Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
9.7
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
45 ตอน
590 วิจารณ์
95.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
42)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBeside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๔๒
“คุณไม่บอกฟางสักคำ!!!!”
ธนันต์ธรญ์ตวัดค้อนใส่คนไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวที่ยืนอยู่ข้างกาย ทำไมเขาถึงได้ขยัน
ทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักแบบนี้นะ เธอบิดตัวออกจากอ้อมกอดคนเจ้าเล่ห์ที่เขาแต่อมยิ้มอยู่
คนเดียว
“แล้วคุณพิมเธอไม่...”
“ผมแคร์คุณนะฟาง สถานะกำกวมที่ไม่ชัดเจนแบบนั้นจะทำให้คุณเสียหาย ตราบใดที่
พิมประภายังไม่ตัดใจและนักข่าวยังขยันประโคมข่าว ผมไม่แน่ใจนักหรอกว่าหัวใจของคุณจะเข้ม
แข็งพอ เพราะถ้าเป็นผม...ผมก็คงทนไม่ไหว”เธอแทบไม่ได้ตั้งใจฟังเขาเลย เพราะดวงตาคู่คมที่
กำลังมองเธอนั้นมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดของเขา
“มองแบบนี้อยากได้สักจูบรึไง”
ภาณุเอ่ยเย้าคนตัวเล็กที่มองเขาตาแป๋ว เขาคงกลายเป็นคนบ้าไปแล้วจริงๆ เกิดมาไม่
เคยคิดเลยว่าชีวิตหนึ่งจะพูดในสิ่งนี้ได้ เขาคิดว่าการรักผู้หญิงสักคน แค่การที่พอใจเมื่อมี
กันและกัน อยู่ข้างกัน ใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกัน แต่ในวันนี้มันไม่ใช่เลย...เขาเรียนรู้ที่จะรอ เสียสละ
ห่วงใย เพราะเธอทั้งนั้นที่ทำให้เขาได้รู้ว่าอันที่จริงแล้ว...
รักก็ไม่จำเป็นต้องมีกันและกันอยู่ข้างๆกาย ไม่จำเป็นต้องใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกัน แค่เธอยังมีเขาอยู่
ในหัวใจเช่นเดียวกับที่เขามี แค่คนที่อยู่ข้างกายเขาในวันที่เขากำลังมีปัญหาคือเธอ ไม่ว่าในเวลาที่
สุขหรือทุกข์ก็ยังมีเธอ...เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับความรัก
“หนาวรึเปล่า”เขาก้มลงกระซิบถามคนตัวเล็กในอ้อมกอด ธนันต์ธรญ์พยักหน้าน้อยๆ
เขาจึงกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดเธอจากด้านหลังให้แน่นยิ่งขึ้น ก้มลงจูบบนขมับบางอย่าง
แผ่วเบา ก่อนจะหลับตาลงซึมซับเขาความสุขที่กำลังเกิดขึ้นให้แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของหัวใจ...
“ทำไมคะ! สมใจคุณละสิ ยังไงคุณก็เห็นแม่นั่นดีกว่าลูกสาวแท้ๆของคุณ คุณมันลำเอียง!”
“ใจเย็นๆสิคุณ”
“จะให้เย็นยังไงไหวคะ! หรือว่าคุณไม่เห็น ตอนนี้หน้าตาเราแตกยับเยินไปหมดแล้ว
หรือว่าพอใจคะที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้”
คุณทิพย์ธารามองสามีด้วยแววตาหลากหลาย ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว
ธนันต์ธรญ์คือลูกสาวของเขา หล่อนเฝ้าติดตามชีวิตของสองแม่ลูกนั่นไม่ได้น้อยไปกว่าสามีของ
หล่อน หล่อนเฝ้าภาวนาให้ไม่มีวันไหนที่หล่อนและพิมพ์ดาวต้องมาเกี่ยวข้องและพบเจอกันอีก
แต่จนแล้วจนรอด...
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความอย่างที่พูดยังไงล่ะคะ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะคะ ถึงเด็กนั่นจะเป็นลูกของ
คุณ แต่คุณลืมไปแล้วหรือคะว่าน้องพิมเป็นลูกของเรา ฉันผิดหวังในตัวคุณ!”
“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง จะให้ผมยืนกรานที่จะให้ภาณุแต่งงานกับลูกสาวเราทั้งๆ
ที่แท้จริงแล้วพันธะสัญญาระหว่างเขากับเรามันหมดไปตั้งแต่ผมรับเงินชดใช้ค่าเสียหายจากเขามา
แล้วน่ะหรือ!”
“คุณโชติ!”เขาเอ่ยเรียกสามีอย่างตื่นตระหนก ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนแบบนี้ เขาแทบ
ไม่เคยขึ้นเสียงกับหล่อนด้วยซ้ำ
“พอเถอะ...คิดเสียว่าสงสารลูก แกเจ็บมามากพอแล้ว”น้ำเสียงเข้มนนั้นช่างดูอ่อนล้า
ใบหน้าอิดโรยของสามีทำให้หล่อนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่หล่อนคิดว่าคงจะหนีมันไม่พ้น
“คุณยังรักพิมพ์ดาว...”
“พอเถอะ เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว...ตอนนี้ผมแค่อยากสู้หน้าธนันต์ธรญ์ให้ได้
เพราะความผิดบาปที่ผมได้ทำไว้นั้นทำให้ผมละอายใจเหลือเกินที่จะบอกว่าเป็นพ่อของเธอ”
“แล้วจำเป็นหรือคะ...เด็กนั่นอยู่โดยไม่มีพ่อมาครึ่งค่อนชีวิต คุณยังคิดว่าตัวเอง
สำคัญกับธนันต์ธรญ์อยู่อีกหรือคะ หึ...ตลกสิ้นดี!”หล่อนรีบสาวเท้าไปให้ไกลจากสามี น้ำตาที่ไม่รู้
ว่ามาจากที่ไหนไหลรินออกมาอย่างมากมายจนมองหาหนทางข้างหน้าแทบไม่เห็น
“อุ้ย!”
คุณทิพย์ธาราอุทานเมื่อชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจังจนร่างเลกนั้นล้มลงไปกอง
บนพื้นทรายเช่นเดียวกับหล่อน หล่อนช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมองใบหน้าสวย
หวานที่ซีดเผือดของธนันต์ธรญ์ก่อนจะคลี่ยิ้มขมขื่น
“ได้ยินแล้วสินะ...ดีใจไหมล่ะได้เจอพ่อน่ะ”หล่อนเอ่ยเพียงเท่านั้นก็รีบลุกขึ้นและวิ่ง
กลับเข้าบ้านไปทันที
ธนันต์ธรญ์มองตามแผ่นหลังของคุณทิพย์ธารา ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นโดยมีภาณุช่วย
ประคองให้ลุกขึ้นมา เธอบังเอิญได้ยินเสียงคนทะเลาะกันและเกิดเป็นห่วงขึงวิ่งเข้ามาเพื่อดู
สถานการณ์ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับทำให้เธอแทบหยุดหายใจ...
“ตั้งสตินะฟาง...”เธอพยักหน้าน้อยๆ เมื่อน้ำเสียงเข้มของคนรักหนุ่มบอกแบบนั้น
และนิ้วแกร่งของเขาค่อยๆเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ
“ฟางอยากคุยกับพ่อ”เธอบอกเขาเบาๆ ภาณุยิ้มรับก่อนค่อยๆลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
“บางทีคุณควรจะปล่อยวาง อะไรที่มันทำให้คุณไม่สบายใจคุณก็ไม่ควรแบกมันไว้”เขา
จับเธอหมุนกายไปทิศที่คุณโชติยืนอยู่ ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“วันนี้มีแต่เรื่องดีๆนะ คุณว่าไหม?”
ธนันต์ธรญ์พยักหนน้ายิ้มๆ ใช่...ภาณุพูดถูก ทำไมเธอต้องใส่ใจกับเรื่องที่ผ่านมา
วันนี้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เมื่อตอนนี้เธอมีทั้งคนรักที่เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอ
เสมอ เธอมีแม่ที่คอยรักและห่วงใยเธอตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา และวันนี้เธอก็ได้เจอพ่อที่ให้กำเนิด
เธอ...ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
“พ่อคะ...”เสียงหวานเอ่ยเรียกแผ่วเบา
“ฟาง!”เธอคลี่ยิ้มหวานทั้งน้ำตา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ขอกอดหน่อยได้ไหมคะ”เธอยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะเมื่อดวงตาคู่คมของบิดานั่นคล้ายจะ
สับสนในท่าทีของเธอ หากแต่เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็โบยบินเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแกร่งของพ่อที่ไม่
เคยได้สัมผัสว่ามันแข็งแกร่งและอบอุ่นเพียงใด...แต่วันนี้เธอรู้แล้ว
“พ่อขอโทษ”นานเทานานกว่าร่างเล็กที่สั่นเทิ้มด้วยแรงสะอื้นไห้จะผละออกจากอ้อม
กอดของคนเป็นพ่อ ใบหน้าหวานส่ายน้อยๆก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไม่มีใครทำอะไรผิดหรอกค่ะ...วันนี้โชคดีจริงๆด้วย ได้เจอพ่อ...ที่จริงฟางคิดว่าฟาง
คงจะไม่มีทางหาเขาเจอ แต่ว่าตอนนี้พ่ออยู่ตรงหน้าฟาง”เธอคลี่ยิ้มหวาน
“หนูมีความสุขดีไหมลูก”
“ค่ะ...แม่เลี้ยงฟางมาอย่างดี”
“หนูเหมือนแม่เหลือเกิน พ่อไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาณุถึงได้หลงรัก”
“ต่อไปนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ เรื่องเก่าในอดีตอย่าได้เอามันมาทำลายความสุข
ของเราอีก ฟางจะไม่เรียกร้องให้พ่อกลับมาอยู่กับเรา และฟางก็รู้ดีว่าคุณทิพย์ธาราคงจะไม่ชอบที่
เห็นพ่อมายุ่งกับเราสองแม่ลูก...เพราะฉะนั้นแล้ว...”เธอกล้ำกลืนฝืนทนระรอกคลื่นของความ
เสียใจที่กำลังสาดซัดอย่างโหมแรง ก่อนจะเอ่ย
“ฟางควรอยู่ในที่ของฟาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฟางจะลืมพ่อนะคะ
แต่สำหรับแม่...ท่านไม่เคยลืมความเจ็บปวดนั้นเลย...”
“พ่อรู้...พ่อคงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวหรือทำให้แม่ของลูกเสียใจอีก...พ่อขอโทษที่ไม่เคย
ทำหน้าที่พ่ออย่างดีที่สุด”
ภาณุยิ้มบางเบาให้กับภาพที่เห็นข้างหน้า เขาคงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ
เรื่องนี้ได้มากนัก แต่เขาเห็นจุดจบของความลังเลแล้วว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน หากวันนั้นเขาไม่
กล้าที่จะรับว่าตัวเองรักธนันต์ธรญ์มากขนาดไหน และหากวันนี้เขาไม่กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ถูกต้อง
เขาก็คงจะไม่มีช่วงเวลาของความสุขกับสิ่งที่ถูกใจ ธนันต์ธรญ์คือคนที่หัวใจของเขาเลือกแล้ว
และนับจากนี้มันจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว และตลอดไป...
สายลมแห่งตะวัน
แฮ่ๆๆๆๆเค้ามาแล้วววว ฮ่าๆ อู้ไปหลายวันเลย พอดีหาแรงบันดาลใจเพลินไป
หน่อย อิอิ ขอโทษน้า ตอนหน้าตอนจบละน้า ช่วยเม้น+โหวตให้เค้าหน่อยนะ ถือว่าเป็นกำลังใจ
ตอนที่๔๒
“คุณไม่บอกฟางสักคำ!!!!”
ธนันต์ธรญ์ตวัดค้อนใส่คนไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวที่ยืนอยู่ข้างกาย ทำไมเขาถึงได้ขยัน
ทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักแบบนี้นะ เธอบิดตัวออกจากอ้อมกอดคนเจ้าเล่ห์ที่เขาแต่อมยิ้มอยู่
คนเดียว
“แล้วคุณพิมเธอไม่...”
“ผมแคร์คุณนะฟาง สถานะกำกวมที่ไม่ชัดเจนแบบนั้นจะทำให้คุณเสียหาย ตราบใดที่
พิมประภายังไม่ตัดใจและนักข่าวยังขยันประโคมข่าว ผมไม่แน่ใจนักหรอกว่าหัวใจของคุณจะเข้ม
แข็งพอ เพราะถ้าเป็นผม...ผมก็คงทนไม่ไหว”เธอแทบไม่ได้ตั้งใจฟังเขาเลย เพราะดวงตาคู่คมที่
กำลังมองเธอนั้นมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดของเขา
“มองแบบนี้อยากได้สักจูบรึไง”
ภาณุเอ่ยเย้าคนตัวเล็กที่มองเขาตาแป๋ว เขาคงกลายเป็นคนบ้าไปแล้วจริงๆ เกิดมาไม่
เคยคิดเลยว่าชีวิตหนึ่งจะพูดในสิ่งนี้ได้ เขาคิดว่าการรักผู้หญิงสักคน แค่การที่พอใจเมื่อมี
กันและกัน อยู่ข้างกัน ใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกัน แต่ในวันนี้มันไม่ใช่เลย...เขาเรียนรู้ที่จะรอ เสียสละ
ห่วงใย เพราะเธอทั้งนั้นที่ทำให้เขาได้รู้ว่าอันที่จริงแล้ว...
รักก็ไม่จำเป็นต้องมีกันและกันอยู่ข้างๆกาย ไม่จำเป็นต้องใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกัน แค่เธอยังมีเขาอยู่
ในหัวใจเช่นเดียวกับที่เขามี แค่คนที่อยู่ข้างกายเขาในวันที่เขากำลังมีปัญหาคือเธอ ไม่ว่าในเวลาที่
สุขหรือทุกข์ก็ยังมีเธอ...เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับความรัก
“หนาวรึเปล่า”เขาก้มลงกระซิบถามคนตัวเล็กในอ้อมกอด ธนันต์ธรญ์พยักหน้าน้อยๆ
เขาจึงกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดเธอจากด้านหลังให้แน่นยิ่งขึ้น ก้มลงจูบบนขมับบางอย่าง
แผ่วเบา ก่อนจะหลับตาลงซึมซับเขาความสุขที่กำลังเกิดขึ้นให้แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของหัวใจ...
“ทำไมคะ! สมใจคุณละสิ ยังไงคุณก็เห็นแม่นั่นดีกว่าลูกสาวแท้ๆของคุณ คุณมันลำเอียง!”
“ใจเย็นๆสิคุณ”
“จะให้เย็นยังไงไหวคะ! หรือว่าคุณไม่เห็น ตอนนี้หน้าตาเราแตกยับเยินไปหมดแล้ว
หรือว่าพอใจคะที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้”
คุณทิพย์ธารามองสามีด้วยแววตาหลากหลาย ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว
ธนันต์ธรญ์คือลูกสาวของเขา หล่อนเฝ้าติดตามชีวิตของสองแม่ลูกนั่นไม่ได้น้อยไปกว่าสามีของ
หล่อน หล่อนเฝ้าภาวนาให้ไม่มีวันไหนที่หล่อนและพิมพ์ดาวต้องมาเกี่ยวข้องและพบเจอกันอีก
แต่จนแล้วจนรอด...
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความอย่างที่พูดยังไงล่ะคะ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะคะ ถึงเด็กนั่นจะเป็นลูกของ
คุณ แต่คุณลืมไปแล้วหรือคะว่าน้องพิมเป็นลูกของเรา ฉันผิดหวังในตัวคุณ!”
“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง จะให้ผมยืนกรานที่จะให้ภาณุแต่งงานกับลูกสาวเราทั้งๆ
ที่แท้จริงแล้วพันธะสัญญาระหว่างเขากับเรามันหมดไปตั้งแต่ผมรับเงินชดใช้ค่าเสียหายจากเขามา
แล้วน่ะหรือ!”
“คุณโชติ!”เขาเอ่ยเรียกสามีอย่างตื่นตระหนก ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนแบบนี้ เขาแทบ
ไม่เคยขึ้นเสียงกับหล่อนด้วยซ้ำ
“พอเถอะ...คิดเสียว่าสงสารลูก แกเจ็บมามากพอแล้ว”น้ำเสียงเข้มนนั้นช่างดูอ่อนล้า
ใบหน้าอิดโรยของสามีทำให้หล่อนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่หล่อนคิดว่าคงจะหนีมันไม่พ้น
“คุณยังรักพิมพ์ดาว...”
“พอเถอะ เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว...ตอนนี้ผมแค่อยากสู้หน้าธนันต์ธรญ์ให้ได้
เพราะความผิดบาปที่ผมได้ทำไว้นั้นทำให้ผมละอายใจเหลือเกินที่จะบอกว่าเป็นพ่อของเธอ”
“แล้วจำเป็นหรือคะ...เด็กนั่นอยู่โดยไม่มีพ่อมาครึ่งค่อนชีวิต คุณยังคิดว่าตัวเอง
สำคัญกับธนันต์ธรญ์อยู่อีกหรือคะ หึ...ตลกสิ้นดี!”หล่อนรีบสาวเท้าไปให้ไกลจากสามี น้ำตาที่ไม่รู้
ว่ามาจากที่ไหนไหลรินออกมาอย่างมากมายจนมองหาหนทางข้างหน้าแทบไม่เห็น
“อุ้ย!”
คุณทิพย์ธาราอุทานเมื่อชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจังจนร่างเลกนั้นล้มลงไปกอง
บนพื้นทรายเช่นเดียวกับหล่อน หล่อนช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมองใบหน้าสวย
หวานที่ซีดเผือดของธนันต์ธรญ์ก่อนจะคลี่ยิ้มขมขื่น
“ได้ยินแล้วสินะ...ดีใจไหมล่ะได้เจอพ่อน่ะ”หล่อนเอ่ยเพียงเท่านั้นก็รีบลุกขึ้นและวิ่ง
กลับเข้าบ้านไปทันที
ธนันต์ธรญ์มองตามแผ่นหลังของคุณทิพย์ธารา ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นโดยมีภาณุช่วย
ประคองให้ลุกขึ้นมา เธอบังเอิญได้ยินเสียงคนทะเลาะกันและเกิดเป็นห่วงขึงวิ่งเข้ามาเพื่อดู
สถานการณ์ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับทำให้เธอแทบหยุดหายใจ...
“ตั้งสตินะฟาง...”เธอพยักหน้าน้อยๆ เมื่อน้ำเสียงเข้มของคนรักหนุ่มบอกแบบนั้น
และนิ้วแกร่งของเขาค่อยๆเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ
“ฟางอยากคุยกับพ่อ”เธอบอกเขาเบาๆ ภาณุยิ้มรับก่อนค่อยๆลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
“บางทีคุณควรจะปล่อยวาง อะไรที่มันทำให้คุณไม่สบายใจคุณก็ไม่ควรแบกมันไว้”เขา
จับเธอหมุนกายไปทิศที่คุณโชติยืนอยู่ ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“วันนี้มีแต่เรื่องดีๆนะ คุณว่าไหม?”
ธนันต์ธรญ์พยักหนน้ายิ้มๆ ใช่...ภาณุพูดถูก ทำไมเธอต้องใส่ใจกับเรื่องที่ผ่านมา
วันนี้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เมื่อตอนนี้เธอมีทั้งคนรักที่เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอ
เสมอ เธอมีแม่ที่คอยรักและห่วงใยเธอตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา และวันนี้เธอก็ได้เจอพ่อที่ให้กำเนิด
เธอ...ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
“พ่อคะ...”เสียงหวานเอ่ยเรียกแผ่วเบา
“ฟาง!”เธอคลี่ยิ้มหวานทั้งน้ำตา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ขอกอดหน่อยได้ไหมคะ”เธอยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะเมื่อดวงตาคู่คมของบิดานั่นคล้ายจะ
สับสนในท่าทีของเธอ หากแต่เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็โบยบินเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแกร่งของพ่อที่ไม่
เคยได้สัมผัสว่ามันแข็งแกร่งและอบอุ่นเพียงใด...แต่วันนี้เธอรู้แล้ว
“พ่อขอโทษ”นานเทานานกว่าร่างเล็กที่สั่นเทิ้มด้วยแรงสะอื้นไห้จะผละออกจากอ้อม
กอดของคนเป็นพ่อ ใบหน้าหวานส่ายน้อยๆก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไม่มีใครทำอะไรผิดหรอกค่ะ...วันนี้โชคดีจริงๆด้วย ได้เจอพ่อ...ที่จริงฟางคิดว่าฟาง
คงจะไม่มีทางหาเขาเจอ แต่ว่าตอนนี้พ่ออยู่ตรงหน้าฟาง”เธอคลี่ยิ้มหวาน
“หนูมีความสุขดีไหมลูก”
“ค่ะ...แม่เลี้ยงฟางมาอย่างดี”
“หนูเหมือนแม่เหลือเกิน พ่อไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาณุถึงได้หลงรัก”
“ต่อไปนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ เรื่องเก่าในอดีตอย่าได้เอามันมาทำลายความสุข
ของเราอีก ฟางจะไม่เรียกร้องให้พ่อกลับมาอยู่กับเรา และฟางก็รู้ดีว่าคุณทิพย์ธาราคงจะไม่ชอบที่
เห็นพ่อมายุ่งกับเราสองแม่ลูก...เพราะฉะนั้นแล้ว...”เธอกล้ำกลืนฝืนทนระรอกคลื่นของความ
เสียใจที่กำลังสาดซัดอย่างโหมแรง ก่อนจะเอ่ย
“ฟางควรอยู่ในที่ของฟาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฟางจะลืมพ่อนะคะ
แต่สำหรับแม่...ท่านไม่เคยลืมความเจ็บปวดนั้นเลย...”
“พ่อรู้...พ่อคงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวหรือทำให้แม่ของลูกเสียใจอีก...พ่อขอโทษที่ไม่เคย
ทำหน้าที่พ่ออย่างดีที่สุด”
ภาณุยิ้มบางเบาให้กับภาพที่เห็นข้างหน้า เขาคงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อ
เรื่องนี้ได้มากนัก แต่เขาเห็นจุดจบของความลังเลแล้วว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน หากวันนั้นเขาไม่
กล้าที่จะรับว่าตัวเองรักธนันต์ธรญ์มากขนาดไหน และหากวันนี้เขาไม่กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ถูกต้อง
เขาก็คงจะไม่มีช่วงเวลาของความสุขกับสิ่งที่ถูกใจ ธนันต์ธรญ์คือคนที่หัวใจของเขาเลือกแล้ว
และนับจากนี้มันจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว และตลอดไป...
สายลมแห่งตะวัน
แฮ่ๆๆๆๆเค้ามาแล้วววว ฮ่าๆ อู้ไปหลายวันเลย พอดีหาแรงบันดาลใจเพลินไป
หน่อย อิอิ ขอโทษน้า ตอนหน้าตอนจบละน้า ช่วยเม้น+โหวตให้เค้าหน่อยนะ ถือว่าเป็นกำลังใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ