Because of you เพราะนายฉันถึงเป็นแบบนี้
5.0
เขียนโดย Avalle_Cafe
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
11 ตอน
0 วิจารณ์
18.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) Chapter 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 6
[Jinyoung talk]
“จินยองฮยอง! หยุดคุยกับผมก่อนสิครับ” จะคุยเพื่อให้แน่ใจว่าฉันเป็นคนทำใช่มั้ยล่ะ เชื่อว่าฉันเป็นคนทำก็บอกมาตรงๆเลยจะดีกว่า ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีที่ต้องการรู้ความจริงเลย!
“อยากจะรู้อะไรก็ถามมาสิ”
“ฮยองหันมาคุยกับผมสิครับ” ยังอยากจะเห็นหน้าของฉันอยูอีกหรือไงกัน ก็หลบหน้าฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง
“มีอะไรก็พูดมาเร็วๆ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากมายนะ”
“เฮ้อ...ฮยองเป็นคนสาดน้ำใส่ซานดึลหรือเปล่าครับ” หึ! แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
“แล้วนายอยากให้คำตอบเป็นยังไงล่ะ”
“ผมอยากได้ความจริงครับ”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”
“ฮยองจะบอกว่าซานดึลฮยองโกหกอย่างนั้นหรอครับ แล้วซานดึลฮยองจะโกหกไปเพื่ออะไรล่ะครับ” เพื่อให้นายกับบาโรเชื่อไง!! เชื่อว่าฉันมันเลว แต่ซานดึลก็ถูกอยู่นะ แต่ผมยังไม่ได้เลวเพราะผมแค่กำลังจะเลวก็เท่านั้นเอง
“นายลืมไปแล้วหรอ ว่าซานดึลอยากให้บาโรเกลียดฉันน่ะ ซานดึลเขารักบาโร แล้วตอนนี้นายเองก็เชื่อด้วยเหมือนกัน!” ต้องขอบคุณซานดึลเหมือนกันนะ ที่สอนให้ใช้มารยาเป็น
“ผม...คือผมก็รับฟังจากทั้ง 2 ฝ่าย แล้วผมก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วย เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคนผิด แต่ซานดึลฮยองจะลงทุนขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“ก็ทำไปแล้วนี่ นายจะไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะยังไงซะ...ก็ไม่มีใครเชื่อฉันอยู่แล้วนิ” พูดจบแล้วผมก็รีบบีบน้ำตาตัวเองให้ไหลทันที
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมเชื่อนะว่าฮยองไม่ใช่คนที่จะทำร้ายคนอื่นแบบนั้น”
“โกหก..ฮึก นายอาจจะโกหกฉันได้ แต่นายโกหกตัวเองไม่ได้หรอกนะว่านายเชื่อซานดึลน่ะ! ฮึก” ผมพยายามทำเสียงสะอื้น
“จินยองฮยองครับ อย่าร้องไห้เลยนะฮะ แม้ฮยองจะไม่สัญญาว่าฮยองจะไม่ร้องไห้เพราะใครนอกจากผม แต่ผมก็ไม่อยากให้ฮยองร้องไห้เพราะใครอยู่ดี อย่าร้องไห้เลยนะครับ” ว่าแล้วกงชานก็ค่อยๆโอบกอดตัวผมจากด้านหลัง แล้วค่อยๆเกยคางบนคอของผม ก่อนจะกระซิบบอกผม “ผมเชื่อจริงๆนะครับ อย่าร้องไห้เลยนะฮะ” หึๆๆ แล้วเราจะได้เจอดีกันแน่ๆ...ซานดึล
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“เล่นได้ดีนี่ สันดานนายเป็นแบบนี้ก็เลยเล่นละครง่าย นายน่าจะพอใจกับตัวเองนะ หึๆๆ” ผมมองหน้าบาโรอย่างเครียดแค้น ไม่อยากจะคิดว่าคนที่ตัวเองยกย่องในอดีตจะเป็นคนที่เลวร้ายได้ขนาดนี้
“แต่อย่างน้อยสันดานต่ำๆของนายก็ยังต่ำอยู่ดี”
เพี๊ยะ!! ใบหน้าของผมหันไปตามแรงที่บาโรตบลงมา
“อย่าปากดีให้มากนักนะ นายน่าจะเจียมตัวหน่อยว่านายเป็นใคร” บาโรบีบแก้มผมอย่างแรง ก่อนจะสะบัดอย่างแรง
“...” นั้นสินะ ผมก็แค่ไอ่โง่ที่ทำอะไรไม่ได้ มีหนี้ล้นหัว
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ก่อนที่ฉันจะเป็นคนเปลี่ยนให้เอง!”
“แล้วคนอย่างนายจะลดตัวลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันหรือไง” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
“หึ ทำไมจะไม่ได้ แต่แน่นอนว่าฉันไม่ทำแค่เปลี่ยนอย่างเดียว” บาโรกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะมองผมด้วยสายตาแทะโลม
“รู้แล้วน่า!” แล้วผมก็รีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่เปียกอยู่ออก ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่ามีสายตาคู่นึงมองอยู่ “ออกไปก่อนได้ไหม”
“หึ เร็วๆด้วย” ผมมองคนพูด ก่อนจะถอนหายใจเมื่อบาโรออกไปแล้ว
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“จินยอง” ผมหันไปมองคนพูด แล้วก็เห็นซานดึลกับบาโรมาด้วยกัน
“ขอโทษนะจินยอง ที่ทำให้ทุกคนเข้าใจนายผิด ทั้งที่จริงแล้วฉันเป็นคนเดินสะดุดถังน้ำร้อน” ตอแหล!
“ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันเข้าใจ” ผมยิ้มให้บางๆ
“งั้นฉันเลี้ยงข้าวเป็นการขอโทษนะ วันนี้มาทานข้าวเย็นที่ห้องฉันสิ เดี๋ยวจะลงมือทำเองเลย”
“เจ็บขนาดนี้แล้วยังทำไหวหรอ เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้”
“ทำไหวสิ แค่พองนิดเดียวเอง” นั้นสินะ แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก!
“ไม่ต้องฝืนหรอกน่า ฉันก็ทำอาหารเป็นนะ กินได้แน่นอนเลย รับประกัน” แล้วทีนี้นายยังจะปฏิเสธลงอยู่หรือเปล่าน้า
“ก็จริงนะ ยังเจ็บแผลอยู่ไม่ใช่หรือไง” บาโรพูดขึ้นมาบ้าง
“จินยองฮยองก็ทำอาหารอร่อยนะครับ” กงชานพูดขึ้นบ้าง หลังจากที่ได้รับรู้เหตุการณ์ที่ซานดึลบอก
“เอ่อ...งั้นตามนั้นก็ได้ มาที่ห้องตอนประมาณ 6 โมงนะ ส่วนจินยอง...นายใช้วัตถุดิบในห้องฉันก็ได้” แน่นอน...หึๆๆ
“อื้ม งั้นฉันไปที่ห้องทำงานก่อนนะ พอดีมีงานให้เคลียร์น่ะ” แล้วผมก็แยกตัวออกมา
“นายได้กินอร่อยแน่ๆ” ผมยิ้มกับตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมีคนอยู่ในนั้นอยู่แล้ว
“พอดีฉันเอางานมาให้น่ะ ขอโทษทีนะที่เข้ามาโดยพลการน่ะ” ...ชิน ดงวู
“ไม่เป็นอะไรหรอก แล้วนี่มีงานอะไรอย่างงั้นหรอ” ผมถามเพื่อนสนิทอีกคนของผม
“ก็งานโรงเรียนน่ะ พอดีผู้อำนวยการอยากจะให้มีงานในโรงเรียน จะได้สานสัมพันธ์รุ่นพี่กับรุ่นน้องน่ะ” ผมพยักหน้าก่อนจะเปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมในแฟ้ม
“ไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่าฉันจะต้องทำงานจริงๆจังๆอีกครั้ง” ผมยิ้มให้ชินวูก่อนจะถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องงาน
“งั้นเราไปก่อนนะ อย่าทำงานหนักจนเกินไปล่ะ เหนื่อยก็พักนะ”
“อื้ม ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” ผมพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินไปส่ง แล้วเดินกลับมานั่งคิดเรื่องงานโรงเรียนต่อ
ก๊อกๆๆ
“เข้ามา” ผมอนุญาติ
“ว่าไงๆ ตั้งใจทำงานเชียวนะ” ผมเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร แล้วก็พบผู้มาเยือน...ซานดึล
“ว่าไงล่ะ แผลเป็นไงบ้าง โดนน้ำซ้ำเข้าไปน่ะ” ผมยิ้มให้
“ก็เจ็บนิดหน่อย แต่ก็คุ้มอยู่เหมือนกัน เพราะตอนแรกบาโรนี่คลั่งไปเลย” ซานดึลยิ้มที่มุมปาก ซานดึลเยาะเย้ยผม...แต่ผมแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ทำไมกัน?
“เก่งดีนี่ แต่รอยบนหน้าน่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนที่นายเปียกยังไม่มีเลยไม่ใช่หรือไง” ผมเอ่ยถึงรอยแดงๆจางๆบนหน้า แล้วซานดึลก็รีบยกมือขึ้นปิดทันที
“ก็แค่ไปโดนตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“งั้นหรอ แต่รอยมันจางไปนะ” พูดจบแล้วผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาซานดึลช้าๆ “ฉันช่วยนะ...ช่วยให้มันเข้มขึ้น”
เพี๊ยะ! ผมตบลงไปที่แก้มของซานดึลอย่างแรงด้วยความสะใจ
“ชอบทำร้ายตัวเองจังน้า งั้นฉันช่วยให้เอาไหม มันจะได้สมจริงไปเลยไง” ผมบีบแก้มของซานดึลอย่างแรง เพื่อให้ซานดึลหันมามองหน้าผม
“โอ๊ย!”
“แค่มันยังเจ็บไม่เท่ากับแผลตามตัวนายเลยด้วยซ้ำไป!” แล้วสะบัดมือออกอย่างแรง ทำให้ใบหน้าของซานดึลก็หันตามไปด้วยอย่างแรงเช่นเดียวกัน
“หึ”
เพี๊ยะ! ใบหน้าของผมหันไปตามแรงตบของซานดึลเช่นกัน ผมเลยเอื้อมไปหยิบกาแฟร้อนที่ชินวูเอามาให้สาดใส่ซานดึล
“อ๊ากก ร้อนๆๆ”
“ไงล่ะ เห็นชอบเอาน้ำสาดใส่ตัวเอง ก็เลยช่วยอีกแรงนึง” ผมยิ้มเย้ยก่อนที่จะพยุงตัวซานดึลขึ้นมา
“ปล่อย!”
“ฉันไม่ทำให้นายตายตอนนี้หรอกนะ แล้วเย็นนี้เรายังต้องเจอกันอีก นายคงไม่อยากอ้างบ่อยๆว่าฉันเป็นคนทำจนทุกคนไม่เชื่อนายใช่มั้ย? งั้นก็ออกจากห้องฉันไปได้แล้ว!” ว่าแล้วผมก็กระชากตัวซานดึล แล้วเปิดประตูห้องก่อนที่จะดึงให้ซานดึลออกจากห้องผมก่อนที่จะปิดประตูใส่ “นายได้เจอฉันร้ายกว่านี้แน่”
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“ฮึก ฮือๆๆ” ทันทีที่ประตูปิดลง น้ำตาของผมก็ไหลลงมาทันที
“ซานดึล? ซานดึล! เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนที่จะพบว่าคนที่เรียกผมก็คือชินวูฮยอง
“พอดีผมทำกาแฟหกใส่ตัวเองน่ะครับ ฮึก เดี๋ยวผมไปล้างตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวฮยองไปด้วย”
“ม..ไม่ต้องหรอกฮะ”
“ทำไมล่ะ แล้วนี่แขนไปโดนอะไรมาเนี่ย ทำไมแดงก่ำขนาดนี้ห๊ะ” อึก...ผมควรจะบอกฮยองดีไหมนะ ถ้าบอกฮยองก็จะกังวลแล้วก็เป็นห่วงผม แล้วคงจะไปเอาเรื่องกับบาโรแน่ๆ
“เอ่อ...ก็เพราะกาแฟ ฮึก เมื่อกี้นี้และฮะ ฮึก”
“งั้นรีบไปเข้าห้องน้ำไป เดี๋ยวฮยองจะไปเอาเสื้อมาเปลี่ยนให้นะ รออยู่ในห้องน้ำนะ”
“ขอบคุณฮะ” แล้วชินวูฮยองก็รีบวิ่งออกไปทันที แล้วน้ำตาของผมก็ค่อยๆไหลอีกครั้ง
“หืม นี่นายลงทุนขนาดนี้เลยหรอเนี่ย แค่ให้ไปหาเรื่องจินยอง กลับทำร้ายตัวเองกลับมาอีก ดูท่านายจะชอบทำร้ายตัวเองจังนะ นายเป็นมาโซหรือไงกัน” แล้วถ้าฉันบอกว่าจินยองเป็นคนทำนายจะเชื่อไหมล่ะ! แล้วใครจะไปคิดว่าจินยองจะร้ายกลับล่ะ ในเมื่อที่ผ่านมาจินยองก็ไม่ได้ลงมือเลย เย็นนี้คงถูกแกล้งอะไรแน่ๆ จะทำยังไงดี...ไม่อยากทำร้าย ‘เพื่อน’ เลย
“ไปล้างตัวไป ฉันไม่อยากเห็นร่างกาย...อุบาทว์ๆของนาย” ที่มันน่าเกลียดก็เพราะนายไม่ใช่หรืไงเหล่า! ผมมองตามอย่างเครียดแค้น แค้นนักที่ถูกทำร้าย แค้นนักที่ต้องไปทำร้ายเพื่อนตัวเอง แค้นนักที่ถูกดูถูก แค้นนักที่ทำอะไรบาโรไม่ได้เลย!
“ต้องเล่นตามเกมของนายอีกนายแค่ไหนนายถึงจะพอใจ” แล้วผมก็ล้างตัวแล้วจมอยู่กับความคิดตัวเอง
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“จัดโต๊ะเลยๆ ฉันทำอาหารเสร็จแล้ว” ผมบอกกับบาโร ก่อนจะหยิบจานมาใส่กับข้าวที่ผมทำ แล้วผมก็เน้นที่จะใส่น้ำตาลลงไปเยอะๆ เพราะถ้าใส่เกลือลงไปเดี๋ยวซานดึลจะสำออยเอาได้ หรือถ้าใส่พริกเยอะเกินไปก็อาจจะดราม่าอะไรอีก
“ลงมือได้เลยๆ ไม่ต้องรอหรอก” ผมบอกกับทุกคนก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างๆซานดึล
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะผิดกฏข้อที่ 24 ห้ามกินข้าวก่อนฉันของนายไง” บาโรล้อผมเรื่องกฏของประธานนักเรียนจอง จินยอง
“ดีนะที่จำกฏตั้งแต่ปี 1 นั้นได้” ผมอมยิ้มกับตัวเองก่อนจะบอกให้ทุกคนลงมือทาน
“อึก” ผมหันไปมองซานดึลที่กลืนกับข้าวอย่างยากลำบาก
“กลืนเบาๆสิ แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่อร่อยหรอ” ผมถาม “ไม่อร่อยก็บอกกันสิกงชาน บาโร ไม่เห็นต้องฝืนกินเลย”
“เฮ้ยๆ ไม่ใช่สักหน่อย อร่อยจะตายไป” บาโรรีบบอกผมอย่างรวดเร็ว
“ก็อร่อยดีนี่ครับ ว่าไงฮะซานดึลฮยอง” ผมหันไปมองซานดึล
“เอ่อ...อร่อยสิ อร่อยมากๆเลย..คือว่า..ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” แล้วซานดึลก็รีบลุกขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
“กินกันต่อเถอะ เดี๋ยวหายร้อนแล้วจะหมดอร่อยเอาน้า” บาโรยิ้มให้ผม ก่อนที่จะลงมือทานอาหารฝีมือผม แล้วผมก็เหลือบมองกงชานเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้กับตัวเอง...รู้สึกดีที่กงชานชมตัวเอง..ทำไมไม่ใช่บาโร?
“รีบๆกินเลยๆ เดี๋ยวก็หมดอร่อยจริงๆหรอก” แล้วผมก็แกล้งทำเป็นทำแก้วน้ำหกใส่ผม “เฮ้ย! เดี๋ยวมานะ” แล้วผมก็ไปหยิบผ้าในครัว แล้วเอามาเช็ดพื้น
“เดี๋ยวเช็ดเอง นายไปเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะ ยืมเสื้อฉันไปก่อนก็ได้”
“ขอบใจนะ ว่าแต่นายเลิกเรียกฉันว่าฮยองตั้งแต่เมื่อไรฮะ ฉันแก่กว่านายนะ แล้วนายแทนตัวเองซะสนิทสนมเลยนะ” ผมแควะบาโรเข้าให้อย่างอดไม่ได้
“เอาน่า เรียกแบบสนิทสนมแล้วมันคุ้นปากกว่านี่นา”
“แล้วตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาทนเรียกได้ไง”
“เอาน่าๆ ถามอะไรเยอะเยะเนี่ย อยากปอดบวมหรือไงกัน”
“อ่ะๆ จะเรียกอะไรก็เรียกไป เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนก็แล้วกัน”
“เชิญครับที่รัก” แค่คำนั้นแหละ ผมหันไปเบิร์ดกระโหลกมันทันที
“เคารพกันหน่อยสิเฮ้ย” แต่ผมก็ทำได้แค่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมอง เลยหันไปมองกงชาน แต่ก็เห็นกงชานกำลังกินข้าวอยู่ สงสัยจะคิดไปเองมั้ง แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้องของบาโร ก่อนที่จะเดินไปเลือกเสื้อตัวเก่งของบาโรมาใส่ นายจะได้อิจฉาจนตัวสั่นแน่ๆซานดึล
“เลือกเสื้อได้ยัง...เสื้อตัวโปรดเลยหรอ ใส่แล้วดูแลดีๆด้วยก็แล้วกัน อย่าให้อะไรหกใส่เชียวนะ”
“รู้แล้วน่า ก็ตัวนี้ดูใส่สบายเองนี่นา” ผมยักคิ้วให้บาโร แล้วเดินออกจากห้องนอนของบาโร
“ช้าจังเลยนะฮะ ผมกับซานดึลแล้วก็บาโรทานกันหมดแล้วเนี่ย”
“โทษทีนะกงชาน พอดีเลือกเสื้อนานไปหน่อย” ซานดึลมองมาที่ผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าแค้นนิดๆ แต่ผมรู้ว่าที่แค้นนิดๆก็เพราะมีคนอยู่ด้วย ไม่งั้นคงจะไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้อย่างนี้หรอก
“เสื้อสวยนะครับ เสื้อของบาโรฮยองหรอครับ”
“อื้ม เสื้อตัวโปรดของบาโรเลยมั้งเนี่ย ถึงได้บอกว่าดูแลดีๆน่ะ”
“เสื้อตัวโปรดมากๆเลยแหละ แต่ถ้านายใส่สบาย จะเก็บเอาไว้ก็ได้นะ”
“ไม่ดีกว่า เสื้อตัวโปรดมากๆของนายไม่ใช่หรือไง” ผมย้อน
“อ่ะๆ แล้วแต่เลยล่ะกัน” แล้วยิ้มให้บาโรก่อนที่จะหันไปยิ้มเยาะเย้ยให้ซานดึล แล้วผมก็สังเกตเห็นซานดึลกำมือตัวเองเอาไว้แน่น แล้วดื่มน้ำเพื่อคุมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง
“งั้นฉันกลับก่อนนะ จะกลับด้วยกันไหม หรือจะอยู่ต่อ” ผมหันไปถามกงชาน
“ครับ งั้นผมไปก่อนจะครับซานดึลฮยอง ไปก่อนนะฮะบาโรฮยอง” ผมลา 2 คนนั้น แล้วเดินออกจากห้อง โดยมีกงชานตามมาติดๆ
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Sandeul talk]
“ทำไมเข้าไปในห้องน้ำซะนาน แล้วเห็นไหมว่าสุดท้ายแล้วนายก็ไม่ได้ทำอะไรเลย!” ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้า ทำไมเข้าถึงไม่เคยเป็นห่วงผมบ้าง ทั้งๆที่ผมก็ห่วงเขามาตลอด
“งั้นนายก็ลองไปชิมอาหารในจานฉันสิ นายจะได้รู้” บาโรมองผมอยู่สักพักก่อนจะเข้าไปในครัว โดยมีผมตามไปดู บาโรหยิบช้อนใหม่แล้วตักข้าวในจานผมใส่ปาก ผมมันน่าขยะแขยงขนาดกินช้อนเดียวกันไม่ได้เลยใช่มั้ย
“นายเป็นบ้าอะไรของนายน่ะห๊ะ ทำไมกินหวานขนาดนี้ อยากเป็นเบาหวานตายหรือไง” พูดเสร็จแล้วบาโรก็รีบเดินไปหยิบน้ำมาดื่มทันที
“ฉันไม่ได้ใส่น้ำตาลในจานฉันเลยนะ จินยองจงใจแกล้งฉัน นายเห็นหรือยังล่ะ ว่านางฟ้าของนายที่นายให้ฉันไปทำร้ายน่ะ ความจริงก็เป็นมารเหมือนกันกับฉัน ไม่แตกต่างกันเลย!”
“อย่ามาโกหก! จินยองไม่ใช่คนอย่างนั้น นายก็เพิ่งรู้จักจินยองไม่ใช่หรือไง นายจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับจินยองห๊ะ! จินยองกับนายมันต่างกัน นายสู้จินยองไม่ได้เลยสักนิดเดียว!!”
“อะไรๆฉันมันก็ไม่ดี สู้จินยองไม่ได้ พูดอะไรไปนายถึงไม่ยอมเชื่อ!! ฉันมันก็โง่เองที่พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ทั้งๆที่มันเป็นอย่างนั้น พอกันที! ถ้านายอยากให้ฉันเลวใส่คนที่นายรักขนาดนั้น งั้นฉันก็จะสนองให้นายเอง ต่อไปนี้นายไม่ต้องมาสั่งฉันหรอกนะ เพราะฉันรู้ว่าฉันต้องทำยังไงให้นายได้แต้ม แล้วทีนี้ฉันจะได้ไปจากชีวิตนายสักที!!!” ผมเดินออกจากห้องโดยที่ไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย ถึงผมจะไม่รู้จักจินยองดีเท่าบาโร แต่ผมก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำกับผมมันเป็นเรื่องจริง มันเกิดขึ้นจริงๆ ทำไมทุกครั้งผมต้องเป็นคนที่ผิดด้วย จะมีใครสักคนที่รักผมเหมือนชินวูฮยองอีกไหม...มีสักคนไหม
ก๊อกๆๆ
ผมยืนรออยู่ที่หน้าห้องของชินวูฮยอง กำลังตัดสินใจว่าจะกดกริ่งดีไหม แต่ประตูห้องก็เปิดเสียก่อน
“ซานดึล?? เข้ามาข้างในสิ” แล้วยิ้มให้ชินวูฮยองก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
“คืนนี้ผมขอค้างที่นี่นะฮะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าซานดึล แล้วบาโรให้มาหรือไง”
“เขาไม่สนหรอกฮะว่าผมจะเป็นตายร้ายดียังไง ขอแค่เป็นเครื่องมือให้เขา เขาก็คงพอใจแล้ว”
“บาโรให้เราทำอะไร บอกฮยองสิซานดึล” ผมมองเข้าในดวงตาของชินวูฮยอง แววตาห่วงใยนั้นบ่งบอกถึงความรักและความเป็นห่วง ความกังวลใจ ความกลัว...
“เขา...ให้ผมทำร้ายจินยอง”
“ห๊ะ!? ทำไมต้องเป็นจินยองด้วย” แน่นอน...ว่าผมไม่แค่รู้สึกแย่ที่ต้องทำร้ายเพื่อนสนิทตัวเอง เพราะ...ผมต้องทำร้ายคนที่ฮยองของผมรักด้วย
“ผมขอโทษครับ ฮึก ผมขอโทษจริง แต่ผม ฮึก ไม่มีทางเลือก ฮือๆ” น้ำตาที่ผมกลั้นเอาไว้ สุดท้ายก็ไหลออกมาจนได้ ...ไม่อยากเลย ไม่อยากให้คนตรงหน้าต้องเป็นห่วงเขาเลย
“ซ..ซานดึล อย่าร้องไห้เลยนะ ฮยองเข้าใจๆ ยังไงเราก็เป็นได้แค่เครื่องให้คนที่ชั่วร้ายของคนอย่างบาโรเท่านั้น” ผมคนที่ผมรักจะต้องมาเจ็บปวดกับการกระทำของผมด้วยนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“ผมขอโทษ ฮือๆๆ ผมขอโทษที่ทำ ฮึก ให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ฮือๆๆ”
“ฮ..ฮยองเข้าใจ ฮึก ฮยองขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ฮือๆ ฮยองเป็นฮยองที่อ่อนแอ ฮึก แค่น้องชายที่ฮยองรักที่สุดยังดูแลไม่ได้เลย ฮือๆๆ” ผมโอบกอดชินวูฮยองเอาไว้อย่างแน่นเพื่อปลอบใจคนที่ผมรัก เพราะไม่ใช่แค่ฮยองที่ดูแลผมไม่ได้ แต่เพราะผมก็ดูแลฮยองไม่ได้เหมือนกัน ผมมันอ่อนแอ กำแพงของผมไม่น่าพังเลย นายทำแบบนี้ทำไม...บาโร?
:*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“กงชาน” แล้วก็เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ที่ผมเรียกชื่อนี้
“ผมง่วงแล้ว ไว้ค่อยคุยกันนะครับ” ตั้งแต่กลับมาจากห้องของบาโร กงชานก็เมินผมตลอด ผมทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่านะ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรให้ใครนอกจากซานดึลเลยนี่นา
“เฮ้อ งั้นก็ฝันดีก็แล้วกัน” แล้วผมก็เลือกที่จะมานั่งอยู่ที่โซฟาจนผมเผลอหลับโดยที่ไม่รู้ตัว
‘เป็นอะไรของนายเนี่ย’ ผมพูดกับใครบางคน
’ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ฮะ ฮยองไม่ต้องมาสนใจหรอก’ เสียงนี้มัน...คุ้นเหลือเกิน
’นี่นายงอนฉันหรือไงเนี่ย ฉันกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ’
’ผมรู้ว่าฮยองกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ผู้ชานคนนั้น...’
’นั้นมันญาติฉันนะ แล้วอีกอย่าง...ฉันก็มีนายอยู่แล้วด้วย ฉันจะไปมีคนอื่นอีกทำไมกัน’
’พอเถอะครับ ผมอยากจะอ่านหนังสือแล้ว’
นี่นายจะงอนฉันจริงๆหรอเนี่ย...ผมคิด ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นคือใคร ความทรงจำของจินยอง...กับใครก็ไม่รู้ แล้วผมก็เห็นตัวของผมเดินเข้าไปกอดคนๆนั้นจากด้านหลัง
’นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่นา ว่าฉันคิดยังไงกับนาย’
’ผมไม่รู้หรอกฮะ ฮยองไม่เคยบอกอะไรกับผมเลย ผมไม่ใช่อัจฉริยะนะครับ ที่จะรู้ทุกอย่างน่ะ ทีนี้ฮยองก็เลิกกอดผมได้แล้วนะครับ ผมอึดอัด’
’นายนี่ใจร้ายจังเลยนะ จะใจแข็งไปถึงไหนกัน คนอุตส่าห์ซื้อตุ๊กตาไดโนเสาร์ตัวที่นายอยากได้มาให้แท้ๆ ยังจะใจร้ายใจดำอยู่อีก’ แล้วผมก็เห็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ที่น่ารักมากๆ ขนาดใหญ่เหมือนกัน...แต่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของกงชาน
’ฮยองไม่ต้องมาหลอกผมเลยนะ ตัวที่ผมอยากได้มันใหญ่สะดุดตาจะตาย แต่ผมก็ไม่เห็นอะไรที่มันสะดุดตาเลยด้วย เพราะฉะนั้นฮยองไม่ต้องมาหลอกผมเลยนะครับ’
’ฮยองไปก็ได้’ แล้วผมก็แกล้งทำเป็นเดินคอตกออกไปจากห้อง แล้วสักพักผมก็ถูกกอดจากด้านหลังอย่างแรง
’ผมขอโทษ...ผมเห็นแล้ว มันใหญ่สะดุดตามากๆเลย ผมขอโทษนะฮะ’
’อืม ฮยองไม่โกรธหรอก’
’ฮยองอย่าพูดแบบนี้สิฮะ ผมขอโทษ’
จุ๊บ ผมเขย่งเท้าไปจูบเจ้าเด็กนั้น
’ฮยอง!! ;/////;’
’เฮ้ย! นี่นายกลัวฉันโกรธจนร้องไห้เลยหรอเนี่ย’
’ฮยองอ่ะ เดี๋ยวผมจะจูบฮยองทั้งคืนแน่ ถ้าฮยองแกล้งผมอีก’
’เฮ้ย! อย่านะไอ่เด็กบ้า ไอ่บ้ากงชาน!’ กงชาน!!!! คนๆนั้นคือกงชาน!!
เฮือก!! ผมสะดุ้งตื่นขึ้น ก่อนจะหันไปดูนาฬิกา แล้วก็พบว่า 3 ทุ่มกว่าๆแล้ว
วิธีง้อกงชานคือตุ๊กตาตัวนั้นหรอ...แล้วนี่เขากับกงชานเคยจูบกัน...ไม่สิ เคยจูบกับจินยองแล้วหรอ นี่เขา 2 คนรักกันมาก่อนอย่างนั้นหรอ...งั้นก็แปลว่าฉันก็มีสิทธิ์สินะ เพราะตอนนี้ร่างกายจินยองเป็นของฉัน ฉันจะสวมบทเป็นจินยองก็คงไม่แปลกอะไร
ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมจึงเดินทางไปที่ห้าง...ที่ผมเคยเห็นเขาขายเจ้าตุ๊กตาไดโนเสาร์ตัวนั้น แล้วสุดท้ายผมก็ซื้อมันมาจนได้ แต่ผมจะให้กงชานยังไง เนี่ยแหละคือปัญหา...
“กงชาน...กงชาน” ผมลองเรียกคนที่นอนอยู่บนพื้นในห้องนอนของผม
“มีอะไรครับ” กงชานถามผมทั้งที่หลับตาอยู่
“ลุกมาคุยกันหน่อยสิ”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าผมง่วง”
“แต่มันผ่านไปชั่วโมงครึ่งแล้วนะ นายยังไม่เห็นจะนอนเลย”
“เฮ้อ...” กงชานถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นมานั้ง “ฮยองไปไหนมาฮะ”
“เอ่อ...ไปซื้อของน่ะ”
“ซื้ออะไรหรอฮะ”
“อยากรู้ก็ออกไปข้างนอกสิ” กงชานมองหน้าผมสักพัก ก่อนจะถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเพื่อจะออกไปข้างนอก ผมก็เลยลุกตามไปเหมือนกัน...หวังว่าวิธีจากความทรงจำของจินยองจะได้ผมนะ
“ไหนล่ะครับ ที่ฮยองบอกว่าซื้อ...นี่มัน...”
“ชอบไหม”
“ฮยอง...จำได้ด้วยหรอครับ?”
“ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ ชอบไม่ใช่หรอ ก็ไปหยิบมันสิ” กงชานไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหยิบเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นทันที
“แล้วทำไมฮยองถึงชอบทำเป็นจำผมไม่ได้ล่ะครับ”
“จำได้สิ”
จุ๊บ ผมเขย่งเพื่อให้ผมสูงพอที่จะจูบกงชานได้
“คิดถึงมากๆเลยนะ รู้ไหม…”
ฝากนิยายผมด้วยนะคับ
นิยายจากมาจากเด็กดี
เขียนชื่อค้นหาดูได้
ฝากเพจผมด้วยนะคับ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ