สัญญารักลวง...
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.08 น.
แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
32)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนิยายเรื่อง สัญญารักลวง ตอนที่32 พิสูจน์...
“เป็นห่วงฟางหรอ...”
“ฉันกลัวเธอรถคว่ำตายต่างหาก”
“ฟางก็รู้อยู่แล้ว...” ป๊อปปี้เริ่มใจไม่ดีเมื่อคนตัวเล็กก้มหน้าลง ก่อนจะหมุนตัวกลับไป
“ฟางรู้ว่าพี่ป๊อปกลัวจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฟางใช่มั้ยล่ะ”ร่างเล็กหมุนตัวกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบอยู่
ในกำมือของเธอ “ก็อาจจะใช่...”
“คะ?..พี่ป๊อปพูดว่าไงนะ”
“ถ้าอยากฟังชัดๆ ก็ต้องทำให้ฉันรักเธอสิ”
“ต้องทำอะไรอีก แค่นี้ฟางก็ไม่เหลืออะไรจะให้พี่ป๊อปแล้ว”น้ำเสียงหวานแต่แฝงความเศร้าโศกไปในทีทำให้เขา
อดรู้สึกผิดไม่ได้ ตลอดมาเขาคงทำให้เธอต้องฝังใจกับเรื่องราวเลวร้ายมากมาย
“ลืมมันได้ไหมฟาง ลืมเรื่องราวเลวร้าย แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่”ดวงตากลมโตทอดสายตามองเขา เหมือนเธอจะ
ไม่เชื่อเขา เธอส่ายหน้าทั้งน้ำตา ตามมาด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจ สายตาของความผิดหวัง
สายตาของความเศร้าโศก
“จะปั่นหัวอะไรฟางอีก ไม่รักก็ไม่ต้องรัก ไม่ต้องมาสมเพชฟาง แค่นี้ฟางก็สมเพชทุเรศตัวเองจะแย่อยู่แล้ว”
“ทำไมถึงได้คิดแบบนั้น พี่แค่อยากให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่”
เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเธอไว้ ก่อนจะเกี่ยวเอาร่างเล็กๆเข้ามาแนบชิด
“อย่าปั่นหัวฟางเลยนะพี่ป๊อป พี่ไม่รักฟางก็ไม่เป็นไรหรอก เราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นกันใหม่ แค่ให้ฟางรักพี่ก็พอ ถ้า
วันไหนที่เราต้องหย่ากันฟางจะได้ตัดใจได้ลง”
“ไม่มีวันที่เราจะหย่ากัน พี่ยืนยันว่าพี่รักเรา ต่อให้ฟางอยากหย่า พี่ก็ไม่หย่า แล้วจำเอาไว้ด้วยว่ามันจะไม่มีวันนั้น
ถ้าวันนี้ฟางไม่เชื่อ พี่จะพิสูจน์เอง”เขาเอ่ยอย่างหนักแน่น คำพูดของเขาหนักแน่นไม่ได้น้อยไปกว่าหัวใจของเขา
ในเมื่อวันนี้เขาตัดสินใจที่จะรักเธอ ไม่มีวันที่เขาจะถอดใจ ยิ่งความพยายามที่ผ่านมาของคนตัวเล็กมากเท่าไหร่
เขาจะพยายามมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว เมื่อเขาคิดว่าเธอคือคนที่ใช่
เขาก็จะทำทุกวิถีทางให้เธอเชื่อในคำว่ารักของเขา...
รถยนต์คันหรูแล่นออกจากบ้านหลังงาม มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองใหญ่ คนตัว
เล็กข้างกายยังไม่มีท่าทีว่าจะเปิดปากตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงก่อน
“ทำไมเงียบไปล่ะ หรือว่าฟางไม่ชอบที่พี่ออกมาด้วย”เขาหันหน้าไปคุยกับภรรยาสาวที่เงียบไปนาน เธอหันมามอง
หน้าเขา แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกมาเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน เขาเอื้อมมือไปกดรับใน
ขณะที่รถยังติดไฟแดงเป็นรอบที่สอง
“ฮัลโหล”
“คุณภาณุคะ คือว่าคุณผุสชามาขอพบค่ะ ดิฉันเรียนไปแล้วว่าวันนี้ท่านประธานไม่มาทำงาน แต่เธอก็ยืนกรานว่าจะ
พบให้ได้เลย”เขาขมวดคิ้วมุ่น เมื่อหญิงสาวอีกคนยังไม่ยอมเลิกรา สายตาเหลือบมองภรรยาสาวที่มองเขาอยู่อย่าง
สนอกสนใจ
“เดี๋ยวผมจะเข้าไป”
“ค่ะ”เขากดตัดสายก่อนจะหันมาสนใจท้องถนนเบื้องหน้าต่อ
“ใครหรอคะ”
“เลขาครับ” “โทรมาทำไมหรอคะ”เขามองหน้าคนตัวเล็กก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนไปให้
ไม่ทันไรก็ขี้หึงขนาดนี้แล้ว
“เราต้องแวะเข้าบริษัทแป็บนึงนะฟาง”ไม่ต้องรอให้เธอตอบ เขาก็เลี้ยวเข้าถนนอีกสายเพื่อไปยังบริษัททันที ผ่าน
ไปเพียงสิบห้านาทีรถคันหรูก็จอดนิ่งที่หน้าบริษัทจิระคุณหรือจะเรียกให้ถูกต้องบอกว่าสำนักงานใหญ่ของโรงแรม
ในเครือจิระคุณต่างหาก เธอเปิดประตูก่อนจะก้าวลงจากรถ เดินตามหลังสามีหนุ่มที่ก้าวฉับๆไปอย่างไม่รอคนขาสั้น
อย่างเธอเลย
“เธออยู่ไหน”เธอมองตามสามีหนุ่มที่เอ่ยถามกับเลขาสาวใหญ่หน้าห้อง
“นั่งรออยู่ในห้องแล้วค่ะ”เขาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไป เธอเดินตามเขาเข้าไปอย่างงงๆ
“ป๊อป มาแล้วหรอคะ”สาวร่างบางเบียดกายแนบชิดกับชายหนุ่มอย่างสนิทสนม เธอมองการกระทำของจินนี่อย่าง
ไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เมื่อเจ้าของร่างกายยังไม่ว่ากระไรสักคำ
“เชิญนั่งก่อนครับ”ป๊อปปี้ผายมือไปยังโซฟาสองตัวที่ตั้งอยู่ เธอมองที่ว่างก่อนจะหันหลังกลับเมื่อมันไม่เหลือที่ว่าง
สำหรับเธออีกแล้ว โซฟาตัวยาวที่จินนี่นั่งอยู่เธอก็ไม่คิดจะกระถดให้เลยแม้แต่น้อย แล้วมันจะเหลือที่ว่างให้คน
นอกอย่างเธอได้อย่างไร และเธอก็ควรจะรับรู้ไว้เสียทีว่าตอนนี้เธอมีความสำคัญแค่ไหน และก็ต้องคอยบอกหัวใจ
ไม่รักดีที่รังแต่จะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อย แค่เขาบอกว่ารักก็จะเชื่อเขาไปเสียทุกอย่าง....อย่างนั้นหรือ
“ฟาง จะไปไหน มานั่งนี่ก่อนสิครับ”เธอหันหลังกลับไป ก่อนจะเผลอกรีดร้องออกมาเมื่อลำแขนแกร่งเกี่ยวเธอให้
นั่งลงบนที่ว่างอันน้อยนิดบนโซฟา นี่เธอจะเกยตักเขาอยู่แล้ว จะนั่งกันได้ยังไง
“พี่ป๊อป ปล่อยฟางเถอะค่ะ เดี๋ยวฟางจะออกไปรอข้างนอก”
“พี่คุยธุระแป็บเดียวเอง” “ให้น้องฟางมานั่งกับจินนี่ก็ได้นะคะ เหลือที่ว่างอีกเยอะเลย”ร่างบางกระถดกายเพื่อให้
เห็นที่ว่างที่เธอสามารถนั่งได้สบาย สบายมากกว่านั่งเบียดกับร่างแกร่งในโซฟาตัวเล็กๆนี่ แต่เรื่องอะไรเธอจะยอม
ไหนๆก็มีโอกาสแกล้งแล้ว ขอแกล้งให้มันหายแค้นใจสักทีเถอะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟางชอบนั่งแบบนี้ อบอุ่นดีใช่มั้ยคะพี่ป๊อป”เธอพูด ก่อนจะแนบใบหน้าลงกับต้นคอแกร่ง หากแต่เมื่อ
สายตาปะทะเข้ากับรอยแดงระเรื่อที่เธอทิ้งไว้เมื่อคืนทำเอาใบหน้าร้อนผะผ่าวเมื่อเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืน...
น่าอายชะมัด
“ครับ เอ่อ คุณมาที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”เธอทอดสายตามองจินนี่ที่ดูเหมือนจะมองมายังจุดเดียวกันกับเธอ
เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนจะซบใบหน้าลงบนต้อนคอแกร่งอย่างเย้ยหยัน จินนี่ส่งสายตาอาฆาตมาให้หนึ่งที ก่อนจะปั้น
หน้าแสนดีคุยกับชายหนุ่ม
“คือว่าจินนี่อยากทราบว่าโรงแรมของป๊อปที่ตรังพอจะเหลือห้องว่างมั้ยคะ คือว่าทัวร์ของจินนี่มีคนมาเพิ่มน่ะค่ะ”เธอ
ขมวดคิ้วมุ่น โธ่ นึกว่าจะหนีพ้น ยัยป้านี่จะคอยตามไปหลอกหลอนทุกทีเลยหรือไงนะ
“เดี๋ยวผมจะให้เลขาเช็กให้ละกัน ไว้ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวจะโทรไปแจ้งนะครับ”ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เธอ
พอจะรู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบใจแต่ด้วยอาชีพที่เขาต้องรักษาน้ำใจของคู่ค้าเสมอ หากไม่สังเกตจริงๆก็จะไม่รู้หรอก
ก็แหงละ เรื่องแค่นี้ดันมาหาถึงประธานบริษัท แค่พนักงานประชาสัมพันธ์ข้างล่างก็ช่วยเธอได้แล้ว
“เอ่อ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ถ้าป๊อปไม่รังเกียจ ให้จินนี่เลี้ยงอาหารคุณสักมื้อนะคะ” เธอแอบย่นหน้าอย่างไม่ชอบใจ
สงสัยจะอ่านนิยายเยอะไปนะ มุกนี้นางร้ายก็ใช้กันเกลื่อนกลาดและเธอก็รู้ดีว่านางเอกต้องรับมืออย่างไร
“เห็นทีว่าคงจะไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะพี่ป๊อปเพิ่งทานมาคงจะยังไม่หิว อ้อ เผอิญวันนี้เราตื่นสายกันนิดหน่อยน่ะค่ะ
ตามประสาข้าวใหม่ปลามัน”
จินนี่ดูเหมือนจะอึ้งๆไปพักใหญ่ ไม่ใช่ว่าเธอไม่กระดากปากตัวเอง แต่มันไม่มีวิธีไหนเจ็บแสบกว่านี้อีกแล้วนี่นา
“งั้นจินนี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ”สาวร่างบางเอ่ย ก่อนจะจากไปอย่างเงียบๆ
“ฮ่าๆ หน้าตาตลกเป็นบ้าเลยอ่ะ คิกๆ”เธอหัวเราะอย่างคนเสียสติ ก่อนทุกอย่างจะสะดุดลงเพราะใบหน้าหล่อคมที่
ดุขึ้นมาของชายหนุ่ม
“เรานี่มันจริงๆเลย”เขาเผยยิ้มทำเอาเธอโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก ก็ยังดีกว่าเขาตีหน้ายักษ์แล้วก็ดุเธอเหมือนเด็กดื้อ
ละกัน
“เค้าอุตส่าห์ช่วยไว้น้า เค้ารู้นะว่าพี่ป๊อปไม่อยากไปทานข้าวกับยัยป้านั่นหรอก”
“รู้ดีจริงๆนะ”ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนวลที่แดงก่ำตรงหน้าอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนร่างเล็กจะดันตัวเองออกจาก
อ้อมแขนของชายหนุ่ม เธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยกับสามีหนุ่มเบาๆ
“ไปกันเถอะค่ะ”
“ไปสิ”
....................................................................................................................................
เปิดตอนมาเศร้า ตบท้ายด้วยหวานเบาๆ ตอนหน้าเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องเลยนะ
วันนี้ไม่ด่อมๆมองๆดูการประกวดนิยาย ขอบอกว่าเขาโหดมาก ขนาดบางคนเราคิดว่าแต่งดีแล้ว ยังมีข้อติเลยอ่ะ
คิดถูกมหันต์ที่ไม่ลงประกวด เราคงแพ้ตั้งแต่แรกละ โหดจริงๆ เราไม่ได้ลงประกวดก็เป็นกำลังใจให้คน
ลงละกันเนอะ รีดเดอร์ของเราลงประกวดบ้างรึเปล่าเนี่ย ฝากได้นะ เดี๋ยวเข้าไปเม้น+โหวตให้
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ