Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
31)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๓๑
สองร่างยังคงนั่งอยู่บนตั่งไม้ตัวเดิม ขณะดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มแดงระบายทั่วเส้นขอบฟ้า นกน้อยกำลังพากันบินกลับรังเพื่อพักเอาแรงกายให้ใช้ชีวิตต่อได้ในวันใหม่ ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองเสี้ยวหน้าคมของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกาย วันพรุ่งนี้เธอกับเขาต้องอยู่ห่างกันแสนไกล เธอยอมรับว่าหวั่นใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าถ้าเวลาผ่านไปนานกว่านี้เขาจะยังเหมือนเดิมอยู่อีกไหม...
“มองอะไรครับ”เธอสะดุ้งเมื่อภาณุเอ่ยทั้งๆที่สายตาของเขายังจ้องมองไปเบื้องหน้า
“เปล่าค่ะ”
“คุณโกหก...กลัวอะไรอยู่ล่ะสิ”
“คุณรู้...”เธอเอ่ยอย่างแปลกใจ เขาเหมือนมานั่งอยู่กลางใจของเธอไม่มีผิด
“เดาไม่ยากสักนิด คุณดูกังวลมาก คุณมีอะไรบอกผมได้นะฟาง”น้ำเสียงของเขาอบอุ่นจนเธออยากจะบอก แต่กลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่มั่นใจในตัวเขา
“คุณกำลังกลัวผมจะเปลี่ยนไปใช่ไหม”เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะถูกรวบเอวบางเข้าไปชิดกับร่างสูงใหญ่ของภาณุ
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ผมเปลี่ยนไปได้อีกแล้ว เพราะคุณทำให้ผมเปลี่ยนไปแล้ว คุณทำให้ผมต้องรักคุณแค่คนเดียว เชื่อใจผมนะฟาง”หญิงสาวสะท้าน เขินอายกับน้ำเสียงอบอุ่นและคำมั่นสัญญาของเขา ยามที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบเส้นผมนุ่มของเธออย่างอ่อนโยนยิ่งทำให้เธอหัวใจเต้นแรง
“ค่ะ ฟางเชื่อใจคุณ”
ภาณุทอดสายตามองดวงหน้าหวานละมุนของธนันต์ธรญ์ เขายกฝ่ามือขึ้นประคองใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมนของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“ผมอยากให้เราเชื่อใจกัน ถึงตัวผมจะอยู่ห่างจากคุณ แต่หัวใจผมอยู่กับคุณนะคนดี”เขาพูดกระซิบใกล้ใบหูบอบบาง ก่อนจะผละใบหน้าออกห่าง ถอดแหวนรุ่นที่อยู่บนนิ้วก้อยออก กุมมือเล็กข้างขวาที่เย็นเฉียบของหญิงสาวเอาไว้
“ผมจองไว้ก่อนนะ”เขาบรรจงสวมแหวนรุ่นที่เขาภูมิใจลงบนนิ้วนางข้างขวาของคนตัวเล็กอย่างทะนุถนอม
“แหวนมันหลวมไปนิด ผมจะรีบหามาเปลี่ยนให้นะ”เท่านั้นร่างเล็กก็โถมตัวเข้ากอดเขาโดยที่เขากางแขนรับร่างบอบบางนั้นไว้ด้วยความเต็มใจ ยกมือขึ้นลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน และอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าวันนี้เขาทำคนตัวเล็กร้องไห้ไปแล้วกี่ครั้ง...
“ฉันจะรอวันที่คุณเอาแหวนแต่งงานมาเปลี่ยนให้ฉันนะคะ”เขายิ้มกับแผ่นหลังบอบบางที่ยังสะท้าน อดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นไปได้เขาอยากจะมีแหวนเพชรอยู่ในมือตอนนี้ และสวมมันให้กับเธอ ขอเธอแต่งงานให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะลำบากใจ และเธอยังเด็กเกินไป เขาจึงรอให้ถึงเวลาสามปีที่หญิงสาวกำหนดไว้
“ด้วยเกียรติของนายทหารอากาศ สัญญาว่าจะไม่ทำให้ฟางต้องเสียใจแน่นอนครับ”และเขาไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหรือเปล่า คนตัวเล็กถึงได้สะอื้นไห้ไม่หยุด
“ขอบคุณ...ค่ะ”เขากอดร่างแน่งน้อยแน่นขึ้น เพราะรู้ดีว่าเธอคงไม่หยุดสะอื้นง่ายๆแน่ ไม่คิดเลยจริงๆว่าเขากำลังเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุด ที่จะรับความรักตอบกลับมาจากผู้หญิงที่เขารักเช่นกัน และแน่นอนว่าเขาจะตอบแทนความรักที่ธนันต์ธรญ์มีให้ด้วยความรักที่มีไม่ได้น้อยไปกว่ากัน
ดวงหน้าหวานยังอาบไปด้วยน้ำตายามที่นิ้วแกร่งกรีดเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน นั่นทำเอาชายหนุ่มหัวเสียเล็กน้อย เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้เขาและเธอกำลังมีความสุข แต่มันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่เขาต้องนั่งมองผู้หญิงที่รักร้องไห้อยู่แบบนี้
“หยุดร้องได้แล้วน่า ทำไมเด็กผีของผมถึงได้ขี้แยแบบนี้ฮึ”เขาเย้าเสียงนุ่ม หากแต่คนตัวเล็กไม่มีท่าทีว่าจะหยุด แต่กลับทุบกำปั้นน้อยๆลงบนบ่าของเขา
“ฮึก เพราะคุณนั้นแหละ ฮือ ฉันไม่เคยร้องไห้ได้งี่เง่าอยากนี้มาก่อนเลย ฮึก”เขาหัวเราะเอ็นดูคนตัวเล็กที่ดุด่าตัวเองไปด้วย
“เอาแหละ เลิกซึ้งได้แล้ว ผมไม่มีความสุขนักหรอกนะที่ต้องมานั่งมองคุณร้องไห้หนักๆแบบนี้ เกิดแม่คุณมาเห็นเข้า เดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดเอา”เขาว่าขณะเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้าหวานของหญิงสาว
“หนุ่มสาวกิ๋นข้าวกั๋นได้แล้วลูก”
เสียงคุณพิมพ์ดาวเรียกเขาและธนันต์ธรญ์จากระเบียงบ้าน เขาพยักหน้ายิ้มให้ท่าน ในขณะที่คนตัวเล็กรีบเช็ดน้ำตาของตัวเองออกจากใบหน้าหวาน
“จมูกแดง ตาบวมขนาดนี้ แม่คุณได้รู้แน่ๆ”เขาบ่นหญิงสาวขณะที่มือยังไม่ละไปจากการจับปรอยผมที่เปียกน้ำตาออกจากกรอบหน้าหวาน แม่ตัวดีก็มองเขาตาขวาง
คุณพิมพ์ดาวมองหนุ่มสาวสลับกันไป เห็นดวงหน้าหวานของธนันต์ธรญ์แดงก่ำอย่างคนที่ร้องไห้หนัก แต่กลับมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่ไม่จางหาย ขณะที่ภาณุชวนหล่อนและลูกสาวคุยเรื่องจิปาถะ แหวนเงินที่มีตรากองทัพอากาศบนนิ้วนางข้างขวาของลูกสาวหล่อนนั้นเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าเพราะเหตุใดลูกสาวของหล่อนถึงได้ยิ้มไม่หุบเช่นเดียวกันกับภาณุ
“แล้วคุณภาณุจะกลับกรุงเทพฯวันไหนกันล่ะคะ”หล่อนเอ่ยถามชายหนุ่ม
“วันพรุ่งนี้ครับ แต่คงออกสายๆหน่อย ตอนเช้าผมกะว่าจะแวะมาลาคุณน้าก่อน”
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ น้าไม่ได้ถือ ออกเช้าๆจะได้ถึงไวๆหน่อย”หล่อนเอ่ยอย่างห่วงใย
“ผมถือครับ ผมมารบกวนคุณน้าทุกมื้อ จะให้ไปไม่ลาได้ยังไง...อีกอย่างจะได้แวะมาตกลงอะไรกับคนแถวนี้นิดหน่อย”หล่อนรู้ดีว่าคนแถวนี้ของภาณุคงหมายถึงธนันต์ธรญ์แน่ๆ หากทั้งสองคบกันจริงๆแล้ว หล่อนก็ได้แต่ภาวนาว่าทั้งสองคนจะประคับประคองความรักให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง และหล่อนก็หวังเพียงให้ลูกสาวได้มีความสุขกับคนที่รักจริงๆ
“น้าอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”หล่อนว่าก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกสาวและภาณุ
ลับร่างท้วมของมารดาไป ธนันต์ธรญ์ก็หันมาตั้งคำถามกับภาณุทันที
“คุณจะตกลงอะไรกับฉันอีกหรอคะ”เขาวางช้อนลง ก่อนจะถามโต้งๆ
“ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม”เธอค้อนเขาขวับๆ ใครที่ไหนเขาถามกันได้ห่ามๆแบบผู้ชายคนนี้ แถมยังพูดหน้าตาเฉยอีก
“ฉันเคยบอกด้วยหรอคะ”เขาว่าพลางตักนู่นตักนี่ทาน คล้ายไม่สะทกสะท้านใดกับคำถามของเขา
“ถ้านั้นผมจะบอกว่าตอนนี้ผมเป็นแฟนของคุณ แล้วคุณก็เป็นแฟนของผม”
“เอ๊ะ! คุณนี่มันไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะ”
“เอ้า แล้วที่ผมพูดกรอกหูคุณไปมา ตั้งแต่อยู่ที่ลำปางล่ะ หรือว่าเราต้องไปคุยกันบนเตียงคุณถึงจะเรียกว่าโรแมนติก คุณนี่มันสมองปลาทองจริงๆเลยนะ”เธอหน้าง้ำ กล้าดียังไงมาหาว่าเธอสมองปลาทอง!
“ทะลึ่ง ห่าม เถื่อน!”
“ขอบคุณ นี่ อย่าชวนผมทะเลาะจะได้ไหม ผมแค่อยากจะถามให้แน่ใจว่าคุณใจตรงกับผมแล้วจริงๆ เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน ผมต้องการทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง ผมต้องการบอกคุณแม่ของคุณให้ท่านทราบเรื่องของเรา เผื่อคุณแอบไปมีหนุ่มที่ไหน แม่คุณจะได้กันไว้ไง”
“คนบ้า! ฉันไม่ใจโลเลขนาดนั้นหรอกย่ะ”
“สาบาน”
“สาบาน!”
“ถ้าคุณผิดคำสาบานขอให้ได้แต่งงานกับผมภายในสามวันเจ็ดวัน”เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวราวกับมีเปลวเพลิงสุมอยู่ ทำไมเขาถึงได้ขยันพูดจาให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้นะ
“ถ้าฉันไม่ผิดคำสาบานล่ะ”
“ถ้าไม่ผิด ก็ขอให้ได้แต่งงานกับผมภายในสองถึงสามปีนี้”
“ไม่เอาด้วยหรอกอย่างนั้นน่ะ”เธอลดมือลง ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นทานข้าวต่อ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้จริงจัง เอาแต่จ้องจะหยอดเธออยู่ร่ำไป
“งั้นก็ทานข้าวต่อ กินเยอะๆจะได้เต็มไม้เต็มมือบ้าง”
“ทะลึ่ง!”
“อะไร ผมหมายถึงกอดต่างหาก คุณนี่เป็นเด็กประสาอะไร คิดลึก...”เธอต้องเป็นฝ่ายที่ยอมสงบปากสงบคำ เพราะพูดไปก็รังแต่จะโดนเขาหยอดทุกประโยคอยู่ร่ำไป และเธอคิดว่าเธอกำลังเป็นโรคภูมิแพ้คำหวานของภาณุซะแล้ว...
....สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ