[Fic Beast] How much? “ค่าตัวนาย..เท่าไหร่กัน?”
8.1
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.54 น.
38 chapter
12 วิจารณ์
82.96K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) How much? 05 : เมื่อเธอกับฉันมาเจอกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBy nooonaa
How much? 05 : เมื่อเธอกับฉันมาเจอกัน
"DuSeop"
"ไปเลยนะไอ้เด็กบ้า! นี่คิดว่าฉันไม่เห็นรึไงว่าแกกำลังขโมยของในร้านฉัน!! ออกไป!!!"
ปึก!
"โอ๊ย! ป้า! จะปาทำไมเนี่ย! เจ็บนะเว้ย" ความรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อของแข็งกระแทกเข้าที่หัวของผมอย่างจังเล่นเอาแทบพูดไม่ออก มันเจ็บมึนเลยล่ะ
"ฉันบอกให้ออกไปไง!!" ป้าแก่หนังเหี่ยวเจ้าของร้านขายของชำยังคงตวาดไล่ผมอย่างกับหมูกับหมาแต่ผมกลับไม่รู้สึกอายอะไร ผมลุกขึ้นมาจากพื้นปัดเศษฝุ่นเล็กน้อย
"รู้แล้วหน่า เสียงดังจริง ระวังคอแตกตายนะป้า" ไม่รู้จะตะโกนให้โลกแตกไปเลยรึไง ยืนห่างกันแค่หมาคั่นยังจะตะโกนจนโลกแทบถล่ม ยิ่งเสียงอันแหลมของป้ายิ่งทำให้ผมปวดประสาท
"ไอ้เด็กเวร!!!"
"โอะๆ ไปแล้วๆ" ผมรีบผละออกตัววิ่งหนีเมื่อป้าแกวิ่งกลับไปเอ่ไม้กวาดจะมาฝาดผมใหม่ ผมก็ต้องวิ่งไม่คิดชีวิตแล้วละ
ใจร้านชะมัด
"อย่ากลับมาให้ฉันเห็นอีกนะไอ้เด็กบ้านี่"
เด็กบ้าอะไรล่ะ ก็แค่คนหยิบของแล้วไม่จ่ายตังเท่านั้นเอง แล้วมันผิดรึไง ก็ผมไม่มีตังนี่
แล้วอย่างนี้...วันนี้ผมจะเอาอะไรกินล่ะ
เอาอีกแล้ว ต้องอดอีกแล้ว
ทำไมพวกเขาไม่คิดจะสงสารเด็กแบบผมบ้างนะ พอขอทำงานก็หาว่าผมตัวเล็กดูไม่มีแรงก็ไม่รับเข้าทำงาน พอขอเศษอาหารบ้างก็หาว่าเป็นขอทาน แล้วพอไม่จ่ายก็หาว่าเป็นขโมย แล้วอย่างนี้เด็กอย่างผมจะต้องทำยังไงเล่า
ที่จริงผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ แค่ซ่าหนีออกจากบ้านมาเผชิญชีวิตอันลำบากเอง ก็คนมันเบื่อนี่ อยู่คนเดียวตลอด ผมเลยตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียวแบบคนอื่นซะเลย แต่มันผิดคลาดไปนิดตรงที่ผม...ลืมหยิบเงินมา
ผมไม่ได้โง่นะ แค่ลืมเอง...จริงๆนะ
แล้วที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมเพิ่งหนีมาได้แค่สองชั่วโมงเอง บ้านให้นอนยังไม่มีด้วยซ้ำ
เห้อ...
นี่! ทำไมพวกคุณมองผมแบบนั้นล่ะ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ผมไม่ง้อพวกคุณหรอก เพราะผมต้องหาอะไรกินก่อนที่จะหิวไส้ขาด
ผมเลยเลือกที่จะเดินมาตามทางเรื่อยๆเพื่อมองหาแรงบันดาลใจในการหาของกินจนมาถึงโรงแรมสุดหรูห้าดาวที่ดังสุดโต่งที่สุดในเกาหลี จะเป็นใครล่ะ...นอกจากโรงแรมของคิมแชชู พ่อบังเกิดเกล้าของผมเอง
เขาทำธุรกิจโรงแรมทั่วโลกจนรวยไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่เคยไม่มีเวลาให้ผมเลยสักนิด ผมเลยต้องเหงาแบบนี้ไงล่ะ
พวกคุณสงสัยล่ะสิว่าทำไมผมถึงมีนามสกุลว่ายัง มันก็ง่ายๆอะนะ แค่พ่อเขามาทำแม่ผมท้องตั้งแต่หนุ่มๆเลยรับผิดชอบผมโดยให้เงินแม่ไปตั้งตัวไกลๆ ผมเลยไม่เคยเห็นหน้าแม่สักครั้งแล้วก็กลายเป็นลูกลับๆที่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้จักผม ผมเลยต้องใช้นามสกุลเก่าย่าที่รักผมมากๆแต่ท่านก็ได้ตายจากผมไปแล้ว มันยิ่งเหงากว่าเดิม ถึงจะทำใจได้ไม่คิดมาก...แต่มันก็หวิวๆเนอะ
แต่ช่างมันเถอะ ผมทนมาได้ต้องนาน เรื่องแบบนี้น่ะเบาๆสำหรับผมแล้วถ้าเทียบกับปัญหาที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้ ผมเลยเดินเข้าไปในโรงแรมเพื่อจะหาอะไรกินได้บ้างในนั้น แต่พอผมกำลังจะเดินเข้าไปก็เห็นผู้ชายสูงหน้าตาหล่อเหลายืนอยู่หน้ารถคันหรู เขาใส่สูทผูกไทน์สีดำสนิทถึงขนาดว่าตัวยังดำเลย เห็นแล้วขำอะ
แต่จะว่าไป...คงทำงานให้คนรวยแน่ ดูจากลักษณะแล้ว แล้วเมื่อทำงานดีก็ต้องมีเงิน อ่า...เสร็จผมละ
ผมเดินตรงดิ่งไปหาเป้าหมายทันทีก่อนจะแกล้งสะดุดขาตัวเองล้มกับพื้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายคนนั้น แล้วมันก็ได้ผล เขารีบวิ่งมาดูผมแล้วถามเสียงเรียบ
"เป็นอะไรไหมไอ้หนู"
ไอ้หนู!!! มึงเรียกกูว่าอะไรนะ ไอ้แก่!!!
บังอาจมาเรียกหนุ่มหล่ออย่างผมว่าไอ้หนูได้ไงวะ ไม่ได้ตายดีแล้วมึง!
เห้ยๆ ยังโยซอบ นายกำลังจะหาเงินกินข้าวนะเว้ย ใจร่มๆไว้...
"ไม่เป็นไรครับ อะโอ๊ย.." ผมทำแกล้งยันตัวลุกขึ้นยืนช้าๆแล้วล้มกลับลงไปใหม่ แต่มันดันล้มผิดทิศไปหน่อยเพราะผมดันล้มใส่ร่างหนาอีกคนที่นั่งยองๆอยู่
ตึกตักๆ
ตัวแม่.งหอมจังวะ
"ขาแพลงแน่เลยไอ้หนู ลุกไหวมั้ย" เขาถามผมด้วยสีหน้ากังวลใจนิดหน่อยก่อนจะช่วยพยุ่งผมขึ้นยืน ผมเลยใช้โอกาสนี้เอามือแสร้งไปจับเอวสอบนั้นไว้แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังเนียนๆเมื่อผมแกล้งเซเข้าหาร่างหนา พอเอามันมาได้ผมก็เอามันแอบทันที
"ขอบคุณนะครับ" ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อยซึ่งร่างหนาเองก็ไม่ตอบอะไรก่อนจะพาผมไปนั่ง
"ระวังตัวหน่อยนะ ตัวยิ่งๆเล็กๆแบบนี้"
เออ! เน้นจริงเว้ยว่ากูตัวเล็กเนี่ย
"ครับ" ผมรับคำนั้นก่อนจะเห็นผู้ชายร่างหนาสองคนน่ากลัวเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงผิวขาวจัดแล้วสวยจนผมต้องมองตาค้าง แต่ที่ค้างกว่านั้นก็ตรงที่ผู้ชายที่เดินทำหน้าโอบเอวเจ้าหล่อนไว้ซะแน่น ดูเหมือนหวงมาก
"ฉันต้องไปแล้ว ขอตัวนะ" เขาคนนั้นที่ช่วยผมไว้เมื่อกี้ก็รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูรถให้ผู้ชายคนนั้นขึ้นนั่งก่อนที่ตัวเองจะขึ้นประจำตำแหน่งคนขับแล้วขับรถออกไป ส่วนผมน่ะหรอ หึๆ หวานหมู
มีตังแล้วเว้ย
ขอบใจนะไอ้แก่...
หลังจากที่รอรถไปได้ไกลสักพักผมก็รีบวิ่งหนีไปอีกฟากของโรงแรมแล้วตรงดิ่งหายเข้ากลีบเมฆ ต้องรีบครับ...ถ้ามันเอะใจขึ้นมาแล้วกลับมาตามผมผมก็ตายกันพอดี เนี่ยดูสิ แค่ความคิดผมก็ฉลาดแล้ว
พอมาได้ไกลพอผมควรผมก็หยุดนั่งพักก่อนจะเอากระเป๋ามันขึ้นมาเปิดดู อื้อหือ...แบงค์เป็นฟ่อนเลย แถมมีบัตรเครดิตเต็มกระเป๋าไปหมด สบายแล้วล่ะ ว่าแต่...เจ้าของกระเป๋าชื่ออะไรเนี่ย
'ยุนดูจุน'~~ อืม...ขอยืมตังนะ แต่ไม่คืนนะไอ้แก่ตัวดำ
หึๆ
หลังจากผมหาร้านข้าวที่อยากกินได้ก็ตรงเข้าสั่งอย่างไม่คิดชีวิต นั่งกินไปแล้วยิ้มไป คงอยู่รอดได้หลายอาทิตย์อยู่มั้งเงินในกระเป๋าเนี่ย แต่พอผมกินเสร็จผมก็เห็นชายชุดดำเต็มหน้าร้านไปหมด ใจผมเริ่มเต้นตุ้มๆต่อมๆเมื่อผมเห็นไอ้แก่เจ้าของกระเป๋า ทำไมมันกลับมาไวจังวะ แถมยังยืนจ้องผมที่หน้าร้านเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ในนี้
ความซวยเข้าแทรกผมแล้วล่ะ เพราะดูเหมือนมันจะเป็นมาเฟียยังไงไม่รู้...แย่แล้ว ยังโยซอบ
"ไอ้เด็กเหลือขอ!!!!"
เอื้อก
"ครับพี่..."
แย่แล้ว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
"WoonKwang"
"วันนี้อาการคุณดีขึ้นมากเลยนะครับ อีกไม่นานก็หายแน่นอนผมรับรอง"
"จริงหรอคะพี่หมอกีกวาง" สาวน้อยน่ารักน่าชังสำหรับห้องรวมหญิงคนนี้มักจะทำให้ผมต้องอมยิ้มตลอดเวลา แค่เจ้าหล่อนยิ้มเหมือนมีความหวังก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว
"จริงสิครับ แต่อย่าดีใจมากสิยอนอา เดี๋ยวหัวใจทำงานหนักนะ" ชอบตื่นเต้นแบบนี้ตลอด มันก็ทำให้ผมเป็นห่วงมากสิ ยิ่งโรคหัวใจของเจ้าหล่อนก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนไม่น่าไว้ใจแบบนี้ ไม่รู้ว่าหัวใจดวงนี้จะทนได้นานแค่ไหน
"ก็ดายุลดีใจนี่คะที่จะได้เดทกับพี่หมอสักที"
เดทงั้นหรอ...ผมลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย
'2ปีก่อน'
'คุณหมอครับๆ ช่วยน้องสาวผมด้วย!!" เสียงทุ้มตะโกนเรียกหมอดังทั่วแผนกฉุกเฉิน ผมซึ่งกำลังยืนดูเอกสารของคนไข้ฉุกเฉินคนก่อนก็ตกสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาเข้ามาคว้ามือผมแล้วลากให้ไปหาเปลคนไข้ที่กำลังเข็นเข้ามาอย่าร้อนรน
'เกิดอะไรขึ้นครับ' ผมรีบเข้าตรวจดูอาการเบื้องต้นของสาวน้อยน่าตาจิ้มลิ้มที่สลบไม่ได้สติ ทำให้ไม่ได้สังเกตอรกคนที่เป็นคนลากผมมาเลยสักนิด
'เธอบอกว่าเจ็บหัวใจแล้วก็สลบไปครับ ช่วยน้องสาวผมด้วยนะครับคุณหมอ อย่าให้เธอเป็นอะไร อย่าให้เธอจากผมไป'
'ครับ ผมจะพยายามสุดความสามารถเลย คุณอี...นำคุณไข้เข้าห้องฉุกเฉินเลย' ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่นำคนไข้เข้าส่วนผมเองก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
'ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถึงมือหมอแล้ว' ผมทิ้งประโยคท้ายให้พี่ชายคนนั้นก่อนจะตามทุกคนเข้าห้องฉุกเฉิน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
หลังจากผมช่วยช่วยเหลือคนไข้จนปลอดภัยผมก็ต้องออกมาแจ้งข่าวดีกับญาติคนไข้ แต่เพียงแค่ผมเห็นใบหน้าหล่อคมนั้นที่ดูเครียดจนน่าใจหายก็ทำให้ใจผมเต้นสั่นระรัวทันที
มันสั่นแบบที่ไม่เคยเป็นกลับใคร เหมือนกับ...รักแรกพบ
ในตอนแรกผมไม่ทันได้เห็นเขาแบบชัดเจนแบบนี้ เห็นแค่ช่วงหลังในตอนที่เขาลากผมไปหาน้องสาว แล้วผมก็เอาแต่สนใจคนไข้ แต่ตอนนี้ผมชักรู้สึก...สนใจผู้ชายคนนี้
ไม่ใช่หรอก...มันคงถูกชะตา เพราะผมเองก็ยังออกเดทกับผู้หญิงอยู่เลย
'คุณหมอครับ น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง' เสียงทุ้มถามผมอย่างตื่นเต้นที่เห็นผมยื่นอยู่ข้างหน้า ยิ่งเห็นใบหน้านี้ใกล้ๆมันยิ่งชัดเจน...หัวใจมันสั่นเกินไป
'เออ...ปลอดภัยแล้วครับ ผมส่งเข้าห้องพักฟื้นแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ'
'เห้อ...โล่งอก' ใบหน้าคมเงยขึ้นแล้วถอนหายใจออกยาวอย่างโล่งอก พอผมเห็นแล้วก็ชื่นใจแทน ผมทำให้คนมีความสุขอีกแล้ว
'คุณ....เออ'
'ดงอุนครับ ซนดงอุน'
ซน ดง อุน
ตึกตักๆ
'อีกีกวางครับ ผมจะรับเธอเป็นคนไข้ประจำเลยละกัน จะได้ดูแลได้ตลอดนะครับ' ผมจะดูแลเขาอย่างดีเลยคุณดงอุน
'ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ'
'ครับ'
แล้วร่างสูงก็เดินผ่านผมไปหาน้องสาวทันทีที่เห็นเปลเตียงเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องอมยิ้ม เขาดูเป็นคนที่รักน้องสาวมาก ดูเป็นคนที่อบอุ่นจริงๆ
"พี่หมอคะ พี่หมอ!"
"เออ ครับ"
"เหม่ออะไรคะ เรียกต้องนานแหนะ" ใบหน้าหวานงอง้ำอย่างน่ารักเมื่อไม่ได้อย่างใจ ผมเลยหัวเราะออกมาแล้วขยี้หัวสวยนั่นเล็กน้อย เธอเองก็หัวเราะตามแล้วโผเข้ากอดเอวผมแน่น
"พี่หมอใจดีจัง"
"กอดอีกแล้ว เดี๋ยวใครเห็นก็เข้าใจผิดหรอก" ถึงปากผมจะว่าแต่ก็ยอมให้น้องกอด
"ไม่กลัวหรอก ก็ดายุลชอบพี่หมอนิ"
"ฮ่าๆ ขี้อ้อนจังนะเรา"
แบบนี้ผมก็แย่สิ
"อ้อนคุณหมอเขามากๆระวังเขาจะเบื่อนะดายุล"
"พี่ชาย!" ผมรีบผละออกมาจากร่างเล็กเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ร่างสูงเดินเข้ามาที่เตียงแล้วส่งยิ้มทักทายให้ผมก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสน้องสาวตัวเอง
"เป็นยังไงบ้างคะคนเก่ง ดีขึ้นมั้ย" เสียงที่เคยทุ้มนั้นเปลี่ยนเป็นหวานทันทีเมื่อคุยกับน้องสาวสุดที่รัก ผมชักจะคุ้นเคยภาพแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ผม...ชอบเขา
แต่ตอนนี้จะพูดคำว่าชอบไม่ได้หรอก เพราะมันผ่านมาเกือบสองปีแล้วที่ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่าง มันทำให้ผมเริ่มชัดเจนว่า...รัก
รักผู้ชายที่ชื่อซนดงอุน
"ดีขึ้นมากๆแล้วคะ แล้วก็จะได้ไปเดทกับพี่หมอสักที"
"หือ...เดทเลยหรอ" ดวงตาคมเหล่มองผมอย่างสงสัยเหมือนจะหวงน้องสาวมากๆ ผมเลยทำได้แค่ยิ้มให้
"อย่ามองพี่หมอแบบนั้นนะ ดายุลเป็นคนชวนพี่หมอออกเดทเองต่างหาก อย่าหวงให้มันมากนักนะพี่ชาย เดี๋ยวเจองอน"
"ชวนเองเลยงั้นหรอ"
อ่า...อย่ามองผมแบบนั้นสิ เหมือนจับผิดกันเลย
"ใช่คะ แล้วพี่ชายก็ห้ามไม่ได้ด้วย" เสียงใสยังคงเจื้อยแจ้วจนคนที่เป็นพี่ชายต้องยอมน้องตัวเอง ผมเลยกล่าวลาเพื่อจะไปตรวจคนไข้รายต่อไป
"ผมตรวจเธอเสร็จแล้ว ขอตัวนะครับ" ผมบอกพร้อมรอยยิ้มเหมือนเคยก่อนจะพยักหน้าให้พยาบาลสาวที่แอบมองคุณดงอุนจนตาค้างให้เดินตามผมมา
ทุกคนเลยสินะ ที่ต้องหลงเสน่ห์คุณ ไม่เว้นแต่ผม
"มาหาดายุลอีกนะคะ"
"ครับ" อ้อนตลอดเลยเรา
"ขอบคุณมากนะครับคุณกีกวาง"
ตึกตักๆ
"ยินดีครับ"
มากกว่านี้ผมก็ทำให้คุณได้...คุณซนดงอุน
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
130821
นานเลย พอดีกำลังตัดสินใจว่าจะลงอีกสองคู่ยังไง ไม่อยากแต่งแยกอะ เพราะมันจะไม่ใช่บีส 555
เม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
บายๆ จุบๆ
How much? 05 : เมื่อเธอกับฉันมาเจอกัน
"DuSeop"
"ไปเลยนะไอ้เด็กบ้า! นี่คิดว่าฉันไม่เห็นรึไงว่าแกกำลังขโมยของในร้านฉัน!! ออกไป!!!"
ปึก!
"โอ๊ย! ป้า! จะปาทำไมเนี่ย! เจ็บนะเว้ย" ความรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อของแข็งกระแทกเข้าที่หัวของผมอย่างจังเล่นเอาแทบพูดไม่ออก มันเจ็บมึนเลยล่ะ
"ฉันบอกให้ออกไปไง!!" ป้าแก่หนังเหี่ยวเจ้าของร้านขายของชำยังคงตวาดไล่ผมอย่างกับหมูกับหมาแต่ผมกลับไม่รู้สึกอายอะไร ผมลุกขึ้นมาจากพื้นปัดเศษฝุ่นเล็กน้อย
"รู้แล้วหน่า เสียงดังจริง ระวังคอแตกตายนะป้า" ไม่รู้จะตะโกนให้โลกแตกไปเลยรึไง ยืนห่างกันแค่หมาคั่นยังจะตะโกนจนโลกแทบถล่ม ยิ่งเสียงอันแหลมของป้ายิ่งทำให้ผมปวดประสาท
"ไอ้เด็กเวร!!!"
"โอะๆ ไปแล้วๆ" ผมรีบผละออกตัววิ่งหนีเมื่อป้าแกวิ่งกลับไปเอ่ไม้กวาดจะมาฝาดผมใหม่ ผมก็ต้องวิ่งไม่คิดชีวิตแล้วละ
ใจร้านชะมัด
"อย่ากลับมาให้ฉันเห็นอีกนะไอ้เด็กบ้านี่"
เด็กบ้าอะไรล่ะ ก็แค่คนหยิบของแล้วไม่จ่ายตังเท่านั้นเอง แล้วมันผิดรึไง ก็ผมไม่มีตังนี่
แล้วอย่างนี้...วันนี้ผมจะเอาอะไรกินล่ะ
เอาอีกแล้ว ต้องอดอีกแล้ว
ทำไมพวกเขาไม่คิดจะสงสารเด็กแบบผมบ้างนะ พอขอทำงานก็หาว่าผมตัวเล็กดูไม่มีแรงก็ไม่รับเข้าทำงาน พอขอเศษอาหารบ้างก็หาว่าเป็นขอทาน แล้วพอไม่จ่ายก็หาว่าเป็นขโมย แล้วอย่างนี้เด็กอย่างผมจะต้องทำยังไงเล่า
ที่จริงผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ แค่ซ่าหนีออกจากบ้านมาเผชิญชีวิตอันลำบากเอง ก็คนมันเบื่อนี่ อยู่คนเดียวตลอด ผมเลยตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียวแบบคนอื่นซะเลย แต่มันผิดคลาดไปนิดตรงที่ผม...ลืมหยิบเงินมา
ผมไม่ได้โง่นะ แค่ลืมเอง...จริงๆนะ
แล้วที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมเพิ่งหนีมาได้แค่สองชั่วโมงเอง บ้านให้นอนยังไม่มีด้วยซ้ำ
เห้อ...
นี่! ทำไมพวกคุณมองผมแบบนั้นล่ะ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ผมไม่ง้อพวกคุณหรอก เพราะผมต้องหาอะไรกินก่อนที่จะหิวไส้ขาด
ผมเลยเลือกที่จะเดินมาตามทางเรื่อยๆเพื่อมองหาแรงบันดาลใจในการหาของกินจนมาถึงโรงแรมสุดหรูห้าดาวที่ดังสุดโต่งที่สุดในเกาหลี จะเป็นใครล่ะ...นอกจากโรงแรมของคิมแชชู พ่อบังเกิดเกล้าของผมเอง
เขาทำธุรกิจโรงแรมทั่วโลกจนรวยไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่เคยไม่มีเวลาให้ผมเลยสักนิด ผมเลยต้องเหงาแบบนี้ไงล่ะ
พวกคุณสงสัยล่ะสิว่าทำไมผมถึงมีนามสกุลว่ายัง มันก็ง่ายๆอะนะ แค่พ่อเขามาทำแม่ผมท้องตั้งแต่หนุ่มๆเลยรับผิดชอบผมโดยให้เงินแม่ไปตั้งตัวไกลๆ ผมเลยไม่เคยเห็นหน้าแม่สักครั้งแล้วก็กลายเป็นลูกลับๆที่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้จักผม ผมเลยต้องใช้นามสกุลเก่าย่าที่รักผมมากๆแต่ท่านก็ได้ตายจากผมไปแล้ว มันยิ่งเหงากว่าเดิม ถึงจะทำใจได้ไม่คิดมาก...แต่มันก็หวิวๆเนอะ
แต่ช่างมันเถอะ ผมทนมาได้ต้องนาน เรื่องแบบนี้น่ะเบาๆสำหรับผมแล้วถ้าเทียบกับปัญหาที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้ ผมเลยเดินเข้าไปในโรงแรมเพื่อจะหาอะไรกินได้บ้างในนั้น แต่พอผมกำลังจะเดินเข้าไปก็เห็นผู้ชายสูงหน้าตาหล่อเหลายืนอยู่หน้ารถคันหรู เขาใส่สูทผูกไทน์สีดำสนิทถึงขนาดว่าตัวยังดำเลย เห็นแล้วขำอะ
แต่จะว่าไป...คงทำงานให้คนรวยแน่ ดูจากลักษณะแล้ว แล้วเมื่อทำงานดีก็ต้องมีเงิน อ่า...เสร็จผมละ
ผมเดินตรงดิ่งไปหาเป้าหมายทันทีก่อนจะแกล้งสะดุดขาตัวเองล้มกับพื้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายคนนั้น แล้วมันก็ได้ผล เขารีบวิ่งมาดูผมแล้วถามเสียงเรียบ
"เป็นอะไรไหมไอ้หนู"
ไอ้หนู!!! มึงเรียกกูว่าอะไรนะ ไอ้แก่!!!
บังอาจมาเรียกหนุ่มหล่ออย่างผมว่าไอ้หนูได้ไงวะ ไม่ได้ตายดีแล้วมึง!
เห้ยๆ ยังโยซอบ นายกำลังจะหาเงินกินข้าวนะเว้ย ใจร่มๆไว้...
"ไม่เป็นไรครับ อะโอ๊ย.." ผมทำแกล้งยันตัวลุกขึ้นยืนช้าๆแล้วล้มกลับลงไปใหม่ แต่มันดันล้มผิดทิศไปหน่อยเพราะผมดันล้มใส่ร่างหนาอีกคนที่นั่งยองๆอยู่
ตึกตักๆ
ตัวแม่.งหอมจังวะ
"ขาแพลงแน่เลยไอ้หนู ลุกไหวมั้ย" เขาถามผมด้วยสีหน้ากังวลใจนิดหน่อยก่อนจะช่วยพยุ่งผมขึ้นยืน ผมเลยใช้โอกาสนี้เอามือแสร้งไปจับเอวสอบนั้นไว้แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังเนียนๆเมื่อผมแกล้งเซเข้าหาร่างหนา พอเอามันมาได้ผมก็เอามันแอบทันที
"ขอบคุณนะครับ" ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อยซึ่งร่างหนาเองก็ไม่ตอบอะไรก่อนจะพาผมไปนั่ง
"ระวังตัวหน่อยนะ ตัวยิ่งๆเล็กๆแบบนี้"
เออ! เน้นจริงเว้ยว่ากูตัวเล็กเนี่ย
"ครับ" ผมรับคำนั้นก่อนจะเห็นผู้ชายร่างหนาสองคนน่ากลัวเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงผิวขาวจัดแล้วสวยจนผมต้องมองตาค้าง แต่ที่ค้างกว่านั้นก็ตรงที่ผู้ชายที่เดินทำหน้าโอบเอวเจ้าหล่อนไว้ซะแน่น ดูเหมือนหวงมาก
"ฉันต้องไปแล้ว ขอตัวนะ" เขาคนนั้นที่ช่วยผมไว้เมื่อกี้ก็รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูรถให้ผู้ชายคนนั้นขึ้นนั่งก่อนที่ตัวเองจะขึ้นประจำตำแหน่งคนขับแล้วขับรถออกไป ส่วนผมน่ะหรอ หึๆ หวานหมู
มีตังแล้วเว้ย
ขอบใจนะไอ้แก่...
หลังจากที่รอรถไปได้ไกลสักพักผมก็รีบวิ่งหนีไปอีกฟากของโรงแรมแล้วตรงดิ่งหายเข้ากลีบเมฆ ต้องรีบครับ...ถ้ามันเอะใจขึ้นมาแล้วกลับมาตามผมผมก็ตายกันพอดี เนี่ยดูสิ แค่ความคิดผมก็ฉลาดแล้ว
พอมาได้ไกลพอผมควรผมก็หยุดนั่งพักก่อนจะเอากระเป๋ามันขึ้นมาเปิดดู อื้อหือ...แบงค์เป็นฟ่อนเลย แถมมีบัตรเครดิตเต็มกระเป๋าไปหมด สบายแล้วล่ะ ว่าแต่...เจ้าของกระเป๋าชื่ออะไรเนี่ย
'ยุนดูจุน'~~ อืม...ขอยืมตังนะ แต่ไม่คืนนะไอ้แก่ตัวดำ
หึๆ
หลังจากผมหาร้านข้าวที่อยากกินได้ก็ตรงเข้าสั่งอย่างไม่คิดชีวิต นั่งกินไปแล้วยิ้มไป คงอยู่รอดได้หลายอาทิตย์อยู่มั้งเงินในกระเป๋าเนี่ย แต่พอผมกินเสร็จผมก็เห็นชายชุดดำเต็มหน้าร้านไปหมด ใจผมเริ่มเต้นตุ้มๆต่อมๆเมื่อผมเห็นไอ้แก่เจ้าของกระเป๋า ทำไมมันกลับมาไวจังวะ แถมยังยืนจ้องผมที่หน้าร้านเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ในนี้
ความซวยเข้าแทรกผมแล้วล่ะ เพราะดูเหมือนมันจะเป็นมาเฟียยังไงไม่รู้...แย่แล้ว ยังโยซอบ
"ไอ้เด็กเหลือขอ!!!!"
เอื้อก
"ครับพี่..."
แย่แล้ว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
"WoonKwang"
"วันนี้อาการคุณดีขึ้นมากเลยนะครับ อีกไม่นานก็หายแน่นอนผมรับรอง"
"จริงหรอคะพี่หมอกีกวาง" สาวน้อยน่ารักน่าชังสำหรับห้องรวมหญิงคนนี้มักจะทำให้ผมต้องอมยิ้มตลอดเวลา แค่เจ้าหล่อนยิ้มเหมือนมีความหวังก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว
"จริงสิครับ แต่อย่าดีใจมากสิยอนอา เดี๋ยวหัวใจทำงานหนักนะ" ชอบตื่นเต้นแบบนี้ตลอด มันก็ทำให้ผมเป็นห่วงมากสิ ยิ่งโรคหัวใจของเจ้าหล่อนก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนไม่น่าไว้ใจแบบนี้ ไม่รู้ว่าหัวใจดวงนี้จะทนได้นานแค่ไหน
"ก็ดายุลดีใจนี่คะที่จะได้เดทกับพี่หมอสักที"
เดทงั้นหรอ...ผมลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย
'2ปีก่อน'
'คุณหมอครับๆ ช่วยน้องสาวผมด้วย!!" เสียงทุ้มตะโกนเรียกหมอดังทั่วแผนกฉุกเฉิน ผมซึ่งกำลังยืนดูเอกสารของคนไข้ฉุกเฉินคนก่อนก็ตกสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาเข้ามาคว้ามือผมแล้วลากให้ไปหาเปลคนไข้ที่กำลังเข็นเข้ามาอย่าร้อนรน
'เกิดอะไรขึ้นครับ' ผมรีบเข้าตรวจดูอาการเบื้องต้นของสาวน้อยน่าตาจิ้มลิ้มที่สลบไม่ได้สติ ทำให้ไม่ได้สังเกตอรกคนที่เป็นคนลากผมมาเลยสักนิด
'เธอบอกว่าเจ็บหัวใจแล้วก็สลบไปครับ ช่วยน้องสาวผมด้วยนะครับคุณหมอ อย่าให้เธอเป็นอะไร อย่าให้เธอจากผมไป'
'ครับ ผมจะพยายามสุดความสามารถเลย คุณอี...นำคุณไข้เข้าห้องฉุกเฉินเลย' ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่นำคนไข้เข้าส่วนผมเองก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
'ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถึงมือหมอแล้ว' ผมทิ้งประโยคท้ายให้พี่ชายคนนั้นก่อนจะตามทุกคนเข้าห้องฉุกเฉิน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
หลังจากผมช่วยช่วยเหลือคนไข้จนปลอดภัยผมก็ต้องออกมาแจ้งข่าวดีกับญาติคนไข้ แต่เพียงแค่ผมเห็นใบหน้าหล่อคมนั้นที่ดูเครียดจนน่าใจหายก็ทำให้ใจผมเต้นสั่นระรัวทันที
มันสั่นแบบที่ไม่เคยเป็นกลับใคร เหมือนกับ...รักแรกพบ
ในตอนแรกผมไม่ทันได้เห็นเขาแบบชัดเจนแบบนี้ เห็นแค่ช่วงหลังในตอนที่เขาลากผมไปหาน้องสาว แล้วผมก็เอาแต่สนใจคนไข้ แต่ตอนนี้ผมชักรู้สึก...สนใจผู้ชายคนนี้
ไม่ใช่หรอก...มันคงถูกชะตา เพราะผมเองก็ยังออกเดทกับผู้หญิงอยู่เลย
'คุณหมอครับ น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง' เสียงทุ้มถามผมอย่างตื่นเต้นที่เห็นผมยื่นอยู่ข้างหน้า ยิ่งเห็นใบหน้านี้ใกล้ๆมันยิ่งชัดเจน...หัวใจมันสั่นเกินไป
'เออ...ปลอดภัยแล้วครับ ผมส่งเข้าห้องพักฟื้นแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ'
'เห้อ...โล่งอก' ใบหน้าคมเงยขึ้นแล้วถอนหายใจออกยาวอย่างโล่งอก พอผมเห็นแล้วก็ชื่นใจแทน ผมทำให้คนมีความสุขอีกแล้ว
'คุณ....เออ'
'ดงอุนครับ ซนดงอุน'
ซน ดง อุน
ตึกตักๆ
'อีกีกวางครับ ผมจะรับเธอเป็นคนไข้ประจำเลยละกัน จะได้ดูแลได้ตลอดนะครับ' ผมจะดูแลเขาอย่างดีเลยคุณดงอุน
'ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ'
'ครับ'
แล้วร่างสูงก็เดินผ่านผมไปหาน้องสาวทันทีที่เห็นเปลเตียงเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องอมยิ้ม เขาดูเป็นคนที่รักน้องสาวมาก ดูเป็นคนที่อบอุ่นจริงๆ
"พี่หมอคะ พี่หมอ!"
"เออ ครับ"
"เหม่ออะไรคะ เรียกต้องนานแหนะ" ใบหน้าหวานงอง้ำอย่างน่ารักเมื่อไม่ได้อย่างใจ ผมเลยหัวเราะออกมาแล้วขยี้หัวสวยนั่นเล็กน้อย เธอเองก็หัวเราะตามแล้วโผเข้ากอดเอวผมแน่น
"พี่หมอใจดีจัง"
"กอดอีกแล้ว เดี๋ยวใครเห็นก็เข้าใจผิดหรอก" ถึงปากผมจะว่าแต่ก็ยอมให้น้องกอด
"ไม่กลัวหรอก ก็ดายุลชอบพี่หมอนิ"
"ฮ่าๆ ขี้อ้อนจังนะเรา"
แบบนี้ผมก็แย่สิ
"อ้อนคุณหมอเขามากๆระวังเขาจะเบื่อนะดายุล"
"พี่ชาย!" ผมรีบผละออกมาจากร่างเล็กเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ร่างสูงเดินเข้ามาที่เตียงแล้วส่งยิ้มทักทายให้ผมก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสน้องสาวตัวเอง
"เป็นยังไงบ้างคะคนเก่ง ดีขึ้นมั้ย" เสียงที่เคยทุ้มนั้นเปลี่ยนเป็นหวานทันทีเมื่อคุยกับน้องสาวสุดที่รัก ผมชักจะคุ้นเคยภาพแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ผม...ชอบเขา
แต่ตอนนี้จะพูดคำว่าชอบไม่ได้หรอก เพราะมันผ่านมาเกือบสองปีแล้วที่ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่าง มันทำให้ผมเริ่มชัดเจนว่า...รัก
รักผู้ชายที่ชื่อซนดงอุน
"ดีขึ้นมากๆแล้วคะ แล้วก็จะได้ไปเดทกับพี่หมอสักที"
"หือ...เดทเลยหรอ" ดวงตาคมเหล่มองผมอย่างสงสัยเหมือนจะหวงน้องสาวมากๆ ผมเลยทำได้แค่ยิ้มให้
"อย่ามองพี่หมอแบบนั้นนะ ดายุลเป็นคนชวนพี่หมอออกเดทเองต่างหาก อย่าหวงให้มันมากนักนะพี่ชาย เดี๋ยวเจองอน"
"ชวนเองเลยงั้นหรอ"
อ่า...อย่ามองผมแบบนั้นสิ เหมือนจับผิดกันเลย
"ใช่คะ แล้วพี่ชายก็ห้ามไม่ได้ด้วย" เสียงใสยังคงเจื้อยแจ้วจนคนที่เป็นพี่ชายต้องยอมน้องตัวเอง ผมเลยกล่าวลาเพื่อจะไปตรวจคนไข้รายต่อไป
"ผมตรวจเธอเสร็จแล้ว ขอตัวนะครับ" ผมบอกพร้อมรอยยิ้มเหมือนเคยก่อนจะพยักหน้าให้พยาบาลสาวที่แอบมองคุณดงอุนจนตาค้างให้เดินตามผมมา
ทุกคนเลยสินะ ที่ต้องหลงเสน่ห์คุณ ไม่เว้นแต่ผม
"มาหาดายุลอีกนะคะ"
"ครับ" อ้อนตลอดเลยเรา
"ขอบคุณมากนะครับคุณกีกวาง"
ตึกตักๆ
"ยินดีครับ"
มากกว่านี้ผมก็ทำให้คุณได้...คุณซนดงอุน
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
130821
นานเลย พอดีกำลังตัดสินใจว่าจะลงอีกสองคู่ยังไง ไม่อยากแต่งแยกอะ เพราะมันจะไม่ใช่บีส 555
เม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
บายๆ จุบๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ