Because of you เพราะนายฉันถึงเป็นแบบนี้
5.0
เขียนโดย Avalle_Cafe
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
11 ตอน
0 วิจารณ์
18.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) Chapter 7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 7
[Sandeul talk]
ปังๆๆ!!
“อืมม...” ผมมองชินวูส่งเสียงรำคาญใส่ผม...เพราะผมเคาะประตูอย่างดัง ก็เพื่อให้ชินวูฮยองตื่นไวๆน่ะครับ ไม่งั้นไม่ตื่นแน่ๆ ตั้งแต่ที่ไม่ต้องไปปลุกบาโร ฮยองก็ตื่นเองไม่ค่อยได้เลย = =!
“ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะฮยอง!”
“5 นาทีนะง่วง...” แล้วใครให้เล่นเกมไปถึงตี 2 กันล่ะ!
“ไม่มี 5 นาที ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องเอารายงานไปให้จินยองดูไม่ใช่หรอ”
“เฮ้ย! จริงด้วย ว่าแต่...นายเลิกเรียกจินยองว่าจินยองฮยองตั้งแต่เมื่อไรน่ะ”
“สักพักแล้วล่ะฮะ” ชินวูพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะลุกออกจากเตียง
“แล้วนายล่ะ ไม่ต้องไปปลุกบาโรหรอ” นั้นสินะ ยังต้องไปปลุกอีกไหมนะ เขา...จะยังอยากให้เราไปเป็นคนปลุกอีกหรือเปล่านะ
“เขาคงให้คนอื่นไปปลุกแทนแล้วมั้งฮะ” ผมตัดสินใจออกไปจัดโต๊ะอาหาร...แล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงบาโร แม้ตอนนี้แผลของผมจะหายพองไปมากแล้ว เพราะชินวูฮยองทายาให้ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปลูบมัน แผลที่บาโรฝากเอาไว้ “ชินวูฮยอง! ผมไปก่อนนะ อาหารอยู่บนโต๊ะนะฮะ”
ห้องของบาโร...
แล้วสุดท้ายผมก็อดไม่ได้ที่จะมาปลุกบาโร ผมเปิดเข้าไปในห้องนอนอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะเห็นบาโรนอนอยู่บนเตียง...นอนหน้าคว่ำอยู่ ข้าวของเละไปหมด คงจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมออกไปแล้วสินะ
“บาโร...” ผมเขย่าตัวบาโรเบาๆ “ตื่นสิบาโร จะสายแล้วนะ” ผมเขย่าแรงขึ้น
“หืมม...ซานดึลหรอ? กลับมาทำไม” ฮึก...นั้นสินะ กลับมาทำไมกัน
“ก็มาปลุกนายไง ฉันเตรียมข้าวไว้ให้แล้ว รีบๆตื่นไปกินได้แล้ว”
“...” บาโรเงยหน้ามองผมอยู่สักพัก ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยเลือกที่จะเดินออกมารอข้างนอกห้อง ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ว่าทำไมผมถึงไปจากบาโรไม่ได้สักที แม้จะรู้ว่าที่ผ่านมานั้นมันเป็นเพราะคำสัญญา เขาเลยดีกับผม...แต่ตอนนี้สัญญามันหมดไปแล้ว เขาไม่ดีกับผมแล้ว...ทำไมผมถึงยัง...เป็นบ้าคนเดียวอยู่อย่างนี้กันนะ เมื่อไรผมจะลืมความรู้สึกนี้ได้สักที ผมไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว
“คืนนี้กลับมานอนที่ห้องนี้ เข้าใจไหม” ผมหันไปมองบาโร ก่อนจะพยักหย้าช้าๆ
“อืม เข้าใจแล้ว” ผมมองบาโรเป็นระยะๆ ก่อนตัดสินใจพูดออกไป “ฉัน...เข้าไปทำความสะอาดในห้องนายก่อนนะ มัน..เอ่อ..ค่อนข้างรกน่ะ” แล้วผมก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอนบาโรทันที
ผมหยิบกรอบรูปอันนี้ขึ้นมา กระจกมันแตกแล้ว...รูปของผมกับบาโร บาโรยังมีรูปนี้อีกหรอเนี่ย ไม่สิ...คงลืมเอาออก เลยปัดทิ้งแบบนี้ เสื้อผ้าก็ถูกขว้างเละไปหมด ที่นอนก็ไม่ได้จัด
“เอารูปมาให้ฉัน” ผมหันไปมองบาโรที่ยืนอยู่หน้าประตู ก่อนจะหยิบรูปออกจากกรอบรูป แล้วส่งให้บาโร
“นายเก็บไว้หรอ”
“หึ ก็มันมีประโยชน์ไม่ใช่หรือไง? จินยองจะได้หึง” นั้นสินะ...นายไม่เคยเห็นฉันเป็นอย่างอื่นนอกจากเครื่องมือเลยสักครั้งเดียว
“จัดเสร็จแล้ว เอ่อ...จะไปพร้อมกันไหม หรือจะแยกกันไป”
“ไปด้วยกันสิ” แล้วบาโรก็เดินออกไปรอข้างนอก...แค่นั้นมันก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้วล่ะ แม้นายจะไม่ใจดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันก็ชอบที่นายเป็นแบบนี้แหะ
“ร..รอด้วยสิ”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“กี่โมงแล้วเนี่ย...เฮ้ย!! กงชานตื่นๆๆๆ จะสายแล้วนะ!” ผมหันไปปลุกกงชาน...ที่นอนกอดผมอยู่ น่ารักชะมัด...ยิ่งนึกย้อนไปเมื่อคืนยิ่งเขิน (.////////////.)
เมื่อคืน
‘คิดถึงมากๆเลยนะ รู้ไหม...’ ผมบอกกับกงชาน แต่กงชานก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากอึ้งไปสักพัก
’ฮยอง...พูดจริงๆหรอฮะ’ แน่นอนว่าไม่จริง...ฉันไม่ได้คิดถึงนาย แต่อีกคนเขาคิดถึง และฉันก็แค่อยากจะใช้ชีวิตนี้ให้คุ้ม...ให้รู้จักกับความรัก ก่อนที่อีกคนเขาจะกลับมา
’แล้วนายคิดว่าฉันจูบนายเพราะอะไรล่ะ’
’เพราะ...คิดว่าผมเป็นบาโรหรือเปล่าครับ’ ถ้านายเป็นบาโรล่ะก็...ฉันคงไม่จูบนายหรอก ฉันยังมีสติครบถ้วนอยู่นะ
’เปล่าสักหน่อย จริงอยู่ที่ฉันคิดว่าฉันชอบบาโร...แต่บาโรไม่เคยทำให้หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนนายได้เลยสักครั้ง มีแต่นายเท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้’
’ฮยอง...รู้ไหมว่าผมหายไปไหนมา’ หายไป? ไม่น่าล่ะ...ทุกคนถึงได้พูดว่ากลับมา
’นายหายไปไหนมาล่ะ รู้ไหมว่าฉันตามหานายแทบตาย’ นายต้องขอบใจฉันนะจินยอง ที่จะทำให้นายรู้ว่าเขาหายไปไหนตอนที่นายไม่อยู่
’ฮยองตามหาผมอย่างนั้นหรอฮะ?’
’ก็ใช่น่ะสิ! จู่ๆก็หายตัวไป โดยไม่บอกไม่กล่าว ฉันก็เป็นห่วงน่ะสิ’
’ฮยองตามหาผมนานแค่ไหนหรอฮะ’
รู้สึกแย่จังเลยแหะ แต่ฉันไม่ได้ไปตามหานายหรอก ก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลนี่นา แล้วตอนนั้นฉันก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปจำนายเสียด้วย ไอ่หมอนั้น...ไม่อยากนึกถึงมันอีกเลย ผมเลยเลือกที่จะตอบว่า
’ก็ตั้งแต่นายหายไปจนนายกลับมาเนี่ยแหละ’ ถ้านายยังอยู่ในตอนนั้น นายก็คงจะทำอย่างนี้ใช่มั้ยจินยอง...
’...ผมคิดถึงฮยองมากเลยรู้ไหมฮะ หลายปีที่ผ่านมามันทำเอาผมแทบคลั่ง ผมเพิ่งรู้นะว่าผม...เข้าใจผิด’
’เข้าใจอะไรผิดอย่างนั้นหรอ? บอกฉันได้ไหมว่าอะไรที่มันทำให้นายหายไป’
ผมมองเข้าไปในดวงตาของกงชาน ข้างในนั้นดูสับสนเหลือเกิน เหมือนพยายามจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองไม่เชื่อ ก็แน่สิ ก็ผมไม่ได้รู้ความจริงทั้งหมดเสียหน่อย
’ผม...นึกว่าฮยองพนันกับบาโรฮยอง ว่าถ้าฮยองจีบผมติด ฮยองก็จะชนะ แล้วก็สามารถคบกับชินวูฮยองได้โดยที่บาโรฮยองไม่ขัดยังไงล่ะครับ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยครับ?’ ฉัน...ไม่สิ จินยองกับบาโรเนี่ยนะ สรุปแล้วนายชอบใครกันเนี่ยจอง จินยอง คนอย่างชินวูเนี่ยนะ? แล้วกลายเป็นว่าไม่ได้ชอบบาโร มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างเด็ดขาด
แม้ฉันจะไม่รู้เรื่องทั้งหมดนะ แต่คนอย่างจินยองไม่น่าจะไปชอบชินวูได้...ก็นายให้ฉันเห็นตอนนายกับกงชานรักกันเองไม่ใช่หรอ นายดูมีความสุขมากจริงๆนะ มันไม่ใช่การแสแสร้งเสียหน่อย จูบนั้น ของขวัญนั้น นายก็ทำมาจากใจของนายทั้งนั้นเลย ต้องมีใครไปใส่ความแน่ๆ แต่คนๆนั้นเขาเป็นใครกัน
’มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างเด็ดขาด ฉันไม่ได้ชอบชินวู แล้วบาโรก็ไม่ได้มาขวางด้วย ฉันไม่ได้พนันอะไรทั้งนั้น ใครเป็นคนบอกนายเรื่องพวกนี้น่ะห่ะ’
’...ผมลืมไปแล้วล่ะครับว่าใครเป็นคนบอก มันหลายปีมาแล้วนะฮะ เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าทำไมตอนที่ผมกลับมา ฮยองถึงทำเหมือนจำผมไม่ได้ล่ะฮะ’
’นั้นก็เพราะว่า...’ เพราะอะไรดีล่ะเนี่ย! ฉันจะไปรู้กับนายไหมล่ะ อืมม...
’…’
‘...เพราะว่าฉันโกรธนายน่ะสิ จู่ๆนายก็หายไปแล้วจู่ๆนายก็กลับมา ทั้งที่ฉันตามหานายแทบตาย มันเหมือนกับว่าฉันถูกนายทิ้งไปเลยนะ รู้บ้างไหม แล้วนายจะให้ฉันมานั่งยิ้มต้อนรับนายอย่างนั้นหรอ ฉันนึกว่า...ฮึก ฉันนึกว่านายมีคนอื่นแล้วด้วยซ้ำ ฮึก’ ผมบีบน้ำตา
‘ผม...ขอโทษฮะ ผมขอโทษที่จู่ๆก็หายไป ผมขอโทษนะฮะ’ กงชานเดินเข้ามากอดผมอย่างอบอุ่น
‘ฮือๆๆ’ กงชานกระชับกอดผมให้แน่นขึ้นกว่าเก่า
’ผมขอโทษนะ...ผมยังไม่มีใครเสียหน่อย ผมก็ยังรักฮยองอยู่เหมือนเดิม’
’รักฉัน...ตลอดไปนะ’ กงชานค่อยๆโน้มตัวลงมาช้าๆ ก่อนจะประกบริมฝีปากของเขาลงที่ริมฝีปากบางๆของผม ไม่มีการลุกล้ำใดๆทั้งสิ้น
11:27 นาที
’ผมชักง่วงแล้ว ไปนอนกันเถอะฮะ’ กงชานบอกผม ก่อนจะเดินแยกไปนอนที่พื้น
’...’ ผมเลยเลือกที่จะเดินขึ้นเตียง แต่ผมก็นอนไม่หลับ...’กงชาน...นอนหรือยัง’
’ยังฮะ มีอะไรหรือเปล่าครับ’
’…นอนบนพื้นน่ะ หนาวไหม’
’ฮยองมานอนเองไหมล่ะครับ จะได้รู้’
’งั้น...ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันสิ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านอนบนพื้นมันหนาวไหม รู้แค่ว่านอนบนเตียงคนเดียวแล้วมันหนาวชะมัดเลย’ แล้วผมก็ไม่ได้ยินกงชานตอบอะไร ผมเลยนอนหันไปอีกข้างด้วยความอายที่ถามออกไปอย่างนั้น แล้วสุดท้ายก็ถูกปฏิเสธ
‘…ถ้าฮยองไม่ขยับ แล้วผมจะนอนบนเตียงได้ยังไงล่ะครับ’ เสียงที่ดังข้างหูทำให้ผมสะดุ้ง แล้วรีบลุกขึ้นหันไปหาต้นเสียงทันที
แล้วผมก็ผมว่ากงชานนั้นกำลังคล่อมผมอยู่นิดๆ ก่อนจะขยับออกไปเพราะผมลุกขึ้นมา ผมเลยขยับใหเกงชานขึ้นมานอนด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้สึกหัวใจเต้นแรงแปลกๆ
‘ฝันดีนะฮะ’ กงชานโน้มตัวมากอดผม แล้วกระซิบบอกผมอย่างแผ่วเบา ผมที่ไม่กล้ามองหน้ากงชานก็ทำได้เพียงซุกใบหน้าลงที่อกแกร่งของกงชาน ก่อนจะผล่อยหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว
กลับมาปัจจุบันๆ
เขินนนน > </// อย่าทำให้ฉันหลงรักนายจะได้ไหมเนี่ย ฉันแค่อยากรู้จักกับความรัก ไม่ใช่รักนายเข้าจริงๆเสียหน่อย เพราะฉันกลัว...กลัวว่าฉันจะเสียนายไป ฉันมีเวลาอีกไม่มากนะ แล้วมันจะเป็นไปได้ไหม...ว่านายจะรักฉันที่เป็นฉัน ไม่ใช่เพราะฉันใช้ร่างกายของจินยอง นายจะรักฉันแล้วฉันจะรักนายได้ไหมในช่วงเวลาที่เหลือนี้
“ตื่นๆๆๆ เดี๋ยวจะสายแล้วนะ!!” ผมตีลงไปที่แขนของกงชานอย่างแรง
“โอ๊ยๆ ตื่นแล้วครับๆ”
“อยากเนียนดีนัก ก็ต้องโดนอย่างนี้แหละ” ผมแลบลิ้นใส่กงชาน แล้วกงชานก็ยื่นมือมาบีบจมูกผมเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว แต่...อย่าเล่นสิฟ่ะ จมูกยิ่งไม่มีอยู่
“ถ้าผมช้ำขึ้นมา ฮยองจะเสียใจนะครับ ^^” หลงตัวเอง! แหวะๆๆ
“แหวะๆ ตื่นเลยนะ” กงชานหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยลุกไปเตรียมชุดนักเรียนให้ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดของผมด้วยเหมือนกัน
ผมเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปเตรียมอาหาร แต่มันไม่มีเวลาทำแล้ว ผมเลยเลือกกับข้าวที่เหลือเอาออกมาอุ่นกินแทน พออุ่นเสร็จผมก็มาจัดโต๊ะอาหาร แล้วก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด กงชานคงจะใช้เสร็จแล้ว ผมเลยเดินเข้าไปข้างในห้อง แล้วเข้าไปห้องไป
พอผมแต่งตัวเสร็จ ผมก็เห็นกงชานกำลังเตรียมกระเป๋าเรียนให้ผมอยู่ น่ารักจริงๆเลย (- ///)<<หันหน้าหนี ทำเป็นมองไม่เห็น นั้นแหละคือสิ่งที่ผมทำ ก็คนมันเขินนี่นา
“ไปทานข้าวกันเถอะครับ เดี๋ยวหายเย็นหมด”
“อื้มๆ รีบกินเลยๆ เดี๋ยวไปสาย”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“เดี๋ยววันนี้ฉันจะไปหาเรื่องจินยอง นายอยากให้ฉันทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” ผมหันไปถามบาโรที่เดินอยู่ข้างๆผม บาโรคิดสักพักก่อนจะตอบผม
“วันนี้ไม่ต้องไปหาเรื่องหรอก มาอยู่กับฉันเนี่ยแหละ จินยองน่าจะหึงมากกว่า” ผมมองบาโรอย่างงง ก่อนจะพยักหน้ารับช้าๆ ก็ดีเหมือนกันนะที่ได้อยู่ใกล้ๆบาโร
“แล้วนายจะให้ฉันอยู่กับนายตอนไหนล่ะ ฉันจะได้มาถูกเวลา”
“ก็อยู่ตลอดเวลานั้นแหละ” ตึกตัก ตึกตัก...อย่าพูดแบบนี้สิ นายกำลังทำร้ายคนๆนี้ที่รักนายอยู่นะ นายอย่าให้ความหวังกับคนที่สิ้นหวังอย่างฉันสิ
“อ..อืม วันนี้นายมีสอบเลขนี่นา อ่านหนังสือบ้างหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่มีอารมณ์อ่าน”
“งั้นฉันติวให้นะ” แต่บาโรก็ไม่ตอบอะไร ผมเลยเงียบด้วยเหมือนกัน
ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมบาโรถึงเงียบไปอย่างนี้ล่ะ แต่ไม่ทันทีผมจะหาคำตอบให้ตัวเองได้ บาโรก็หายไปเสียแล้ว ผมหันไปมองรอบๆแต่ก็ไม่พบ แล้วจู่ๆผมก็ถูกนักเรียนกลุ่มนึงเดินเข้ามาทัก
“น้องซานดึลครับ แผลเป็นยังไงบ้างครับ” อูฮยอนฮยอง เขาเป็นรุ่นพี่ผมปีนึง น่าแปลกที่คนที่ป็อปปูล่าอย่างเขาจะมาทักคนอย่างผม
“เอ่อ...แผลก็เริ่มหายแล้วล่ะครับ ขอบคุณครับ”
“แล้วไปมีเรื่องกับประธานนักเรียนหรอครับ ถึงได้โดนทำถึงขนาดนี้” เอลฮยองถามผมบ้าง คนอะไรหน้าตาดีชะมัด รวมตัวกันหน้าตาดีหรอไง =.,=;;
“ผมคงไปขัดหูขัดตาเขาล่ะมั้งครับ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
“ระวังตัวเองด้วยนะครับ ฮยองไม่อยากให้คนน่ารักๆต้องเป็นอะไรไป” ซองคยูฮยองเอื้อมมาจับมือผม
“เอ่อ ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“กลัวพวกฮยองหรอครับคนดี ไม่ต้องห่วงหรอก พวกฮยองก็แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง” ซองจงฮยองพูดบ้าง ฮยองคนนี้น่ารักชะมัด - -//
“ไม่ได้กลัวหรอกครับ แต่พอดีว่าพวกผมต้องไปทำอย่างอื่นน่ะครับ ขอตัวก่อนนะครับ” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังของผม ทำให้ผมรีบหันไปมองทันที แล้วก็พบว่าบาโรนั้นคงไปซื้อขนมมา บาโรส่งถุงขนมให้ผมถือบางส่วนแล้วเอื้อมมาจับมือของผม ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามไป...
แรงบีบนั้นก็เยอะไม่ใช่เล่น มันทำให้ผมเจ็บอยู่เหมือนกัน แต่เหมือนสวรรค์จะรู้ บาโรค่อยๆคลายแรงออก ก่อนที่เราจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องรองประธานนักเรียน ผมเดินบาโรเข้าไปข้างในก่อนที่จะถามออกไป
“มาที่นี่ทำไมหรอ” / “ไปอ่อยพวกรุ่นพี่ทำไม” ผมกับบาโรเราพูดพร้อมกัน มันเลยทำให้ผมได้ยินสิ่งที่บาโรพูดไม่ถนัดเท่าไร
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”
“ไปอ่อยพวกรุ่นพี่ทำไม!” บาโรตะคอกใส่ผมจนผมสะดุ้ง
“ก็แค่คุยกันเฉยๆ เขาก็แค่มาถามเรื่องแผล...” ผมเอ่ยคำว่าแผลเบาๆ
“แล้วก็เลยสำออย โดนจับไม้จับมือก็ยอม เนี่ยหรอไม่อ่อย”
“ถ้าสะบัดออกก็เสียมารยาทน่ะสิ แล้วฉันไม่ได้สำออยนะ” ผมชักฉุนขึ้นมาบ้าง
“ช่างมันเถอะ”
“...แล้วนายพาฉันมาที่นี่ทำไมอ่ะ”
“ก็จะติวไม่ใช่หรือไง”
“แล้วขนมพวกนี้ล่ะ”
“ฉันไม่กิน” งั้นก็แปลว่า...บาโรซื้อมาให้ผม?
“ขอบใจนะ”
“จะติวไหม ฉันมีสอบตอนบ่ายนะ นี่ก็สิบเอ็ดโมงแล้วเนี่ย” ผมรีบพยักหน้าแล้วไปนั่งข้างๆบาโรทันที “แล้วอย่าบ่นว่าหิวก็แล้วกัน”
“รู้แล้วล่ะน่า นี่นะ...”
ผ่านไปชั่วโมงนึง
“เข้าใจไหม” ผมถามหลังจากติวมาได้ชั่วโมงนึงและขนมที่หมดไป 3 ห่อ...ผมไม่ได้กินเยอะนะ!
“อืม เข้าใจแหละ”
“มีตรงไหนที่ไม่เข้าใจอีกไหม”
“ไม่แล้ว” ผมมองบาโรที่อยู่ๆก็ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าเรียน แล้วทำท่าจะออกไป “จะกินไหม ข้าวน่ะ”
“กินๆ รอด้วย”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
เมื่อเช้ากงชานเกือบเข้าไปเรียนไม่ทันแหนะ ตอนนี้ผมก็เลยมานั่งเคลียร์งานกับชินวู ทำไมมันเยอะขนาดนี้เนี่ย มันสมองของนายน่ะ ให้ฉันบ้างสิจินยอง! ให้ตายสิ...พออยู่กับชินวูสองต่อสองแล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่องที่กงชานพูดขึ้นทันที ‘คบกับชินวูโดยที่บาโรไม่ไปขัดขวาง’ จินยอง...นายชอบนายรักใครกันแน่? บาโร ชินวู กงชาน...ฉันงงไปหมดแล้วนะ! นายช่วยเอาความทรงจำของนายมาทำให้เรื่องนี้ชัดเจนหน่อยสิ
ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งกงชานบอกผม ผมรู้สึกเหมือนชินวูจะชอบมองผมเป็นระยะๆ ทำไมผมไม่เคยสังเกตุมาก่อน หรือว่าชินวูจะชอบจินยองเหมือนกัน นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย
“นายมีอะไรจะพูดหรือเปล่า เห็นมองฉันบ่อยๆนะ” ผมลองแกล้งถามชินวูดู
“อ..เอ่อ คือจะถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เห็นนั่งเหม่อน่ะ” ผมมองดูอาการลุกลี้ลุกลนเล็กน้อยของชินวู ท่าทางเหมือนโดนจับได้ว่าทำอะไรผิด นายชอบจินยองจริงๆหรอ
“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ งั้นฉันไปกินข้าวก่อนนะ นายเองก็พักก่อนก็ได้ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”
“อื้ม...จินยอง ขอถามอะไรหน่อยสิ” ผมที่กำลังหยิบกระเป๋าอยู่หันไปมองชินวู
“อะไรหรอ”
“นาย...จำกงชานได้ใช่มั้ย” เอาอีกคนแล้วไง ชินวูเป็นหนึ่งในคนที่รู้จักกงชานอย่างนั้นหรอเนี่ย
เรื่องนี้มันชักแปลกๆแล้วนะ บาโร กงชาน ชินวูอยู่ในช่วงนั้น แล้วซานดึลล่ะ? แล้วใครเป็นคนไปบอกกงชานเรื่องที่จินยอง(อาจจะ)พนันกับบาโร เอาความทรงจำของนายมาแบ่งปันกันบ้างสิ!
“จำได้สิ แม้จะนานแล้วก็ตาม ใครจะไปจำรูมเมทคนแรกของฉันไม่ได้ล่ะ” ผมพยายามมองท่าทีของชินวู
“แล้วนายจำได้ไหมว่าไปทำอะไรให้กงชาน กงชานถึงหายไป”
“ก็เห็นเล่าว่ามีคนไปบอกว่าฉันกับบาโรพนันกันน่ะ”
“พนันเรื่องอะไรหรอ”
“ไม่รู้สิ กงชานไม่ได้ได้บอกน่ะ นายเองก็คงรู้จักกงชานสินะ ก็ไปถามสิ”
“เอ่อ อืม แล้วนายพนันจริงๆหรือเปล่า”
“คนอย่างฉันไม่ชอบพนันอะไรหรอก”
“อืม งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ไว้เจอกันหลังกินข้าวนะ” ผมพยักหน้ารับ แล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องทำงานของผมไป แล้วมุ่งไปที่จุดนัดพบของผมกับกงชาน
ผมกับกงชานกำลังเดินเลือกสิ่งที่อยากจะกินอยู่ มีหลายอย่างเลยที่ผมอยากจะกิน เลยไม่รู้จะเลือกอะไร ผมเลยให้กงชานเป็นคนเลือกให้ แล้วเราก็ไปเลือกที่นั่งกัน แต่แล้วผมดันเหลือบไปเห็นซานดึลกับบาโรกำลังทานอาหารกันอยู่ วันนี้ผมอารมณ์ดี ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ปล่อยซานดึลไปสักวันก็คงไม่เป็นอะไร...แต่พอไม่มีบาโรแล้วมันก็หวิวๆนะ เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
“อิ่มแล้วหรอครับ ไม่เห็นกินเลย” กงชานทักผมที่นั่งเขี่ยข้าวที่อยู่ในจาน
“อื้ม กินไม่ค่อยลงน่ะ แล้วนี่นายมีเรียนตอนบ่ายเหมือนกันใช่มั้ย”
“วันนี้อาจารย์ไม่เข้าน่ะครับ ให้ไปอ่านหนังสือสอบ”
“งั้นนายจะทำอะไรต่อล่ะ” ผมถาม เพราะผมมีเรียนตอนบ่าย
“ก็ว่าจะออกไปข้างนอกหน่อยน่ะครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ
“งั้นฉันไปก่อนนะ เที่ยวให้สนุกล่ะ” ผมทำท่าจะลุกแล้ว แต่กงชานก็เรียกผมเสียก่อน
“ผมยังไม่ได้อวยพรเลย” อวยพร?
“อวยพรอะไรของนายน่ะ” กงชานกวักมือเหมือนให้เข้าไปหา ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปฟัง
ฟ๊อดดดด กงชานหอมแก้มผม...!!!
“บ้า! ไปล่ะ” พูดจบแล้วผมก็รีบเดินหนีไปทันที
“โชคดีนะฮะ ^^” ไอ่บ้ากงชาน ทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าสาธารณะชนได้ยังไงกัน แล้วนี่ก้มีแต่คนที่รู้จักผมเสียด้วยสิ ผมหันไปมองรอบๆตัว โชคดีไปที่ไม่มีใครมองมาที่ผม สงสัยคงจะไม่เห็นล่ะมั้ง
หมดคาบนี้เสียสักทีนะ เฮ้อออออ ทีนี้ก็ออกไปเที่ยวได้แล้ว วู้ฮู้! ไปยืดเส้นยืดสายหน่อยดีกว่า จะว่าไป...จะโทรไปถามว่ากงชานอยู่ที่ไหนก็เดี๋ยวจะดูเหมือนโทรไปจิก จะไปด้วยก็กลัวจะตัวติดกันจนกงชานรำคาญ งั้นก็ไปเที่ยวคนเที่ยวคนเดียวเนี่ยแหละ ไปกินไอศรีมดีกว่า เหมือนจะไม่ได้กินมานาน
ปริ๊นๆ!
ผมหันไปมองรถที่บีบแตรใส่ผม ผมก็ไม่ได้เดินกลางถนนนี่หว่า แล้วจะบีบทำไมเนี่ย พอลดกระจกเท่านั้นแหละ โอ้...นายชินวูของเรานี่เอง รถสวยนะเนี่ย
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่ง”
“นายจะไปไหนอ่ะ กลัวไปคนละทางกัน”
“จะไปร้านน่ะ นายเองก็น่าจะไปมอลล์ไม่ใช่หรอ” รู้ได้ไงอ่ะ = =;;
“โอเคๆ ขอบใจนะ” แล้วผมก็ขึ้นไปนั่งที่ข้างๆคนขับ “รถนายหรอ สวยดีนี่”
“รถของร้านน่ะ เขาให้ยืมมา พอดีว่าวันนี้ต้องไปพบลูกค้า” ผมพยักหน้าเล็กน้อย อาของชินวูนั้นเปิดกิจการเอง เป็นร้านเกี่ยวกับรถ ซ่อมรถ ขายรถ ตกแต่งทำสีรับทำหมด
พอขับมาสักพักแล้วผมก็ลง ผมลาชินวูก่อนจะหาร้านไอศครีมหรือไอติมกินนั้นเอง พอผมเลือกร้านได้ผมก็มาต้องมายืนเลือกโต๊ะอีก กว่าจะได้กินก็ต้องเลือกรสอีก
“จินยอง! มากินด้วยกันสิ” ผมหันไปตามเสียงเรียก อ๋อ เจ้าอูฮยอนนี่เองกับเพื่อนกลุ่ม Infinite ของมันนี่เอง
“ว่าไง มากันครบเชียวนะ” ผมนั่งลงก่อนจะเรียกพนักงานเพื่อที่จะสั่งไอติมกิน
“วันนี้ไปเจอน้องซานดึลเขาด้วยเว้ย แผลน้องเขาดูดีขึ้นเยอะเลย แต่ดูเหมือนแฟนจะหวงแหะ” ไอ่ดงอูพูด
“แฟน? ซานดึลมีแฟนแล้วหรอ” ผมทำหน้างง
“ก็บาโร รองประธานนักเรียนไง ว่าแต่แกเหอะ ไปสาดน้ำใส่น้องเขาทำไมว่ะ” โฮยาพูดขึ้นบ้าง
“ไม่ได้สาด มันให้คนที่ไหนมาสาดก็ไม่รู้ แล้ว 2 คนนั้นน่ะ แน่ใจหรอว่าแฟน”
“แน่นะ เพราะตอนที่ไอ่ซองคยูมันจับมือน้องเขานะ ก็รีบเดินเข้ามาแยกเลย ส่วนเรื่องสาดน้ำน่ะ เขาจะทำอย่างนั้นไปทำไมกัน” เอลตอบ
“ซานดึลเขามีแผลมาก่อนอยู่แล้ว แล้วก็สาดน้ำซ้ำ คงอยากจะโทษว่าเป็นความผิดฉันล่ะมั้ง”
“พวกนายเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่หรอ มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ”ซองยอลพูดขึ้นบ้าง
“ก็เรื่องบาโรล่ะมั้ง ซานดึลเขาก็คงจะชอบบาโรแล้วคงคิดว่าฉันเองก็ชอบด้วยเหมือนกัน”
“แล้วแกชอบเปล่าว่ะ” อูฮยอนถามผม
“ไม่รู้ว่ะ ยังไม่แน่ใจ”
“ถ้าแน่แล้วบอกพวกเราบ้างนะ” ซองจงบอกผม
“อ่าๆ ได้ๆ ขอกินไอติมก่อนนะ จะละลายหมดแล้วเนี่ย คำถามเยอะจริง”
“ก็เพื่อพวกเราจะเอาไปลงในหนังสือพิมพ์โรงเรียนไง ฮ่าๆๆ” ซองคยูพูดขึ้น
“ห้ามเลยนะ! ไม่งั้นนายเจอดีแน่” ผมขู่
“กลัวแล้วจ้ากลัวแล้ว ฮ่าๆๆ” ดงอูล้อผม เดี๋ยวเถอะไอ่พวกนี้นี่
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“กลับหอ” ผมหันไปมองบาโรที่กำลังนั่งพิงไหล่ผมอยู่(อย่างยากลำบาก)
“อื้ม ได้สิ แล้วจะกลับไปทำอะไรล่ะ ในหอก็ไม่มีอะไรเสียหน่อย”
“งั้นก็หาอะไรทำสิ”
“ทำอะไรล่ะ”
“...”
“นายอยากทำอะไรล่ะ”
“ตามใจฉันไหมล่ะ” บาโรเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดๆ ผมก็ทำได้แค่หลบสายตาคู่นั้น แล้วผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของบาโรเบาๆ
“นายอยากทำอะไรก็แล้วแต่เลย” แต่ดูเหมือนผมจะห็นบาโรลอบยิ้มที่มุมปากนะ ดวงตาคู่นั้นที่มองมาที่ผมมันหมายความว่ายังไงกันนะ ผมอยากจะรู้จริงๆเลยว่าบาโรกำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันหิว” หิว...เพิ่งกินไปเองไม่ใช่หรอ = =;; นายมาเป็นแบบฉันตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย ฉันว่าไม่ดีม๊างงง อ้วนแล้วลดยากนะจะบอกให้
“ทำไมหิวเร็วจังเนี่ย แล้วจะไปกินที่ไหนล่ะ”
“ที่ห้อง”
“อืมๆ เดี๋ยวทำอะไรให้กินก็แล้วกัน”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
หลังจากที่แยกกับพวกอูฮยอนแล้ว ผมก็มาเดินเล่นต่อจนผมชักเบื่อ ผมเลยตั้งใจจะมาดูหนัง...แต่ดันได้เพื่อนดูหนังมาด้วยนี่สิ ผมหันไปมองคนที่นั่งดูหนังข้างๆผม...ชินวู บังเอิ๊ญบังเอิญว่ามันอยากมาเที่ยว แล้วดันเจอผมที่ไม่มีอะไรทำเข้า เลยชวนผมมาดูหนังนี่แหละครับ
“กินป็อปคอร์นไหม” ชินวูกระซิบบอกผม
“ไม่เป็นไรล่ะ กินไปเถอะ”
ผมกับชินวูเราก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะดูหนังนั้นเอง แต่พอหนังจบเท่านั้นแหละ ชินวูนี่พูดไม่หยุดเลย พูดอยู่นั้นแหละ พูดไปเรื่อยๆเกี่ยวกับหนังดูพร้อมกัน ก็อยากจะบอกอ่ะนะว่าผมก็ดู ผมก็รู้
“ไปหาไรกินกันไหม ชักหิวแล้ว” ผมถามไอ่เพื่อนหมียักพูดมาก
“ไปสิๆ จะกินไรล่ะ”
“อะไรก็ได้ พาไปเลย” ชินวูยิ้มน้อยๆก่อนจะจับมือผมแล้วลากไปกิน...แต่ดูเหมือนมันจะเป็นคนกินมากกว่า ผมยังไม่เสร็จจานแรกเลย แต่มันปาไป 3 จานแล้ว กินจนท้องแตกแล้วมั้งเนี่ย
“นี่ยังไม่อิ่มอีกหรอ” ผมถามชินวูหลังจากที่ชินวูสั่งจานที่ 4 เสร็จ
“พอดีหิวเป็นพิเศษน่ะ” โอ้โห ดีนะที่มันบอกว่าจะเลี้ยง ไม่งั้นเสียเงินบานเลย
“ค่อยๆกินล่ะกัน เดี๋ยวก็สำลักหรอก” ผมนั่งมองชินวูจัดการของตรงหน้าแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ โตตัวเท่าหมีเท่าควายแล้วยังทำตัวเป็นเด็กๆอีก กินเละเทะไปหมด
“สั่งของหวานกินได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจๆ”
“ไม่เป็นไรหรอก...ฮึ ฮึๆๆ กินดีๆดี เลอะไปหมดแล้ว” ผมหยิบกระดาษทิชชู่ก่อนที่จะเอื้อมไปเช็ดที่มุมปากของชินวู แต่เพียงแค่นั้นแหละ ชินวูมันก็หยุดกินแล้วจ้องหน้าผมทันที หน้าผมมีอะไรติดอย่างนั้นหรอ?
“เช็ดให้สะอาดๆเลยนะคุณประธานนักเรียน” ชินวูยิ้มน้อยๆให้ผม ตึกตัก ตึกตัก เฮ้ย! ทำไมหัวใจผมถึงเต้นแรงปลกๆกับมันอีกคนล่ะเนี่ย...หรือว่าสิ่งที่กงชานพูดจะ...เป็นความจริง บ้าน่า จินยองเอ๊ยยย นายช่วยบอกอะไรบ้างสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง
“เอาไปเช็ดเองเลยไป๊” แล้วมันก็โยนกระดาษชทิชชู่ใส่หน้ามัน
“โอ๋ๆ ล้อเล่นน่า ขอบใจนะ” มันยิ้มน้อยๆให้ผม โน่น! ไปยิ้มให้คนอื่นโน้น ผมไม่ต้องการ...อาหารแปลกๆแบบนี้เข้าใจไหมไอ่หมียักษ์
“อืมๆ เช็ดเลยๆ เละไปหมดแล้วเนี่ย”
‘Baby I’m sorry, we…’โทรศัพท์ผมเอง...เพลงค่อนข้างเก่าแล้วก็ตามอ่านะ อย่าสนใจเลย
“ว่าไง” ผมรับสายกงชาน
[ไปเที่ยวกับผมนะ] หืมม...นี่มันก็เริ่มมืดแล้วนะเนี่ย
“จะไปไหนล่ะ”
[ที่ไหนก็ได้ ผมรออยู่ที่หน้าร้านอาหารนะ]
“ร้านไหนอ่ะ”
[...ก็ร้านที่ฮยองทานอยู่ไงครับ] เฮ้ยยยยย!! ล..แล้วไอ่กงชานมันเห็นอะไรที่เกิดขึ้นหรือเปล่าว่ะ = =;;
“อ..อ่า โอเคๆ รอแปปนะ” แล้วผมก็วางสายไป ก่อนจะหันมาพูดกับชินวู “ฉันไปก่อนนะ ขอบใจที่เลี้ยงนะ”
“อื้ม ไม่เป็นไรหรอก ไว้เจอกันที่มหาลัยนะ” ไว้เจอกันวันอังคารก็แล้วกัน จันทร์นี้ผมไม่มีคราส
“อื้ม ไว้เจอกัน” แล้วผมก็รีบหยิบกระเป๋าแล้วรีบเดินออกจากร้านทันที แล้วมันก็จริงด้วย...กงชานยืนรอผมอยู่ที่หน้าร้านอาหารจริงๆ
ซวยแล้วสิ มาเที่ยวก็ไม่ได้บอกก่อน แล้วดันมาเที่ยวกับชินวูคนที่กงชานเคยสงสัยในเรื่องพนันด้วย จะทำยังไงดีเนี่ย! สรุปแล้วที่ผมกังวลเพราะผมกลัวว่ากงชานจะโกรธผมหรือผมกลัวเพราะผมชอบกงชาน นี่ผมชอบกงชานเร็วขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรอ
“ม..มาแล้ว รอนานไหม”
“ก็...รอตั้งแต่ฮยองเริ่มทานแล้วล่ะฮะ” แล้วทำไมไม่โทรมาก่อนล่ะ
“เอ่อ งั้นเราจะไปไหนกันดีล่ะ”
“ไปดูหนังด้วยกันสิฮะ” ผม...เพิ่งดูมาเองนะ = =;;
“เรื่องอะไรล่ะ”
“Warm body ไหมฮะ ผมอยากดู” เรื่องนั้น...ฉันก็เพิ่งดูพร้อมกับชินวู หรือว่า...
“กงชาน นายจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”
“เอ๋ ฮยองคิดว่าผมจะพูดอะไรหรอครับ” ยังมาแอ๊บแบ๊วอีก
“เปล่าหรอก ก็แค่นึกว่านายรู้แล้วว่าฉันดูเรื่องนี้แล้ว”
“ฮะๆ กับชินวูฮยองสินะฮะ”
“ใช่ นายทำแบบนี้ทำไม มีอะไรก็พูดกันตรงๆสิ” อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดแบบนี้
“...ผมก็แค่นึกว่าฮยองจะชอบชินวูฮยองจริงๆก็เท่านั้น”
“กงชาน นายก็น่าจะรู้ดีนี่นาว่าฉันรักนายแค่คนเดียว ฉันรอนายมาตั้งหลายปีนะ” มั้งนะ
“ผมขอโทษ”
“กลับกันเถอะ” ผมเดินไปจับมือกงชานแล้วยิ้มบางๆให้
“...ฮะ”
ห้องของจินยองกับกงชาน
“ผมไปอ่านหนังสือก่อนนะฮะ ผมมีสอบวันจันทร์นี้” นายมีสอบวันพุธไม่ใช่หรอ = =;;
“อื้ม ได้สิ” ผมเลยเดินเข้าไปในครัว ว่าจะทำขนมอะไรให้กงชานกินดี
ผมทำขนมอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตกในห้องนอนของผม...กงชาน!! ต้องเกิดอะไรขึ้นกับกงชานแน่ๆเลย
“กงชาน! นายเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมเรียกกงชาน ก่อนที่จะวางสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ แล้วรีบวิ่งเข้าไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนอนของผมทันที
“...” แต่พอผมเปิดเข้าไปเทานั้นแหละ ผมก็พบกงชานยืนมองแก้วแตกอยู่บนพื้น เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวซ้ำมาผมยืนอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าเขา กำลังมองเขาด้วยความสงสัย
“กงชาน เกิดอะไรขึ้นหรอ” แต่กงชานก็ยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น ผมเลยเดินเข้าไปเขย่าตัวกงชานนิดๆ “กงชานๆ นายได้ยินฉันได้ กงชาน!”
“...แตก...แก้วแตก” กงชานพูดขึ้นเบาๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับกงชานกัน ทำไมสายตาถึงดูว่างเปล่าขนาดนี้
“ฉันรู้ๆ ไม่เป็นไรนะ นายไม่เจ็บใช่มั้ย”
“ผม...ผมไม่เป็นอะไรครับ” กงชานหันมาตอบผม แววตากลับมามีความสดใสอีกครั้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับกงชานกันนะ กงชานกำลังคิดอะไรอยู่ เขากำลังต้องเผชิญกับอะไรกัน ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
“นายดูเหนื่อยๆนะ ไม่ต้องอ่านหนังสือแล้วล่ะ ไว้อ่านพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวฉันเก็บเศษแก้วเอง” กงชานมองผมสักพักก่อนจะเหมือนรู้สึกตัวว่าผมพูดด้วย
“...เอ่อ ครับ ขอบคุณนะฮะ” ผมมองกงชานที่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง ทำไมกงชานถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่เมื่อคิดไปก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ ผมเลยได้แต่เดินออกไปเอาไม้กวาดมาทำความสะอาด
“นายต้องไม่เป็นอะไรนะ...เพราะนี่เพิ่งจะเป็นการเริ่มต้นเอง นายจะต้องทำให้เรื่องนี้มันสำเร็จนะ นายจะต้องช่วยฉันทำมันให้สำเร็จให้ได้นะ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ห้องนอนของจินยอง
นาที
ผมเปิดประตูห้องเบาๆ แล้วก็เห็นกงชานนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว...ค่อยยังชั่วหน่อย ผมเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆกงชาน ผมโน้มตัวไปมองกงชานเล็กน้อย คงจะหลับไปแล้วสินะ ผมเลยหอมแก้มกงชานทีนึง
“ฝันดีนะกงชาน นายอย่าเป็นอะไรนะ” ผมล้มตัวลงไปนอน ก่อนจะผลิกตัวไปกอดกงชานจากด้านหลังแล้วเผลอหลับไปในที่สุด
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“ยังไม่นอนอีกหรอบาโร” ผมเดินออกมาจากห้องนอนอย่างงัยเงีย หลังจากที่ผมเผลองีบไปหลังเล่นเกมกับบาโร บาโรคงจะพาผมเข้าไปนอนแล้วเล่นเกมต่อสินะ ทำไมนายถึงดีกับฉันอย่างนี้ล่ะ นายมาทำให้คนๆนี้หวั่นไหวกับนายทำไมกัน นายทำแบบนี้ทำไมกัน
“...นอนไปก่อนเลย”
“ไว้เล่นต่อพรุ่งนี้ก็ได้นี่นา นี่มันดึกแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ผมมองบาโรสักพัก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ฟังผมนะ ผมเลยได้แต่ถอนหายใจออกมา แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน “ก็แค่อยากให้นอนด้วยเท่านั้นเอง...” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆหลังจากที่ปิดประตูห้องไปเรียบร้อยแล้ว
“บ่นอะไร” เสียงทุ้มๆทำเอาผมสะดุ้งทันที เขาจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดหรือเปล่านะ แต่...เขาเลิกเล่นแล้วหรอ
“เปล่าสักหน่อย แค่บอกว่าห้องนี้มันหนาวเกินไปก็เท่านั้นเอง” ผมโกหก...ก็แน่ล่ะ จะให้ผมพูดความจริงหรือยังไงกัน น่าอายจะตายไป...น่าสมเพชด้วย
“...” บาโรมองผมสักพัก “ไปนอน” ผมก็เดินไปนอนสิครับ = =;; ไม่อยากจะขัดใจเท่าไร ผมมองบาโรที่ยืนดูผมอยู่ ก่อนจะเห็นว่าบาโรเดินไปเปลี่ยนเสื้อ ผมแทบหันหน้าหนีไม่ทันแหนะ
“...” ในเมื่อไม่มีใครพูดอะไร ห้องนี้ก็เลยเงียบอย่างแปลกๆ
“...” แล้วอยู่ๆผมก็รู้สึกได้ถึงแรงที่กระทบกับเตียง คงเปลี่ยนเสร็จแล้วสินะ ผมเลยหันไปมอง
“เฮ้ย! ทำไมไม่ใส่เสื้อล่ะ ห้องนี้หนาวจะตาย เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ผมหันหน้าหนีทันทีที่รู้ว่าบาโรไม่ได้ใส่เสื้อ อย่ามาโชว์หุ่นแถวนี้ได้ไหมเนี่ย!
“นอน” ผมนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนกับเตียงแล้วหันหน้าไปอีกด้าน
“...” แล้วผมก็รู้สึกถึงแรงที่กระทบลงกับเตียงอีกครั้ง ก่อนที่จะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังรัดตัวผม ผมเลยพลิกตัวเพื่อที่จะหันไปดู
“...” แล้วก็พบใบหน้าของบาโรที่ห่างจากผมไม่ถึงคืบ!! ผมรีบหันหน้าหนีทันที นี่เขากำลังกอดผมอยู่หรอเนี่ย!!
“...”
“นอนหันมาทางนี้แล้วนายจะฝันร้ายหรือยังไงกัน”
“...อยากนอนหันทางนี้”
“ตามใจ”
“...ฉัน...อึดอัดนะ” ผมแทบจะตบปากตัวเองทันทีที่พูดแบบนั้นออกไป
“หึ ก็จะได้ไม่หนาวไง” (-//////-) เดี๋ยวก็ถีบตกเตียงเสียเลยนี่ (?)
“ม..ไม่หนาวหรอก”
“แต่ฉันหนาว” แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อล่ะ!!
“...ฝันดี” สุดท้ายก็ต้องยอมตามเคย ทำไมผมถึงไม่เคยสู้คนๆนี้ได้เลยนะ
“...อืม” บาโรตอบผม ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แล้วผมก็ผล่อยหลับไปในที่สุด
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
ฝากนิยายผมด้วยนะคับ
เรื่องนี้ย้ายมาจากเด็กดี
เขียนชื่อค้นหาดูได้คับ
ฝากเพจผมด้วยนะคับ
ลิ้งอยู่ในบล็อค ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ