ดั่งดวงหฤทัย (Ver.PF,TK,KF)

9.9

เขียนโดย poplovekotic

วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.42 น.

  5 ตอน
  118 วิจารณ์
  15.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 14.53 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) สาเหตุ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ วังหลวง แคว้นพันธุรัฐ

 

"ทูลกระหม่อมเพค่ะ ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง"แม่นมของฟาง เจ้าฟ้าหญิงธนันต์ธรณ์ เรียกหาเธอในห้องสมุดของวังหลวง

 

"วะ วะ ว้ายยย"เสียงของฟางร้องขึ้น เพราะเธอขึ้นเก้าอี้ไปหยิบหนังสือที่อยู่บนชั้นบน จนจะตกลงมาแต่แม่นมของเธอรับทันก่อน

 

"ระวังหน่อยสิเพค่ะ ทูลกระหม่อม"แม่นมว่าตำหนิฟาง ฟางจึงก้มหน้ารับผิด

 

"ขอโทษค่ะนม"ฟางพูด แม่นมจึงลูบหัวฟางอย่างอ่อนโยน

 

"ทรงปีนขึ้นไปหยิบเองทำไมเพค่ะ ไม่ทรงเรียกข้าหลวงล่ะเพค่ะ"แม่นมพูดกับฟางอีก

 

"ก็ฟางอยากอ่าน ฟางก็ต้องขึ้นไปหยิบเองสิค่ะ"ฟางพูดยิ้มๆแล้วไปนั่งที่โต๊ะประจำของเธอ

 

"เด็จเข้ามาในนี้ทีไร ก็ทรงลืมวันลืมคืนทุกทีเลยน่ะเพค่ะ ทรงรู้ไหมเพค่ะว่าเกิดเรื่องแล้ว"แม่นมเดินมาที่โต๊ะของเธอ

 

"อ๋อ แม่ไม่ยอมทานยาอีกแล้วใช่ไหม โหย ก็ยาของนมอ่ะขมปี๋ซ่ะอย่างนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฟางจัดการเองค่ะ แต่ขอเวลาฟางอ่านหนังสืออีกแปปนึงน่ะ"ฟางพูด พลางอ่านหนังสือต่อไป

 

"แต่เอ่อ"แม่นมซึ่งกำลังจะพูดต่อฟางก็แทรกขึ้น

 

"นี่ทำไมจารึกโบราณของพันธุรัฐเล่มนี้เนี่ย ฟางไม่เคยเห็นเลยล่ะค่ะ"ฟางพูด แล้วพลิกดูหนังสือไปมา

 

"เด็จเลยเถอะเพค่ะ ขืนชักช้าจะไม่ทันกาล"แม่นมของฟางพูด แล้วทำสีหน้าร้อนรน

 

"มีอะไรด่วนนักหรอนม"ฟางถาม เพราะเห็นแม่นมของเธอทำสีหน้ารีบร้อนรน

 

"ก็เจ้าคุณกลาโหม กับ เจ้าคุณธรรมการ มารอเข้าเฝ้าอยู่ที่ห้องรับรองเพค่ะ"แม่นมพูดจบ ฟางจึงเงยหน้าขึ้นมา แล้วเปลี่ยนจากสีหน้ายิ้มแย้มเป็นสงสัยทันที

 

"เข้าเฝ้าพร้อมกันเชียวหรอ"ฟางพูด แล้วทำหน้าสงสัยอีก

 

 

ณ ห้องรับรอง

 

"ขบวนเกียรติยศส่งตัวพระคู่หมั้นของทางทานตะ ได้หายไปในช่วงรอยต่อติดชายแดนสามแคว้น คงจะเป็นการโดนโจมตีน่ะพระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณกลาโหมพูดให้ฟางฟัง ทันทีที่เธอนั่งลงที่ที่นั่งประจำของเธอ

 

"มีสายรายงานว่า เจ้าชายภัทรดนัยประทับอยู่ในบริเวณนั้นด้วยพระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณธรรมการพูดขึ้นอีก ฟางพยักหน้ารับ

 

"แต่เราคิดว่าพี่ชายคงไม่ทำอะไรให้พันธุรัฐต้องเข้าไปเสี่ยงอะไรในตอนนี้หรอก ถึงแม้เราจะไม่เคยเกรงทานตะและกาสิก"ฟางพูดเด็ดขาดให้ท่านทั้งสองได้รับรู้

 

"กระหม่อมก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะพระเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นเราคงหลีกเลี่ยงสงครามมิได้พระเจ้าค่ะ"เจ้าคุณธรรมการพูดอีก ทำให้ฟางถอนหายใจยาว พลางครุ่นคิดเป็นอย่างมาก

 

ณ ตำหนักป้อมปืน

 

"อย่าน่ะพระเจ้าค่ะ องค์หญิง อย่าน่ะพระเจ้าค่ะ"ทหารรอบๆตำหนักรีบเข้ามาห้ามเฟย์ทันที เพราะเธอกำลังจะกระโดดหน้าผาเพราะเธอคิดจะฆ่าตัวตาย

 

"จะทรงทำอะไรน่ะ"เขื่อนรีบวิ่งมาดูทันที เพราะมีทหารไปบอกเขา เฟย์ตกใจรีบหันไปหาเขื่อน

 

"ลงมาเถอะ"เขื่อนพูดอีก เฟย์จึงมองหน้าเขื่อน พลางร้องไห้ไปด้วย

 

"หม่อมฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เว้นแต่จะทรงพระกรุณา"เฟย์พูด แล้วปาดน้ำตาของเธอ

 

"นี่ใครปล่อยให้เจ้าหญิงขึ้นมาถึงที่นี่ได้ฮ่ะ"เขื่อนพูดกับทหารอย่างหัวเสีย

 

"องค์หญิงทรงขอทหารเวร หลอกว่าจะออกมาเดินเล่นพระเจ้าค่ะ"เคนตะทหารคนสนิทของเขื่อนเล่าให้เขื่อนฟัง

 

"งี่เง่าที่สุด แค่นี้ก็โดนหลอกได้ สั่งขังทหารเวรนั่นให้หมดเลยน่ะ"เขื่อนตะโกนบอกเคนตะอย่างโมโห

 

"อย่าเลยเพค่ะ อย่าให้ทหารพวกนั้นต้องมาเดือดร้อนเพราะหม่อมฉัน ถ้าจะลงโทษหม่อมฉันขอรับโทษนั่นเอง"เฟย์บอกเขื่อนไป

 

"เอาล่ะ ก็ได้ตามใจฝ่าบาท ทรงต้องการอะไรก็บอกหม่อมฉันมา ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก"เขื่อนจ้องหน้าเฟย์อย่างโมโห

 

"ทรงรับปากหม่อมฉันก่อนได้ไหมล่ะเพค่ะ"เฟย์พูดเสียงสั่นเครือ

 

"ถึงหม่อมฉันจะยังไม่ได้เป็นเจ้าหลวง แต่คำพูดของหม่อมฉันก็เชื่อถือได้ ฝ่าบาททรงต้องการอะไรบอกหม่อมฉันมาเลย"เขื่อนพูดอีก เฟย์จึงมองหน้าเขื่อนอย่างกล้าๆกลัวๆ

 

"หม่อมฉันขอลี้ภัยได้ไหมเพค่ะ"เฟย์บอกเขื่อน เขื่อนงงและอึ้งไปชั่วขณะ

 

"จากอะไร"เขื่อนถามเฟย์

 

"จากการอภิเษก หม่อมฉันไม่อยากอภิเษกกับเจ้าหลวงแห่งกาสิก หม่อมฉันคงขอมากเกินไป นำความยุ่งยากมาให้พระองค์ แต่ถ้าจะส่งหม่อมฉันกลับ หม่อมฉันขอตายซ่ะตอนนี้ดีกว่า"เฟย์พูดจบ ก็จะกระโดดลงหน้าผา แต่เขื่อนรีบวิ่งไปรับทันที

 

"ฝ่าบาท"เขื่อนพูด แล้วกระชากตัวเฟย์ให้ไปอยู่ในอ้อมกอด เฟย์ที่อยู่ในอ้อมกอดเขื่อนนั้นก็ร้องไห้อย่างหนัก

 

"ถ้าไม่ทรงช่วยหม่อมฉัน ขออย่าช่วยหม่อมฉันเลยเพค่ะ"เฟย์พูด น้ำเสียงสั่นเครือเพราะเธอร้องไห้อย่างหนัก เขื่อนที่มองเฟย์ก็หนักใจและแปลกใจว่าทำไมเฟย์ถึงไม่อยากแต่งานกับเจ้าหลวงภาณุ

 

กลับมาที่ วังหลวง แคว้นพันธุรัฐ 

 

"เฮ้อ ทูลกระหม่อมฟ้าชายน่ะ ไม่รู้ว่าทรงคิดอะไรอยู่ โจมตีขบวนเกียรติยศแบบนั้น ถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติกาสิกอย่างแรงเลยน่ะเพค่ะ"แม่นมของฟางพูดกับฟางอย่างหัวเสีย

 

"แต่เราก็ยังไม่รู้น่ะค่ะ ว่าเรื่องทั้งหมดความจริงมันเป็นยังไง"ฟางพูดแก้ตัวให้พี่ชายตนเอง

 

"แต่การที่นมมองรูปการแล้วเนี่ย นมหวั่นใจยังไงไม่รู้น่ะเพค่ะ เพราะว่าพวกคนภูเขาอย่างกาสิกเนี่ย เค้ามีความอดทนและมีความชำนาญในการรบมากๆเลยเพค่ะ แถมเจ้าหลวงองค์ใหม่ก็ทรงสนับสนุน ว่ากันว่ายังทรงหนุ่มอยู่น่ะเพค่ะ แต่ก็มะ มะมีพระทัยโหดเหี้ยมมากเลยเพค่ะ ญาติหม่อมฉันที่อยู่ทางแถบชายแดนเล่าว่า กาสิกเนี่ยมีโทษอยู่สองอย่างเท่านั้นก็คือตัดหัว กับตัดมือไม่มียกเว้น"แม่นมเล่าถึงกาสิกให้ฟางฟัง ทำเอาฟางที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ค่อยพอใจ

 

"ใจร้าย คนใจร้ายเท่านั้นที่จะทำได้ถึงขนาดนี้ ทูลกระหม่อมพ่อเคยบอกว่า การเป็นเจ้าหลวงที่ดีเนี่ยไม่ได้ใช้แค่อำนาจเพียงอย่างเดียว"ฟางพูด แล้วถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยล้า

 

"เอ่อ ไม่ใช้แค่นี้ ยังมีอีกน่ะเพค่ะ เค้าว่ากันว่าเจ้าหลวงกาสิกเนี่ย สามรถที่จะฆ่าคนแล้วนำมาเสวยต่อได้เลยน่ะเพค่ะ"แม่นมพูด ชวนฟางขนลุกซู่

 

"ป่าเถื่อนที่สุดเลย สงสารเจ้าหญิงทานตะน่ะที่ต้องไปแต่งงานกับผู้ชายที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ นี่ฟางพูดในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ในฐานะของขัตติยะกุมารีที่เกิดมาพร้อมกับภาระและหน้าที่แล้วเนี่ย เจ้าหญิงก็ทรงปฏิเสธหน้าที่นี้มิได้"ฟางพูด แล้วทำหน้าหนักใจ

 

"ธนันต์ธรณ์"เสียงพระราชมารดาของฟางเรียกเธอ..

 

 

 

 

 

 

ติดตามต่อตอนหน้าน่ะค่ะ ป๊อปฟางเยอะแน่นอนจ้ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ขอเล่าความเป็นมาก่อนเดี๋ยวจะงงกัน ฝากเม้นต์โหวตกันเยอะๆน่ะค่ะ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา