สัญญารักลวง...
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.08 น.
แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนิยายเรื่อง สัญญารักลวง
ตอนที่4 แผนพลิก
ชายหนุ่มทอดสายตามองรูปของสาวหน้าหวานในมือถือที่เจ้าตัวขยันส่งมาให้เขา ทั้งๆที่เขาแทบจะไม่ได้ตอบกลับ
เธอเลยด้วยซ้ำ แต่เขาบอกตามตรงว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะชอบเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง แต่ก็ขี้อ้อน
เอาใจเก่ง เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่เขาอยากให้มีในตัวภรรยาในอนาคต ซึ่งมันไม่ได้มีอยู่ในตัวพิมประภา แต่จะให้
พูดกันจริงๆเขาบอกตามตรงว่าเขาชอบพิมประภามากกว่าเด็กแสบไม่รู้จักโตอย่างฟาง เอ แต่ที่น่าแปลกก็คือยัยตัว
เล็กไม่มายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น จะคิดว่าเธอถอดใจไปแล้วก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อสุดท้าย เธอยัง
ตะโกนใส่หน้าเขาว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ แล้วเธอหายไปไหนเสียเล่า
“ก็แล้วทำไมต้องคิดถึงด้วยวะ”ชายหนุ่มทึ้งหัวตัวเอง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นห่ม แล้วข่มตาให้หลับภายใต้สมองที่เต็ม
ไปด้วยรอยยิ้มสดใสของคนตัวเล็กที่ตามมาหลอกหลอนเขาจนนอนไม่หลับ...อย่างทุกวัน
มือเล็กกำยาแคปซูลในมือแน่น ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างหมายมาด ก่อนรอยยิ้มก็ต้องหุบฉับ
“ถ้าเขาโกรธล่ะ...จะทำยังไงดี”คนตัวเล็กปายานอนหลับติดฝาผนังห้องสีชมพู ก่อนจะนั่งจ้องมันอยู่นาน ถ้าเขา
โกรธเธอ ถ้าเขาเกิดจับได้ขึ้นมาแล้วไม่ยอมแต่งงานกับเธอล่ะ เขาก็จะยิ่งห่างเหินกับเธอไปมากกว่านี้อีก หัวใจดวง
น้อยยิ่งบีบรัดอย่างแรง เมื่อคิดว่าเขาจะห่างเหินกับเธอยิ่งกว่านี้ ตลอดหนึ่งเดือนที่เขากลับมาเธอแทบไม่ได้พูดคุย
กับเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น...ป่านนี้เขาจะหายโกรธเธอรึยังนะ แต่คนที่สมควรจะโกรธคือเธอต่างหาก ในเมื่อเขา
เองเป็นคนที่ไม่รักษาสัญญา แล้วเขามีสิทธิ์อะไรจะมาโกรธเธอ...
“จะโทษฟางไม่ได้นะ เพราะว่าพี่ป๊อปนั่นแหละทำให้ฟางต้องทำแบบนี้”เธอหันไปพูดกับรูปถ่ายของเขาที่ติดอยู่
บริเวณฝาผนัง ก่อนจะคลานเข่าไปหยิบยาเม็ดแคปซูลที่นอนแน่นิ่งที่พื้น ก่อนจะเก็บมันไว้ที่กระเป๋าสะพาย
เสียงเพลงอึกทึกของผับที่เต็มไปด้วยอบายมุขและผีเสื้อราตรีทั้งหลาย ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดีกับ
ร่างเล็กมากนัก เธอเดินบนส้นสูงอย่างไม่มั่นใจ จนเพื่อนสาวต้องสะกิด
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ายัยฟาง รับรองเพื่อนของฉันไว้ใจได้ทุกคน”เธอพยักหน้าเบาๆ ก็พอจะเข้าใจนะ ขึ้นชื่อว่า
เพื่อนของแอนนี่แล้ว ก็คงไม่มีใครเป็ยชายแท้สักคน แต่ไอ้ที่กลัวเนี่ย เธอกลัวสายตาหยาบคายของพวกผู้ชายที่
จ้องมองแทะโลมอย่างเปิดเผยมากกว่า ไม่รู้สาวๆที่นี่ทนกันได้ยังไงนะ คิดแล้วขนอ่อนในกายก็ลุกซู่
“โต๊ะนี้ก็แล้วกันเนอะ”แก้วพูดขึ้น ก่อนพวกเธอจะนั่งลง เพื่อนรักสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและยังเผื่อแผ่มาถึงเธอ โดย
ไม่ถามสักคำเลยว่าเธอดื่มมันได้หรอ
“ฉันดื่มไม่ได้หรอกนะ มันแรงเกินไป เดี๋ยวก็เมากันพอดี”
“เอ้า แกก็จิบบ้าง เวลาจะลงมือจะได้ไม่ต้องคอยเถียงกับจิตใต้สำนึกอันสูงส่งของแกไงล่ะฟาง”เธอประเคนค้อนวง
ใหญ่ให้เฟย์ ก่อนจะเอ่ยถามถึงผู้ร่วมแผนการคืนนี้
“ไหนล่ะเพื่อนแก”
“เดี๋ยวก็มานังพีชมันไม่เคยมาสายหรอก รับรองว่าแผนการของแกสำเร็จแน่ ทุกอย่างเป๊ะเวอร์”
“ชิ ขอให้ได้อย่างที่แกพูดจริงๆเถอะเอกพล”แอนนี่ตาโต ก่อนจะแผดเสียงโวยวายเมื่อเธอเอ่ยชื่อจริงของนางออก
มา
“ต๊าย!ยัยฟาง ฉันทั้งตัดทั้งตอน แล้วก็ศัลย์เรียบร้อยแล้วย่ะ ถ้าแกเรียกอีกฉันจะไม่ช่วยแกแน่”
“โอเคๆ ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ก่อนเธอจะลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ มือเล็กเก็บแท่งลิปสติกเข้ากระเป๋า ก่อนเท้า
เรียวภายใต้รองเท้าส้นสูงสง่าจะเดินออกมา เธอมองไปรอบๆอย่างไม่วางใจ ก็ในเมื่อชีวิตนี้ของเธอเข้าผับแค่สอง
ครั้ง แล้วจะไม่ให้เธอกลัวได้อย่างไร
“ว้าย!”เธอร้องอย่างตกใจ เมื่อเครื่องดื่มกลิ่นฉุนจัดหกรดบนเดรสรัดรูปสีดำของเธอ
“ขอโทษครับ เอ่อ เดี๋ยวผมเช็ดให้นะ”เธอหลบตัวจากผ้าเช็ดผ้าของเขาแทบไม่ทัน ก่อนจะดันมือของเขาออก
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเช็ดเองได้”
“ขอโทษนะครับที่ผมเดินไม่ดูตาม้าตาเรือจนชนคุณแบบนี้”เขายิ้มกริ่ม แววตาแบบนั้นมันไม่น่าไว้วางใจสักนิด เธอ
พยักหน้าก่อนจะยิ้มบางให้ แล้วเลือกที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเดินตามเธอมา
“ผมกวินนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเอ่อ...”เธอหันไปมองคนข้างกายอย่างไม่พอใจ แต่นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องเก็บไว้ใน
ใจ เธอเลี่ยงที่จะแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะตอบคำถามของเขา
“ฟางค่ะ”เป็นอีกครั้งที่เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“คุณฟางนั่งโต๊ะไหนครับ ผมขอนั่งด้วยคนได้รึเปล่า”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่น่าไว้วางใจ
“ฟางมากับเพื่อนค่ะ มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น คุณคงไม่สนุกหรอกค่ะถ้าจะนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเรา”เธอตอบอย่างอ้อมค้อม
พยายามรักษาน้ำใจของเขาไว้ให้มากที่สุด เพราะอย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังให้เกียรติเธออยู่ ไม่ได้ทำอะไรรุ่มร่าม
“ผมเข้าได้กับทุกคนอยู่แล้วครับ”เธอลอบถอนหายใจ ก่อนจะเดินนำเขาไปที่โต๊ะ อย่างน้อยมีเพื่อนอยู่ด้วยดีกว่า
เธออยู่กับเขาเพียงสองคน
“เอ้า ไปไหนกันหมดแล้วเนี่ย”หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบาๆเมื่อเพื่อนที่น่ารักหายไปหมดแล้ว ทิ้งเธอไว้คนเดียว
แล้วจะทำอย่างไรล่ะทีนี้
“ไหนล่ะครับเพื่อนคุณฟาง”เธอเกาท้ายทอยแก้เก้อ ก่อนจะหันมาพูดกับเขา
“เอ้อ สงสัยออกไปยืดเส้นยืดสายน่ะค่ะ เชิญคุณนั่งก่อนสิคะ”เธอเชื้อเชิญเขาตามมารยาท เขานั่งลงก่อนจะหันมา
คุยกับเธอ แล้วอย่างนี้เธอจะปลีกตัวออกไปได้ยังไงล่ะ นี่ก็ใกล้เวลาที่แผนจะเริ่มเข้าไปเต็มทีแล้ว
“คุณฟางดูเบื่อๆนะครับ สงสัยผมจะคุยไม่สนุก”เขาเอ่ยอย่างเกรงใจ เธอรีบส่ายหน้า แล้วแก้ตัวเป็นพัลวัน เพราะ
บางทีเธออาจจะเผลอแสดงท่าทีที่ทำให้เขารู้สึกแย่ไปก็ได้
“เปล่าหรอกค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมจะขอตัวกลับแล้ว แต่ก่อนไปขอฉลองให้กับมิตรภาพของเราหน่อยนะครับ”เธอพยักหน้า ก่อนเขาจะ
เรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่มให้เธอ เธอเหลียวหลังไปมองหาเพื่อนรัก
‘หายไปไหนกันหมดนะ จะถึงเวลาอยู่แล้วนะ’เธอแอบค่อนขอดเพื่อนอยู่ในใจที่ปล่อยให้เธอต้องรับหน้ากับผู้ชาย
แปลกหน้าคนนี้
“คุณฟางครับ...ค็อกเทลครับ”
“ค่ะ”เธอยื่นมือไปรับแก้วน้ำส้ม ก่อนจะดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลงบนโต๊ะ
“หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะครับ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เขายื่นมือมาให้เธออย่างเป็นมิตร ดูจากหน้าแล้วเขาน่าจะ
เป็นลูกครึ่ง คงรับวัฒนธรรมตะวันตกมามากและไม่ยึดถือวัฒนธรรมไทยเท่าไหร่ คงไม่คิดอะไรหรอกมั้ง เธอยื่นมือ
ไปจับ เขายิ้มให้ก่อนจะปล่อยมือเธอลงอย่างสุภาพ เขาหันหลังเดินจากไป...
ภาพในจอตาเริ่มพร่ามัว สมองมันมึนไปหมด ความร้อนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนพุ่งเข้าสู่ทุกส่วนของร่างกาย
เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดบริเวณขมับ ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอกลับติดขัดขึ้นมาเสียดื้อๆ ภาพผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
ใกล้ ก่อนเขาจะประคองเธอให้ลุกขึ้น ภาพตอนนี้มันพร่ามัวเสียจนเธอไม่รู้ว่าเขาคือใคร เธอพยายามขืนตัวออกจาก
อ้อมกอดของเขา แต่เพียงแค่มือที่ประคองตัวเธอเอาไว้กลับเกิดความร้อนวูบวาบอย่างประหลาด
“ฟางครับ...”
“พี่ป๊อป..”เธอพยายามเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ภาพมันก็เบลออยู่ดี
“เอ่อ ครับ...ป๊อปก็ป๊อปวะ”เธอรู้สึกว่าเขาพาร่างของเธอเดินออกมาจากด้านในของผับ เดินไปเรื่อยๆ แต่ทำไมเธอ
ถึงได้ไม่รู้สึกตัวเลยนะ แต่ที่แน่ๆคือเธอเริ่มมั่นใจแล้วว่าคนข้างกายไม่ใช่เขาคนนั้นแน่
“นายเป็นใคร...ปล่อยนะ”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก นี่เธอกำลังเจอกับอะไร
“ปล่อยก็โง่แล้ว”
...............................................................................................................................
ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย อะไรกันนักกันหนากับฉัน โทษนะบอกหน่อยได้มั้ยว่าป้ายฟิคแค้นร้ายกลายรักมันไปเหมือน
ของเรื่องไหน เราถึงได้ถูกด่าเอาด่าเอาอย่างนี้ แถมยังหาว่าลอกพล็อตนิยายคนอื่นอีก เม้นก็น้อย เหนื่อยนะคะ
แต่งนิยาย ตลอดเวลาเราไม่เคยขอเม้นเลย แต่นี่มันน้อยเกินไปจริงๆ เห็นยอดวิวกับเม้นแล้วก็เหนื่อยถ้าปัญหามัน
เยอะนักก็จะไม่แต่งมันแล้วนิยาย ออกจากเว็บนี้โดยถาวรไปเลย ไปตั้งกลุ่มในเฟสให้คนที่พร้อมให้กำลังใจเรา
แล้วอยากอ่านนิยายเราจริงๆอ่านดีกว่า เราขอความเห็นทุกคนอยู่นะ ตอบหน่อยก็ได้ไม่ว่าอะไรเลยจ้ะ...บอกตาม
ตรงตอนนี้โคตรท้อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ