Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  94.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

31)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

ตอนที่๓๑

สองร่างยังคงนั่งอยู่บนตั่งไม้ตัวเดิม ขณะดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มแดงระบายทั่วเส้นขอบฟ้า นกน้อยกำลังพากันบินกลับรังเพื่อพักเอาแรงกายให้ใช้ชีวิตต่อได้ในวันใหม่ ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองเสี้ยวหน้าคมของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกาย วันพรุ่งนี้เธอกับเขาต้องอยู่ห่างกันแสนไกล เธอยอมรับว่าหวั่นใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าถ้าเวลาผ่านไปนานกว่านี้เขาจะยังเหมือนเดิมอยู่อีกไหม...

“มองอะไรครับ”เธอสะดุ้งเมื่อภาณุเอ่ยทั้งๆที่สายตาของเขายังจ้องมองไปเบื้องหน้า

“เปล่าค่ะ”

“คุณโกหก...กลัวอะไรอยู่ล่ะสิ”

“คุณรู้...”เธอเอ่ยอย่างแปลกใจ เขาเหมือนมานั่งอยู่กลางใจของเธอไม่มีผิด

“เดาไม่ยากสักนิด คุณดูกังวลมาก คุณมีอะไรบอกผมได้นะฟาง”น้ำเสียงของเขาอบอุ่นจนเธออยากจะบอก แต่กลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่มั่นใจในตัวเขา

“คุณกำลังกลัวผมจะเปลี่ยนไปใช่ไหม”เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะถูกรวบเอวบางเข้าไปชิดกับร่างสูงใหญ่ของภาณุ

“ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ผมเปลี่ยนไปได้อีกแล้ว เพราะคุณทำให้ผมเปลี่ยนไปแล้ว คุณทำให้ผมต้องรักคุณแค่คนเดียว เชื่อใจผมนะฟาง”หญิงสาวสะท้าน เขินอายกับน้ำเสียงอบอุ่นและคำมั่นสัญญาของเขา ยามที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบเส้นผมนุ่มของเธออย่างอ่อนโยนยิ่งทำให้เธอหัวใจเต้นแรง

“ค่ะ ฟางเชื่อใจคุณ”

 

ภาณุทอดสายตามองดวงหน้าหวานละมุนของธนันต์ธรญ์ เขายกฝ่ามือขึ้นประคองใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมนของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

“ผมอยากให้เราเชื่อใจกัน ถึงตัวผมจะอยู่ห่างจากคุณ แต่หัวใจผมอยู่กับคุณนะคนดี”เขาพูดกระซิบใกล้ใบหูบอบบาง ก่อนจะผละใบหน้าออกห่าง ถอดแหวนรุ่นที่อยู่บนนิ้วก้อยออก กุมมือเล็กข้างขวาที่เย็นเฉียบของหญิงสาวเอาไว้

“ผมจองไว้ก่อนนะ”เขาบรรจงสวมแหวนรุ่นที่เขาภูมิใจลงบนนิ้วนางข้างขวาของคนตัวเล็กอย่างทะนุถนอม

“แหวนมันหลวมไปนิด ผมจะรีบหามาเปลี่ยนให้นะ”เท่านั้นร่างเล็กก็โถมตัวเข้ากอดเขาโดยที่เขากางแขนรับร่างบอบบางนั้นไว้ด้วยความเต็มใจ ยกมือขึ้นลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน และอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าวันนี้เขาทำคนตัวเล็กร้องไห้ไปแล้วกี่ครั้ง...

“ฉันจะรอวันที่คุณเอาแหวนแต่งงานมาเปลี่ยนให้ฉันนะคะ”เขายิ้มกับแผ่นหลังบอบบางที่ยังสะท้าน อดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นไปได้เขาอยากจะมีแหวนเพชรอยู่ในมือตอนนี้ และสวมมันให้กับเธอ ขอเธอแต่งงานให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะลำบากใจ และเธอยังเด็กเกินไป เขาจึงรอให้ถึงเวลาสามปีที่หญิงสาวกำหนดไว้

“ด้วยเกียรติของนายทหารอากาศ สัญญาว่าจะไม่ทำให้ฟางต้องเสียใจแน่นอนครับ”และเขาไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหรือเปล่า คนตัวเล็กถึงได้สะอื้นไห้ไม่หยุด

“ขอบคุณ...ค่ะ”เขากอดร่างแน่งน้อยแน่นขึ้น เพราะรู้ดีว่าเธอคงไม่หยุดสะอื้นง่ายๆแน่ ไม่คิดเลยจริงๆว่าเขากำลังเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุด ที่จะรับความรักตอบกลับมาจากผู้หญิงที่เขารักเช่นกัน และแน่นอนว่าเขาจะตอบแทนความรักที่ธนันต์ธรญ์มีให้ด้วยความรักที่มีไม่ได้น้อยไปกว่ากัน

 

ดวงหน้าหวานยังอาบไปด้วยน้ำตายามที่นิ้วแกร่งกรีดเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน นั่นทำเอาชายหนุ่มหัวเสียเล็กน้อย เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้เขาและเธอกำลังมีความสุข แต่มันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่เขาต้องนั่งมองผู้หญิงที่รักร้องไห้อยู่แบบนี้

“หยุดร้องได้แล้วน่า ทำไมเด็กผีของผมถึงได้ขี้แยแบบนี้ฮึ”เขาเย้าเสียงนุ่ม หากแต่คนตัวเล็กไม่มีท่าทีว่าจะหยุด แต่กลับทุบกำปั้นน้อยๆลงบนบ่าของเขา

“ฮึก เพราะคุณนั้นแหละ ฮือ ฉันไม่เคยร้องไห้ได้งี่เง่าอยากนี้มาก่อนเลย ฮึก”เขาหัวเราะเอ็นดูคนตัวเล็กที่ดุด่าตัวเองไปด้วย

“เอาแหละ เลิกซึ้งได้แล้ว ผมไม่มีความสุขนักหรอกนะที่ต้องมานั่งมองคุณร้องไห้หนักๆแบบนี้ เกิดแม่คุณมาเห็นเข้า เดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดเอา”เขาว่าขณะเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้าหวานของหญิงสาว

“หนุ่มสาวกิ๋นข้าวกั๋นได้แล้วลูก”

เสียงคุณพิมพ์ดาวเรียกเขาและธนันต์ธรญ์จากระเบียงบ้าน เขาพยักหน้ายิ้มให้ท่าน ในขณะที่คนตัวเล็กรีบเช็ดน้ำตาของตัวเองออกจากใบหน้าหวาน

“จมูกแดง ตาบวมขนาดนี้ แม่คุณได้รู้แน่ๆ”เขาบ่นหญิงสาวขณะที่มือยังไม่ละไปจากการจับปรอยผมที่เปียกน้ำตาออกจากกรอบหน้าหวาน แม่ตัวดีก็มองเขาตาขวาง

 

คุณพิมพ์ดาวมองหนุ่มสาวสลับกันไป เห็นดวงหน้าหวานของธนันต์ธรญ์แดงก่ำอย่างคนที่ร้องไห้หนัก แต่กลับมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่ไม่จางหาย ขณะที่ภาณุชวนหล่อนและลูกสาวคุยเรื่องจิปาถะ แหวนเงินที่มีตรากองทัพอากาศบนนิ้วนางข้างขวาของลูกสาวหล่อนนั้นเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าเพราะเหตุใดลูกสาวของหล่อนถึงได้ยิ้มไม่หุบเช่นเดียวกันกับภาณุ

“แล้วคุณภาณุจะกลับกรุงเทพฯวันไหนกันล่ะคะ”หล่อนเอ่ยถามชายหนุ่ม

“วันพรุ่งนี้ครับ แต่คงออกสายๆหน่อย ตอนเช้าผมกะว่าจะแวะมาลาคุณน้าก่อน”

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ น้าไม่ได้ถือ ออกเช้าๆจะได้ถึงไวๆหน่อย”หล่อนเอ่ยอย่างห่วงใย

“ผมถือครับ ผมมารบกวนคุณน้าทุกมื้อ จะให้ไปไม่ลาได้ยังไง...อีกอย่างจะได้แวะมาตกลงอะไรกับคนแถวนี้นิดหน่อย”หล่อนรู้ดีว่าคนแถวนี้ของภาณุคงหมายถึงธนันต์ธรญ์แน่ๆ หากทั้งสองคบกันจริงๆแล้ว หล่อนก็ได้แต่ภาวนาว่าทั้งสองคนจะประคับประคองความรักให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง และหล่อนก็หวังเพียงให้ลูกสาวได้มีความสุขกับคนที่รักจริงๆ

“น้าอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”หล่อนว่าก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกสาวและภาณุ

ลับร่างท้วมของมารดาไป ธนันต์ธรญ์ก็หันมาตั้งคำถามกับภาณุทันที

“คุณจะตกลงอะไรกับฉันอีกหรอคะ”เขาวางช้อนลง ก่อนจะถามโต้งๆ

“ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม”เธอค้อนเขาขวับๆ ใครที่ไหนเขาถามกันได้ห่ามๆแบบผู้ชายคนนี้ แถมยังพูดหน้าตาเฉยอีก

“ฉันเคยบอกด้วยหรอคะ”เขาว่าพลางตักนู่นตักนี่ทาน คล้ายไม่สะทกสะท้านใดกับคำถามของเขา

“ถ้านั้นผมจะบอกว่าตอนนี้ผมเป็นแฟนของคุณ แล้วคุณก็เป็นแฟนของผม”

“เอ๊ะ! คุณนี่มันไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะ”

“เอ้า แล้วที่ผมพูดกรอกหูคุณไปมา ตั้งแต่อยู่ที่ลำปางล่ะ หรือว่าเราต้องไปคุยกันบนเตียงคุณถึงจะเรียกว่าโรแมนติก คุณนี่มันสมองปลาทองจริงๆเลยนะ”เธอหน้าง้ำ กล้าดียังไงมาหาว่าเธอสมองปลาทอง!

“ทะลึ่ง ห่าม เถื่อน!

“ขอบคุณ นี่ อย่าชวนผมทะเลาะจะได้ไหม ผมแค่อยากจะถามให้แน่ใจว่าคุณใจตรงกับผมแล้วจริงๆ เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน ผมต้องการทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง ผมต้องการบอกคุณแม่ของคุณให้ท่านทราบเรื่องของเรา เผื่อคุณแอบไปมีหนุ่มที่ไหน แม่คุณจะได้กันไว้ไง”

“คนบ้า! ฉันไม่ใจโลเลขนาดนั้นหรอกย่ะ”

“สาบาน”

“สาบาน!

“ถ้าคุณผิดคำสาบานขอให้ได้แต่งงานกับผมภายในสามวันเจ็ดวัน”เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวราวกับมีเปลวเพลิงสุมอยู่ ทำไมเขาถึงได้ขยันพูดจาให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้นะ

“ถ้าฉันไม่ผิดคำสาบานล่ะ”

“ถ้าไม่ผิด ก็ขอให้ได้แต่งงานกับผมภายในสองถึงสามปีนี้”

“ไม่เอาด้วยหรอกอย่างนั้นน่ะ”เธอลดมือลง ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นทานข้าวต่อ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้จริงจัง เอาแต่จ้องจะหยอดเธออยู่ร่ำไป

“งั้นก็ทานข้าวต่อ กินเยอะๆจะได้เต็มไม้เต็มมือบ้าง”

“ทะลึ่ง!

“อะไร ผมหมายถึงกอดต่างหาก คุณนี่เป็นเด็กประสาอะไร คิดลึก...”เธอต้องเป็นฝ่ายที่ยอมสงบปากสงบคำ เพราะพูดไปก็รังแต่จะโดนเขาหยอดทุกประโยคอยู่ร่ำไป และเธอคิดว่าเธอกำลังเป็นโรคภูมิแพ้คำหวานของภาณุซะแล้ว...

 

 

 

 

                                                                                  ....สายลมแห่งตะวัน

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา