รักไม่ได้
เขียนโดย Chapond
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22) เรารักกันไม่ได้มันไม่มีวันเป็นจริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“มานั่งถอนหายใจอะไรตรงนี้คนเดียวอ่ะ หนูในหอคอยยังมีเหลืออยู่ปิศาจแมวอย่างเธอจะจับกิน
ก็ได้นะ”โทโมะกระโดดมานั่งข้างๆเฟย์ที่ไต่ขึ้นไปนั่งยกยอดหอคอยแล้วถอนหายใจมองดูพระจันทร์
ตามลำพัง
“นี่อยากจะเหลือฟันไว้ดูดเลือดมนุษย์อยู่มั้ยห้ะ”เฟย์หันไปว่าโทโมะ แม้เธอจะเป็นปิศาจแมว แต่
เธอก็ไม่ใช่พวกแมวธรรมดาที่กินหนูเป็นอาหาร
“นี่คิดถึงที่บ้านรึไง”โทโมะมองดูสร้อยรูปนาฬิกาที่เฟย์กำมันแน่น นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นสร้อย
เส้นนี้
“คิดถึงไปก็เท่านั้นล่ะ ชั้นมีสิทธ์ไปหารึไง”เฟย์พูดเยาะๆ
“เห้อ ชั้นรู้ว่าเธอน่ะเลือกแล้วที่ขายวิญญาณให้ปิศาจแมวจนตัวเองต้องเป็นปิศาจแลกกับชีวิตของ
ครอบครัวเธอให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุนั่น”โทโมะพูดถึงอดีตที่เขารุ้มาของเฟบ์ว่าเฟยืเองเมื่อก่อนคือ
มนุษย์ เป็นเด็กนักเรียนธรรมดา แต่เหตุการณ์รถชนเมื่อครั้งเป็นเด็กทำให้พ่แม่ของเธอกำลังจะตาย
แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเฟย์รึเปล่าที่มีปิศาจแม่วเฒ่าตนหนึ่งโผล่มาแล้วขอแลกชีวิตพ่อแม่
เฟย์กับวิญยาณของเฟย์ที่ต้องกลายเป็นปิศาจสืบต่อทายาทให้เจ้าปิศาจตนนั้น วินาทีนั้นเฟย์ไม่
อยากเสียพ่อแม่ไปจึงตอบตกลงก่อนจะต้องกลายเป็นปิศาจแมวจนทุกวันนี้
“แหม ไม่ต้องมาดราม่าจะรื้อฟื้นเรื่องของชั้นน่า แหมละนายล่ะ ดีตายล่ะเรื่องราวของนาย”เฟย์พูด
“อย่างน้อยชั้นก็เป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธ์มาตั้งแต่เกิดไม่ต้องขายวิญญาณให้ใคร”โทโมะพูด
“แน่ใจหรอว่าไม่ได้ขายวิญญาณให้ใคร แต่การที่นายเลือดเป็นแวมไพร์กระหายเลือดแล้วให้พวก
ของแพน แบงค์แล้วก็ไทมืเปลี่ยนนายน่ะ ก็ไม่ต่างอะไรจากชั้นหรอกโทโมะ กลายเป็นตัวประหลาด
ที่กลับไปหาจุดเดิมของเราเคยอยู่ไม่ได้”เฟย์พูดแล้วลุกขึ้นจับที่ปลอกคอแมวที่ปิศาจแมวใส่ให้เธอ
ก่อนจะกลายร่างเป็นแมวกระโดดลงไป โทโมะนั่งเงียบอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนจะกลับเข้ามาในห้อง
นอนที่เอาไว้ขังแก้วไว้ เมื่อโทโมะเดินเข้ามาด้านในพบว่าแก้วนอนวาดรูปอยู่บนเตียง โทโมะหยิบ
กระดาษที่แก้ววาดรูปที่ตกอยู่ล่างเตียงพบว่า แก้วนั้นวาดรูปข้าวของในห้องนี้ โทโมะจึงชะเง้อดูพบ
ว่าแก้วกำลังสเก็ตรูปของเขาอยู่
“ไม่เห็นจะเหมือนเลย ความจริงชั้นหล่อกว่าตั้งเยอะ”โทโมะพูด แก้วหันขวับมามองโทโมะแล้วแก้ม
แดง
“ไอ้บ้า มาไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียง”แก้วพูดแล้วรีบเก็บกระดาษและดินสอที่วาดรูปอยู่โทโมะจึงพุ่งเข้ามา
นั่งแล้วดึงแก้วขึ้นมานั่งตักตัวเองทันที
“เอ้า ยังไม่ชินอีกรึไง อยู่มาจะเกือบเดือนแล้วเนี่ย แล้วนี่จะเก็บทำละ ไม่วาดต่อล่ะ”โทโมะรีบพูด
“ไม่วาดแล้ว ชั้นวาดรูปไม่สวยหรอก”แก้วพูดแล้วดิ้นขลุกขลักบนตักโทโมะ
“วาดต่อสิ ชั้นอยากให้เธอวาดรูปชั้น นี่คือคำสั่งของเจ้านายเข้าใจมั้ย”โทโมะรีบสั่ง แก้วฮึดฮัดเพราะ
นี่คือคำสั่ง มีหรอทาสอย่างเธอจะไม่ทำตาม แก้วจึงให้โทโมะไปนั่งที่โซฟาส่วนเธอก็เริ่มสเก็ตรูปโท
โมะแล้วค่อยๆร่างออกมา จนวาดเป็นรูปเสร็จสมบูรณ์
“มันอาจไม่ค่อยสวยนะ เพราะชั้นไม่ได้วาดนานแล้ว”แก้วนั่งแล้วไม่กล้ามองหน้าโทโมะกลัวโทโมะ
จะดุ
“ก็สวยดีนิ”โทโมะพูดก่อนจะลุกขึ้นมานั่งข้างแก้ว แล้วใช้พลังให้รูปแผ่นนั้นไปติดข้างผนัง
“เธอรู้มั้ย แวมไพร์กระหายเลือดน่ะ ไม่เหมือนกับแวมไพร์ธรรมดาตรงที่ ส่องกระจกเงาแล้วจะไม่
เห็นเงาตัวเอง เหมือนกับพวกปีศาจร้ายที่แม้แต่หน้าตาตัวเองพระเจ้ายังไม่อยากให้เห็น”โทโมะพูด
แล้วซึมลงไป มองรูปตัวเองที่แก้ววาดให้ แก้วมองโทโมะที่เหม่อก็แปลกใจว่าทำไมโทโมะถึงเศร้า
แบบนี้
“หิวมั้ย นายจะกินเลือดชั้นก็ได้นะ”แก้วพูดก่อนจะหนุนที่ไหล่กว้างโทโมะ ชายหนุ่มชะงักแล้วเหล่
มองแก้วอย่างแปลกใจ นี่จะมาไม้ไหนเนี่ย
“เพราะแม่ชั้นเคยบอกนะว่าเวลาที่เรา โกรธ หรือคิดมากน่ะ ท้องของเราจะทำงานไม่ปกติแล้วอาจจะ
หิวมากได้ ตอนนี้นายกำลังคิดมากใช่มั้ย ชั้นน่ะไม่ค่อยชอบให้ใครไม่มีความสุขหรอกนะ ชั้นเป็น
ทาสของนาย ชั้นเห็นเจ้านายไม่มีความสุขไม่ได้หรอก”แก้วพูด โทโมะนิ่งสักพักก่อนจะดันแก้วลง
ไปนอน แล้วมองร่งบางที่นอนอยู่ที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขากับกางเกขาสั้นเผยให้เห็นขาเรียว
ขาว
“อ๊ะ นายจะทำอะไรน่ะ”แก้วร้องและหน้าแดงเมื่อโทโมะแกะกระดุมเสื้อเธอออกมาจนหมด
“ก็กินไงล่ะ เธอบอกเองไม่ใช่รึไง”โทโมะพูดก่อนจะก้มลงจูบที่รอยกัดที่เขากัดแก้ว
“ทำไมไม่กัดล่ะ”แก้วหน้าแดงจัดเมื่อเจอสัมผัสที่อ่อนโยนของโทโมะ
“วันนี้ไม่อยากกินเลือด ขอกินอย่างอื่นแทนละกัน”โทโมะพูดจบก็ก้มลงจูบแก้วอย่างอ่อนโยนก่อน
ทั้งคู่จะโอนอ่อนกับสัมผัสของกันและกันแล้วปล่อยใจไปตามความต้องการของทั้งคู่
“พี่ป๊อปล่ะคะ”ฟางถามถึงป๊อปปี้เพราะแปลกใจเมื่อไม่เห็นว่าเขามาส่งเธอไปทำงานเหมือนทุกที
“คุณป๊อปก็อยู่กับคุณแครอลน่ะสิ กลางวันมันเวลานอนของแวมไพร์นะ ไม่เหมือนมนุษย์อย่างเธอที่
จะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระน่ะ”ไม่ทันจินน่ะตอบแจมก็เดินมาว่า
“ชั้นแค่ถามเฉยๆ ว่าชั้นซะยาวเลย”ฟางบ่น
“ก็เพราะว่าตั้งแต่มีเธอมาอยู่ที่นี่น่ะ คุณป๊อปพลังอ่อนลงมาเลยรู้ไว้ซะ ยัยตัวซวย”แจมว่า
“นี่ว่าเป็นตัวซวยไม่เกินไปหน่อยหรอแจม”เควินได้ยินแจมว่าฟางก็หงุดหงิดแทน
“อุ้ยตายแล้ว เดี๋ยวนี้มีพรรคพวกแล้วหรอ ดีเชียวล่ะ มีพวกเป็นน้องหมาน้อย”แจมเยาะ
“นี่อยากจะถูกตะปบคอมั้ยล่ะยัยปลิงดูดเลือด”เควินโมโหจะพุ่งเข้าไปเอาเรื่องแจมแต่ฟางและเขื่อน
รีบห้าม
“ไม่เอาน่าเควิน อย่ามีเรื่องเลย ใจเย็นๆ”ฟางบอกเควินให้ใจเย็นๆ
“นี่ยังไม่ไปอีกหรอยัยมนุยษ์ รึว่ารอพี่ป๊อปมาส่งล่ะสิท่า”แครอลพูดแล้วให้ป๊อปปี้เข็นแครอลออกมา
“อย่าเลยค่ะคุณป๊อป เพราะน้องสาวสุดที่รักของคุณป๊อปเค้ามีองค์รักษ์ปรำตัวแล้วล่ะค่ะ”แจมรีบพูด
ก่อนะเดินไปหาป๊อปปี้ ป๊อปปี้มองฟางที่คล้องแขนเควินก็นิ่ง
“ก็ดีแล้วนิ มนุษย์หมาป่ากับมนุษย์เหมาะสมกันดีออก”ป๊อปปี้ไม่พูดอะไรมากแล้วส่งแครอลให้แจม
แล้วเดินลงไปหาจินนี่พลางโอบเอว ฟางนิ่งเงียบมองภาพนั้นแล้วเบือนหน้าหนี
“แหม สุดท้ายป๊อปก็ลงมาส่งน้องฟางอยู่ดี”จินนี่ยิ้มแซวป๊อปปี้
“ใครบอก ป๊อปจะไปนอนแล้ว คิดถึงจินนี่น่ะ เลยกะจะมาคิสก่อนนอน”ป๊อปปี้พูดก่อนจะจูบจินนี่อย่าง
อ่อนโยนต่อหน้าแครอล แจม เขื่อน เควินและฟางที่อึ้ง ตัวชากับภาพที่เห็น
“จะสวีทหวานกันทีหลังก็ไปทำในที่ลับนะคะพี่ป๊อป ไม่ใช่มาทำประเจิดประเจอแบบนี้ แจม แครอ
ลอยากนอนแล้ว”แครอลพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะให้แจมเข็นกลบไปที่ห้องนอน
“เควิน ไปกันเถอะเดี๋ยวจะสายเอา”ฟางพูดก่อนจะดึงเควินแล้วดึงเขื่อนออกจากบ้านไปขึ้นรถทันที
“อ่ะ น้ำตาเธอน่ะมันไหลออกมาแล้วเนี่ย”เขื่อนพูดแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ฟางที่น้ำตาไหลออกมาไม่รู้
ตัว
“ขอบใจนะเขื่อน แหะๆ ชั้นนี่บ้าจริงๆเลย ที่ไม่ยอมเข้มแข็งสักที อ๊ะ ถึงที่ทำงานแล้วไปก่อน
นะ”ฟางพูดแล้วรีบลงจากรถเมื่อถึงที่ทำงานแล้ว เควินมองฟางแล้วรีบลงจากรถก่อนจะดึงฟางไป
กอดแน่น
“ไม่ต้องเสียใจนะฟาง เราเชื่อว่าฟางน่ะเข้มแข็งจะตาย ฟางน่ะต้องผ่านมันไปได้นะ”เควินกอดปลอบ
ฟาง
“ฮึก ฮือๆ แต่ตอนนี้ชั้นไม่ไหวแล้วเควิน ฮือๆ”เมื่อฟางถูกเควินกอดปลอบบวกกับคำพูดให้กำลังใจ
น้ำตาที่ฟางกลั้นอยู่ก็กลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ฟางปล่อยมันออกมา
“เชื่อสิ คนน่ารักๆอย่างฟางนะ ยังไงก็ต้องเจอคนดีๆแน่นอน ไม่ร้องนะ”เควินถอนกอดฟางแล้วพูด
ก่อนจะเอา2มือเช็ดน้ำตาให้ฟางอย่างแผ่วเบาก่นฟางและเควินจะยิ้มให้กันแล้วฟางก็เดินเข้าไป
ทำงาน ก่อนที่เควินจะกลับไปขับรถออกไปตรงนั้นโดยไม่รู้เลยว่ามีรถยนต์สีดำคันหนึ่งเลื่อนกระจกดู
เหตุการณ์เมื่อกี้ทั้งหมด
“มันสมควรแล้วล่ะ มนุษย์กับแวมไพระรักกันไดยังไง”ป๊อปปี้พูดยิ่งๆเมื่อดูเหตุการณ์เมื่อกี้นี้
“คุณตามีอะไรรึเปล่าครับถึงเรียกผมมา”ป๊อปปี้พูดแล้วนั่งลงในห้องทำงานของผู้อาวุโส ชายสูงวัยไม่
ตอบอะไรได้แต่ยิ้มก่อนจะยื่นมือไปจับที่หน้าผากป๊อปปี้ก่อนจะย้อนภาพทั้งหมดให้ป๊อปปี้เห็นตาม
การสื่อจิตของพวกแวมไพร์ที่สัมผัสกันก็สามารถเล่าเรื่องได้แทนคำพูด
“รู้แล้วสินะ ว่าทำไมแวมไพร์เลือดบริสุทธ์อย่างเราถึงไปอยู่กับครอบครัวมนุษย์ได้”ผู้สูงอายุพูด
เพราะเมื่อ2ปีก่อนตอนที่ฟางเป็นลมเพราะเกล็ดเลือดต่ำ แต่ป๊อปปี้แอบไปหาและให้เลือดไม่ได้ตอน
แรกป๊อปปี้เข้าใจว่าเพราะเขาเป็ยแวมไพร์และฟางเป็นมนุษย์ไม่แปลกที่จะให้เลือดไม่ได้ แต่เมื่อผู้
อาวุโสนำเหตุการณ์ในอดีตที่พ่อของตนเอาตนเองไปให้พ่อและแม่ของฟางเลี้ยงและปล่อยพลังบาง
อย่างเพื่อกลบไม่ให้ตัวเองเป็นแวมไพร์ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฟาง
“แต่ผมมีจินนี่อยู่แล้ว แวมไพร์รักกับมนุษย์ไม่ได้”ป๊อปปี้พูดทันที
“แล้วป๊อปตอบคำถามได้มั้ยล่ะว่าด้ายแดงของเราที่ผูกคู่กับฟางมันคืออะไร ไม่มีใครหลีกหนีความ
จริงข้อนี้ได้หรอกนะว่าฟางคือคู่แท้ของเราไม่ใช่จินนี่”ผู้อาวุโสพูด
“แต่ผมทำใจไม่ได้จริงๆครับ”ป๊อปปี้พูดแล้วทำหน้าเครียด เพราะตลอดชีวิต เขาบอกตัวเองตลอดว่า
ฟางคือน้องสาวที่เขาต้องปกป้องดูแล แล้วจู่ๆสถานะทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แล้วเขาต้องทำยังไง ฟาง
เป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อยของเขา เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนฟางเป็นแวมไพร์แล้วมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่
ไม่มีแสงอาทิตย์แบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
รักันแบบต่างสายพันธุ์มันก็มีเงื่อนไขเยอะแยะแบบนี้ล่ะ ปล่อยให้โทโมะแก้วเค้าฟินไปก่อน แต่บอกได้เลยว่ายังไงก็มีเศร้าหมดทุกคู่ล่ะ 5555
อัพแล้วอย่าลืมเม้นกับโหวตนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ