[ChanBeak]-Love you only

10.0

เขียนโดย Metoric_soul

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.58 น.

  15 chapter
  14 วิจารณ์
  25.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 12.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) ขอบคุณนะ ชานยอล/แบคฮยอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
Baekhyun Part’s
 
“วันนี้ทำได้ดีมาก เหลือเวลาอีกสองอาทิตย์แล้วอย่าลืมฝึกกันนะ” พี่ลู่ว่าพลางเก็บเนื้อเพลง แล้วโปรยยิ้มหวานให้ทุกคนเหมือนตอนซ้อมเสร็จทุกครั้งที่ผ่านมา นี้เราก็ใช้เวลาฝึกกันหนึ่งอาทิตย์เต็ม ไม่น่าเชื่อผมว่าจะร้องเพลงนี้ เพราะคำแนะนำดีๆของพี่ลู่นะเนี่ย
 
“เสี่ยวลู่...”
 
“อ้าวฮุน มารับหรอ” เอิ่ม...ทำไมเวลาฮุนอยู่บรรยากาศดูมาคุแปลกๆ มีแค่พี่ลู่ที่ยังยิ้มออกเท่านั้นแหละ
 
“เปล่า จะบอกว่าวันนี้มีซ้อมเย็นเลย”
 
“หวา...วันนี้เค้าก็กลับห้องคนเดียวอ่ะดิ T^T” ว่าแล้วพี่ลู่ก็เริ่มทำหน้าออดอ้อน โชคยังดีที่ไม่ถึงขั้นลูลู่พิฆาต คงเข้าใจเหตุผลของเซฮุนละมั้ง ถึงไม่งี่เง่า เด็กดีซะจริงครับพี่ลู่ - - เออจริงด้วย ผมยังไม่รู้เลยว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ช่างเต๊อะ
 
“พี่ลู่ห้องพี่อยู่ทางไหนหรอครับ”ผมถาม
 
“ถัดจากย่านแถวโรงเรียนไปนิดเดียวละ แต่บรรยากาศมันมืดๆเลยไม่ค่อยอยากกลับคนเดียว” พี่ลู่ว่าพลางยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองประมานว่ามันสยองยิ่งกว่านั่งดูหนังผีคนเดียวในห้องอ่ะ
 
“เสี่ยวลู่อย่าพูดงั้นดิ ไม่ใช่ผมไม่อยากไปส่งแต่...” เซฮุนพยายามเดินเข้ามาอธิบายแต่พอถึงพี่ลู่ที่นั่งอยู่บนโต๊ะ นิ้วเรียวก็แตะที่ปากเบาๆ แล้วก็ส่งยิ้มหวานแบบที่ผมไม่เคยเห็น
 
“ไม่เป็นไร เค้ารู้ ^^”
 
ตึกๆ....
 
ขนาดผมที่นั่งอยู่แค่ตรงนี้ใจยังเต้นวูบเลย แล้วนับประสาอะไรกับอาการค้างของโอเซฮุน ร่างสูงจับมือขึ้นมาจูบเบาๆก่อนจะยิ้มแล้วเดินออกไป ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาสินะ อืมมม~//พยักหน้า
 
“งั้นพวกผมไปส่งละกัน จะได้แวะไปหาไรกินด้วย”
 
“อ้าวแล้วม๊าละ” ดีโอหันถาม แบบนี้แสดงว่ากลับด้วยเหมือนเดิมแน่ๆ
 
“วันนี้ม๊ารีบออกไปน่ะ ถ้าไม่แวะซื้อได้นั่งหิวกันทั้งคืนแน่ ไปด้วยกันมั้ยครับพี่เฉิน”
 
“อ๋อ พี่กินข้าวกับครอบครัวน่ะ ไว้คราวหลังละกัน งั้นเรากลับก่อนนะลู่ บายครับเด็กๆ”
 
“หวัดดีครับ” หลังจากพี่เฉินกลับไปผม ดีโอ แล้วก็พี่ลู่ก็ช่วยกันเก็บของแล้วเดินออกมาพร้อม ระหว่างพี่ลู่แนะนำร้านอาหารอร่อยๆแถวนี้หลายร้ายเลย ท่าทางสดใสร่าเริงผิดกับรุ่นพี่คริสนั้นที่ขนาดน้อยชื่นชมความงามงดดุจเจ้าชายก็ไม่ปานยังตอบแค่คำว่าอืม ขอบคุณสักคำก็ไม่มี ถ้ามีรุ่นพี่แบบพี่ลู่ทั้งโรงเรียนคงสงบสุขน่าดู
 
“นี้ๆแวะร้ายนี้กันมั้ย” พี่ลู่ว่าพลางจับมือผมแล้วดันหลังดีโอ เป็นร้านอาหารจีน พอเข้ามานั่งพนักงานส่งเมนูให้ทันที
 
“สั่งเต็มที่ พี่เลี้ยงขอบคุณที่มาส่ง” โห...ขนาดนั้นเลยหรอครับ หลังจากสั่งอาหารเสร็จผมก็หยิบเนื้อเพลงขึ้นมาลองร้องในใจและเคาะจังหวะไปพลางๆ
 
“โห...ตั้งใจน่าดูเลยนะแบคฮยอน^ ^”
 
“ครั้งสุดท้ายของพี่แล้วนิ ผมก็ต้องเต็มที่สิ”
 
“งั้นวันจบมาร้องด้วยกันอีกครั้งดีมั้ยละ” พี่ลู่ท้ายคางแล้วยิ้มให้ เฮ้อ....อยากถ่ายรูปเก็บไว้ใต้หมอน
 
“ว่าแต่เซฮุนเค้าซ้อมอะไรหรอครับ” ดีโอถาม
 
“พี่เองก็ไม่รู้แฮะ เห็นว่าซ้อมกันสามคน” สามคนงั้นหรอ จริงด้วย ที่ผ่านมาผมไม่เห็น ไค เซฮุน แล้วก็ไอ้หยอยอยู่ที่ห้องเรียนเลย ทำไมนึกถึงชื่อไอ้หยอยขึ้นมาแล้วรู้สึกปวดหนึบๆที่อกซ้ายนะ
 
“ช่วงนี้เพื่อนที่ห้องผมรวมเซฮุนด้วยก็หายไปสามละครับ มีไค กับ ชานยอลด้วย”
 
“น้องคริสน่ะหรอ เขาไม่มีทางว่างหรอกช่วงนี้ นักกิจกรรมทั้งพี่ทั้งน้องแหละ” พี่ลู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ ทำไมคนเย็นชาอย่างพี่คริสถึงมีแต่เพื่อนดีๆแล้วก็มีแต่รุ่นน้องเคารพรักกันนะ หลังจากจัดการอาหารกันเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็เดินเลาะด้านหลังเพื่อจะมาส่งพี่ลู่ ทางเปลี่ยวแล้วก็มืดอย่างที่พี่ลู่ว่าจริงๆด้วย หลอนเว้ยย
 
“เฮ้ยนั้นไอ้เตี้ยบยอนเปล่าวะ”
 
จึก! ใครเรียกวะ !
 
ผมหันไปหาต้นต่อเป็นผู้ชายกลุ่มเล็กประมานด้วยสายตาก็น่าจะห้าหกคน หัวโจกตัวใหญ่ตรงกลางดึงผ้าปิดปากลงแล้วเหยียดยิ้มเย็นใส่ ไอ้นี้มันคนที่หาเรื่องผมตอน ม.ต้น แล้วโดนผมเล่นจนหมอบนิหว่า ตอนนั้นมันอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าตัวใหญ่กว่าแล้วจะชนะ สุดท้ายก็โดนผมสวนจนสลบคาที
 
“ใครน่ะแบค” พี่ลู่ดึงแขนผมไว้เช่นเดียวกับดีโอที่เริ่มกระเทิบหลบไปอยู่หลังผม ผมจับสองมือนั้นไว้เป็นนัยน์ว่าไม่เป็นไรแล้วเดินไปประจันหน้ากับมันทันที
 
“มีอะไร” ผมกดเสียงถาม
 
“ก็ไม่ได้อะไร มีคิดว่าจะเจอแกที่นี้”
 
“โดนอัดจนหมอบแล้วยังกล้าปากดีใส่เนี่ย ด้านใช่เล่นเลยนิหว่า”
 
“แบค พอเถอะ” พี่ลู่รีบเดินมาห้าม พยายามดึงตัวผมกลับ
 
“เฮ้ยๆคนสวย อย่าไปห้ามมันเลย อาการหมาบ้ากำเริบน่ะ ว่าแต่ไม่สนมาอยู่กับพี่หน่อยหรอ” แล้วไอ้หัวโจกก็เดินเข้ามาใกล้แล้วกระชากแขนพี่ลู่ที่เหงื่อตกตอนนี้
 
“ปล่อยพี่กูนะเว้ย!” ผมพุ่งเข้าใส่ทันที แต่กลับถูกเวียงไปกลางวงล้ม ประมานห้ารุมหนึ่งงั้นหรอ น่าสนุกนิ อยู่ๆตัวผมก็ถูกล็อคจากด้านหลัง ยังไม่ทันได้ดิ้นให้หลุดก็ถูกหมัดหนักๆสวนเข้าที่ท้อง จะ...จุก
 
“แบค!” ผมรีบหันไปทางต้นเสียงตอนนี้พี่ลู่ถูกเหวี่ยงติดกำแพง เสื้อนอกถูกถอดออกแล้วโยนหายไปไหนแล้วไม่รู้แล้วตอนนี้ปากเลวนั้นกำลังแทะโลมร่างบางที่สั่นเพราะอาการกลัว พี่ลู่...ผมขอโทษ ผมพยายามดันตัวลุกขึ้นแต่เพราะจุกจนแม้แต่ขยับตัวยังทำไม่ได้
 
“อั่ก!” ท้องผมโดนฝาดด้วยหน้าแข้งอีกครั้ง แล้วก็เสยเข้าที่ปากจนรู้สึกได้ถึงรสคาว แต่สายตายังจับจองภาพที่ผมอยากหยุดมันเหลือเกินคือพี่ลู่ที่เสื้อสีขาวนั้นขาดจนดูไม่เป็นเสื้อแล้ว ทำไงดี... เพราะจำนวนที่มากเกินไปทำให้ผมตั้งรับไม่ทันโดนรุมกระทืบอยู่อย่างนั้นจนสมองเริ่มเบลอ พอสิ้นเสียงเท้านับสิบ ตอนนี้เหลือเพียงเสียงหอบกับลมหายใจที่รวนริน และเสียงสะอึกสะอื้นของพี่ลู่
 
ตุบ!
 
“พี่ลู่ วิ่ง!” ภาพเลือนรางที่ผมเห็นตอนนี้คือดีโอที่ใช้ไม้ฝาดเข้าที่ท้ายทอยไอ้เลวนั้นแล้วฉุดมือพี่ลู่ให้วิ่ง นั้นแหละ...หนีไป ผมพยายามรวบรวมแรงฮึดอีกครั้งเพื่อลุกขึ้นแต่ว่าภาพต่อมาทำให้ผมให้ผมทรุดลงไปอีกครั้ง
 
“จะไปไหน!!”
 
ตุบ!
 
“ดีโอ !” ผมกับพี่ลู่ประสานเสียงกันทันทีเมื่อไอ้เลวที่โดนดีโอฝาดไปก่อนหน้าคว้าไม้แล้วฝาดคืนที่ท้ายทอยดีโอเต็มๆ ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นแล้วนอนแน่นิ่ง ไม่...
 
“ดีโอ ดีโอ!” พี่ลู่ทรุดตรงลงกอดดีโอเอาไว้แต่ไม่นานนักก็ถูกกระชากเหวี่ยงกลับที่เดิม แต่ร่างบางก็พยายามดิ้นโดยการทั้งถีบทั้งทุบแต่ไม่เสร็จ “ฤทธิ์เยอะนักนะ !”
 
เพี๊ยะ!
 
มือหนาฝาดลงบนแก้มเนียนเป็นรอยแดง แต่นั้นยังไม่หนำใจมัน มือเลวยังตบอยู่อย่างนั้นซ้ำๆจนของเหลวสีแดงไหลออกจากมุมจากสีอ่อน ผมยอมเห็นภาพนี้ต่อไป ไม่ไหวแล้ว... มันเจ็บยิ่งกว่าแผลบนตัวผมตอนนี้
 
“ย๊ากกกกกกกก” ผมรวบรวมแรงที่ผมวิ่งสุดแรงแล้วกระโดดถีบร่างหนากลิ้งไปตามๆกัน หมดแล้ว...หมดแล้วแรงผม
 
“พะ...พี่ลู่..” ผมมองพี่ลู่เป็นนัยน์ว่าหนีไป แต่ร่างบางกลับทรุดลงซะงั้น โธ่เว้ย
 
“พอละ กูชักไม่ทนละ!!”
 
“อั่ก!” คางผมถูกเสยจนหงายหลังลงไปนอนก่อนจะถูกกระทืบซ้ำ จนกระอักเลือดออกมา สุดท้ายมันก็หยุดเท้าไว้ที่แก้มผมก่อนจะออกแรงกดหน้าผมติดกับปูนซีเมนต์
 
“ไหนยังปากดีอยู่เลยไง”
 
“ก็อย่าหมาหมู่สิเว้ย” มะ...ไม่ใช่เสียงผมนะ
 
ผลั่ก !
 
อยู่ๆร่างใหญ่ที่เหยียบหน้าผมไว้ก็กระเด็นออกไปไกล คนที่อยู่ข้างผมตอนนี้คือ...
 
“ชะ....ชานยอล...” ชานยอลหันไปช่วยอีกสองคนที่วิ่งตามมาอัดไอ้พวกที่เหลือก่อนที่มันจะวิ่งหนีหางจุดตูดหายไป เซฮุนรีบพุงเข้าหาพี่ลู่ทันที ส่วนไควิ่งไปดูการดีโอที่นอนนิ่งไม่ยอมขยับจนใจผมลงไปกองกับพื้นแล้ว ชานยอลพยุงตัวผมขึ้นนั่งก่อนกอดผมแน่น
 
“ช้าไปใช่มั้ย...” เสียงปนลมหายใจหอบกับหัวใจที่เต้นรัวเรียกสติผมที่หลุดลอยกลับมา ผมสายหน้าเบาๆแล้วผละออกจากอกกว้างรีบหันมองพี่ลู่ทันที
 
“ฮึกๆๆๆๆเซฮุน...ฮือๆๆๆๆๆๆ” ร่างบางขดตัวร้องไห้หนักในอ้อมกอด เซฮุนตวัดตามองผมทีนึงก่อนช้อนตัวพี่ลู่ขึ้นแล้วเดินหายไปทันที โกรธผมรึเปล่า...ที่ปกป้องพี่ลู่ไม่ได้ ที่ปกป้องใครไม่ได้เหมือนเคย... นี้ผม...โดนโกรธแล้วใช่มั้ย ผมลากสายตาไปกลับไปมองไคที่ช้อนตัวดีโอขึ้นแล้วเดินมาหาชานยอลที่กอดผมไม่ปล่อย
 
“โดนฝาดแรงน่าดู พาไปที่คอนโดก่อนละกัน”
 
“อืม” ชานยอลตอบ แล้วก้มลงมองผม ผมใช้สองแขนคล้องคอนั้นแล้วซุกหน้ากับอกกว้างนี้ นี้ผม...ทำอะไรลงไป...
 
Chanyeol Part’s
เพราะไม่อยากให้หมาน้อยรู้สึกมากกว่าเดิมเพราะสภาพเพื่อนที่ไม่สามารถปกป้องได้เลยให้ไคเอาไปไว้ห้องมันก่อน ปานนี้ยังไม่ฝืนเลย ผมเพิ่งไปดูมาเมื่อกี้เพราะปล่อยให้หมาน้อยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อน ก่อนออกมาผมขอเบอร์แม่หมาน้อยไว้แล้วก็โทรบอกว่าวันนี้ค้างห้องผมคืนนึง ซึ่งคุณแม่ก็ไม่ได้ขัดอะไร แถมยังบอกว่า ‘ฝากลูกชายม๊าด้วยน้า’ประมานนี้ - -
 
“เป็นไงบ้าง” ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง ร่างเล็กนั่งก้มหน้านิ่งไม่ยอมตอบผมเลยคว้ากล่องพยาบาลแล้วเดินเข้านั่งคุกเข่าตรงหน้า ค่อยเชยคางนั้นให้เบาที่สุด พอเห็นหน้านั้นชัดๆทำให้ผมอยากเปลี่ยน... เปลี่ยนบาดแผลบนหน้านั้นให้มาอยู่บนหน้าผมซะเอง อยากเปลี่ยนดวงตาว่างเปล่านั้นเป็นรอยยิ้มแทน ผมต้องทำยังไงนะ...
 
“ทนหน่อยนะ” ผมแตะสำลีที่แต้มยาไว้ลงบนแผลเบาๆ หมาน้อยถึงกับร้องซีดแต่ก็ยังคงหน้านิ่งไว้จนผมทำแผลให้เสร็จก็ยังคุกเข่าอยู่อย่างนั้น
 
“นายจะจ้องฉันอีกนานมั้ย” ร่างเล็กพูดแม้ไม่ได้มองหน้าทำให้ผมหลุดหัวเราะออก หมาน้อยหันมามองผมอย่างไม่เข้าใจ
 
“หัวเราะอะไร”
 
“อย่างนายเนี่ย ไม่น่าพลาดท่าเลยนะ”
 
“จะซ้ำเติมเพื่อ?”
 
“เปล่าซะหน่อย” ผมเอื้อมไปลูบหัวเบาๆ แล้วหัวเราะออกมาทำให้หมาน้อยเบ้ปากใส่ทันที
 
“ทีหลังก็ระวังตัวหน่อยละกัน” ผมเปลี่ยนมากุมมือนี้ไว้
 
“อืม...” หมาน้อยพยักหน้า ผมลุกออกมกะจะปล่อยเวลารักษาตัวเขาเองแต่ว่ามีบางอย่างที่ฉุดผมไว้
 
“ชานยอล”
 
“หะ?”
 
“ขอบคุณนะ”
 
ตึกๆ...
 
“ขอบคุณอะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองผมตรงก่อนจะเดินมาใกล้แล้วเอื้อมมือแตะที่แก้มผมเบาๆ
 
“โอ๊ย” แค่นิ้วเรียวเกลี่ยเบาๆทำไมผมถึงเจ็บขนาดนี้นะ มีแผลงั้นหรอ
 
“ไม่รู้ตัวเลยหรอ”
 
“มะ...ไม่” เสียงผมแผ่วลงทันทีเมื่อรู้ถึงระยะห่างระหว่างผมกับหมาน้อย ผมเดินไปนั่งเก้าอี้แล้วฉีกยิ้มบางๆให้
 
“ทำแผลให้หน่อยดิ”
 
“ถึงได้เรียกนายเพราะจะให้ทำให้เนี่ยแหละ” หมาน้อยเดินไปหยิบกล่องพยาบาลและจัดการทำแผลให้ผมเสร็จสรรพ ผมใช้สองแขนคล้องเอวนี้ไว้
 
“ทะ...ทำอะไรของนายเนี่ย-/////-”
 
“แค่นี้เอง ทำไมต้องหน้าแดง”
 
“เปล่าซะหน่อย” ผมยิ้มกว้างอีกครั้งแล้วลุกขึ้นหอมลงบนพลาสเตอร์ยาหรือก็คือแก้มของร่างเล็กนี้เอง
 
“ขอบคุณนะ ^^”
__________________________________________________________
ยอลมาอย่างหล่อ~~มาแล้วคร๊าบ ช้าไปหน่อยฝนตกไฟดับ 5555

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา