ใครลิขิต

9.7

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 13.55 น.

  34 ตอน
  316 วิจารณ์
  53.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 14.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

27)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                                เช้าของวันใหม่  ทุกคนเตรียมตัว เมื่อการท่องเที่ยวในวันนี้  โดยที่คุณผู้ชายทั้งหลายเตรียมสะเบียงขึ้นรถทั้ง 2 คัน  มะลิ  แก้ว ถ่าน ไปคันเดียวกัน ส่วน โทโมะ ท็อฟ และเขื่อน ไปรถอีกคัน ทั้งหมดแยกย้ายกันขึ้นรถ ขับตามกันไป 

 

 

 

 

                  "  ไอโมะ ชั้ลถามอะไรแกหน่อยเหอะวะ " เขื่อนหน้าจริงจัง โทโมะที่ขับรถอยู่พยักหน้าให้เขื่อนถาม

 

 

 

 

                   "  แกรักแก้วจริงๆใช่มั้ย  " เขื่อนพูด  โทโมะหันมองเขื่อน ก่อนจะพยักหน้า

 

 

 

 

                   "  แล้วแกจะทำยังไงต่อไป " 

 

 

 

 

                   "  ชั้ลอยากอยู่กับแก้ว ทุกเวลาทุกนาที ที่มันเหลืออยู่ " โทโมะพูดเสียงสั่น 

 

 

 

 

                  " โฮยย  ชั้ลละหนักใจจริงๆ " เขื่อนบ่นกับตัวเอง  โทโมะเองก็รู้ว่าเขื่อนคิดยังไงอยู่ 

 

 

 

 

                    "  ถ้าแก้วอยากอยู่กับถ่าน ชั้ลก็จะไม่ขวาง ชั้ลจะคอยดูแลอยู่ห่างๆ แม้ว่ามันจะยากก็ตาม แต่ชั้ลจะทำ เพื่อความสุขของแก้ว  " โทโมะพุด 

 

 

 

 

                   "  แกจะทำใจได้หรอวะ "  เขื่อนเห็นใจ

 

 

 

 

                   "  สำหรับชั้ล ความรู้สึกของแก้วสำคัญที่สุด  " โทโมะพูด เขื่อนมองแววตาเพื่อนก็รับรู้ถึงความรักที่โทโมะมีให้กับแก้ว 

 

 

 

 

 

 

                                    ภายในรถถ่าน 

 

 

 

 

 

                      "  ถ่าน แก้วหยุดกินยามาสักพักแล้วนะ ทำไมผมมันยังร่วงอยู่อีก แก้วว่าแก้วไม่ได้แพ้ยาแล้วนะ " แก้วเริ่มสงสัยกับตัวเอง เมื่อสางผม แล้วเริ่มมีผมติดมือมา

 

 

 

 

                     "  แกแพ้น้ำหรือป่าววะแก้ว  ป้าชั้ลก็เป็นแบบน้เหมือนกัน แพ้น้ำ ผมร่วงจนเกือบหมดหัวเลยวะ " มะลิ พูด แก้วไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

 

 

 

 

                    "  งั้นกลับจากเที่ยว ไปหาหมอดีกว่านะ ชั้ลไม่อยากหัวล้านก่อนวัยอันควร " แก้วพูด 

 

 

 

 

                   "  ไม่ต้องไปหาหรอก เดี๋ยวมันก็ชินไปเอง  " ถ่านพูด แก้วตามใจถ่าน 

 

 

 

 

                    " แวะทานข้าวก่อนดีกว่า นะ " ถ่านพูด ทุกคนพยักหน้า  ถ่านแวะจอดรถที่ร้านอาหารริมทาง โทโมะ ที่ขับตามหลังมาแวะขับตามถ่านเข้าไปในร้าน 

 

 

 

 

 

 

                             ถ่านให้ทุกคนไปนั่งรอที่โต๊ะ โดยตัวเองเป็นคนไปสั่งอาหารกับพนักงาน  ไม่นานพนักงาน ก็นำอาหารมาเสริฟที่โต๊ะ 

 

 

 

 

                    " ผัดผักรวม  แกงจืดผักกาด ผักลวงน้ำพริก ปลาทอด  แกงส้มผักรวมแต่ไม่มีเนื้อสัตว์   เมนูอะไรของถ่านเนี่ยฮะ " แก้วมึนงงเมื่อห็นกับข้าวตรงหน้า แต่ทุกคนย่อมรู้ที่มาที่ไปของเมนูนี้ดี 

 

 

 

 

                    " ก็กินผักมันมีประโยชน์หนิ เนื้อสัตว์ก็เว้นๆไว้บ้าง สงสารมัน " ถ่านพูด 

 

 

 

 

                    "  แต่... " แก้วจะบอกว่าโทโมะไม่ค่อยชอบกินผัก แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป 

 

 

 

 

                   "  แต่อะไร  แก้ว  " มะลิพูด เมื่อเห็นแก้วมองโทโมะ 

 

 

 

 

                   "  ไม่มีอะไร กินเถอะ " แก้วพูดจบก็ตักกับข้าวกิน  ทุกคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย เว้นก็แต่โทโมะ ที่เลือกกินแต่ผักชนิดที่คิดว่าน่าจะถูกปากมากที่สุด ซึ่งมันมีน้อยมาก แต่เขาก็พยามกินมันให้ได้  แก้วมองโทโมะเป็นระยะๆ 

 

 

 

 

                    " มันขมนะ !! " แก้วที่มองโทโมะอยู่ ตะโกนบอกทันที เมื่อเห็นโทโมะกินมะระเข้าไป  โทโมะทำหน้าผะอืดผะม แต่ก็ฝืนกลืนเข้าไป  ทุกคนหันมองแก้วเป็นสายตาเดียวกัน 

 

 

 

 

                    "  ไอท็อฟ น้ำหน่อยดิ "  โทโมะรีบตะกายหาน้ำ เพราะขมจนแทบจะอ้วกออกมา แต่ท็อฟหรือจะไวกว่าแก้ว   โทโมะรับน้ำจากแก้วอย่างไม่ทันได้สังเกต เพราะมัวแต่หลับตาปี๋ เนื่องจากขมจัด 

 

 

 

 

                     "  โอ้ยย ค่อยยังชั่ว ขอบใจวะไอท็อฟ  เอาแก้วกลับไป " โทโมะจะยื่นแก้วให้ แต่พอหันไปก็เห็นท็อฟนั่งถือแก้วของตัวเองอยู่ เขาหันไปหาเขื่อนที่นั่งข้างเขาอีกข้างหนึ่งก็เห็นว่าเขื่อนถือแก้วน้ำของตัวเองอยู่เหมือนกัน 

 

 

 

 

                     "  คืนให้พี่แก้วสิพี่  " ท็อฟกระซิบบอกโทโมะ โทโมะมองแก้ว ก็เห็นว่าแก้วน้ำของแก้วมันไม่มี  นี่แก้วส่งน้ำให้เขาหรือนี่ 

 

 

 

 

                     "  ขอบใจนะ " โทโมะส่งแก้วน้ำคืน ก่อนจะส่งยิ้มหวาน หากกแต่แก้วรับไว้ โดยไม่มองหน้าเขา โทโมะหน้าจ๋อยลง ถ่านมองเหตุการณ์อยู่ตลอด ก็แน่ใจว่าแก้วยังรักโทโมะไม่เคยเปลี่ยน มะลิมองถ่านอย่างเห็นใจ

 

 

 

 

 

 

 

                                หลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถ แล้วขับต่อไป   รีสอร์ท ทางภาคเหนือแห่งหนึ่งที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตั้งอยู่บนที่สูง มองเห็นวิวได้ในระยะไกล  ข้างล่างจะมีไร่ชาจำนวนมาก รวมทั้งสวนผลไม้ในบริเวณใกล้เคียง  อาการหวานเย็นสบาย 

 

 

 

 

 

                      "  พี่โมะ  ท็อฟไปหาเพื่อนได้หรือปล่าว บ้านเพื่อนท็อฟอยู่ไม่ไกลจากที่นี้ " ท็อฟพูด 

 

 

 

 

                     " แล้วแกจะกลับมานอนที่นี้หรือปล่าว " โทโมะพูด 

 

 

 

 

                     " ไม่อะ เดี๋ยวค่อยกลับมาพรุ่งนี้เช้าทีเดียวเลย พี่อยู่ได้ใช่มั้ย " ท็อฟพูด  โทโมะพยักหน้า

 

 

 

 

                     "  แล้วจะไปยังไง  " โทโมะถาม

 

 

 

 

 

                      "  เดี๋ยวโทรให้เพื่อนมารับ "  ท็อฟพูด แล้วโทรศัพทืหาเพื่อนทันที 

 

 

 

 

 

                      "  ชั้ลจองห้อง 3 ห้อง นอนห้องละสองคน ห้องอยู่ติดกันหมดเลย  " ถ่านยื่นกุญแจให้ 

 

 

 

 

                       "  งั้นไปเก็บของดีกว่า จะได้ไปเที่ยวกันต่อ " มะลิพูด ถ่านพยักหน้า ทุกคนเดินตามไป โดยท็อฟแยกไปกับเพื่อน 

 

 

 

 

                       "  อ่าวไอโมะ แล้วไอท็อฟไปไหนของมัน " เขื่อนหันมาถาม เมื่อไม่เห็นท็อฟเดินตามมา 

 

 

 

 

                     "  ไปเที่ยวบ้านเพื่อน แถวนี้แหละ พรุ่งนี้กลับ " โทโมะพูด  เขื่อนพยักหน้ารับทราบ 

 

 

 

 

                    "  ให้ชั้ลนอนเป็นเพื่อนมั้ย " เขื่อนพูด 

 

 

 

 

                     "  ชั้ลนอนคนเดียวได้  " โทโมะพูด ก่อนจะแยกเข้าห้องไป  โดยถ่านนอนกับเขื่อน แก้วนอนกับมะลิ ส่วนโทโมะ นอนคนเดียว 

 

 

 

 

 

 

                                หลังจากที่แยกย้ายกันไปเก็บกระเป๋าเสร็จเรียร้อย ทุกคนก็ออกมายื่นรอที่หน้าห้อง เพื่อไปเที่ยวที่ไร่ชาบริเวณใกลเคียงกับรีสอร์ตที่พัก   เมื่อมาถึงไร่ชา เจ้าของไร่ พาทัวร์ดูไร่ชา  โทโมะ มองแก้วอย่างเป็นห่วง  แก้วหันมองโทโมะเป็นระยะๆ แต่พอสบตากัน แก้วก็รีบหลบตาทันที  ถ่านมองแก้วกับโทโมะอยู่ตลอดเวลา แววตาเขาดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด มะลิสะกิดเขื่อนให้มองถ่าน 

 

 

 

 

                        "  สงสารถ่านอะ  " มะลิกระซิบกับเขื่อน เขื่อนเองก็เห็นใจถ่านไม่แพ้กัน 

 

 

 

 

                                   ทั้งหมดเดินมาถึงศาลาที่พักระหว่างทาง  เจ้าของไร่เรียกพนักงานให้มาเสริฟชาร้อนๆ ให้กับนักท่องเที่ยว แก้วชาถูกจัดเตรียมไว้ตรงหน้าทุกคนก่อนที่พนักงานจะรินชาใส่แก้วจนครบ 

 

 

 

 

                        "  ชาอร่อยนะครับ ทั้งหอม ทั้งกลมกล่อม " เขื่อนชม เจ้าของไร่ยิ้ม

 

 

 

 

                        "  อร่อยจริงๆ ด้วย " มะลิเสริม 

 

 

 

 

                        "  เยี่ยมจริงๆครับ " ถ่านเสริฟ เหลือเพียง 2 คนที่ยังไม่ดื่มชา  แก้วมองโทโมะที่นั่งจ้องแก้วน้ำชาอยู่ จนทุกคนสงสัย 

 

 

 

 

                        "  คุณไม่ดื่มชาหรอครับ " เจ้าของไร่ถาม 

 

 

 

 

                         "  อะอ่อ ดื่มครับดื่ม  " โทโมะมองเจ้าของไร่อย่างเกรงใจ ก่อนจะกระดกชาจนหมดแก้ว  แก้วมองโทโมะที่ดื่มชาก็หน้าซีด 

 

 

 

 

                        "  แก้วไม่ดื่มหรอ " ถ่านทัก 

 

 

 

                         " ดื่มๆ " แก้วพูดจบก็ซดชาจนหมดแก้ว 

 

 

 

 

                         "  เอ้า  ไปเตรียมอีกไป เร็วๆ ทานให้อิ่มเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ " เจ้าของไร่พูด พลางสั่งให้พนักงานรินชาใส่แก้ว แล้วสั่งพนักงานอีกคนไปยกถาดผลไม้มา 

 

 

 

 

                      "  เอ้า ชนๆๆๆ  ดื่มมมม  " เขื่อนน้ำทีมชนแก้ว ก่อนจะสั่งให้ทุกคนดื่มจนหมด 

 

 

 

 

                      "  ชนนนนนนนนนน  " เกือบสิบแก้ว   โทโมะ เริ่มหน้าแดงๆ ตาลอยๆ 

 

 

 

 

                      "  พอแล้วพี่เขื่อน " แก้วหันมองโทโมะ เมื่อเห็นว่าอาการไม่ค่อยดี ก็สักให้เขื่อนหยุด 

 

 

 

 

                       "  ใกล้จะหมดแล้ว เหลือแค่คนละแก้ว  เอาๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  " เขื่อนพูด 

 

 

 

 

                      "  แต่พี่โทโมะเมาแล้วนะค่ะ " แก้วมองค้อน เขื่อนหันมองโทโมะ ที่นั่งมึนๆอยู่ 

 

 

 

 

                       "  ไม่เมาๆ  กินต่อๆ " พูดไม่ค่อยจะเป็นภาษา 

 

 

 

 

                      "  จะเมาได้ยังไง ไม่ได้กินเหล้าสักหน่อย  " เขื่อนพูด มะลิ ถ่าน ตั้งใจฟัง

 

 

 

 

                     "  พี่เค้าแพ้ชา กินแล้วจะเมาเหมือนกินเหล้า  " จำได้ทุกเรื่อง 

 

 

 

 

 

                     "  แกรู้ได้ไงวะแก้ว  " มะลิพูด ถ่านยิ่งเจ็บ แก้วทำตัวไม่ถูก  ไม่พูดอะไร  มะลิมองแก้วที่เอาแต่หลบสายตา ก็นึกถึงอดีตที่แก้วเคยพูดไว้กับตน 

 

 

 

                         '  เรื่องของเค้า ไม่มีอะไรที่ชั้ลไม่รู้   ' 

 

 

 

                        '   ชั้ลหนะ เหมาะสมกับเคาที่สุดแล้ว    ' 

 

 

 

 

                     "   ไปที่อื่นต่อเถอะ  "  ถานตัดบท เพราะไม่อยากจะเสียใจไปมากกว่านี้ รีบลุกขึ้นเดินออกไปทันที มะลิ เขื่อน มองตามอย่างเห็นใจ  แก้วรู้สึกผิด โทโมะมึนๆ แต่ยังพอมีสติอยู่บ้าง  มะลิ เขื่อน ลุกตามถ่านไป  โทโมะสะบัดหัวไปมา ลุกขึ้น เดินตามมะลิ เขื่อนไป อย่างมันๆ เซๆ เหมือนคนเมา  แก้ว ที่เดินนำไปก่อน หันมามองโทโมะด้วยความเป็นห่วง 

 

 

 

                       ทุกคนเดินทัวร์ไร่ชากันต่อจนหมดทั้งไร่ โทโมะเริ่มส่างเมา เดินเหมือนคนปกติ แต่ก็ยังมึนหัวอยู่บ้าง  หลังจากทัวร์ไร่ชาเสร็จ เจ้าของไร่ก็มอบถุงชาใ้เป็นที่ระลึกทุกคน 

 

 

 

 

                   "  แกไปนั่งรถถ่านเถอะวะ " โทโมะไล่ เพราะกลัวว่าถ้าเขื่อนนั่งรถตนจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะคนขับยังมีอาการเมาอยู่

 

 

 

 

                   "  ทำไมวะ " เขื่อนมองอย่างไม่เข้าใจ 

 

 

 

 

                  " คือ ชั้ลมึนหัววะ แกไปนั่งคันนู้นจะปลอดภัยกว่านั่งกับชั้ล " โทโมะพุด เขือนยิ้มๆ 

 

 

 

 

                   "  เวลามึงเมาเนี่ย มึงน่ารักเนอะ  " เขื่อน หยิบกุญแจจากมอโทโมะออกมา แล้วเดินไปเปิดประตู ก่อนจะพลักโทโมะให้เข้าไปนั่งในรถฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่ตัวเองจะไปนั่งด้านคนขับ  โทโมะเป็นคนปากแข็ง ที่ใจอ่อนโยน ความรู้สึกของเขามันมักจะออกมาก็เฉพาะแต่เวลาที่เมาเท่านั้นแหละ  เหมือนอย่างความรู้สึกที่เป็นห่วงเพื่อนเมื่อตะกี้ 

 

 

 

 

                   "  กินชาทุกที แม่งมึนวะ " โทโมะพูด เขื่อนหันมายิ้มๆ 

 

 

 

 

                   "  เรื่องนี้ รู้จะเฉพาะเพื่อนในกลุ่มเท่านั้น  แก้วรุ้ได้ยังไงวะ "  เขื่อนพูด ที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าโทโมะเมาชา แต่แค่ต้องการแกล้งโทโมะอย่างที่ทำบ่อยๆ ก็เท่านั้นแหละ  

 

 

 

 

                  "  เคยบอก ตอนคุยกัน " โทโมะพูด นึกถึงตอนที่คุยกันตั้งแต่ ม ต้น เขาเล่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขให้เธอฟัง ไม่มีเรื่งไหนที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับเขาเลย 

 

 

 

 

                   "  ทำไมมึงกล้าบอกวะ ปกติเรื่องปัญหาอ่อนของมึง มึงจะไม่กล้าบอกใครเลยนะ "  เขื่อนพูด 

 

 

 

 

                    "  ก็บอกกับแก้วแค่คนเดียว กับคนอื่นก็ไม่ได้บอก " โทโมะพูด

 

 

 

 

                    " ตอนคุยกัน สมัย ม ต้น คิดยังไงกับแก้ววะ " สิ่งที่เขาอยากรู้มานาน แต่ไม่เคยถาม 

 

 

 

 

                     " รู้สึกดี ถูกใจ  ลังเล แล้วก็เสียใจ  " โทโมะพูด 

 

 

 

 

                      "  ไม่เข้าใจวะ ขยายความดิ   "  เขื่อนพูด 

 

 

 

 

                      "  แก้วเป็นคนเอาเบอร์ชั้ล เอามาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วแก้วก็โทรมาหาชั้ลก่อน  ตอนแรกชั้ลก็ชอบน้องคนนึงอยู่ น่าจะอยู่ห้องเดียวกับแก้วแหละ  แต่น้องเค้าไม่ชอบชั้ล  พอชั้ลคุยกับแก้วเรื่อยๆ  ชั้ลก็เริ่มรู้สึกเฉยๆกับน้องคนนั้น เหมือนว่าแก้วทำให้ชั้ลลืมน้อคนนั้นได้ แล้วชั้ลก็คุยกับแก้วเรื่อยๆ คุยกันทุกเรื่อง บ่นให้ฟังทุกเรื่อง  เราสนิทกันมากขึ้น แต่ไม่รู้ในฐานะอะไร  ชั้ลรู้สึกดี มีความสุขทุกครั้งที่โทรคุยกับเค้านะ  ช่วงแรกเค้าก็เป็นฝ่ายโทรหาชั้ลก่อน แต่พอหลังๆ เค้าไม่ค่อยโทรมา  ชั้ลทน จนทนไม่ได้ ต้องโทรไปหาเค้าก่อน  ชั้ลเริ่มรู้สึกดีกับเค้ามากขึ้น แต่ชั้ลไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกับชั้ล  ก็เลยถามแก้ว ว่า แก้วรู้สึกยังไง ชอบชั้ลรึปล่าว  แต่แก้วไม่บอกว่าชอบชั้ลวะ  ผิดหวัง เสียใจสุดๆ ชั้ลถามไป 3 ครั้ง แต่คำตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง ชั้ลเลยคิดว่าแก้วไม่ชอบชั้ลจริงๆ ชั้ลเลยตัดสินใจจบทุกอย่าง   แต่ชั้ลเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าแก้วรักชั้ลมาตลอด เมื่อเห็นกล่องใส่ของของแก้ว " โทโมะพูด 

 

 

 

 

                      "  แล้วทำไมไม่บอกไปก่อนวะว่าชอบแก้ว  ผู้ชายเค้าก็ต้องพูดก่อนสิวะ " เขื่อนเริ่มโวย

 

 

 

 

                      "   ก็ชั้ลกลัวว่าแก้วไม่ชอบชั้ล ถ้าบอกไปแล้วแก้วไม่ชอบ แล้วหายไป ชั้ลจะทำยังไงวะ "  โทโมะโวยกลับ

 

 

 

 

 

                       "  ปัญญาอ่อนพอๆกันทั้งคู่  ไม่แปลกใจเลย ทำไมถึงไม่สมหวังกันสักที " เขื่อนตัดพ้อ 

 

 

 

 

                      "  แล้วจะให้ทำยังไง ก็คนมันไม่กล้า " โทโมะพูด 

 

 

 

 

                       "  แล้วตอนนี้กล้าแล้วยัง จะบอกได้แล้วยังว่ารัก " เขื่อนพูด ใจนึงก็สงสารถ่าน ใจนึงก็สงสารเพื่อน

 

 

 

 

                        "  บอกไปแล้ว แต่แก้วไม่ฟัง เค้าคงไม่รักชั้ลแล้วแหละ " โทโมะซึมทันที

 

 

 

 

 

                       "  ก็รอดูต่อไป " เขื่อน แม้รู้อยู่แก่ใจว่าแก้วยังรักโทโมะอยู่  แต่เพราะต้องการดัดนิสัเพื่อน  ก็เลยเลือกที่จะไม่บอก ปล่อยให้รู้เอง 

 

 

 

 

 

 

                                   ภายในรถของถ่าน  แก้วนั่งเงียบตลอดทาง เพราะยังเป็นห่วโทโมะอยู่  มะลิก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร แม้จะมีข้อสงสัยในตัวแก้วอยู่มาก แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะกลัวจะทำให้ถ่านเสียใจ  

 

 

 

 

 

                         "  เป็นห่วงโทโมะหรอ  " แล้วถ่านก็พูดมันออกมา 

 

 

 

 

                          "  ป่าวๆๆ  ไม่ได้เป็นห่วงง  "  แก้วีบแก้ตัว

 

 

 

 

                        "  สีหน้าไม่ได้บอกแบบนั้นเลยนะ " ถ่านพูด 

 

 

 

 

                         "  ไม่ได้เป็นห่วงจริงๆนะ " แก้วพูด ถ่านฝืนยิ้ม ไม่เชื่อในสิ่งที่แก้วพูด 

 

 

 

 

                        "  ชีวิตคนเราไม่แน่นอนนะแก้ว  เราเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้เท่าไหร่ ก็ไม่รู้  อยากทำอะไร อยากรักใคร อยากอยู่กับใคร ก็ทำ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป " ถ่านพูดอย่างคงปลงตก 

 

 

 

 

                         "  ถ่านนนน  "  มะลิค้อนใส่

 

 

 

 

                        "  ทำไมถ่านพูดแปลกๆ "  แก้วพูด  ถ่านอึกอัก รีบแก้ตัว

 

 

 

 

                         "  นี่ มันเป็นสัจธรรม ถ่านก็พูดไปงั้นแหละ  แต่ก็พูดจริงๆนะ  ถ้าแก้วรักใคร ถ่านก็อยากให้แก้วทำในสิ่ที่แก้วมีความสุข " ถ่านพูด  แก้วนิ่งไป 

 

 

 

 

                                 ' แต่ชั้ลไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงของชั้ล คือการได้อยู่กับถ่าน หรือได้อยู่กับเค้ากันแน่  ' 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                 **  ยังไงกันต่อละทีนี้ คนไม่รู้ใจตัวเองนี้มันก็ไม่รู้จริงๆนะ 

 

 

 

 

 

 

                                

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา