exo รักอลม่านในโรงเรียนร้าง
เขียนโดย fernatty
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.32 น.
แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หลังจากที่พวกเราจับจองพื้นที่ของตัวเองได้ ผมก็นั่งลงและถอนหายใจอย่างหมดอะไรตายอยาก จนถึงตอนนี้ก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมต้องให้พวกเรามาอยู่ที่นี่ด้วย มันไร้สาระสิ้นดี!
"แล้วพวกเราจะกินอะไรกันหรอมีใครเตรียมอาหารมาบ้างไหม"เป็นเลย์ที่ถามขึ้นหลังจากที่ทุกคนนั่งเงียบกันมาสักพักนึง
"นั่นน่ะสิ ผมก็ไม่ได้เอาอาหารอะไรมาเลย นอกจากพวกเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็น"คริสพูดเสริมก่อนจะมองหน้าทุกคนเพื่อรอคำตอบแต่คำตอบที่ได้คือทุกคนกลับส่ายหน้ากันหมด
"จงอิน เค้าหิวอ่า"ผมได้ยินเสียงคยองซูพูดอ้อนก่อนจะลูบท้องตัวเองป้อยๆ
"จะหาอะไรกินกันดีหล่ะ ตำลึงที่ยื่นเข้ามาหรอ"จงอินเลิกคิ้วถามขึ้นด้วยหน้ามึนๆ
"บ้า! นายไปกินคนเดียวเถอะ"คยองซูตะคอกขึ้นมานั่นทำเอาจงอินชะงักค้างเพราะปกติคยองซูจะไม่ขึ้นเสียงใส่เขาแบบนี้ สงสัยจะโมโหหิว
"ข...ขอโทษครับ"จงอินพูดตะกุกตะกักก่อนจะเกาท้ายทอยตัวเองแกรกๆ
"งั้นเดี๋ยวพวกเราลองไปหาอาหารแถวๆนี้ดูนะที่นี่น่าจะมีโรงอาหารอยู่ อาจจะมีสหกรณ์หรือมาร์เก็ตอยู่ก็ได้"เพื่อนคนนึงที่อยู่กันคนล้ะแผนกกับผมพูดขึ้นก่อนจะพากันเดินออกไปประมาณ4คน ทุกคนต่างพากันพนักหน้าเห็นด้วย
ความหวังเดียวก็อยู่ที่พวกเขานี่แหละ เพราะถ้าไม่มีของกินหรือน้ำลงท้องเลยก็คงเหมือนกับตายทั้งเป็น
ผ่านไป10นาที
พวกผมนั่งรอจนบางคนนั่งรอจนหลับไปบ้างก็มี ก้มมองดูนาฬิกาที่ผ่านมา10นาที ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ผมคงจะคิดว่าผ่านไปแค่10นาทีเอง แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเวลาเดินช้ามากราวกับว่าผมนั่งรอมา1ชั่วโมงแล้ว
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นห่างจากที่พวกผมอยู่ไม่เท่าไหร่นัก ผมรีบลุกขึ้นและวิ่งตามต้นเสียงไปทันที จนคนอื่นๆที่นั่งกันอยู่ต่างพากันวิ่งตามออกมา
ฝีเท้าผมชะงักค้างทันทีกับภาพที่เห็นตรงหน้า เสียงร้องไห้ของเพื่อนสามคนที่นั่งล้อมเพื่อนตัวเองอยู่ไม่ได้เข้าหูผมซักนิด ตอนนี้ในสมองผมกำลังประมวลกับเหตุการณ์ตรงหน้า
มีดที่ปักทะลุท้องจนลำไส้ไหลทะลักออกมา เลือดที่สาดกระจายทั่วพื้นและไหลเจิ่งนองเต็มทางเดิน ดวงตาเบิกกว้างและเหลือกขึ้นจนเห็นตาดำเพียงน้อยนิด ผมจะไม่ตกใจเท่านี้ถ้ามีดที่ปักทะลุท้องอยู่นั้นไม่มีมือของคนที่ตายจับไว้แน่น...นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ
"พวกเธอ....เขาตายได้ยังไง"ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถามออกมาด้วยความยากลำบาก
"ฉันไม่รู้...ฮึก.....ไม่...อย่าเป็นแบบนี้สิ...ฟื้นขึ้นมา...ฮึก....ตื่นขึ้นมาสิ"เพื่อนผู้หญิงคนนึงร้องไห้ฟูมฟายพูดไม่ค่อยรู้เรื่องก่อนจะปล่อยโฮออกมา ส่วนเพื่อนที่เหลือก็เสียใจไม่แพ้กัน ผมหันไปมองรอบๆตัวบางคนก็ยืนปิดหน้าเพราะทนมองภาพสยองนี่ไม่ได้ บางคนก็ยืนหน้าซีดมือสั่นทำอะไรไม่ถูก
"เห้ย!"ผมร้องและถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อก้มลงมองหน้าศพอีกครั้งแต่มันไม่ใช่หน้าของคนตายแต่กับเป็นหน้าที่บวมอืดตาทั้งสองข้างไม่มีและลึกลงไปจนเป็นหลุมดำ
"ชานยอล เป็นอะไรหรือป่าว"แบคฮยอนเดินเข้าไปถามชานยอลที่อยู่ดีๆก็ร้องออกมาเสียงดังจนคนเค้าสะดุ้งกันหมด
"........"ชานยอลหันมามองหน้าผมแวบนึงก่อนจะหันกับไปและหายใจแรงมากๆเหมือนกำลังตกใจอะไรบางอย่าง
"หน้านายซีดเหมือนไก่ต้มเลยอ่ะ ไปพักก่อนไหม"ผมถามและเดินเข้าไปประครองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ยอมลุกขึ้นและเดินตามมาอย่างว่านอนสอนง่าย
"แบคฮยอน"เสียบแหบพร่าเอ่ยขึ้นมาเมื่อเราเดินใกล้จะถึงห้องประชุมแล้ว
"หืม มีอะไรหรอ?"คนตัวเล็กหยุดเดินและหันมาประจันหน้ากับคนก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
"ม..เมื่อกี้...ฉันเห็น.."ชานยอลพูดเสียงตะกุกตะกักก่อนจะมองไปรอบๆตัวอย่างหวาดระแวง
"เห็นอะไร...นี่นายอย่าบอกนะว่านายเห็นผีน่ะ...ไร้สาระเป็นบ้านี่จะหลอกให้ฉันกลัวใช่ไหมหล่ะ คิก"คนตัวเล็กพูดติดตลกแต่คนตัวสูงไม่ได้ตลกด้วยเลยสักนิด
"ฉันพูดจริงๆ"ชานยอลเปลี่ยนจากใบหน้าที่มีความหวาดระแวงเปลี่ยนเป็นจริงจังจนผมชะงักค้างและเลิกหัวเราะ
"......"ผมทำได้แค่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรและมองอย่างไม่เชื่อสักเท่าไหร่ ในโลกนี้มันมีผีซะที่ไหนหล่ะก็แค่เรื่องหลอกเด็กที่ทำให้เด็กกลัวเท่านั้นแหละ
"กลัว"ผมตกใจที่อยู่ชานยอลก็เข้ามากอดผมแน่นและพูดประโยคที่น่าตลกนั่นออกมา
"ให้ตายสินายทำงานเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาตั้งเยอะนะ แล้วจะกลัวทำไม"ผมถามอย่างไม่เข้าใจและไม่ได้ขัดขืนแต่ยอมให้ยืนกอดอยู่แบบนั้นซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ผลักเขาออกไป
"มันก็ใช่ว่าฉันจะไม่กลัวนี่ พอเถอะ....ขออยู่อย่างนี้แปปนะ"ชานยอลพูดเสียงอ่อนและกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด
"ปล่อยได้แล้วนะ"แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองผมเป็นจังหวะเดียวที่ผมก้มหน้าไปพอดีทำให้สายตาสองคู่ประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้สองหน้าเคลื่อนเข้าหากันเรื่อยๆ จนปลายจมูกแตะกันนิดๆ ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ
"ไอชานยอล"เสียงของไอจงอินดังขึ้น ทำให้ผมกับแบคฮยอนถอยห่างกันอย่างรวดเร็ว
"เผลอไม่ได้เลยนะมึงอ่ะ"จงอินพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะหันไปหัวเราะคิกคักกับคยองซู
"มึงแม่ง....ไปไหนก็ไปเลยไป"ผมบอกก่อนจะก้มหน้าไปมองคนตัวเล็กที่ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ
"ฮั่นแน่ ทำมาเป็นขรึมปกปิด ถ้ากูไม่เดินมาก่อนนี่คงมีฉากเลิฟซีนหวานแหววท่ามกลางเหตุการณ์สยองขวัญไปแล้วหล่ะ แหม่!คุณเพื่อนครับมดเต็มตัวล้ะครับหวานเกิน คิก"ไอจงอินพูดแซวผมอีกรอบก่อนจะเดินออกไป
"แบคอ่ะ ไหนบอกไม่ชอบชานยอลไง แล้วไหงเป็นแบบนี้หล่ะ มีซัมติงอะไรกันหรือป่าวน้าาาาา"คยองซุเอียงคอถามอย่างน่ารักก่อนจะหัวเราะร่าแล้วเดินตามจงอินไป
"ไม่ใช่อย่างงั้นซะหน่อย พวกนายอ่ะ.....ไม่ฟังกันเลย"ร่างบางข้างๆผมยู่ปากนิดๆ ก่อนจะหันมาค้อนใส่ผม
"เพราะนายนั่นแหละ ชิ"พูดแค่นั้นก็สะบัดหน้าและเดินเข้าห้องประชุมไป
ผมหัวเราะนิดๆ ให้ตายเถอะหมอนี่ทำให้ผมลืมความกลัวตอนนั้นไปได้สนิทเลย แค่เพียงอ้อมกอดนั้นก็ทำเอาใจผมเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ผมเป็นอะไรไป?
----------------------------
วิจารณ์นิดนึง ขอกำลังใจหน่อยจ้าาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ