Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
9.7
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
45 ตอน
590 วิจารณ์
95.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
38)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBeside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๓๘
ภาณุจอดรถที่หน้าบ้านหลังเล็กน่ารักในเวลาช่วงเช้าของวันต่อมา แน่นอนว่าชายหนุ่มขับรถโดยไม่หยุดพัก เพราะหัวใจของเขามันมาอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว เขาอยากจะเคลียร์ข้อข้องใจกับคนรักเต็มทน และไม่คิดว่าจะทนต่อไปได้อีกแล้ว พอกันที ถ้าวันนี้เขาคุยกับเธอไม่รู้เรื่องเขาจะตีหัวลากเข้าห้องมันเสียเลย พอกันทีกับอุปสรรคบ้าบอ โง่เง่าพวกนี้
ร่างสูงลงจากรถคันงาม ก่อนจะมองเข้าไปในบ้านที่เห็นเพียงแสงไฟจากห้องครัว เดาว่าคุณพิมพ์ดาวเพิ่งจะตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า เพราะตอนนี้เรียกว่าเช้ามืดก็คงจะไม่ผิด เขายกมือขึ้นไหว้คุณพิมพ์ดาวที่ออกมาเปิดประตูให้เขาเพราะได้ยินเสียงรถ
“สวัสดีครับแม่”
“ตาป๊อป! มาได้ยังไงลูก”ท่านว่าพลางลนลานเปิดประตูบ้านให้เขา
“ผมหยุดยาวน่ะครับ ฟางตื่นหรือยังครับ ผมอยากคุยกับน้อง”เขาเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อม
“ยังลูก เมื่อคืนร้องไห้จนดึกดื่นกว่าจะยอมนอน”
“ผมอธิบายได้นะครับ แม่อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด”
“แม่รู้แล้วล่ะจ้ะ ขึ้นไปปลุกเด็กน้อยสิ แม่ให้แค่ปลุกนะห้ามทำอย่างอื่น”เขายิ้มร่า ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ โผเข้ากอดท่านอย่างดีใจ
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“แม่ให้โอกาสป๊อปแล้วนะ ทำให้น้องหายโกรธให้ได้นะลูก แม่ไม่อยากเห็นแกต้องร้องไห้อีกแล้ว”ท่านตบบ่าเขาเบาๆอย่างให้กำลังใจ เขาผละอ้อมกอดออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านไปยังชั้นบนของบ้าน มองซ้ายมองขวาลองเดินไปเปิดประตูด้านขวามือดู ก็พบร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง เขาปิดประตูลงอย่างเบามือ ก้าวไปหาคนตัวเล็กที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ
ใบหน้าสวยหวานยังเลอะเปื้อนคราบน้ำตา เสียงหวานหลุดสะอื้นแม้อยู่ในห้วงนิทรารมย์ ชายหนุ่มที่เพิ่งจะดีใจตื่นเต้นกลับมีใบหน้าสลดลงทันตาเห็น เมื่อได้รู้ว่าตัวเขาได้ทำอะไรให้คนที่รักต้องเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ร่างสูงทรุดกายนั่งลงบนเตียงชิดแผ่นหลังบอบบาง ลำแขนแกร่งช้อนศีรษะสวยขึ้นนอนบนตักอย่างทะนุถนอม นิ้วเรียวเขี่ยปรอยผมที่ปรกใบหน้าแสนหวานออกอย่างเบามือ พร้อมๆกับใบหน้าหล่อคมที่ก้มต่ำลงไปเพื่อจูบซับน้ำตาบนใบหน้างาม...
ดวงตากลมโตกระพริบน้อยๆ เมื่อรู้สึกว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติ ก่อนจะเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของภาณุอยู่ใกล้แนบชิด หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นใหม่ภาพที่เห็นก็เป็นเช่นเดิม มือบางยกขึ้นแตะต้องใบหน้าหล่อคม เสียงหวานเอ่ยถามแผ่วเบาราวกับไม่แน่ใจ
“คุณภาณุ?”
ไม่มีคำตอบเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงแผ่วเบาที่ริมฝีปากอิ่ม ลิ้นร้อนดูดดึง เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กไม่ประสา ก่อนจะควานหาความหวานที่เฝ้าโหยหาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จุมพิตสูบเอาเรี่ยวแรงน้อยนิดของร่างเล็กให้มลายหายไป เมื่อกำลังจะขาดอากาศกำปั้นน้อยๆจึงทุบสะเปะสะปะไปทั่วตักแกร่ง ไม่นานเรียวปากฉ่ำหวานก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ร่างเล็กลุกพรวด ก่อนจะจ้องมองคนที่นั่งยิ้มแป้นให้จนตาแทบถลนออกจากเบ้า
“มาได้ยังไง!”
“ก็มาหาเด็กน้อยขี้แยของผมน่ะสิ คุณเล่นไม่รับสายผมแบบนี้ใครมันจะทนไหว”ไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรต่อ ร่างเล็กก็ถูกยกขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง ซ้ำยังถูกจมูกโด่งเอาเปรียบแก้มนวลซ้ำๆอีก
“อื้อ หนวดทิ่ม”ดวงตาบวมเป่งค้อนคนตัวโตที่ดูเหมือนจะไม่สนใจคำทัดทานนัก
“คุณงอนผมเรื่องข่าวนั่นใช่ไหม”
“แล้วมันจริงไหมล่ะ”เขาไม่ตอบ แต่กลับรั้งร่างเธอเข้าไปใกล้ มือหนาช้อนคางมนให้เงยขึ้นสบสายตา
“ผมจะบอกกับคุณว่ามันไม่จริง ผมมีเหตุผลให้ทุกๆความสงสัยของคุณ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำเอาใบหน้าหวานแดงก่ำทั้งๆที่กำลังโกรธเขาอยู่แท้ๆ
“ทำไมต้องเข้านอกออกในบ้านนั้นบ่อยๆ ทำไมต้องไปรับไปส่งเขาด้วย บ้านก็รวยน่าจะมีรถสิ แล้วทำไมต้องไปไหนมาไหนด้วยกันด้วย คุณกลายเป็นเบ้รับใช้ไปแล้วหรือไง”
“ทีละคำถามนะ ผมไม่ได้เข้านอกออกในบ่อยเลย ที่คุณเห็นเขาแค่ชวนไปทานข้าวเย็น แล้วก็หลายๆครั้งที่เห็นเพราะไปรับพิมประภาไปกองถ่าย”
“แล้วทำไมต้องไปรับ!”ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นคนตัวเล็กมองมมาตาเขียวปั้ด
“เพราะเขาไปถ่ายในที่ทำงานผมน่ะสิ แม่เลยอาสาให้ผมไปรับไปส่ง ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงขันอาสา แต่มันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรผมมากมาย”
“แม่คุณหรอคะ”
“ครับ”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่คิดอะไรมากนัก แต่คนที่คิดคงเป็นร่างบอบบางบนตักแกร่งเสียมากกว่า
“บางทีท่านอาจจะไม่ชอบฉัน”ใบหน้าหวานสลดลงเล็กน้อย
“ไม่จริงหรอก ตอนที่ผมกลับไปแล้วบอกว่าผมเป็นแฟนกับคุณ รู้ไหมท่าพูดกับผมว่าอะไร”
“ไม่รู้ค่ะ”ภาณุจ้องดวงตากลมโตที่มองมาที่เขาแป๋วแหวว นึกอยากจะจับกดให้มันรู้แล้วรู้รอดถ้าไม่ติดคำสัญญาบ้าบอของตัวเอง
“แม่บอกว่าผมไร้น้ำยา ท่านกลัวจะไม่ได้อุ้มหลานน่ะ”เขาหัวเราะเอ็นดูคนตัวเล็กที่ถูกพาดพิง ใบหน้าหวานก้มงุดๆ แสงแดดอ่อนละมุนนั้นทำให้เขาเห็นชัดเจนว่าแก้มใสแดงระเรื่ออย่างน่าฟัด และเขาก็ไม่รอช้า ทำตามที่คิดทันที
ใบหน้าแสนหวานเบี่ยงหลบจมูกโด่งและริมฝีปากอุ่นร้อนที่กำลังเอาเปรียบแก้มนวลของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงหัวเราะใสๆดังขึ้นเมื่อตอหนวดแข็งๆทิ่มที่ผิวเนื้ออ่อนบาง มือเล็กทุบบ่าจอมเอาเปรียบที่ไม่สนใจโลกนัก สองร่างล้มกลิ้งบนเตียงสีหวาน หากคนตัวโตที่อยู่บนร่างบอบบางก็ยังไม่หยุดเอาเปรียบ
“พอแล้ว ฮ่าๆ”กำปั้นน้อยๆทุบหลังทุบไหล่คนช่างแกล้ง ก่อนร่างสูงจะผละห่าง ลุกขึ้นนั่งและยื่นมือมาดึงร่างของเธอให้ลุกขึ้นนั่งตาม
“อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ผมจะพาไปเที่ยว”
“เที่ยวไหนคะ”เธอเอ่ยถามภาณุ แต่เขากลับส่ายหน้าและอมยิ้ม
“ไม่บอกเด็กดื้อไม่ยอมอาบน้ำแปรงฟัน ผมไปรออยู่ข้างล่างนะ”เธอพยักหน้า ก่อนจอมเอาเปรียบจะก้มใบหน้าลงแตะริมฝีปากกับเธอเบาๆ และมือบางก็ไวเกินความคิด ตบเข้าให้ที่แขนแกร่งเสียฉาดใหญ่ ทำเอาทั้งคนโดนตบและคนตบตกใจ
“ขอโทษค่ะ”ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกับเด็กทำความผิด
“แรงเท่ามด ไม่สมกับเป็นแฟนทหารอากาศเลย”เขาว่ายิ้มๆ มือแกร่งยีผมนุ่มอย่างมันเขี้ยวก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องนอนของธนันต์ธรญ์ ทิ้งไว้เพียงร่างบอบบางที่ยกหมอบขึ้นปิดใบหน้าก่อนจะกรี๊ดอย่างบ้าคลั่ง ความอัดอั้นตันใจมลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขารักเธอ! เขารักเธอ! เขารักเธอ!
“กรี๊ด!!!!”
โต๊ะอาหารบ้านนีระสิงห์อบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มไม่เหมือนกับวันก่อนๆ เสียงหวานคุยเจื้อยแจ้วกับคนเป็นแม่และคนรักหนุ่ม ภาณุมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความสุขใจ ขอบคุณฟ้าที่เด็กน้อยของเขาไม่ได้เข้าใจอะไรยากเกินไป เธอดูมีความสุขขึ้นมาก และก่อนหน้านี้เธอก็ดูเศร้าเหลือเกิน เขาไม่คิดเลยว่าจะทำให้คนที่รักต้องเสียน้ำตาและเจ็บปวดได้มากขนาดนั้น ต่อจากนี้ไปเขาคงทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว สิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย บางทีมันอาจจะไม่เล็กน้อยสำหรับคนที่เขารัก และเขาต้องใส่ใจเธอให้มากกว่านี้ และคงไม่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรให้ธนันต์ธรญ์ต้องเสียน้ำตาอีกแน่นอน
“คุณบอกว่าจะพาฉันไปเที่ยว ตกลงว่าไปที่ไหนคะ”เขาหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองดวงตากลมแป๋วของคนรัก และคุณพิมพ์ดาวที่มองมาอย่างสนใจ
“พาไปภูเก็ตน่ะ คุณแม่ผมท่านจะจัดงานวันเกิดที่นั่น แม่ไปด้วยกันนะครับ”
“ไม่ดีกว่าลูก แม่ไม่ชอบอยู่ห่างบ้าน เป็นห่วงทางนี้ ป๊อปพาน้องไปเที่ยวเถอะ”เขายิ้มน้อยๆ
“ถ้านั้นผมขออนุญาตนะครับ ไปสามสี่วัน ถ้ายังไม่กลับมาแจ้งความจับผมได้เลย”เขาเอ่ยติดตลก และนั่นก็เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี หลังจากอาหารมื้อเช้า เขาก็ขับรถไปส่งธนันต์ธรญ์ไปทำงานที่บริษัทของเธอ
บริษัทเล็กๆที่เปี่ยมล้นไปด้วยประสิทธิภาพ ตัวอาคารเป็นตึกสามชั้นบุผนังด้วยไม้ รั้วหน้าบริษัทถูกตกแต่งด้วยไม้เลื้อย และดอกไม้นานาพรรณ ป้ายบริษัทขนาดปานกลางบอกว่า‘เต็มรัก’ เขาอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นบริษัทน่ารักน่ารักของธนันต์ธรญ์ ตัวตึกนั้นถูกประดับประดาอย่างสวยงามท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และหากเขาคิดจะจัดสวน เขาเลือกช้บริการบริษัทของนักจัดสวนสาวที่พ่วงตำแหน่งคนรักด้วยแน่นอน
“คือฉันมีงานค้างที่ต้องเคลียร์อีกสองสามอย่าง ถ้ารีบๆเสร็จไม่เกินเที่ยงหรอกค่ะ เครื่องออกตอนหกโมงค่ำใช่ไหม”
“ครับ ถ้านั้นผมไปนั่งรอในห้องทำงานนะ”เธอตอบรับง่ายๆ เขาเคลื่อนรถจอดในโรงจอดรถของบริษัท เธอเปิดประตูลงจากรถอย่างทะมัดทะแมงไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มต้องคอยบริการ ร่างบอบบางยืนรอภาณุที่กดล็อกประตูรถ ก่อนจะเดินเคียงคู่กันเข้าไปในสำนักงาน
...สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ