Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
42)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่42
ร่างบอบบางของธนันต์ธรญ์ยืนอยู่ลำพังริมหาดชายสีขาวที่ทอดตัวยาวไปไกลสุดสายตา
ผมนุ่มสลวยปลิวไปตามสายลม ดวงตากลมโตหลับพริ้ม รอยยิ้มบางๆถูกแต้มบนริมฝีปากรูปกระจับ
ก่อนแผ่นหลังบอบบางจะถูกแทนที่ด้วยแผงอกแกร่งของภาณุ หญิงสาวลืมตาขึ้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
มองใบหน้าหล่อคมของสามีหนุ่มที่ห่างกันเพียงคืบ แต่คนฉวยโอกาสกลับแตะริมฝีปากบางเฉียบลง
บนริมฝีปากอิ่มเบาๆก่อนจะถอนออกโดยไม่สะทกสะท้าน ผิดกับคนในอ้อมกอดที่อายแทบแทรก
แผ่นดินหนี
“อายอะไร”
ภาณุถาม ก่อนจะหัวเราะเอ็นดูภรรยาสาว แก้มนวลแดงระเรื่อจนเขาอดไม่ได้ที่จะสูดดม
ความหอมละมุนจากแก้มนวล
“เชื่อไหมว่าวันนี้ฟางจะมีความสุขมากที่สุด”เขายิ้ม ก่อนจะมองดวงตาหวานที่มองเขา
อย่างไม่เชื่อใจ เธอทำท่าจะค้านแต่เขาโพล่งขึ้นมาก่อน
“จริงนะ ทำหน้าอย่างนี้แปลว่าไม่เชื่อ”
“จะเล่นอะไรแผลงๆอีกล่ะคะ”
“เปล่าซะหน่อย พี่แก่จนจะป่านนี้แล้วนะ ไม่ทำอะไรเด็กๆแบบนั้นหรอก”
“เชื่อได้ที่ไหน ไม่งั้นจะเล่นกับตาหนูได้หรอคะ”คนตัวเล็กส่งค้อนให้เขาปะหลับปะ
เหลือก ก่อนจะผละตัวออกจากอ้อมกอดของเขา
“ฟางไปดูตาหนูดีกว่าค่ะ ซนจนคุณพ่อคุณแม่เอาไม่อยู่แล้วมั้ง”เธอเอ่ย ก่อนจะเดิน
กลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ที่นี่เป็นบ้านที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิด บ้านหลังใหญ่ติดชายทะเลในจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ เขาเกิดและโตที่นี่ แต่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและไปบริหารกิจการของครอบครัวที่
กรุงเทพฯ แต่งงานที่กรุงเทพฯ มีลูกที่กรุงเทพฯ และตอนนี้เขาก็กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯอีกครั้ง แต่นี่
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ และเขาเชื่อว่าทุกคนที่อยู่บ้านหลังใหญ่หลัง
นี้ต้องมีความสุข อย่างที่พ่อและแม่ของเขามี เหมือนที่เขามี และเหมือนที่เจ้าตัวแสบมี แต่คนที่ไม่มี
ความสุขที่แท้จริงคือธนันต์ธรญ์ เขารู้ว่าเธอยังเจ็บปวดกับบาดแผลในเรื่องเก่าๆ เขาก็พอจะรู้จาก
พ่อตาแล้วว่าได้เคลียร์เรื่องนี้กับภรรยาของเขาไปแล้วเมื่อหลายปีที่แล้ว แต่เขารู้ดีว่าธนันต์ธรญ์ไม่
เคยลืมเรื่องร้ายๆในชีวิตของเธอได้เลยสักวินาทีเดียว และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้จดจำมัน
และพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่เธอจะได้ลืมมัน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความสุข...อย่างแท้จริง
บริเวณสวนหญ้าเขียวชอุ่มหน้าบ้าน ถูกเนรมิตให้กลายเป็นปาร์ตี้เล็กๆ หลอดไฟหลาก
สีสันถูกห้อยระย้าลงมาจากต้นไม้ใหญ่ บางส่วนก็พันกันอยู่ที่พุ่มไม้เตี้ย ลูกโป่งหลากสีสันที่เจ้าตัว
แสบประจำบ้านช่วยคุณแม่และคุณย่าเป่าถูกประดับไว้ที่เก้าอี้และชานระเบียงบ้านอย่างสวยงาม
ความมืดค่อยๆเข้าครอบคลุมผืนฟ้ากว้างใหญ่ เสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นเหมือนดนตรีขับกล่อมจิตใจ
ของทุกคนให้เบิกบาน
“แม่คับ”
เด็กชายธรรศวิ่งลงจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่อมาสะกิดเอวบางของคนเป็นแม่ยิกๆ
“ว่าไงคะ”
น้ำเสียงหวานเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย ก่อนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กและเดินออกมาจากหน้าเตา
ย่างกลัวว่าเจ้าจอมแสบจะซนจนได้เจ็บตัว มือเรียวเช็ดคราบครีมเค้กออกจากแก้มยุ้ยของลูกชาย
อย่างทะนุถนอม
“กินข้าวแล้วหรือไง ถึงกินของหวานฮึ”
“ของหวาน...”ดวงตากลมโตแบบเธอหลับลง มือเล็กป้อมถูขมับทั้งสองของไปมาอย่าง
ประมวลคำพูดของเธออยู่ชั่วครู่ ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกโพลง เจ้าตัวเล็กยิ้มแป้น ก่อนจะพยักหน้า
“กินแล้วคับ”เธอหัวเราะ ก่อนจะย้อนถามคำศัพท์ที่เจ้าตัวแสบเก๊กท่านึกอยู่นานสองนาน
“แล้วหนูว่าของหวานแปลว่าอะไรคับ”
“ของหวานแปลว่าdessert คับ”เธอยิ้มพยักหน้า เวลาหกเดือนสำหรับการฝึกพูดภาษา
ไทยของเจ้าตัวเล็กถือว่าเร็วพอตัว ที่ลูกเป็นแบบนี้ก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากเธอ หากเธอไม่ดื้อรั้น
อยู่ที่อเมริกานานขนาดนั้น ธรรศก็คงไม่ต้องลำบากมาฝึกภาษาแบบนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ทีตอนเธอพูด
กรอกหูทุกวันไอ้ตัวแสบไม่สนใจเอง แต่พอมาอยู่กับคุณปู่คุณย่าท่านคงจะสอนเจ้าตัวเล็กหลายคำ
เลยพูดได้ดีขึ้นเยอะเลย
“แม่ไม่ต้องฉมว่าหนูเก่งหรอกคับ”เธอฟังสำเนียงเพี้ยนๆ ก่อนจะหัวเราะขำเจ้าตัวเล็ก
เธอวางร่างตุ้ยนุ้ยลงบนเก้าอี้สำหรับเด็กที่คุณปู่ของหนูน้อยซื้อไว้ให้ ก่อนจะเดินไปหยิบผลไม้มา
ทานพร้อมๆกับนั่งคุยกับลูกน้อย
“ป๊าเราหายไปไหนแล้วคับ”
“อ๋อ พ่อไปหาคุณตา คุณยาย แล้วก็น้าพิมคับ”
“ฮะ!”เธออุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคนที่บ้านเธอมาเดินทางมาที่นี่ด้วย
“ฮะ แปลว่าอะไรหรอคับแม่”เธอส่ายหน้าให้กับความช่างซักของลูกน้อย ก่อนจะปิด
ปากเล็กๆที่ถามเจื้อยแจ้วนั้นด้วยขนมเค้กก้อนโต ซึ่งเจ้าตัวแสบก็เงียบกริบ แล้วก้มหน้าก้มตาทาน
อย่างเดียว
“ลูกหนอลูก”เธอหัวเราะเอ็นดู ก่อนจะลุกจากโต๊ะเพื่อไปดูอาหารทะเลที่ย่างคาไว้อยู่
บนเตา แต่...
“ฟาง...”
“คุณพ่อ...มาได้ยังไงคะ”เธอเอ่ยอย่างงงๆ ก่อนจะตกอยู่ในอ้อมกอดที่เธอโหยหามา
ตลอดเวลา เธอโอบกอดท่านไว้เช่นกัน น้ำตาไหลรินลงมาช้าๆ ความอัดอั้นตันใจที่มี ความเจ็บปวด
และรอยบาดแผลกลั่นกรองและหลอมรวมกันกลายเป็นน้ำตาหยดเล็กๆ แม้ท่านจะไม่พูดอะไร แต่
เธอรู้ว่าอ้อมกอดแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ท่านกำลังแคร์ความรู้สึกของเธอ และเธอก็พร้อมจะเปิดใจรับ
ฟัง เธอไม่ได้สนใจเรื่องที่ผ่านมา แต่การจากไปของแม่สร้างรอยแผลเป็นในใจของเธอมาโดยตลอด
เธอเห็นเหตุการณ์เลวร้ายทุกอย่าง...และอยากจะรู้ว่าทำไมพ่อถึงทำแบบนั้น
“พ่อเอาของขวัญวันเกิดมาให้หนู”เธอผละออกจากอ้อมกอดของท่าน ก่อนจะมอง
ใบหน้าที่แม้จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงเค้าความหล่อเหลา
“พ่อรู้ว่าหนูเห็นเหตุการณ์วันนั้น และคิดว่าพ่อคงใจร้ายมากในสายตาของหนู”
คุณกันต์มองบุตรสาวคนโต ก่อนจะลูบศีรษะทุยสวยอย่างรักใคร่ ดวงตาคมทอประกาย
ความห่วงใยชัดเจน
“พ่อคิดว่าหนูคงจะมีเวลาฟังคำอธิบายของพ่อบ้าง”
“ค่ะ”
“ตอนนั้นบริษัทของเรากำลังแย่ พ่อกำลังจะล้มละลาย และที่สำคัญแม่ของหนูจด
ทะเบียนสมรสกับพ่อ ถ้าพ่อล้ม แม่ของหนูจะไม่เหลืออะไรเลย พ่อไม่อยากเห็นแก่ตัว ไม่อยากเห็น
คนข้างหลังต้องมาล้มกับพ่อ ตอนนั้นพ่อเครียดบวกกับความโมโห พ่อไม่คิดที่จะอธิบายให้แม่ฟังถึง
เหตุผลข้อนี้ พ่อคงจะบ้ามากถึงได้กล้าทำแบบนั้น และพ่อไม่เคยรู้เลยว่าการกระทำของพ่อจะทำให้
แม่จากหนูไปโดยไม่มีวันหวนคืน...พ่อขอโทษ”เขาโอบร่างเล็กที่โผเข้ากอด ก่อนจะลูบศีรษะสวย
นั้นด้วยความรักใคร่ ภาพที่เขาจับมือบอบบางของพิยดาประทับลงบนสัญญาการหย่า คงดูใจร้ายและ
เลือดเย็นในสายตาของลูกสาวอย่างเป็นที่สุด
“ฟางเข้าใจแล้วค่ะ”
“พ่อดีใจที่หนูเข้าใจ”
ภาณุมองสองพ่อลูกที่กอดกันแน่น ก่อนจะอุ้มเจ้าตัวแสบที่สะกิดแขนเขายิกๆขึ้นมา
“แม่ร้องไห้ทำไมหรอคับ”
“แม่เขาดีใจครับ”
“ดีใจทำไมคับ”เขายีผมดำขลับของไอ้ตัวแสบอย่างหมั่นเขี้ยว ช่างซักเหมือนใครวะ
“อืม...เอายังไงดีล่ะ”เขาครุ่นคิด ก่อนจะหยิบเยลลี่สีสวยเข้าปากเจ้าตัวเล็กที่มองเขา
ตาแป๋ว นี่คงเป็นวิธีปิดปากไอ้ตัวแสบที่ดีที่สุดเท่าที่ภรรยาเขาค้นพบมากระมัง และก็ได้ผลยิ่งกว่าได้
ผล เมื่อไอ้ตัวแสบหันเหไปสนใจเยลลี่ในจานมากกว่าคำถามที่เขาให้คำตอบไม่ได้
แขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของภรรยาสาว สายตาคมทอดมองร่างตุ้ยนุ้ยของเจ้าตัวแสบ
ที่นอนฟังนิทานที่คนเป็นแม่เล่าให้อย่างสบายอารมณ์ เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อตอนนี้เขารู้สึกชัดเจน
เหลือเกินว่าภรรยาของเขากำลังมีความสุขมากถึงมากที่สุด
“เชื่อพี่หรือยังว่าวันนี้ฟางจะมีความสุขมากที่สุด”
“เชื่อแล้วล่ะค่ะ วันนี้ฟางมีความสุขที่สุดเลย”เขาบีบจมูกโด่งรั้นของคนตัวเล็กอย่างหมั่น
เขี้ยว ก่อนจะโน้มตัวลงจูบริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“พี่ก็ดีใจที่ฟางมีความสุขครับ”
“ฟางขอบคุณนะคะ ถ้าฟางไม่มีพี่ป๊อป ฟางคงไม่มีวันนี้”เขายิ้ม ก่อนจะเกลี่ยแก้มใส
อย่างทะนุถนอม
“ถ้าพี่ไม่มีฟางกับลูก พี่ก็ไม่มีวันนี้เหมือนกันครับ ผู้ชายคนนี้โง่จนเกือบจะทำลายหัวใจ
ตัวเอง ถ้าไม่ได้เรา พี่คงไม่มีความสุขเหมือนอย่างวันนี้ พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณเรา”เขามองดวง
หน้าหวานที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนจะหลับตาลงเตรียมรับจุมพิตแสนหวานจากภรรยาสาว
“ป๊าพูดยาวจังคับ หนูไม่เข้าใจ แม่คับแล้วนิทานหนูล่ะ”
“ไอ้ตัวแสบ...กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว”
“คนบ้า พูดอะไรไม่อายลูกบ้าง”มือเล็กๆตีเข้าให้ที่แขนแกร่งของเขา ก่อนแม่ตัวดีจะหัน
ไปเล่านิทานให้ลูกจนลืมจูบหวานๆของเขาไปเลย
“คืนนี้ไปนอนกับคุณตานะ”เขาเอ่ยกับไอ้ตัวยุ่งที่นอนหนุนตักคนเป็นแม่อย่างสบาย
อารมณ์ แต่แล้วดวงตากลมโตสีดำสนิทก็มองเขา ก่อนจะเบ้หน้า
“ทำไมล่ะคับ”
“ไม่รู้...”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ