[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  111.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

58) [Episode 5 :: Beautiful Lover] # Chapter 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 5 Beautiful Lover

:: Chapter 4 ::

 

            “เป็นไง”  เสียงเภตรากระซิบเบาๆ

            ฉันหันไปมองเพื่อนๆ ที่เกาะกันอยู่ข้างหลังแล้วเปิดประตูให้ผู้มาเยือนท่ามกลางเสียงทักท้วงของเพื่อนๆ ที่ฉันยอมเปิดง่ายๆ เพราะคนที่เคาะประตูไม่ใช่ขโมยหรือพี่มะนาวแต่อย่างใด แต่เป็น...

            “เคาะตั้งนานพวกเธอไม่เปิดสักทีตกใจหมด”  โยซอบบ่นขณะเดินเข้ามาในห้องพร้อมเพื่อนร่วมวงทั้ง 5 คน

            พวกเขาทั้ง 6 คนไม่ได้มาตัวเปล่า แต่มาพร้อมกับผ้าห่มและหมอนคนละใบ ให้ทายว่าพวกเขามาทำไม =_=?

            “อย่าบอกนะว่า...?”  เภตราพูดค้างไว้แค่นั้น

            “ใช่!”  บีสท์ทั้ง 6 คนประสานเสียงออกมาพร้อมกัน

            “ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้ง ตำรวจก็เฝ้าอยู่ไม่มีโจรหน้าไหนเข้ามาได้หรอก”  ฉันพูดตามรูปการที่เป็นจริง

            “พวกเราเป็นห่วงแฟนนี่ครับ”  ดงอุนพูดแล้วเดินไปยืนข้างวิลล่า

            “นั่นสิ เธอไม่มีแฟนไม่มีทางเข้าใจหรอก”  โยซอบก็เอากับเขาด้วย =_=

            “เออๆ ตามใจพวกนายแล้วกัน”  ฉันค้อนให้ดงอุนกับโยซอบก่อนจะเดินกระแทกส้นกลับมาที่ห้องครัวเพื่อกินบะหมี่ต่อ พวกนี้นี่พูดจาร้ายกาจจริงๆ U.U (แทงตรงจุดแป๊ะ T^T)

            “โธ่ พวกนั้นแค่พูดหยอกเล่นแค่นั้นเอง งอนจริงหรอเนี่ย”  เฝ้าฝันเดินตามเข้ามาในห้องครัว

            “เปล่า ฉันแค่หิวเลยเดินเข้ามากินต่อ ไม่ต้องคิดมากหรอกน่าแค่โสดไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย”

            “ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นะคะพี่ณัช อิอิ ^_^”  วิลล่านั่งเท้าคางบนโต๊ะอาหารฝั่งตรงข้าม

            “ยัยวิล -_+”

            “โห...ดูทำหน้าเข้าสิ ฮ่าๆๆ”  วิลล่าหัวเราะเยาะฉันแล้ววิ่งออกไปจากห้องครัวทันที เฮ้อ...ยัยเด็กคนนี้ -_-!

            “เอาน่าๆ เดี๋ยวเนื้อคู่แกก็มาแล้วล่ะ แต่ถ้าจะให้มาเร็วๆ ต้องทำไงรู้ไหม?”  ดอกหลิวเข้ามาประสมโรง =_=

            “...ทำตัวให้เป็นผู้หญิงหน่อย แค่นั้นเอง ^O^”

            “ถ้าจะพูดทำนองเดียวกับยัยวิลล่ะก็หยุดตรงนั้นเลยนะยัยหลิว -_-”

            “เปล่าสักหน่อย ฉันแค่จะบอกว่า ที่แกเป็นอยู่เนี่ยมันทำให้ผู้ชายเขากลัว จะเข้ามาจีบก็กลัวเป็นทอม แบบนี้ใครเขาจะกล้าเสี่ยงล่ะ”

            “เดี๋ยวก่อนๆ มาห่วงเรื่องความโสดของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ก่อนหน้านี้ยังห่วงเรื่องโจรอยู่เลย”

            “นั่นสิ ฉันว่าอย่าห่วงเลย ยังไงไอ้ณัชมันก็มีเนื้อคู่อยู่แล้วล่ะ ^_^”  เภตราที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบทีหลังพูดพร้อมรอยยิ้มแปลกๆ

            “ใคร?”  ดอกหลิวขมวดคิ้วอย่างสงสัย

            “ก็หนุ่มหล่อเข้มนักธุรกิจใหญ่นั่นไง เห็นว่าแลกเบอร์กันด้วยนี่ ^^”

            “เฮ้ยๆ พูดดีๆ หน่อย เขาแค่ให้นามบัตรเท่านั้นเองไม่ได้แลกเบอร์กัน แล้วอีกอย่างพี่มะนาวก็เป็นคนเก็บนามบัตรนั้นไว้ด้วย”

            “อ้าวหรอออ...”  เภตราลากเสียงยาวๆ

            “ห้องนี้มียาลดไข้บ้างไหม”  ดูจุนที่เดินเข้ามาพร้อมเภตราถามขึ้น หลังจากที่ฟังแฟนตัวเองแซวฉันอยู่นาน

            “อ๋อมีสิ ทำไมหรอ”  เภตราถามกลับ

            “ก็ฮยอนซึงน่ะสิตัวร้อนมากเลย บอกให้กินยาก็มีแต่ลืม”  ดูจุนพยักพเยิดไปที่ฮยอนซึงที่นอนคลุมโปงอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก มิน่าตั้งแต่มายังไม่ได้ยินเสียงที่แท้ก็ไข้นี่เอง

            “งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาให้”  เภตรารับคำแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ส่วนพวกเราที่เหลือก็ช่วยกันเก็บจานในห้องครัวเพราะไม่มีใครมีอารมณ์จะกินต่อแล้ว โดยเฉพาะคนที่ถูกโจมตีอย่างฉัน =_=;

            และคืนนี้ทั้งคืนเราก็นอนหลับฝันดีกันทั่วหน้าเพราะมีองครักษ์มาคอยเฝ้าอยู่ตั้ง 5 คน ส่วนอีก 1 คนที่เหลือ (ฮยอนซึง) เดี้ยงเพราะฤทธิ์ยาหลับสนิทตลอดคืน สนิทมากจนตื่นสายกว่าเพื่อนอ่ะ แต่ยังดีที่วันนี้มีแสดงคอนเสิร์ตตอนเย็นเขาเลยมีเวลาพักผ่อนหน่อย

            “เมื่อคืนเหตุการณ์ปกติดีใช่ไหม”  พี่นาบีถามพวกเราทันทีที่เจอกันหน้าล็อบบี้

            “ปกติมากค่ะ”  หยาตอบ แต่พวกเราไม่ได้บอกเรื่องที่บีสท์มานอนเป็นเพื่อนหรอกนะ เพราะเดี๋ยวพี่นาบีจะไม่สบายใจเรื่องกลัวเป็นข่าวอีกเรื่อง =_=

            “ดีแล้ว แล้วนี่ทำไมบีสท์ยังไม่มาอีกล่ะเนี่ย ไหนว่าจะไปพร้อมกัน”  พี่นาบีกวาดตามองไปทั่วล็อบบี้ แต่ก็ไม่พบวี่แววของบีสท์หรือทีมงานของบีทส์เลย แต่ระหว่างนั้นเองคุณมินนาก็วิ่งเข้ามาหาพี่นาบี

            “คุณนาบีคะ เดี๋ยวพวกเราจะตามไปทีหลัง ให้ลัสตี้ไปแต่งตัวรอเลยค่ะ”

            “มีอะไรรึเปล่า”

            “ฮยอนซึงยังไม่เสร็จน่ะค่ะ ดูเหมือนจะไม่ค่อยสบายด้วย”

            “ไหวไหมล่ะ ถ้าไม่ไหวพักก็ได้นะ”

            “ฮยอนซึงบอกว่าไหวค่ะ”  คุณมินนายืนยัน พวกเราเลยออกเดินทางไปสถานที่จัดคอนเสิร์ตก่อน

            คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้งนายนั่นน่ะ...

 

            การแสดงของพวกเราเสร็จสิ้นลงอย่างราบรื่นและได้รับการตอบรับดีมากๆ มีป้ายไฟและเสียงเชียร์ขณะที่พวกเราร้องเพลงด้วย ความรู้สึกแบบนี้มันดีจริงๆ ที่เพื่อนร่วมชาติของเราให้การตอบรับดีขนาดนี้ (รู้สึกปลื้มปริ่ม *O*)

            หลังจากการแสดงของพวกเราก็ต่อด้วยบีสท์ ซึ่งแน่นอนที่พวกเขาก็ทำการแสดงได้อย่างมืออาชีพ ทั้งๆ ที่เต้นหนักขนาดนั้นแต่เสียงพวกเขาก็ยังนิ่งอยู่เลย ฉันนับถือพวกเขามากจริงๆ ส่วนนายฮยอนซึงนั่นก็ดูเหนื่อยๆ แต่เขาก็ทำเต็มที่อย่างทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

            “ดูเหงื่อพี่ฮยอนซึงออกเยอะมากเลยอ่ะ”  วิลล่าพูดขึ้นขณะนั่งดูจอทีวีถ่ายทอดสดอยู่หลังเวที

            “ไข้ขึ้นแน่เลย จะช็อกรึเปล่าน่ะเหงื่อออกขนาดนั้น”  เฝ้าฝันวิเคราะห์

            อะไรนะ! ช็อกเลยหรอ o_o;

            “มะนาว ไปดูกับมินนาหน่อยไป พาทีมงานไปสักสองสามคนนะ”  พี่นาบีที่นั่งดูอยู่ด้วยกันพูดขึ้น

            “ค่ะ”  พี่มะนาวรับคำแล้วรีบเดินออกไป

            “ฝันไปด้วยแล้วกันนะคะพี่นาบี”  เฝ้าฝันเสนอตัวไปด้วยอีกคน

            “เออใช่ ตามมะนาวไปหน่อยก็ดี”  ทันทีที่พี่นาบีเห็นชอบ เฝ้าฝันก็ลุกขึ้นแต่ไม่รู้เพราะอะไรยัยนั่นถึงลากฉันมาด้วย -_-;

            “ทำไมแกต้องให้ฉันมาด้วยเนี่ย อยากมาก็มาเองสิ”  ฉันบ่นแต่ก็ยอมเดินตามเฝ้าฝันมาโดยดี

            “ฉันรู้น่าว่าแกก็ห่วงฮยอนซึง”

            “บ้า! ใครห่วงหมอนั่นกัน -///-”  ฉันร้องขณะที่ใจกำลังเต้นรัวแปลกๆ

            “เออๆ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง ฉันแค่อยากมีเพื่อนมาด้วยเท่านั้นแหละ แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญแกอยู่ใกล้ประตูที่สุดฉันเลยลากแกมาด้วย โอเคไหม?”  เฝ้าฝันพูดแบบประชดหน่อยๆ =_=

            “ชิ!”  ฉันพ่นลมออกทางปากเพื่อแสดงความไม่พอใจแล้วเดินตามเฝ้าฝันไปจนกระทั้งถึงข้างเวทีที่มีคุณมินนาและพี่มะนาวยืนลุ้นอยู่

            “เป็นไงบ้างคะ”  เฝ้าฝันถามเมื่อเดินเข้ามาใกล้พอที่จะพูดแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังออกมาจากลำโพงด้านหลังได้

            “ดูท่าจะยังไหวแค่การแสดงจบนะ แต่เดินลงจากเวทีไหวไหม...ยังไม่แน่”  คุณมินนาพูดด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

            “เธอมาด้วยก็ดีนะเฝ้าฝัน จะได้ดูช่วยกัน”  พี่มะนาวพูดแล้วหันกลับไปดูการแสดงของบีสท์ต่อ

            หลังจากที่การแสดงจบลงเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มไปทั่วงาน แล้วไฟบนเวทีก็ดับลง บีสท์โบกมือให้ผู้ชมขณะเดินเข้ามาหลังเวทีอย่างเป็นกันเอง เว้นแต่ฮยอนซึงที่เดินก้มหน้าก้มตาเข้ามาโดยไม่ได้ทำเหมือนเพื่อนๆ

            “เป็นไงบ้าง?”  คุณมินาตรงเข้าไปประคองฮยอนซึงทันทีที่เขาเดินเข้ามาพ้นขอบเวที

            “ไม่เป็นไรครับ”  ฮยอนซึงตอบเบาๆ ก่อนที่ทีมงานจะเดินนำพวกเราออกมาจากด้านหลังเวทีเพื่อไปห้องพัก

            “ทำไมเธอถึงมากับเขาด้วยเนี่ย คิดว่าจะแบกฉันไหวรึไง”  ฮยอนซึงกระซิบถามฉันขณะเดินกลับห้องพัก

            “ฉันโดนลากมาต่างหากล่ะ =_=”

            “ฮึๆๆ งั้นหรอ”  ฮยอนซึงยิ้มมุมปากอย่างเหนื่อยๆ

            “เอ่อ...คุณฮยอนซึงเป็นยังไงบ้างครับ”  ผู้ดูแลการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้เดินเข้ามาถามพร้อมกับล่ามประจำตัว

            “ตอนนี้ก็แย่เลยน่ะค่ะ”  คุณมินนาตอบไปตามความจริง

            “ผมเรียกรถพยาบาลให้แล้วนะครับแต่เขาเข้ามาไม่ได้เพราะคนเยอะเกินไป เขาแนะนำว่าให้กินยาลดไข้และพักผ่อนให้มากๆ ไปก่อน”

            “อ๋อ ค่ะ”  คุณมินนาพยักหน้ารับรู้

            “เรามีกล่องปฐมพยาบาลอยู่ที่ห้องโถงใหญ่หลังเวที อยากจะรบกวนให้ทีมงานตามไปเอาด้วยนะครับ”

            “ได้ค่ะ”  คุณมินนารับคำแล้วเดินตามผู้ดูแลคนนั้นไป โดยมีเฝ้าฝันตามไปอีกคนเพราะเป็นคนที่รู้เรื่องยาแล้วก็อะไรพวกนี้ดี

            ตอนนี้ก็เหลือฉันกับพี่มะนาว 2 คน เพราะทีมงานที่มาด้วยพาบีสท์ที่เหลือเดินนำไปก่อนแล้ว

            “อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะฮยอนซึง ฉันยกนายไม่ไหวนะ”  พี่มะนาวพูดพร้อมขณะเดินนำทางไปที่ห้องพัก

            “โอเคครับ”  ฮยอนซึงหัวเราะในลำคอ ฉันที่เดินอยู่ข้างๆ เขาได้ยินเสียงหายใจหอบของเขาชัดเจนมาก เขาหายใจเร็วจนน่าตกใจเลยล่ะ

            “นายไหวไหมเนี่ย?” 

            “ตอนนี้...ฉันคิดว่า...”  อยู่ๆ ฮยอนซึงก็หยุดเดินแล้วหันมาหาฉัน

            “นายเป็นไรน่ะ?”  ฉันมองหน้าฮยอนซึงที่นิ่งมองหน้าฉันอยู่สักพักแล้ว

            “ฉัน...”  ฮยอนซึงพูดแล้วเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

            “เฮ้ยๆๆ นายจะทำอะไรเนี่ย!!”  ฉันร้องลั่นแล้วพยายามดันหน้าฮยอนซึงเอาไว้ แต่อยู่ๆ ฮยอนซึงก็ทิ้งตัวลงมาซบที่ไหล่ฉันอย่างรวดเร็ว

            ฟุบ!

            “ฮะ...ฮยอนซึง!!”  ฉันร้องขึ้นมาเมื่อลองเขย่าตัวฮยอนซึงแล้วเขาไม่ตอบสนองอะไรเลย

            “เฮ้ย! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ!!...ฮยอนซึง!!”  เขาแน่นิ่งไปเลยโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย มีเพียงลมหายใจร้อนและหอบที่รดต้นคอฉันอยู่เท่านั้นที่ช่วยยืนยันว่าเขายังไม่ตาย

            “พี่มะนาว! พี่มะนาว ฮยอนซึงเป็นลม!!”  ฉันร้องเรียกพี่มะนาวที่เดินนำออกไปได้ไกลพอสมควรแล้ว

            “อ้าวเฮ้ย! ซวยแล้วณัช!”  พี่มะนาววิ่งกลับมาช่วยฉันพยุงฮยอนซึงอีกแรง ก่อนที่ทีมงานคนอื่นในงานจะเข้ามาช่วยพยุงกลับไปที่ห้องพักอีกแรง

            พี่นาบีพาฮยอนซึงส่งโรงพยาบาลอย่างด่วนด้วยตัวเอง ส่วนพวกเราถูกสั่งเอาไว้ว่าต้องกลับโรงแรมเท่านั้นเลยต้องมารอฟังข่าวที่โรงแรม แต่นี่ก็นานมากแล้วทั้งพี่นาบี ทั้งคุณมินนาไม่เห็นมีใครส่งข่าวมาเลย เป็นอะไรมากรึเปล่านะ!

            “พี่ณัช หยุดเดินบ้างก็ได้นะคะ”  วิลล่าขมวดคิ้วมองฉัน ฉันเพิ่งจะรู้ตัวตอนนี้เองว่าทุกคนในห้องนั่งเล่นกำลังมองมาที่ฉันอยู่ -_-;

            “ไม่ต้องห่วงมากก็ได้ ฮยอนซึงมันไม่เป็นไรมากหรอกน่า”  จุนฮยองพูดพร้อมรอยยิ้มวิบวับแปลกๆ

            “ใครห่วง?”  ฉันพูดแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด

            “ก็ท่าทางเธอน่ะมันฟ้อง”  หยาอมยิ้มนิดๆ

            “ฉันแค่ตกใจที่มีคนเป็นลมเป็นแล้งต่อหน้าต่อตา ฉันก็ต้องกังวลเป็นธรรมดาสิ”  ฉันพูด แต่ดูเหมือนคำพูดของฉันมันไม่ได้ช่วยให้พวกนี้เปลี่ยนความคิดได้เลย

            ทำไมต้องพยายามจับคู่ฉันกับฮยอนซึงตลอดเลยนะ -_-//

            “ณัช มีคนมาหาแน่ะ”  อยู่ๆ พี่มะนาวก็เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าแปลกๆ

            “ใครคะ”  ฉันเดินไปหาพี่มะนาวก็เจอกับอธิส หนุ่มนักธุรกิจหล่อเข้มคนนั้นนั่นเอง

            “สวัสดีครับ ^_^”

            “เอ่อ...สวัสดีค่ะ”  ฉันตอบแล้วหันไปกระซิบกับพี่มะนาวที่ยืนอยู่ข้างๆ  “ทำไมเขาขึ้นมาบนนี้ได้ล่ะพี่มะนาว”

            “เขาเป็นผู้สนับสนุนหลักของน้ำหอมที่เธอถ่ายโฆษณาน่ะ เลยมีสิทธิพิเศษ”

            “หรอคะ o_o”

            “ที่ผมมา ผมอยากจะคุยกับคุณหน่อยน่ะครับ”  คุณอธิสพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ มาให้

            “เอ่อ...ขอเวลาไม่มากหรอกครับ คุยตรงทางเดินข้างนอกนี่เอง” 

            “ไปเหอะน่า ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็จะอยู่ในห้องนี้แหละ เหมือนจะมีเรื่องด่วนด้วยนะ”  พี่มะนาวสนับสนุน และเพราะความเป็นคนใหญ่คนโตของเขาฉันเลยไม่อยากเสียมารยาท

            “มีอะไรกับฉันหรอ”  ฉันถามทันทีที่ออกมาพ้นประตูห้องแล้ว

            “ผมได้ข่าวมาว่ามีขโมยเข้ามาในห้องของพวกคุณหรอครับ”

            “ใช่ค่ะ เอ๊ะ! คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง พวกเราปิดข่าวกันอยู่นะ”

            “ในโรงแรมนี้ผมก็พอจะกว้างขวางอยู่บ้าง เรื่องดังขนาดนี้ผมจะไม่รู้ได้ยังไง”

            อย่าบอกนะว่าเป็นเจ้าของโรงแรมอีกน่ะ จะรวยเกินจริงไปหน่อยไหม =_=

            “แล้ว...พวกมันได้อะไรไปรึเปล่า” 

            “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหายเลย แต่หลังจากที่ค้นของทั่วห้องแล้วดูเหมือนพวกมันจะโกรธมากเลยนะ เพราะว่ามันกรีดหมอนกรีดโซฟาซะเละเลย”

            “ฮึ! ไม่ได้ไปจริงๆ ด้วย” 

            “ว่าไงนะคะ”  ฉันขมวดคิ้วถามคุณอธิส เพราะฉันได้ยินไม่ค่อยถนัดว่าเขาพึมพำว่าอะไร ดูท่าทางแปลกๆ ยังไงชอบกล

            “อ๋อ เปล่าครับ แค่พูดกับตัวเองน่ะ ว่าแต่ตุ๊กตาที่ผมเอาคืนให้คุณน่ะอยู่ไหนแล้วล่ะ”

            “อยู่นี่ค่ะ”  ฉันยกตุ๊กตาที่ห้อยอยู่กับมือถือของฉันขึ้นมาให้เขาดู

            “ฉันชอบลืมไว้ในรถตู้ของทีมงานน่ะ เลยเอาห้อยมือถือไว้จะได้ไม่ลืมเอาขึ้นมาเก็บ ทำไมหรอคะ”

            “ผม...ขอได้ไหม”

            “ว่าไงนะ?”

            “เอ่อ...คือในนั้นมันมีของของผมอยู่น่ะครับ คุณจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้ไหม วันนั้นผมถูกคนไม่ดีตามล่าอยู่ ผมกลัวมันจะหายเลยเอาไว้ในตุ๊กตาของคุณเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ปลอดภัยอย่างที่คิดแล้ว อีกอย่างคุณต้องเดือดร้อนเพราะของสิ่งนี้ ผมเลยอยากจะขอมันคืน”

            “มีอะไรในนี้หรอคะ”

            “ตอนนี้คิดว่าคงยังไม่สะดวกจะบอกน่ะครับ”

            “แต่ฉันเกือบจะโดนขโมยฆ่าปาดคอเพราะของของคุณนะ -*-”

            “ขอโทษด้วยนะครับ ผมบอกตอนนี้ไม่ได้จริงๆ ผมต้องรีบเอามันไปทำลายให้เร็วที่สุดจะได้ไม่มีใครต้องเดือดร้อนอีก”

            “เฮ้อ...อยากได้ก็เอาไปเถอะ ถ้าคุณอยากได้มันมากขนาดนั้น และหวังว่าจะไม่มีใครต้องเดือดร้อนเพราะมันอีกอย่างที่คุณพูดนะ”  ฉันยอมแกะที่ห้อยโทรศัพท์ไปให้เขาโดยดี

            “แน่นอนครับ”

            “แค่นี้ใช่ไหมคะ?”

            “พรุ่งนี้พวกคุณจะกลับแล้วใช่ไหม”

            “ใช่ค่ะ”

            “งั้น...ไว้เจอกันที่เกาหลีนะครับ ^_^”

            นายอธิสยิ้มให้ก่อนจะเดินหนีไปเลย โดยมีตุ๊กตาที่แฟนคลับให้ติดมือไปด้วย โธ่...หวังว่าแฟนคลับฉันคงไม่โกรธนะ U.U

            “พี่ฮยอนซึงไม่อยู่แป๊บเดียว พี่ณัชก็นอกใจไปหาหนุ่มไทยซะแล้ว Y.Y”  นี่คือเสียงของวิลล่าที่ดังขึ้นมาทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้อง

            “ยัยวิลล่า พูดดีๆ นะยะ -_+”  ฉันจ้องวิลล่าเขม็ง น่าจะจับตีตูดซะให้เข็ดยัยเด็กคนนี้

            “นั่นสิ สงสารพี่ฮยอนซึงนะครับ”  นี่เป็นเสียงของแฟนยัยวิลล่า เอาเข้าไปจับหัวโขกกันเลยดีไหมเนี่ยคู่นี้ -*-!

            “เฮ้ย อย่าว่าณัชเลย เขายังมีสิทธิ์เลือกนะ เขายังไม่ได้ตกลงปลงใจกับฮยอนซึงสักหน่อย”  อันนี้เสียงกีกวังค่ะ -_-*

            “หล่อเข้มแถมรวยขนาดนั้นฉันก็เอาว่ะ อิอิ”  หยาพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ =_=!

            ในระหว่างที่ฉันกำลังจะวีนแตก พี่นาบีก็กลับมาและบอกกับเราว่าฮยอนซึงเป็นไข้หวัดใหญ่จะต้องนอนดูอาการที่โรงพยาบาล 3-4 วัน นั่นแหละอวดเก่งดีนักทำเป็นแมนถอดเสื้อมาคลุมให้ฉัน ดีนะที่ไม่ปอดบวมตาย

 

 

 

 

********************************

อัพแล้วนะจ้ะรีดเดอร์ทุกคน มาอ่านกันเร้ววว >O<

ฝากคอมเม้นติชมกันด้วยนะคะ 

แล้วก็อย่าลืมติดตามตอนต่อๆ ไปด้วยนะคะ ^_^

********************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา