Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
19)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
ตอนที่๑๙
คุณพรพิมลจ้องมองดวงหน้าหวานจิ้มลิ้มของลูกสะใภ้ที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวโดยมีลูกชายของหล่อนคอยตักนู่นตักนี่ให้อย่างเอาอกเอาใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าใบหน้าของตนกำลังมีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่อย่างที่ไม่เคยมีมานาน
“ทานข้าวสิแม่มล เอาแต่จ้องลูกสะใภ้อยู่นั่น เมื่อไหร่จะอิ่ม”หล่อนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงมารดา
“หนูเปล่ามองสักหน่อยค่ะคุณแม่ แค่มองอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น”หล่อนเสตักข้าวเข้าปากโดยสายตายังมองเห็นลูกชายและมารดาของหล่อนยิ้มให้กันอย่างรู้ทันหล่อน
“เออ แล้วหนูฟางจะกลับเชียงรายวันพรุ่งนี้แล้วใช่ไหมลูก”หล่อนเงยหน้าขึ้นมองธนันต์ธรญ์เมื่อได้ยินคำถามของมารดา
“ค่ะ”
“อ้าว ทำไมรีบกลับล่ะ ฉันเพิ่งจะมาถึงไม่กี่วันเอง”หล่อนท้วง
“นี่ ปล่อยเขาให้กลับไปหาอ้อมอกแม่เขาบ้างสิ เรานี่ชักจะเห่อหลานใหญ่แล้วนะ”มารดาเอ่ยกับหล่อน ก่อนจะหันไปทางภาณุ
“แล้วเราล่ะตาป๊อป”
“ก็คงจะไปด้วยครับ คงจะไปขมาแม่ฟาง”
“ให้แม่ไปด้วยนะ”
“ไม่ได้!/ไม่ได้!/ไม่ได้!”หล่อนสะดุ้งเมื่อสามเสียงดังขึ้นพร้อมกันแถมทั้งสามคนยังมีสีหน้าตื่นตกใจ
“อะไรกัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงต้องเสียงดังกันแบบนี้ด้วย”หล่อนเอ่ยถาม รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
“คุณแม่อย่าเพิ่งไปเลยนะครับ คุณแม่ของฟางยังไม่ทราบเรื่องนี้ เราอย่าเพิ่งเอิกเกริกพากันไปเลยครับ ถ้าเกิดท่านรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้คุณแม่จะเสียหายไปด้วยนะครับ”หล่อนสบตาลูกชายอย่างไม่ชอบใจ อะไรกัน เรื่องมันมาถึงขนาดนี่แล้วยังเอ้อระเหยลอยชายกันอยู่ได้ หากไม่รีบจัดงานแต่งฝ่ายหญิงนั่นแหละที่จะเสียหาย
“นั่นสิ เอาไว้ตาป๊อปคอนเฟิร์มมาแล้วเราค่อยไปกันก็ได้”มารดาของหล่อนเอ่ยเสริม
“ก็ได้ค่ะ”หล่อนรับปาก แต่ในใจยังสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของทั้งสามคน ไหนจะจอมและน้อยที่มีสีหน้าตกใจไม่แพ้มารดา ภาณุ และธนันต์ธรญ์อีก เรื่องนี้มันชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้วสิ
คุณพิมพ์มาลาใจหายแทบสิ้นลมเมื่อรู้ดีว่าหล่อนเผลอแสดงพิรุธให้พรพิมลจับได้เข้าแล้ว ลูกสาวหล่อนฉลาดเป็นกรดมีหรือพิรุธแค่นี้จะจับไม่ได้ ร้อนถึงหล่อนต้องเรียกสองหนุ่มสาวมาคุยกันเสียให้รู้เรื่องหลังจากอาหารมื้อเช้า
“คุณยายครับ เราจะทำยังไงดี คุณแม่ต้องสงสัยเราแล้วแน่ๆ”หลานชายเอ่ยอย่างร้อนใจ
“แล้วเมื่อไหร่เราจะบอกความจริงกับแม่เรา หนูฟางก็จะกลับวันนี้วันพรุ่งแล้วนะ”
“ผมก็อยากบอกนะครับ แต่เหมือนคุณแม่เห่อหลานมาก ผมกลัวว่าท่านจะเสียใจ”
“ตอนทำล่ะไม่คิด...เฮ้อ มันก็ยายด้วยนั่นแหละที่ให้ท้ายเรา”หล่อนนึกโทษตัวเอง อายุจนปูนนี้แล้วคิดอะไรทำอะไรวู่วามไปได้ ลูกสาวคงได้ค่อนว่าแก่กะโหลกกะลาเป็นแน่แท้
“ถ้าผมบอกแม่ไปแล้ว ท่านเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา จับผมแต่งงานอีกล่ะครับ”หล่อนหนักใจไม่แพ้หลานชาย หากแต่เอาแต่โอ้เอ้ไม่ยอมบอกความจริงตอนนี้ ฝ่ายหญิงก็มีแต่จะเสียหาย
“ป๊อปจะทำอะไรก็คิดถึงน้องให้มากๆ หนูฟางเขาอุตส่าห์ช่วยเรา อย่าทำให้น้องลำบากใจไปมากกว่าที่เป็นอยู่”หล่อนเอ่ยกับหลานชาย ทั้งสายตาจับจ้องดวงหน้าหวานของธนันต์ธรญ์ หลายวันที่ผ่านมานี้ดูทั้งสองสนิทกันเร็ว ความหวังของหล่อนก็เริ่มจะเป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว หากพรพิมลจะเอาพิมประภาลงประกวดชิงตำแหน่งลูกสะใภ้บ้านจิระคุณ หล่อนนี่แหละจะส่งธนันต์ธรญ์เช้าชิงตำแหน่งนี้ด้วยอีกคน...ก็เอาสิว่าหล่อนจะมองภาณุพลาด!
“เอาล่ะ ยายจะช่วยหาทางแก้ปัญหานี้อีกคน ไหนวันนี้บอกจะเข้าเมืองไปซื้อตุ๊กตาดินเผา ไปสิ เดี๋ยวจะกลับมากันมืดค่ำ”หล่อนรีบเอ่ยต้อนให้สองหนุ่มสาวไปทำธุระอย่างอื่น เพราะหางตาเหลือบไปเห็นร่างที่คุ้นเคย...อยากรู้นักว่าแม่ลูกสาวตัวดีจะทำเช่นไรต่อ
ลับร่างของภาณุและธนันต์ธรญ์ไป คุณพิมพ์มาลาจึงหันไปทางประตูที่ติดอยู่กับห้องหนังสือ เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบๆ
“ออกมาได้แล้ว อย่านึกว่าแม่ไม่รู้นะแม่มล”
“คุณแม่!”ร่างท้วมของลูกสาวค่อยๆเดินออกมาจากที่ซ่อน ก่อนจะมานั่งลงข้างๆหล่อน
“รู้หมดแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ...น่าเสียดาย หนูก็คิดว่าตาป๊อปจะเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วอย่างที่หนูต้องการจริงๆ ที่ไหนได้กะล่อนเอาตัวรอดแถมโกหกทั้งเพ”หล่อนสัมผัสได้ถึงความโกรธกรุ่นของลูกสาวจึงเอ่ย
“มันก็เพราะเรานั่นแหละที่บีบบังคับให้ลูกต้องทำอะไรแบบนี้...แต่แม่มีเรื่องจะถาม”
“คะ?”หล่อนมองร่างเล็กของธนันต์ธรญ์ที่ก้าวขึ้นรถของภาณุไปและเอ่ย
“เธอคิดว่าหลานสะใภ้กำมะลอของฉันเป็นยังไงบ้าง”
คุณพรพิมลหันหน้ามามองมารดาให้ชัดๆอีกครั้ง มารดาของหล่อนพูดเหมือนว่ากำลังสนใจเด็กสาวคนนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หล่อนเคยขอร้องให้มารดาช่วยหาสะใภ้ให้หล่อน แต่มารดาก็ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องนี้เลยสักครั้ง
“ที่ตาป๊อปคว้าเอาหนูฟางมาเป็นเมียกำมะลอ แม่บอกตามตรงนะ...มันเป็นความต้องการของแม่นี่แหละ แม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต เธอดูสิ...ตาป๊อปวันๆเอาแต่ขลุกอยู่ในกองบิน แต่วันหนึ่งต้องหนีงานแต่งงานหัวซุกหัวซุนมาหาฉันที่นี่และเป็นกำหนดการเดียวกับที่บริษัทของหนูฟางต้องมาจัดสวนที่บ้านเรา...เธอคิดว่ามันมีอะไรบังเอิญไปกว่านี้ไหมแม่มล”
“ทำไมคุณแม่ถึงชอบเด็กคนนี้ล่ะคะ”มารดาหันมามองหล่อนยิ้มๆ ส่งสายตารู้ทันมาให้หล่อน
“แม่รู้ว่าเราก็ชอบ...ใช่ไหม”หล่อนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแก้เก้อ
“...”เมื่อมารดาเงียบไปหล่อนจึงตอบ เพื่อดำเนินบทสนทนาต่อ
“ก็...ค่ะ ชอบ หน้าตาน่ารัก มารยาทก็งาม แถมตาป๊อปเวลาอยู่กับหนูฟางแล้วก็ดูมีความสุขดี”
“แม่เชื่อว่าสำหรับแม่และเธอ เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือความสุขของลูกหลาน เธอคิดว่ายังไงถ้าเราจะช่วยกันอุ้มสมให้ทั้งสองคนรักกันเร็วกว่าที่พรหมลิขิตจะบันดาลไปอีกหน่อย”หล่อนยิ้มกับมารดา ดีสิ...ให้เจ้าลูกชายตัวแสบได้หลาบจำซะบ้างว่าอย่าคิดมาถอนหงอกหล่อนเล่นง่ายๆแบบนี้ ในเมื่ออยากหลอกหล่อนดีนัก ก็หลอกให้มันตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน ถึงวันนั้นจริงๆหล่อนคงได้อุ้มหลานสมใจอยาก
“ค่ะ หนูชักอยากจะทำอะไรสนุกๆแล้วล่ะค่ะ ดีไม่ดีงานนี้เราอาจจะได้อุ้มหลานอุ้มเหลนสมใจเลยเทียว”
“ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!”
ภาณุถูจมูกโด่งไป-มา ก่อนจะหันมาสนใจมือเล็กที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เขารับมันมาเช็ดปลายจมูกที่คันฟุดฟิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“มีคนแอบนินทาล่ะสิ”คนตัวเล็กเอ่ยทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาเลือกตุ๊กตาดินเผาหน้าตาน่ากลัว ตาโตอย่างกับไข่ห่าน ปากกว้างถึงรูหู แถมจมูกยังบานอย่างกับหมู
“เขาว่าจามสองครั้งมีคนคิดถึงนะคุณ”เขาเอ่ยแก้
“สำหรับคุณคงมีคนนินทาสองคนมากกว่า”เขายีผมนุ่มอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะชะงักมือเมื่อหญิงสาวส่งสายตาพิฆาตมาให้
“ตัวนี้น่ารักไหม”เขามองตุ๊กตาดินเผารูปเด็กหญิงตัวอ้วนกลมในมือของหญิงสาวก่อนจะเอ่ย
“ตัวไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละน่า น่ากลัวชะมัด เกิดมาผมยังไม่เคยเจออะไรน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน”
“เขาเรียกว่าน่ารักย่ะ ใช่สิ คุณมันทั้งห่ามทั้งเถื่อนคงจะสัมผัสไม่ได้หรอกว่ามันน่ารักแค่ไหน”
“นี่ปากหรอฮึ”เขาว่าหญิงสาวที่แลบลิ้นปลิ้นตาให้
“ปากสิ...ถ้านั้นเอาตัวนี้อีกตัวค่ะ”เธอยื่นตุ๊กตาประหลาดให้เจ้าของร้าน ก่อนจะเดินไปนั่งรอบนเก้าอี้ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้
“นี่คุณ พรุ่งนี้ฉันจะกลับแล้วนะ คุณจะเอายังไงเรื่องแม่ของคุณต่อ”เขามองหญิงสาวที่ทำหน้าเครียด ก่อนจะเอ่ยทีเล่นทีจริง
“ก็คงบอกความจริงว่าคุณไม่ใช่เมียผม ไม่มีลูก ไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ผมกำลังจะจีบคุณมาทำแม่ของลูกอยู่ให้แม่ผมรอแป๊บหนึ่ง”เขายักคิ้วให้หญิงสาวที่อ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง
“ตาแก่ตัณหากลับ...”เธอพูดเสียงเบา หากแต่เขาได้ยิน
“เด็กผี...”
“นิสัยไม่ดี!”
“คุณว่าผมก่อน”
“ก็คุณพูดจาทะลึ่งนี่!”คนตัวเล็กลงไม้ลงมือกับเขาทันทีที่พูดจบ แรงเท่ามดคิดอยากจะทำร้ายเขา สักวันเถอะเขาจะทำให้เธอยอมศิโรราบอยู่ในอ้อมกอดของเขาให้จงได้!
...สายลมแห่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ