Always with you.. หยุดรักไว้ที่เธอ

9.7

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.43 น.

  27 chapter
  88 วิจารณ์
  47.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

25)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

          "มิกกี้ครับ วันนี้ที่โรงเรียนมีเพื่อนมาถามหามิกกี้ของผมเยอะแยะเลยนะ"        

 

 

          "...................."          

 

 

          "แล้วก็นะ วันนี้ฉันวาดรูปมาให้เธอดูด้วยน้า อ้ะ นี่ไง สวยใช่มั้ยล่ะฉันตั้งใจวาดเชียวนะ"         

 

          "....................."          

 

 

          "นี่แก้ว.. ใจร้ายเกินไปแล้วนะ ให้ฉันนั่งกุมมือเย็นๆของเธออยู่ฝ่ายเดียว แถมเธอยังไม่ยอมพูดอะไรกับฉันมาสามวันแล้วนะ เธอจะทำฉันลงแดงรึไง"        

 

 

          "....................."          

 

 

          "รีบกลับมาหาฉันได้มั้ยแก้ว.. ฉันคิดถึงเธอ.." 

 

 

 

 

 

 

 

ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด..         

 

 

 

 

 

 

 

          ไม่ว่าโทโมะจะพยายามปลุกคนรักที่นอนแน่นิ่งแต่รอบตัวเต็มไปด้วยสายน้ำเกลือและเครื่องช่วยหายใจ แต่ผลที่ได้กลับมาก็คือความเงียบเสมอ มีเพียงแต่เสียงของเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นที่ว่าเธอถูกรถชนแล้วอาการสาหัส เขาก็สวดภาวนาทุกคืนทุกเวลาให้เธอหายดี และที่สำคัญที่สุดคือ เธอตื่นมาแล้วเรียกชื่อเขาได้เป็นคนแรก..        

 

          ทุกๆวันจะมีดอกไม้สดสีสบายตามาปลี่ยนในแจกันทุกๆเช้า ทุกๆคืนจะมีเสียงแสดงความอ่อนโยนจากเขาที่มานั่งอ่านหนังสือให้เธอฟังทุกๆวัน บางทีเขาก็หวังว่าการที่เขาทำทุกอย่างไปนี้ จะทำให้เธอจำเขาได้ เธอจะตื่นมาบอกรักเขา และเธอจะไม่ความจำเสื่อม เพื่อนทุกๆคนแวะมาเยี่ยมเยียนกันอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้ว่าป็อปปี้ ฟาง เขื่อน เฟย์จะมาขอเปลี่ยนเฝ้าอาการของแก้วโทโมะก็ไม่ยอม เขาจะขอดูแลเธอจนกว่าเธอจะฟื้น เขามีความเชื่อเล็กๆอยู่ว่าการที่เขามาพูดเรื่องราวระหว่างเขากับเธอมันจะทำให้เธอจำเขาและทุกๆคนได้ เขาขอแค่นั้น แค่เธอไม่จากไปจากเขาก็พอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

KAEW' PART

 

 

 

 

 

ฟึบ..         

 

 

 

 

 

 

          "หือ.. ที่นี่ที่ไหนกัน" ฉันตื่นขึ้นมาก็เจอกับห้องสีขาวโพลน พอลุกขึ้นนั่งก็รู้สึกเหมือนกับตัวเบาหวิวอย่างกับปุยนุ่น ฉันมองไปรอบๆห้องก็พบเข้ากับคนที่นั่งกุมมือฉันอยู่ อ่า.. สุดที่รักของฉันไงล่ะ แต่เอ้ะ ทำไมเขาต้องร้องไห้ ทำไมกัน ?          

 

          แต่ก็พอมองลงมาเท่านั้นแหละ ทำไม.. ทำไมถึง.. ทำไมถึงมีฉันอีกคนนอนอยู่ แล้วทำไมตัวฉันอีกคนถึงมีเครื่องครอบหายใจ ทำไมถึงต้องมีสายน้ำเกลือ ที่นี่โรงพยาบาลเหรอ ?          

 

          "ยะ.. อย่าบอกนะว่า" ฉันตัดสินใจลุกออกจากเตียงมายืนหยุดอยู่ข้างๆโทโมะ พอเอามือไปจับที่ไหล่ของเขามันกลับทะลุผ่านเขาไปอย่างง่ายๆ อะไรกัน..         

 

          "ทะ.. โทโมะ โทโมะ ได้ยินแก้วมั้ย โทโมะ !" เรียกดังก็แล้ว ตะโกนก็แล้ว แต่เขากลับยังนั่งนิ่งน้ำตาไหลพรากอย่างเดียวเลย นี่ตกลงฉันคือใครกันแน่ หรือว่าฉันตายแล้ว บ้าสิ ! ฉันจะตายได้ยังไงถ้าฉันยังนอนอยู่บนเตียงนั่น แล้วนี่คืออะไรล่ะ ฉันเป็นวิญญาณงั้นเหรอ ? วิญญาณ โอ้ไม่นะ ฉันคือผีเหรออออออออ >~<                   

 

 

 

 

 

 

 

 

          "เฮ้ยไอ้โมะ ฉันมาเปลี่ยนเวรเฝ้า แกปะ.. แกไปพักผ่อนก่อนมั้ยเพื่อน"  ป็อปปี้เดินเข้ามาพร้อมกับยัยฟางที่เดินก้มหน้างุด สงสัยคงจะโดนดุแฮะ แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าตัวฉัน ฉันเป็นวิญญาณไปแล้วนะ ! ป็อปปี้เดินเข้ามาตบบ่าโทโมะทันทีที่เห็นเขาร้องไห้ ยัยฟางที่เงยหน้าขึ้นมาเปลี่ยนจากสีหน้าบูดเป็นเศร้าไปในทันทีที่เห็นฉันนอนแน่นิ่งแบบนั้น แน่สิ สภาพฉันมันดูจะทรมานมากจริงๆ ขนาดฉันอยู่แบบนี้ฉันยังทรมานเลย ตอนนี้ก็ไม่ต่างจากการอยู่คนเดียวเลยซักนิด         

 

          "ยัยฟาง แกได้ยินฉันมั้ย ยัยฟาง ยัยฟาง.." ฉันลองเรียกเพื่อนรักดูอีกครั้ง ถึงรู้ว่ายัยฟางจะไม่ได้ยินแต่ฉันก็อยากลองดู บางทีที่ฉันพูดอยู่คนเดียวมันอาจจะทำให้ฉันหายเหงาก็ได้ แต่พอเรียกไปเท่านั้นล่ะ เหงากว่าเดิมอีก         

 

          "ฮะ ป็อป ในห้องนี้มีพยาบาลอยู่เหรอ" อยู่ๆยัยฟางก็โพล่งถามขึ้น พยาบาล ? พยาบาลที่ไหนกัน ฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นจะมีใครนี่ เอ้ะหรือว่ายัยฟางจะได้ยินเสียงฉัน         

 

          "พยาบาลที่ไหน ไม่มีนี่ยัยเป็ด มั่วจริงเลย" ป็อปปี้บอกอย่างเอือมๆ         

 

          "แต่ฉันได้ยินจริงๆนะหมี หมีไม่ได้ยินเหรอ มีคนเรียกชื่อฉัน" ยัยฟางยังคงดื้อดึงเถียงหน้าตาย โธ่ยัยเป็ดเอ้ย นี่จำเสียงเพื่อนรักของตัวเองไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย         

 

          "นี่ยัยฟางฉันอยู่ตรงนี้ นี่ๆๆๆ ฉัน อยู่ นี่ !" ฉันตัดสินใจพูดอีกครั้งแล้วไปยืนประจัญหน้ากับทุกคนที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง แต่ป็อปปี้กลับยังเอามือพิงหน้าผากตัวเองแล้วกลอกตาไปมา ส่วนโทโมะก็ยังคงนั่งจับมือฉันอยู่อย่างเดิม แต่ยัยฟางนี่สิ เหมือนจะมองเห็นฉันนะ ตาโตยิ่งกว่าบิ้กอายสิบชั้นซะอีก แถมยังอ้าปากค้างยังกับเจอผี ก็ฉันน่ะสิผี.. บ้า ! ฉันเป็นวิญญาณ ต้องเรียกให้ดูหรูหน่อยซิ         

 

          "ยะ.. ยัยแก้ว !" จริงๆด้วย ยัยฟางเห็นฉันจริงๆด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ดีใจอ้ะ         

 

          "หือ.." โทโมะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าแล้วหันไปมองยัยฟางทันที          

 

          "อะไรของเป็ด แก้วก็นอนอยู่นี่ไงเธอจะตกใจทำไมกัน" ป็อปปี้ยังคงเวทนาอยู่กับท่าทีของยัยฟาง แต่ขอโทษเถอะป็อป ยัยฟางเป็นคนเดียวที่เห็นฉัน เพราะงั้นยัยฟางคือผู้วิเศษ          

 

          "ยัยฟาง บอกสองคนนี้ออกไปก่อน ฉันอยากคุยกับแก นะๆ" ฉันรีบบอกยัยฟางออกไปก่อนที่จะเถียงอะไรป็อปปี้ไปมากกว่านี้ ยัยฟางดูจะตกใจอยู่ซักพักแต่ก็ยอมบอกแต่โดยดี         

 

          "ฉันคงตาฝาดไปเอง เอ่อ.. โทโมะ ฉันว่าแก้วต้องไม่อยากให้นายกลายเป็นคนไม่ดูแลตัวเองนะ ไปกินข้าวหน่อยเถอะ เชื่อฉันเถอะนะ พักผ่อนบ้าง ฉันเชื่อว่ายัยแก้วต้องการให้นายพักผ่อนบ้าง อย่ามัวแต่นั่งรอเลย นายต้องดูแลทั้งกายและใจของนายกับแก้วให้มากกว่านี้สิ ถ้านายไม่พักผ่อน แก้วก็จะไม่สบายใจที่นายเป็นแบบนี้นะ เชื่อฉันเถอะ ป็อปพาโทโมะไปที" ยัยฟางสาทยายยาวยืด แต่ขอบอกว่ายัยนี่เป็นเพื่อนที่รู้ใจฉันสุดๆ รู้ว่าฉันต้องการให้เขาไปพักจริงๆ ไม่ได้ต้องการให้เขามานั่งเฝ้าฉันโดยที่ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำแบบนี้         

 

          "อือ ขอบใจนะฟาง ฝากดูแก้วด้วยนะ" โทโมะเดินออกไปจากห้องของฉันพร้อมๆกับป็อปปี้ คราวนี้ล่ะ ฉันกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วจับเข่าคุยกับยัยฟางในทันที ขอย้ำว่า จับ เข่า คุย !         

 

 

 

 

 

 

 

          "ยัยแก้ว ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้ แกเป็นผีงั้นเหรอ ?" คิดไว้ไม่ผิดว่าต้องถามฉันแบบนี้แน่ๆ         

 

          "ฉันไม่ใช่ผี เรียกดีๆหน่อย ฉันคือวิญญาณ แกไม่เคยได้ยินเหรอฟาง วิญญาณออกจากร่างทั้งๆที่ยังไม่ตายน่ะ"         

 

          "อ๋อ เออเนอะ แล้วทำไมแกถึงออกมาจากร่างล่ะ หรือว่ามีอะไรที่แกทำค้างเอาไว้"          

 

          "ทำค้าง ? คือไรอ่ะ เอ้ะเดี๋ยว แกบอกฉันมาก่อนว่าทำไมแกเห็นฉันแต่คนอื่นกลับไม่เห็น ทำไมแกถึงได้ยินเสียงฉันทั้งๆที่คนอื่นไม่ได้ยิน ?"          

 

          "ฉันก็ไม่รู้ สงสัยฉันจะมีสัมผัสพิเศษละมั้ง แต่ช่างเถอะแค่ฉันเห็นแกก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงแกมากนะรู้มั้ย ทุกคนใจหายหมดเลยเรื่องของแกน่ะ ดีที่แกยังไม่ตาย ไม่งั้นคนที่จะตายตามแกอย่างน้อยๆก็ฉันคนนึงล่ะ" ซึ้งจริงๆฟาง คิดไม่ผิดจริงๆที่ฉันรักแกยิ่งกว่าเพื่อนสนิท แกเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่สาว ทั้งแม่ของฉันเลย         

 

          "ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงต้องลุกขึ้นมา ที่แกบอกว่าฉันมีอะไรค้างน่ะคืออะไรเหรอฟาง"          

 

          "ฉันก็ไม่รู้ หรือแกอาจจะไปทำเรื่องไม่น่าพอใจกับใครเอาไว้หรือคงจะมีใครที่คอยอาฆาตแกอยู่ละมั้ง" หึย อาฆาตเหรอ หน้าตาอย่างฉันนี่นะจะไปทำอะไรให้คนเขาแค้นได้ สวยๆแบบนี้ทำแต่เรื่องดีๆนะคะขอบอก         

 

          "แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆหรอกนะ มันไม่ต่างจากที่ฉันอยู่คนเดียวเลยซักนิด"     

   

           "ฉันเข้าใจแกนะแก้ว แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำยังไงแกถึงจะกลับเข้าร่าง แต่ฉันกลัวนะแก้ว แกยังไม่รู้ใช่มั้ยว่าถ้าแกหายแล้วแกตื่นขึ้นมามันจะเป็นยังไง" ยัยฟางพูดซะน่ากลัวนึกภาพไม่ออกเลยแฮะ         

 

          "มันจะเป็นยังไงเหรอ ฉันจะความจำเสื่อมรึไง บ้าน่าพูดเป็นละครหลังข่าวไปได้" ฉันพูดออกไปอย่างไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง มันคงไม่เหมือนในละครหลายๆเรื่องหรอกน่าที่พอถูกรถชนแล้วกความจำเสื่อมน่ะ มันเว่อร์ไปมั้ง โดยเฉพาะถ้าจะเกิดกับคนอย่างฉัน          

 

          "ขอโทษที่ต้องบอกว่าที่แกบอกมาน่ะมันใช่ ถ้าแกตื่นมาแกจะจำใครไม่ค่อยได้ ที่ฉันกลัวคือแกจะลืมฉัน ยิ่งไปกว่านั้นแกอาจจะลืมคนที่แกรักและก็รักแกไปด้วย" สิ่งที่ยัยฟางพูดออกมาคือความจริง ให้ตายเถอะ แบบนี้ฉันก็ยิ่งจิตตกเข้าไปใหญ่ คราวนี้ก็เลือกไม่ถูกแล้วสิว่าจะเลือกแบบนี้หรือแบบนั้น ฉันจะอยู่ยังไงถ้าเป็นแบบนี้ แล้วฉันจะทำได้ยังไงถ้าหากตื่นมาแล้วลืมคนที่ฉันรักทุกคน ฉันตัดสินใจไม่ได้.. ไม่ได้เลย

 

          "แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ โธ่เอ้ย ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วยนะ" ฉันเอามือก่ายหน้าผากตัวเองด้วยความวิตก เครียดเกินจะบรรยายได้ว่ามันมากมายมหาศาลขนาดไหน

 

          ยัยฟางพยายามจะปลอบใจฉันด้วยการเข้ามากอด แต่ถึงแม้ยัยฟางจะเห็นจะได้ยินฉัน แต่ก็ยังจับตัวฉันไม่ได้อยู่ดี บ้าเอ้ยชีวิตฉันนี่รันทดจริงๆ ทรมานเหลือเกินที่อยู่แบบนี้ ฉันนอนลงไปทับร่างกายของฉันเพราะหวังอยู่เล็กๆว่าฉันจะกลับเข้าร่าง แต่กลับไม่ได้ผล เฮ้ออออออ

 

 

 

 

         

 

 

          "เป็ดน้อย กลับกันเถอะ ไม่งั้นไอ้โมะมันจะต่อยป็อปแน่ๆ" ป็อปปี้เดินเข้ามาพร้อมๆกับโทโมะที่ยังคงสีหน้านิ่งเหมือนเดิม นี่แฟนฉันมันกลายเป็นคนเย็นชาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 

 

          "เอางั้นเหรอ.. อืม โอเคกลับก็กลับ ฉันไปนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ" ยัยฟางหันมาหาฉันก่อนที่จะกลับไปตอบคำถามเพราะฉันพยักหน้า แล้วพูดเหมือนจะบอกลาโทโมะทั้งๆที่ยังมองหน้าฉันอยู่

 

          "พรุ่งนี้แกมาหาฉันนะ ฉันจะรอที่นี่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น" ยังฟางพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับป็อปปี้ทิ้งฉันไว้กับโทโมะแค่หนึ่งคน กับอีกหนึ่งวิญญาณ 

         

 

 

 

 

 

 

 

 

          "เมื่อไหร่เธอจะตื่นนะแก้ว ฉันไม่อยากให้เธอเป็นแบบนี้เลย" โทโมะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงของฉันแล้วเอามือมาลูบหน้าฉันเบาๆ ผู้ชายคนนี้อ่อนโยนจริงๆนะ ผิดกับเวลาที่เขาเงียบ เขาดูรักฉันมากอย่างที่บอกจริงๆ แบบนี้สิฉันถึงไม่อยากฟื้น ถ้าฟื้นแล้วจะจำเขาไม่ได้ ฉันคงไม่รักใครไปตลอดกาล

 

          "ฉันคิดถึงนายจัง.. โทโมะ นายจะได้ยินฉันบ้างมั้ย ?" ก็คงไม่นั่นแหละ

 

          "ทำไมไม่ตอบกันบ้าง ผมคิดถึงมิกกี้ของผม ได้โปรดกลับมาเถอะ ถึงแม้ว่ามิกกี้จะจำผีดิบคนนี้ไม่ได้ แต่ผมนี่แหละจะรื้อฟื้นเรื่องของเรากลับมาเอง มิกกี้จะต้องจำผีดิบคนนี้ได้นะ ห้ามลืมกันนะ อย่างน้อยๆก็มีซักเรื่องที่จำได้ระหว่างเรา ขอร้องล่ะ ผมไม่อยากเสียมิกกี้ไปให้ใคร ไม่อยากเสียไปไหน กลับมาหาผม กลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะนะ ผมสัญญาจะดูแลมิกกี้ของผมให้ดีที่สุด จะรักที่สุดเท่าที่ชีวิตทั้งชีวิตนี้จะแทนให้ได้ ให้ผมเป็นแบบนี้แทนได้มั้ย ให้ผมเจ็บแทนจะได้มั้ย แก้วเป็นแบบนี้โทโมะทรมานยิ่งกว่าหลายเท่านะครับ กลับมาหาผมเถอะแก้ว.. ได้โปรด.."

 

          "อย่าร้องไห้ได้มั้ยตาบ้า ฉันจะกลับไปได้ยังไงตัวฉันยังไม่รู้เลย ฉันคิดถึงนาย อยากกอดนายนานๆ อยากอยู่กับนายไปตลอด แต่ฉันทำไม่ได้ ฮึก.. ทำไม่ได้จริงๆ.." 

 

          "ฉันรักเธอนะแก้ว รัก.. มากกว่าที่ใครจะรักใครก็ตาม ฉันรักเธอ.." โทโมะก้มลงจูบที่มือฉันเบาๆ แล้วจู่ๆก็ขึ้นมานอนเบียดกับตัวของฉันแล้วค่อยๆสวมกอดฉันอย่างหลวม แต่หลวมได้พักนึงเท่านั้นเขาก็กอดฉันแน่นขึ้นกว่าเดิม ถึงฉันจะเป็นแค่วิญญาณที่สัมผัสใครไม่ได้ แต่ฉันก็ขออยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้ อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว..

 

          "ฉันก็รักนายนะโทโมะ รัก.. มากๆ"

 

 

 

 

 

 


แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันไปทั้งวันทั้งคืน 55555

ขอโทษที่หายน้าอันนี้แต่งสดเลยอาจสั้นไปนิด แต่ตั้งใจนะจริงจริ๊ง

อยากได้กำลังใจนะช่วงนี้เรียนเยอะงานเยอะไม่ค่อยว่างเลย  รักนะครัชช -3- 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา