ปมรัก

7.7

เขียนโดย rukpopfanggg

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.04 น.

  13 ตอน
  134 วิจารณ์
  24.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 21.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ทำแบบนั้นทำไม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

“ไปไหนมาจ้ะเพื่อน กลับเอาดึกป่านนี้” ฟางที่ทานเค้กอยู่ที่ห้องรับแขกกับป๊อปปี้ถามแก้วที่เพิ่งเดินเข้ามาบ้าน

 

 

 

“อ้อเอ่อ โทโมะมาชวนไปดูหนังน่ะ” แก้วตอบแล้วเดินมานั่งข้างๆฟาง

 

 

 

“โมะจีบแกหรอ” ฟางถาม ป๊อปปี้พยักหน้าเห็นด้วย

 

 

 

“บ้าหน่า ไม่ใช่ซะหน่อย” แก้วรีบปฏิเสธๆพลางเอามือขยุ้มผมแก้เขิน

 

 

 

 

“แต่แก้วก็ชอบนายโทโมะล่ะสิ” ป๊อปปี้พูดบ้าง แก้วชะงักกว่าเดิม

 

 

 

 

“พี่ป๊อปบ้าใหญ่แล้วน่า แหมมๆสองคนนี้เข้าขากันดีเชียวนะแหนะๆ” แก้วตอบปัดแล้ว รีบแซวฟางกับป๊อปปี้เพื่อเปลี่ยนเรื่อง

 

 

 

“พี่โตมากับแกนี่ก็ยี่สิบกว่าปีละทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าแกคิดไร” ป๊อปปี้ว่า

 

 

 

 

“แต่ฟาง” แก้วพูดตะกุกตะกัก มองหน้าฟางกลัวๆ เพราะยังไงโทโมะก็ถือเป็นแฟนเก่าของฟางซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ

 

 

 

“แกเห็นชั้นเป็นคนไงเนี่ย ชั้นไม่ว่าไรหรอกน่า ถ้าแกกับโมะจะรักกันแล้วคบกันน่ะ เรื่องชั้นกับโมะมันเป็นอดีตไปแล้ว อีกอย่างโมะมันก็คนกันเองและก็เป็นคนดีไว้ใจได้” ฟางพูด

 

 

 

ป๊อปปี้ที่นั่งฟังอยู่ก็แอบอมยิ้มเมื่อได้ยินฟางบอกว่าเรื่องโทโมะเป็นแค่อดีต

 

 

 

“แต่ก็โทโมะก็ไม่ได้จะจีบชั้นจริงๆซะหน่อย” แก้วยิ้มเจื่อนๆตอบ เพราะท่าทีของโทโมะที่มีต่อเธอก็ไม่ได้แสดงออกว่าจะจีบอย่างจริงจัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“น้องฟางเอาเอกสารนี่ไปตรวจหน่อยนะครับ ด่วนเลย” พิชญ์ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งที่ฟางทำงานอยู่ยื่นแฟ้มเอกสารให้

 

 

 

“ค่ะ เดี๋ยวอีกประมานครึ่งชม.ฟางเอาไปให้นะ” ฟางรับแล้วรีบเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานตัวเองแล้วก้มหน้าทำงานอย่างเร่งรีบ

 

 

 

 

“เสร็จซะที เห้อ” มือเรียวเล็กวางปากกาลงแล้วนวดมือตัวเองเบาๆ

 

 

 

 

“ตรงเวลาเป้ะค่ะ พี่พิชญ์” ฟางยื่นแฟ้มเอกสารที่ตัวเองตรวจเช็คเสร็จคืนให้พิชญ์ที่ห้องทำงานของเขา

 

 

 

“น้องฟางนี่เก่งจังครับ เพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่อาทิตย์กลับทำงานได้คล่องกว่าพนักงานเก่ากึ้กที่นี่ซะอีก ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สมกับเป็นลูกสาวท่านประธานจริงๆ ” พิชญ์ชม

 

 

 

เพราะรู้ดีว่าฟางเป็นใคร และมีเป้าหมายอะไรถึงเข้ามาทำงานในตำแหน่งแค่รองผู้จัดการฝ่ายในบริษัทของพ่อตัวเองแท้ๆ

 

 

 

“ขอบคุณค่ะ ฟางได้คนช่วยสอนงานดีน่ะ ว่าแต่พี่พอมีข่าวอะไรบ้างมั้ย” ฟางพูดแล้วนึกถึงป๊อปปี้ที่ช่วยสอนงานให้เธอ และไม่ลืมที่จะถามเรื่องของพ่อด้วย

 

 

 

 

“อ้อใช่ ว่าจะให้น้องฟางดูตั้งแต่เช้าแล้ว ลืมสนิทเลย มานี่สิ” พิชญ์กวักมือเรียกฟางมานั่งที่เก้าอี้อีกตัวแล้วส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้

 

 

 

 

“เห็นเค้าว่าเป็นท้อปซีเครสเลยนะ พี่แอบไปซีรอคมาให้” พิชญ์ว่า แล้วมองฟางที่กำลังอ่านเอกสารที่ว่า ผู้ที่มีสิทธิ์ในอำนาจเด็ดขาดของบริษัทนีระสิงห์กรุ๊ปที่สุดในตอนนี้คือ นิมิต จิระคุณ ซึ่งมีหุ้นมากที่สุด

 

 

 

 

เรื่องนี้มีแค่คนวงในที่อยู่ตำแหน่งผู้บริหารและผู้ถือหุ้นเท่านั้นที่รู้ พนักงานคนอื่นๆก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่แท้จริง เพราะนิมิตก็ไม่เคยมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

 

 

 

“บริษัทนี้เป็นของแด๊ดเท่านั้น คุณอาไม่มีสิทธิ์” ฟางพึมพาคนเดียวแล้วกำกระดาษเอสี่แผ่นนั่นแน่นด้วยความโกรธ

 

 

 

 

“เท่านี้เราก็รู้แล้วว่าต้นเหตุคือใคร” พิชญ์ว่า

 

 

 

 

“แต่ที่เราไม่รู้คืออานิมิตพาแด๊ดฟางไปที่ไหน แล้วตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง” ฟางพูดต่อ

 

 

 

 

“ยังไงก็ขอบคุณพี่พิชญ์มากนะค่ะ ฟางขอตัวกลับก่อน สวัสดีค่ะ” ฟางลา แล้วกดโทรศัพท์หาป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮัลโหล ป๊อปฟางได้เรื่องแล้วนะ คุณอาคือต้นเหตุจริงๆ ฟางจะทำยังไงต่อดี” ฟางคุยโทรศัพท์ขณะที่ตัวเองออกรถมุ่งหน้ากลับบ้าน

 

 

 

 

“กลับบ้านก่อนค่อยคุยกันดีกว่า ขับรถไปคุยไปไม่ดีนะ” ป๊อปปี้ตอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฟางจะเอาไงดี ให้ฟางไปถามคุณอาตรงๆเถอะป๊อป ฟางไม่รู้จะทำไงแล้ว เพราะยังไงก็มีแค่คุณอาที่รู้ว่าแด๊ดอยู่ไหน” ฟางที่เพิ่งถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องทำงานของป๊อปปี้

 

 

 

 

“ถ้าฟางมั่นใจว่า รอต่อไปก็ไม่ได้เรื่องอะไรแล้ว งั้นเราก็ถามคุณอาก็ได้ จะได้รู้ซะทีเนอะ” ป๊อปปี้ตอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณอามาทานอาหารเย็นด้วยกันสิครับ” ป๊อปปี้ชวนนิมิตที่เดินลงมาจากชั้นบน ซึ่งที่โต๊ะอาหารก็มีแก้วและฟางนั่งอยู่ด้วย

 

 

 

 

“งั้นรอเดี๋ยวอาขึ้นไปเก็บของแล้วลงมานะ” อานิมิตตอบแล้วขึ้นไปเก็บของ ผ่านไปไม่กี่นาทีก็ลงมาทานข้าวกับป๊อปปี้ ฟาง และแก้ว

 

 

 

 

บรรยากาศบนโต๊ะเงียบสนิท ฟางและป๊อปปี้มีท่าทีตะกุกตะกักเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูดเสียที ทำให้นิมิตเปิดประเด็นถามขึ้น

 

 

 

 

“พวกเรามีอะไรจะคุยกับอารึเปล่า” อานิมิตถาม

 

 

 

 

“อะเอ่อ” แก้วไม่ตอบและส่งสายตาไปมองฟาง

 

 

 

 

“คุณอาทำไมถึงมีหุ้นของแด๊ดฟางได้ค่ะ คุณอาเกี่ยวอะไรกับบริษัทของแด๊ด” ฟางตัดใจถามขึ้น อานิมิตตกใจชะงัก

 

 

 

 

“หนูฟางไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า” อานิมิตบ่ายเบี่ยง

 

 

 

 

“คุณอาบอกฟางมาตรงๆเถอะค่ะ ฟางรู้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ถือหุ้นรวมตัวกันจะถอนหุ้นแด๊ดแล้วโอนสิทธิ์ให้คุณอา

หรือเรื่องที่คุณอาโกหกมาไปทานข้าวกับเพื่อนทั้งที่จริงก็อยู่ที่นีระสิงห์กรุ๊ป” ฟางร่ายยาว กับสิ่งที่อึดอัดในใจมานาน อานิมิตอึ้ง

 

 

 

 

“เอ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องที่หนูควรยุ่งเลยนะ” อานิมิตส่ายหน้าแล้วทำท่าจะลุก แต่ป๊อปปี้ฉุดแขนไว้

 

 

 

 

“ไม่ใช่ได้ไงค่ะ นั่นพ่อของฟางหายไปทั้งคน บริษัทก็โดนยืด บ้านก็โดนยืด ถูกศาลสั่งล้มละลาย

แต่กลับเป็นคุณอาที่ดีกับฟางมากๆ เป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด คุณอาต้องการอะไร” ฟางเริ่มตะโกนเสียงดัง น้ำใสๆเริ่มล้นเบ้าตา

 

 

 

 

“หนูไม่เข้าใจหรอก นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่” อานิมิตจำใจนั่งลงแล้วพูด หลบสายตาฟาง

 

 

 

 

“ไม่เข้าใจยังไง คุณอาก็อธิบายมาสิ แด๊ดทำผิดอะไรคุณถึงต้องทำแบบนี้ ฮึก” ฟางพูดทั้งน้ำตา

 

 

 

 

“ทรงพลทำความผิดที่ไม่น่าให้อภัย” นิมิตตอบสั้นๆ

 

 

 

 

“ความผิดอะไร คุณพูดมาให้รู้เรื่องสิ ฮืออ” ฟางเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกมากระชากเสื้อของนิมิตอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

 

“ฟางใจเย็นก่อนนๆๆ” แก้วเห็นท่าไม่ดีรีบลุกมาห้ามฟาง

 

 

 

 

“เพราะทรงพลทำให้แม่ของหนูต้องตาย” นิมิตตอบ ทำเอาป๊อปปี้ ฟาง และแก้วอึ้ง มือเล็กๆที่กระชากคอเสื้อของนิมิตหลุดออกอัตโนมัติ ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงจะยืนต่อ

 

 

 

 

“คุณพูดเรื่องอะไร แม่เฟี๊ยตตายเพราะอุบัติเหตุรถชน” ฟางเถียง

 

 

 

 

“แล้วหนูรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนขับรถชนเฟี๊ยต” นิมิตตอบกลับ

 

 

 

 

“แด๊ดบอกว่าเป็นคนเมาแล้วขับ ตอนนั้นก็ถูกลงโทษตามกฎหมายแล้ว” ฟางตอบตามที่รู้ เธอเองก็จำเรื่องสมัยนั้นไม่ได้มากเพราะเธอเองก็ยังเด็ก

 

 

 

 

เท่าที่รู้คือ คนขับรถรับเธอกลับมาจากโรงเรียนภาพที่เห็นคือ พ่อของเธอนั่งกุมขมับน้ำตาอาบแก้ม ร้องไห้อยู่คนเดียว

 

 

 

พอเธอถามหาแม่ พ่อของเธอก็ตอบว่า แม่ไปที่ที่ไกลมากๆ ต้องรอให้เธอเรียนจบก่อนถึงจะกลับมาหา

 

 

 

จนเมื่อเธอเริ่มโตขึ้นอีกนิดเธอก็ถามพ่อบ่อยๆว่าจริงๆแม่ไปไหน จนพ่อยอมบอกความจริงว่า แม่โดนรถชนจนเสียชีวิต

 

 

 

“ไม่จริง วันนั้นเป็นวันฉลองครบรอบของบริษัททรงพลเมาจนขับรถชนเฟี้ยต แค่เพราะบริษัทนั่น” นิมิตพูดแล้วกำหมัดแน่น

 

 

 

ด้วยความคับแค้นใจที่ทรงพลได้เฟี้ยตไปเป็นคู่ชีวิต แต่ก็ไม่สามารถดูแลให้ดีได้ อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงที่เขารักต้องตายอีก

 

 

 

“ฟางไม่รู้ แล้วฟางก็ไม่สนด้วย แด๊ดเองก็เสียใจไม่น้อยกว่าทุกคนๆที่แม่ต้องตาย ที่สำคัณที่สุดตอนนี้ฟางอยากรู้ว่าแด๊ดอยู่ที่ไหน คุณอาบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฟางปล่อยโฮ

 

 

 

“ทรงพลไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว หนูไม่ต้องตามหาให้เหนื่อยเปล่าหรอก” นิมิตพูดแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ฟางนั่งร้องไห้ไม่หยุด โดยมีป๊อปปี้และแก้วคอยปลอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กลับมาอีกครั้งงง แฮ่ ขอโทษรีดเดอร์รอบที่ร้อยที่ชอบหายไปนานมาก

 

ยุ่งจริงๆงะ อีกอย่างหัวเราก็ช้า กว่าจะได้ออกมาซักตอนนี่ก้5555555

 

ขอเม้นเยอะๆ เป็นกำลังใจหน่อยน้าาาาาา

 

ความสุขของคนแต่งคือเม้นฟิคของคนอ่านนะค้า

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา