Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  94.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

43)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

ตอนที่๔๓(ตอนจบ)

 

 

 

               ร่างงามสมส่วนอยู่ในชุดผ้าไทยประยุกต์สีงาช้างดูสวยสง่าและอ่อนหวานในครา

เดียวกัน สไบงามปักเลื่อมคริสตัลสะบัดปลิวตามกระแสลมที่ลอดผ่านช่องหน้าต่าง

ใบหน้าอ่อนหวานที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีแย้มเรียวปากอิ่มยิ้มบางๆให้กับตัวเองใน

กระจก

 

 

               “วันนี้ลูกแม่งามขนาด”ร่างบอบบางหมุนตัวจากกระจกเงาไปสวมกอดมารดาที่เพิ่งจะ

เดินเข้ามา เธอสวมกอดมารดาด้วยความรัก ยิ่งวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอแล้ว มันทำให้เกิด

ความรู้สึกแปลกๆ กลัวว่าจะต้องจากอ้อมอกแม่ ทั้งที่แท้จริงแล้ววันนี้เป็นเพียงวันหมั้นเท่านั้น

 

 

               “ตื่นเต้น....”เธอพึมพำกับมารดาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดของท่าน

 

 

               “วันนี้บ่มีใครหรอกลูก มีแต่คนในครอบครัว น้องบ่ต้องตื่นเต้น”

 

 

               “เจ้า”เธอรับคำ ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง งานวันนี้ถูกจัดขึ้นที่บ้านของคุณ

พิมพ์มาลา เธอทอดสายตามองแขกเหรื่อผู้ใหญ่ทั้งทางฝ่ายเธอและภาณุที่ทยอยกันขึ้นมาบน

เรือนไทย แม้จะบอกว่าเป็นงานเล็กๆภายในครอบครัว

แต่ดูเหมือนครอบครัวของภาณุนั้นไม่ได้เล็กเลย...และเธอก็รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขาขึ้นมาเสีย

อย่างนั้น...บ้าจริง!

 

 

               “ใกล้ฤกษ์แล้ว ไปเถอะลูก”เธอพยักหน้ารับเบาๆ

 

 

 

 

 

               บริเวณโถงบ้านเรือนไทยหลังงามถูกประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพรรณ กลางห้อง

โถงนั้นมีญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายและหญิงนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมสินสอดทองหมั้น ใบหน้าของ

ทุกคนล้วนประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข และคนที่ดูจะมีความสุขยิ่งกว่าใครคงไม่พ้นเจ้าของ

สายตาคู่คมที่เฝ้ามองร่างบอบบางของคนรักในชุดไทยประยุกต์ที่กำลังเดินมา ภาณุยิ้มให้กับคนรัก

สาวที่นั่งพับเพียบลงเคียงข้างเขา วันนี้เธอดูสาวหวานราวกับนางในวรรณคดี วันนี้เขารู้ซึ้งทีเดียวว่า

ผู้หญิงที่ผู้ชายคนหนึ่งให้หัวใจไปแล้วนั้นสวยกว่าผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

อย่างไร...

 

 

               “สวมแหวนให้น้องสิลูก”

 

 

               ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงมารดาร้องเตือน เขาหัวเราะเบาๆเมื่อ

มองใบหน้าหวานของธนันต์ธรญ์นั้นก็พบว่าเขาทำให้คนรักสาวประหม่าและเขินอายจนหน้าแดงก่ำ

ไปหมด เขาเอื้อมมือไปดึงแหวนไพลินวงงามจากกล่อง นี่เป็นแหวนที่บิดาของเขาใช้หมั้นหมายกับ

มารดา แน่นอนว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจนักสำหรับคุณพรพิมล แต่ดูท่านจะเอ็นดูลูกสะใภ้คนนี้มาก

ขนาดตั้งใจให้แหวนวงนี้แก่เขาเพื่อใช้หมั้นธนันต์ธรญ์

 

 

               มือหนาเอื้อมมือไปประคองมือเล็กของคนรักสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสวมแหวนวง

งามในนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาว คนตัวเล็กยิ้มบางๆให้ชายหนุ่มอย่างเขินอาย ก่อนจะก้มลง

กราบที่ตักของภาณุ ชายหนุ่มรับไหว้ ก่อนธนันต์ธรญ์จะเป็นฝ่ายสวมแหวนให้กับชายหนุ่มบ้าง

ภาณุยกมือรับไหว้หญิงสาวที่สวมแหวนให้เขาเรียบร้อยแล้ว ก่อนทั้งสองจะหันหน้าเข้าหาผู้ใหญ่

และกราบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

 

 

        “แม่ฝากน้องด้วยนะลูก แกเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของแม่ แม่ไว้ใจให้เราดูแลน้องนะ”

 

               คุณพิมพ์ดาวเอ่ยขึ้นหลังจากทั้งคู่ก้มกราบเสร็จ น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลรินลงมา

เมื่อมองเห็นความสุขของลูกสาวตัวน้อย และเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ธนันต์ธรญ์คนที่รักเธอไม่แพ้หล่อน

และหล่อนก็เชื่อว่าภาณุจะดูแลดวงใจของหล่อนได้เป็นอย่างดี

 

 

               “แน่นอนครับ ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”ภาณุพูดพร้อมหันไปมองเสี้ยวหน้าหวานของคนรัก

 

 

               “แม่หมั้นน้องให้แล้วก็กลับมานอนบ้านบ้างหละ อย่าเอาแต่นอนกรมบินอย่างเมื่อฃ

ก่อน”ประโยคติดตลกของคุณพรพิมลเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนน

ต่างรู้ดีนักว่าภาณุคนก่อนนั้นเป็นพวกรักอิสระขนาดไหน

 

 

 

 

               หลังจากพิธีหมั้นผ่านพ้นไปก็มีการรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ก่อนที่ทั้ง

หนุ่มสาวจะส่งแขกกลุ่มสุดท้ายของวันสำคัญก็เป็นเวลากว่าบ่ายสามโมง ภาณุมองหญิงสาวที่

ทำท่าเหมือนซอมบี้เดินกลับมานั่งบนโซฟา ก่อนจะปิดเปลือกตาลงก็อดเอ็นดูไม่ได้ ตื่นก็เช้าไหน

จะต้องมาแนะนำตัวให้ผู้ใหญ่รู้จักนั้นก็แทบไม่ได้นั่งเลย เขานั่งมองจนเจ้าตัวหลับไป จึงช้อนร่าง

บอบบางขึ้นอุ้ม ก่อนจะเดินไปยังห้องของธนันต์ธรญ์ เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อน

ค่อยๆปลดเครื่องประดับอย่างสร้อยและกำไลออกให้อย่างเบามือ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ

ร่างบอบบาง เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กข้างซ้ายที่บนนิ้วนางของเธอมีแหวนไพลินวงงามประดับอยู่

ริมฝีปากหยักยิ้มอย่างพึงใจก่อนจะกดจูบหนักแน่นบนหลังมือบอบบาง

 

 

               “เสียใจด้วยนะเด็กน้อย คุณติดกับผมแล้ว อย่าหวังเลยว่าผมจะปล่อยคุณ...”

 

               ภาณุยิ้มอย่างหมายมาด ใครจะไม่คิดบ้าง...เขารอไม่ไหวหรอกนะอีกปีสองปีแบบที่

ธนันต์ธรญ์บอก เขาก็อายุไม่ได้น้อยแล้ว เกิดมีลูกไม่ทันใช้จะทำอย่างไร เขาไม่คิดว่ามันเร็วไปสัก

นิดสำหรับเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เพราะในเวลาที่เขาทุกข์หรือสุขนั้นเขามีเธออยู่ข้างกายตลอดมา

และเขาคิดว่าเขาเลือกไม่ผิดคนแน่สำหรับผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก...

 

 

 

               พลบค่ำกว่าร่างบอบบางที่หลับใหลจะตื่นขึ้นมา มือเล็กยกขึ้นขยี้ดวงตาเบาๆ ก่อน

นัยน์ตาจะปรับแสงจ้าของหลอดไฟนีออนในห้องจนเธอสังเกตเห็นคนตัวโตที่นอนดูโทรทัศน์อยู่บน

โซฟาด้วยท่วงท่าสบายๆ เขานั้นอยู่ในชุดนอน ในขณะที่เธอยังอยู่ในชุดพิธีการช่วงเช้าดังเดิม

 

 

               “มาทำอะไรในห้องฟาง”เธอเอ่ยอย่างคุกคาม ให้ตายสิ เพิ่งจะหมั้นกันไปไม่ทันไร

เขาก็ตั้งท่ารุกเธอหนักเสียยิ่งกว่าเดิม ต่อไปคงไม่ใช่แค่ปล้ำกอดจูบเสียแล้ว

 

 

               “ก็มาดูทีวีไง”เธอตอบพลางยักคิ้วกวนประสาท เธอก้าวลงจากเตียง ก่อนจะเดินไป

ยืนเท้าสะเอวหน้าคนตัวโตที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

 

 

               “บังทีวีน่ะฟาง”เขาบ่นอุบ ก่อนจะฉุดร่างเล็กให้นั่งลงบนตัก จมูกโด่งนั้นคอยแต่จ้อง

จะเอาเปรียบเนื้อนวลของคนรักสาว

 

 

               “โอ้ย เจ็บนะ”เธอโวยวายบ้าง เมื่อเขากอดรัดเสียจนแน่น แถมยังปล้ำจูบปล้ำหอม

เธอไปเรื่อยอีก

 

 

               “ถ้านั้นผมให้คุณหอมคืน”เขาว่าพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เธอรีบเบี่ยงหลบเป็นพัลวัน

หัวใจของเธอเต้นโครมครามราวกับมีใครเอากลองศึกเข้ามาตีอยู่ในนี้

 

 

               “ฮ่าๆ นี่ยังเขินอีกหรอเนี่ย”เขาว่าพลางดึงแก้มของเธอเล่นอย่างมันเขี้ยว

 

 

               “ใครจะเหมือนคุณกันล่ะคะ”

 

 

              “หืมมม ใช่สิ ใครจะรักคุณเท่าที่ผมรัก จริงไหม”

 

 

              "ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย”เธอได้แต่ก้มหน้างุด เมื่อเขากดปลายจมูกโด่งเรียวลงบน

แก้มของเธออีกครั้ง มือหนากุมมือเล็กของเธออย่างทะนุถนอม ปลายแม่โป้งใหญ่ของชายหนุ่มลูบ

หัวแหวนไพลินวงงาม ก่อนที่เขาจะยกมือบางขึ้นจดริมฝีปากหยักลึกลงบนหัวแหวนวงงาม ดวงตา

คู่คมละจากแหวนวงงามขึ้นมองหน้าหน้าหวานที่แดงระเรื่อของคนรักอย่างรักใคร่มิปิดบัง

 

 

               “ผมรักคุณ รักมาก อยู่เคียงข้างผมตลอดไปนะ”

 

 

               “ฟางจะอยู่ข้างคุณ...ไปจนลมหายใจสุดท้ายของฟาง”

 

 

               ริมฝีปากอิ่มระเรื่อค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ใบหน้าหล่อคมของคนรักหนุ่ม ดวงตาคู่กลมโต

ค่อยๆปิดลง ลมหายใจทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ขณะที่ริมฝีปากอิ่มปิดทับลงบนริมฝีปาก

หยักของภาณุ ดวงหน้าหวานก็แดงซ่าน หัวใจทั้งสองดวงเต้นแรงและเป็นจังหวะเดียวกัน ดวงตาคู่

คมยังคงเฝ้ามองอากัปกิริยาน่ารักของผู้หญิงที่เขารักอย่างลึกซึ้ง ยิ่งมองใบหน้านวลนานเท่าไหร่

หัวใจของเขายิ่งกระตุกเต้นแรง เขารวบท้ายทอยเล็กของธนันต์ธรญ์เข้ามาใกล้ และมอบจุมพิต

แสนหวานให้กับคนรักสาวอย่างอ่อนโยน....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

                                                    จบ

 

 

 


อะอ้า จบที่ไหน 5555เค้าขอโทษษษษ เค้านี่ไม่เอาไหนเลย เหนื่อยเลยไม่

อยากทำไร นิยายที่ว่าจะต่อให้จบก็หาย ขอโทษจริงๆนะ เอาตอนจบมาเสิร์ฟ เห็นมีคนเรียก

ร้องNC5555 เดี๋ยวจัดให้ตอนพิเศษ ถ้าทันจะเอามาเสิร์ฟให้ตืนนี้น้าาาา

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา