Secret of love เพราะความลับคือความรัก
10.0
เขียนโดย kimkii
วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.47 น.
5 ตอน
20 วิจารณ์
9,442 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2556 17.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เอ้านี่แก้ว พี่ทำอาหารให้เราเสร็จแล้วนะ ลุกมากินก่อนสิ แล้วจะได้กินยา” เสียงผู้ชายที่ฉันคุ้นเคยดีดังขึ้นจากด้านบน เพราะตอนนี้ฉันนอนพะงาบๆอยู่บนเตียง เนื่องจากเมื่อวานดันเดินกลับบ้านตากฝน สภาพเลยเป็นอย่างเช่นปัจจุบัน T^T
“แก้วไม่หิวอะพี่โทโมะ ไม่กินได้มั้ย?” ความจริงก็หิวอยู่หรอกนะแต่ฉันขี้เกียจนี่นา อยากนอน นอน นอน = =
“ไม่ได้นะ ลุกขึ้นมาเลย ไม่กินข้าวแล้วจะกินยาได้ยังไง ถ้าเราเป็นอะไรไปคุณลุงคุณป้าก็ว่าพี่สิ” ตอนนี้พ่อกับแม่ของฉันไปเปิดร้านอาหารอยู่ต่างประเทศอีกนานแหละมั้งกว่าจะกลับมา ฉันเลยต้องอยู่กับพี่โทโมะ ซึ่งเป็นพี่ชายข้างบ้านสองคน
“พี่แค่กลัวโดนพ่อแม่แก้วว่าเองหรอ?” ฉันถามออกไปตามที่ใจตัวเองคิด เฮ้ออ นี่ฉันเป็นอะไรไปล่ะ ฉันชอบคนที่เป็นเสมือนพี่ชายฉันงั้นหรอ
“อันนั้นก็ใช่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือพี่เป็นห่วงแก้วเข้าใจมั้ยยัยเด็กดื้อ” พี่โทโมะบีบจมูกฉันเบาๆด้วยความเอ็นดู
ชอบจังที่พี่เขาบอกว่าเป็นห่วงฉัน ^^
พี่โทโมะจับตัวฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วตัวเองก็นั่งข้างๆเตียงแล้วยกถ้วยข้าวต้มกุ้งในมือตักแล้วเป่าป้อนฉันอย่างใจเย็น “แก้วกินเองได้นะ” แค่พี่โทโมะทำให้ฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว นี่ยังจะมาให้ป้อนอีกหรอ ไม่ดีกว่า ._.
“อย่าดื้อสิ นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวพี่ป้อนเอง” ฉันคงเถียงอะไรพี่ชายคนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ ขืนเถียงไปฉันจะทำไงล่ะ ยิ่งอยู่กันแค่สองคน พี่โทโมะอาจจะบีบคอฉันตายก็เป็นได้(เว่อร์)
“โอ้ยยย ร้อน!” ฉันอ้าปากพลางเป่าลมออกจากปากเพราะเมื่อกี้พี่โทโมะเผลอไม่เป่าข้าวต้มให้ฉัน แงๆ ลิ้นฉันสุกหมดแล้ว ToT
“พี่ขอโทษนะตัวเล็กพี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษ..” พี่โทโมะพูดขอโทษฉันแล้วจับหน้าฉันไว้นิ่งก่อนจะเป่าลมเข้ามาในปากฉันให้รู้สึกเย็นขึ้น หน้าฉันกับพี่โทโมะห่างกันไม่ถึงคืบ ตอนนี้ฉันหายร้อนแล้วแต่พี่โทโมะเหมือนจะยังไม่รู้ ยังคงเป่าปากฉันเรื่อยไปจนปากพี่โทโมะค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ปากฉันขึ้นเรื่อยก่อนจะ…
“แก้วหายร้อนแล้ว” ฉันผละจากภวังค์เมื่อครู่ที่กำลังจะพาฉันเตลิดไปไกล พี่โทโมะดูจะตกใจเล็กน้อยที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรลงไป
“อะ..อ๋อหรอ ดีแล้วๆ” พี่โทโมะพูดเก้ๆกังๆแล้วเกาหัวแกรกๆ
3 วันผ่านไป
ตอนนี้ฉันหายเป็นปกติแล้วล่ะ เย้ดีใจจัง~ จะได้ไปเที่ยวกับเฟย์เพื่อนรักสักที >_< “แก้วววว ฉันคิดถึงแกจัง” เฟย์เดินเข้ามาในบ้านแล้วกอดฉันโยกไปโยกมา “แย่ชะมัดฉันอ่อนแอไปตั้งสามวัน ไม่ได้ไปเที่ยวกับแกเลย”
“วันนี้ฉันมีคอเลคชั่นใหม่มาแนะนำสาวหล่ออย่างแก นี่เลยคอเลคชั่นใหม่ของเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด แล้วก็…”
“โอเค พอๆเก็บหนังสือแฟชั่นของแกไปเถอะยังไงซะวันนี้..”
“แกจะไปไม่ช้อปปิ้งกับฉันหรอแก้ว T^T”
“ใครว่าล่ะ ยังไงซะวันนี้ฉันก็ต้องไปถล่มทุกช้อปทุกแบรนด์อยู่แล้ว ^o^”
“เย้ๆๆ งั้นอย่ารอช้าเลย ไปกันเถอะ >[]<” เฟย์ดึงมือฉันออกไปจากบ้าน พอไปถึงหน้าบ้านฉันไม่ลืมที่จะตะโกนบอกพี่โทโมะว่าวันนี้ฉันไปเที่ยวกับเฟย์จะกลับมาค่ำๆ พี่โทโมะพยักหน้าหงึกๆเหมือนชินกับนิสัยฉันไปซะแล้ว..
@ห้าง
ฉันกับเฟย์ถือของพะรุงพะรังเต็มมือไปหมด หนักจัง ฉันไม่ได้ออกมา ช้อปปิ้งแค่สามวันทำไมเทรนด์แฟชั่นมันล้ำหน้าฉันไปขนาดนี้ก็ไม่รู้ อึ้ยยย แต่ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วล่ะ ขอตัวกลับบ้านดีกว่า เฟย์ขับรถมาส่งฉันที่บ้าน แน่นอนว่าบ้านพี่โทโมะยังเปิดไฟสว่างอยู่ พี่โทโมะจะรอฉันกลับบ้านเสมอถึงจะปิดไฟนอนพร้อมกับฉัน ผู้ชายคนนี้น่ารักกับฉันเสมอเลย รักพี่โทโมะจัง ห๊ะ..เมื่อกี้ฉันว่ารักพี่โทโมะงั้นหรอ ไม่ ไม่ ไม่ฉันจะรักพี่เขาได้ยังไง เราเป็นแค่พี่น้องกันไม่ใช่หรอ แล้วอีกอย่างถ้าฉันบอกรักพี่โทโมะ เราคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ฉะนั้นฉันต้องเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว..สินะ :(
ฉันไขกุญแจเข้าบ้าน หอบสารพัดถุงไปเก็บไว้บนห้องเมื่อเดินลงมาด้านล่างก็พบกับพี่โทโมะที่นั่งเล่นเกมสบายใจเสมือนเป็นบ้านตัวเอง
“ต่อไปนี้พี่จะมานอนกับแก้วที่นี่นะ” พี่โทโมะพูดแต่นัยต์ตายังคงจดจ่อกับเกมส์ที่อยู่ด้านหน้า
“ฮะ..มาทำไม บ้านพี่ก็ออกจะใหญ่จะมานอนบ้านแก้วทำไมกัน” ฉันเดินไปหยิบน้ำส้มในตู้เย็นพร้อมกับขนมนิดหน่อยมานั่งข้างๆพี่โทโมะ
“เป็นห่วง ถ้ามีขโมยย่องขึ้นบ้านจะทำยังไง ใครจะดูแลเด็กตัวกะเปี้ยกอย่างจริญญาล่ะครับ” พี่โทโมะกดpauseเกมส์ไว้แล้วหันมายีผมฉันด้วยความอ่อนโยน
“จริญญาดูแลตัวเองได้ค่ะ วิศวนอนบ้านตัวเองแหละค่ะดีแล้ว”
“เป็นเด็กอย่างเถียงผู้ใหญ่ แล้ววันนี้ไปซื้อเสื้อผ้าของแต่งตัวแนวผู้ชายอีกแล้วล่ะสิ ไม่เบื่อบ้างรึไง” พี่โทโมะหยิบขนมขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆแล้วถามฉัน
“แก้วชอบนิ ใส่สบายออกกางเกงขายาวกับเสื้อเชิ้ตรองเท้าผ้าใบ”
“หัดแต่งตัวเป็นผู้หญิงบ้างสิ” พี่โทโมะเอามือมาลูบแก้มฉันเบาๆ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนก้อนเนื้อด้านซ้ายมันเต้นแรงจังล่ะ พี่โทโมะคงไม่ได้ยินมันใช่มั้ย ? -/////-
“แก้วแต่งตัวของแก้วแบบนี้มาตั้งนานแล้วจะให้มาเปลี่ยนทำไม”
“เดี๋ยวก็ไม่มีใครจีบ”
“ไม่ได้ขอ”
“เถียงเก่งจริงนะเด็กบ๊อง” พี่โทโมะยีหัวฉันอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาหัวหนุนตักฉันอย่างถือวิสาสะ
“เฮ้นี่พี่จะมานอนตักแก้วแบบนี้ไม่ได้นะมันดูไม่ดี” ฉันพยายามดันหัวพี่โทโมะออกแต่ทำไมมันหนักอย่างนี้ล่ะ T_T “ไม่เห็นจะเป็นไร พี่น้องจะนอนตักกันไม่ได้หรอ ตอนเด็กเรายังอาบน้ำด้วยกันอยู่เลยนะ” ทำไมต้องขุดเรื่องเก่าๆมาเล่าให้ฉันอายด้วย -3-
“แต่ตอนนี้เราโตกันแล้ว อีกไม่กี่เดือนพี่ก็จะจบปริญญาตรีแล้วนะ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”
“ถ้าทำตัวเป็นเด็กแล้วได้นอนตักแก้วทุกวันพี่ก็ยอมนะ”
หะ..ห้ะ เมื่อกี้พี่โทโมะพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พี่เขาพูดเหมือนอยากอยู่ใกล้ชิดฉัน พูดเหมือนกับว่าชอบฉันอย่างนั้นแหละ แต่ฉันว่าฉันคงคิดมากไปเองล่ะมั้ง แก้วใจเธอมันหลงตัวเองไม่เลิกเลยจริงๆ
“กลับบ้านไปได้แล้วไป แก้วจะนอนพรุ่งนี้มีเรียน พี่ก็เหมือนกันอย่าตื่นสายล่ะ”
“กลับทำไมก็บอกแล้วว่าจะนอนบ้านแก้ว” พี่โทโมะชันตัวลุกจากตักฉันแล้วเปลี่ยนมาอุ้มฉันขึ้นไปบนบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนฉันแล้ววางจนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
“แก้วไม่ได้เป็นง่อยทีหลังไม่ต้องอุ้มเลยนะ” พูดไปงั้นแต่ในใจมันกลับบอกว่าอยากให้พี่โทโมะทำแบบนี้บ่อยๆ ..
“อยากอุ้มจะทำไมเด็กบ๊อง?” แทนที่พี่โทโมะจะหมุนตัวกลับออกไปนอนห้องอีกห้องในบ้านแต่พี่โทโมะกลับทิ้งตัวลงนอนข้างๆฉันก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มเราสองคนแล้วพี่โทโมะก็กอดฉันไว้นอน ฉันหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูก เกิดมาไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้ชายคนไหนขนาดนี้ พี่โทโมะเป็นคนแรก จะผิดไหมถ้าฉันอยากบอกว่าอยากให้เป็นทั้งคนแรกและคนเดียวที่ฉันอยากให้ทำแบบนี้ ….
“มานอนเตียงเดียวกับแก้วทำไม มากอดแก้วอีก ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันพยายามแกะมือปลาหมึกพี่โทโมะที่เหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้างออกจากเอวแต่มัน..ไม่สำเร็จเลยสักนิด ยิ่งแกะยิ่งแน่น Y_Y “นอนด้วยกันดีแล้ว เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยได้ทันเวลา”
“ไปนอนห้องข้างๆก็ได้นี่นา งั้นถ้าจะนอนเตียงเดียวกันก็อย่ากอดแก้วได้มั้ย” ฉันพยายามต่อรอง
“ติดหมอนข้าง ไม่มีแล้วนอนไม่หลับ” แล้วฉันไปเป็นหมอนข้างตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า !
“หมอนข้างก็มีไปกอดหมอนข้างสิ มากอดแก้วทำไมกัน”
“ฮื้อ..เลิกโวยวายแล้วนอนซะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่อยากไปเรียนสาย” พี่โทโมะกระชับกอดแน่นขึ้น จะว่าไปมันก็รู้สึกอบอุ่นดีจังเนอะ >O<
---------------------------------------------------------------------------------------------
ฝากด้วยน้า แต่งเล่นๆแต่มาจากความรู้สึกฟินคู่นี้จริงๆ นะเออ ^^ปล.มันยังไม่จบนะค้าบบบบบบบ
“แก้วไม่หิวอะพี่โทโมะ ไม่กินได้มั้ย?” ความจริงก็หิวอยู่หรอกนะแต่ฉันขี้เกียจนี่นา อยากนอน นอน นอน = =
“ไม่ได้นะ ลุกขึ้นมาเลย ไม่กินข้าวแล้วจะกินยาได้ยังไง ถ้าเราเป็นอะไรไปคุณลุงคุณป้าก็ว่าพี่สิ” ตอนนี้พ่อกับแม่ของฉันไปเปิดร้านอาหารอยู่ต่างประเทศอีกนานแหละมั้งกว่าจะกลับมา ฉันเลยต้องอยู่กับพี่โทโมะ ซึ่งเป็นพี่ชายข้างบ้านสองคน
“พี่แค่กลัวโดนพ่อแม่แก้วว่าเองหรอ?” ฉันถามออกไปตามที่ใจตัวเองคิด เฮ้ออ นี่ฉันเป็นอะไรไปล่ะ ฉันชอบคนที่เป็นเสมือนพี่ชายฉันงั้นหรอ
“อันนั้นก็ใช่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือพี่เป็นห่วงแก้วเข้าใจมั้ยยัยเด็กดื้อ” พี่โทโมะบีบจมูกฉันเบาๆด้วยความเอ็นดู
ชอบจังที่พี่เขาบอกว่าเป็นห่วงฉัน ^^
พี่โทโมะจับตัวฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วตัวเองก็นั่งข้างๆเตียงแล้วยกถ้วยข้าวต้มกุ้งในมือตักแล้วเป่าป้อนฉันอย่างใจเย็น “แก้วกินเองได้นะ” แค่พี่โทโมะทำให้ฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว นี่ยังจะมาให้ป้อนอีกหรอ ไม่ดีกว่า ._.
“อย่าดื้อสิ นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวพี่ป้อนเอง” ฉันคงเถียงอะไรพี่ชายคนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ ขืนเถียงไปฉันจะทำไงล่ะ ยิ่งอยู่กันแค่สองคน พี่โทโมะอาจจะบีบคอฉันตายก็เป็นได้(เว่อร์)
“โอ้ยยย ร้อน!” ฉันอ้าปากพลางเป่าลมออกจากปากเพราะเมื่อกี้พี่โทโมะเผลอไม่เป่าข้าวต้มให้ฉัน แงๆ ลิ้นฉันสุกหมดแล้ว ToT
“พี่ขอโทษนะตัวเล็กพี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษ..” พี่โทโมะพูดขอโทษฉันแล้วจับหน้าฉันไว้นิ่งก่อนจะเป่าลมเข้ามาในปากฉันให้รู้สึกเย็นขึ้น หน้าฉันกับพี่โทโมะห่างกันไม่ถึงคืบ ตอนนี้ฉันหายร้อนแล้วแต่พี่โทโมะเหมือนจะยังไม่รู้ ยังคงเป่าปากฉันเรื่อยไปจนปากพี่โทโมะค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ปากฉันขึ้นเรื่อยก่อนจะ…
“แก้วหายร้อนแล้ว” ฉันผละจากภวังค์เมื่อครู่ที่กำลังจะพาฉันเตลิดไปไกล พี่โทโมะดูจะตกใจเล็กน้อยที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรลงไป
“อะ..อ๋อหรอ ดีแล้วๆ” พี่โทโมะพูดเก้ๆกังๆแล้วเกาหัวแกรกๆ
3 วันผ่านไป
ตอนนี้ฉันหายเป็นปกติแล้วล่ะ เย้ดีใจจัง~ จะได้ไปเที่ยวกับเฟย์เพื่อนรักสักที >_< “แก้วววว ฉันคิดถึงแกจัง” เฟย์เดินเข้ามาในบ้านแล้วกอดฉันโยกไปโยกมา “แย่ชะมัดฉันอ่อนแอไปตั้งสามวัน ไม่ได้ไปเที่ยวกับแกเลย”
“วันนี้ฉันมีคอเลคชั่นใหม่มาแนะนำสาวหล่ออย่างแก นี่เลยคอเลคชั่นใหม่ของเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด แล้วก็…”
“โอเค พอๆเก็บหนังสือแฟชั่นของแกไปเถอะยังไงซะวันนี้..”
“แกจะไปไม่ช้อปปิ้งกับฉันหรอแก้ว T^T”
“ใครว่าล่ะ ยังไงซะวันนี้ฉันก็ต้องไปถล่มทุกช้อปทุกแบรนด์อยู่แล้ว ^o^”
“เย้ๆๆ งั้นอย่ารอช้าเลย ไปกันเถอะ >[]<” เฟย์ดึงมือฉันออกไปจากบ้าน พอไปถึงหน้าบ้านฉันไม่ลืมที่จะตะโกนบอกพี่โทโมะว่าวันนี้ฉันไปเที่ยวกับเฟย์จะกลับมาค่ำๆ พี่โทโมะพยักหน้าหงึกๆเหมือนชินกับนิสัยฉันไปซะแล้ว..
@ห้าง
ฉันกับเฟย์ถือของพะรุงพะรังเต็มมือไปหมด หนักจัง ฉันไม่ได้ออกมา ช้อปปิ้งแค่สามวันทำไมเทรนด์แฟชั่นมันล้ำหน้าฉันไปขนาดนี้ก็ไม่รู้ อึ้ยยย แต่ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วล่ะ ขอตัวกลับบ้านดีกว่า เฟย์ขับรถมาส่งฉันที่บ้าน แน่นอนว่าบ้านพี่โทโมะยังเปิดไฟสว่างอยู่ พี่โทโมะจะรอฉันกลับบ้านเสมอถึงจะปิดไฟนอนพร้อมกับฉัน ผู้ชายคนนี้น่ารักกับฉันเสมอเลย รักพี่โทโมะจัง ห๊ะ..เมื่อกี้ฉันว่ารักพี่โทโมะงั้นหรอ ไม่ ไม่ ไม่ฉันจะรักพี่เขาได้ยังไง เราเป็นแค่พี่น้องกันไม่ใช่หรอ แล้วอีกอย่างถ้าฉันบอกรักพี่โทโมะ เราคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ฉะนั้นฉันต้องเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว..สินะ :(
ฉันไขกุญแจเข้าบ้าน หอบสารพัดถุงไปเก็บไว้บนห้องเมื่อเดินลงมาด้านล่างก็พบกับพี่โทโมะที่นั่งเล่นเกมสบายใจเสมือนเป็นบ้านตัวเอง
“ต่อไปนี้พี่จะมานอนกับแก้วที่นี่นะ” พี่โทโมะพูดแต่นัยต์ตายังคงจดจ่อกับเกมส์ที่อยู่ด้านหน้า
“ฮะ..มาทำไม บ้านพี่ก็ออกจะใหญ่จะมานอนบ้านแก้วทำไมกัน” ฉันเดินไปหยิบน้ำส้มในตู้เย็นพร้อมกับขนมนิดหน่อยมานั่งข้างๆพี่โทโมะ
“เป็นห่วง ถ้ามีขโมยย่องขึ้นบ้านจะทำยังไง ใครจะดูแลเด็กตัวกะเปี้ยกอย่างจริญญาล่ะครับ” พี่โทโมะกดpauseเกมส์ไว้แล้วหันมายีผมฉันด้วยความอ่อนโยน
“จริญญาดูแลตัวเองได้ค่ะ วิศวนอนบ้านตัวเองแหละค่ะดีแล้ว”
“เป็นเด็กอย่างเถียงผู้ใหญ่ แล้ววันนี้ไปซื้อเสื้อผ้าของแต่งตัวแนวผู้ชายอีกแล้วล่ะสิ ไม่เบื่อบ้างรึไง” พี่โทโมะหยิบขนมขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆแล้วถามฉัน
“แก้วชอบนิ ใส่สบายออกกางเกงขายาวกับเสื้อเชิ้ตรองเท้าผ้าใบ”
“หัดแต่งตัวเป็นผู้หญิงบ้างสิ” พี่โทโมะเอามือมาลูบแก้มฉันเบาๆ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนก้อนเนื้อด้านซ้ายมันเต้นแรงจังล่ะ พี่โทโมะคงไม่ได้ยินมันใช่มั้ย ? -/////-
“แก้วแต่งตัวของแก้วแบบนี้มาตั้งนานแล้วจะให้มาเปลี่ยนทำไม”
“เดี๋ยวก็ไม่มีใครจีบ”
“ไม่ได้ขอ”
“เถียงเก่งจริงนะเด็กบ๊อง” พี่โทโมะยีหัวฉันอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาหัวหนุนตักฉันอย่างถือวิสาสะ
“เฮ้นี่พี่จะมานอนตักแก้วแบบนี้ไม่ได้นะมันดูไม่ดี” ฉันพยายามดันหัวพี่โทโมะออกแต่ทำไมมันหนักอย่างนี้ล่ะ T_T “ไม่เห็นจะเป็นไร พี่น้องจะนอนตักกันไม่ได้หรอ ตอนเด็กเรายังอาบน้ำด้วยกันอยู่เลยนะ” ทำไมต้องขุดเรื่องเก่าๆมาเล่าให้ฉันอายด้วย -3-
“แต่ตอนนี้เราโตกันแล้ว อีกไม่กี่เดือนพี่ก็จะจบปริญญาตรีแล้วนะ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”
“ถ้าทำตัวเป็นเด็กแล้วได้นอนตักแก้วทุกวันพี่ก็ยอมนะ”
หะ..ห้ะ เมื่อกี้พี่โทโมะพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พี่เขาพูดเหมือนอยากอยู่ใกล้ชิดฉัน พูดเหมือนกับว่าชอบฉันอย่างนั้นแหละ แต่ฉันว่าฉันคงคิดมากไปเองล่ะมั้ง แก้วใจเธอมันหลงตัวเองไม่เลิกเลยจริงๆ
“กลับบ้านไปได้แล้วไป แก้วจะนอนพรุ่งนี้มีเรียน พี่ก็เหมือนกันอย่าตื่นสายล่ะ”
“กลับทำไมก็บอกแล้วว่าจะนอนบ้านแก้ว” พี่โทโมะชันตัวลุกจากตักฉันแล้วเปลี่ยนมาอุ้มฉันขึ้นไปบนบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนฉันแล้ววางจนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
“แก้วไม่ได้เป็นง่อยทีหลังไม่ต้องอุ้มเลยนะ” พูดไปงั้นแต่ในใจมันกลับบอกว่าอยากให้พี่โทโมะทำแบบนี้บ่อยๆ ..
“อยากอุ้มจะทำไมเด็กบ๊อง?” แทนที่พี่โทโมะจะหมุนตัวกลับออกไปนอนห้องอีกห้องในบ้านแต่พี่โทโมะกลับทิ้งตัวลงนอนข้างๆฉันก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มเราสองคนแล้วพี่โทโมะก็กอดฉันไว้นอน ฉันหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูก เกิดมาไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้ชายคนไหนขนาดนี้ พี่โทโมะเป็นคนแรก จะผิดไหมถ้าฉันอยากบอกว่าอยากให้เป็นทั้งคนแรกและคนเดียวที่ฉันอยากให้ทำแบบนี้ ….
“มานอนเตียงเดียวกับแก้วทำไม มากอดแก้วอีก ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันพยายามแกะมือปลาหมึกพี่โทโมะที่เหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้างออกจากเอวแต่มัน..ไม่สำเร็จเลยสักนิด ยิ่งแกะยิ่งแน่น Y_Y “นอนด้วยกันดีแล้ว เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยได้ทันเวลา”
“ไปนอนห้องข้างๆก็ได้นี่นา งั้นถ้าจะนอนเตียงเดียวกันก็อย่ากอดแก้วได้มั้ย” ฉันพยายามต่อรอง
“ติดหมอนข้าง ไม่มีแล้วนอนไม่หลับ” แล้วฉันไปเป็นหมอนข้างตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า !
“หมอนข้างก็มีไปกอดหมอนข้างสิ มากอดแก้วทำไมกัน”
“ฮื้อ..เลิกโวยวายแล้วนอนซะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่อยากไปเรียนสาย” พี่โทโมะกระชับกอดแน่นขึ้น จะว่าไปมันก็รู้สึกอบอุ่นดีจังเนอะ >O<
---------------------------------------------------------------------------------------------
ฝากด้วยน้า แต่งเล่นๆแต่มาจากความรู้สึกฟินคู่นี้จริงๆ นะเออ ^^ปล.มันยังไม่จบนะค้าบบบบบบบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ