ดั่งดวงหฤทัย (Ver.PF,TK,KF)
เขียนโดย poplovekotic
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.42 น.
แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 14.53 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) สาเหตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ วังหลวง แคว้นพันธุรัฐ
"ทูลกระหม่อมเพค่ะ ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง"แม่นมของฟาง เจ้าฟ้าหญิงธนันต์ธรณ์ เรียกหาเธอในห้องสมุดของวังหลวง
"วะ วะ ว้ายยย"เสียงของฟางร้องขึ้น เพราะเธอขึ้นเก้าอี้ไปหยิบหนังสือที่อยู่บนชั้นบน จนจะตกลงมาแต่แม่นมของเธอรับทันก่อน
"ระวังหน่อยสิเพค่ะ ทูลกระหม่อม"แม่นมว่าตำหนิฟาง ฟางจึงก้มหน้ารับผิด
"ขอโทษค่ะนม"ฟางพูด แม่นมจึงลูบหัวฟางอย่างอ่อนโยน
"ทรงปีนขึ้นไปหยิบเองทำไมเพค่ะ ไม่ทรงเรียกข้าหลวงล่ะเพค่ะ"แม่นมพูดกับฟางอีก
"ก็ฟางอยากอ่าน ฟางก็ต้องขึ้นไปหยิบเองสิค่ะ"ฟางพูดยิ้มๆแล้วไปนั่งที่โต๊ะประจำของเธอ
"เด็จเข้ามาในนี้ทีไร ก็ทรงลืมวันลืมคืนทุกทีเลยน่ะเพค่ะ ทรงรู้ไหมเพค่ะว่าเกิดเรื่องแล้ว"แม่นมเดินมาที่โต๊ะของเธอ
"อ๋อ แม่ไม่ยอมทานยาอีกแล้วใช่ไหม โหย ก็ยาของนมอ่ะขมปี๋ซ่ะอย่างนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฟางจัดการเองค่ะ แต่ขอเวลาฟางอ่านหนังสืออีกแปปนึงน่ะ"ฟางพูด พลางอ่านหนังสือต่อไป
"แต่เอ่อ"แม่นมซึ่งกำลังจะพูดต่อฟางก็แทรกขึ้น
"นี่ทำไมจารึกโบราณของพันธุรัฐเล่มนี้เนี่ย ฟางไม่เคยเห็นเลยล่ะค่ะ"ฟางพูด แล้วพลิกดูหนังสือไปมา
"เด็จเลยเถอะเพค่ะ ขืนชักช้าจะไม่ทันกาล"แม่นมของฟางพูด แล้วทำสีหน้าร้อนรน
"มีอะไรด่วนนักหรอนม"ฟางถาม เพราะเห็นแม่นมของเธอทำสีหน้ารีบร้อนรน
"ก็เจ้าคุณกลาโหม กับ เจ้าคุณธรรมการ มารอเข้าเฝ้าอยู่ที่ห้องรับรองเพค่ะ"แม่นมพูดจบ ฟางจึงเงยหน้าขึ้นมา แล้วเปลี่ยนจากสีหน้ายิ้มแย้มเป็นสงสัยทันที
"เข้าเฝ้าพร้อมกันเชียวหรอ"ฟางพูด แล้วทำหน้าสงสัยอีก
ณ ห้องรับรอง
"ขบวนเกียรติยศส่งตัวพระคู่หมั้นของทางทานตะ ได้หายไปในช่วงรอยต่อติดชายแดนสามแคว้น คงจะเป็นการโดนโจมตีน่ะพระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณกลาโหมพูดให้ฟางฟัง ทันทีที่เธอนั่งลงที่ที่นั่งประจำของเธอ
"มีสายรายงานว่า เจ้าชายภัทรดนัยประทับอยู่ในบริเวณนั้นด้วยพระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณธรรมการพูดขึ้นอีก ฟางพยักหน้ารับ
"แต่เราคิดว่าพี่ชายคงไม่ทำอะไรให้พันธุรัฐต้องเข้าไปเสี่ยงอะไรในตอนนี้หรอก ถึงแม้เราจะไม่เคยเกรงทานตะและกาสิก"ฟางพูดเด็ดขาดให้ท่านทั้งสองได้รับรู้
"กระหม่อมก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะพระเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นเราคงหลีกเลี่ยงสงครามมิได้พระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณธรรมการพูดอีก ทำให้ฟางถอนหายใจยาว พลางครุ่นคิดเป็นอย่างมาก
ณ ตำหนักป้อมปืน
"อย่าน่ะพระเจ้าค่ะ องค์หญิง อย่าน่ะพระเจ้าค่ะ"ทหารรอบๆตำหนักรีบเข้ามาห้ามเฟย์ทันที เพราะเธอกำลังจะกระโดดหน้าผาเพราะเธอคิดจะฆ่าตัวตาย
"จะทรงทำอะไรน่ะ"เขื่อนรีบวิ่งมาดูทันที เพราะมีทหารไปบอกเขา เฟย์ตกใจรีบหันไปหาเขื่อน
"ลงมาเถอะ"เขื่อนพูดอีก เฟย์จึงมองหน้าเขื่อน พลางร้องไห้ไปด้วย
"หม่อมฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เว้นแต่จะทรงพระกรุณา"เฟย์พูด แล้วปาดน้ำตาของเธอ
"นี่ใครปล่อยให้เจ้าหญิงขึ้นมาถึงที่นี่ได้ฮ่ะ"เขื่อนพูดกับทหารอย่างหัวเสีย
"องค์หญิงทรงขอทหารเวร หลอกว่าจะออกมาเดินเล่นพระเจ้าค่ะ"เคนตะทหารคนสนิทของเขื่อนเล่าให้เขื่อนฟัง
"งี่เง่าที่สุด แค่นี้ก็โดนหลอกได้ สั่งขังทหารเวรนั่นให้หมดเลยน่ะ"เขื่อนตะโกนบอกเคนตะอย่างโมโห
"อย่าเลยเพค่ะ อย่าให้ทหารพวกนั้นต้องมาเดือดร้อนเพราะหม่อมฉัน ถ้าจะลงโทษหม่อมฉันขอรับโทษนั่นเอง"เฟย์บอกเขื่อนไป
"เอาล่ะ ก็ได้ตามใจฝ่าบาท ทรงต้องการอะไรก็บอกหม่อมฉันมา ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก"เขื่อนจ้องหน้าเฟย์อย่างโมโห
"ทรงรับปากหม่อมฉันก่อนได้ไหมล่ะเพค่ะ"เฟย์พูดเสียงสั่นเครือ
"ถึงหม่อมฉันจะยังไม่ได้เป็นเจ้าหลวง แต่คำพูดของหม่อมฉันก็เชื่อถือได้ ฝ่าบาททรงต้องการอะไรบอกหม่อมฉันมาเลย"เขื่อนพูดอีก เฟย์จึงมองหน้าเขื่อนอย่างกล้าๆกลัวๆ
"หม่อมฉันขอลี้ภัยได้ไหมเพค่ะ"เฟย์บอกเขื่อน เขื่อนงงและอึ้งไปชั่วขณะ
"จากอะไร"เขื่อนถามเฟย์
"จากการอภิเษก หม่อมฉันไม่อยากอภิเษกกับเจ้าหลวงแห่งกาสิก หม่อมฉันคงขอมากเกินไป นำความยุ่งยากมาให้พระองค์ แต่ถ้าจะส่งหม่อมฉันกลับ หม่อมฉันขอตายซ่ะตอนนี้ดีกว่า"เฟย์พูดจบ ก็จะกระโดดลงหน้าผา แต่เขื่อนรีบวิ่งไปรับทันที
"ฝ่าบาท"เขื่อนพูด แล้วกระชากตัวเฟย์ให้ไปอยู่ในอ้อมกอด เฟย์ที่อยู่ในอ้อมกอดเขื่อนนั้นก็ร้องไห้อย่างหนัก
"ถ้าไม่ทรงช่วยหม่อมฉัน ขออย่าช่วยหม่อมฉันเลยเพค่ะ"เฟย์พูด น้ำเสียงสั่นเครือเพราะเธอร้องไห้อย่างหนัก เขื่อนที่มองเฟย์ก็หนักใจและแปลกใจว่าทำไมเฟย์ถึงไม่อยากแต่งานกับเจ้าหลวงภาณุ
กลับมาที่ วังหลวง แคว้นพันธุรัฐ
"เฮ้อ ทูลกระหม่อมฟ้าชายน่ะ ไม่รู้ว่าทรงคิดอะไรอยู่ โจมตีขบวนเกียรติยศแบบนั้น ถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติกาสิกอย่างแรงเลยน่ะเพค่ะ"แม่นมของฟางพูดกับฟางอย่างหัวเสีย
"แต่เราก็ยังไม่รู้น่ะค่ะ ว่าเรื่องทั้งหมดความจริงมันเป็นยังไง"ฟางพูดแก้ตัวให้พี่ชายตนเอง
"แต่การที่นมมองรูปการแล้วเนี่ย นมหวั่นใจยังไงไม่รู้น่ะเพค่ะ เพราะว่าพวกคนภูเขาอย่างกาสิกเนี่ย เค้ามีความอดทนและมีความชำนาญในการรบมากๆเลยเพค่ะ แถมเจ้าหลวงองค์ใหม่ก็ทรงสนับสนุน ว่ากันว่ายังทรงหนุ่มอยู่น่ะเพค่ะ แต่ก็มะ มะมีพระทัยโหดเหี้ยมมากเลยเพค่ะ ญาติหม่อมฉันที่อยู่ทางแถบชายแดนเล่าว่า กาสิกเนี่ยมีโทษอยู่สองอย่างเท่านั้นก็คือตัดหัว กับตัดมือไม่มียกเว้น"แม่นมเล่าถึงกาสิกให้ฟางฟัง ทำเอาฟางที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ค่อยพอใจ
"ใจร้าย คนใจร้ายเท่านั้นที่จะทำได้ถึงขนาดนี้ ทูลกระหม่อมพ่อเคยบอกว่า การเป็นเจ้าหลวงที่ดีเนี่ยไม่ได้ใช้แค่อำนาจเพียงอย่างเดียว"ฟางพูด แล้วถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยล้า
"เอ่อ ไม่ใช้แค่นี้ ยังมีอีกน่ะเพค่ะ เค้าว่ากันว่าเจ้าหลวงกาสิกเนี่ย สามรถที่จะฆ่าคนแล้วนำมาเสวยต่อได้เลยน่ะเพค่ะ"แม่นมพูด ชวนฟางขนลุกซู่
"ป่าเถื่อนที่สุดเลย สงสารเจ้าหญิงทานตะน่ะที่ต้องไปแต่งงานกับผู้ชายที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ นี่ฟางพูดในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ในฐานะของขัตติยะกุมารีที่เกิดมาพร้อมกับภาระและหน้าที่แล้วเนี่ย เจ้าหญิงก็ทรงปฏิเสธหน้าที่นี้มิได้"ฟางพูด แล้วทำหน้าหนักใจ
"ธนันต์ธรณ์"เสียงพระราชมารดาของฟางเรียกเธอ..
ติดตามต่อตอนหน้าน่ะค่ะ ป๊อปฟางเยอะแน่นอนจ้ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ขอเล่าความเป็นมาก่อนเดี๋ยวจะงงกัน ฝากเม้นต์โหวตกันเยอะๆน่ะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ