exo รักอลม่านในโรงเรียนร้าง

10.0

เขียนโดย fernatty

วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.32 น.

  11 ตอน
  9 วิจารณ์
  18.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
"มีใครพอจะบอกผมได้ไหมครับว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น"คริสยืนกอดอกถามทุกคนที่นั่งก้มหน้านิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
 
 
 
 
".................."เสียงตอบรับก็คือความเงียบเช่นเคย
 
 
 
 
 
 
"คนที่อยู่ในเหตุการณ์..ใครก็ได้ช่วยเล่าให้ผมฟังทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนี้เราทุกคนอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้นะครับ"คริสถามเสียงอ่อนๆ นี่จะไม่มีใครตอบผมจริงๆใช่ไหมขรั่บ ตอนนี้ผมเครียดมากๆเลยไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวนะ เผลอๆผมอาจจะกลัวมากกว่าคนพวกนี้ด้วยซ้ำ เห้อ
 
 
 
 
 
 
 
"ฉะ....ฉัน"มีเสียงผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น ทุกคนต่างเงยหน้ามองไปทางคนๆนั้น เธอค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยืนข้างๆคริสแบบช้าๆ ร่างกายสั่นเทิ้มเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง หน้าซีดๆนั่นบ่งบอกได้ว่ากำลังตกใจหรือกลัวอะไรแบบสุดขีดอยู่
 
 
 
 
 
 
 
"เรื่องมันเป็นยังไงบ้างครับ"คริสถามอย่างใจเย็นพร้อมกับลูบหลังหญิงสาวเบาๆเพื่อพยายามปลอบให้ใจเย็นลง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"ตอนที่เราอาสาไปหาอาหารกัน..ฮึก..เพื่อนฉันบอกว่าขอยืนรออยู่ตรงนั้นเพราะไม่กล้าเดินไปด้วย ฉันจึงบอกว่าไม่เป็นไรยืนรอตรงนี้แล้วดูแลตัวเองด้วย...ฮึก...พอกลับมา..เธอก็ๆ...ฮือ...ฉันเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนฉันไว้ได้..ฮือ..ตอนที่ฉันเห็นเธอ...ฮึก..เธอกำลัง.ๆ..ๆ...ฉันเล่าต่อไม่ได้แล้ว"เธอที่ยืนอยู่ข้างๆผมพูดแค่นั้นก่อนจะล้มลงและร้องไห้อย่างหนัก จนคนอื่นต้องเข้ามาประครองแล้วพาไปนั่งพักเพราะกลัวจะเป็นอะไรไปซะก่อน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"โอเครครับ งั้นเดี๋ยวเรารอให้ทุกคนหายตกใจจากเหตุการณ์เมื่อครู่ก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะถามใหม่ว่าสรุปมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"คริสบอกก่อนจะเดินไปหาเลย์แล้วเอาหัวซบไหล่เล็กๆนั่นเพื่อบรรเทาอาการเครียดที่สะสมตั้งแต่มาถึงที่นี่
 
 
 
 
 
 
 
"แบค"คยองซูที่นั่งก้มหน้าอยู่เรียกผมขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
"ว่าไง"ผมหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างๆพี่จงอิน
 
 
 
 
 
 
"กูกลัว"เสียงสั่นๆนั่นยิ่งทำให้ผมไม่สบายใจเข้าไปอีก ดีโอมันเป็นคนที่กลัวผีขึ้นสมองมากๆ ปกติเวลามีคนตายหรืออะไรเกิดขึ้น ผมจะบอกมันตลอดว่าให้นั่งรออยู่ในรถ ไม่เคยให้มันเห็นศพซักครั้ง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันดันไปเห็นภาพศพที่เพิ่งผ่านการตายสดๆคงจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยหล่ะมั้ง
 
 
 
 
 
 
 
 
"ไม่เป็นไรนะมึง กูอยู่ข้างๆมึงเองไม่ต้องกลัว"ผมพูดก่อนจะขยับตัวไปนั่งข้างๆมันแล้วกอดมันไว้ ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวนะครับ บอกตรงๆผมเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้เหมือนกัน แต่ผมก็ต้องเข้มแข็งไว้เพราะเพื่อนผมก็กลัวผีถ้าผมกลัวไปอีกคนมันจะยิ่งแย่กันไปใหญ่
 
 
 
 
 
 
 
"เค้าก็อยู่ข้างๆคยองซูนะ ไม่ต้องกลัว"พี่จงอินพูดอย่างรู้หน้าที่ ผมปล่อยอ้อมกอดออกพี่จงอินเลยเอาหัวคยองซูไปซบตรงไหล่
 
 
 
 
 
 
 
"แล้วแบคไม่กลัวหรอ"ไอหยอยที่นั่งเป็นตอไม้อยู่ข้างๆถามขึ้น ผมหันหน้าไปมองก่อนจะเบ้ปากใส่
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"เสือก"ผมพูดเบาๆก่อนจะทำลอยหน้าลอยหน้า
 
 
 
 
 
 
 
 
"ปากดี เดี๋ยวก็จับจูบแม่ง"ไอหัวหยอยพูดยียวนกวนประสาทก่อนจะยักคิ้วแบบกวนตีนๆมาให้
 
 
 
 
 
 
 
"ไอบ้า"ผมทุบไหล่ไอหัวหยอยแรงๆจนมันเบ้ปากอย่างเจ็บปวดแล้วรวบมือผมไว้ทั้งสองข้าง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"สงสัยอยากโดนจูบจริงๆ มาๆเดี๋ยวพี่หล่อคนนี้สนองนี้ดให้"พูดจบก็ยืนหน้าเข้ามาทันที
 
 
 
 
 
 
 
"นี่เอาหน้าออกไปนะ! เอาหน้าออกไปสิโว้ย"ผมโวยวายเสียงดัง จนมันยอมปล่อยจนได้
 
 
 
 
 
 
"แบคใจเย็นๆ"โด้ที่อาการเริ่มดีขึ้นหลังจากเห็นพวกผมกัดกัน พูดห้ามขึ้นเพราะผมกำลังจะเอามือไปตะกุยหน้าหล่อๆนั่น
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"ก็ดูมันแกล้งกูดิ!"ผมพูดอย่างหัวเสีย ยอมนั่งนิ่งๆแต่โดยดีแม่งอย่าให้มีโอกาสนะจะกระทืบเท้าแม่งให้เล็บหลุดเลย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"เห้ยๆๆพี่เป็นพี่นะครับ เรียกพี่ว่ามันแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้โดนแค่จูบหรอก"ยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคลานเข้ามาหาผมเรื่อยๆ
 
 
 
 
 
 
 
"เดี๋ยวก็ถีบไปนู่น ไม่ต้องเข้ามาเลยแล้วก็อย่ามาพูดจาแบบนี้ ไม่ชอบ!"ผมมองอย่าเอาเรื่อง จนมันยอมถอยออกห่างไป สงสัยกลัวโดนลูกเตะพิฆาตรของผมหล่ะสิ
 
 
 
 
 
 
 
"ก็เรียกพี่ให้มันเพราะๆหน่อยดิแล้วจะไม่แกล้งอีก เรียกว่าพี่ชานอ่ะได้ไหม ส่วนพี่ก็จะเรียกแบคว่าน้องแบค"ทำหน้าทำตาแอ๊บแบ๊วสุดๆ ก่อนจะมองหน้าผมที่กำลังคิ้วขมวดเป็นปม
 
 
 
 
 
 
 
"ฝันไปเหอะ!"ผมตะคอกก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาที่นั่งที่มันไกลๆจากไอบ้านั่น ให้เรียกว่าพี่ให้ผมกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่า
 
 
 
 
 
ตอนเย็นของวันที่1
 
 
 
 
 
 
"หาวว"ผมอ้าปากหาววอดๆอย่างไม่อายใคร แม่งเอ้ยง่วงนอนชิบหายตั้งแต่มานี่ยังไม่นอนพักเลยสักครั้งนะครับ ผมรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ ยังไงก็ขอแอบหลับนิดนึงละกัน..
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'ผมลืมตาขึ้น เมื่อมองไปรอบๆก็พบว่าผมอยู่คนเดียวในความมืด! บริเวณรอบๆตัวเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ กลิ่นเหม็นอับโชยเข้าจมูกจนทำให้ท้องใส้ข้างในปั่นป่วนอยากจะอาเจียนเสียให้รู้แล้วรู้รอด
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'ผมหันขวับไปทางข้างหลังทันทีเมื่อได้ยินเหมือนเสียงใครคนนึงร้องขอความช่วยเหลืออยู่แถวๆข้างหลังผม
 
 
 
 
 
 
'ใครครับ ต้องการให้ผมช่วยอะไร'ผมพยายามจ้องเข้าไปในความมืดเมื่อเห็นเงาสีดำทมึนเคลื่อนไหวช้าๆอยู่ข้างหน้า
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'เสียงร้องขอดังขึ้น บรรยากาศรอบตัวเย็นขึ้นแบบกระทันหันจนผมต้องนั่งกอดตัวเองไว้
 
 
 
 
 
เปรี้ยง
 
 
 
 
 
 
ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆฟ้าก็ผ่าลงมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บรรยากาศไม่เหมือนฝนจะตกซักนิด ผมจ้องไปที่เงาเมื่อครู่อีกครั้งแต่ก็พบว่ามันหายไปแล้ว ผมมองไปรอบๆตัวเพื่อจะดูว่าไอเงาเมื่อกี้มันหายไปไหน
 
 
 
 
 
เปรี้ยง
 
 
 
 
 
 
ฟ้าผ่าอีกครั้ง แสงจากสายฟ้าแวบเข้ามาในห้องทำให้ผมเห็นบรรยากาศรอบตัวได้ดีขึ้น ห้องนี้เป็นห้องสี่เหลี่ยมไม่แคบและไม่ใหญ่เกินไป มีของรกรุงรังเต็มห้องไปหมด
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'เสียงร้องของผู้หญิงดังขึ้นมาอีกครั้ง ผมหันไปมองรอบๆตัวก็ไม่พบใคร บ้าเอ้ยนี่มันอะไรกันว้ะเนี้ย!
 
 
 
 
 
 
เปรี้ยง
 
 
 
 
 
แสงสว่างสาดเข้าห้องอีกครั้งผมรีบมองไปรอบๆตัวเพื่อหาที่มาของเสียงก็พบว่ามีผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ในมุมอับของห้อง ผมที่เปียกยาวปิดหน้าปิดตาจนมองหน้าไม่ถนัดนัก
 
 
 
 
 
 
 
'มีอะไรให้ผมช่วยครับ'ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจที่ทำให้เคลื่อนตัเวข้าไปใกล้ๆมากขึ้นจมนาถึงผู้หญิงคนนั้น ตัวเธอเปียกซกไปหมด แขนขาก็เริ่มบวมอืดผมตกใจมากที่เห็นสภาพเธอใกล้ๆแบบนี้อยากจะวิ่งหนีออกไปเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรขาของผมถึงไม่ยอมวิ่งออกแถมสมองยังสั่งให้เอามือไปจับตัวผู้หญิงคนนี้อีก
 
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'ร้องขอช่วยเหลือแล้วก็สะอื้นจนตัวโยน ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเลื่อนไปเกลี่ยผมคนตรงหน้าเพื่อจะมองหน้าให้ชัดๆ
 
 
 
 
 
 
 
'มึงทำเหี้ยอะไร'ผมถอยหนีเมื่อเห็นใบหน้าชัดๆนั่น ใบหน้าเน่าเฟะไม่มีลูกตาตามใบหน้าเริ่มบวมอืดจนเหมือนจะแตกออกมาเลือดที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนไหลทะลักท่วมหน้าท่วมตาเต็มไปหมด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
'อ่อก'ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ผู้หญิงคนนี้ก็พุ่งเข้ามาบีบคอผมจนเริ่มรู้สึกอึดอัด เลือดที่ท่วมหน้านั่น หยดลงตรงหน้าผมจนเหม็นคาวฟุ้งไปหมด
 
 
 
 
 
 
 
'ช่วยด้วย'ผมร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งๆที่ลึกก็รู้ว่าไม่มีใครมาช่วยผมแน่นอน ผมตะเกียกตะกายหาทางหนีเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
 
 
 
 
 
 
 
 
'พวกมึงต้องช่วยกู ปลดปล่อยกู  ต้องปล่อยกู!'
 
 
 
 
 
-----------------
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา