ภาม รินปริศนาเกมส์เเห่งความตาย

10.0

เขียนโดย winter

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 05.16 น.

  5 เกมส์ที่
  3 วิจารณ์
  11.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 05.27 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) ความตายที่รุกคืบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เกมส์ที่ 1

ความตายที่รุกคีบ

 

          เสียงฝีเท้าในความมืดของใครคนหนึ่งก้าวเป็นจังหวะอย่างช้าๆ แต่มีเสียงฝีเท้าอีกสองคู่ที่ฟังดูแล้วบอกได้ถึงความรีบเร่งสาวเท้าให้ทันฝีเท้าของคนแรกที่เดินไปเรื่อยๆอย่างเป็นจังหวะ ภายในซอยแห่งนี้ทั้งมืดและเปลี่ยวมากๆ เสียงฝีเท้าที่เดินเป็นจังหวะเมื่อครู่หยุดลงและฟังเสียงฝีเท้าที่เดินตามตนมาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจเดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อหนีให้พ้นเสียงฝีเท้าทั้งสองคู่นั้น แต่แล้ว

“เดียวสิคุณ”

เสียงฝีเท้าสองคู่ที่เดินตามมาเมื่อครู่มีเสียงเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นเป้าหมายเร่งฝีเท้าเพื่อหนีพวกเขา เสียงนั้นทำให้เขาสะดุ้งและรีบหันมาประจันหน้าพวกเขาที่เดินตามมาทันที

“มะ..มีอะไร”เสียงเขาสั่นเล็กน้อย

“คุณกำลังจะตาย สนใจยกความตายให้ฉันไหม”

เสียงของชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาจากหนึ่งในสองคนที่เดินตามเขามาพูดกับเขาด้วยเสียงเรียบๆ แต่กลับสร้างความสงสัยให้กับเขาแทนที่ความหวาดกลัวเมื่อครู่

“อะ...อะไรนะ ว่ายังไงนะ ฉันกำลังจะตายงั้นเหรอ”

เป้าหมายย้อนถามกลับไปยังชายคนเดินตามเขามาคนนั้นด้วยความสงสัย

“ใช่ คุณกำลังจะตายสนใจยกความตายให้ฉันไหม”

“นายบ้ารึเปล่า นายรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังจะตาย เดินตามฉันมาเพื่อพูดอะไรบ้าๆแค่นี้เนี่ยนะ นายมีเวลาว่างมากนักรึไงไอ้โรคจิต”

เขาถามผู้เดินตามมาเรื่องที่เขาพูดเมื่อครู่ด้วยความสงสัยอีกครั้ง พร้อมเสร็จด้วยคำบ่นบนด่าไปในตัวแล้วรีบเดินหนีพวกเขาไป

“เอายังไงดีล่ะนาย”

เสียงของผู้เดินตามมาด้วยกันอีกคนเป็นเสียงใสๆที่ฟังดูแล้วต้องเป็นเสียงของผู้หญิงแน่ๆเอ่ยถามขึ้น และเดินนำหน้าเขาไปเล็กน้อย

“จะตามหรือจะกลับ”

“เป็นความตายที่น่าสนใจมากๆเลยล่ะ”

เขาไม่ได้ตอบตรงคำถามของเสียงใสนั้น และเดินนำเธอไป เป็นคำตอบที่เจ้าตัวไม่ต้องถามซ้ำว่าจะตามหรือจะกลับ และเธอก็เดินตามเขาไป

“นายไม่เบื่อบ้างเหรอตามคนอื่นเขาแบบนี้”

เสียงใสๆถามขึ้น แต่ไม่มีเสียงคำตอบจากคนตรงหน้า เธอพยายามวิ่งตามให้ทันเขา

แต่พอถึงทางแยกตรงซอยที่เขาเลี้ยวตามเป้าหมายที่เห็นหลังไวๆแต่พอเธอวิ่งตามและเลี้ยวตามตรงนั้นชายที่วิ่งนำหน้าเธอมากลับหายไปพร้อมทั้งเป้าหมายที่วิ่งตามมาเมื่อครู่

“หายไปไหนแล้ว หมอนั้นก็ด้วย”

เธอพรึมพรำกับตนเองแล้วเดินหาดูตามหมู่บ้านจัดสรรที่ทิ้งร้าง บริเวณนั้นทีละหลังทีละหลัง และตะโกนเรียกเขาไปเรื่อยๆแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา

“นี่นาย!!! อยู่ไหนน่ะ”

 

ฉึก

เสียงของแหลมคมขนาดเล็กจิ้มเข้าที่คอของเธอ และฉีดของเหลวเขาไปในตัวเธออย่างรวดเร็วในปริมาณที่ไม่มากนักแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เหยื่อหมดสภาพและล้มลงอย่างรวดเร็ว

สติของเธอเริ่มจะดับวูบลง แต่ยังกระเสือกกระสนที่จะเอาชีวิตรอด พยายามผืนตัวเองไม่ให้หมดสติตามฤทธิ์ยานั้น แต่พอเธอพยายามผืนตาตัวเองมองหน้าคนที่ฉีดอะไรบางอย่างให้เธอเมื่อครู่แต่ไม่ทันที่จะได้หันกลับไปมอง เธอกลับเห็นใครคนหนึ่งซึ่งไม่ยากที่จะเดานักว่าคงโดนแบบเดียวกับเธอนอนคว่ำสลบอยู่ไม่ห่างจากเธอนัก

ชายสวมหมวกแกะสีขาวหน้ารักๆที่เธอเดินตามเขามาเมื่อครู่ ถูกบุคลปริศนาทำร้ายจนหมดสภาพเหมือนๆกับเธอคลายความสงสัยเมื่อครู่ที่เขาหายไปจากการติดตามของเธอ และกำลังถูกคนร้ายใช้เท้าเขี่ยให้หงายขึ้นแล้วลากเขาไปยังมุมมืดๆของห้องเช่าแถวอย่างช้าๆ

ภาพตรงหน้าค่อยๆมืดลงทีละนิดๆ และในที่สุดเธอก็หมดสติไป

“ภะ...ภาม”

 

………………………………………………………………………………………………………

 

“สวัสดีลัล” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังเด็กสาว พอเธอหันกลับตามเสียงเรียกนั้นและยิ้มทักทายให้กับเด็กสาวที่เรียกเธอทันที

“จ๊ะ สวัสดี แล้วยัยนีล่ะเอม” เด็กสาวเพื่อนของเธอทันทีเมื่อไม่เห็นเพื่อนของเธออีกคน

“สงสัยจะตื่นสายละมั่ง เห็นเมื่อวานการบ้านเยอะจะตายไป” เอม หรือเอมิกาตอบลัล และนั่งลงตรงโต๊ะหินอ่อนใกล้ๆเธอ

“แล้วเอมล่ะเธอทำการบ้าเสร็จแล้วเหรอ ถึงนั่งลอยหน้าลอยตาแบบนี้ ขนาดฉันยังทำไม่เสร็จเลย” ลัลถามขึ้นอย่างสงสัย

“ยังจ๊ะ รอลอกยัยนีเอา แต่วิชาไหนลัลทำเสร็จแล้ว ก็เอามาลอกก่นเลย เดี๋ยวไม่ทัน” เด็กสาวยิ้มแล้วส่ายหน้าบงบอกว่าไม่ไหวเลยเพื่อนคนนี้แล้วหยิบการบ้านสามวิชาที่ทำเสร็จแล้วให้เอมไป

“ขอบใจจ้าลัล” เอมยิ้มแล้วรับการบ้านจากลัลไป แต่ไม่ลืมหยิบช็อคโกแล็ตในกระเป๋าให้ แต่ลัลได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าปฏิเสธของตอบแทนจากเอมิกา

“หัดทำด้วยตัวเองบ้าสิ เธอก็เรียนเก่งไม่ใช่เหรอ แค่นี้เอมก็น่าจะทำได้นี่”ลัลขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วบอกเอม

“ก็มันขี้เกียดนี่” เอมตอบลัลแล้วบรรจงลอกต่อไปอย่างรวดเร็ว

 

วันนี้น่าเบื่อชะมัดเลย...เมื่อไหร่จะมีอะไรสนุกสนุกซะทีนะ...ยัยแม่มดช่วงนี้ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย

 

ลัลทริมาสดุ้งเล็กน้อย เสียงหนึ่งดังขึ้นภายในหัวของลัลทริมา เป็นเสียงที่คุ้นเคยกับเธอเป็นที่สุด น้ำเสียงที่ชวนขนลุกในทันทีที่ใครเขาได้ยินหากแต่มีเพียงแค่ลัลทริมาเท่านั้นที่ได้ยิน พอเธอหันไปตามเสียงความคิดนั้นก็เจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งลงโต๊ะหินอ่อนข่างๆเธอแบบเงียบๆ ในมือเขาถือหนังสือเก่าๆ ส่วนมืออีกข้างแก่วงกระดึ่งไปมาแต่ไม่มีเสียงอะไรเพราะมันคือกระดิ่งโหงครวญ จะมีเสียงก็ต่อเมื่อมีอาถรรพ์หรือเรื่องลี้ลับเท่านั้น เขาค่อยๆเปลี่ยนสายตาจากกระดิ่งแล้วมองมาที่เธอแล้วยิ้มชวนสยองส่งให้ลัลทริมา

“การิน” ลัลเรียกชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นว่าเจ้าของความคิดชวนสยองเมื่อครู่เป็นใคร ก่อนจะหันกลับมาดูเอมลอกการบ้านเธอแทนที่จะสนใจเขาต่อ

การินยิ้มแบบเย็นเยือก แล้วยกขาขึ้นมาวางพาดโต๊ะหินอ่อนอีกตัวอย่างไม่สนใจคนรอบข้างที่เขานั่งกันอยู่บริเวณนั้น

ซักครู่หนึ่งที่ลัลนั่งทนแรงกดดันสุดสะเอียนของการินอยู่ นีหรือมัณฑินีก็เดินแบบอิดโรยเข้ามาในโรงเรียน แล้วพอเห็นลัลทริมากับเอมิกานั่งอยู่ด้วยกันเลยรีบเดินเข้ามาหาทั้งสอง แล้วนั่งลงโต๊ะอีกตัวที่อยู่ข้างๆลัลและเอมอย่างหมดแรง

“เป็นอะไรไปยัยนี ไปทำอะไรมา เหงื่อเต็มเลยแถมทำยังกับไปแข่งโอลิมปิกมาแหนะ” เอมเงยหน้าขึ้นหลังนีนั่งลงแล้วฟุบลงบนโต๊ะที่เอมลอกการบ้านลัลอยู่

“เหนื่อย...เมื่อคืนนอนดึกแล้วนะ นี้ยังต้องรีบตื่นแต่เช้ามาซื้อกับข้าวที่ตลาดอีก” มัณฑินีพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมาเผยเหงื่อเต็มใบหน้าของเธอจนเธอต้องถอดแว่นของเธอออกมาเช็ดคราบเหงื่อ

“แล้วไหงเธอไม่นั่งรถแท็กซี่มาล่ะ อ๊ะเกือบลืมการบ้านล่ะเสร็จแล้วยัง ฉันลอกของลัลไปสามวิชาแล้วนะ” เอมพูดขึ้นแต่ก็ไม่ลืมถามถึงการบ้านที่เหลือที่ลัลทำไม่เสร็จจากนี

“อะนี่ เสร็จแล้วให้ลัลดูอันที่ยังไม่เสร็จด้วยล่ะ” นีหยิบการบ้านในกระเป๋าของเธอออกมาให้เอมแล้วนั่งพิงที่พิงหลังของโต๊ะเพื่อพักให้หายเหนื่อยต่อ

“แย่ชะมัด ตอนมารงเรียนเนี่ยรถติดชะมัดเลย แถมที่รถติดก็เพราะรถเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็รถนักข่าวน่ะจอดขวางทางจราจรตรึมเลย รถงี้ติดเป็นกิโลเลย” นีพูดบ่นบนอาการที่ยังเหนื่อยอยู่ออกมาให้เพื่อนๆทั้งสองที่นั่งอยู่ฟัง

“แล้วทำไมถึงรถติดขนาดนั้นเลยล่ะนี” ลัลทริมาถามด้วยความสงสัย

“ก็เห็นคนบนรถเมล์เขาบอกว่ามีคนถูกฆาตกรรมตรงห้างที่พวกเราชอบไปเที่ยวบ่อยๆน่ะ”นีเว้นวรรคหายใจเล็กน้อย “สภาพศพเห็นเขาบอกว่าตายสยองมากเลยล่ะ” นีกลืนน้ำลายแล้วพูดต่อ “เห็นบอกว่า ชื่อ สส.มานิตน่ะ”

“ใครเหรอสส.มานิต ฟังดูแล้วน่าเป็นคนใหญ่คนโตน่าดูเลยนะถึงทำให้รถนักข่าวมาทำข่าวจนรถติดขนาดนั้น”

“นีลัลไม่รู้จักเหรอ สส.มานิตน่ะก็พ่อของยัยพิมพาห้องเดียวกับเราไง” เอมที่นั่งลอกการบ้านอยู่หยุดมือลงแล้วพูดขึ้นมาบ้าง

“งั้นเหรอ แล้วเป็นยังไงบ้างสภาพศพของเจ้านั้นน่ะ เละขนาดไหนกัน” เสียงหนึ่งที่นั่งขาพาดโต๊ะหินอ่อนอยู่เมื่อครู่เด้งตัวลุกขึ้นแล้วตรงมาที่โต๊ะของลัลทันที

“การิน ถ้านายอยากรู้นายก็ไปดูเองซะสิ มาถามพวกฉันทำไม” เอมพูดขึ้น แล้วทำหน้าบ่งบอกไม่สบอารมณ์เอามากกับการินทันที

“เห็นเขาบอกว่า สส.มานิตน่ะถูกจับขังไว้ในตู้โชว์หน้าห้างน่ะ แล้วก็ถูกคนร้ายจับใส่อะไรซักอย่างนี่แหละ แล้วจู่ๆก็มีเสียงของคนร้ายที่บันทึกเอาไว้ดังขึ้นจากแถวนั้นว่าจะเล่นเกมอะไรซักอย่างนี่แหละ”

“เกมส์งั้นเหรอ”  เสียงของการินพูดขึ้นสร้างความสงสัยของผู้ที่นั่งฟังกันอยู่

“นายยังยืนฟังพวกฉันอยู่อีกเหรอเนี่ย” เอมพูดขึ้นหลังจากการินเอนตัวนั่งลงข้างๆกับมัณฑินีซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวเธอเลยย้ายมานั่งกับลัลแทน

“ว่ามาสิ” การินเท้าคางแล้วถามมัณฑินี

“คะ...คือ” มัณฑินีเริ่มตัวสั่นหลังจากการินจ้องเธอด้วยสายตาเย็นเยือกชวนขนลุก

“นี่การิน นายหยุดทำแบบนี้เลยนะ นีเขากลัวนายจะแย่แล้ว” ลัลทริมาตวาดการินแต่เขายังจ้องมัณฑินีอยู่ไม่วางตา

“....” เขาไม่ตอบแต่หันหน้าเบือนหนีแทน

 

...ยุ่งอะไรด้วยฟะ ยัยแม่มด

 

ตึ่ง...ตึง...ตึ้ง...

...สวัสดีนักเรียนโรงเรียนนิศาพาณิชย์ทุกคน...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา