Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  95.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

29)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๒๙
หลังจากการปะทะอารมณ์กับคุณทิพย์ธารา ธนันต์ธรญ์ก็มีท่าทีเงียบไป หญิงสาวเอาแต่นึกถึงคำพูดของคุณทิพย์ธารามันจริงอย่างที่เขาพูดทุกอย่าง เธอไม่มั่นใจเลย เธอโลเล เธออยากจะเริ่มต้นกับภาณุ แต่ก็กลัวว่าสักวันเขาจะสลัดเธอทิ้ง เธอกับเขารู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่เคยรู้เกี่ยวกับตัวเขา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เธอกลัวไปทุกสิ่งทุกอย่าง กลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไป ไม่ได้ยืนเคียงข้างเธอในวันที่เธอกำลังมีปัญหามากมายเหมือนที่เขาพูด...
“ฟางดูเค้กดอกปีบผมสิ น่ารักใช่ไหม”เธอหันไปตามเสียง ก่อนจะเห็นร่างสูงยืนถือเค้กก้อนเล็กที่มีเด็กปีบดอกเล็กๆวางเรียงรายที่ขอบเค้ก ใบหน้าหล่อคมยิ้มแป้นอย่างภูมิใจเสนอ
“ก็เอามาให้ดูใกล้ๆสิคะ”เขาเดินมานั่งใกล้ๆกับเธอ ก่อนจะยื่นเค้กก้อนเล็กให้ดู นอกจากดอกปีบดอกเล็กๆที่วางเรียงตัวกันอย่างสวยงามรอบๆเค้กแล้ว ตรงกลางเค้กยังมีหัวใจดวงโตอยู่อีกด้วย
“ผมตั้งใจฝึกวิชากับแม่คุณเลยนะ เค้กนี่ทำด้วยใจ ให้คุณทั้งดวงเลย”เธอรู้สึกร้อนที่ใบหน้าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อน้ำเสียงอบอุ่นของเขาทอดเสียงอย่างอ่อนโยนพร้อมกับสายตาของเขาที่มองมาอย่างอ่อนหวาน
“เสี่ยว!”เขาหน้าเสีย แต่ก็วางเค้กลงบนโต๊ะ และยื่นช้อนให้เธอ
“กินสิ!”
“จะตายไหม”เธอทำหน้าแหยะๆ ทั้งๆที่เค้กปอนด์ตรงหน้าก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร
“ดูพูดเข้า”เขายื่นมือมายีผมเธอเบาๆ เธอไม่สนใจจัดทรงเพราะตั้งแต่อยู่กับเขามา ไม่มีวันไหนที่ทรงผมของเธอจะอยู่ดีมีสุขเลยสักครั้ง เธอยื่นช้อนไปตักเค้กเข้าปาก
“เป็นไง”เขารีบถาม ท่าทางตื่นเต้น
“ก็ดี คุณไม่เครียดบ้างหรอ ฝ่ายนั้นเขาเหมือนไม่ยอมเลยนะ”เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องนี้จริงๆ อยากจะถามเขาให้มันรู้เรื่องไปเลยว่าเขารู้สึกอย่างไร คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้
“เครียดทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคุณกลัวผมแต่งงานไปกับคนอื่นจริงๆ ไหนบอกว่าไม่สนใจผมไง”เธอค้อนเขาขวับๆ เวลานี้ยังมีหน้ามาพูดเล่นอีก
“ก็ไหนคุณบอกว่าจีบฉันไง จะแต่งงานกับคนอื่นได้ไง”
ภาณุหัวเราะน้อยๆ เมื่อคนตัวเล็กทวงสิทธิ์ของตัวเองได้อย่างน่ารักที่สุด เขาเอื้อมมือไปกุมมือเล็กของเธอมาไว้ในอุ้งมือ ทอดสายตามองดวงตากลมโตที่หลบไปหลบมาอย่างไม่กล้าจะสบสายตาเขา แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพูดของเขาเลย
“คุณรู้ไหมฟาง คุณเป็นผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยแล้วผมอบอุ่นใจ ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ผมยังมีมือของคุณที่อยู่ในมือของผม ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าคุณจะยืนอยู่เคียงข้างผมจริงๆ หรือคุณเองก็มีใจให้ผม...ผมไม่รู้เลย แต่วันนี้ คุณทำให้ผมมั่นใจ มั่นใจว่าคุณจะไม่ทิ้งผมไปไหน”
“คุณ...”ดวงตากลมโตของเธอสุกสกาวราวกับพรรณรายบนฟากนภา ตอนนี้ที่เธอกำลังมองเขา เขารู้สึกว่ากำลังเห็นแววตาบางอย่าง
“ในสายตาของคุณ มีผมอยู่บ้างหรือเปล่า คุณกำลังตกหลุมรักผมอย่างที่ผมตกหลุมรักคุณไหม”
“แต่เราเพิ่งรู้จักกัน”เขาอยากจะหัวเรา หัวเราะให้ตาย! เวลากำลังเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับเขาและเธอ
“ดูเหมือนคุณจะมีปัญหากับเวลาเหลือเกินนะเด็กน้อย คุณกำลังจะบอกว่าคุณรักผมไม่ได้ ชอบผมไม่ได้ เพราะเวลามันสั้นเกินไปน่ะหรอ”
“ค่ะ เรายังรู้จักกันไม่พอ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเกิดวันไหน ชอบอะไรไม่ชอบอะไร ฉันรู้จักแค่ชื่อของคุณเท่านั้น”เขายิ้มระบายความตึงเครียด ความสับสนในแววตาหวานไม่ได้น้อยเลย เขาเดินอ้อมโต๊ะ จูงมือเธอเดินไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่
ร่างสูงนั่งลงบนตั่งตัวเล็ก ก่อนจะฉุดร่างเล็กให้นั่งลงบนตักอย่างนุ่มนวล หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ การใกล้ชิดกับชายหนุ่มทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง
“ผมขอเวลาแค่สามนาทีนะ ผมรู้ว่านี่มันไม่เหมาะสม แต่สามนาทีนี้ ผมจะทำให้มันมีความหมายสำหรับเรา”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น สายตาคมของภาณุยังไม่ละไปจากใบหน้าแสนหวานของผู้หญิงตัวเล็กบนตัก
“ผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดี ผมมันออกจะเสเพล เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ผมไม่ชอบเด็ก และไม่คิดจะเอาผู้หญิงที่เด็กกว่ามาเป็นคนรัก ผมรำคาญผู้หญิงที่เอาแต่ใจตัวเอง คิดอยู่เสมอว่าภรรยาที่ดีต้องคอยเอาใจใส่สามี แต่คุณรู้อะไรไหม...”
“...”มีเพียงสายลมบางเบาที่พัดผ่าน และเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นดังโครมคราม
“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมต้องคอยเอาใจใส่ ว่าอย่างนู้นหรือว่าอย่างนี้คุณถึงจะชอบ และผมเพิ่งเข้าใจว่าความรัก ไม่ใช่แค่เรารักเขาและต้องการให้เขามีความสุข หรือเขารักเราและต้องทำให้เรามีความสุข แต่ผมเข้าใจว่าความรักเป็นการแบ่งปันความสุขให้กันและกัน เป็นการที่เราคอยปัดเป่าความทุกข์ใจให้คนที่เรารักด้วยความรัก และผมก็อยากให้ความรักเป็นอย่างที่ผมเข้าใจ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทฤษฎีของผมมันใช่ได้หรือเปล่า คุณช่วยผมได้ไหมฟาง...”
“...พูดยาวจัง ฉันฟังไม่ทันหรอก”
“คุณโกหก”ใบหน้าหล่อคมยื่นเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่พวงแก้มนวลแดงก่ำ
“แต่ฉันเด็กมากนะ นิสัยฉันไม่ดีด้วย ชอบเอาแต่ใจตัวเอง คุณอาจจะโมโหถ้าฉันพูดไม่รู้เรื่อง”
“ใช่ บางทีคุณก็ดื้อเกินไป...แต่ผมไม่คิดว่าผมจะต้องโมโหแค่คุณพูดไม่เข้าใจ มันมีอะไรมากกว่านั้นสำหรับการเป็นคนรักกัน...ผมให้เวลาคุณคิดนะฟาง ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ”หญิงสาวพยักหน้าลงน้อยๆ หัวใจเต้นโครมครามราวกับกลองศึก มือเล็กพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มที่เขายอมปล่อยออกแต่โดยดีเพราะคำนึงถึงความเหมาะสมอยู่แล้ว และเหนือสิ่งอื่นใดคือภาณุตั้งใจจะให้เกียรติกับผู้หญิงของเขาให้มากที่สุด...
“ผมไม่รู้ว่าสามนาทีนี้ผมทำให้มันมีความหมายพอหรือเปล่า และผมจะรู้ก็ต่อเมื่อผมรู้คำตอบของคุณ...ให้โอกาสผมนะฟาง”
 
ธนันต์ธรญ์ยังคงนั่งอยู่บนระเบียงบ้านนับตั้งแต่ภาณุกลับไป แค่สองอาทิตย์มานี้เธอมีเรื่องให้ขบคิดมากมาย นับตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิต ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป จากโลกใบเดิมที่มีแต่สีสันเดิมๆ เมื่อเขาเดินเข้ามา เขาเข้ามาพร้อมกับพู่กันด้ามหนึ่งที่จุ่มสีต่างๆวาดลงบนโลกใบเดิมของเธอ...นั่นรวมถึงสีชมพูด้วย...
เธอกำลังตกหลุมรักเขา...
‘ให้โอกาสผมนะฟาง’
ตลอดเวลาที่เธอนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขา ตอนที่แขนแกร่งของเขาโอบกอดเธอเอาไว้ หัวใจของเธอเต้นโครมคราม หูอื้อตาลายไปหมด แต่ทุกคำพูดของเขากลับชัดเจนในความรู้สึกของเธอ แต่เธอก็สับสน เธอยังรู้จักเขาน้อยเกินไปจริงๆ
‘ผมจะฟันคุณก็ต่อเมื่อเราแต่งงานกันเท่านั้น แล้วการที่ผมรู้จักคุณไม่ถึงอาทิตย์มันจำเป็นหรอที่คุณต้องเอามันมาตัดสินผมว่าผมจริงใจกับคุณหรือเปล่า จริงอยู่ที่ผมเป็นผู้ชายและไม่ใช่พระอิฐพระปูน การที่ผมอยู่กับคุณในห้องนี้กับคุณ มันทำให้ผมต้องการคุณ แล้วคุณไม่คิดบ้างหรอว่าเพราะอะไรถึงทำให้ผมไม่ทำอะไรคุณ’
เธอจำคำพูดของเขาได้แม่นทุกคำ ถึงแม้มันจะดูห่ามๆ เถื่อนๆ แต่มันก็ดูจริงใจจนเธออยากจะเชื่อแบบนั้นจริงๆ เธอโชคดีหากเขาคิดที่จะจริงจังและจริงใจกับเธอจริงๆ แต่ในอีกแง่ หากเขาไม่คิดเช่นนั้นจริงๆ...ก็เป็นเธอที่ต้องเจ็บปวดอยู่แค่คนเดียว
“มานั่งยะหยังอยู่นี่ลูก”เธอหันไปตามเสียงหวานของมารดา ท่านเดินมานั่งข้างๆเธอ
“แม่ขา น้องมีเรื่องจะปรึกษาแม่”
“หืม? เรื่องอะหยัง”
“เรื่องคุณภาณุ”
 
คุณพิมพ์ดาวมองลูกสาวยิ้มๆ หล่อนเดาไม่ผิดจริงๆจากท่าทีของภาณุที่มีต่อลูกสาวของหล่อน สายตาของชายหนุ่มที่คนอาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดีชายหนุ่มไม่ได้คิดกับธนันต์ธรญ์แค่เพื่อนแน่นอน และหล่อนเองก็พอจะรู้แล้วด้วยว่าปัญหาของทั้งสองคืออะไร
“น้องกึ้ดอะหยังอยู่(น้องคิดอะไรอยู่)”
“น้องบ่แน่ใจ๋ เขาบอกว่าจริงจังกับน้อง แต่เฮาเพิ่งฮู้จักกั๋นแค่สองติ๊ด(น้องไม่แน่ใจ เขาบอกว่าจริงจังกับน้อง แต่เรารู้จักกันแค่หนึ่งอาทิตย์)”
“แล้วน้องเจื่อเปิ้นก่อ(แล้วน้องเชื่อเขาหรือเปล่า)”บุตรสาวของหล่อนส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจ
“น้องกลั๋วเปิ้นจุ๊ น้องบ่อยากโดนจุ๊(น้องกลัวเขาหลอก น้องไม่อยากโดนหลอก)”หล่อนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลูบผมนุ่มของลูกน้อยเบาๆ
“บนโลกนี้ป้อจายกู่คนบ่ได้เหมือนป้อไปหมดหรอกหนาลูก(บนโลกนี้ผู้ชายทุกคนไม่ได้เหมือนพ่อไปซะทุกคนหรอกนะลูก)”
“แม่...”หล่อนยิ้มบางๆ ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยจางหายตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ บาดแผลในใจที่อย่างไรหล่อนก็ไม่มีวันลืมได้ลง
“แม่โจคฮ้ายตี้ป้บ่ได้กึ้ดจริงจังกับแม่(แม่โชคร้ายที่พ่อไม่ได้คิดจริงจังกับแม่)”
“ปอเต๊อะเจ้า แม่บ่ต้องกึ้ดถึงป้อจายคนนั้นแล้ว(พอเถอะค่ะ แม่อย่าคิดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย)”
“แม่ยอมฮับว่าต๋อนนั้นแม่กึ้ดอะหยังตื้นๆ แค่เปิ้นบอกว่าฮัก แม่ก่อเจื่อ แม่กึ้ดว่าเขาฮักแม่แต้ๆ (แม่ยอมรับว่าตอนนั้นแม่ยังคิดอะไรตื้นๆ แค่เขาบอกว่ารัก แม่ก็เชื่อ แม่คิดว่าเขารักแม่จริงๆ)”
“...”หล่อนมองใบหน้าสวยหวานที่ได้เค้าของคนเป็นพ่อมาเล็กน้อยยิ้มๆ
“ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ตั้งแต่เขากลับกรุงเทพฯไป เขาก่อบ่อเกย(ไม่เคย)ติดต่อมาอีกเลย แม่ถามเปื่อน(เพื่อน)ร่วมงานเขา เขาบอกว่าป้อ(พ่อ)แต่งงานแล้ว มีลูกแล้วหนึ่งคน”น้ำตาหยดหนึ่งรินจากดวงตาคู่หม่นยามนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น มันเจ็บซะจนหล่อนไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว
“แต่สำหรับคุณภาณุ แม่กึ้ดว่าลูกควรเปิดโอกาสหื้อตัวลูกเอง ถ้าลูกหันว่าเปิ้นบ่ได้เลวร้าย ถ้าลูกใจ้(ใช้)สมองหื้อน้อยลง แล้วใจ้(ใช้)หัวใจ๋หื้อ(ให้)มาก แม่เชื่อว่าลูกจะได้คำตอบ แต่สำหรับแม่ แม่อาบน้ำฮ้อน(ร้อน)มาก่อน ดูออกว่าเปิ้นสนใจ๋น้องแต้ๆ และถ้าแม่ผ่อบ่ผิด แม่กึ้ดว่าเปิ้นบ่ได้จะจุ๊น้องหนาลูก”
“เจ้า”หล่อนยิ้มน้อยๆที่ลูกสาวพยักหน้าแต่โดยดี หล่อนเดินจากระเบียงบ้านไปที่ห้องนอน ทิ้งให้ลูกสาวได้ใช้ความคิดอยู่กับตัวเองให้นานขึ้น
 
 
 
                                                                         ...สายลมแห่งตะวัน
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา