ภาม รินปริศนาเกมส์เเห่งความตาย
10.0
เขียนโดย winter
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 05.16 น.
5 เกมส์ที่
3 วิจารณ์
11.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 05.27 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) เหยื่อผู้โชคร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเกมส์ที่ 2
เหยื่อผู้โชคร้าย
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเครื่องขยายเสียงของโรงเรียน เป็นเสียงของผู้ชายแก่ๆแหบฟังดูน่าขนลุกพอๆกับการิน เรียกความสนใจของคนทั้งโรงเรียนให้หันไปสนใจ
...วันนี้ผมอยากจะเล่นเกมส์...
“เกมส์งั้นเหรอ” การินพูดแล้วลุกขึ้นและก็ตามมาด้วยลัล เอม และนีที่ลุกขึ้นมาเช่นกัน
...กันใครคนหนึ่งในโรงเรียนนี้ หึ หึ หึ ลองมาดูกันที่โรงยิมสิ ผมกำลังเล่นเกมส์กับผู้ที่โชคดีคนนั้นแล้วล่ะ...
ไม่รอช้า การินรีบวิ่งนำอย่างรวดเร็วและตรงไปที่โรงยิมของโรงเรียน พอลัลทริมา นีและเอม มาถึงหน้าโรงยิม ตอนนี้เต็มไปด้วยนักเรียนคนอื่นๆที่ได้ยินเสียงแล้วมาดูที่นั้นเช่นกัน
ลัลพยายามแหวกฝูงชนเข้าไปทีละนิดทีละนิดแล้วในที่สุดเธอก็เข้าไปอยู่ตรงที่เกือบๆหน้าสุด
“เกิดอะไรขึ้น!!!” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นด้านหลังสุดของผู้มามุง เป็นเสียงของผอ.โรงเรียนนิศาพานิช จึงทำให้ทางถูกแหวกออกเหมือนทะแลตอนโมเสธสั่ง
“ฉันถามไม่ได้ยินรึไง” ผอ.นรินทร์เดินผ่านเข้าไปและหยุดมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
กรงขนาดใหญ่ ภายในมีคนๆหนึ่งนอนไม่ได้สติและถูกถุงผ้าสีดำสวมเอาไว้ พอมองดีๆแล้วบุคคลที่อยู่ในกรงนั้นสวมชุดเครื่องแบบของโรงเรียนนิศาพาณิชย์และที่สำคัญเขาสวมกระโปรง เธอเป็นนักเรียนหญิง ชุดเธอเปื้อนเลือดแดงฉานรองเท้าหลุดหายไปข้างนึง ตามตัวเธอมีล่องรอยถลอกและช้ำเหมือนกับพึงถูกทำร้ายและทรมานมา ถึงแม้จะมีผู้คนมุงดูอยู่รอบและสงเสียงพูดกันเดาสถานการณ์ไปต่างๆนาๆระงมแล้วก็ตามคนที่นอนอยู่ในนั้นก็ไม่มีวี่แววจะรู้สึกตัว
ผอ.นรินทร์เดินนำครูและรปภ.เข้าไปดูใกล้ๆแต่ก็ต้องหยุดชะงักทันทีเพราะเจอการินยืนจดๆจ้องๆอยู่กรงนั้นอยู่ใกล้ที่สุด
“นี่มันเรื่องอะไรกัน การิน” ผอ.ถามการินแต่เขาไม่ได้สนใจตอบแล้วเดินวนไปรอบๆกรง
“ชิ ช่วยเธอออกมาเร็ว” ผอ.สั่งรปภ.และครูที่มาด้วยให้เข้าไปช่วย
“ผมว่าอย่าดีกว่านะ” การินพูดขัดขึ้นหลังจากเดินสำรวจรอบๆกรง
“ทำไมการินบอกฉันมาซิ แล้วเธอยังมาทำอะไรอยู่ตรงนี้อยู่อีก” ครูและรปภ.ชะงัก และผอ.นรินทร์ก็ถามขึ้น
“รอบๆกรงน่ะ มีไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านอยู่ ถ้าอยากไปสวรรค์ก่อนยัยนั้นล่ะก็ ผมก็ไม่ห้ามละกัน” การินพูดแล้วเดินรอบๆกรงนั้นอีกครั้ง
“ว่ายังไงนะ” การินก็เดินมาตรงที่ผอ.นรินทร์ยืนอยู่อีกครั้ง แล้วหยิบเหรียญสิบบาทออกจากกระเป๋าเขาและโยนใส่กรงนั้นทันที
เปรี้ยะ!!!
เสียงประกายไฟฟ้าที่เหรียญของการินการินโยนใส่ดังขึ้นทำให้ทุกคนที่มาดูสะดุ้งแล้วถอยออกห่างบริเวณนั้นกันทันที และตามมาด้วยเสียงของผอ.ที่ประกาศลั่นว่าให้พวกนักเรียนบริเวณนั้นถอยออกไปแล้วเข้าเรียนกัน
“ทุกคนถอยออกไปเดี๋ยวนี้ และเขาห้องเรียนไปซะ เดี๋ยวตำรวจก็มาถึงแล้วล่ะ ถ้าใครขัดคำสั่งล่ะก็โดนทำโทษแน่”
...อย่างพึงไปไหนกันสิ นักเรียนของโรงเรียนนิศาพาณิชย์ แล้วก็ผอ.ก็ด้วย อย่าไปดุเด็กแบบนั้นสิ...
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านบนของเพดานด้านบนของโรงยิม เรียกสายตาของนักเรียนที่กำลังจะกลับตามคำสั่งของผอ.เอาไว้ ทุกคนมองขึ้นไปก็พบว่ามีร่างหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยประมาณสี่สิบต้นๆถูกแขวนคอเอาไว้ สภาพศพของเธอมีล่องรอยถูกทำร้ายเป็นจำนวนมาก ที่ตาและปากของเธอถูกด้ายสีขาวที่ย้อมไปด้วยเลือดของเธอเย็บติดกันเอาไว้
แกร็ก.....ครืน.....
อยู่ๆกลไกลอะไรบางอย่างก็ทำงานขึ้นร่างของหญิงสาวคนนั้นค่อยๆหย่อนตัวลงมาช้าๆตามโซ่ที่รัดคอเธอจนมาหยุดอยู่เหนือกรง เสียงหัวเราะแหบๆและแหลมแสบหูดังขึ้นจากในตัวของศพที่ถูกแขวนอยู่ นักเรียนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นศพพากันแตกหือวิ่งออกกันอย่างโกลาหล เหลือเพียงแค่ผอ.นรินทร์ รปภ. ครูที่มาด้วยอีสองคน และ การิน
...ไม่ต้องสงสัยหรอก ผอ.นรินทร์ ถ้าหากฉันพูดประกาศขนาดนั้น นักเรียนทั้งโรงเรียนต้องแห่กันมาดูเหตุการณ์แน่ๆ ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไล่พวกเขากลับ หึ หึ หึ ฉันอยากจะเล่นเกมส์ซักเกมส์หนึ่งเท่านั้น กับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่ในกรงไฟฟ้านี้ ลองมองขึ้นไปดูข้างบนกรงนี้สิ นั้นคือแม่ของเธอที่เล่นเกมส์กับฉันแล้วไม่ชนะ นังชั่วช้าอีกคนที่ผมพึ่งได้เล่นเกมส์กับสามีเธอไปเมื่อเช้านี้ ใช่ๆ นังนี่ชื่อ อัปสร สิราลักขณา มันเป็นภรรยาของไอ้ชั่ว สส.มานิต สิราลักขณา และก็อีกคน ที่กำลังจะได้เล่นเกมส์ของฉัน พิมพา สิราลักขณา ลูกสาวคนเดียวของพวกมัน....
“กรี๊ดดดดดด!”
จู่เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นภายในกรงนั้นเพราะกระแสไฟฟ้าช็อดที่ฆาตกรปล่อยออกมาเพื่อให้เธอได้สติ เด็กสาวดันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วดึงผ้าที่คลุมหัวเธอไว้ออกเผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยพกช้ำเต็มใบหน้าเธอไปหมดที่คอเธอมีปลอกคอใส่กุญแจเอาไว้สวมอยู่ มีกลไกที่ซับซ้อนอยู่รอบๆและที่สำคัญมีลูกกระสุนปืนปลอกสีแดงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นลูกกระสุนปืนของปืนลูกซองอยู่บริเวณรอบปลอกคอของเธอและที่ก้นของมันถูกต่อกับกลไกที่คล้ายๆกับนกสับของปืนเอาไว้ทุกนัดคงนึกภาพไม่ออกแน่ๆหากมันทำงานขึ้นมาพร้อมกัน เธอยันตัวลุกขึ้นแล้วกำลังจะมาเกาะที่กรงเพื่อให้คนที่อยู่ตรงหน้าช่วย
“อย่านะ พิมพา ที่กรงมีไฟฟ้าแรงสูง” ผอ.นรินทร์พูดตะโกนขึ้นหลังจากเห็นเธอพยายามจะเข้ามาจับกรง
“ใครก็ได้...ช่วยหนูด้วย” เธอยังพอมีสติและหยุดตามคำสั่งของ ผอ.นรินทร์
“ได้ๆ แต่เธอต้องอยู่เฉยๆก่อนนะ” เธอพยายามพะเดินไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
“นี่เธอ อยากไปสวรรค์เร็วรึไง” การินที่เงียบอยู่พูดขึ้นและยังคงสำรวจต่อไปเรื่อยๆ
“มะ...หมายความว่าไง” พิมพาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
“ถ้าเป็นฉัน จะนั่งลงแล้วเงียบๆไว้จะดีกว่า ถ้าไม่สังเกตดีๆละก็ที่ปลอกคอเธอ มันมีเอ็นมัดติดสลักที่คอเธอเอาไว้นะยัยโง่” การินพูดแล้วก้มลงมองดูอะไรบางอย่าง
“ว่าไงนะเอ็นเหรอ” พิมพาพยายามมองหาแล้วพบว่ามีเอ็นอย่างที่การินบอก มันถูกมัดกับกรงไฟฟ้าเอาไว้
“การิน นั่นลูกกำลังทำอะไร” ผอ.นรินทร์เห็นการินนั่งตั่งเข่าข้างๆกับกรงเขาไม่ตอบอะไร
เขาล้วงหระเป๋าหาอะไรบางอย่าง แล้วหยิบมีดพับออกมา เขี่ยที่ร่องของพื้นโรงยิม และใช้มีดพับนั้นงัดสายไฟออกมาและกระชากอย่างแรงจนมันหลุดออกมาจากกรง
“ใช้ไฟโรงเรียนซะด้วยกระจอกชะมัด” การินลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบแชรง ที่คนร้ายวางพิงเอาไว้ครองผนังข้างๆโรงยิม แล้วนำมันมางัดแงะกรง
เอาเลยไอ้โง่ อยากตายนักใช่ไหม แส่ดีนัก
เสียงบางอย่างที่สุดจะขนหัวลุกดังขึ้นภายในหัวของลัลทริมาที่แอบดูอยู่ตรงประตู เสียงนั้นทำให้เธอหยิบเศษเหล็กที่วางทิ้งเอาไว้บริเวณนั้นขึ้นมาและวิ่งเขาไปในโรงยิม สร้างความตกใจให้กับผอ.และคนที่อยู่บริเวณนั้นทันที
เคร้ง!!! เปรี้ยะ!!!
เธอคว้างเหล็กในมือใส่กรงก่อนที่การินจะงัดมัน ทำให้เด็กหนุ่มชะงักและคว้างแชรงทิ้งอย่างหัวเสีย ที่เกือบตายเพราะไฟแรงสูงนั้น
“บ้าชะมัด ดีที่มียัยแม่มดอยู่แถวนี้ ไม่งันฉันก็คงแย่ แต่ก็ขอขอบใจเธอละกันยัยแม่มด” เสียงของการินเอ่ยขึ้น
นี่หมอนี่ขอบคุณเราจริงๆรึเปล่านะ...
ลัลคิดในใจแล้วเดินเข้าไปหาผอ.นรินทร์
“ต้องขอบใจเธอนะลัลทริมา แต่เธอรู้ได้ยังไงว่ากรงนั้นยังมีไฟฟ้าอยู่” ผอ.นรินทร์ถามขึ้นเล่นจนเธอผงะออกและหลบสายตา เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอสามารถรับรู้ความคิดของคนอื่นได้
“คะ...คือ หนูแค่ไม่คิดว่าคนร้ายจะวางกลไกไว้แค่นั้นก็เท่านั้นเอง”
โกหกไม่เนียนเลยนะยัยโง่...
เสียงของการินคิดในใจดังขึ้นภายในหัวของเธอ แต่เธอทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้นแล้วพยายามตั้งสมาธิฟังเสียงในความคิดอันแรงกล้าเมื่อครู่อีกครั้ง และพยายามมองหาผู้ต้องสงสัยอย่างระมัดระวังเพราะเธอคิดว่าคนร้ายอาจจะยังอยู่แถวๆนี้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในนี้
“นี่ ยัยโง่ อย่าทำตัวเป็นนักสืบเลยน่า ฉันว่าคนร้ายน่ะ อยากให้ยัยนี่ตายมากกว่ารอดจากเกมส์สนุกๆของมันซะมากกว่านะ” การินเดินเขามาหาลัลแล้วพูดจากวนประสาททำให้คนที่อยู่ในกรงไฟฟ้าถึงกับหน้าซีดตัวสั่นทันที
“นี่! พูดอะไรบ้าๆของนายน่ะ ช่วยฉันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” พิมพาหลังจากสงบสติไปนานก็โวยวายขึ้น
“พิมพา พอจะจำได้ไหมว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงเธอถึงได้เจอเรื่องแบบนี้” ผอ.นรินทร์เดินเข้าแล้วถามเหตุการณ์กับพิมพา
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะผอ.เมื่อวานเท่าที่จำได้จำได้ว่าหนูเดินกลับบ้านกับยัยนิชาแล้วก็ยัยเจน แล้วเราก็แยกกันตอนถึงบ้านเจน แล้ว...แล้วก็ เจ็บที่คอ” พิมพาพยายามลูบที่คอตัวเอง แต่ติดที่ปลอกคอเหล็กเลยทำให้เธอทำไม่ได้และเปลี่ยนมาพยายามดึงปลอกคอนั้นออกแทน
เหยื่อผู้โชคร้าย
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเครื่องขยายเสียงของโรงเรียน เป็นเสียงของผู้ชายแก่ๆแหบฟังดูน่าขนลุกพอๆกับการิน เรียกความสนใจของคนทั้งโรงเรียนให้หันไปสนใจ
...วันนี้ผมอยากจะเล่นเกมส์...
“เกมส์งั้นเหรอ” การินพูดแล้วลุกขึ้นและก็ตามมาด้วยลัล เอม และนีที่ลุกขึ้นมาเช่นกัน
...กันใครคนหนึ่งในโรงเรียนนี้ หึ หึ หึ ลองมาดูกันที่โรงยิมสิ ผมกำลังเล่นเกมส์กับผู้ที่โชคดีคนนั้นแล้วล่ะ...
ไม่รอช้า การินรีบวิ่งนำอย่างรวดเร็วและตรงไปที่โรงยิมของโรงเรียน พอลัลทริมา นีและเอม มาถึงหน้าโรงยิม ตอนนี้เต็มไปด้วยนักเรียนคนอื่นๆที่ได้ยินเสียงแล้วมาดูที่นั้นเช่นกัน
ลัลพยายามแหวกฝูงชนเข้าไปทีละนิดทีละนิดแล้วในที่สุดเธอก็เข้าไปอยู่ตรงที่เกือบๆหน้าสุด
“เกิดอะไรขึ้น!!!” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นด้านหลังสุดของผู้มามุง เป็นเสียงของผอ.โรงเรียนนิศาพานิช จึงทำให้ทางถูกแหวกออกเหมือนทะแลตอนโมเสธสั่ง
“ฉันถามไม่ได้ยินรึไง” ผอ.นรินทร์เดินผ่านเข้าไปและหยุดมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
กรงขนาดใหญ่ ภายในมีคนๆหนึ่งนอนไม่ได้สติและถูกถุงผ้าสีดำสวมเอาไว้ พอมองดีๆแล้วบุคคลที่อยู่ในกรงนั้นสวมชุดเครื่องแบบของโรงเรียนนิศาพาณิชย์และที่สำคัญเขาสวมกระโปรง เธอเป็นนักเรียนหญิง ชุดเธอเปื้อนเลือดแดงฉานรองเท้าหลุดหายไปข้างนึง ตามตัวเธอมีล่องรอยถลอกและช้ำเหมือนกับพึงถูกทำร้ายและทรมานมา ถึงแม้จะมีผู้คนมุงดูอยู่รอบและสงเสียงพูดกันเดาสถานการณ์ไปต่างๆนาๆระงมแล้วก็ตามคนที่นอนอยู่ในนั้นก็ไม่มีวี่แววจะรู้สึกตัว
ผอ.นรินทร์เดินนำครูและรปภ.เข้าไปดูใกล้ๆแต่ก็ต้องหยุดชะงักทันทีเพราะเจอการินยืนจดๆจ้องๆอยู่กรงนั้นอยู่ใกล้ที่สุด
“นี่มันเรื่องอะไรกัน การิน” ผอ.ถามการินแต่เขาไม่ได้สนใจตอบแล้วเดินวนไปรอบๆกรง
“ชิ ช่วยเธอออกมาเร็ว” ผอ.สั่งรปภ.และครูที่มาด้วยให้เข้าไปช่วย
“ผมว่าอย่าดีกว่านะ” การินพูดขัดขึ้นหลังจากเดินสำรวจรอบๆกรง
“ทำไมการินบอกฉันมาซิ แล้วเธอยังมาทำอะไรอยู่ตรงนี้อยู่อีก” ครูและรปภ.ชะงัก และผอ.นรินทร์ก็ถามขึ้น
“รอบๆกรงน่ะ มีไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านอยู่ ถ้าอยากไปสวรรค์ก่อนยัยนั้นล่ะก็ ผมก็ไม่ห้ามละกัน” การินพูดแล้วเดินรอบๆกรงนั้นอีกครั้ง
“ว่ายังไงนะ” การินก็เดินมาตรงที่ผอ.นรินทร์ยืนอยู่อีกครั้ง แล้วหยิบเหรียญสิบบาทออกจากกระเป๋าเขาและโยนใส่กรงนั้นทันที
เปรี้ยะ!!!
เสียงประกายไฟฟ้าที่เหรียญของการินการินโยนใส่ดังขึ้นทำให้ทุกคนที่มาดูสะดุ้งแล้วถอยออกห่างบริเวณนั้นกันทันที และตามมาด้วยเสียงของผอ.ที่ประกาศลั่นว่าให้พวกนักเรียนบริเวณนั้นถอยออกไปแล้วเข้าเรียนกัน
“ทุกคนถอยออกไปเดี๋ยวนี้ และเขาห้องเรียนไปซะ เดี๋ยวตำรวจก็มาถึงแล้วล่ะ ถ้าใครขัดคำสั่งล่ะก็โดนทำโทษแน่”
...อย่างพึงไปไหนกันสิ นักเรียนของโรงเรียนนิศาพาณิชย์ แล้วก็ผอ.ก็ด้วย อย่าไปดุเด็กแบบนั้นสิ...
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านบนของเพดานด้านบนของโรงยิม เรียกสายตาของนักเรียนที่กำลังจะกลับตามคำสั่งของผอ.เอาไว้ ทุกคนมองขึ้นไปก็พบว่ามีร่างหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยประมาณสี่สิบต้นๆถูกแขวนคอเอาไว้ สภาพศพของเธอมีล่องรอยถูกทำร้ายเป็นจำนวนมาก ที่ตาและปากของเธอถูกด้ายสีขาวที่ย้อมไปด้วยเลือดของเธอเย็บติดกันเอาไว้
แกร็ก.....ครืน.....
อยู่ๆกลไกลอะไรบางอย่างก็ทำงานขึ้นร่างของหญิงสาวคนนั้นค่อยๆหย่อนตัวลงมาช้าๆตามโซ่ที่รัดคอเธอจนมาหยุดอยู่เหนือกรง เสียงหัวเราะแหบๆและแหลมแสบหูดังขึ้นจากในตัวของศพที่ถูกแขวนอยู่ นักเรียนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นศพพากันแตกหือวิ่งออกกันอย่างโกลาหล เหลือเพียงแค่ผอ.นรินทร์ รปภ. ครูที่มาด้วยอีสองคน และ การิน
...ไม่ต้องสงสัยหรอก ผอ.นรินทร์ ถ้าหากฉันพูดประกาศขนาดนั้น นักเรียนทั้งโรงเรียนต้องแห่กันมาดูเหตุการณ์แน่ๆ ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไล่พวกเขากลับ หึ หึ หึ ฉันอยากจะเล่นเกมส์ซักเกมส์หนึ่งเท่านั้น กับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่ในกรงไฟฟ้านี้ ลองมองขึ้นไปดูข้างบนกรงนี้สิ นั้นคือแม่ของเธอที่เล่นเกมส์กับฉันแล้วไม่ชนะ นังชั่วช้าอีกคนที่ผมพึ่งได้เล่นเกมส์กับสามีเธอไปเมื่อเช้านี้ ใช่ๆ นังนี่ชื่อ อัปสร สิราลักขณา มันเป็นภรรยาของไอ้ชั่ว สส.มานิต สิราลักขณา และก็อีกคน ที่กำลังจะได้เล่นเกมส์ของฉัน พิมพา สิราลักขณา ลูกสาวคนเดียวของพวกมัน....
“กรี๊ดดดดดด!”
จู่เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นภายในกรงนั้นเพราะกระแสไฟฟ้าช็อดที่ฆาตกรปล่อยออกมาเพื่อให้เธอได้สติ เด็กสาวดันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วดึงผ้าที่คลุมหัวเธอไว้ออกเผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยพกช้ำเต็มใบหน้าเธอไปหมดที่คอเธอมีปลอกคอใส่กุญแจเอาไว้สวมอยู่ มีกลไกที่ซับซ้อนอยู่รอบๆและที่สำคัญมีลูกกระสุนปืนปลอกสีแดงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นลูกกระสุนปืนของปืนลูกซองอยู่บริเวณรอบปลอกคอของเธอและที่ก้นของมันถูกต่อกับกลไกที่คล้ายๆกับนกสับของปืนเอาไว้ทุกนัดคงนึกภาพไม่ออกแน่ๆหากมันทำงานขึ้นมาพร้อมกัน เธอยันตัวลุกขึ้นแล้วกำลังจะมาเกาะที่กรงเพื่อให้คนที่อยู่ตรงหน้าช่วย
“อย่านะ พิมพา ที่กรงมีไฟฟ้าแรงสูง” ผอ.นรินทร์พูดตะโกนขึ้นหลังจากเห็นเธอพยายามจะเข้ามาจับกรง
“ใครก็ได้...ช่วยหนูด้วย” เธอยังพอมีสติและหยุดตามคำสั่งของ ผอ.นรินทร์
“ได้ๆ แต่เธอต้องอยู่เฉยๆก่อนนะ” เธอพยายามพะเดินไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
“นี่เธอ อยากไปสวรรค์เร็วรึไง” การินที่เงียบอยู่พูดขึ้นและยังคงสำรวจต่อไปเรื่อยๆ
“มะ...หมายความว่าไง” พิมพาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
“ถ้าเป็นฉัน จะนั่งลงแล้วเงียบๆไว้จะดีกว่า ถ้าไม่สังเกตดีๆละก็ที่ปลอกคอเธอ มันมีเอ็นมัดติดสลักที่คอเธอเอาไว้นะยัยโง่” การินพูดแล้วก้มลงมองดูอะไรบางอย่าง
“ว่าไงนะเอ็นเหรอ” พิมพาพยายามมองหาแล้วพบว่ามีเอ็นอย่างที่การินบอก มันถูกมัดกับกรงไฟฟ้าเอาไว้
“การิน นั่นลูกกำลังทำอะไร” ผอ.นรินทร์เห็นการินนั่งตั่งเข่าข้างๆกับกรงเขาไม่ตอบอะไร
เขาล้วงหระเป๋าหาอะไรบางอย่าง แล้วหยิบมีดพับออกมา เขี่ยที่ร่องของพื้นโรงยิม และใช้มีดพับนั้นงัดสายไฟออกมาและกระชากอย่างแรงจนมันหลุดออกมาจากกรง
“ใช้ไฟโรงเรียนซะด้วยกระจอกชะมัด” การินลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบแชรง ที่คนร้ายวางพิงเอาไว้ครองผนังข้างๆโรงยิม แล้วนำมันมางัดแงะกรง
เอาเลยไอ้โง่ อยากตายนักใช่ไหม แส่ดีนัก
เสียงบางอย่างที่สุดจะขนหัวลุกดังขึ้นภายในหัวของลัลทริมาที่แอบดูอยู่ตรงประตู เสียงนั้นทำให้เธอหยิบเศษเหล็กที่วางทิ้งเอาไว้บริเวณนั้นขึ้นมาและวิ่งเขาไปในโรงยิม สร้างความตกใจให้กับผอ.และคนที่อยู่บริเวณนั้นทันที
เคร้ง!!! เปรี้ยะ!!!
เธอคว้างเหล็กในมือใส่กรงก่อนที่การินจะงัดมัน ทำให้เด็กหนุ่มชะงักและคว้างแชรงทิ้งอย่างหัวเสีย ที่เกือบตายเพราะไฟแรงสูงนั้น
“บ้าชะมัด ดีที่มียัยแม่มดอยู่แถวนี้ ไม่งันฉันก็คงแย่ แต่ก็ขอขอบใจเธอละกันยัยแม่มด” เสียงของการินเอ่ยขึ้น
นี่หมอนี่ขอบคุณเราจริงๆรึเปล่านะ...
ลัลคิดในใจแล้วเดินเข้าไปหาผอ.นรินทร์
“ต้องขอบใจเธอนะลัลทริมา แต่เธอรู้ได้ยังไงว่ากรงนั้นยังมีไฟฟ้าอยู่” ผอ.นรินทร์ถามขึ้นเล่นจนเธอผงะออกและหลบสายตา เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอสามารถรับรู้ความคิดของคนอื่นได้
“คะ...คือ หนูแค่ไม่คิดว่าคนร้ายจะวางกลไกไว้แค่นั้นก็เท่านั้นเอง”
โกหกไม่เนียนเลยนะยัยโง่...
เสียงของการินคิดในใจดังขึ้นภายในหัวของเธอ แต่เธอทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้นแล้วพยายามตั้งสมาธิฟังเสียงในความคิดอันแรงกล้าเมื่อครู่อีกครั้ง และพยายามมองหาผู้ต้องสงสัยอย่างระมัดระวังเพราะเธอคิดว่าคนร้ายอาจจะยังอยู่แถวๆนี้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในนี้
“นี่ ยัยโง่ อย่าทำตัวเป็นนักสืบเลยน่า ฉันว่าคนร้ายน่ะ อยากให้ยัยนี่ตายมากกว่ารอดจากเกมส์สนุกๆของมันซะมากกว่านะ” การินเดินเขามาหาลัลแล้วพูดจากวนประสาททำให้คนที่อยู่ในกรงไฟฟ้าถึงกับหน้าซีดตัวสั่นทันที
“นี่! พูดอะไรบ้าๆของนายน่ะ ช่วยฉันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” พิมพาหลังจากสงบสติไปนานก็โวยวายขึ้น
“พิมพา พอจะจำได้ไหมว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงเธอถึงได้เจอเรื่องแบบนี้” ผอ.นรินทร์เดินเข้าแล้วถามเหตุการณ์กับพิมพา
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะผอ.เมื่อวานเท่าที่จำได้จำได้ว่าหนูเดินกลับบ้านกับยัยนิชาแล้วก็ยัยเจน แล้วเราก็แยกกันตอนถึงบ้านเจน แล้ว...แล้วก็ เจ็บที่คอ” พิมพาพยายามลูบที่คอตัวเอง แต่ติดที่ปลอกคอเหล็กเลยทำให้เธอทำไม่ได้และเปลี่ยนมาพยายามดึงปลอกคอนั้นออกแทน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ