Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
30)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๓๐
“วันพรุ่งนี้ผมต้องกลับแล้วนะฟาง”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยกับร่างบอบบางข้างกาย หากแต่สายตาคมยังคงจ้องความสงบของสายน้ำที่ไหลไปอย่างเอื่อยเฉื่อยสายลมแผ่วเบาพัดหอบเอาความสดชื่นเข้ามาปะทะร่างสูงใหญ่และร่างเล็ก ใบหน้าหล่อคมหันใบมองดวงหน้าหวานที่ดวงตากลมโตของหญิงสาวจับจ้องมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ยามได้พิศดวงหน้าเล็กหวานจิ้มลิ้มของหญิงสาวนั้นทำให้เขามีความสุข และอยากจะมองหน้าเธอแบบนี้ไปตลอดชีวิต...
“เราคงไม่ได้เจอกันแบบนี้อีก คุณจะลืมฉันไหมคะ”น้ำเสียงหวานนั้นเอ่ยถามเขาอย่างแผ่วเบา ดวงตาหวานของเธอเต้นระริกอย่างคนกำลังหลงทาง
“คุณอยากให้ผมจดจำคุณ หรืออยากให้ผมลืมคุณ”
“ฉันอยากให้คุณจำฉัน ไม่อยากให้คุณลืมฉัน ฉันอยากอยู่ในชีวิตของคุณ อยู่จริงๆ...ไม่ใช่แค่ทางผ่าน ฉันไม่อยากนึกเลยว่าวันข้างหน้าคุณจะเจอใครที่ดีกว่าฟาง แล้วคุณก็จะลืมฟาง ทิ้งฟางไว้กับอดีตที่มีแค่ฟางคนเดียวที่ยังจมอยู่กับมัน แต่มันก็อดไม่ได้...เราไม่มีอะไรเป็นหลักประกันสักอย่าง...ฮึก”เขามองดวงหน้าหวานที่สะอื้นไห้จนน้ำตาอาบทั้งแก้มนวลด้วยความรู้สึกที่หลากหลายจนเขาเองก็ยังอธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
“ผมรู้ว่ามันเร็วไป แต่ผมอยากจะบอกกับคุณนะฟาง”เขาเชยคางมนของหญิงสาวให้เงยขึ้น สบดวงตาหวานที่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตา
“...”
“ผมรักคุณ...”และเขาไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายอะไรให้มันมากไปกว่านั้น ในเมื่อทุกความรู้สึกของเขามันหลอมรวมออกมาเป็นความรู้สึกเดียวและคำพูดเดียว
ธนันต์ธรญ์โผเข้ากอดร่างสูงของชายหนุ่ม ดวงหน้าหวานที่อาบไปด้วยน้ำตาซบกับอกอุ่นของเขาอย่างปีติ เธอเพียงแค่อยากจะได้ยินคำว่ารักของเขาเท่านั้น แล้ววันนี้ ตอนนี้ เธอได้ยินมันชัดเจน...
“คุณสัญญานะคะว่าจะรักฉันแค่คนเดียว”เธอเอ่ยอย่างเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว แต่นั่นมันก็เป็นความเห็นแก่ตัวที่ชอบธรรมไม่ใช่หรือ...
“แน่นอนคนดี”ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาจูบลงบนขมับบางของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา อ้อมแขนแกร่งตระกองกอดร่างบอบบางที่สะอื้นจนตัวโยนไว้ด้วยหัวใจรัก รอจนร่างเล็กหยุดสั่นสะท้าน...
“ก่อนที่ฉันจะบอกอะไรคุณบ้าง ฉันขอร้องคุณสักเรื่องได้ไหมคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ ดวงตาคมทอดมองร่างน้อยด้วยความรักอย่างเปิดเผย
“ฉันไม่มีพ่อ...แม่ถูกผู้ชายที่มาจากเมืองกรุงหลอก ผู้ชายคนนั้นบอกว่ารักแม่มาก แต่แล้วหลังจากเสร็จงานเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม่มารู้ทีหลังว่าเขาแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว...แม่เลี้ยงฉันมาตัวคนเดียว ถูกตราหน้าด้วยคำว่าผู้หญิงใจง่าย...ฮึก ฉันไม่อยากให้เราต้องเป็นแบบนั้น ฉันรับไม่ไหวหากจะต้องเจ็บปวดถึงขนาดนั้น คุณสัญญาได้ไหมคะ...”ภาณุมองดวงหน้าหวานที่สลดลงไปเมื่อเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของเธอ แบบนี้สินะเธอถึงได้ปิดหัวใจไม่ยอมให้เขาเข้าไป
“ผมสัญญา...คุณจะเป็นผู้หญิงที่ผมรักเพียงคนเดียว เป็นเจ้าสาวของผม เป็นแม่ของลูกผม...คุณจะเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ฉันรักคุณค่ะ...”ไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มต้องถามซ้ำเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ร่างบอบบางก็เขย่งปลายเท้าของตัวเองขึ้น แตะริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อลงบนริมฝีปากอุ่นร้อนของชายหนุ่มอย่างแนบแน่น ดวงตากลมโตหลุบลงซึมซาบความรักที่ท้วมท้นหัวใจทั้งสองดวง แขนเรียวเสลาโอบรอบลำคอแกร่งให้ตำแหน่งของหัวใจสองดวงได้ตรงกัน...
ภาณุมองดวงหน้าหวานตาไม่กระพริบ เขาไม่ได้ฝันไป และแน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง คำบอกรักของเธอช่างหวานซึ้งจนหัวใจของเขาพองโตคับอก ธนันต์ธรญ์น่ารักเกินกว่าที่เขาจะอดใจไหวอีกต่อไป เมื่อร่างเล็กถอยริมฝีปากออกห่าง เขาจึงจัดการตวัดร่างน้อยขึ้นในอ้อมแขน โน้มตัวลงไปจุมพิตเธออย่างดูดดื่มให้สมกับความน่ารักของเธอ
‘ผมจะไม่จูบคุณ จนกว่าคุณจะจูบผม ผมจะไม่ขืนใจคุณ จนกว่าคุณจะขืนใจผมเอง เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณกล้าจะทำแบบนั้น นั่นแปลว่าคุณได้รักผู้ชายคนนี้มากพอ’
“คุณนี่มันน่ารักเป็นบ้า!”เขาเอ่ยเสียงกระเส่ากับร่างเล็กในอ้อมแขน ก้มลงหอมแก้มนวลซ้ำๆอย่างเอ็นดูคนในอ้อมกอด ตอนเธอแตะริมฝีปากกับเขา ริมฝีปากอิ่มของเธอนั้นสั่นระริกจนเขาสัมผัสได้ ยิ่งใบหน้านวลที่แดงก่ำไปจนถึงลำคอระหงตอนนี้ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“ปล่อยลงได้แล้ว”เธอพูดเสียงอ่อย ขณะที่ยังซุกใบหน้ากับอกของเขาอย่างเอียงอาย เขาหัวเราะเอ็นดู แต่ก็ยอมปล่อยคนตัวเล็กลงแต่โดยดี
“แบบเมื่อกี้เขาเรียกว่าจูบ แต่ที่คุณทำเขาเรียกว่าแตะริมฝีปาก เข้าใจไหม”เขาลูบผมนุ่มสลวยเบาๆ มองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดๆด้วยความเอ็นดู
“ก็มันทำไม่เป็นนี่”เธอมองเขาตาขวาง แถมส่งค้อนให้วงใหญ่ๆอีกต่างหาก
“เดี๋ยวสอน...”เขาว่าพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก ทว่ามือเล็กนิ่มกลับดันใบหน้าเขาออกจนหงาย
“ทะลึ่ง!”เธอว่าทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ
“ชอบล่ะสิ”เขาว่ายิ้มๆ คนตัวเล็กเดินว่าประทุษร้ายร่างกายเขาก่อนจะวิ่งไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกล หากแต่ว่าหญิงสาวคงรีบวิ่งจนขาขวิดถึงได้ล้มลงไปอย่างนั้น เขารีบวิ่งไปดูคนตัวเล็กที่นั่งกุมข้อเท้าตัวเองด้วยใบหน้าง้ำงอ
“เจ็บ”เธอว่าและทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เขารีบพลิกข้อเท้าเธอดูว่าโดนอะไรบาดเข้าหรือเปล่า หากแต่เธอกลับร้องโอดโอยจนเขาตกใจ
“ข้อเท้าแพลงหรอ”เธอพยักหน้าจนคอแทบหัก ก่อนดวงตาหวานจะเป็นประกายมันวาบขึ้นอย่างที่เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่
“ขอขี่หลังหน่อยสิ นะนะ เดินไม่ไหวแน่ๆเลย”เห็นเธอออดอ้อนอย่างน่ารัก เขาก็ยอมย่อตัวลงให้เธอขึ้นขี่หลัง ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าโดนแม่ตัวดีแกล้งเข้าให้
ตลอดทางกว่าจะถึงรถธนันต์ธรญ์ก็ทำเอาภาณุหลังแทบหัก เพราะแม่ตัวดีทั้งขย่ม เขย่า กระชาก กระโชก ตะโกนใส่หูบ้างละ บิดหูเล่นบ้างละ ทำเอาคนตัวโตคาดโทษแม่ตัวดีแทบไม่ถูกว่าต้องทำอะไรให้สาสมกับความแสบของเธอ
ภาณุล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดปลดล็อก แต่แทนที่จะเปิดประตูข้างคนขับ กลับเลื่อนไปที่ประตูผู้โดยสารด้านหลังสุด จับร่างเล็กโยนเข้าไป ก่อนจะกระโจนตัวไปกักบริเวณเด็กนิสัยไม่ดี
“ทะ ทำอะไร”
“ก็ทำอะไรล่ะ เด็กนิสัยไม่ดีอย่างคุณถึงจะจำ”
“คนฉวยโอกาส!”เธอตะโกนใส่หน้าเขา ยิ่งเห็นดวงตากลมโตลอกแล้ก เหมือนจะตื่นกลัวเขาก็ยิ่งทำให้อยากแกล้งมากขึ้นหลายเท่าตัว
“รู้ทันอีก ดีเลย”เขาว่าก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มนวลซ้ำไปซ้ำมาอย่างมันเขี้ยว แม่ตัวดีก็ดิ้น เตะต่อยเขาซะจนจุก แต่ใครจะยอมถอยทัพง่ายๆกันเล่า!
หลังจากที่รู้สึกว่าจุกจนทนไม่ไหว คนตัวโตจึงยอมถอยทัพ ออกมายืนนอกรถ มองผลงานของตัวเองด้วยความพอใจ แก้มนวลของคนตัวเล็กแดงก่ำ ดวงตาหวานของคนตัวแสบก็มองเขาตาขวาง และดูเหมือนเธอจะพร้อมด่าเขาแล้ว
“ไอ้แก่ตัณหากลับ ไอ้คนฉวยโอกาส น่าเกลียด น่าเกลียดที่สุด!”
“แก้มคุณหอมเป็นบ้า”เขาว่าอย่างลอยหน้าลอยตา ปิดประตูรถก่อนจะเดินอ้อมไปประจำตำแหน่งสารถี
...สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ