รักฉันซะ นี่คือคำเตือน!!!
9.8
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.24 น.
18 session
40 วิจารณ์
32.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 13.49 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อืม ไม่เป็นไร” จงเบพูดขณะที่เดินนำทุกคนไปยังจุดที่ตั้งกระเป๋า
“จินนี่ เดี๋ยวเราช่วย” เคนตะพูดพร้อมกับคว้ากระเป๋าใบโตมาถือไว้เอง
“อืม ขอบใจนะ” จินนี่พูดขอบคุณเสียงแผ่ว
“เป็นอะไรอ่ะ ทำไมเสียงแปลกๆ ไม่สบายรึเปล่า” พูดด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอื้อมมือจะไปแตะหน้าผากเป็นการวัดไข้ แต่โดนหญิงสาวปัดมือออกซะก่อน
“เราไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมากนะ” พูดจบก็เดินหนีไปเลย ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามด้วยความงง
“เป็นอะไรของเขาว่ะ” เคนตะพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะยกกระเป๋าหญิงสาวไปรวมไว้กับของเพื่อนๆ
“เฟย์คร้าบบ เอามาเร็วเดี๋ยวเขื่อนช่วย” เขื่อนพูดเสียงอ้อนๆ
“ไม่ต้อง ฉันถือเองได้” เฟย์ปฏิเสธพร้อมกับพยายามลากกระเป๋าใบโตที่ส่วนมากจะเป็นขนมซะส่วนใหญ่ ส่วนเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวนั้นเธอเก็บใส่กระเป๋าสะพายใบเล็กๆไว้อีกใบหนึ่ง
“เหอะนาเฟย์ อย่าดื้อสิ กระเป๋าใบตั้งโตเฟย์จะถือไปได้ยังไง” พูดจบเขื่อนก็คว้ากระเป๋าใบโตของหญิงสาวมาถือไว้และเดินนำออกไปเลย ปล่อยให้หญิงสาวเดินตามไปด้วยความไม่พอใจนัก
“นาย...มีไรกับฉันเหรอ” ฟางถามอย่างงงๆ เมื่อเห็นป๊อปปี้ยืนจ้องหน้าเธอนิ่ง
“เอากระเป๋ามาสิ ฉันถือให้” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ
“ห๊ะ ว่าไงนะ” ฟางถามย้ำอย่างไม่เชื่อหูตนเองนัก
“ก็บอกว่าเอากระเป๋ามาสิ เดี๋ยวฉันถือให้ แค่เนี้ยฟังไม่รู้เรื่องเหรอไง” ร่างสูงเผลอขึ้นเสียงใส่
“ก็แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงด้วยเล่า บอกดีๆก็ได้” หญิงสาวเถียงกลับ
“ฉันก็บอกเธอดีๆแล้วไง แต่เธอนั่นแหละไม่ได้ยินเอง”
“เอามานี่เลย ฉันถือเองก็ได้” ฟางพูดพร้อมกับแย่งกระเป๋าของตนที่ชายหนุ่มถือไว้มา
“เอ๊ะ เธอนี่ ฉันบอกว่าจะถือให้ไง” ป๊อปปี้พูดพร้อมกับจะแย่งกระเป๋ากลับมาแต่ฟางไม่ยอมปล่อย
“ก็ฉันบอกว่าฉันจะถือเองไงเล่า ปล่อยสิ”
“ไม่ปล่อย!”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“เธอนั่นแหละปล่อย เดี๋ยวฉันถือเอง”
“นี่!! พวกเธอสองคนน่ะ จะทะเลาะกันไปถึงไหน คนอื่นเขามองกันหมดแล้วเห็นมั้ย” แก้วที่ยืนดูอยู่นานตะโกนขึ้น ทำเอาสองคนที่ทะเลาะกันอยู่ถึงกับชะงัก
“แก้ว! ก็นายนี่มาแย่งกระเป๋าฟางก่อนนะ” ฟางหันมาส่งค้อนใส่เพื่อน
“เขาอยากถือเธอก็ให้ถือไปสิ ทำไมต้องทะเลาะกันด้วยล่ะ ส่วนนาย ป๊อปปี้ ถ้ายัยฟางไม่อยากให้นายถือนายก็ไม่ต้องถือสิ แค่เนี้ยจะทะเลาะกันทำไมให้เสียเวลา” แก้วพูดพร้อมกับเดินออกไปเลย ปล่อยให้เพื่อนๆที่เหลือมองด้วยความงงว่าทำไมหญิงสาวถึงเหวี่ยงได้ขนาดนี้
“ได้ยินรึยังล่ะ จะทะเลาะกันทำไมให้เสียเวลา” ป๊อปปี้หันมาพูดกับฟาง ก่อนจะคว้ากระเป๋าของหญิงสาวแล้วเดินออกไปอีกคน
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถ โดยรถตู้ของโรงเรียนสี่คัน แบ่งไปเป็นสีๆ ในรถตู้ของคันสีฟ้ามีแต่เสียงโวยวายของเขื่อนและเฟย์ที่นั่งติดกันแต่แย่งขนมกันกินตลอดเวลา
ที่นั่งบนรถ
โทโมะ คนขับ
แก้ว ป๊อปปี้-ฟาง
จินนี่-เคนตะ เขื่อน-เฟย์
จงเบ-ขนมจีน
“นี่นายเขื่อน นั่นมันขนมของฉันนะ นายมากินได้ยังไง” เฟย์โวยวายพร้อมกับแย่งถุงขนมมาถือไว้เอง
“โห่เฟย์ ขอกินนิดเดียวเอง เฟย์กินเยอะกว่าตั้งเยอะ” เขื่อนเถียง
“นี่ นายบังอาจมาว่าฉันกินเยอะเหรอ อยากตายรึไง”
“นี่ พวกเธอสองคนน่ะจะทะเลาะกันไปถึงไหน ทะเลาะกันมาตั้งแต่ออกจากโรงเรียนแล้วไม่เบื่อบ้างเหรอไง” ขนมจีนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆจงเบ เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่ถืออยู่ในมือแล้วโวยขึ้น (ขนาดอยู่บนรถยังพกหนังสือมาอ่านได้)
“ก็นายเขื่อนมาแย่งขนมฉันกินอ่ะ เฮ้ย! อีกแล้ว นายเขื่อนบอกว่าอย่ากินไง นี่มันของฉันนะ” เฟย์พูดพร้อมกับทำตาโตเมื่ออีกฝ่ายดึงถุงขนมไปจากมือเธออีกแล้ว แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกันต่อไป เพราะคนที่เหลือขี้เกียจห้าม
“จินนี่” เคนตะส่งเสียงเรียกคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเบาๆ
“หืม ว่าไง” จินนี่หันมาตามเสียงเรียก
“เธอ... โกรธอะไรฉันรึเปล่า” เคนตะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ เหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เขายังไม่กล้าคุยกับเธอเพราะไม่แน่ใจว่าไปทำอะไรให้หญิงสาวไม่พอใจรึเปล่า
“เปล่าหนิ ทำไมเหรอ” จินนี่เอ่ยตอบ พร้อมกับเสมองไปนอกหน้าต่าง สาเหตุก็เป็นเพราะไม่สามารถมองหน้าชายหนุ่มตรงๆได้จริงๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ทีไรใจของเธอต้องเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้ง เป็นอาการที่เธอไม่เคยรู้สึกไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยทั้งชีวิต ความรู้สึกที่ว่าอยากอยู่ใกล้ๆ อยากให้เขาคุยด้วยเป็นสิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องคอยห้ามตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห้ามหัวใจตัวเองยากขึ้นเท่านั้น จนทำให้เธอต้องตัดสินใจอยู่ห่างๆเขาเพราะกลัวหัวใจตนจะถลำลึกไปมากกว่านี้
“ไม่รู้สิ ก็เมื่อเช้า... เอ่อคือ”
“โทษทีนะเคนตะ พอดีเมื่อคืนฉันจัดของดึกไปหน่อยน่ะ วันนี้ก็เลยเพลียๆ ขอพักสายตาแป๊ปนะ” พูดจบหญิงสาวก็หลับตาลงไปเลยเป็นการตัดบท เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อไป ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งมองหน้าเธอด้วยความไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับไปแล้วเลยไม่อยากเซ้าซี้
“ยัยฟู เป็นอะไรของเธอน่ะ” ป๊อปปี้ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นศีรษะของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเอนไปเอนมาแปลกๆ “อ้าว หลับซะงั้น เชื่อเธอเลยจริงๆยัยฟูเอ้ย” ป๊อปปี้พูดอย่างขำๆ พร้อมกับจับศีรษะอีกฝ่ายให้มาพิงไหล่ของตนไว้จะได้นอนสบายๆ คนตัวเล็กขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหลับต่อไปอีก ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งยิ้มกับความขี้เซาของหญิงสาวก่อนที่ตนจะม่อยหลับไปเช่นกัน
*****************************************************************
ถ้ามันสั้นไปยังไงก็บอกกันได้นะคะ ไรเตอร์หายไปหลายวันไม่รู้ทุกคนจะลืมเรื่องนี้กันรึยัง
อย่าพึ่งลืมกันน้าาาาาาาา รักรีดเดอร์ทุกคนเลย จุ๊ฟ จุ๊ฟ
(ถ้าเม้นเยอะๆ ตอนเย็นอาจจะมีเพิ่มอีกสักตอนนะ หุ หุ)
“จินนี่ เดี๋ยวเราช่วย” เคนตะพูดพร้อมกับคว้ากระเป๋าใบโตมาถือไว้เอง
“อืม ขอบใจนะ” จินนี่พูดขอบคุณเสียงแผ่ว
“เป็นอะไรอ่ะ ทำไมเสียงแปลกๆ ไม่สบายรึเปล่า” พูดด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอื้อมมือจะไปแตะหน้าผากเป็นการวัดไข้ แต่โดนหญิงสาวปัดมือออกซะก่อน
“เราไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมากนะ” พูดจบก็เดินหนีไปเลย ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามด้วยความงง
“เป็นอะไรของเขาว่ะ” เคนตะพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะยกกระเป๋าหญิงสาวไปรวมไว้กับของเพื่อนๆ
“เฟย์คร้าบบ เอามาเร็วเดี๋ยวเขื่อนช่วย” เขื่อนพูดเสียงอ้อนๆ
“ไม่ต้อง ฉันถือเองได้” เฟย์ปฏิเสธพร้อมกับพยายามลากกระเป๋าใบโตที่ส่วนมากจะเป็นขนมซะส่วนใหญ่ ส่วนเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวนั้นเธอเก็บใส่กระเป๋าสะพายใบเล็กๆไว้อีกใบหนึ่ง
“เหอะนาเฟย์ อย่าดื้อสิ กระเป๋าใบตั้งโตเฟย์จะถือไปได้ยังไง” พูดจบเขื่อนก็คว้ากระเป๋าใบโตของหญิงสาวมาถือไว้และเดินนำออกไปเลย ปล่อยให้หญิงสาวเดินตามไปด้วยความไม่พอใจนัก
“นาย...มีไรกับฉันเหรอ” ฟางถามอย่างงงๆ เมื่อเห็นป๊อปปี้ยืนจ้องหน้าเธอนิ่ง
“เอากระเป๋ามาสิ ฉันถือให้” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ
“ห๊ะ ว่าไงนะ” ฟางถามย้ำอย่างไม่เชื่อหูตนเองนัก
“ก็บอกว่าเอากระเป๋ามาสิ เดี๋ยวฉันถือให้ แค่เนี้ยฟังไม่รู้เรื่องเหรอไง” ร่างสูงเผลอขึ้นเสียงใส่
“ก็แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงด้วยเล่า บอกดีๆก็ได้” หญิงสาวเถียงกลับ
“ฉันก็บอกเธอดีๆแล้วไง แต่เธอนั่นแหละไม่ได้ยินเอง”
“เอามานี่เลย ฉันถือเองก็ได้” ฟางพูดพร้อมกับแย่งกระเป๋าของตนที่ชายหนุ่มถือไว้มา
“เอ๊ะ เธอนี่ ฉันบอกว่าจะถือให้ไง” ป๊อปปี้พูดพร้อมกับจะแย่งกระเป๋ากลับมาแต่ฟางไม่ยอมปล่อย
“ก็ฉันบอกว่าฉันจะถือเองไงเล่า ปล่อยสิ”
“ไม่ปล่อย!”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“เธอนั่นแหละปล่อย เดี๋ยวฉันถือเอง”
“นี่!! พวกเธอสองคนน่ะ จะทะเลาะกันไปถึงไหน คนอื่นเขามองกันหมดแล้วเห็นมั้ย” แก้วที่ยืนดูอยู่นานตะโกนขึ้น ทำเอาสองคนที่ทะเลาะกันอยู่ถึงกับชะงัก
“แก้ว! ก็นายนี่มาแย่งกระเป๋าฟางก่อนนะ” ฟางหันมาส่งค้อนใส่เพื่อน
“เขาอยากถือเธอก็ให้ถือไปสิ ทำไมต้องทะเลาะกันด้วยล่ะ ส่วนนาย ป๊อปปี้ ถ้ายัยฟางไม่อยากให้นายถือนายก็ไม่ต้องถือสิ แค่เนี้ยจะทะเลาะกันทำไมให้เสียเวลา” แก้วพูดพร้อมกับเดินออกไปเลย ปล่อยให้เพื่อนๆที่เหลือมองด้วยความงงว่าทำไมหญิงสาวถึงเหวี่ยงได้ขนาดนี้
“ได้ยินรึยังล่ะ จะทะเลาะกันทำไมให้เสียเวลา” ป๊อปปี้หันมาพูดกับฟาง ก่อนจะคว้ากระเป๋าของหญิงสาวแล้วเดินออกไปอีกคน
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถ โดยรถตู้ของโรงเรียนสี่คัน แบ่งไปเป็นสีๆ ในรถตู้ของคันสีฟ้ามีแต่เสียงโวยวายของเขื่อนและเฟย์ที่นั่งติดกันแต่แย่งขนมกันกินตลอดเวลา
ที่นั่งบนรถ
โทโมะ คนขับ
แก้ว ป๊อปปี้-ฟาง
จินนี่-เคนตะ เขื่อน-เฟย์
จงเบ-ขนมจีน
“นี่นายเขื่อน นั่นมันขนมของฉันนะ นายมากินได้ยังไง” เฟย์โวยวายพร้อมกับแย่งถุงขนมมาถือไว้เอง
“โห่เฟย์ ขอกินนิดเดียวเอง เฟย์กินเยอะกว่าตั้งเยอะ” เขื่อนเถียง
“นี่ นายบังอาจมาว่าฉันกินเยอะเหรอ อยากตายรึไง”
“นี่ พวกเธอสองคนน่ะจะทะเลาะกันไปถึงไหน ทะเลาะกันมาตั้งแต่ออกจากโรงเรียนแล้วไม่เบื่อบ้างเหรอไง” ขนมจีนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆจงเบ เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่ถืออยู่ในมือแล้วโวยขึ้น (ขนาดอยู่บนรถยังพกหนังสือมาอ่านได้)
“ก็นายเขื่อนมาแย่งขนมฉันกินอ่ะ เฮ้ย! อีกแล้ว นายเขื่อนบอกว่าอย่ากินไง นี่มันของฉันนะ” เฟย์พูดพร้อมกับทำตาโตเมื่ออีกฝ่ายดึงถุงขนมไปจากมือเธออีกแล้ว แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกันต่อไป เพราะคนที่เหลือขี้เกียจห้าม
“จินนี่” เคนตะส่งเสียงเรียกคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเบาๆ
“หืม ว่าไง” จินนี่หันมาตามเสียงเรียก
“เธอ... โกรธอะไรฉันรึเปล่า” เคนตะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ เหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เขายังไม่กล้าคุยกับเธอเพราะไม่แน่ใจว่าไปทำอะไรให้หญิงสาวไม่พอใจรึเปล่า
“เปล่าหนิ ทำไมเหรอ” จินนี่เอ่ยตอบ พร้อมกับเสมองไปนอกหน้าต่าง สาเหตุก็เป็นเพราะไม่สามารถมองหน้าชายหนุ่มตรงๆได้จริงๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ทีไรใจของเธอต้องเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้ง เป็นอาการที่เธอไม่เคยรู้สึกไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยทั้งชีวิต ความรู้สึกที่ว่าอยากอยู่ใกล้ๆ อยากให้เขาคุยด้วยเป็นสิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องคอยห้ามตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห้ามหัวใจตัวเองยากขึ้นเท่านั้น จนทำให้เธอต้องตัดสินใจอยู่ห่างๆเขาเพราะกลัวหัวใจตนจะถลำลึกไปมากกว่านี้
“ไม่รู้สิ ก็เมื่อเช้า... เอ่อคือ”
“โทษทีนะเคนตะ พอดีเมื่อคืนฉันจัดของดึกไปหน่อยน่ะ วันนี้ก็เลยเพลียๆ ขอพักสายตาแป๊ปนะ” พูดจบหญิงสาวก็หลับตาลงไปเลยเป็นการตัดบท เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อไป ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งมองหน้าเธอด้วยความไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับไปแล้วเลยไม่อยากเซ้าซี้
“ยัยฟู เป็นอะไรของเธอน่ะ” ป๊อปปี้ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นศีรษะของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเอนไปเอนมาแปลกๆ “อ้าว หลับซะงั้น เชื่อเธอเลยจริงๆยัยฟูเอ้ย” ป๊อปปี้พูดอย่างขำๆ พร้อมกับจับศีรษะอีกฝ่ายให้มาพิงไหล่ของตนไว้จะได้นอนสบายๆ คนตัวเล็กขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหลับต่อไปอีก ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งยิ้มกับความขี้เซาของหญิงสาวก่อนที่ตนจะม่อยหลับไปเช่นกัน
*****************************************************************
ถ้ามันสั้นไปยังไงก็บอกกันได้นะคะ ไรเตอร์หายไปหลายวันไม่รู้ทุกคนจะลืมเรื่องนี้กันรึยัง
อย่าพึ่งลืมกันน้าาาาาาาา รักรีดเดอร์ทุกคนเลย จุ๊ฟ จุ๊ฟ
(ถ้าเม้นเยอะๆ ตอนเย็นอาจจะมีเพิ่มอีกสักตอนนะ หุ หุ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ