[Fic EXO] Tears of the weak {HunBaek}
6.0
เขียนโดย Mind970515
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 20.58 น.
8 chapter
0 วิจารณ์
19.70K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 21.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) หลับตาลงสิครับ .ยิ้ม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความรักไม่ต้องมีกฏเกณฑ์อะไรมากมายมาเกี่ยวพัน
มีเพียงหัวใจทั้งสองดวงของคนทั้งสองคนเท่านั้น.....ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกฏเกณฑ์ของความรัก
(Can I) call you my own, and can I call you my loverผมเรียกคุณว่าเป็นของของผมคนเดียว(ได้ไหม?) และผมเรียกคุณว่าคนรักได้ไหม?
Call you my one and only girlเรียกคุณว่าเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวของผม
(Can I) call you my everything, call you my babyผมเรียกคุณว่าเป็นทุกอย่างของผม(ได้ไหมครับ?) เรียกคุณว่าที่รัก?
You’re the only one who runs my worldคุณคือคนเดียวที่จัดการโลกของผมทั้งใบ
เอี๊ยด
เสียงเบรกตัวลงของเครื่องจักรที่เรียกว่า มอเตอรไซร์ ได้ขับเคลื่อนจอดตัวลงอย่างช้าๆและนุ่มสบายที่สุดที่จะทำได้เพื่อไม่ให้คนด้านหลังที่นั่งซ้อนอยู่บนมอเตอร์ไซร์นั้นเผลอตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมาส่ะก่อน เขาอยากให้คนตัวเล็กนอนหลับพักผ่อนพักสายตาไปสักพักก่อนเดี๋ยวเขาค่อยปลุกให้ตื่น
“.....” เสียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่ากำลังหลับสนิทได้ที่และถ้าเขาปลุกตอนนี้กลัวคนตัวเล็กนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ดังนั้นเขาจึงค่อยๆขวักมือเรียกผู้อาวุธโสหน้าบ้านที่กำลังตัดเล่มต้นไม้อยู่นั้นให้เดินวิ่งตรงมาหาเขาพร้อมกับยกนิ้วนางหนึ่งนิ้วขึ้นไว้ที่ปากส่งสัญญาณว่าอย่าส่งเสียงดังจนให้คนที่กำลังหลับพริ้มนั้นตื่น
ผู้อาวุธโสวางกรรไกรตัดต้นไม้ลงก่อนจะค่อยๆจะก้าวเท้าเดินตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำลังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรเชิงทักทายไปในตัว
“ฝากช่วยอุ้มแขกคนสำคัญให้ผมแปปนึ่งทีครับ” เด็กหนุ่มหน้าหวานกระชิบบอกออกคำสั่งผู้อาวุธโสอย่างเสียงเบา
“ครับคุณหนู ^^” ผู้อาวุโสตอบกลับเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างเสียงเบาเช่นกันและไม่ชักช้ารีรอผู้อาวุธก็ค่อยๆโอบอุ้มตัวคนตัวเล็กที่นั่งหลับซ้อนหลังหน้าแนบชิดพร้อมกับโอบกอดรอบเอวของเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างแนบเนื้อแนบตัวอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรออกจากลำตัวเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างเบามือ
เด็กหนุ่มหน้าหวานขยับเคลื่อนรถมอเตอร์ไซร์ให้เข้าที่เข้าทางแล้วปลดกุญแจรถถอดเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งมาอุ้มแบกคนตัวเล็กแทนจากอ้อมแขนผู้อาวุธโส
“ขอบคุณนะครับ” ยิ้มก้มหัวเล็กน้อยหมายขอบคุณผู้อาวุธโสเล็กน้อยและทางนั้นก็เช่นกันพร้อมกับเดินกลับไปทำงานหน้าที่เดิมต่อ
เด็กหนุ่มหน้าหวานจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาปิดสนิททั้งสองข้างสักพักแล้วอมยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง
เมื่อนึกถึงตอนคนตัวเล็กยังหลับอยู่บนรถและตัวแนบชิดแผ่นหลังเขามาตลอดเส้นทางการเดินทางนั้น เขาได้ยินเสียงครวญคราง หงิกๆ เหมือนลูกหมาตัวน้อยตกน้ำคลองมันก็ทำให้เขาอดยิ้มหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
วางคนตัวเล็กลงกับโซฟาตัวยาวแสนนุ่มอย่างเบามืออีกครั้ง จัดการหยิบหมอนใบนุ่มนิ้มมารองรับบนหัวศีรษะของอีกคนเพื่อให้นอนสบายและเปิดระดับแอร์ให้เย็นสบายอย่างพอดี
“อื้ออ” เสียงครางของคนตัวเล็กดังขึ้นพร้อมกับขยับกายตัวเองเล็กน้อยให้สบายตัว เด็กหนุ่มหน้าหวานปล่อยให้อีกคนนอนไปก่อนแล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อจัดการบางสิ่งบางอย่างไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะตื่น
“นี่อ่ะเหรอ... บ้านของตระกูลโอ หึ” สายตาเรียวยาวมองส่องเข้าไปทั่วในบริเวรรอบตัวบ้านพร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมานิดๆ
จุดประสงค์ง่ายๆที่เขาเลือกตามทั้งสองคนมาไม่ต้องมีอะไรมากแค่เขาอยากเข้ามาปั่นป่วนชีวิตรักที่แสนหวานหน้ารังเกลียดนี้ทิ้งส่ะ ! ให้มันแหลกสลายพังลงบนคามือคู่นี้ของเขา !
แค่คิดก็สนุกมาก....สนุกมากส่ะจนอยากจะเริ่มทำมันให้พังลงส่ะตอนนี้....แต่สำนวนบางคำที่เขานึกได้ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ใช่แล้ว....อดเปรี้ยวไว้กินหวาน...รอให้ได้เวลาก่อนแล้วเขาจะรีบเข้าไปทำลายมันแน่
ขาเรียวเดินพาตัวเองออกไปจากตัวบ้านนี้ก่อนเพื่อจะได้ไม่ให้ทั้งสองคนได้เห็นตัวเขาเข้าส่ะก่อนเดี๋ยวแผนที่เขาเตรียมมามันจะไม่มีความหมายเอาส่ะเปล่าๆ
แผนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเพียงคนเดียวที่จะส่งมือทำ....แต่ยังมีชายร่างใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่า แฟน คนใหม่ของเขาด้วยอีกคนที่ยอมร่วมมือเข้าร่วมจะมาทำแผนชั่วๆนี้กับเขา
แต่….มีข้อแม้ที่เขาต้องยอมให้กับแฟนหนุ่มตัวเองคือ แลกกับของกำนันชิ้นงามที่แสนบริสุทธิ์ ให้เขาเพียง1คืนก็พอ....
ถึงอย่างไงแผนนี้เขาก็ต้องยอมที่จะให้แฟนหนุ่มตัวเองยอมไปนั่วเนียกับของกำนันชิ้นงามนั้นอยู่ดี ถ้าแผนที่เขากำลังทำอยู่นี้เป็นไปตามแผน ! และของกำนันชิ้นงามนั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับแผนที่เขาเตรียมไว้ส่ะด้วย....
“เซฮุน อื๊อ...นายจะลากพี่ไปไหนนน” คนตัวเล็กที่พึ่งตื่นนอนก็ถูกเด็กหนุ่มหน้าหวานจับจูงมือเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านตัวเอง คนตัวเล็กก็ทำได้เพียงเดินขยี้ลูกกะตาตัวเองแล้วเดินตามไปก็เท่านั้น เด็กหนุ่มหน้าหวานเอาแต่ยิ้มแล้วไม่ตอบคำถามของเขาเลยสักนิด
“หลับตาทีสิครับ”
“หื้ม ? หลับตา ทำไมต้องให้พี่หลับตาด้วยล่ะ”
“น๊า ถ้าพี่ไม่หลับตามันก็ไม่หนุกสิ”
“ไม่เอาๆ เดี๋ยวพี่เดินชนของในห้องนายหล่นหมดหรอก”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะจับมือพี่ไว้เอง จับอย่างนี้เป็นไงมั้งครับ ^^”
“อ๊ะ...เซฮุน...” มือใหญ่ฉวยโอกาสสอดนิ้วเรียวยาวตัวเองเข้าไปประสานกับนิ้วเรียวของมือบาง
“จับไว้อย่างนี้ล่ะ รับรองพี่ไม่ชนกับอะไรแน่นอนแต่ถ้าพี่แบคยังกลัวเดินชนอีกผมจะโอบกอดพี่ไว้เอง” คนตัวเล็กเริ่มใจเต้นแรงกับการกระทำที่ดูเหมือนจะเริ่มเอาแต่ใจของเด็กหนุ่มหน้าหวานแล้วเผยรอยยิ้มหวานออกมา
ดูเหมือนวันนี้เด็กหนุ่มหน้าหวานจะมาแปลกมากจนทำให้เขาเอ๊ะใจขึ้นมาเรื่อยๆไม่ต่างจากตอนนี้ ที่เขาสงสัยในการกระทำของเด็กหนุ่มหน้าหวานมากๆ
บรรยายรอบตัวห้องมันอบอุ่นขึ้นมาอย่างแปลกๆ แปลกส่ะจนหัวใจเขาเริ่มทำงานเต้นชีพจรแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“พะ..พอเถอะ เซฮุนพี่จะยอมหลับตาลงก็ได้”
“^___^” คนตัวเล็กไม่อยากดื้อดันยืนเถียงกับอีกคนต่อ เขาจึงเริ่มหลับตาลงตามคำขอของเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างช้าๆ
“หลับตาลงสนิทแล้วใช่ไหมครับ พี่แบค”
“อืมมม” เด็กหนุ่มหน้าหวานถามเพื่อให้มั่นใจว่าคนตัวเล็กจะหลับตาลงสนิทแล้วจริงๆอย่างที่เขาขอ
“งั้น ค่อยๆก้าวเท้าเดินตรงมานะครับ” กุมมือคนตัวเล็กไว้ทั้งสองข้างก่อนจะค่อยๆมองทางและเปิดประตูห้องของตัวเองก่อนจะลากพาตัวอีกคนเดินตาม มือแสนนุ่มที่เขาอยากจะสัมผัสจังๆมานานก็ได้สัมผัสพร้อมกับบรรยายแสนอบอุ่นที่เขากำลังจะมอบให้คนตัวเล็กเมื่อยามลืมตาขึ้น
“ค่อยๆนั่งลงนะครับ” เขาบังคับให้คนตัวเล็กหย่อนสะโพกนั่งลงแนบชิดกับเก้าอี้ที่เขาจัดเรียงวางไว้ให้
“พี่ลืมตาได้ย๊างง”
“ยังครับ หลับตาแบบนั้นไว้ก่อน”
“พี่ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้วนะเซฮุน”
“ฮ่าๆ แปปสิครับ”
“อ่า...” คนตัวเล็กต้องทำเป็นว่านอนสอนง่ายอีกครั้งและนั่งหลับตาลงมองเห็นแต่ความมืดมิดและเสียงกุกกักแววหูข้างหูทั้งสองข้างไปเป็นบางช่วงๆ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานนั้นกำลังทำอะไรแล้วมาสั่งให้เขาหลับตาลงทำไม?
แถมทำให้เขาตื่นเต้นอะไรได้มากมายขนาดนี้ ? เหมือนเด็กหนุ่มหน้าหวานกำลังจะเซอร์ไพรส์อะไรสักอย่างให้กับเขา
“เปิดตาได้แล้วครับพี่แบคฮยอน...” เมื่อเสียงทุ้มออกคำสั่งให้เขาเปิดตาออกได้เขาก็ค่อยๆเบิกตากว้างขึ้นและถลึงขึ้นเต็มตาทันทีที่มองเห็นภาพตรงหน้า
“ฮึก” น้ำตาเอ่อไหลจนล้นออกจากเบ้าตาคู่สวย ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากและส่งเสียงสะอื้นที่เขาร้องไห้ออกมาไม่ใช่ว่าภาพตรงหน้านั้นมันเศร้า แต่มันหน้าดีใจมากที่สุดที่เค้าเคยพบเจอภาพของตัวเองในตอนทำกิจกรรมต่างๆนาๆถูกแอบถ่ายไว้และถูกเด็กหนุ่มหน้าหวานติดมันไว้กับกำแพงห้องนอนของตัวเองเรียงลายเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ บรรยายกาศรอบห้องที่ถูกตบแต่งด้วยแสงไฟเทียนหลากสี
ดวงตาที่เปื้อนไปด้วยรอยน้ำตาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มหน้าหวานที่ยืนมองหน้าเขาและส่งยิ้มหวานก่อนจะเดินมานั่งคลุกเข่าตรงหน้าของคนตัวเล็กยกมือขึ้นไล่เกลี่ยน้ำใสๆออกมาขอบตาก่อนจะเลื่อนลงมาจับกุมมือบางไว้แทนเขาส่งยิ้มให้คนตัวเล็กอีกครั้งหนึ่งและคนตัวเล็กก็มอบรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื้นตันกลับให้เด็กหนุ่มหน้าหวานแทน
มันตื้นตันจนเขาแทบจะบรรยายออกมาไม่ถูกหัวใจถูกหนีบแน่นอกไปหมดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ
“ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำอยู่นี้โรแมนติกถูกใจพี่แบคฮยอนขนาดไหน ผมไม่อาจรู้แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดและทำต่อไปนี้มันมาจากใจของผมทั้งหมด”
“ผมเหมือนคนตาบอดที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวหลงแค่เพียงความสวยงามเท่านั้นโดยไม่ได้ดูข้างในว่ามันเน่าเละขนาดไหน”
“.....”
“และวันนี้ผมก็ได้พบเห็นว่า...มีคนๆหนึ่ง....ที่สวยทั้งกายและใจ เขาคนๆนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าของผมแล้วตอนนี้ แถมอยู่เคียงข้างผมมาตลอด....”
“......”
“และเขาคนนั้นก็คือ พี่ พี่นั้นเองพี่แบคฮยอน....”
“......”
“ผมอยากบอกว่า......ผมรักพี่ มันอาจดูเหมือนว่าผมไม่จริงใจแต่ผมพูดมันมาจากใจของผมจริงๆ”
“......”
“พี่เป็นแฟนกับผมนะพี่แบค” ดวงตาเรียวของเด็กหนุ่มหน้าหวานที่จ้องสบตากับดวงตาคู่สวยอย่างใจจดใจจ่อกับคำตอบที่จะได้รับจากกล่องเสียงลำคอของคนตัวเล็กอย่างตั้งหวัง ไม่นานก็มีเสียงที่นิ่งเงียบไปตั้งนานเอ๋ยขึ้นมาตอบ
“ฮึก....อะ...อืม” ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มหน้าลงพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงตกลง น้ำตาที่อุสาห์หยุดไหลรินได้แล้วก็ดันถูกโดนต่อมประสานน้ำตาสั่งปล่อยให้ไหลรินอีกครั้ง ร่างกายทั้งสองถูกประกบกอดเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมายเสียงสะอึกสะอื้นถูกปล่อยออกมาอย่างไม่อาย
มือใหญ่ลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างเบามือและช้าๆ ปลอบโยนให้อีกคนไหล่กว้างเบอะเบื้อนไปด้วยรอยคราบน้ำตาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มหน้าหวานไม่นึกรังเกลียดคราบน้ำตาที่เบื้อนไหล่ตัวเองขึ้นมาเลยสักนิดเดียวแต่กลับดีใจขึ้นมามากกว่าด้วยส่ะซ้ำไปที่คนตัวเล็กยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
“ขอบคุณนะเซฮุน” พูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตามองใบหน้าหล่อนั้น ส่งยิ้มหวานนิดๆให้กับเด็กหนุ่มหน้าหวาน
“ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อเราสองคนก็คิดเหมือนกัน ^_^”
“อื้อ” ใบหน้าหล่อเหล่าเลื่อนเข้าไปใกล้ๆใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นจนสัมผัสถึงไออุ่นร้อนๆจางๆจากอีกคน ริมฝีปากหนาอุ่นนุ่มนิ้มทาบลงมาที่ริมฝีปากบางอย่างเชื่องช้าแตะเบาๆ เพื่อให้คนตัวเล็กที่กำลังรับสัมผัสจากเขาได้รับรู้ว่า สิ่งที่เขากำลังทำคือความรักที่จริงใจของเขา ที่ส่งมอบให้ไปนั้น...
แตะสัมผัสริมฝีปากกันอยู่เนินนานก่อนที่จะต่างคนต่างผละหน้าออกห่างกัน คนตัวเล็กทำได้เพียงหลบใบหน้าหล่อเหล่านั้นอย่างเขินอาย
“พี่แบคยังจำบางอย่างที่พี่เคยบอกผมไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหมว่า...”
“ว่า??”
“สถานที่สำคัญล่วงมากความทรงจำแถมพิเศษอย่างนี้ ผมต้องมากับคนที่พิเศษสิใช่ไหมล่ะครับ”
“ชะ...ใช่”
“พี่รู้แล้วใช่ไหมว่าเพราะอะไรผมถึงพาพี่มาที่นี้ ^^”
“อืม ขอบคุณนายอีกครั้งนะเซฮุนที่ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับพี่มากที่สุดในชีวิต” สีหน้าระเรื่อเผยขึ้นใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างเห็นได้ชัดพร้อมท่าทางบิดเขินอายกับคำพูดประโยคเมื่อกี้ที่ตัวเองพูดไปให้คนตรงหน้าได้ฟัง
“ผมก็ต้องขอบคุณพี่เหมือนกันนะครับ ที่ทำให้วันนี้ผมเป็นวันพิเศษที่สุดสำหรับผมเช่นกัน” รอยยิ้มหวานปรากฏให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า ความอบอุ่นในจิตใจกำลังเพิ่มพูนขึ้นและไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงง่ายๆได้เช่นกัน
ความเงียบสงัดปกคุลมในตัวห้องมีเพียงเสียงหัวใจของคนทั้งสองคนเท่านั้นที่เต้นดัง ตึก ตึก ตึก ดังออกมาจนต่างคนต่างได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน....
ติดตามได้ที่ : https://www.facebook.com/pages/Okpui_Gamagic/512336832129202
มีเพียงหัวใจทั้งสองดวงของคนทั้งสองคนเท่านั้น.....ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกฏเกณฑ์ของความรัก
(Can I) call you my own, and can I call you my loverผมเรียกคุณว่าเป็นของของผมคนเดียว(ได้ไหม?) และผมเรียกคุณว่าคนรักได้ไหม?
Call you my one and only girlเรียกคุณว่าเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวของผม
(Can I) call you my everything, call you my babyผมเรียกคุณว่าเป็นทุกอย่างของผม(ได้ไหมครับ?) เรียกคุณว่าที่รัก?
You’re the only one who runs my worldคุณคือคนเดียวที่จัดการโลกของผมทั้งใบ
เอี๊ยด
เสียงเบรกตัวลงของเครื่องจักรที่เรียกว่า มอเตอรไซร์ ได้ขับเคลื่อนจอดตัวลงอย่างช้าๆและนุ่มสบายที่สุดที่จะทำได้เพื่อไม่ให้คนด้านหลังที่นั่งซ้อนอยู่บนมอเตอร์ไซร์นั้นเผลอตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมาส่ะก่อน เขาอยากให้คนตัวเล็กนอนหลับพักผ่อนพักสายตาไปสักพักก่อนเดี๋ยวเขาค่อยปลุกให้ตื่น
“.....” เสียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่ากำลังหลับสนิทได้ที่และถ้าเขาปลุกตอนนี้กลัวคนตัวเล็กนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ดังนั้นเขาจึงค่อยๆขวักมือเรียกผู้อาวุธโสหน้าบ้านที่กำลังตัดเล่มต้นไม้อยู่นั้นให้เดินวิ่งตรงมาหาเขาพร้อมกับยกนิ้วนางหนึ่งนิ้วขึ้นไว้ที่ปากส่งสัญญาณว่าอย่าส่งเสียงดังจนให้คนที่กำลังหลับพริ้มนั้นตื่น
ผู้อาวุธโสวางกรรไกรตัดต้นไม้ลงก่อนจะค่อยๆจะก้าวเท้าเดินตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำลังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรเชิงทักทายไปในตัว
“ฝากช่วยอุ้มแขกคนสำคัญให้ผมแปปนึ่งทีครับ” เด็กหนุ่มหน้าหวานกระชิบบอกออกคำสั่งผู้อาวุธโสอย่างเสียงเบา
“ครับคุณหนู ^^” ผู้อาวุโสตอบกลับเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างเสียงเบาเช่นกันและไม่ชักช้ารีรอผู้อาวุธก็ค่อยๆโอบอุ้มตัวคนตัวเล็กที่นั่งหลับซ้อนหลังหน้าแนบชิดพร้อมกับโอบกอดรอบเอวของเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างแนบเนื้อแนบตัวอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรออกจากลำตัวเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างเบามือ
เด็กหนุ่มหน้าหวานขยับเคลื่อนรถมอเตอร์ไซร์ให้เข้าที่เข้าทางแล้วปลดกุญแจรถถอดเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งมาอุ้มแบกคนตัวเล็กแทนจากอ้อมแขนผู้อาวุธโส
“ขอบคุณนะครับ” ยิ้มก้มหัวเล็กน้อยหมายขอบคุณผู้อาวุธโสเล็กน้อยและทางนั้นก็เช่นกันพร้อมกับเดินกลับไปทำงานหน้าที่เดิมต่อ
เด็กหนุ่มหน้าหวานจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาปิดสนิททั้งสองข้างสักพักแล้วอมยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง
เมื่อนึกถึงตอนคนตัวเล็กยังหลับอยู่บนรถและตัวแนบชิดแผ่นหลังเขามาตลอดเส้นทางการเดินทางนั้น เขาได้ยินเสียงครวญคราง หงิกๆ เหมือนลูกหมาตัวน้อยตกน้ำคลองมันก็ทำให้เขาอดยิ้มหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
วางคนตัวเล็กลงกับโซฟาตัวยาวแสนนุ่มอย่างเบามืออีกครั้ง จัดการหยิบหมอนใบนุ่มนิ้มมารองรับบนหัวศีรษะของอีกคนเพื่อให้นอนสบายและเปิดระดับแอร์ให้เย็นสบายอย่างพอดี
“อื้ออ” เสียงครางของคนตัวเล็กดังขึ้นพร้อมกับขยับกายตัวเองเล็กน้อยให้สบายตัว เด็กหนุ่มหน้าหวานปล่อยให้อีกคนนอนไปก่อนแล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อจัดการบางสิ่งบางอย่างไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะตื่น
“นี่อ่ะเหรอ... บ้านของตระกูลโอ หึ” สายตาเรียวยาวมองส่องเข้าไปทั่วในบริเวรรอบตัวบ้านพร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมานิดๆ
จุดประสงค์ง่ายๆที่เขาเลือกตามทั้งสองคนมาไม่ต้องมีอะไรมากแค่เขาอยากเข้ามาปั่นป่วนชีวิตรักที่แสนหวานหน้ารังเกลียดนี้ทิ้งส่ะ ! ให้มันแหลกสลายพังลงบนคามือคู่นี้ของเขา !
แค่คิดก็สนุกมาก....สนุกมากส่ะจนอยากจะเริ่มทำมันให้พังลงส่ะตอนนี้....แต่สำนวนบางคำที่เขานึกได้ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ใช่แล้ว....อดเปรี้ยวไว้กินหวาน...รอให้ได้เวลาก่อนแล้วเขาจะรีบเข้าไปทำลายมันแน่
ขาเรียวเดินพาตัวเองออกไปจากตัวบ้านนี้ก่อนเพื่อจะได้ไม่ให้ทั้งสองคนได้เห็นตัวเขาเข้าส่ะก่อนเดี๋ยวแผนที่เขาเตรียมมามันจะไม่มีความหมายเอาส่ะเปล่าๆ
แผนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเพียงคนเดียวที่จะส่งมือทำ....แต่ยังมีชายร่างใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่า แฟน คนใหม่ของเขาด้วยอีกคนที่ยอมร่วมมือเข้าร่วมจะมาทำแผนชั่วๆนี้กับเขา
แต่….มีข้อแม้ที่เขาต้องยอมให้กับแฟนหนุ่มตัวเองคือ แลกกับของกำนันชิ้นงามที่แสนบริสุทธิ์ ให้เขาเพียง1คืนก็พอ....
ถึงอย่างไงแผนนี้เขาก็ต้องยอมที่จะให้แฟนหนุ่มตัวเองยอมไปนั่วเนียกับของกำนันชิ้นงามนั้นอยู่ดี ถ้าแผนที่เขากำลังทำอยู่นี้เป็นไปตามแผน ! และของกำนันชิ้นงามนั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับแผนที่เขาเตรียมไว้ส่ะด้วย....
“เซฮุน อื๊อ...นายจะลากพี่ไปไหนนน” คนตัวเล็กที่พึ่งตื่นนอนก็ถูกเด็กหนุ่มหน้าหวานจับจูงมือเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านตัวเอง คนตัวเล็กก็ทำได้เพียงเดินขยี้ลูกกะตาตัวเองแล้วเดินตามไปก็เท่านั้น เด็กหนุ่มหน้าหวานเอาแต่ยิ้มแล้วไม่ตอบคำถามของเขาเลยสักนิด
“หลับตาทีสิครับ”
“หื้ม ? หลับตา ทำไมต้องให้พี่หลับตาด้วยล่ะ”
“น๊า ถ้าพี่ไม่หลับตามันก็ไม่หนุกสิ”
“ไม่เอาๆ เดี๋ยวพี่เดินชนของในห้องนายหล่นหมดหรอก”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะจับมือพี่ไว้เอง จับอย่างนี้เป็นไงมั้งครับ ^^”
“อ๊ะ...เซฮุน...” มือใหญ่ฉวยโอกาสสอดนิ้วเรียวยาวตัวเองเข้าไปประสานกับนิ้วเรียวของมือบาง
“จับไว้อย่างนี้ล่ะ รับรองพี่ไม่ชนกับอะไรแน่นอนแต่ถ้าพี่แบคยังกลัวเดินชนอีกผมจะโอบกอดพี่ไว้เอง” คนตัวเล็กเริ่มใจเต้นแรงกับการกระทำที่ดูเหมือนจะเริ่มเอาแต่ใจของเด็กหนุ่มหน้าหวานแล้วเผยรอยยิ้มหวานออกมา
ดูเหมือนวันนี้เด็กหนุ่มหน้าหวานจะมาแปลกมากจนทำให้เขาเอ๊ะใจขึ้นมาเรื่อยๆไม่ต่างจากตอนนี้ ที่เขาสงสัยในการกระทำของเด็กหนุ่มหน้าหวานมากๆ
บรรยายรอบตัวห้องมันอบอุ่นขึ้นมาอย่างแปลกๆ แปลกส่ะจนหัวใจเขาเริ่มทำงานเต้นชีพจรแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“พะ..พอเถอะ เซฮุนพี่จะยอมหลับตาลงก็ได้”
“^___^” คนตัวเล็กไม่อยากดื้อดันยืนเถียงกับอีกคนต่อ เขาจึงเริ่มหลับตาลงตามคำขอของเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างช้าๆ
“หลับตาลงสนิทแล้วใช่ไหมครับ พี่แบค”
“อืมมม” เด็กหนุ่มหน้าหวานถามเพื่อให้มั่นใจว่าคนตัวเล็กจะหลับตาลงสนิทแล้วจริงๆอย่างที่เขาขอ
“งั้น ค่อยๆก้าวเท้าเดินตรงมานะครับ” กุมมือคนตัวเล็กไว้ทั้งสองข้างก่อนจะค่อยๆมองทางและเปิดประตูห้องของตัวเองก่อนจะลากพาตัวอีกคนเดินตาม มือแสนนุ่มที่เขาอยากจะสัมผัสจังๆมานานก็ได้สัมผัสพร้อมกับบรรยายแสนอบอุ่นที่เขากำลังจะมอบให้คนตัวเล็กเมื่อยามลืมตาขึ้น
“ค่อยๆนั่งลงนะครับ” เขาบังคับให้คนตัวเล็กหย่อนสะโพกนั่งลงแนบชิดกับเก้าอี้ที่เขาจัดเรียงวางไว้ให้
“พี่ลืมตาได้ย๊างง”
“ยังครับ หลับตาแบบนั้นไว้ก่อน”
“พี่ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้วนะเซฮุน”
“ฮ่าๆ แปปสิครับ”
“อ่า...” คนตัวเล็กต้องทำเป็นว่านอนสอนง่ายอีกครั้งและนั่งหลับตาลงมองเห็นแต่ความมืดมิดและเสียงกุกกักแววหูข้างหูทั้งสองข้างไปเป็นบางช่วงๆ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานนั้นกำลังทำอะไรแล้วมาสั่งให้เขาหลับตาลงทำไม?
แถมทำให้เขาตื่นเต้นอะไรได้มากมายขนาดนี้ ? เหมือนเด็กหนุ่มหน้าหวานกำลังจะเซอร์ไพรส์อะไรสักอย่างให้กับเขา
“เปิดตาได้แล้วครับพี่แบคฮยอน...” เมื่อเสียงทุ้มออกคำสั่งให้เขาเปิดตาออกได้เขาก็ค่อยๆเบิกตากว้างขึ้นและถลึงขึ้นเต็มตาทันทีที่มองเห็นภาพตรงหน้า
“ฮึก” น้ำตาเอ่อไหลจนล้นออกจากเบ้าตาคู่สวย ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากและส่งเสียงสะอื้นที่เขาร้องไห้ออกมาไม่ใช่ว่าภาพตรงหน้านั้นมันเศร้า แต่มันหน้าดีใจมากที่สุดที่เค้าเคยพบเจอภาพของตัวเองในตอนทำกิจกรรมต่างๆนาๆถูกแอบถ่ายไว้และถูกเด็กหนุ่มหน้าหวานติดมันไว้กับกำแพงห้องนอนของตัวเองเรียงลายเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ บรรยายกาศรอบห้องที่ถูกตบแต่งด้วยแสงไฟเทียนหลากสี
ดวงตาที่เปื้อนไปด้วยรอยน้ำตาหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มหน้าหวานที่ยืนมองหน้าเขาและส่งยิ้มหวานก่อนจะเดินมานั่งคลุกเข่าตรงหน้าของคนตัวเล็กยกมือขึ้นไล่เกลี่ยน้ำใสๆออกมาขอบตาก่อนจะเลื่อนลงมาจับกุมมือบางไว้แทนเขาส่งยิ้มให้คนตัวเล็กอีกครั้งหนึ่งและคนตัวเล็กก็มอบรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื้นตันกลับให้เด็กหนุ่มหน้าหวานแทน
มันตื้นตันจนเขาแทบจะบรรยายออกมาไม่ถูกหัวใจถูกหนีบแน่นอกไปหมดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ
“ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำอยู่นี้โรแมนติกถูกใจพี่แบคฮยอนขนาดไหน ผมไม่อาจรู้แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดและทำต่อไปนี้มันมาจากใจของผมทั้งหมด”
“ผมเหมือนคนตาบอดที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวหลงแค่เพียงความสวยงามเท่านั้นโดยไม่ได้ดูข้างในว่ามันเน่าเละขนาดไหน”
“.....”
“และวันนี้ผมก็ได้พบเห็นว่า...มีคนๆหนึ่ง....ที่สวยทั้งกายและใจ เขาคนๆนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าของผมแล้วตอนนี้ แถมอยู่เคียงข้างผมมาตลอด....”
“......”
“และเขาคนนั้นก็คือ พี่ พี่นั้นเองพี่แบคฮยอน....”
“......”
“ผมอยากบอกว่า......ผมรักพี่ มันอาจดูเหมือนว่าผมไม่จริงใจแต่ผมพูดมันมาจากใจของผมจริงๆ”
“......”
“พี่เป็นแฟนกับผมนะพี่แบค” ดวงตาเรียวของเด็กหนุ่มหน้าหวานที่จ้องสบตากับดวงตาคู่สวยอย่างใจจดใจจ่อกับคำตอบที่จะได้รับจากกล่องเสียงลำคอของคนตัวเล็กอย่างตั้งหวัง ไม่นานก็มีเสียงที่นิ่งเงียบไปตั้งนานเอ๋ยขึ้นมาตอบ
“ฮึก....อะ...อืม” ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มหน้าลงพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงตกลง น้ำตาที่อุสาห์หยุดไหลรินได้แล้วก็ดันถูกโดนต่อมประสานน้ำตาสั่งปล่อยให้ไหลรินอีกครั้ง ร่างกายทั้งสองถูกประกบกอดเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมายเสียงสะอึกสะอื้นถูกปล่อยออกมาอย่างไม่อาย
มือใหญ่ลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างเบามือและช้าๆ ปลอบโยนให้อีกคนไหล่กว้างเบอะเบื้อนไปด้วยรอยคราบน้ำตาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มหน้าหวานไม่นึกรังเกลียดคราบน้ำตาที่เบื้อนไหล่ตัวเองขึ้นมาเลยสักนิดเดียวแต่กลับดีใจขึ้นมามากกว่าด้วยส่ะซ้ำไปที่คนตัวเล็กยอมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
“ขอบคุณนะเซฮุน” พูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตามองใบหน้าหล่อนั้น ส่งยิ้มหวานนิดๆให้กับเด็กหนุ่มหน้าหวาน
“ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อเราสองคนก็คิดเหมือนกัน ^_^”
“อื้อ” ใบหน้าหล่อเหล่าเลื่อนเข้าไปใกล้ๆใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นจนสัมผัสถึงไออุ่นร้อนๆจางๆจากอีกคน ริมฝีปากหนาอุ่นนุ่มนิ้มทาบลงมาที่ริมฝีปากบางอย่างเชื่องช้าแตะเบาๆ เพื่อให้คนตัวเล็กที่กำลังรับสัมผัสจากเขาได้รับรู้ว่า สิ่งที่เขากำลังทำคือความรักที่จริงใจของเขา ที่ส่งมอบให้ไปนั้น...
แตะสัมผัสริมฝีปากกันอยู่เนินนานก่อนที่จะต่างคนต่างผละหน้าออกห่างกัน คนตัวเล็กทำได้เพียงหลบใบหน้าหล่อเหล่านั้นอย่างเขินอาย
“พี่แบคยังจำบางอย่างที่พี่เคยบอกผมไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหมว่า...”
“ว่า??”
“สถานที่สำคัญล่วงมากความทรงจำแถมพิเศษอย่างนี้ ผมต้องมากับคนที่พิเศษสิใช่ไหมล่ะครับ”
“ชะ...ใช่”
“พี่รู้แล้วใช่ไหมว่าเพราะอะไรผมถึงพาพี่มาที่นี้ ^^”
“อืม ขอบคุณนายอีกครั้งนะเซฮุนที่ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับพี่มากที่สุดในชีวิต” สีหน้าระเรื่อเผยขึ้นใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างเห็นได้ชัดพร้อมท่าทางบิดเขินอายกับคำพูดประโยคเมื่อกี้ที่ตัวเองพูดไปให้คนตรงหน้าได้ฟัง
“ผมก็ต้องขอบคุณพี่เหมือนกันนะครับ ที่ทำให้วันนี้ผมเป็นวันพิเศษที่สุดสำหรับผมเช่นกัน” รอยยิ้มหวานปรากฏให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า ความอบอุ่นในจิตใจกำลังเพิ่มพูนขึ้นและไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงง่ายๆได้เช่นกัน
ความเงียบสงัดปกคุลมในตัวห้องมีเพียงเสียงหัวใจของคนทั้งสองคนเท่านั้นที่เต้นดัง ตึก ตึก ตึก ดังออกมาจนต่างคนต่างได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน....
ติดตามได้ที่ : https://www.facebook.com/pages/Okpui_Gamagic/512336832129202
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ