ปมรัก

7.7

เขียนโดย rukpopfanggg

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.04 น.

  13 ตอน
  134 วิจารณ์
  25.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 21.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) เจ้าของบ้าน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

“นี่คุณ!” ชายหนุ่มที่กำลังออกกำลังกายอยู่รู้สึกเหมือนมีคนมาก็เลยหันหลังไปดูก็อุทานเสียงดังเมื่อพบกับบุคคลไม่คุ้นตากำลังยืนมองตัวเองอยู่

 

 

“เห้ยนั้นมัน..” เธอที่เห็นหน้าเขาชัดๆก็นึกขึ้นได้ว่าเขาคือผู้ชายที่เธอขับรถเฉี่ยวเมื่อวันก่อน

 

 

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง ขโมยหรอ!” เขาที่ยังจำเธอไม่ได้ก็โวยวาย

 

 

“ขโมยที่ไหน คุณนั่นล่ะเป็นใครทำไมมาออกกำลังกาย แถมยัง เอ่อ ถอดเสื้อในบ้านเพื่อนชั้น” เธอเขินหน้าแดงเพราะตอนนี้เขากำลังถอดเสื้ออยู่ทำให้เห็นซิกแพคเต็มๆ

 

 

“บ้านเพื่อนคุณ ก็บ้านน้องผม” เขาพูดหน้าตาเฉย แล้วหยิบผ้าขนหนูมาซับเหงื่อ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆเธอ

 

 

“ห้ะ นี่จะทำอะไรน่ะ ออกไปนะ” เธอค่อยๆเดินหนีจนชิดกำแพง

 

 

“เดี๋ยวนะ คุณคือคนที่ขับรถชนผม เมื่อวานก่อน!” เขาถาม เมื่อเริ่มจะนึกได้

 

 

“เอ่อ เอ่อขอโทษละกัน” เธอพูดแล้วเบือนหน้าหนี

 

 

“เหอะ คนรวยๆนี่ก็ดีแต่เอาเงินฟาดหัวคนอื่น” เขาว่า

 

 

“ก็คุณแกล้งเดินตัดหน้ารถชั้น หวังจะเอาเงินอยู่แล้วนิ” เธอย้อน

 

 

“ไร้สาระ” เขาส่ายหน้าแล้วหันกลับไปสนใจกับลู่วิ่งริมกระจกแทน

 

 

“เดี๋ยวสิ คุณยังไม่ตอบชั้นเลยว่ามาทำอะไรที่นี่” เธอถามย้ำ

 

 

“ก็นี่บ้านผม ทำไมจะอยู่ไม่ได้” เขาพูดไปวิ่งไป

 

 

“ห้ะ” หญิงสาวที่ยืนกอดอกแน่น มองเขาอย่างตะลึง

 

 

“ว่าแต่คุณเป็นเพื่อนแก้วสินะ” เขาถามอีกครั้ง

 

 

“อือ คุณเป็นพี่ชายแก้วจริงๆหรอ” เธอถามย้ำเพราะยังงงๆอยู่

 

 

“เอ้า ใช่สิ ผม ภาณุ จิระคุณ พี่ชายแท้ๆของ จริญญา ศิริมงคลสกุล ครับ” เขาพูดนิ่งๆ

 

 

“ภาณุ จิระคุณ” เมื่อได้ยินชื่อนี้เธอก็ขมวดคิ้ววุ่น ทำไมชื่อคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณป๊อปค่ะ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ” สาวใช้ในบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาบอก

 

 

“ครับ ไปทานด้วยกันสิ” เธอขานรับก่อนจะเดินออกไปผ่านหน้าคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วพูดขึ้นมา

 

 

 ตอนนี้บนโต๊ะอาหารมีเพียง เธอและเขา สองคนเท่านั้น เพราะแก้วยังไม่กลับมา

 

 

“เอ่อคุณไม่รอแก้วหน่อยหรอ” หญิงสาวเปิดประเด็นเพราะบรรยากาศบนโต๊ะเงียบสนิท

 

 

“ไม่ต้องหรอก ถึงทานนี่หมดก็มีอีกเยอะแยะในห้องครัว” เขาว่าก่อนจะตักอาหารเข้าปาก

 

 

“แล้วคุณมาทำอะไรที่บ้านผม” เขาถามเสียงแข็ง จะว่าไปตั้งแต่เจอกันเธอยังไม่เคยเห็นเขายิ้มเลย มีก็แต่สีหน้านิ่งๆแบบนี้ที่ถูกแต่งเติมบนใบหน้าคมนั่น

 

 

“ก็เอ่อ ชั้นมานอนกับแก้วน่ะ” เธอตอบตะกุกตะกักไม่กล้าพูดไปตรงๆ แล้วถึงยังไงเขาก็เป็นเหมือนเจ้าของบ้านอีกคน

 

 

“ไม่มีบ้านรึไง หึ” เขาพูดเย้ยๆ เธอที่ได้ยินคำนี้เหมือนมีอะไรมาสะกิดต่อมน้ำตาจริงๆ ใช่เธอไม่มีบ้านอีกต่อไปแล้ว

 

 

“ฮึกก” เสียงสะอื้นดังออกมาเบาๆ หญิงสาวที่กำลังร่วมโต้ะอาหารกับเขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

 

 

ไม่ได้นะยัยฟาง ห้ามให้คนอื่นเห็นน้ำตาของเรา เธอคิดก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนจะสั่งให้น้ำตาเจ้ากรรมไหลย้อนหลับไปที่ของมันก่อน

 

 

“เป็นอะไร” เขาถาม

 

 

“ป่าว ทานต่อสิ ” เธอก้มหน้าก้มตาทานอาหารจนหมด ตั้งแต่ตอนที่แก้วออกไปห้างจนถึงตอนนี้ก็รวมๆเกือบ3-4ชั่วโมงแล้ว

 

 

 

ทำไมไม่กลับสักทีนะแก้วอึดอัดจะตายอยู่แล้วเห้อ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่หญิงร่างสูงเดินอยู่ในห้าง และกำลังเลือกซื้อครีมบำรุงผิวอยู่นั้น ก็หันไปเห็นเพื่อนชายคุ้นตาคนเดิม กำลังเลือกซื้อดอกไม้และจัดเป็นช่ออยู่

 

 

เธอจ้องเขาอยู่ห่างๆ สายตาเฉี่ยวที่กำลังบรรจงเลือกดอกกุหลาบทีละใบ ทีละใบ มันช่างดูอ่อนโยนและอบอุ่นจริงๆ จนเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอ

 

 

 

“แก้ว” เขาโบกมือเรียก

 

 

“อ้าวโทโมะบังเอิญเจอกันอีกแล้ว” เธอยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปในร้านดอกไม้

 

 

“มาทำไรหรอ” เขาถาม

 

 

“ก็ซื้อครีมอะ ซื้อไปเผื่อฟางด้วย” เธอพูดแล้วยกถุงครีมขึ้นมา

 

 

“แล้วโทโมะมาเลือกดอกไม้ให้สาวที่ไหนจ้ะ ” เธอแกล้งแซว

 

 

“จะเอาไปง้อฟางน่ะ ฟางชอบกุหลาบสีแดงสดๆมากเลย” โทโมะพูดไปยิ้มไป แก้วจ๋อย

 

 

“นายยังจะตามง้อฟางอยู่อีกหรอ” เธอถาม ตอนนี้โทโมะกับแก้วพากันมานั่งคุยที่ ร้านเค้กข้างๆ

 

 

“อือ” เขาตอบ

 

 

“นายก็รู้ว่าฟางเป็นคนยังไง” เธอว่า เพราะเธอรู้ดีว่าจะให้คนอย่างฟางกลับไปคบกับโทโมะอีกครั้งคงเป็นไปไม่ได้แน่

 

 

ฟางไม่ใช่คนที่จะเลือกอ่านหนังสือเรื่องเดิมทั้งๆที่รู้ตอนจบดีอยู่แล้ว และยิ่งตอนจบไม่สวยที่ยิ่งไม่มีทางใหญ่

 

 

“ชั้นรู้ แต่ชั้นรักฟางมากนะ” โทโมะพูดนิ่งๆ คำพูดนี้ทำให้แก้วที่พยายามจะเป็นผู้ฟังที่ดีถึงกับจุกอก แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดอะไรอยู่แล้ว

 

 

“แล้วตอนนั้นนายบอกเลิกฟางทำไม” แก้วถาม ไม่ใช่แค่ฟางคนเดียวที่อยากค้นหาคำตอบ เธอเองก็อยากรู้ไม่แพ้กัน

 

 

จะต่างก็ตรงที่ฟางไม่เสียใจไม่อยากรู้อีกแล้ว ผิดกับเธอที่ยังคิดถึงเขาอยู่ทุกนาที

 

 

“ชั้นก็มีเหตุผลของชั้นน่ะ” เขาตอบเลี่ยงๆ

 

 

“อืม งั้นก็แล้วแต่นายละกัน” แก้วไม่อยากซักมาก ทั้งคู่นั่งคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้กันอยู่พักใหญ่ แก้วเหมือนเป็นคนที่รู้ใจโทโมะที่สุด ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร แต่โทโมะกลับไม่รู้อะไรเลย..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณฟางพักห้องนี้นะค่ะ เดี๋ยวสัมภาระป้าจะให้คนยกมาให้” ป้าแม่บ้านพาฟางมาที่ห้องซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของป๊อปปี้

 

 

“ขอบคุณค่ะ” ร่างเล็กเดินกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ภายในตกแต่งเป็นห้องสีชมพูหวานๆ ขนาดกว้างพอสมควร เธอมองไปรอบๆ นี่สิน่ะ ที่ที่เราต้องอยู่ต่อจากไปนี้

 

 

เสื้อผ้าทั้งหมดถูกจัดเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ ของใช้ส่วนตัววางเรียงอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง มือเรียวเล็กหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปในห้องน้ำ ทอดกายลงไปแช่ในอ่างอย่างอ่อนล้า

 

 

“เห้อ เดี๋ยวก็ดีเองเนอะฟาง” เธอพูดกับตัวเองแล้วหลับตาลง

 

 

 

 

 

 

 

 

เปรี้ยง!

 

 

 

“กรี๊ดดดด” ร่างเล็กที่นอนแช่อยู่ในอ่างเมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าก็ร้องลั่น รีบลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันปกปิดร่างกายไว้

 

 

“เห้ยคุณเป็นอะไร” เขาที่อยู่ห้องตรงข้ามได้ยินเสียงกรี๊ดของเธอก็ตกใจรีบวิ่งมาดู

 

 

“เสียงดังชั้นกลัว” เธอหลับตาพูดแล้วเอามืออุดหู

 

 

“โธ่ เรื่องแค่นี้ กรี๊ดเหมือนเจอผี” เขาพูดหน่ายๆ แล้วเดินกลับห้อง

 

 

“ดะ เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป” เธอจำใจเรียกไว้ เพราะไม่ชอบเวลาฟ้าร้องฟ้าผ่าจริงๆ

 

 

“หืม” เขาหันมามองอย่างสงสัย

 

 

“อยู่เป็นเพื่อนหน่อยสิคุณภาณุ” เธอพูดติดๆขัดๆ

 

 

“อ้ะก็ได้ กลัวขนาดนั้นเลยหรอเนี่ยคุณ” เขาขำแล้วเดินเข้าไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง

 

 

“ว่าแต่คุณชื่ออะไรยังไม่รู้เลย” เขาหันควับไปถาม

 

 

“ชื่อ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ อายุ22ปี ค่ะ” เธอตอบติดตลก

 

 

“เต็มยศเลยนะ ผมชื่อ ป๊อปปี้ ภาณุ จิระคุณ อายุ26ปี ครับ” เขาตอบกลับพร้อมกลับแนะนำตัวเองอีกครั้ง

 

 

“เออคุณนามสกุลนีระสิงห์หรอ” เขาถามเพราะ นีระสิงห์ เป็นตระกูลดังที่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จัก

 

 

“อืมม” เธอตอบสั้นๆ เพราะตอนนี้ครอบครัวของเธอที่แต่ก่อนก็มีกันกับพ่ออยู่2คน ตอนนี้กลับไม่เหลือใครเลย จะให้ตอบอะไรมากมาย

 

 

“ผมได้ยินข่าวน่ะ เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทคุณหรอ” เขาถาม

 

 

“ชั้นก็ไม่รู้..” เธอตอบเสียงเศร้าๆ ก็เธอไม่รู้อะไรจริงๆนินะ

 

 

“เออใช่อาของผมกับคุณทรงพลเป็นเพื่อน...” ป๊อปปี้พูดไม่ทันจบ แล้วจู่ๆ ก็เสียงของหญิงคนหนึ่งก็ดังมาแต่ไกล

 

 

“พี่ป๊อปขาาา”

 

 

 

 

 

------เม้น โหวต ด้วยน้าาา-----

 

------เวลาอ่านเม้นของทุกคนแล้วมีความสุขงะ-----

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา