่า  " กวางมองหน้าวีรวิทย์อย่างน้อยใจ

 

 



               "  ทำไมถึงถามพี่แบบนั้นหละ " วีรวิทย์ถาม เขาไม่กล้าตอบคำถามกวาง เพราะ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าเขารักแก้วหรือรักกวางกันแน่

 

 



               " กวางรักพี่มากนะ พี่อยากให้กวางเปลี่ยนตรงไหน พี่บอกกวางมาได้เลย กวางยอมทำให้พี่ทุกอย่าง " กวางรู้คำตอบทันทีที่วีรวิทย์ไม่ตอยคำถามของเธอ เพราะ่อนหน้านี้ ถ้าถามว่าเค้ารักเธอมั้ย เค้าจะตอบทันทีว่ารัก หากแต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไป 

 



              " พี่อยากให้กวางทำงาน กวางจะทำให้พี่ได้รึเปล่า " วีรวิทย์ เมื่อมองแววตาของกวาง เมื่อเขาเห็นหยดน้ำตาของเธอ ก็เริ่มใจอ่อน สงสารเธอขึ้นมา 

 



              " ได้สิ กวางทำงานเพื่อพี่ได้ จะให้กวางทำอะไรหละค่ะ " กวางเช็ดน้ำตา ดีใจจนเนื้อเต้น 

 

 



              " ทำงานอะไรก็ได้ ที่บริษัทของพ่อกวาง " วีรวิทย์พูด  กวางนิ่งไป 

 



              " ทำงานกับพี่ไม่ได้หรอ " กวางอ้อน 

 



             " ช่วยพ่อทำงานดีกว่า เชื่อพี่นะ " วีรวิทย์อ้อนกลับ 

 


 
             " ก็ได้ค่ะ  แต่พี่ต้องสัญญานะ ว่าพี่จะรักกวาง ไม่นอกใจกวาง พี่สัญญากับกวางได้มั้ย " กวางพูด เธอมองตาวีรวิทย์อย่งหาคำตอบ วีรวิทย์อึ้งอัง ไม่กล้าพูด แต่เมื่อเห็นว่ากวางจะร้องไห้อีกครั้ง เขาจึงพยักหน้ารับคำ กวางดีใจมาก โผล่เข้ากอดวีรวิทย์แน่น

 



              " งั้นกวางกลับก่อนจะ กวางจะไปสมัครงานกับคุณพ่อ " กวางพูด ใบหน้าเธอดูสดใสเข้ามาอีกครั้ง

 

 



               " ^^ " วีรวิทย์พยักหน้าก่อนจะยิ้มหวานให้เธออีกครั้ง เมื่อกวางเดินออกไปจากห้องก็ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ เพราะไม่รู้จะเอายังไงกับเรื่องความรักต่อไปดี 

 

 

 

                         

                      บริษัทของดิเรก กวางเข้ามาคุยกับพ่ออย่างจริงจังเรื่องการทำงาน โดยมีกาญจน์ พี่สาวของเธอนั่งอยู่ข้างๆ

 

 



                " คิดยังไงถึงอยากมาทำงานกับพ่อ " ดิเรกถาม

 



                " ก็แค่อยากเปลี่ยนตัวเอง เพื่อใครสักคน " กวางพูด คิดถึงวีรวืทย์ขึ้นมาทันที

 



                " น้องคงหมายถึง คุณวีรวิทย์ เจ้าของบริษัท SPS นะค่ะ " กาญจน์พูด

 



                "พี่นิรู้ใจน้องจริงๆเลย " กวางหันไปยิ้มกับกาญจน์

 



                 "  เค้าเปลี่ยนลูกของพ่อได้ขนาดนี้ กวางคงรักเค้ามากซินะ " ดิเรกพูด

 



               " รักมากซิค่ะ รักจนไม่อาจที่จะรักใครได้อีก " กวางพูด  ดิเรกนิ่งไป 

 



                " แล้วเรื่องที่พ่อจะให้ลูกแต่งงานกับโทโมะหละ " ดิเรกพูด




               " พ่ออย่ามาพูดเรื่องนี้กับกวางนะ พ่อยกนังแก้วให้เค้าไปแล้ว ยังจะมาพูดเรื่องนี้กับกวางอีกทำไม " กวางโวยวายทันที

 



               " พ่อให้แก้วไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะยกหนี้ให้เรานะลูก " ดิเรกพูด 

 



                "  พ่อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง " กาญจน์งง กวางเองก็ งงไม่แพ้กัน

 

 


               " พ่อให้แก้วเป็นข้อต่อรอง เพื่อรอกวาง " ดิเรกพูด

 

 

               "  รู้ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ให้เป็นข้อต่อรอง ไม่ใช่ว่าให้เมื่อล้างหนี้หรอพ่อ " กวาถาม

 

 

              " ไม่ใช่ หนี้เรายังเหลือเท่าเดิม " ดิเรกพูด 

 

 

              " ให้ฟรีหรอพ่อ " กาญจน์ถาม ดิเรกก้มหน้านิ่ง

 

 

 

               "  หึ  ไร้ค่าสิ้นดี   ไม่ต้องห่วงนะพ่อ พี่วีเค้ารักหนู เค้าไม่มีวันปล่อยให้หนูไปตกนรกเด็ดขาด ยังไง เค้าก้ต้องช่วยเราค่ะพ่อ " กวางพูดอย่างมั่นใจ

 

 

 

             " ก็เป็นอย่างนั้นก็ดี ทำยังไงก็ได้นะกวางให้เค้าขอหนูแต่งงานภายใน 3 อาทิตย์นี้  " ดิเรกพูด 

 

 

 

            " ได้ค่ะ หนูจะทำทุกอย่าง " กวางมีแววตามั่นใจ และมีแผนที่จะจับวีรวิทย์ 

 

 

 

            " ถ้ากวางแต่งงานกับคุณวีรวิทย์  แล้วเค้าจะช่วยเราใช้หนี้หรอพ่อ " กาญจน์ยังกลุ้มใจอยู่

 

 

 

            " ถึงเค้าไม่ช่วย แต่ถ้ากวางมันได้เป็นเจ้าสาวของวีรวิทญ์แล้ว เค้าคงไม่ปล่อยให้เมียของเค้าไปเป็นของคนอื่นหรอก " ดิเรกพูด

 

 

           " แล้วแก้วหละ " กาญจน์พูด

 

 

 

            " ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม " กาญจน์อึ้งไปกับคำพูดของพ่อ กวางฟังแล้วสะใจ

 

 

 

 

                        ค่ำคืนของวันนี้ แก้วทำอาหารค่ำจนเสร็จ แล้วจัดเตรียมอาหารไว้บนโต๊ะจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปข้างนอก โทโมะที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จพอลงมาไปเห็นแก้ว ก็ถึงกับใจหายวูบ 

 

 

 

             "  แก้ว !!  แก้ว !!! แก้ว !!!! " โทโมะตะโกนลั่น เดินหารอบบ้าน เรียกอยู่นานแต่ก็ไม่ขาน โทโมะเดินออกไปหาแก้วข้างนอกบ้าน เห็นรถจอดอยู่ ก็โล่งใจไปนิดนึง แต่ก็ยังหาต่อ จนมาเจอแก้วที่นั่งเล่นกันแมวจรจัดอยู่หน้ารั่วบ้าน 

 



             " มานั่งทำบ้าอะไรตรงนี้ จัดตะโกนเรียกคอจะแตกอยู่แล้ว " โทโมะพูด  แก้วตกลงรีบปล่อยแมว ก่อนจะลุกขึ้นยืนมาคุยกับโทโมะ

 



             "  มีอะไรขาดเหลือหรอ เดี๋ยวชั้ลไปเอาให้ " แก้วพูด 

 



             " ปิดประตูรั่ว แล้วเข้าไปในบ้าน " โทโมะออกคำสั่ง แล้วเดินเข้าบ้านทันที แก้วปิดประตูรั้วแล้วเดินตามเข้าไป 

 



             " ไปเอาจานกับช้อนมา " แก้วเดินเข้าครัวไปเอาจานกับช้อนมา แล้ววางไว้ให้โทโมะ 

 


 
            " นั่งลง ตรงนี้ " โทโมะพูด แก้ว งง แต่ก็ยอมนั่งลงตามคำสั่งอย่างว่าง่าย 

 



             " ตักข้าว " โทโมะพูด  แก้วตักข้าวให้โทโมะ  แล้วก็นั่งนิ่งๆ โทโมะมองอย่างไม่พอใจ แก้วเลยตักให้อีก 

 



            "  นี่เธอไม่มีสมองคิดเองบ้างเลยหรือไงฮะ " โทโมะเริ่มไม่พอใจกับท่าทีใสซื่อ จนเกือบโง่ขงแก้ว  แต่แก้วก็ยังไม่เข้าใจกับคำพูดของโทโมะอยู่ดี เขาเริ่มเซ็ง เลยตักข้าวใส่จานที่วางอยู่ตรงหน้าแก้ว

 



           "  กินซะ !!! " โทโมะพูด แก้วมองอย่าง งง ๆ แต่ก็ดีใจจนแทบจะร้องไห้  

 

 

 

                     ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกัน โดยที่แก้วตักข้าวข้าวนิดๆ อย่างเกรงใจโทโมะ  ทั้งคู่ทานข้าวจนเสร็จ แก้วก็เก็บจานไปล้าง  โดยที่โทโมะนั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น 

 

 



             " ขอบคุณมากนะ ที่ให้ชั้ลนั่งร่วมโต๊ะกับนาย " แก้วเดินเข้ามาพูดใกล้โทโมะ 

 



            " ทำอย่างกับว่าไม่เคยนั่งร่วมโต๊ะกับใคร  " โทโมะพูด 

 

 


           " ก็นอกจากพี่ไตร แล้วก็ 2 หมวด ชั้ลก็ไม่เคยนั่งรวมโต๊ะ กับใคร " แก้วพูด โทโมะหันขวับ มองแก้วตาเขียว

 



           "  ไอไตร  ! ใคร !! " โทโมะ ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าแก้ว  แก้วเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากพูดออกไป 

 



           " อ่อ เพื่อนตอนเล็กๆหนะ นานแล้ว " แก้วพูด ที่เธอโกหก เพราะกลัวโทโมะ จะเค้าถามจนรู้ว่าเธอเป็นสายสืบ 

 



           " แล้วไอ 2 หมวดหละใคร " โทโมะเสียงเบาลง

 



          " ก็เพื่อนเหมือนกัน ชื่อ 2 หมวด " แก้วพูด  โทโมะ เดินมานั่งที่เดิม

 

 


          " แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวกับใคร " โทโมะถาม 

 



          "  ก็ชั้ลอยู่บ้านคนเดียว นอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว ชั้ลไม่มีใคร นายจะให้ชั้ลไปนั่งร่วมโต๊ะกับใครหละ " แก้วพูด หน้าเฉยชา แต่แววตาดูเศร้ามอง โทโมะ มองอย่างเห็นใจ แต่ไม่รู้เรื่องชีวิตในอดีตของเธอ

 



         " ก็ไหนเธอบอกว่า ไอดิเรกมันเป็นพ่อเธอ แล้วกวางเป็นพี่สาวเธอ " โทโมะถามอย่างสงสัย


 

 

          " ใช่  แต่พ่อกับพี่ๆ อยู่ที่บ้านหลังใหญ่ ส่วนชั้ลอยูที่บ้านท้ายสวน " แก้วพูดหน้าเศร้า

 



          " แล้วทำไมไม่ขึ้นไม่อยู่กับพ่อกับพี่ที่บ้านหลังใหญ่หละ " โทโมะถามอย่างแปลกใจ

 



          " ไม่รู้สิ ตั้งแต่เกิดมาชั้ลก็อยู่แต่ที่บ้านหลังเล็ก ไม่เคยได้เข้าไปบ้านหลังใหญ่เลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่เดินผ่านหน้าบ้าน " แก้วพูด โทโมะยิ่งไม่เข้าใจหนัก

 

 

           "  แล้วแม่เธอหละ " โทโมะถามต่อ 

 



           " พอชั้ลเข้าอนุบาล แม่ก็เอาแต่เข้าบ่อนเล่นการพนัน บางวันก็กลับมานอนที่บ้านบ้า บางวันก็อยู่แต่ในบ่อนได้กลับบ้านเลย " แก้วพูด 

 



           " แล้วเวลากินข้าวหละ " โทโมะถาม 

 



           " ก็ออกไปหากินเอง บางครั้งป้าอร คนรับใช้ในบ้านหลังใหญ่สงสารก็เอามาให้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็หากินเองมากกว่า " แก้วพูด โทโมะอึ้งไป 

 



           " แล้วก็นั่งกินข้าวคนเดียวเนี่ยนะ " โทโมะถาม 

 



          " อื้ม  ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ชั้ลเลยชิน วันนี้นายมาชวนชั้ลกินข้าวร่วมโต๊ะกับนาย มันวิเศษมากเลยนะ ชั้ลรู้สึกดีมากเลย " แก้วพูด โทโมะมองหน้าแก้ว ได้ยินคำพูดของเะอก็รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก

 


 
          " หลังจากนี้ กินข้าวกับชั้ล " โทโมะพูด 

 



          " ห่ะ ????? " แก้วมองหน้าอย่าง งง หนัก โทโมะ รีบเบี่ยงประเด็นทันที

 



          " ใช่ว่าชั้ลจะพิศวาสอะไรเธอหรอกนะ แล้วไม่ต้องคิดว่าชั้ลอยากจะทำดีกับเธอ  แต่ชั้ลมันเป็นพวกที่ครอบครัวอบอุ่น นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกมาตลอด  ชั้ลแยกมาอยู่คนเดียวแบบนี้ มันก็ไม่แปลกที่ชั้ลจะเหงา " โทโมะพูด แก้วสะอึ้ง นิ่ง พูดไม่ออก  โทโมะมองแก้วอย่างรู้สึกผิด 

 

 

 

 

                   กริ๊งงง  กริ๊งงง  กริ๊งงงง  โทรศัพท์ดังขึ้น แก้วหยิบโทรศัพท์มาดู ก็หันมองโทโมะอย่าระแวง แล้วรีบเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก โทโมะ มองแก้วอย่างสงสัย แต่ก็ไม่อยากเดินตามไป ได้แต่มองอยู่อย่างๆ อย่งหงุดหงิด

 

 

 

               "  ฮัลโหล ว่าไงค่ะ " แก้วพูดเบาๆ พลางเหลือบมองโทโมะที่นั่งอยู่ในบ้าน

 

 

              (  พรุ่งนี้เที่ยง เจอกันหน่อยนะ มีงานด่วน ) ผู้กองไตรคุณพูด

 

 

              " ได้ค่ะ ที่เดิมใช่มั้ยค่ะ " แก้วพูด

 

 

              ( ใช่  แล้วนั้นจะนอนแล้วยัง  ) ไตรคุณถาม

 

 

              " อีกแปบนึก็คงจะนอนแล้วค่ะ มีอะไรรึปล่าวค่ะ " แก้วกระซิบพูด พลางหันมอโทโมะ 

 

 

             ( แค่อยากจะถามเรื่องที่แก้วลาออกหนะ ) ไตรคุณพูด วีรวิทย์คอยฟัอยู่ข้างๆ 

 

 

 

              " แก้วจำเป็นจริงๆค่ะ ถ้าไม่จำเป็นแก้วไม่ลาออกแน่นอน พี่ไตรค่ะ ฝากขอโทษคุณวีรวิทย์ด้วยนะค่ะ แก้วลาออกแบบนี้งานเค้าคงเสียหาย แต่คนที่ไปทำงานแทนแก้วก็เก่งเหมือนกันนะค่ะ อาจจะเก่งกว่าแก้ซะด้วยซ้ำ " แก้วพูด 

 

 

              ( งั้นแก้วพูดกับมันเองแล้วกันนะ ) ไตรคุณยื่นโทรศัพท์ให้วีรวิทย์ วีรวิทย์รีบรับมาคุยอย่างเร็ว 

 


   

             (  ทำไมแก้วลาออกไม่บอกผมสักคำ ) วีรวิทย์พูด

 



              " แก้วขอโทษนะค่ะ มันจำเป็นจริงๆ " แก้วพูด

 

              ( งานของผมไม่เสียหายหรอกนะครับ แต่ผมนี้สิ ) วีรวิทย์พูด

 



             " คุณเป็นอะไรค่ะ " แก้วสงสัยคิดหนัก 

 

 

             ( ผมเสียใจ เสียใจที่ไม่ได้เห็นหน้าคุณในทุกๆวัน ) วรวิทย์พูด หยอดคำหวานเต็มที่ แต่แก้วไม่สะทกสะท้าน กลับขำ ซะอย่างนั้น 

 



              " ก็ยังมีอีกงานนิค่ะ ที่เราต้องร่วมกันทำ " แก้วพูด โทโมะมองท่าทีแก้วที่พูดไปยิ้มไป ก็รู้สึกโมโห

 

 

              ( ก็ได้เจอแค่แปบเดี๋ยวเอง ) วีรวิทย์พูด

 



              " คุณไม่อยากเจอพี่กวางบ้างหรอค่ะ " แก้วพูด เพราะรู้สึกผิดกับพี่สาวตัวเอง 

 

 

              (คุณเรียกกวางว่าพี่หรอ คุณกับกวางเป็นอะไรกัน ) วีรวิทย์เริ่มสงสัย เมื่อคิดถึงเรื่องกวางที่รู้เรื่องของแก้ว แล้วตอนนี้แก้วก็ยังพูดถึงเรื่องกวางอีก 

 



               " ก็  เค้าอายุมากกว่า  แก้วก็ต้องเรียกเค้าว่าพี่ ไม่ถูกหรอค่ะ " แก้วพูด แต่วีรวิทย์ก็ยังสงสัยอยูดี 

 

 

               ( คุณกับเค้าไม่เหมือนกันนะ ) วีรวิทย์จะพูดต่อ แต่แก้วพูดแทรกขึ้นมา

 



               " ไม่มีใครเหมือนใครหรอกค่ะ ตอนนี้คุณเป็นแฟนกับคุณกวาง คุณควรรักเค้าให้มากกว่านี้นะค่ะ  แค่นี้ก่อนนะค่ะ แก้วจะนอนแล้ว " แก้วพูด 



                ( ครับ ฝีนดีนะครับ ) วีรวิทย์อึ้งๆไป เพราะรู้ว่าแก้วไม่มีท่าทีจะมีใจให้ตนเลย แถมยังอาจจะสานสัมพันรักกับแก้วยากขึ้นอีก เมื่อแก้วรู้ว่าเค้ากับกวางเป็นแฟนกัน

 

 

                 " ฝันดีค่ะ "  แก้ววางโทรศัพท์ ก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน 

 

 

                " ชั้ลไปนอนก่อนนะ " แก้วพูดกับโทโมะ 

 

 

                 "  พรุ่งนี้ จะไปนอนกับใครอีกหละ " โทโมะพูด ไม่มองหน้าแก้ว

 

 

                 " ชั้ลกลับมานอนที่นี้ ไม่ได้ไปนอนที่ไหน " แก้วพูด

 



                " ชั้ลจะถามว่า พรุ่งนี้เธอจะไปรับแขกที่ไหนอีก " โทโมะเริ่มขึ้นเสียง 

 



                " ชั้ลไม่ได้ทำอาชีพนั้น " แก้วพูด

 



               " แล้วเมื่อกี้เธอคุยกับใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย" โทโมะลุกขึ้นมาถามแก้วตรงหน้า 

 



              " ผู้ชาย " แก้วตอบหน้านิ่ง


 

              " นั้นไง  ไหนบอกชั้ลหน่อยสิ ว่าเค้าให้เธอกี้บาท "โทโมะโกรธอย่างไม่รู้สาเหตุ แก้วก็โกรธเหมือนกัน

 

 

 

              " ชั้ลคุยกับคุณวีรวิทย์ ชั้ลขอโทษเค้าที่ชั้ลลาออก แล้วทำให้งานของเค้าเสียหาย " แก้วพูด 

 

 

 

              "  ทำไม เธอคิดว่าตัวเธอเองมีค่าขนาที่มันขาดเธอไม่ได้ ถ้าขาดเธอไปงานมันจะเสียหาย เธอมีค่าขนาดนั้นเลยหรอ " โทโมะพูด แก้วอึ้งไป  ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ

 

 

 

             " นั้นสินะ  ชั้ลมีค่ากับคนอื่นขนาดนั้นเลยหรอ   "  แก้วน้ำตาคลอ  พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปเลย โทโมะ เมื่อเห็นสีหน้าแววตาของแก้ว ก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

 

 

 

             " โธ่เว้ยยย  " โทโมะหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  ทำไมเวลาที่เธอโกรธเขา เขาถึงได้หงุดหงิดละรู้สึกผิดได้ถึงขนาดนี้นะ 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา