รักไม่ได้
เขียนโดย Chapond
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) ช่วยฟางและความต้องการเลือดถึงขีดสุด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“หึ่ย คิดหรอว่าชั้นเป็นคนธรรมดาชั้นจะทำอะไรไม่ได้ พวกผีดิบดูดเลือดก็ดีแต่ดูถูกคนอื่นแบบนี้
ล่ะ”ฟางที่แอบพวกลูกน้องเขื่อนที่เดินตรวจยามรอบๆบริเวณปราสาทแล้วเลาะออกมาที่ช่องประตู
เล็ก พบว่าปราสาทของป๊อปปี้นั้นอยู่ระหว่างป่าสนก่อนจะลงเนินลงไปก็เป็นพวกบ้านคนเล็กๆและ
เลาะถนนลูกรังไปก็จะเจอถนนใหญ่ทางเข้าเมือง ฟางเดินเลาะมาตามป่าแล้วมองรอบๆด้วยความ
กลัว
“เราต้องไม่กลัวฟาง เราต้องสู้ เพื่อจะได้กลับบ้าน”ฟางพูดให้กำลังใจตัวเองแล้วเดินไปเรื่อยๆพลาง
มองพวกต้นไม้และเสียงนกเค้าแมวร้องตอนกลางคืน คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงซะด้วยสิ
แซกๆ
เสียงเหมือนคนเดินเหยียบใบไม้แห้งทำให้ฟางหันไปมองด้วยความกลัว ภาพวันก่อนที่เธอถูกพวก
เพื่อนที่กลายเป็นแวมไพร์ทำร้ายกับตอนที่ถูกสาวปริศนาจะทำร้ายที่สุสานผุดเข้ามาในหัว
“ท่องไว้ ถ้าเราไม่กลับไปแก้วอาจจะเป็นอันตรายได้ เราต้องไม่กลัวนะฟาง เราอยู่คนเดียวมาได้
ตั้ง5ปี เรื่องเดินกลับบ้านแค่นี้เราต้องทำได้”ฟางพูดกับตัวเองแล้วหยิบท่อนไม้ข้างๆท่อนหนึ่งก่อนจะ
เดินไปเรื่อยๆ ภายในป่าเริ่มมืดทำให้ฟางเริ่มกลัวอีกครั้ง ภาพเมื่อ5ปีก่อนที่ครอบครัวเธอถูกฆ่าก็ผุด
เข้ามาในหัว
แซ่กๆ
ฟางเดินไปเรื่อยๆต้องตกใจเมื่อเห็นกวางล้มตายตัวหนึ่งและเห็นเงาคนในผ้าคลุมสีดำกำลังก้มดูด
เลือดกวางตัวนั้น พวกแวมไพร์ คำเดียวที่เธอคิดได้ตอนนี้ แวมไพร์คงจะไม่ได้มีแค่ในนิยายหรือ
หนังที่เธอชื่นชอบซะแล้ว
‘พ่อแม่พวกเราถูกฆ่าตายนะ’ คำพูดป๊อปปี้ผุดเข้ามาในหัว ถ้างั้นพวกแวมไพร์ก็มี2พวกน่ะสิ
แกรบ
ฟางต้องตกใจเมื่อตัวเองเหยียบโดนกิ่งไม้แห้งทำให้แวมไพร์ตันนั้นเงยหน้ามา ฟางตกใจกว่าเดิม
เมื่อเห็นตามันแดงเหมือนกับแวมไพร์เพื่อนๆของเธอ
“อ๊ะ”ฟางวิ่งสุดชีวิตแต่ด้วยเพราะมันคือแวมไพร์สามารถกระโดดได้สูงข้ามมาดักหน้าฟาง ฟางมอง
ด้วยความกลัวเพราะที่ปากของมันยังมีเลือดติดอยู่ แวมไพร์ตัวนั้นกระโจนเข้าหาฟาง ฟางรีบหลบ
ก่อนจะเอาไม่ฟาดแล้วต้องตกใจเมื่อไม้ที่ฟาดกลางหลังมันหักเป็น2ท่อน
“หึๆ กะอีแค่เศษไม้ธรรมดาจะทำอะไรข้าได้มนุษย์ตัวน้อยๆอย่างเจ้าน่ะควรมาเป็นอาหารของข้าซะดี
กว่า”แวมไพร์ตัวนั้นเยาะฟางที่ไม่สามารถทำอะไรตัวเองได้ ฟางล้มลงแล้วเห็นพวกก้อนหินก็รีบปา
ใส่แวมไพร์ตัวนั้นไม่หยุด
“นี่เจ้า มันจะมากไปแล้วนะ”แวมไพร์ตัวนั้นโกรธจัดพุ่งเข้าทำร้ายฟาง แต่ต้องลอยหวือเมื่อเกราะที่
ป๊อปปี้ร่ายไว้มันยังใช้ได้อยู่ แวมไพร์ตัวนั้นโกรธปนตกใจที่เห็นตราพระอาทิตย์ออกมาจากตัวฟาง
“หึ พวกเลือดบริสุทธ์งั้นหรอ ดี ไหนๆมันก็เลี้ยงมนุษย์ในปราสาทมันแล้ว งั้นขอกินเลือดคนของพวก
เลือดบริสุทธ์ละกัน”แวมไพร์ตัวนั้นกระโดจนเข้าจับฟางแล้วต้องร้องเมื่อร่างกายของฟางที่มันไปจับ
ร้อนไปทั่ว ฟางเห็นมันเสียหลักตอนนั้นก็เห็นไม้แหลมแล้วนึกถึงตอนที่เขื่อนแทงหัวใจก็รีบคว้าไม้
นั่นหมายจะแทงเข้าที่หัวใจ แต่มันพลิกตัว ทำให้แทงไปโดนที่อกของแวมไพร์ไม่โดนหัวใจ หัว
สะบัดตัวฟางไปชนกับต้นไม้มีเลือดออกที่หัว ฟางพยายามหนีเมื่อเห็นมันกำลังง่วนกับการแกะไม้ที่
อยู่กลางอก
“กลิ่นเลือดของเจ้านี่หอมจริงๆ”เสียงของโทโมะพูดขึ้นทำให้ฟางเงยหน้ามองบนต้นไม้ก็ตกใจที่เห็น
โทโมะกับเฟย์นั่งบนต้นไม้ ตาของโทโมะเป็นสีแดงก่ำ
“โทโมะจะรออะไรล่ะดูดเลือดมันเลยสิ คนของพวกเลือดบริสุทธ์เนี่ย”เฟย์รีบยุโทโมะ
“เห็นทีจะไม่ได้นะ เพราะว่าคุณฟางเค้าไม่ได้มีไว้ให้เพื่อนเธอดูดเลือดหรอก”เขื่อนพูดขึ้น ฟางหัน
ขวับไปมองก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขื่อนที่มาพร้อมพวกลูกน้องยืนอยู่
“ก็แค่พวกมนุษย์เลือดผสมไม่ใช่แวมไพร์แท้คิดว่าได้เป็นองค์รักษ์ของพวกชั้นสูงละชั้นจะกลัวงั้น
หรอ”โทโมะเหล่มองเขื่อนแล้วพูดก่อนจะกระโดดลงมาจากต้นไม้พร้อมกับเฟย์ก่อนจะจับตัวฟางไว้
แล้วสูดดมกลิ่นเลือดจากตัวฟางที่ไหลออกมา ฟางพยายามดิ้นด้วยความกลัวเมื่อโทโมะใช้ลิ้นเลีย
ไปที่แก้มเนียนที่เลือดไหลออกมา
“อย่าแตะต้องฟางนะโทโมะ”ป๊อปปี้ที่พุ่งมาด้วยความเร็วตามแบบของแวมไพร์พุ่งไปหมายจะชนโท
โมะที่ชายหนุ่มเอี้ยวหลบทำให้แวมไพร์ตัวที่อยู่ด้านหลังซัดป๊อปปี้จนล้ม เขื่อนเห็นดังนั้นก็สั่งลูกน้อง
ให้จัดการกับแวมไพร์ตัวนั้นทันที
“อย่ามายุ่งกับพวกชั้น”เฟย์ร้องก่อนจะเข้าไปสู้กับเขื่อน
“โอ๊ะโอ นี่น่ะหรอทายาทเลือดบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของจิระคุณ น่าขำสิ้นดี”โทโมะหัวเราะเยาะและล๊อก
ตัวฟางไว้พลางมองอย่างสังเกตว่ามนุษย์ตัวเล็กคนนี้มีอิทธิพลกับป๊อปปี้มากแค่ไหน
“ถ้าอยากจะสู้ก็สู้กับชั้น ปล่อยน้องสาวชั้นซะ”ป๊อปปี้พูด โทโมะยิ้มเยาะ
“รักน้องดีจังเลยนะ รักพอๆกับแฟนนายรึเปล่า ที่ชื่อจินนี่น่ะ”โทโมะพูด ป๊อปปี้พยายามจะเข้าไปชิง
ตัวฟางมาแต่โทโมะที่พึ่งดื่มเลือดมานั้นไวกว่าป๊อปปี้และเตะป๊อปปี้ล้มลง
“เหอะ พวกเลือดบริสุทธิ์เนี่ยถือตัวคิดว่าเป็นพวกชั้นสูงไม่ยอมดื่มเลือดจากสิ่งมีชีวิตเป็นๆสินะ พอ
กินเลือดถุงมันก็เอื่อยแบบนี้ล่ะ มันจะไปสดใหม่อะไรเหมือนกับเลือดที่ออกมาจากตัวได้”โทโมะที่
ตาแดงวับพูดแล้วเริ่มไซร้คอฟางยิ่งทำให้ป๊อปปี้ร้อนเป็นไฟแต่โทโมะชะงักเมื่อเห็นรอยเขี้ยวที่คอ
ของฟาง
“ปล่อยฟางเดี๋ยวนี้นะ”ป๊อปปี้พุ่งเข้าไปจะชิงตัวฟางอีกครั้งแต่ครั้งนี้โทโมะปล่อยฟางลงกับพื้นก่อนจะ
ตะปบข่วนป๊อปปี้จนเป็นแผลยาวตรงช่วงอก ฟางร้องตกใจเมื่อเห็นป๊อปปี้ล้มลง
“โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าคุณชายจะดื่มแต่เลือดถุงที่แท้ก็ร้ายนี่นา กัดสาวน้อยคนนี้ไปซะแล้ว เอะถ้าจำไม่
ผิดสาวน้อยคนนี้มีตราพระอาทิตย์ของนายนิป๊อปปี้ แวมไพร์ที่ทำตราเป็นเกราะป้องกันให้มนุษยืได้
เค้าต้องผ่านการเป็นเจ้าของ อย่างน้อยก็คือการจูบ งั้นแสดงว่านายก็คิสกับน้องสาวนายคนนี้น่ะสิ
ป๊อปปี้”โทโมะที่รู้ว่าจินนี่คู่หมั้นป๊อปปี้นั้นรักป๊อปปี้มากจนแอบหึงชายหนุ่ม ถ้าเธอรู้ว่าป๊อปปี้สนใจน้อง
สาวมนุษย์นี้มากกว่าจินนี่จะเป็นยังไงนะ
“อย่ามาพูดมาก เพราะว่าชั้นกับฟางเรามีสัญญาต้องดูแลกันหรอกน่า ชั้นเลยสร้างเกราะป้องกันฟาง
ได้โดยไม่ต้องผ่านการทำเป็นเจ้าของ ส่วนนาย นายคือพวกทรยศต่อตระกูลอย่าหวังว่านายจะรอด
ไปเลย”ป๊อปปี้พูดจบก็กระโจนเข้าสู้กับโทโมะ แต่เพราะบาดแผลที่เจ็บจากถูกโทโมะตะปบเมื่อกี้
ทำให้สู้ได้ไม่เต็มที่ ฟางมองตามแทบไม่ทัน
“อั่ก”ป๊อปปี้ร้องเมื่อเสียท่าถูกโทโมะตะปบกรงเล็บลงกลางหลังก่อนจะทรุด กรงเล็บของโทโมะเป็น
ทางยาวกลางหลังทำให้ชายหนุ่มบาดเจ็บอย่างมาก ฟางรีบคลานไปหาป๊อปปี้ทันที
“แผลแบบนี้นี่ ถ้ากินเลือดถุงก็คงจะต้องกินเป็น10ถุง แต่ถ้าจะใช้วิธีลัดก็ต้องดื่มเลือดจากตัวคน
จริงๆหมดตัว เอาล่ะป๊อปในเมื่อมนุษย์สาวๆอยู่ตรงหน้านายแล้วนายจะรออะไรล่ะ ไม่งั้นแผลนายก็จะ
ไม่หายนะ”โทโมะรีบพูดยุป๊อปปี้ ตอนนั้นที่ป๊อปปี้เริ่มตาพร่าก่อนตาสีปกติเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง
“ไม่ ชั้นจะไม่ทำร้ายฟาง”ป๊อปปี้พยายามข่มสัญชาตญาณที่มีในตัวของแวมไพร์ไม่ให้ดูดเลือดฟาง
ฟางมองป๊อปปี้ที่ต่อสู้ไม่กินเลือดตัวเองก็รู้สึกสงสารที่ชายหนุ่มทำเพื่อเธอขนาดนี้
“งั้นคงต้องกระตุ้นหน่อยแล้วล่ะ”โทโมะเดินที่ฟางก่อนจะกดกงเล็บลงที่ไหล่ยิ่งทำให้เลือดไหลออก
มายิ่งขึ้น ป๊อปปี้ที่เสียเลือดในตัวมากแล้วมีเลือดมนุษย์ของฟางอยู่ตรงหน้าเริ่มหายใจแรงขึ้นคุมสติ
ไม่อยู่
“กัดเลยๆ”โทโมะที่พูดเหมือนเชียร์อะไรสักอย่างอย่างอารมณ์ ป๊อปปี้ที่เห็นฟางเริ่มคลานหนีก็พุ่ง
เข้าล๊อคตัวฟางให้อยู่ใต้ร่างเขาไว้ไม่ให้หนี
“อย่านะ คุณสัญญาแล้วไม่ใช่หรอว่าจะได้กัดชั้นอีกแล้วน่ะ”ฟางพยายมพูดให้ป๊อปปี้ได้สติ ป๊อปปี้
ก้มลงซุกไซร้ใกล้ๆฟางเพื่อสูดดมเลือดมนุษย์หอมๆจากตัวฟางก่อนจะเอาลิ้นเลียที่แผลตรงหน้าผา
กมนของฟางลงมาที่พวงแก้ม ฟางที่ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวป๊อปปี้ทั้งพยายามกดที่แผลชาย
หนุ่มให้รู้สึกเจ็บแล้วจะได้ออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อป๊อปปี้ไม่ขยับตัวไปจากตัวฟางเลย
“ไม่นะ คุณอย่าทำแบบนี้ ฮึก ฮือ อย่านะพี่ป๊อป”ฟางร้องไห้ออกมาก่อนจะเรียกป๊อปปี้ว่าพี่ เหมือน
เสียงของฟางกระตุ้นเข้าไปในจิตสำนึกป๊อปปี้ ทำให้แวบนึงป๊อปปี้ได้สติ
“น้ำตาผู้หญิงมันมารยาเท่านั้นล่ะ”โทโมะพูดก่อนจะเหยียบลงที่แผลป๊อปปี้ จนชายหนุ่มร้องและหัน
กลับมาที่ฟางที่เลือกยังออกมาจากแผลที่หน้าผากและหัวไหล่ไม่หยุดก็ก้มลงไซร้ไปตามตัวฟาง
เพื่อจะกินเลือกที่หัวไหล่ แต่เหมือนบางอย่างที่ร่างกายป๊อปปี้สัมผัสกับร่างกายฟางทำให้ป๊อปปี้เริ่ม
จูบลงที่แก้มแล้วไล้ลงมาที่คอสวยก่อนจะถึงหัวไหล่ของฟาง โทโมะมองการกระทำนั้นอย่าง
ประหลาด เพราะเมื่อกี้ป๊อปปี้ยังจะกินเลือดฟางอยู่เลย ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นจูบได้
“พอได้แล้ว”จินนี่และพวกแวมไพร์ในปราสาทที่เหลือเข้ามา โทโมะหันไปมองจินนี่ก็ยิ้มเยาะก่อนจะ
เรียกเฟย์ที่สู้กับเขื่อนให้หนีไปเพราะแวมไพร์ตัวนั้นที่จะทำร้ายฟางตอนแรกนั้นคือพวกมือดีของ
แวมไพร์เกรดBจึงทำให้ลูกน้องของเขื่อนจัดการได้ยาก แต่สุดท้ายก็จัดการได้ในที่สุด
“เธอน่าจะมาช้ากว่านี้นะ คู่หมั้นของเธอจะได้กินเลือดน้องสาวของมันจนหมดตัวไงล่ะ”โทโมะที่ก่อน
จะออกไปกับเฟย์พูดขึ้นก่อนจะหายไปตามพลังของเฟย์
“ฮือๆ อย่าทำชั้น”ฟางร้องไห้ด้วยความกลัวป๊อปปี้ที่เลียเลือดตรงหัวไหล่ทำให้เขื่อนและจินนี่ตกใจ
จินนี่จึงตัดสินใจผลักป๊อปปี้ออกจากฟางจนไปชนกับต้นไม้ ก่อนจะให้แวมไพร์ลูกน้องตัวเองเอา
เลือดถุงที่พกมาด้วยกรอกปากป๊อปปี้เพื่อดับความกระหายเลือดในตัว แล้วหามป๊อปปี้กลับปราสาท
เช่นเดียวกับเขื่อนที่อุ้มฟางที่ร้องไห้จนสลบไปแล้วกลับปราสาทเช่นกัน
บอกแล้วว่าตอนนี้เสียเลือดกันกระจายยย
ฝากเม้นกับโหวตเรื่องนี้หน่อย เห็นเม้นน้อยอ่ะ ไม่สนุกหรอ ถ้าไม่สนุกเราจะได้ลบ เพราะ
ลองแต่งแนวนี้ดูอ่ะ ไม่เคยแต่งอ่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ