ภารกิจต้องรัก
9.9
เขียนโดย tuktalovekaewjai
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12.46 น.
16 session
44 วิจารณ์
23.91K อ่าน
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
บริเวณด้านหลังของร้านสะดวกซื้อที่มีประตูทางออกสำหรับไปยังตึกที่ใช้เป็นหน่วยงานลับ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครรู้ทางลับนี้นอกจากคนในหน่วยงาน ที่ประตูมีรหัสผ่านเข้าออกเพื่อใช้รักษาความปลอดภัยถึงจะเป็นคนในแต่ถ้าไม่ได้รับการไว้วางใจก็ไม่สามารถเข้าได้ แต่แปลกที่คนในและได้รับการไว้วางใจอย่างซาร่าไม่เคยผ่านเข้าประตูห้องนี้ด้วยตนเองสักครั้ง
“อะไรกันเนี่ยเหยี่ยวสาวคนเก่งเรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้”
“ก็ฉันเอาสมองไปจำเรื่องรายละเอียดของครีมบ้าบออะไรนั่นหมดน่ะสิ หัวหน้านะหัวหน้าเสร็จงานแล้วแท้ๆ ยังให้ฉันไปเป็นเซลล์ขายของนี่อยู่ได้ ฮึ่ย!”
“เอาน่าเจ้ก็เพื่อความสมจริงไง เชิญคร้าบบบ”
จริญญา ศิริมงคลสกุล หรือแก้ว หนึ่งในหน่วยข่าวกองลับแห่งชาติที่ไม่เคยจำรหัสผ่านเข้าออกได้เลยสักครั้ง เป็นเพราะเธอใช้สมองส่วนใหญ่จำชื่อ รายเอียดและวิธีใช้ของครีมบำรุงต่างๆ ที่ทำเพื่อบังหน้าปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเธอนั่นเอง ถึงแม้รหัสผ่านนั้นจะเป็นเลขแค่สี่ตัวและเธอจะเป็นคนคิดมันขึ้นมาเองก็ตามแต่เธอมักจะลืมมันอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งตัวช่วยของเธอจะมาทันเวลาพอดีเสียทุกครั้ง
“ลูน่าเมื่อกี้นี้ใครบ่นอะไรนะดังมาถึงข้างในเชียว”
“สงสัยครีมจะไม่พอขายนะคะ ฮิฮิ”
“คุณโจช่วยสั่งครีมล็อตใหม่ให้ซาร่าเขาทีนะครับ”
“มันไม่สนุกเลยนะคะหัวหน้า ชิ!”
เธอกลุ้มใจและเบื่อหน่ายเรื่องนี้แค่ไหนพวกเขายังทำเป็นเล่นสนุกกันอยู่ได้ แค่เธอต้องโกหกคนสำคัญในชีวิตเธอว่าตกงานถึงได้มาขายครีมบำรุงทั้งที่เธอจบปริญญาตรีด้านบริหารมาแท้ๆ
“มาแล้วค่า.......กำลังคุยอะไรกันอยู่ค่ะถ้าทางน่าสนุกเชียว”
“สนุกมากกก! แต่งชุดอะไรของเธอเนี่ย”
“ชุดนี้เรียกว่าเซ็กซี่กระชากใจหนุ่มจ๊ะ..เป็นไงเป๊ะมะ”
“เห้อ!/-_-!((_- -_- -_))”
บรรยากาศภายในหน่วยงานดูจะตรึงเครียดกว่าเดิมเมื่อซูซี่ปรากฏตัวในชุดที่เธอคิดว่าเซ็กซี่ที่สุดสำหรับเธอแล้ว แต่มันทำให้ลูน่าปวดใจยิ่งนักที่มีลูกน้องที่เรียกว่าจัดเต็มจนล้นหรือเยอะในภาษาคนธรรมดาทั่วไปเขาว่ากัน แล้วก่อนที่เวลาจะหมดไปกับการติชมเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัวของซูซี่ไปมากกว่านี้ลูน่าตัดบทโดยการมอบหมายงานให้กับซ่าร่า แต่หลังจากได้รับภารกิจเธอไม่เร่งที่จะออกจากหน่วยงานไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายดั่งเช่นซูซี่กับฟางนี่ เธอกลับมานั่งหน้าอมทุกข์ที่โต๊ะประจำของเธอแล้วเอนกายนอนหลับตาถอนหายใจทิ้งอยู่หลายครั้ง
“เฮ้อ../เฮ้อ!”
“นี่เจ้จะนั่งถอนหายใจทิ้งตรงนี้อีกนานไหมครับ” คิมบอมรู้สึกรำคาญเสียงถอนหายใจของซาร่าเสียเหลือเกิน เพราะมันกำลังรบกวนสมาธิการทำงานของเขาเป็นอย่างมากจนอดพูดออกมาไม่ได้
“เรื่องของฉันน่า! นายไม่มีงานทำหรือไงถึงได้มานั่งเหม็นหน้าฉันอยู่นี่”
“มีสิครับแล้วก็กำลังทำอยู่ด้วยแต่บังเอิญว่าเสียงหายใจของเจ้เนี่ย! มันดังรบกวนผมอยู่อะครับเจ้ ว่าแต่เจ้เหอะไม่มีงานทำหรือไงคร้าบบบ”
“มี! แต่ไม่มีอารมณ์จะทำเข้าใจมั๊ย!! จิ๊..เกะกะจริงๆ เลยนายอะ”
“อ้าวซะงั้น? ต้องมีอะไรแน่ๆ ฉันต้องรู้ให้ได้” คิมบอมมึนงงไม่น้อยกับอารมณ์ขึ้นลงของซาร่า ซึ่งเขาไม่เห็นอารมณ์แบบนี้จากเธอมานานมากแล้ว แน่นอนว่ามันต้องมีบางอย่างที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้และเขาจะต้องรู้ความจริงนั้นให้ได้
ซาร่าได้รับภารกิจมาแล้วโดยนิสัยเธอจะไม่รอช้าจะต้องเปิดออกอ่านศึกษาข้อมูลทันที แต่ครั้งนี้เพียงแค่เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ในรูปซึ่งจะใช้เป็นสะพานข้ามไปยังเป้าหมายของเธอแล้วเธอถึงกับยัดเอกสารใส่ซองแล้วปิดผนึกไว้เช่นเดิม สะพานของเธอนั้นถ้าก่อนหน้านี้ถ้าไม่เคยรู้จักกันหรือพบเจอกันมาก่อนเธอจะทำภารกิจนี้ได้อย่างสบายใจ แต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะคนคนนั้นเธอรู้จักเขามาตลอดสองปีและเป็นคนเดียวกันที่เธอไม่อยากรู้จักหรือข้องเกี่ยวกับเขาอีก
“โทโมะ! นายกำลังจะไปไหน.........เดี๋ยวสินายโกรธอะไรฉันทำไมนายถึงไปโดยที่ไม่บอกอะไรฉันเลย”
“.......เราเลิกกันเถอะ”
“ห๊ะ!..นา..ยย....?”
“ฉันเพิ่งกลับไปคืนดีกับคนรักเก่า.....เราจบกันตอนนี้ดีกว่านะ ลาก่อน........”
การเจอกันและคำพูดสุดท้ายที่สนามบินเมื่อหนึ่งปีที่แล้วยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลาที่นึกถึงคนรักในอดีต ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่ในใจของเธอยังคงไม่เคยลืมเขาได้เลย และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากปฏิบัติภารกิจนี้เป็นไปได้เธออยากจะถอนตัวออกจากหน่วยงานนี้เสียด้วยซ้ำไป
~ปี๊ดดดด~
“ระวัง!!”
“.........ขะ..นาย!!”
“ข้ามถนนทำไมไม่ดูทางมัวแต่คิดอะไรอยู่ห๊ะ!”
ซาร่าเดินคิดอะไรเพลินจนมาถึงทางข้ามถนนและเธอก้าวเดินไปตามทางม้าลายช้าๆ แต่ทว่าสัญญาณไฟเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียวเพื่อให้รถวิ่งผ่านได้แล้ว รถคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วจนเกือบจะชนเธอเข้า ดีที่มีชายหนุ่มเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นเธอคงถูกรถทับแบนติดกับพื้นไปถนนไปแล้ว และเขาได้ตะคอกถามเธอเสียงดังเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเธอได้สติกลับมาและเห็นว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอนั้นเป็นใครคำขอบคุณที่จะเอ่ยออกมาถูกกลืนกลับลงคอไปแล้วดันชายหนุ่มคนนั้นออกห่างจากตัว
ดวงตากลมโตจ้องมองนัยน์ตาคมของเขาอย่างต้องการหาคำตอบว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องเป็นเขาที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แล้วทำไมเขาถึงต้องขึ้นเสียงใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงเขายังมีเยื่อใยให้กับเธออยู่หรือ?
“โทโมะเดี๋ยวก่อน.........รอเดี๋ยวสิหยุดก่อน!”
“ขอโทษนะฉันรีบ”
“นายมาช่วยฉันทำไม?”
“..............ฉันคงไม่ปล่อยให้ตัวเองเห็นคนถูกรถชนตายต่อหน้าต่อตาหรอกอย่าคิดมากเลยนะถึงไม่ใช่เธอฉันก็ต้องช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ฉันสายแล้วขอตัวก่อน”
“ทำไมต้องพูดตรงแบบนี้ด้วยนะ”
คำตอบและสีหน้าที่เย็นชาของโทโมะทำให้ซาร่าเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ความเจ็บจุกอยู่ที่คอไม่มีคำพูดใดต่อได้แต่ยืนมองเขาเดินจากไป และเธอก็มิอาจห้ามน้ำตาไว้ได้
แล้วทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยเนี่ย บ้าจริง!! ฮึก
ติดตามต่อได้ที่ www.baaniyayfiction.com
บริเวณด้านหลังของร้านสะดวกซื้อที่มีประตูทางออกสำหรับไปยังตึกที่ใช้เป็นหน่วยงานลับ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครรู้ทางลับนี้นอกจากคนในหน่วยงาน ที่ประตูมีรหัสผ่านเข้าออกเพื่อใช้รักษาความปลอดภัยถึงจะเป็นคนในแต่ถ้าไม่ได้รับการไว้วางใจก็ไม่สามารถเข้าได้ แต่แปลกที่คนในและได้รับการไว้วางใจอย่างซาร่าไม่เคยผ่านเข้าประตูห้องนี้ด้วยตนเองสักครั้ง
“อะไรกันเนี่ยเหยี่ยวสาวคนเก่งเรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้”
“ก็ฉันเอาสมองไปจำเรื่องรายละเอียดของครีมบ้าบออะไรนั่นหมดน่ะสิ หัวหน้านะหัวหน้าเสร็จงานแล้วแท้ๆ ยังให้ฉันไปเป็นเซลล์ขายของนี่อยู่ได้ ฮึ่ย!”
“เอาน่าเจ้ก็เพื่อความสมจริงไง เชิญคร้าบบบ”
จริญญา ศิริมงคลสกุล หรือแก้ว หนึ่งในหน่วยข่าวกองลับแห่งชาติที่ไม่เคยจำรหัสผ่านเข้าออกได้เลยสักครั้ง เป็นเพราะเธอใช้สมองส่วนใหญ่จำชื่อ รายเอียดและวิธีใช้ของครีมบำรุงต่างๆ ที่ทำเพื่อบังหน้าปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเธอนั่นเอง ถึงแม้รหัสผ่านนั้นจะเป็นเลขแค่สี่ตัวและเธอจะเป็นคนคิดมันขึ้นมาเองก็ตามแต่เธอมักจะลืมมันอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งตัวช่วยของเธอจะมาทันเวลาพอดีเสียทุกครั้ง
“ลูน่าเมื่อกี้นี้ใครบ่นอะไรนะดังมาถึงข้างในเชียว”
“สงสัยครีมจะไม่พอขายนะคะ ฮิฮิ”
“คุณโจช่วยสั่งครีมล็อตใหม่ให้ซาร่าเขาทีนะครับ”
“มันไม่สนุกเลยนะคะหัวหน้า ชิ!”
เธอกลุ้มใจและเบื่อหน่ายเรื่องนี้แค่ไหนพวกเขายังทำเป็นเล่นสนุกกันอยู่ได้ แค่เธอต้องโกหกคนสำคัญในชีวิตเธอว่าตกงานถึงได้มาขายครีมบำรุงทั้งที่เธอจบปริญญาตรีด้านบริหารมาแท้ๆ
“มาแล้วค่า.......กำลังคุยอะไรกันอยู่ค่ะถ้าทางน่าสนุกเชียว”
“สนุกมากกก! แต่งชุดอะไรของเธอเนี่ย”
“ชุดนี้เรียกว่าเซ็กซี่กระชากใจหนุ่มจ๊ะ..เป็นไงเป๊ะมะ”
“เห้อ!/-_-!((_- -_- -_))”
บรรยากาศภายในหน่วยงานดูจะตรึงเครียดกว่าเดิมเมื่อซูซี่ปรากฏตัวในชุดที่เธอคิดว่าเซ็กซี่ที่สุดสำหรับเธอแล้ว แต่มันทำให้ลูน่าปวดใจยิ่งนักที่มีลูกน้องที่เรียกว่าจัดเต็มจนล้นหรือเยอะในภาษาคนธรรมดาทั่วไปเขาว่ากัน แล้วก่อนที่เวลาจะหมดไปกับการติชมเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัวของซูซี่ไปมากกว่านี้ลูน่าตัดบทโดยการมอบหมายงานให้กับซ่าร่า แต่หลังจากได้รับภารกิจเธอไม่เร่งที่จะออกจากหน่วยงานไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายดั่งเช่นซูซี่กับฟางนี่ เธอกลับมานั่งหน้าอมทุกข์ที่โต๊ะประจำของเธอแล้วเอนกายนอนหลับตาถอนหายใจทิ้งอยู่หลายครั้ง
“เฮ้อ../เฮ้อ!”
“นี่เจ้จะนั่งถอนหายใจทิ้งตรงนี้อีกนานไหมครับ” คิมบอมรู้สึกรำคาญเสียงถอนหายใจของซาร่าเสียเหลือเกิน เพราะมันกำลังรบกวนสมาธิการทำงานของเขาเป็นอย่างมากจนอดพูดออกมาไม่ได้
“เรื่องของฉันน่า! นายไม่มีงานทำหรือไงถึงได้มานั่งเหม็นหน้าฉันอยู่นี่”
“มีสิครับแล้วก็กำลังทำอยู่ด้วยแต่บังเอิญว่าเสียงหายใจของเจ้เนี่ย! มันดังรบกวนผมอยู่อะครับเจ้ ว่าแต่เจ้เหอะไม่มีงานทำหรือไงคร้าบบบ”
“มี! แต่ไม่มีอารมณ์จะทำเข้าใจมั๊ย!! จิ๊..เกะกะจริงๆ เลยนายอะ”
“อ้าวซะงั้น? ต้องมีอะไรแน่ๆ ฉันต้องรู้ให้ได้” คิมบอมมึนงงไม่น้อยกับอารมณ์ขึ้นลงของซาร่า ซึ่งเขาไม่เห็นอารมณ์แบบนี้จากเธอมานานมากแล้ว แน่นอนว่ามันต้องมีบางอย่างที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้และเขาจะต้องรู้ความจริงนั้นให้ได้
ซาร่าได้รับภารกิจมาแล้วโดยนิสัยเธอจะไม่รอช้าจะต้องเปิดออกอ่านศึกษาข้อมูลทันที แต่ครั้งนี้เพียงแค่เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ในรูปซึ่งจะใช้เป็นสะพานข้ามไปยังเป้าหมายของเธอแล้วเธอถึงกับยัดเอกสารใส่ซองแล้วปิดผนึกไว้เช่นเดิม สะพานของเธอนั้นถ้าก่อนหน้านี้ถ้าไม่เคยรู้จักกันหรือพบเจอกันมาก่อนเธอจะทำภารกิจนี้ได้อย่างสบายใจ แต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะคนคนนั้นเธอรู้จักเขามาตลอดสองปีและเป็นคนเดียวกันที่เธอไม่อยากรู้จักหรือข้องเกี่ยวกับเขาอีก
“โทโมะ! นายกำลังจะไปไหน.........เดี๋ยวสินายโกรธอะไรฉันทำไมนายถึงไปโดยที่ไม่บอกอะไรฉันเลย”
“.......เราเลิกกันเถอะ”
“ห๊ะ!..นา..ยย....?”
“ฉันเพิ่งกลับไปคืนดีกับคนรักเก่า.....เราจบกันตอนนี้ดีกว่านะ ลาก่อน........”
การเจอกันและคำพูดสุดท้ายที่สนามบินเมื่อหนึ่งปีที่แล้วยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลาที่นึกถึงคนรักในอดีต ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่ในใจของเธอยังคงไม่เคยลืมเขาได้เลย และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากปฏิบัติภารกิจนี้เป็นไปได้เธออยากจะถอนตัวออกจากหน่วยงานนี้เสียด้วยซ้ำไป
~ปี๊ดดดด~
“ระวัง!!”
“.........ขะ..นาย!!”
“ข้ามถนนทำไมไม่ดูทางมัวแต่คิดอะไรอยู่ห๊ะ!”
ซาร่าเดินคิดอะไรเพลินจนมาถึงทางข้ามถนนและเธอก้าวเดินไปตามทางม้าลายช้าๆ แต่ทว่าสัญญาณไฟเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียวเพื่อให้รถวิ่งผ่านได้แล้ว รถคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วจนเกือบจะชนเธอเข้า ดีที่มีชายหนุ่มเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นเธอคงถูกรถทับแบนติดกับพื้นไปถนนไปแล้ว และเขาได้ตะคอกถามเธอเสียงดังเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเธอได้สติกลับมาและเห็นว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอนั้นเป็นใครคำขอบคุณที่จะเอ่ยออกมาถูกกลืนกลับลงคอไปแล้วดันชายหนุ่มคนนั้นออกห่างจากตัว
ดวงตากลมโตจ้องมองนัยน์ตาคมของเขาอย่างต้องการหาคำตอบว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องเป็นเขาที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แล้วทำไมเขาถึงต้องขึ้นเสียงใส่เธอด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงเขายังมีเยื่อใยให้กับเธออยู่หรือ?
“โทโมะเดี๋ยวก่อน.........รอเดี๋ยวสิหยุดก่อน!”
“ขอโทษนะฉันรีบ”
“นายมาช่วยฉันทำไม?”
“..............ฉันคงไม่ปล่อยให้ตัวเองเห็นคนถูกรถชนตายต่อหน้าต่อตาหรอกอย่าคิดมากเลยนะถึงไม่ใช่เธอฉันก็ต้องช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ฉันสายแล้วขอตัวก่อน”
“ทำไมต้องพูดตรงแบบนี้ด้วยนะ”
คำตอบและสีหน้าที่เย็นชาของโทโมะทำให้ซาร่าเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ความเจ็บจุกอยู่ที่คอไม่มีคำพูดใดต่อได้แต่ยืนมองเขาเดินจากไป และเธอก็มิอาจห้ามน้ำตาไว้ได้
แล้วทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยเนี่ย บ้าจริง!! ฮึก
ติดตามต่อได้ที่ www.baaniyayfiction.com
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ