Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
9.8
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
43 ตอน
1179 วิจารณ์
136.71K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
27)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่27
“อะไรนะ!”
ภาณุอุทานขึ้นอย่างไม่เชื่อหู เขาไม่คิดว่านี้มันจะคือความจริง ผู้หญิงตรงหน้านี้น่ะหรือ
จะไม่ดื้อรั้นหรือยอมปล่อยเขาไป มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ต่อจากนี้เขาจะได้ร่วมทางรักกับหญิงสาวคน
ที่รัก แต่ภายใต้ความรู้สึกยินดีนั้น เขาก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ามันช่างรู้สึกโหวงเหวงและน่าใจหาย
อย่างบอกไม่ถูก...
และเขาคิดว่ามันก็คงเป็นแค่ความผูกพันกระมัง...
“สามปีแล้ว คุณยังไม่เคยแสดงออกสักวินาทีเดียวว่าจะรักฉัน ซึ่งฉันเข้าใจดีค่ะ ฉันคง
ไม่เก่งพอที่จะเปลี่ยนใจใคร ในเมื่อเราไปด้วยกันไม่ได้...เราก็ควรจะเลิกกันเสียที คุณจะได้มีความ
สุขกับชีวิตใหม่เสียที”
“แล้วคุณ...”
“ฉันก็มีความสุขไงคะ เรามีความสุขกันทั้งสองฝ่าย”
ร่างเล็กก้าวออกจากห้องอาหาร ดวงตาพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา มองแทบไม่เห็น
หนทางข้างหน้า ร่างกายอ่อนแรงลงไปเสียดื้อๆ ไม่คิดเลยว่าต้องมีวันนี้ อาจเป็นเพราะความหวังลมๆ
แล้งๆที่เธอคอยหล่อหลอมมันขึ้นมา จนภาพในความฝันมันชัดเจนจนกลบเกลื่อนปิดบังความเป็นจริง
ที่ต้องเผชิญ...วันนี้ถึงต้องมานั่งเสียใจแบบนี้
“ทำถูกแล้ว เจ็บซะตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าต้องเจ็บไปตลอดชีวิต”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ร่างบอบบางสะท้านขึ้น-ลงตามแรงสะอื้นไห้
แม้เหตุการณ์และการตัดสินใจครั้งนี้จะสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับหัวใจดวงน้อย แต่เธอเชื่อเสมอว่า
เวลาจะช่วยเยียวยารักษาให้มันหายดี
ร่างเล็กก้าวเข้าไปในห้องทำงานอันโอ่อ่า ร่างบอบบางทรุดตัวลงบนเก้าอี้ตัวนุ่มก่อนมือ
เล็กจะพลิกเอกสารดูไปเรื่อยๆ
“กาแฟค่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นมองพิมประภาที่ประคองถ้วยกาแฟวางลงบนโต๊ะ ใบหน้าอ่อน
หวานนั้นละม้ายกับคุณรตาแต่ก็มีเค้าของบิดาอยู่ไม่น้อย
“ขอบใจ นั่งลงก่อนสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ”
พิมประภาถึงกับนิ่งงงแต่ก็ยอมทรุดตัวลงนั่งอย่างที่เธอบอก
“ฉันกับคุณภาณุเรากำลังจะหย่ากัน เธอสบายใจได้แล้วนะ ส่วนหุ้นบริษัททั้งหมดของ
ฉัน ฉันจะโอนคืนให้คุณพ่อ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะมาย่างสมบัติของเธอไป...รักเขาให้มากๆนะ เขารัก
เธอมาก...”
พิมประภาเอื้อมมือไปกุมมือเรียวบางของพี่สาวต่างมารดาไว้ก่อนจะบีบเบาๆอย่างให้
กำลังใจ แม้น้ำเสียงของธนันต์ธรญ์จะดูเข้มแข็งเพียงใด แต่เธอก็สัมผัสได้ว่ามันแผงไปด้วยความ
เจ็บปวด
“พิมขอโทษที่ทำให้คุณฟางต้องทุกข์ใจ แต่พิมมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอก...”
“ฉันเข้าใจ...”
“เดี๋ยวสิคะ พิมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าจะพูดเรื่องอะไร”
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ”เธอเอ่ยถามอย่างอยากรู้ เพราะสีหน้าของพิมประภาดูไม่สบายใจแปลกๆ
“เรื่องพี่ป๊อปค่ะ พิมอยากจะบอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาระหว่างที่พิมคบกับพี่ป๊อป
เขาไม่เคยล่วงเกินพิมเลย เวลาเขาบอกรักเขาไม่แม้แต่จะมองตาพิม บางทีพี่ป๊อปอาจจะรักคุณฟาง
อยู่ก็ได้นะคะ ที่พิมพูดแบบนี้เพราะพิมเองก็ไม่มีความสุข ทั้งๆที่เขาบอกว่ารักพิม แต่พิมรู้สึกว่าพิม
จะรักเขาอยู่ข้างเดียว”เธอยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่แพ้พิมประภา
“เขาบอกฉันเสมอว่าเขารักเธอมากแค่ไหน อย่ากังวลเลย ระหว่างฉันกับเขามันก็เป็น
เพียงแค่ความผูกพัน อีกไม่นานมันก็จะหายไป”
ธนันต์ธรญ์มองเจ้าของน้ำเสียงหวานผ่านม่านน้ำตา หญิงสาวตรงหน้าดีงามเกินกว่าที่คน
อย่างเธอจะเทียบได้ หากเธอเป็นพิมประภาในวันนี้ เธอจะหัวเราะเยาะที่ในที่สุดมารหัวใจได้ตาย
จากเธอไปเสียที แต่พิมประภาไม่ใช่...ผู้หญิงคนนี้อ่อนหวาน และมีจิตใจที่บริสุทธิ์เกินกว่าเธอ
มาก...
“ฉันมีแม่คนเดียวที่รักฉัน ตลอดระยะเวลายี่สิบห้าปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีญาติที่ไหน ฉัน
ตัวคนเดียว และฉันก็จะขอตัวคนเดียวแบบนี้ตลอดไป ฉันจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนแม่...ขอบคุณนะที่
ยังเห็นคนอย่างฉันเป็นพี่สาว แต่ฉันมันเลวเกินไป...หรือเธอคิดว่าฉันดีเกินกว่าเธอ”เธอเอ่ยติดตลก
แต่น้ำเสียงและหัวใจไม่ได้ตลกตาม ความเจ็บปวดยังคงแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของร่างกาย
“แม่เคยเล่าให้พิมฟังว่าแม่ของคุณฟาง...”
“แม่ของฉันท่านเข้มแข็งมาก ท่านก็เป็นเหมือนฉันนี่แหละ นมบอกว่าแม้กระทั่งวัน
คลอด ท่านก็พาฉันไปที่โรงพยาบาลสองคนแม่ลูก หลังจากวันคลอดท่านก็พาฉันออกมาจากโรง
พยาบาลสองคนแม่ลูก...เรามีกันแค่สองคนแม่ลูก เชื่อไหมว่าพ่อแทบจะไม่เคยอยู่ในความทรงจำ
ของฉันเลย”
“แต่คุณพ่อรักคุณฟางมาก”
“เรื่องตลกน่ะสิ อย่าพยายามเปลี่ยนความคิดฉันเลย...ถ้าเธอเป็นฉัน แล้วเธอจะรู้...”
พิมประภาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ ไม่เคยคิด
เลยว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเข้มแข็งขนาดนั้นจะอ่อนไหวและอ่อนแอจนเธอสัมผัสได้...
มือเล็กพับแฟ้มเอกสารลง ก่อนจะเก็บเอกสารที่เหลือไปทำงานต่อที่บ้าน เธอหอบแฟ้ม
เอกสารพะรุงพะรังไปที่รถคันหรู เมื่อปลดล็อกได้ก็จัดการโยนแฟ้มเอกสารเข้าไปในรถทันที
เสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์เรียกความสนใจของเธอได้ในทันที เธอควานหาเจ้าเครื่อง
มือสื่อสารราคาแพงในกระเป๋าก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นบิดา
“สวัสดีค่ะ”
“พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับฟาง มาหาพ่อที่สุสานของแม่หน่อย”
“ค่ะ”เธอตอบรับอย่างว่าง่าย มันต้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่ๆ และมันคงเป็นเรื่องสำคัญ
มากที่พ่อถึงกับต้องเรียกเธอไปคุยต่อหน้าแม่
มือเล็กกำพวงมาลัยรถคันหรูแน่นหลังจากที่สตาร์ทเรียบร้อยแล้ว นึกเป็นห่วงสามีหนุ่ม
ที่ตอนเย็นอาจจะไม่ได้ทานข้าว เพราะเธออาจจะกลับมาไม่ทัน แต่...เขาก็ไม่ค่อยจะทานอาหาร
ร่วมกับเธออยู่แล้วนี่นา วันนี้เขาอาจจะมีกับข้าวฝีมือคนรักไว้ทานแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้...
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังห่วงหาอาทรเขาอยู่ทุกวินาที
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังคงโหยหาความรักและอ้อมกอดอยู่ทุกวินาที
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังมีเขาอยู่ในทุกที่ของหัวใจ ของความรู้สึก ของสมอง
ตอนที่27
“อะไรนะ!”
ภาณุอุทานขึ้นอย่างไม่เชื่อหู เขาไม่คิดว่านี้มันจะคือความจริง ผู้หญิงตรงหน้านี้น่ะหรือ
จะไม่ดื้อรั้นหรือยอมปล่อยเขาไป มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ต่อจากนี้เขาจะได้ร่วมทางรักกับหญิงสาวคน
ที่รัก แต่ภายใต้ความรู้สึกยินดีนั้น เขาก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ามันช่างรู้สึกโหวงเหวงและน่าใจหาย
อย่างบอกไม่ถูก...
และเขาคิดว่ามันก็คงเป็นแค่ความผูกพันกระมัง...
“สามปีแล้ว คุณยังไม่เคยแสดงออกสักวินาทีเดียวว่าจะรักฉัน ซึ่งฉันเข้าใจดีค่ะ ฉันคง
ไม่เก่งพอที่จะเปลี่ยนใจใคร ในเมื่อเราไปด้วยกันไม่ได้...เราก็ควรจะเลิกกันเสียที คุณจะได้มีความ
สุขกับชีวิตใหม่เสียที”
“แล้วคุณ...”
“ฉันก็มีความสุขไงคะ เรามีความสุขกันทั้งสองฝ่าย”
ร่างเล็กก้าวออกจากห้องอาหาร ดวงตาพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา มองแทบไม่เห็น
หนทางข้างหน้า ร่างกายอ่อนแรงลงไปเสียดื้อๆ ไม่คิดเลยว่าต้องมีวันนี้ อาจเป็นเพราะความหวังลมๆ
แล้งๆที่เธอคอยหล่อหลอมมันขึ้นมา จนภาพในความฝันมันชัดเจนจนกลบเกลื่อนปิดบังความเป็นจริง
ที่ต้องเผชิญ...วันนี้ถึงต้องมานั่งเสียใจแบบนี้
“ทำถูกแล้ว เจ็บซะตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าต้องเจ็บไปตลอดชีวิต”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ร่างบอบบางสะท้านขึ้น-ลงตามแรงสะอื้นไห้
แม้เหตุการณ์และการตัดสินใจครั้งนี้จะสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับหัวใจดวงน้อย แต่เธอเชื่อเสมอว่า
เวลาจะช่วยเยียวยารักษาให้มันหายดี
ร่างเล็กก้าวเข้าไปในห้องทำงานอันโอ่อ่า ร่างบอบบางทรุดตัวลงบนเก้าอี้ตัวนุ่มก่อนมือ
เล็กจะพลิกเอกสารดูไปเรื่อยๆ
“กาแฟค่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นมองพิมประภาที่ประคองถ้วยกาแฟวางลงบนโต๊ะ ใบหน้าอ่อน
หวานนั้นละม้ายกับคุณรตาแต่ก็มีเค้าของบิดาอยู่ไม่น้อย
“ขอบใจ นั่งลงก่อนสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ”
พิมประภาถึงกับนิ่งงงแต่ก็ยอมทรุดตัวลงนั่งอย่างที่เธอบอก
“ฉันกับคุณภาณุเรากำลังจะหย่ากัน เธอสบายใจได้แล้วนะ ส่วนหุ้นบริษัททั้งหมดของ
ฉัน ฉันจะโอนคืนให้คุณพ่อ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะมาย่างสมบัติของเธอไป...รักเขาให้มากๆนะ เขารัก
เธอมาก...”
พิมประภาเอื้อมมือไปกุมมือเรียวบางของพี่สาวต่างมารดาไว้ก่อนจะบีบเบาๆอย่างให้
กำลังใจ แม้น้ำเสียงของธนันต์ธรญ์จะดูเข้มแข็งเพียงใด แต่เธอก็สัมผัสได้ว่ามันแผงไปด้วยความ
เจ็บปวด
“พิมขอโทษที่ทำให้คุณฟางต้องทุกข์ใจ แต่พิมมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอก...”
“ฉันเข้าใจ...”
“เดี๋ยวสิคะ พิมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าจะพูดเรื่องอะไร”
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ”เธอเอ่ยถามอย่างอยากรู้ เพราะสีหน้าของพิมประภาดูไม่สบายใจแปลกๆ
“เรื่องพี่ป๊อปค่ะ พิมอยากจะบอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาระหว่างที่พิมคบกับพี่ป๊อป
เขาไม่เคยล่วงเกินพิมเลย เวลาเขาบอกรักเขาไม่แม้แต่จะมองตาพิม บางทีพี่ป๊อปอาจจะรักคุณฟาง
อยู่ก็ได้นะคะ ที่พิมพูดแบบนี้เพราะพิมเองก็ไม่มีความสุข ทั้งๆที่เขาบอกว่ารักพิม แต่พิมรู้สึกว่าพิม
จะรักเขาอยู่ข้างเดียว”เธอยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่แพ้พิมประภา
“เขาบอกฉันเสมอว่าเขารักเธอมากแค่ไหน อย่ากังวลเลย ระหว่างฉันกับเขามันก็เป็น
เพียงแค่ความผูกพัน อีกไม่นานมันก็จะหายไป”
ธนันต์ธรญ์มองเจ้าของน้ำเสียงหวานผ่านม่านน้ำตา หญิงสาวตรงหน้าดีงามเกินกว่าที่คน
อย่างเธอจะเทียบได้ หากเธอเป็นพิมประภาในวันนี้ เธอจะหัวเราะเยาะที่ในที่สุดมารหัวใจได้ตาย
จากเธอไปเสียที แต่พิมประภาไม่ใช่...ผู้หญิงคนนี้อ่อนหวาน และมีจิตใจที่บริสุทธิ์เกินกว่าเธอ
มาก...
“ฉันมีแม่คนเดียวที่รักฉัน ตลอดระยะเวลายี่สิบห้าปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีญาติที่ไหน ฉัน
ตัวคนเดียว และฉันก็จะขอตัวคนเดียวแบบนี้ตลอดไป ฉันจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนแม่...ขอบคุณนะที่
ยังเห็นคนอย่างฉันเป็นพี่สาว แต่ฉันมันเลวเกินไป...หรือเธอคิดว่าฉันดีเกินกว่าเธอ”เธอเอ่ยติดตลก
แต่น้ำเสียงและหัวใจไม่ได้ตลกตาม ความเจ็บปวดยังคงแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของร่างกาย
“แม่เคยเล่าให้พิมฟังว่าแม่ของคุณฟาง...”
“แม่ของฉันท่านเข้มแข็งมาก ท่านก็เป็นเหมือนฉันนี่แหละ นมบอกว่าแม้กระทั่งวัน
คลอด ท่านก็พาฉันไปที่โรงพยาบาลสองคนแม่ลูก หลังจากวันคลอดท่านก็พาฉันออกมาจากโรง
พยาบาลสองคนแม่ลูก...เรามีกันแค่สองคนแม่ลูก เชื่อไหมว่าพ่อแทบจะไม่เคยอยู่ในความทรงจำ
ของฉันเลย”
“แต่คุณพ่อรักคุณฟางมาก”
“เรื่องตลกน่ะสิ อย่าพยายามเปลี่ยนความคิดฉันเลย...ถ้าเธอเป็นฉัน แล้วเธอจะรู้...”
พิมประภาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ ไม่เคยคิด
เลยว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเข้มแข็งขนาดนั้นจะอ่อนไหวและอ่อนแอจนเธอสัมผัสได้...
มือเล็กพับแฟ้มเอกสารลง ก่อนจะเก็บเอกสารที่เหลือไปทำงานต่อที่บ้าน เธอหอบแฟ้ม
เอกสารพะรุงพะรังไปที่รถคันหรู เมื่อปลดล็อกได้ก็จัดการโยนแฟ้มเอกสารเข้าไปในรถทันที
เสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์เรียกความสนใจของเธอได้ในทันที เธอควานหาเจ้าเครื่อง
มือสื่อสารราคาแพงในกระเป๋าก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นบิดา
“สวัสดีค่ะ”
“พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับฟาง มาหาพ่อที่สุสานของแม่หน่อย”
“ค่ะ”เธอตอบรับอย่างว่าง่าย มันต้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่ๆ และมันคงเป็นเรื่องสำคัญ
มากที่พ่อถึงกับต้องเรียกเธอไปคุยต่อหน้าแม่
มือเล็กกำพวงมาลัยรถคันหรูแน่นหลังจากที่สตาร์ทเรียบร้อยแล้ว นึกเป็นห่วงสามีหนุ่ม
ที่ตอนเย็นอาจจะไม่ได้ทานข้าว เพราะเธออาจจะกลับมาไม่ทัน แต่...เขาก็ไม่ค่อยจะทานอาหาร
ร่วมกับเธออยู่แล้วนี่นา วันนี้เขาอาจจะมีกับข้าวฝีมือคนรักไว้ทานแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้...
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังห่วงหาอาทรเขาอยู่ทุกวินาที
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังคงโหยหาความรักและอ้อมกอดอยู่ทุกวินาที
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังมีเขาอยู่ในทุกที่ของหัวใจ ของความรู้สึก ของสมอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ