Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๑๘
ภาพลูกสาวที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ยังประจักษ์ชัดในสายตาของคนเป็นพ่อและแม่นับตั้งแต่กลับมาจากบ้านคุณพิมพ์มาลา แม้พิมประภาดูเหมือนจะเข้าใจในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คนเป็นพ่อและแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกสาวไม่ได้เข้าใจอย่างที่แสดงให้ใครเห็น หัวใจคนแอบรักอย่างไรมันก็ต้องเจ็บปวด ในเมื่อได้เพียงแค่แอบรักแต่ไม่ได้ถูกเลือกเป็นคนรัก...
“น้องพิม”
คุณทิพย์ธาราเรียกชื่อลูกสาวเสียงอ่อนโยน อ้อมแขนของคนเป็นแม่โอบกอดร่างลูกน้อยที่กำลังอ่อนแรงลงไป
“คุณแม่ขา ฮึก ทำไมพี่ป๊อปทำแบบนี้ ฮือๆ”หล่อนได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้เลยว่าอีกนานเท่าไหร่บาดแผลนี้จะจางหายไปจากใจของลูกสาว
“ไม่ต้องเสียใจไปหรอกลูก พ่อว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล พ่อจะให้คนตามสืบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรลูกสาวของพ่อก็ต้องมีความสุขที่สุด ใครหน้าไหนก็มาแย่งความสุขไปจากลูกของพ่อไม่ได้!”
คุณพิมพ์ดาวนั่งนิ่งอยู่บนระเบียงบ้านไม้หลังน่ารัก มืออวบอูมหยิบก้านดอกกุหลาบปักลงบนแจกันอย่างละเมียดละไม สายลมเย็นฉ่ำพัดพาเอาความทรงจำเมื่อครั้งวันวานให้หวนกลับคืนมา หน้าร้อนแบบนี้ เมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้วหล่อนได้พบกับชายหนุ่มจากเมืองกรุงคนหนึ่ง...เขาเป็นผู้ชายที่ทำให้หล่อนได้รู้จักความรัก แต่มันกลับเป็นความรักที่ขมขื่นในเวลาต่อมา...เมื่อรักนั้นเป็นได้แค่ภาพลวง ความเจ็บปวดจึงหยั่งรากลึกลงไปภายในก้นบึ้งของจิตใจเมื่อมาล่วงรู้ว่าเขาไม่ได้รักหล่อนเช่นที่หล่อนรักเขา... ซ้ำเขายังมีผู้หญิงที่เขานั้นรักอยู่แล้ว หากหล่อนไม่เลือกที่จะเดินจากมาในวันนั้น...วันนี้หล่อนกับลูกคงไม่ได้สัมผัสกับความสุขและความสงบของชีวิต...
“คุณน้าครับ”หล่อนหันไปด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นเคย
“อ้าว พชรนี่เองน้าคิดว่าใคร นั่งก่อนสิจ๊ะ”
“ครับ”ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ตามคำเชื้อเชิญของหล่อน
“ผมซื้อกับข้าวมาให้ครับ แต่วันนี้คงไม่ได้อยู่ทานด้วย ขอโทษทีนะครับ”
“ทำไมล่ะจ๊ะ”หล่อนเอ่ยถามอย่างแปลกใจเพราะทุกวันชายหนุ่มมักจะแวะมาอยู่เป็นเพื่อนคุยเป็นเพื่อนทานข้าวทำให้หล่อนคลายเหงาไปได้มากเลยทีเดียว
“พอดีผมติดธุระนิดหน่อยน่ะครับ ต้องไปลำปางด่วน”
“อ้าว นี่ฟางก็จะกลับมาแล้ว แต่เราก็ต้องไปที่นั่นอีก คลาดกันอีกแล้วล่ะสิ”หล่อนเอ่ยตามที่คิด
“ครับ น่าเสียดาย...”หล่อนยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ย
“ไม่เป็นไรหรอก น้องกลับมาก็อยู่แต่ที่นี่แหละ เรามาหาได้ทุกเมื่อ”ชายหนุ่มยิ้มได้ขึ้นมาหน่อย ก่อนจะชวนหล่อนคุยเรื่องจิปาถะ สักพักพชรก็กลับไป หล่อนนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินเพียงลำพัง ก่อนจะทานอาหารเย็นและเข้านอนเป็นกิจวัตรประจำวัน อดแปลกใจไม่ได้เมื่อลูกสาวไม่ได้โทร.หาหล่อนเลยนับตั้งแต่วันนั้น แต่หล่อนก็เข้าใจว่างานคงจะหนักและสาวน้อยของหล่อนตอนนี้ก็คงจะหลับเป็นตายไปแล้ว...
ผิดคาดเมื่อสาวน้อยที่คุณพิมพ์ดาวกำลังคิดถึงไม่ได้นอนหลับอยู่อย่างที่คิด ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายไป-มาบนเตียงนุ่ม เป็นเช่นนี้มาหลายคืนแล้วจนเจ้าหล่อนเองก็ยังอดสงสัยไม่ได้
“เฮ้อ...”
“นอนไม่หลับอีกแล้วหรอคุณ”เธอหันไปมองที่มาของต้นเสียงก่อนจะตอบ
“อื้อ มันไม่ง่วงน่ะ ไม่รู้ว่าทำไม”
“เพิ่งสองทุ่มกว่าอยู่เลย ออกไปเดินเล่นข้างล่างไหม”เธอคิดตามข้อเสนอของเขาก็น่าสนใจไม่น้อย ออกไปรับลมเย็นๆ สักพักค่อยกลับมานอน
“ไปสิ”เธอยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปเปิดไฟห้องนอน และเดินออกมาโดยมีชายหนุ่มคอยเดินรั้งท้าย เธอสวมรองเท้าแตะ เดินลงจากเรือนหลังงามไปที่สวนหลังบ้านที่จัดไว้เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่ลงรายละเอียดตกแต่งเล็กๆน้อยๆ
“พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อพวกตุ๊กตาดินเผา ไปด้วยกันไหม”เธอชวนภาณุคุย
“ไปอยู่แล้ว ตั้งแต่มาที่นี่ผมยังไม่ได้ออกไปไหนนอกจากบ้านเลย”เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นดวงจันทร์สีเลือดดูน่ากลัว แต่ก็สวยในแบบของมัน
“กลัวหรอ”เธอหันหน้าไปมองเสี้ยวหน้าหล่อคมของเขาที่กำลังมองในจุดๆเดียวกับเธอ
“คนบ้าสิกลัวพระจันทร์ ฉันแค่คิดว่าสีมันน่ากลัวเฉยๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนี้ทกวันซะหน่อย แต่คืนนี้อาจจะแย่หน่อย พระจันทร์สีไม่สวยแถมดาวยังไม่มีสักดวง...เฮ้อ...”เธอถอนหายใจ ก่อนจะมองไปรอบๆสวนที่ดอกไม้และต้นไม้ที่ลงไว้กำลังเจริญเติบโต ดอกไม้เบ่งบานไม่เหี่ยวเฉาเหมือนวันแรก
“คุณชอบดอกไม้อะไร”เธอหันไปมองเขาอย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่าผู้ชายห่ามๆแบบเขาจะสนใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในตัวเธอด้วย
“ดอกปีบค่ะ”
“โบราณ...”เธอหันขวับ ก่อนจะตีแขนเขาเมื่อได้ยินคำวิจารณ์รสนิยมของเธอแบบตรงไปตรงมา
“แล้วทำไม ก็ชอบนี่ จะให้ตอบว่าไง...อืม เป็นนางเอกก็ อะแฮ่ม...ดอกไม้ที่ฟางชอบน่ะหรอคะ ฟางชอบดอกกุหลาบค่ะ โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีขาวค่ะ...พี่ป๊อปขา...เป็นไง ดูอินโนเซนต์ไหม”เธอดัดเสียงแหลม ในขณะที่พูดก็แลบลิ้นปลิ้นตาให้เขาไปด้วย
ภาณุมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้มตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ไม่น่าเชื่อว่าเขาต้องตกหลุมพรางผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ดูเป็นคนเรียบง่าย เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาๆแต่ก็ไม่ธรรมดาซะทีเดียว เพราะทั้งหน้าตาและนิสัยของเธอสำหรับเขาแล้วมันทั้งน่ารักแล้วก็น่าเอ็นดูที่สุด และเขาขอให้เป็นเขาคนเดียวที่มองเห็นเธอในมุมแบบนี้ คนอื่นจะได้ไม่ต้องตกหลุมรักเธอแบบที่เขากำลังเป็น
“หึ แล้วทำไมต้องเป็นดอกปีบล่ะ ผมว่ากลิ่นมันหอมชวนอ้วกแปลกๆ”
“ที่บ้านฉันมีต้นปีบต้นใหญ่เลยค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตชีวิตฉันก็ผูกพันอยู่แต่กับต้นปีบต้นนั้น...ตั้งแต่ฉันจำความได้ฉันก็นั่งๆนอนๆเล่นใต้ต้นปีบต้นนั้น โตมาก็ยังไม่ไปไหนก็ยังวนเวียนอยู่ที่นั่น มองไปมองมาฉันก็เห็นว่าดอกของมันก็สวยดี ดอกเล็กๆที่ร่วงลงพื้นดินถูกคนเหยียบครั้งแล้วครั้งเล่าความหอมของมันก็ไม่เคยจะหายไปไหน แถมดูแลก็ง้ายง่าย ไม่เหมือนดอกกุหลาบบ้าบอที่กว่าจะออกดอกแต่ละทีล่ะเหนื่อยแทบตาย”เขาหัวเราะน้อยๆกับเหตุผลของเธอ เอาเป็นว่าตั้งแต่เล็กจนโตมองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกปีบ เจ้าหล่อนก็เลยหยิบยกมันมาเป็นดอกไม้ที่ตัวเองชอบ
“งั้นผมก็ไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลยสิ แค่เก็บดอกปีบของคุณยายมาจีบคุณทุกวัน คุณก็คงใจอ่อนยอมเป็นแฟนผมแล้วใช่ไหม”
“น่าเกลียด...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงฉันขอดอกปีบที่อยู่บนยอดสูงสุดของต้นก็แล้วกันย่ะ แล้วก็ต้องเป็นต้นที่อยู่ที่บ้านฉันด้วย เพราะต้นของคุณท่านยังสูงไม่พอ แบร่...”เจ้าหล่อนแลบลิ้นให้เขา ก่อนจะเดินไปยังต้นปีบต้นใหญ่ที่กำลังออกดอกสีขาวนวลลออทั้งต้น ร่างเล็กเลือกจะเดินไปหยิบดอกที่ร่วงลงพื้น ก่อนจะจรดลงที่ปลายจมูกรั้นของตัวเอง
“น่าแปลกนะคะที่เจ้าต้นนี่ไม่ตาย ทั้งๆที่ตอนที่เข้ามาทำสวนแรกๆต้นไม้บริเวณนี้ตายหมดแล้ว
“นั่นสิ...”เขาพึมพำรับคำหญิงสาวทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร จิตใจของเขามันจดจ่ออยู่กับดวงหน้าหวานของเธอมากกว่า...นับวันเธอก็ยิ่งมีอิทธิพลกับเขามากขึ้นไปทุกที...
“อย่ามองฉันแบบนี้ได้ไหมคะ”เขาสะดุ้งเมื่อถูกคนตัวเล็กจับได้ แต่ก็แปลกใจกับคำพูดของเธอ
“ทำไม...”
“ฉันเป็นผู้หญิงนะคะ”เขาขมวดคิ้ว
“แล้วยังไง”เขาถามต่อย่างไม่เข้าใจในท่าทีของหญิงสาว หากแต่เจ้าตัวยังคงเงียบ มือเล็กนิ่มจับมือของเขาให้แบออก ก่อนจะวางเจ้าดอกไม้สีขาวดอกเล็กลงไป แล้วก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากริมฝีปากอิ่ม ร่างเล็กหันหลังกลับทำท่าว่าจะเดินเข้าไปในบ้าน แต่ก็ชะงักปลายเท้า
“คุณกำลังทำให้ฉันใจแตกโดยไม่รู้ตัวนะคะ”กลางคืนเงียบสงัดทำให้เขาได้ยินเสียงหวานชัดเจน แต่กว่าจะได้เอ่ยอะไร ร่างเล็กก็วิ่งขึ้นเรือนไปแล้ว
“เด็กน้อย...”ชายหนุ่มพึมพำพร้อมรอยยิ้ม
...สายลมแห่งตะวัน
พรุ่งงนี้เราไม่ได้เข้ามาอัพนะ พอดีต้องไปธุระที่เชียงใหม่ วันนี้จะอัพให้สองตอนนะจ้ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ