ป่วนหัวใจกับนายจอมหยิ่ง
10.0
เขียนโดย Water_Fall
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.21 น.
18 chapter
20 วิจารณ์
27.08K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 00.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) คู่เวรคู่กรรม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ค่าฉันฟางเองค่ะ พอดีเปลี่ยนตัวเดินเรื่องนิดหน่อยแต่ก็อย่าลืมยัยแก้วเพื่อนฉันนะคร้า ตอนนี้ฉันนั่งทำรายงานอยู่โต๊ะหินหน้าอาคารวิทยาศาสตร์ ฉันนั่งอยู่กับไอ้ป๊อปปี้สองคน เพราะฉันกับมันเรียนอยู่ห้องเดียวกัน แถมยังนั่งข้างๆกันอีก เท่านั้นยังไม่พอ ตอนจับคู่ทำรายงานก็ยังดันมาคู่กับไอ้บ้านี่ซะได้ จะบอกว่าเป็นฟ้าลิขิตก็ได้ แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมคู่กับมันไปตลอดหรอกนะ
"ไอ้ป๊อปปี้ ไอ้-ป๊อปปี้ ทำอะไรของนายอยู่ห่ะ" ฉันถามมันอย่างหงุดหงิด เพราะเห็นมันมองแต่ที่อื่น ไม่ได้สนใจงานที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด ขี้เกียจแบบนี้จะไหวเรอะเนี่ย
"เธอดูคนนั้นสิ ขาอวบมากเลยอ่ะ เฮ้ยๆหน้าอกยัยนั่นก็ไม่เลวนะ"
โป๊ก< เมื่อความอดทนถึงขีดสุด ฉันจึงเอาหนังสือเล่มหนาฟาดไปที่หัวของมันทันที ไอ้บ้านี่ มั่วแต่เหล่สาวอยู่นั่น
"ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย" ไอ้ป๊อปปี้หันมามองฉันอย่างงงๆ
"นี่เรามาทำรายงานนะ ไม่ใช่ให้มาจีบสาว"
"เธอจะไปรู้ได้ยังไง ชีวิตวัยรุ่น มันก็ต้องหาแฟนเยอะๆเข้าไว้ดิ"
"ฉันว่าเป็นนิยามที่ห่วยแตกสิ้นดี พ่อแม่ส่งนายมาเรียนนะ ไม่ได้ให้มาเที่ยวจีบสาวไปวันๆ" ฉันทำหน้าเซง
"กล้าว่าคติพจน์ของคุณป๊อปปีคนนี้เลยยังงั้นเรอะ" ดูเหมือนหมอนี่จะโกรธที่ถูกลบเหลี่ยม มันจึงเอาน้ำผลไม้ที่วางอยู่ข้างๆสาดใส่กระดาษรายงานที่ฉันเพิ่งจะเขียนเสร็จไปเมื่อตะกี้อย่างแรง และนั่นก็ทำเอาฉันสติแตก ฉันเอากระดาษรายงานที่เปียกปอนเขวี้ยงใส่หน้าของหมอนั่นทันที
"อะไรของเธอเนี่ย ฉันเปียกหมดแล้วนะ" หมอนั่นโวยวายก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเสื้อที่เปียก ด้วยสีหน้าขยะแขยงสุดๆ
"แล้วใครใช้ให้นายเอาน้ำมาสาดใส่งานของฉันล่ะ" ฉันโมโหสุดๆอย่างที่ำไม่เคยโมโหมาก่อน
"อ๋อ นี่เธอโทษฉันยังงั้นเรอะ"
"ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่เป็นเพราะนายมั่วแต่มองสาวอยู่ล่ะก็ เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนี่หรอก"
หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ทะเลาะกันเรื่อยมา เสียงเอะอะโวยวายของฉันกับหมอนั่นดังสนั่นไปทั่วโรงเรียน เหล่านักเรียนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต่างมองพวกเราด้วยสีหน้ามึนงงปนสงสัย พวกเขาอาจจะรำคาญหรืออาจจะคอยเชียร์พวกเราอยู่ก็ได้
"แฮ่ก แฮ่ก พะ-พอก่อนได้ไหม" ฉันถอนหายใจลงเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าหมอนั่นด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพราะเราเถียงกันมานานมาก ซึ่งถ้านับเป็นเวลา ก็คงประมาณยี่สิบนาทีได้ล่ะมั้ง
"เห็นไม่ล่าว่าฉันเป็นฝ่ายถูก" หมอนั่นยิ้มอย่างภูมิใจแต่ดูท่าทางมันก็คงจะเหนื่อยพอๆกับฉัน
"อย่าทำเป็นเหลิงไปหน่อยเลย ฉันก็แค่ไม่อยากคุยกับคนไม่มีเหตุผลอย่างนายก็เท่านั้น"
"นี่ เธอง่อนฉันหรอ" น้ำเสียงของหมอนั่นเบาลง
"เชอะ ป่าวง่อนซะหน่อย" ฉันรีบเก็บงานที่เหลือใส่กระเป่า ก่อนจะลุกขึ้น เพื่อไปเรียนต่อช่วงบ่าย แต่เหมือนหมอนั่นจะไม่ยอมให้ฉันไป เขารั้งแขนฉันไว้ ก่อนจะลากตัวฉันให้เข้าไปหาเขา
"ปล่อยเลยนะ"
"ฉันไม่ปล่อย"
"จะกวนอะไรฉันอีกล่ะ" ฉันหลบสายตาที่ดูเศร้าสร้อยของหมอนั่น เพราะฉันขี้สงสารคนง่ายซะด้วย
"ถ้าทำให้เธอโกรธ ยังไงฉันก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน" น้ำเสียงหวานๆของหมอนั่นทำเอาฉันเคลิ้มไปกับมัน เพราะอะไรกันนะ ความโกรธเมื่อตะกี้มันหายไปไหนหมด
"อะอืม งั้นคราวนี้ฉันจะยกโทษให้นายสักครั้งก็แล้วกัน เอานี่รับไปดิ" ฉันพูดและยื่นงานให้หมอนั่น ก่อนที่เขาจะรับอย่างว่าง่าย จากนั้นพวกเราทั้งคู่ก็เดินไปห้องเรียนด้วยกัน
(มันยังไงกันแน่นะคู่นี้ โกรธง่ายหายเร็วชะัมัด)
กลับมาที่ฉันคนนี้ สาวสวยสุดแซบซ่าและบ้าบิ่นกันบ้างนะค่ะ ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วฉันรีบเก็บกระเป๋าอย่างไว เพราะพรุ่งนี้ห้องของฉันต้องไปทัศนศึกษาที่ดอยสุเทพ ซึ่งถือว่าไกลเอามากๆ ชุดนักเรียนและชุดสำรองถูกยัดใส่กระเป๋าเสร็จสัพ กางเกงในและชุดชั้นในก็อยู่ในกระเป๋าใบเล็กเรียบร้อย อ้อ แล้วก็ผ้าอนามัยแบบมีปีกรวมทั้งยาแก้เมารถด้วย เฮ้อ คงจะไม่ลืมอะไรแล้วนะ
"จะไปไหนน่ะ" ไอ้กล้าที่นั่งวาดรูปอยู่ จากนั้นมันก็วางพู่กันลงก่อนจะหันมาถามฉัน
"พอดีที่โรงเรียนเขาจะพาฉันไปดอยสุเทพน่ะ"
"แล้วไปกี่วันล่ะ"
"สามวัน"
"อืม" จู่ๆไอ้กล้าก็ดูหง๋อยลง ฉันคิดว่ามันคงจะเหงา แต่พอมานึกดูอีกที ตอนมันไปอเมริกามันก็อยู่คนเดียวนี่นา แค่ไปสามวันเองคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ
"กล้า"
"หื้อ"
"นายหาที่เรียนได้หรือยังล่ะ"
"ถามทำไม" เฮ้ยไอ้นี่ชักจะกวนแล้วนะเนี่ย
"ก็เห็นนายเอาแต่นั่งวาดรูปทั้งวัน ฉันเป็นห่วงว่านายจะเรียนไม่ทันคนอื่นน่ะสิ หัดไปเรียนวิชาอื่นซะบ้างนะนาย"
"ก็คนมันชอบนิ" อะไรกัน คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง
"ตามใจนายก็แล้วกัน ฉันนอนล่ะ" ฉันบอกก่อนจะโดดขึ้นเตียง
เป็นยังไงบ้างครับ ว่าแต่ ที่ดอยสุเทพจะมีอะไรบ้างแล้วการทัศนศึกษาของแก้วจะเป็นยังไง
ติดตามต่อไปครับ
"ไอ้ป๊อปปี้ ไอ้-ป๊อปปี้ ทำอะไรของนายอยู่ห่ะ" ฉันถามมันอย่างหงุดหงิด เพราะเห็นมันมองแต่ที่อื่น ไม่ได้สนใจงานที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด ขี้เกียจแบบนี้จะไหวเรอะเนี่ย
"เธอดูคนนั้นสิ ขาอวบมากเลยอ่ะ เฮ้ยๆหน้าอกยัยนั่นก็ไม่เลวนะ"
โป๊ก< เมื่อความอดทนถึงขีดสุด ฉันจึงเอาหนังสือเล่มหนาฟาดไปที่หัวของมันทันที ไอ้บ้านี่ มั่วแต่เหล่สาวอยู่นั่น
"ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย" ไอ้ป๊อปปี้หันมามองฉันอย่างงงๆ
"นี่เรามาทำรายงานนะ ไม่ใช่ให้มาจีบสาว"
"เธอจะไปรู้ได้ยังไง ชีวิตวัยรุ่น มันก็ต้องหาแฟนเยอะๆเข้าไว้ดิ"
"ฉันว่าเป็นนิยามที่ห่วยแตกสิ้นดี พ่อแม่ส่งนายมาเรียนนะ ไม่ได้ให้มาเที่ยวจีบสาวไปวันๆ" ฉันทำหน้าเซง
"กล้าว่าคติพจน์ของคุณป๊อปปีคนนี้เลยยังงั้นเรอะ" ดูเหมือนหมอนี่จะโกรธที่ถูกลบเหลี่ยม มันจึงเอาน้ำผลไม้ที่วางอยู่ข้างๆสาดใส่กระดาษรายงานที่ฉันเพิ่งจะเขียนเสร็จไปเมื่อตะกี้อย่างแรง และนั่นก็ทำเอาฉันสติแตก ฉันเอากระดาษรายงานที่เปียกปอนเขวี้ยงใส่หน้าของหมอนั่นทันที
"อะไรของเธอเนี่ย ฉันเปียกหมดแล้วนะ" หมอนั่นโวยวายก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเสื้อที่เปียก ด้วยสีหน้าขยะแขยงสุดๆ
"แล้วใครใช้ให้นายเอาน้ำมาสาดใส่งานของฉันล่ะ" ฉันโมโหสุดๆอย่างที่ำไม่เคยโมโหมาก่อน
"อ๋อ นี่เธอโทษฉันยังงั้นเรอะ"
"ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่เป็นเพราะนายมั่วแต่มองสาวอยู่ล่ะก็ เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนี่หรอก"
หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ทะเลาะกันเรื่อยมา เสียงเอะอะโวยวายของฉันกับหมอนั่นดังสนั่นไปทั่วโรงเรียน เหล่านักเรียนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต่างมองพวกเราด้วยสีหน้ามึนงงปนสงสัย พวกเขาอาจจะรำคาญหรืออาจจะคอยเชียร์พวกเราอยู่ก็ได้
"แฮ่ก แฮ่ก พะ-พอก่อนได้ไหม" ฉันถอนหายใจลงเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าหมอนั่นด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพราะเราเถียงกันมานานมาก ซึ่งถ้านับเป็นเวลา ก็คงประมาณยี่สิบนาทีได้ล่ะมั้ง
"เห็นไม่ล่าว่าฉันเป็นฝ่ายถูก" หมอนั่นยิ้มอย่างภูมิใจแต่ดูท่าทางมันก็คงจะเหนื่อยพอๆกับฉัน
"อย่าทำเป็นเหลิงไปหน่อยเลย ฉันก็แค่ไม่อยากคุยกับคนไม่มีเหตุผลอย่างนายก็เท่านั้น"
"นี่ เธอง่อนฉันหรอ" น้ำเสียงของหมอนั่นเบาลง
"เชอะ ป่าวง่อนซะหน่อย" ฉันรีบเก็บงานที่เหลือใส่กระเป่า ก่อนจะลุกขึ้น เพื่อไปเรียนต่อช่วงบ่าย แต่เหมือนหมอนั่นจะไม่ยอมให้ฉันไป เขารั้งแขนฉันไว้ ก่อนจะลากตัวฉันให้เข้าไปหาเขา
"ปล่อยเลยนะ"
"ฉันไม่ปล่อย"
"จะกวนอะไรฉันอีกล่ะ" ฉันหลบสายตาที่ดูเศร้าสร้อยของหมอนั่น เพราะฉันขี้สงสารคนง่ายซะด้วย
"ถ้าทำให้เธอโกรธ ยังไงฉันก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน" น้ำเสียงหวานๆของหมอนั่นทำเอาฉันเคลิ้มไปกับมัน เพราะอะไรกันนะ ความโกรธเมื่อตะกี้มันหายไปไหนหมด
"อะอืม งั้นคราวนี้ฉันจะยกโทษให้นายสักครั้งก็แล้วกัน เอานี่รับไปดิ" ฉันพูดและยื่นงานให้หมอนั่น ก่อนที่เขาจะรับอย่างว่าง่าย จากนั้นพวกเราทั้งคู่ก็เดินไปห้องเรียนด้วยกัน
(มันยังไงกันแน่นะคู่นี้ โกรธง่ายหายเร็วชะัมัด)
กลับมาที่ฉันคนนี้ สาวสวยสุดแซบซ่าและบ้าบิ่นกันบ้างนะค่ะ ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วฉันรีบเก็บกระเป๋าอย่างไว เพราะพรุ่งนี้ห้องของฉันต้องไปทัศนศึกษาที่ดอยสุเทพ ซึ่งถือว่าไกลเอามากๆ ชุดนักเรียนและชุดสำรองถูกยัดใส่กระเป๋าเสร็จสัพ กางเกงในและชุดชั้นในก็อยู่ในกระเป๋าใบเล็กเรียบร้อย อ้อ แล้วก็ผ้าอนามัยแบบมีปีกรวมทั้งยาแก้เมารถด้วย เฮ้อ คงจะไม่ลืมอะไรแล้วนะ
"จะไปไหนน่ะ" ไอ้กล้าที่นั่งวาดรูปอยู่ จากนั้นมันก็วางพู่กันลงก่อนจะหันมาถามฉัน
"พอดีที่โรงเรียนเขาจะพาฉันไปดอยสุเทพน่ะ"
"แล้วไปกี่วันล่ะ"
"สามวัน"
"อืม" จู่ๆไอ้กล้าก็ดูหง๋อยลง ฉันคิดว่ามันคงจะเหงา แต่พอมานึกดูอีกที ตอนมันไปอเมริกามันก็อยู่คนเดียวนี่นา แค่ไปสามวันเองคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ
"กล้า"
"หื้อ"
"นายหาที่เรียนได้หรือยังล่ะ"
"ถามทำไม" เฮ้ยไอ้นี่ชักจะกวนแล้วนะเนี่ย
"ก็เห็นนายเอาแต่นั่งวาดรูปทั้งวัน ฉันเป็นห่วงว่านายจะเรียนไม่ทันคนอื่นน่ะสิ หัดไปเรียนวิชาอื่นซะบ้างนะนาย"
"ก็คนมันชอบนิ" อะไรกัน คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง
"ตามใจนายก็แล้วกัน ฉันนอนล่ะ" ฉันบอกก่อนจะโดดขึ้นเตียง
เป็นยังไงบ้างครับ ว่าแต่ ที่ดอยสุเทพจะมีอะไรบ้างแล้วการทัศนศึกษาของแก้วจะเป็นยังไง
ติดตามต่อไปครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ