ป่วนรักยกกำลังสองของยัยฝาแฝด (Twin soul-mate)
-
เขียนโดย tofu_baby
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.
2 ตอน
1 วิจารณ์
6,463 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22.35 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) EP1-END
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความTwin soul-mate
ป่วนรักยกกำลังสองของยัยฝาแฝด
By dollitsumu_jung
+++++++++++++++
++1++
ห้องประชุมสุดหรู บนชั้น 33 ของอาคารรูปทรงสะดุดตา
อย่างรูปขวดน้ำทรงแปดเหลี่ยม ที่มีความสูง 37 ชั้น...
อย่างอาคารBottle Building ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้
ทายาทรุ่นที่สามของธุรกิจบันเทิงของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
ที่ชื่อ Star Entertainment
กำลังเข้ารับตำแหน่ง CEO คนล่าสุด
หลังจาก ซน แทซอง คุณปู่ วัย 65 ปี ของเขาจำต้องอำลาจากตำแหน่งอย่างอาลัยเป็นที่สุด
Star Ent. ถือเป็นค่ายเพลงที่คว่ำหวอดในวงการเพลงเกาหลี
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ซน กีอุน วัย 48 ปี รูปร่างสันทัด
ลูกบุญธรรมของท่านประธานซน แทยอง
ขยับเก้าอี้ เตรียมจะลุกขึ้น แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ลุกขึ้นทรงตัวในท่ายืนตรง
ประธานซนก็เรียกให้ชายหนุ่มหน้าเข้มขรึม(ไปด้วยเครางาม)
ที่นั่งอยู่ติดกับซน กีอุนแทน
"แทยังออกมานี่สิ"
เจ้าของชื่อ แทยังในชุดสูทสีน้ำตาล
และมีลูกเล่นตรงส่วนแขนที่แซมสีกรมเท่าได้อย่างลงตัว
เขาเดินไปหาผู้เป็นปู่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ CEO
ผู้ที่เป็นเบอร์1 ของ Star Ent.
"ต่อไปนี้แทยัง หลานชายของฉัน คือตัวแทนของฉัน
แนะนำหลานชายฉันด้วยนะ
ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่แทยังตอนเรียนรู้จากพวกคุณ"
แทซองแตะบ่าของชายหนุ่มเจ้าของชื่อ... ซนแทยัง
ชายหนุ่มวัย 27 ปี ยิ้มบางๆ ให้กับผู้เป็นปู่
ก่อนจะทำความเคารพบอร์ดบริหาร
เพื่อฝากเนื้อฝากตัว
เลขาฯยุน เลขาวัยกลางคนของซน แทยอง
ประคองผู้อาวุโสของบริษัทออกไปจากห้องไปประชุมไปยังห้องรับรองที่อยู่ข้างๆ
เลขาฯ หนุ่มนึกชอบใจที่ประธานซน
ทำให้ใครคนหนึ่งไม่สมหวังในสิ่งเขาต้องการ
แต่กระนั้น ลูกชายนอกไส้ของท่านประธาน
ก็ได้นั่งตำแหน่งที่สำคัญๆ ใน Star Ent.อยู่นานหลายปี
"เจ้าเด็กฝึกงานคนนั้น...นี่"
ผู้อำนวยการปาร์คกระซิบกันกับโปรดิวเซอร์ชเว
ซึ่งเขาก็หนาวๆ ร้อนๆ เพราะเคยเรียกใช้งาน
ชายหนุ่ม(นอกเหนือหน้าที่)อยู่ไม่น้อย
"ผอ.ปาร์คครับ แล้วอย่างนี้เราสองคน เอ่อ จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย"
"ไม่หรอกน่า ไว้เราสองคนค่อยหาเหตุผลดีๆ ไปขอโทษเขาละกัน"
เพียงครู่หนึ่งแทยังก็ส่งสายตาไปมอง(อดีต)คู่กรณีทั้งสอง
และแจกรอยยิ้มพิฆาตไปอีกหนึ่งดอกเพื่อเป็นการเปิดฉากเบาๆ
... แทยัง แนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับบอร์ดบริหารอีกครั้ง
รวมถึงพูดเกี่ยวกับทิศทางการบริหารบริษัทต่อไป
ก่อนหน้านี้ 1 ปี แทยังเข้ามาเป็นเด็กฝึกงานของ Star Ent.
และหลังจากนั้น 3 เดือน เขาก็ได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยของโค-โปรดิวเซอร์อีกที
การเข้าออกบริษัทนี้จึงทำเขาสอดส่องสายตา
และเข้าถึงพนักงานและรับรู้ถึงปัญหาได้เป็นอย่างดี
จะมีก็แต่ชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัด
ที่เรียกตัวเองว่าคนในครอบครัวของแทยัง
ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจกับการมอบตำแหน่งสำคัญในวันนี้
แม้ว่าตนเองเพิ่งจะได้นั่งเก้าอี้ในตำแหน่งที่สูงขึ้น
แต่ก็ยังคงเป็นได้แค่เบอร์ 2 ของที่นีี่
ซน แทยัง จบการศึกษาระดับปริญญาโท
ด้านดนตรี ที่Newcastle University ประเทศอังกฤษ
และระดับปริญญาเอก
ด้านบริหารธุรกิจ ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์
หรือ MIT ถือเป็นคนหนุ่มไฟแรง เหมาะสมต่อการเข้ารับตำแหน่งในวันนี้
เป็นที่สุด
นอกจากแทยังที่เป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวแล้ว
เขายังมีน้องสาวฝาแฝด คือ นาอึน และนาบี
ที่เป็นกำลังสำคัญด้วย แต่ทว่าในตอนนี้สองสาวต่างก็
กำลังเคร่งเครียดกับการเรียนเสียมากกว่า..
"เห็นทีเราต้องมีตัวช่วยซะหน่อย หึหึ"
แทยังยิ้มให้กับไอเดียที่เพิ่งผุดออกมาจากสมองส่วนเซเรบรัมของตนเอง
คนที่น่าจะปกป้องลี จินจู รักครั้งแรกของเขา
ท่ามกลางเจ้าพวกหนุ่มๆ ดอกไม้หรือ flower boy นั่น
จะเป็นใครอื่นใดไปไม่ได้
นอกจากซน นาอึน มีวางอันดับหนึ่งของเขา
ซน นาอึน แฝดผู้พี่ สาวติสท์สุดเท่ ผู้มีบุคลิก
ปราดเปรียว ตัดสินใจเฉียบคม
ผู้หลงเสน่ห์ของดนตรีตั้งแต่ 2 ขวบ
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านดนตรี
ในสาขาวิชา Audio Engineering และ
ปริญาโทในสาขา Music Business
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อนจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ 2 เดือน
เพื่อหาประสบการณ์การทำดนตรีที่เจ๋งๆ
ตามแบบฉบับของสาวสุดติสท์
ซน นาบี แฝดผู้น้อง ที่ช่างเจรจา
สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเหบือคนอื่น(จนเกินเหตุ)
ลักยิ้มคู่นั้นที่ถูกแต่งแต้มบนหน้าของเธอ
ยิ่งตอกย้ำเสน่ห์ความน่ารัก ขี้อ้อนแบบฉบับ
หลานสาวคนเล็กของบ้านได้อย่างพอดิบพอดี
เธอกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท ในเทอมสุดท้าย
ในสาขาแฟชั่นดีไซน์และออกแบบสิ่งทอ
รวมถึงปริญาโทใบที่สองในสาขาบริหารงานด้านแฟชั่น
ที่Central St. Martin Of Arts and Design
หนึ่งในสถาบันแฟชั่นที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
และตอนนี้เธอก็ได้บินไปเก็บข้อมูลและหาแรงบันดาลใจ
พร้อมกับโอเว่น เพื่อนซี้แบบสุดๆ ของเธอ
ในการทำวิทยานิพนธ์ เธอเลือกที่จะเดินตามรอย
ดีไซเนอร์สัญชาติฝรั่งเศสที่เป็นไอดอลของเธอ...ปีแอร์ บาลเมน
(Pierre Balmain)
++2++
สามเดือนก่อน...
นาอึนเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นการด่วน
ในค่ำวันหนึ่ง..
บ้านหลังใหญ่ ดีไซน์หรูที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม
ยุโรปและเอเชียได้อย่างลงตัว อันเป็นบ้านของผู้มีอิทธิพล
ในวงการเพลงเกาหลีอย่าง ซน แทยอง อดีตCEO ค่าย Star Ent.
ที่เพิ่งปลดเกษียณตัวเองมาหมาดๆ
"คิดถึงคุณปู่จังคะ ขอหนูขอหอมให้หายคิดถึงทีนะคะ"
นาอึนทั้งกอดทั้งหอมคุณปู่ที่เป็นที่รักของเธอ..
จนคนแก่ตรงหน้าแทบจะช้ำไปทั้งตัว
"ปู่ก็คิดถึงนาอึนจะแย่ แล้วนี่ไอ้ตัวแสบไม่กลับมากันด้วยหรอ"
"นาบียังมีเรื่องให้ต้องจัดการที่ปารีสน่ะคะ
ท่าทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็น่าจะกลับมาเร็วๆ นี้"
"ไหนๆ วันนี้หลานสาวคนโตของปู่ก็กลับมาแล้ว
อยู่ทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันก่อนสิ"
"ค่ะ ด้วยความยินดีและเต็มใจ"
นาอึนหันเป็นไปยิ้มให้กับพี่ชายหุ่นนายแบบของเธอ
เธอประคองคุณปู่ไปที่โต๊ะอาหาร
แทยัง ยิ้มแบบมีมาด ก่อนจะรีบสาวท้าวยาวๆของเขาไป
และเลื่อนเก้าอี้ให้คุณปู่ของเขานั่ง
การสนทนาอย่างออกรสออกชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
บรรยากาศของการรับประทานอาหารในค่ำคืนนี้จึงดูคึกคักเป็นพิเศษ
...นาอึนเอาแฟ้มศิลปินหน้าใหม่ในค่าย
ที่กองเกือบท่วมหัวของเธอมานั่งดูอย่างละเอียดทีละแฟ้ม ทีละแฟ้ม
แต่ที่ทำให้เธอต้องหยุดก็คือสายตาคู่สวยคม ที่แฝงไปด้วยความเศร้า
แต่ก็มีพลังดึงดูดให้ชวนมอง
สายตาคู่นั้นของเด็กหนุ่มที่ชื่ิอว่า...คิม แทอึน
เด็กหนุ่มที่เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติคนนั้น
แทยังถือแก้วนมอุ่นๆ มาให้น้องสาวของเขาในห้องทำงานของคุณปู่
ที่บัดนี้ได้กลายเป็นห้องสมุดขนาดย่อมๆ และเป็นที่ประชุมเฉพาะกิจ
ของนาอึนและแทยัง
"ขอบคุณนะพี่"
นาอึนรับแก้วนมมาจากแทยัง เธอดื่มนมหมดในครั้งเดียว
ก่อนจะปิดแฟ้มที่เปิดค้างไว้
"ฉันดูแฟ้มพวกนี้หมดแล้ว
พี่มีอะไรก็ว่ามา"
"อยากลองทำอะไรสนุกๆ มั้ย
รับรองว่าถ้าเธอทำสำเร็จ เธอจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ"
"ฟังดูน่าสนุกนะ งั้นพูดเงื่อนไขของพี่มาสิ
ท่ามันฟังดูเข้าท่าฉันจะทำ"
"อยากปลอมตัวเป็นพนักงานในบริษัทดูมั่งมั้ย
ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการศิลปิน รึที่เรียกง่ายๆ ก็คือ..."
"Co-manager"
"อืม ใช่ แต่มันคงสนุกดี ถ้าเธออยู่กับพวกเขาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์
จนถึงตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จ คิดดูสิว่า
โอกาสแบบนี้จะมีได้ง่ายๆ หรอ ถือเป็นcase study
ที่ไม่ได้ลองทำกันได้ง่ายๆิจริงมั้ย"
แทยังเริ่มหยั่งเชิงน้องสาว
"ได้เลย ฉันรับคำท้า ฉันจะทำให้ศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังจะเดบิวต์
อย่าง Zenith โด่งดังให้ได้ และฉันก็มั่นใจว่าพวกเขาต้องคว้ารางวัล
ศิลปินหน้าใหม่แห่งปีได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้น ฉันคิดว่าพี่คงจะอนุญาต
ให้ฉันได้ทำตามฝันของตัวเองซะที"
นาอึนตอบอย่างมั่นใจ
"เธอสนใจเจ้าสี่คนนั่นเหรอ"
"โดยรวมแต่ละคนก็มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจดีนะ
งั้นฉันจะใช้ความรู้ ความสามารถที่มีทั้งหมดลองทำภารกิจนี้ก็แล้วกัน"
"เธอต้องช่วยพี่ดูแลStar Ent. ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป ตกลงมั้ย...นาอึน"
"แน่นอน เพราะ Star Ent. คือลมหายใจของพวกเรา
คุณปู่สร้างบริษัทนี้ขึ้นมาจากห้องซ้อมดนตรีเล็กๆ
จนกลายเป็นอุตสาหกรรมดนตรีที่มีขื่อเสียงได้ขนาดนี้
ฉันปล่อยให้มันพังไม่ได้หรอก"
แทยังพอใจกับคำตอบของน้องสาว ก่อนจะลูบศีรษะเธอด้วยความเอ็นดู
พลอยทำให้นึกถึงน้องสาวอีกคนที่อยู่กันคนละซีกโลก
ป่านนี้ยัยจอมป่วนนาบีกำลังทำอะไรอยู่นะ
อีกซีกโลกหนึ่ง ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เด็กสาวที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับนาอึน
เจ้าของชื่อ ซน นาบีกำลังจดปรายพู่กันลงบนผืนผ้าใบ
อย่างอารมณ์ดีในบริเวณสวนของบ้านพักสุดโมเดิร์น
ตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปในยุคเรเนสซองส์
หลังจากที่เธอไปหาแรงบันดาลใจ
ในการสร้างผลงานที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (The Louvre)
อยู่หลายครั้ง สถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียง เก่าแก่
และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตถูกใช้เป็นพระราชวังหลวงมาก่อน
แต่ในปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปะที่มีคุณค่าระดับโลกมากมาย
เช่น ภาพเขียนโมนาลิซ่า ผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินซี
ภาพหญิงสาวในชุดเดรสสั้นเสมอเข่าสีเขียวสด
ที่โดดเด่นสะดุดตาก็คงหนีไม่พ้น ผีเสื้อตัวโตลวดลายวิจิตรงดงาม
ที่เกาะอยู่บนเนินอกของหญิงสาว
"ถ้าเราปักเจ้าผีเสื้อตัวนี้เสร็จเมื่อไหร่
ชุดนี้จะต้องเริ่ดแน่ๆ เลย ชักอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จัง"
...
3 month later,
ในช่วงประมาณ 10 โมง ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศฝรั่งเศส
โทรศัพท์สายด่วนก็ต่อตรงถึงนาบี ที่ห่างจากเวลาที่ประเทศเกาหลีถึง 7 ชั่วโมง
นาบีฝากถุงผ้าหลายถุงรวมถึงสารพัดของตกแต่งให้โอเว่น
เพื่อนชายสุดซี้สัญชาติฝรั่งเศสและเจ้าของบ้านพักสุดหรูช่วยถือให้
ก่อนจะเอามือล้วงไปหยิบสมาร์ทโฟนที่มีโลโก้เป็นผลไม้ยอดฮิตทั่วโลกขึ้นมารับสาย
" ฉันเอง.. นาอึน ว่างคุยมั้ยนาบี"
"ได้ๆ คุยได้ ว่าไงหรอ รึว่าคุณปู่ไม่สบาย"
นาบีร้อนใจ
"เปล่า คุณปู่สบายดี
ฉันอยากให้เธอกลับมาช่วยฉันดูแล Zenith
ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ด่วน"
"อะไรนะ? ช่วยพูดอีกทีสิ"
ซน นาบีถามแฝดผู้พี่ด้วยความแปลกใจสุดๆ แต่ก็แอบดีใจมากด้วยเช่นกัน
ที่จะได้ใกล้ชิดศิลปินที่รักยิ่งของเธอ...
เธอตีโอเว่นไปหลายครั้งด้วยความตื่นเต้น และดีใจ
"เธอได้ยินชัดพอแล้วล่ะนาบี เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง"
นาบีกำหัวแกร๊กๆ และพอจะนึกหน้านาอึนในตอนนี้ออก
แต่เธอก็แสนจะชินกับท่าทางดิบห่ามของพี่สาวคนนี้แล้ว
ความจริงเธอน่าจะเกิดเป็นฝาแฝดคู่กะพี่แทยัง คงจะเข้าท่ากว่านี้
เมื่อรวบรวมตรรกะในสมองได้ครบถ้วน นาบีก็รีบกรอกเสียงหวานๆ
ไปตามสายตาโทรศัพท์ทางไกลทันที
"นี่เธอพูดจริงๆ หรอนาอึน เธอจะให้ฉันไปช่วยงานเธอที่ Star Ent.จริงๆ หรอ"
"ตามนั้นแหละ แค่เดือนเดียวหรืออาจจะมากกว่านั้น เอ่อที่จริงก็จนกว่าพี่จินจูจะเดินได้เป็นปกติ
ตอนนี้เธอก็เหลือแค่หาข้อมูลและแรงบันดาลใจในการทำthesis ไม่ใช่หรอ"
ซน นาอึนพูดถึงลี จินจู ผู้จัดการส่วนตัวของหนุ่มๆ วง Zenith ที่ดันประสบอุบัติเหตุ
จนทำให้ต้องพักรักษาตัวอยู่แบบไม่มีกำหนด
"ตกลง ฉันจะบินกลับเกาหลีให้เร็วที่สุด แต่เธอพูดแล้วห้ามคืนคำนะ"
"อื้ม เธอเห็นฉันเคยพูดเล่นรึไงนาบี รีบกลับมาล่ะ คุณปู่บ่นคิดถึงทุกวันเลย"
"รอรับฉันที่สนามบินได้เลย แค่นี้นะนาอึน ฉันขอไปจัดกระเป๋่าก่อน"
"แล้วเจอกันนะนาบี"
ความจริงแล้ว แม้นาบีมาเรียนไกลถึงปารีส
แต่เธอกลับชื่นชอบศิลปินวง Zenith
ศิลปินสัญชาติเกาหลี ภายใต้สังกัด Star Ent. (ธุรกิจของครอบครัว)
ถึงขั้นคลั่งไคล้ทีเดียว ผลงานต่างๆ รวมถึงของที่ระลึกLimited Edition
ถูกขอร้องปนบังคับให้ส่งมาตรงจากเกาหลี ในทันทีื
จนต้องเดือดร้อนถึงCEOคนล่าสุดของStar Ent.
แต่คนที่คลั่งไคล้เป็นที่สุด...คือ คิม แทอึน ชายหนุ่มผู้มีดวงตาที่สวยคม
ประดุจนักล่าในหนังแนวแฟนตาซีจำพวกหมาป่ารึแวมไพร์อะไรพวกนั้น
ตามที่เธอชอบอ่านเป็นงานอดิเรก
++3++
...4 หนุ่ม 4 สไตล์ ในนาม Zenith (ซี นิธ) ภายใต้สังกัด Star Ent.
สังกัดเดียวกันกับ The Occupier (ดิ อ๊อกคิวเพีย) 3 หนุ่มสุดร๊อกผู้โด่งดังไปทั่วโลก
4 หนุ่มบอยแบนด์หน้าใส หลากสไตล์ และมากความสามารถ
เพราะพวกเขาคือสุดยอดเด็กหนุ่ม ต่างที่มา ที่เหมาะสมกับชื่อ Zenith เป็นที่สุด
พวกเขาโด่งดังจากเพลง 'Say Hi!' โดยเพลงส่วนใหญ่ของพวกเขา
เป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นไอความเป็นตะวันออก
และตะวันตกได้อย่างลงตัว
พวกเขาเป็นนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังเป็นที่จับตามอง
ของวงการเพลงเกาหลีในขณะนี้
พวกเขาเริ่มเดบิวต์ตั่งแต่ต้นปี 2012
ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่..
ชเว ดาบิน leaderหน้าหวาน พี่ใหญ่ของวง ผู้มีส่วนสูง 179 เซนติเมตร
และมีหุ่นล่ำกำยำราวกับนักกีฬาอีกทั้งยังรั้งตำแหน่ง vocalist เสียงใส
และกุมหัวใจสาวๆ เอาไว้ซะอยู่หมัด นอกจากนี้เขายังมีสัมผัสประหลาด
ที่มีคลื่นความถี่ในการสแกนชายรักชายได้เป็นอย่างดี
ไม่แปลกที่เขาจะเป็นขวัญใจชาวสีม่วง
ฮัน จุนกอล main vocal สุดหล่อ ผู้มีรอยยิ้มและสายตาสุดหวานซึ้ง(พิฆาตใจสาว)
ส่วนสูง 182 เซนติเมตร เป็นพี่ใหญ่ในวงรองจากดาบิน
ผมสีบลอนด์ทองนั่นก็ช่วยให้เขาโดดเด่นไม่แพ้ใคร
และเขาก็ยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของฮัน ซึงจุน อดีตเมมเบอร์ของบอยแบรนด์ชื่อดัง
อย่างวง 2U (ทูยู) ที่เป็นบอยแบรนด์ระดับตำนานของค่าย
Star Ent. และวงการเพลงเกาหลี ที่ตอนนี้ได้ผันตัวเองมาเป็น
พิธีกร นักแสดง และคอมเมนต์เตอเตอร์ชื่อดัง
คิม แทอึน แรปเปอร์สุดเท่ ผู้มีสายตาประดุจเหยี่ยว ผู้มีพรสวรรค์ในการแต่งเพลง
แถมยังมีดีกรีเป็นถึงนักกีฬายิงธนูทีมชาติอีกด้วย ส่วนสูง 180 เซนติเมตร
ฉายา เจ้าชายแวมไพน์แห่งเกาหลี ก็ดูจะเหมาะกับเขามากๆ
คนสุดท้าย ลี จุนฮา มักเน่ยักษ์ของวง ที่สูงถึง 184 เซนติเมตร
นอกจากจะมีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยม ยังเป็นคู่หูคู่แรพที่ลงตัวของแทอึนได้เป็นอย่างดี
นี่คือเด็กหนุ่มสี่คนที่นาอึนหมายมั่นปั้นมือไว้แต่แรก
การเข้าไปคลุกคลีกับพวกเขาก็เป็นอะไรที่ไม่ยากเกินความสามารถของเธอ
และตอนนี้แผนการทั้งหมดก็ดูเหมือนจะก้าวข้ามผ่านไปทีละสเต็ปอย่างสวยงาม
...หลังจากอัดวิดีโอคลิปเนื่องในโอกาสที่Zenith เดบิวต์จนเดินทางมาถึงวันที่ 100
ที่จะครบกำหนดจริงๆ ในอีก 2 วันข้างหน้านี้ จบลง
นาอึนก็เรียกสี่หนุ่มมาคุยสรุปงาน และบอกตารางงานคร่าวๆ ในวันรุ่งขึ้น
"ถึงพวกนายจะเบื่อหน้าฉัน แต่ก็ช่วยอดทนกันหน่อย
อ้อ ลำพังฉันคนเดียวอาจจะดูแลพวกนายได้ไม่ดีพอ
เพราะงั้นมะรืนนี้ฉันจะพาน้องสาว มาช่วยดูแลพวกนายอีกที
ช่วยทำตัวดีๆ กับเธอด้วยล่ะ วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว
พวกนายไปพักเถอะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้"
นาอึนพูดๆ ไป ขณะที่ในมือก็จดยุกยิกๆ บน
สมุดเล่มขนาดพอดีมือ
เจ้าของสายตาคู่คมและใบหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก
ของเขาได้... แทอึนจ้องหน้านาอึนอยู่นาน
ก่อนจะหันไปหาจุนกอล เมมเบอร์ที่สนิทที่สุด
"ถ้าไม่ติดว่านาอึนดุไปหน่อย ความจริงฉันว่าเธอก็สวยดีเหมือนกันนะ
นายว่ามั้ย..แทอึน"
จุนกอลถามตามพะสาหนุ่มฝีปากกล้า
"นายนี่ก็ถามอะไรไร้สาระจริงๆ วันนี้เหนื่อยจนเพี้ยนรึไง"
"ก็แค่อยากรู้ความคิดเห็นของนายเฉยๆ
ว่าผู้หญิงแบบไหนที่นายสนใจ
ทำไมต้องทำท่าอารมณ์เสียด้วยฮะ
แอะๆ รึนายสนใจเธอ"
"บ้าน่า"
แทอึนกระทุ้งศอกใส่จุนกอลก่อนเดินออกจากห้องซ้อมเต้นไป
จุนกอลยิ้มขำๆ กับท่าทางของแทอึน ก่อนจะเดินตามออกไปอีกคน...
สำหรับแทอึนแล้ว...เขานึกชอบในความพูดตรง ตัดสินใจเฉียบขาด และจริงใจ
ของนาอึน อีกทั้งรูปลักษณ์ที่ดูเป็นผู้หญิงที่สามารถดูแลตัวเอง
ได้เป็นย่างดี ผมตัดซอยสั้นที่ถูกจัดแต่งทรงเป็นอย่างดี
เผยให้เห็นดวงหน้าเรียวเก๋ราวกับตุ๊กตา
หูทั้งสองข้างก็มีต่างหูสุดเท่ใส่อยู่
เพิ่มลูกเล่นด้วการกรีดอายไลเนอร์ที่ขอบตา
ปัดบรัชออนบางๆ และทาลิปกลอสสีนู้ด
เสื้อยืดสีขาวลายกราฟฟิกสวมทับกับแจ๊คเก็ตหนังสีน้ำตาลตัวโปรด
กางเกงยีนส์เดนิมสีซีด และมีรอยขาดเป็นทาง
รองเท้าบู๊ทสีน้ำตาลคู่เก่ง...นั่นคือการแต่งตัว
ที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าหล่อน
มือคู่สวยถูกทาด้วยยาทาเล็บสีดำของแบรนด์NARS
มีกำไลหนังสีดำสวมอยู่
ที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นรอยสักรูปดาว
ที่อยู่บนท้ายทอยของเธอ...
ระหว่างนั้นจุนฮาก็ซักประวัติน้องสาวของนาอึนเป็นการใหญ่
แต่มีหรือที่นาอึนจะบอก...
"เดี๋ยวนายก็รู้จักและเห็นเธอเองนั่นแหละ
ฉันบอกไปก็หมดสนุกสิ"
นาอึนแกล้งยั่ว มักเน่ยักษ์อย่างสบายใจ
ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างโล่งอก ที่เคลียร์ตารางงาน
ของสี่หนุ่มให้ผ่านพ้นไปได้ในแต่ละวัน
เธอเข้าใจพี่จินจูมากขึ้นเป็นสิบเท่า.. และอยากจะให้พี่ชายของเธอขึ้นเงินเดือน
ให้ผู้จัดการสาวคนสวยอีกสัก5เท่า
"นูน่าใจร้ายจัง ผมงอนแล้วด้วย
กลับดีกว่า"
จุนฮาจึงเป็นคนต่อไปที่เก็บกระเป๋าออกจากห้องไป
ท่าทางงุ้งงิ้งๆ ของเขาช่างไม่เหมาะกับเด็กอายุ 15 ปี
ที่สูงถึง 184 เซนติเมตรจริงๆ
"ไงคุณลีดเดอร์ นายจะนอนที่นี่หรอ ไม่ออกไปสักที
รึมีอะไรจะคุณกับฉัน"
"นาบี จะมาช่วยเธอดูแลพวกเราจริงๆ หรอ"
"อืม ใช่ นายคิดถึงเพื่อนซี้ตัวแสยสมัยเรียนใช่มั้ยล่ะ
ถ้านาบีรู้คงดีใจแย่ แต่ไม่ต้องห่วงนายกับนาบี
ยังไงก็ได้เจอกัน"
ดาบิน เหมือนจะกลืนคำพูดลงคอจนหมด..
"ว่าไง มีอะไรจะพูดกะฉันรึเปล่า"
"เปล่า ไม่มี เอ่อ ขอบใจนะที่ดูแลพวกเรา
เป็นอย่างดี ระหว่างที่พี่จินจูไม่อยู่เธอคงเหนื่อยแย่"
"อื้ม กลับกันเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว"
"อือ เธอเองก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยล่ะ"
เมื่อดาบินออกไปแล้ว นาอึนจึงโทรศัพท์ไปหาท่านประธานบริษัท
เป็นการด่วน
"เดี๋ยวฉันไปหาที่ห้องทำงานนะคะ
เพิ่งเสร็จธุระค่ะ โอเคค่ะพี่
แล้วเจอกันค่ะ"
...เครื่องบินจากฝรั่งเศสลงจอดที่สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
ในช่วงประมาณทุ่มสามเศษๆ ตามเวลาท้องถิ่น
ซน นาบี ก้าวฉับๆ ราวกับกำลังเดินอยู่บทแคทวอร์ก
แสงไฟในสนามบิน คล้ายกับสปอร์ตไลท์ที่สาดส่องมาที่ตัวเธอ
ด้วยความสูง 172 เซนติเมตร ทำให้เธอดูโดดเด่นไม่เบา
นาบีขยับแว่นตาดีไซน์เก๋แบรนด์Gucciเล็กน้อย
ก่อนจะพบว่ามีคนมาคอยรับเธออยู่แล้ว
"พี่แทยัง นาอึน"
เธอโบกมือให้กับพี่ๆ ก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งไปหา
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะยัยตัวยุ่ง"
แทยังยื่นช้อดอกลิลลี่สีขาวช่อโตส่งให้นาบี
"สวยจังคะ ขอบคุณนะคะพี่แทยัง"
"รีบกลับเถอะค่ะ ป่านนี้คุณปู่หิ้วท้องรอพวกเราจะแย่ล่ะ
นี่มีกระเป๋าแค่นี้ใช่ไหม"
นาอึนพูด
"มีสองใบนี่แหละ ใบแรกเป็นเสื้อผ้า อีกใบเป็นของฝากให้ทุกคนแหนะ
ส่วนของใช้ที่เหลือ เดี๋ยวโอเว่นให้บริษัทที่บ้านส่งมาให้"
"ไปกันสาวๆ เดี๋ยวกระเป๋านี่ พี่จัดการเอง"
แทยังด้นร่างสองสาวฝาแฝดให้เดินนำเขาออกไป
ส่วนตัวเองก็เข็นรถเข็นกระเป๋าไปให้จนถึงที่รถ Range Rover คันโตที่จอดอยู่
++5++
"คุณปู่ค๊าาาาาา"
นาบีกรอกเสียงใสๆ ไปทักทายคุณปู่ของเธอ...
ทันทีมาถึงก็พบว่าผู้อาวุโสของบ้านยืนรออยู่ที่ห้องรับแขก
นาบีแทบจะกระโจนใส่คุณปู่ของเธอ
"นาบีของปู่"
ซน แทยองกอดหลานสาวคนโปรดแน่น
นาบีก็กอดรัดไม่แพ้กัน หอมซ้ายที ขวาที จนผู้อาวุโสของบ้าน
แทบหายใจไม่ออก
...หลังร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษกันเสร็จ
นาบีก็เอาใจคุณปู่และพี่ๆ ของเธอ ด้วยการนำของฝากจากฝรั่งเศสมาให้
"เสื้อโค้ทตัวนี้เหมาะกับคุณปู่ม๊ากมากค่ะ สีก็สวยด้วย อ้อ ผ้าพันคอผืนนี้
นาบีกับเพื่อนลองฝึกทำกันดูน่ะค่ะ ไม่คิดว่าพอทำออกมาก็ดูดีเอามากๆ
ขนาดนี่แค่ลองทำครั้งแรกนะคะ สวยมั้ยคะ"
แทยังกับนาอึนสบตากันอย่างเข้าใจ
แล้วหันไปยิ้มให้กับท่าทางเอาอกเอาใจของนาบี
และรอยยิ้มมีความสุขของคุณปู่
ก่อนที่พ่อบ้านคิมจะมาพาคุณปู่ไปเข้านอน
ทีนี้สามพี่น้องก็ได้เปลี่ยนอิริยาบถมาอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของบ้าน
"อะไรกันมาถึงก็ชวนเที่ยวแล้วหรอ ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยรึไงเรา
ฉัน ไม่เอาด้วยหรอก พรุ่งนี้ฉันมีคิวพาหนุ่มๆ Zenith ไปอัดรายการที่
ช่อง UBN เธอไปกับท่านประธาน เอ่อ พี่แทยังเถอะ"
"โห นาอึนใจร้ายจัง ไปด้วยกันเถอะนะ นะ นะ นะ"
"เสียใจ ไว้คราวหน้าละกัน วันนี้ฉันเหนื่อยมาก
บ๊าย บาย"
นาอึนรีบอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหนีขึ้นห้องไป
และคนที่ตกที่นั่งลำบากก็คือแทยัง
"นาบี เห็นใจพี่เถอะนะ พี่เองก็เพิ่งได้รับตำแหน่งได้ไม่นาน
แถมวันนี้ก็มีงานให้ต้องสะสางตั้งแต่เช้าไว้วันหลังเถอะนะ"
แทยังหาทางบ่ายเบี่ยง
"นี่ใจคอจะทิ้งกันจริงๆ ใช่ไหม"
คิ้วของนาบีคล้ายๆ จะเริ่มผูกกันเป็นโบ
จมูกเป็นสันเชิดรั้น
เป็นอาการเริ่มต้น.. เมื่อถูกใครขัดใจหรือมีใครทำอะไรให้ไม่พอใจ
"ก็ได้ๆ ฉันไปคนเดียวก็ได้ เชอะ"
นาบีรีบเดินหายเข้าห้องไป ก่อนจะกลับออกมา
ด้วยชุดสีแดงสดใส...
แทยังได้แต่เหนื่อยใจกับนาบี
"แล้วแบบนี้จะรอดมั้ยเนี่ย รึยัยนาบี
จะทำให้นาอึนเหนื่อยกว่าเดิม"
แทยังได้แต่ถอนใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
และยังกำชับยัยตัวแสบ ขี้เอาแต่ใจ
ให้ขับรถอย่างระวัง
บรื๋นนนนนนนนนน
++6++
ชุดเดรสไหมพรมสีแดงสด ยาวกรอมเข่า
และมีลูกเล่นโดยการปักคริสตัลสีสันสวยงาม
สีแดงสดที่ขับกับผิวสีขาวน้ำนมของนาบี
อีกทั้งรองเท้าส้นสูงสีทองที่มีลูกเล่นตรงเชือกพันรัดทั้งข้อเท้าบวกกับความสูงราว5 นิ้ว
ทำให้เธอดูโดดเด่นเข้าไปอีก
แข่งกับแสงไฟที่สาดส่องบนท้องถนนในยามค่ำคืน
สถานที่ที่นาบีไปไม่ใช่ไนท์คลับแต่อย่างใด
แต่เป็นร้านอาหารข้างทางที่เธอแสนคิดถึง
นาบีเพลิดเพลินกับการกินอยู่นาน
ก่อนจะมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้คือเวลา
เกือบห้าทุ่ม...เธอรีบออกจากร้านไป
และกำลังเดินกลับไปที่รถบีเอ็ม ดับเบิ้ลยูสีขาวป้ายแดงที่จอดอยู่
อยู่ๆ หิมะแรกของปีก็ตกลงมาอย่างช้าๆ
นาบีหยุดเดิน แล้วหันไปให้ความสนใจ
กับหิมะที่ตกลงมา
"พวกเธอคงมาแสดงความยินดีที่ฉันกลับบ้านใช่ไหม
ขอบใจนะ"
นาบีพูดและยิ้มคนเดียว เมื่อทึกทักเอาเองตามความคิดของเธอ
มือบางเอื้อมไปรับหิมะแรกของปี...อย่างเพลิดเพลิน
ชายหนุ่มร่างสูง นัยน์ตาสวย ประดุจกวางหนุ่ม
หยุดยืนมองหญิงสาวหน้าตาคุ้น ที่อยู่เบื้องหน้า
เขามองเธอ ผู้หญิงที่เขาเห็นหน้าอยู่ทุกวัน
แต่ตอนนี้มันช่างแตกต่าง หน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ของเธอ
บัดนี้มีรอยยิ้มเปื้อนหน้าเต็มไปหมด และเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า
เธอมีลักยิ้มด้วย จุนกอลเห็นผีเสื้อหลายสิบตัวบินอยู่รอบๆ
ตัวเธอ มันเป็นภาพที่สวยงามมากในค่ําคืนนี้
"ผะ ผะ ผีเสื้อหรอเนี่ย ในเวลาแบบนี้นี่นะ"
จุนกอลอุทานเบาๆ ก่อนยิ้มขำ
แต่ทว่าเขาคงจ้องเธอนานไปหน่อย หญิงสาวจึงรีบหุบยิ้มทันที
จุนกอลเดินไปหาหญิงสาวอย่างคุ้นเคย
"วันหลังจะมาเที่ยวกะบอกกันบ้าง ฉันจะได้มาเป็นเพื่อน
แต่เธอแต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ"
นาบีไม่สนใจจึงเดินผ่านชายหนุ่มไป
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า นายคนนี้ก็หน้าคล้ายกันกับ
ฮัน จุนกอล แห่งวง Zenith เหมือนกันนะ
แต่นาอึนคงไม่ปล่อยให้ศิลปินในความดูแล
มาเดินเพ่นพ่านในตอนนี้หรอก
แต่ดูเหมือนนาบีจะไม่ทันสังเกตเห็นว่า
ชายกระโปรงของเธอเกี่ยวเข้าให้กับ
โซ่คล้องกระเป๋าเงินของชายหนุ่ม
ในช่วงจังหวะที่เดินสวนกันในระยะประชิด
จนกระโปรงของเธอหดสั้นลงอย่างรวดเร็ว
เหลือความยาวเพียงคืบเดียวเท่านั้น
"อร้ายยยยยยยยย"
นาบีกรีดร้องเสียงดัง จนจุนกอลต้องหันกลับมาโดยเร็ว
เพราะเขาเองก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง
เกี่ยวรั้งเขาไว้...
หญิงสาวแลดูจะเริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็เอากระเป๋าถือใบโตมาบังเรียวขานั่นไว้
จุนกอลเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
เขารีบแกะเส้นด้ายสีแดงออกจากโซ่คล้องทันที
"ฉันขอโทษนาอึน ขอโทษจริงๆ "
นาบีซัดหมัดน้อยๆ เข้าที่ท้องของชายหนุ่ม
และเอากระเป๋าถือฟาดตามตัวของเขา
"ไอ้โรคจิต เชอะ"
เขาร้องโอดโอย แล้วเอามือมาปัดป้อง
ก่อนที่นาบีจะกระทุ้งที่เท้าของจุนกอลเต็มเหนี่ยว
เพื่อสั่งลา แล้วรีบวิ่งขึ้นรถและขับหายไปในความมืด
อย่างรวดเร็ว
จุนกอลได้แต่งงงวยกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
"นี่มันวันซวยอะไรของเราวะเนี่ย
ดีนะที่ไม่โดนตบแถมด้วยเนี่ย"
++7++
วันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 100 วัน ที่หนุ่มๆ วง Zenith เดบิวต์
พวกเขาปล่อยคลิปวิดีโอที่ได้อัดกันไปเมื่อวันก่อนสู่social network
ช่อง The Star Family
โดยในวันนี้ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของหนุ่มๆ
ก็ได้ถือกำเนิดในชื่อ 'Zippie' ที่เกิดจากการเล่นคำ
ในภาษาอังกฤษของคำว่า Zippy ที่มีความหมายว่า เป็นกำลังใจ
ดังนั้นครอบครัวของZenith จึงเป็นอันสมบูรณ์ เพราะมีกำลังใจ
และความรักจากบรรดาแฟนคลับทั่วทุกมุมโลก
...การปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของนาบีทำให้หนุ่มๆ Zenith
ดูผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยที่นาบีเป็นคนช่างพูด ผิดจากแฝดผู้พี่ที่เงียบขรึม
แต่ดูมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน
และที่สะดุดตาก็คงจะเป็นชุดที่เธอสวมใส่อยู่
เสื้อลูกไม้แขนยาวสีดำกับกระโปรงสีชมพูแป๋น
และรองเท้าส้นสูง 5 นิ้วสีเดียวกับกระโปรงของเธอ
ชุดที่นาบีบอกว่าธรรมดาที่สุดแล้ว
เรื่องหน้า ผม ก็เป๊ะอย่างกะหลุดมาจากนิตยสารแฟชั่นจากต่างประเทศ
รอยยิ้มที่ยิ้มจนตาหยิบหยีกับลักยิ้มคู่สวยก็เหมาะกับเธออย่างยิ่ง
และเธอมีที่ท่าสนใจคิม แทอึนเป็นพิเศษ
จุนฮาดูเหมือนจะถูกใจ ที่ได้เพื่อน(เล่น)คนใหม่
ทั้งที่อายุในความเป็นจริงออกจะห่างกันมากโข
ในขณะที่แทอึนมองนาอึนสลับกับนาบีไปมา...ฝาแฝดคู่นี้
ช่างเป็นแฝดเหมือน ที่ไม่เหมือนกันเอามากๆ
ถ้ามองจากท่าทางการวางตัว บุคลิก การแต่งตัว การพูดการจา
เท่านี้ก็สามารถแยกได้อย่างง่ายดายว่าใครเป็นใคร
ส่วนจุนกอลที่ตามมาสมทบทีหลังก็ถึงกับปากค้าง
เขาจำแม่สาวชุดแดงที่เจอกันเมื่อวันก่อนได้อย่างแม่นยำ...
จากตอนแรกที่คิดว่าเธอเป็นนาอึน ที่ตนรู้จัก
และไม่แปลกที่นาบีจะจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
แต่ที่น่าแปลกก็คือ...ทันทีที่ดาบิน ลีดเดอร์หน้าหวานได้เจอกับนาบี
เขาก็ดูจะลนลานไม่น้อย เพราะอะไรน่ะหรอ
ซน นาบี..คือผู้กุมความลับที่น่าอับอายของเขาเมื่อสมัยเด็กนั่นเอง
เมื่ออยู่กันตามลำพัง...
"หวัดดีดาบิน โตขึ้นนายเองก็หล่อไม่เบานะเนี่ย
โอ้ ว้าว ดูไม่เหมือนกับ..."
นาบีพูดค้างไว้...และยิ้มเจ้าเล่ห์
เธอเข้าไปกอดคอดาบินอย่างสนิทสนม
ดาบินรีบเอามือของนาบีออกแบบด่วนจี๋
ก่อนจะลากนาบีไปยังสวนหย่อมริมระเบียง
ที่ถูกตกแต่งอย่างลงตัว
"นาบี ฉันมีเรื่องจะขอร้องเธอ..."
"ว่ามาสิ"
"คืิอเรื่องเมื่อตอนเด็กๆ น่ะ เธอช่วยลืมๆ มันไปได้ไหม"
"อื้มๆ นึกว่าเรื่ิองอะไร ที่แท้ก็..."
"ฉันขอร้อง ซน นาบี"
ชเว ดาบินร้องเสียงหลง
"งั้นนายก็ต้องช่วยฉันกะพี่นาอึนด่วยล่ะ
ทำให้พวกเมมเบอร์คนอื่นๆของนายน่ารักๆ หน่อย
โดยเฉพาะคนที่ชื่อฮัน จุนกอลอะไรนั่น
ในระหว่างที่พี่จินจูไม่อยู่ ฉันสัญญาว่าความลับ
ของนายจะเป็นความลับต่อไป"
"ตกลง"
ทั้งนาบีและดาบินต่างก็ยื่นมือออกมาเพื่อเกี่ยวก้อยสัญญา
และดูเหมือนว่าจะมีสายตาคู่หนึ่งที่มองดูคนทั้งคู่อยู่ที่มุมไกลๆ
"ขนาดเจ้าดาบินที่อยู่กันมาตั้งนาน
ยังดูไม่สนิทสนมกับนาอึนเท่านี้มาก่อน
แต่กลับสนิทกับยัยผีเสื้อจอมวีนขนาดนี้...มันยังไงกันนะ"
ชายหนุ่มได้แต่นึกสงสัย
จุนฮาอาสาเป็นไกด์ทัวร์ให้นาบีชมห้องทำงานของเขา
แต่ก็ต้องยอมรับว่านาบีทำการบ้านมาอย่างดี
เพราะเธอสามารถจดจำรายละเอียดของงาน
และห้องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี..ก็แน่ล่ะสิ เพราะเธอเป็น...
"นี่ๆ จุนฮา ถ้านายว่างนะ พี่สาวขอยืมตัวเธอเป็นนายแบบ
หน่อยสิ ชักคันไม้คันมือ อยากลองทำชุดที่เริ่ด สุดบรรเจิดให้
นายได้ใส่น่ะ สนใจมั้ย รับรองว่านายต้องชอบ"
"จริงหรอนูน่า น่าสนใจดีนะ"
ท่าทางสนิทสนมของนาบีกับใครต่อใครรอบๆ ตัว
ของจุนกอล ทำให้เขาอดหมั่นไส้หญิงสาวไม่ได้
จนแทอึนต้องปรามเขาให้เก็บอาการไว้บ้าง
เพราะกลัวผู้ช่วยผู้จัดการ(ชั่วคราว)คนดี..ต้องเหนื่อยใจแทน
"นี่ฉันคิดถูกรึคิดผิดนะ ที่เรียกยัยนี่กลับมา
โทษทีนะถ้าทำให้ใครต้องอึดอัดเพราะน้องสาวของฉัน"
นาอึนรีบออกตัว อย่างคนที่ประเมินสถานการณ์มาอย่างดี
"บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ เธอเองก็ไม่ต้องคิดมากหรอก
นาบีก็น่ารักดีนิ่"
ทั้งนาอึนกับจุนกอลต่างก็ตกใจไม่น้อยกับคำพูดแปลกๆ ของแทอึน
ส่วนดาบินก็ได้แต่ยิ้มๆ โดยส่วนตัวเขาแอบหวังว่า ซน นาบี
ในวัย 23 ปี จะโตเป็นผู้ใหญ่ จะไม่คิดทำอะไรแผลงๆ อีก
...ห้องสุดท้ายที่หนุ่มๆ Zenith กับองครักษ์พิทักษ์ทั้งสอง
มาก็คือห้องซ้อมเต้น โดยเทรนเนอร์หนุ่มร่างบึ๊ก
กำลังออกแบบท่าเต้นให้กับซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขาอยู่
หลังจากที่ได้ดูหนุ่มๆ ซ้อมร้องซ้อมเต้นครบทีม
นาบีก็ออกอาการปลื้มสุดๆ
จนเวลาล่วงเลยไปนาน เมมเบอร์แต่ละคนต่างแยกย้ายไปพัก
หรือไม่ก็ยังคงแยกกันซ้อมอยู่คนละมุมห้อง
เพื่อให้ทุกการแสดงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
นาบีแย่งขวดน้ำและผ้าขนหนูมาจากนาอึน
เธอเอาไปให้เมมเบอร์แต่ละคนอย่างกระตือรือร้น
"อ้าว แล้วของฉันล่ะ"
จุนกอลถามหาน้ำและผ้าขนหนูของตัวเองบ้าง
"เสียใจไม่มีของนายหรอก คนไร้มายาท"
นาบีจ้องหน้าเขานิ่ง ริมฝีปากอวบเม้มเข้าหากันทันที
สายตาของเธอมองเขาอย่างไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
"เรื่องวันนั้น ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นอุบัติเหตุ"
"ก็ได้ในเมื่อนายขอโทษ ฉันเองก็จะลืมๆ มันไป
ในเมื่อเราคงต้องเจอหน้ากันทุกวัน...อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
"อื้ม"
จุนกอลตอบ เขายิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
...หนุ่มๆ Zenith เริ่มซ้อมกันอีกครั้ง
หลังจากพักเบรกมาประมาณครึ่งชั่วโมง
นาบีกำลังดูการซ้อมอย่างเพลิดเพลิน
ในขณะที่นาอึนกำลังคุยกับโปรดิวเซอร์
และทีมงานอีกหลายคนอยู่ข้างนอกห้องซ้อม
อยู่ๆ จุนกอลก็เดินมาหยุดยืนข้างๆ นาบี
"เจ้านั่นน่ะ มันไม่มีทางสนใจเธอหรอกน้องหนู
ต่อให้เธอมองมันจนตาหวานหยดย้อยขนาดไหน"
คำพูดจิกกัดของฮัน จุนกอล ทำให้นาบีเริ่มหงุดหงิด
เธอละสายตาจากคิม แทอึน ที่กำลังซ้อมเต้นอย่างหนักหน่วง
ก่อนที่จะหันมาเผชิญกับชายหนุ่ม
ดวงหน้าสวยๆ บูดบึ้งไปเล็กน้อย จมูกเชิดรั้นขึ้น
แต่ก็ทำให้เธอดูน่ารักไปอีกแบบ
"ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ฉันคงช่วยพี่สาวทำงานที่นี่ได้ไม่นานหรอก
เพราะงั้นเราควรจะทำดีต่อกันไว้นะคุณนักร้อง แต่ถึงนายจะพูดยังไง
ฉันก็ไม่มีทางละสายตาจากแทอึนได้หรอก ขอโทษที่ทำให้นายรำคาญใจ
แต่ฉันไม่มีทางเป็นแฟนคลับของนายกรอก แบร่"
นาบีพูด ก่อนจะแลบลิ้นให้จุนกอล แล้วเดินจากไปทันที
สาวร่างบางแกล้งเดินชนคนตัวโตที่ยืนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
และไปนั่งรวมกับจุนฮาและดาบินที่เพิ่งเลิกซ้อมไป
จุนกอลนึกหมั้นเขี้ยวเธอขึ้นมาทันที
หรืออาจจะเริ่มสนใจเธออยู่โดยไม่รู้ตัว
"ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ล่ะก็ จะจับตีก้นซะให้เข็ด
แก่นเซี้ยวนักใช่ไหม ซน นาบี ยัยผีเสื้อขี้วีน"
นาอึนแอบเข้ามาในห้องซ้อมดนตรีข้างๆ
มือสองวางลงคีย์บอร์ดเปียโน เมโลดี้สั้นๆ
ถูกบรรเลงขึ้น เธอหยิบกระดาษบรรทัดห้าเส้น
มาเขียนโน๊สเพลง พร้อมกับเนื้อร้องที่แต่งสดๆ
ตามFeeling ในตอนนั้น ก่อนจะพับมันเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อหนัง
เธอเผลอร้องเพลงโปรดออกมาอย่างเพลิดเพลิน
ท่อนHook ของเพลง As long as you love me
ของหนุ่มๆ ในตำนานอย่าง Backstreetboys
I don't care who you're
Where your from
what you did
As long as you love me
Who you're
Where your from
Don't care what you did
As long as you love me, baby
นาอึนเผยให้เห็นรอยยิ้มสดใส
และพลอยทำให้ชายหนุ่มที่แอบมองเธออยู่เงียบๆ
ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที...
รอยยิ้มแบบที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ
เขาแกล้งเคาะกระจกห้องเสียงดัง
และทำทีมาตามเธอที่หายออกเสียนาน
ก่อนจะเดินตามไปนั่งข้างๆ เธอ
นาอึนขยับตัวเล็กน้อย
"ไม่ยักรู้ว่า เล่นเล่นเปียโนได้พริ้วขนาดนี้
แถมร้องเพราะนะ"
"เคยเรียนตั้งแต่เด็กน่ะ อีกอย่างฉันยังทำอะไรได้มากกว่านี้
รับรองว่าถ้านายรู้นายจะต้องทึ่ง และถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ
วงZenithต้องได้เจอคู่แข่งที่ฝีมือสูสีกันแน่"
นาอึนพูดอย่างอารมณ์ดี
ในตอนนี้ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวของเธอกำลังยิ้มตาม
กับปากรูปกระจับอันอวบอิ่มที่ทาด้วยลิปติกสีพีชสดใส
"ไม่ยักรู้ว่าเธอก็ขี้โม้เหมือนกันนะคุณผู้จัดการ"
แทอึนพูดและยิ้มตอบเธอบ้าง
นาอึนรู้สึกหวั่นไหวกับรอยยิ้มนั้น
เธอเลยเอามือปัดผมหน้าม้ายาวมาทัดที่ข้างหนู
"แค่ผู้จัดการชั่วคราวต่างหากล่ะ พี่จินจูกลับมาเมื่อไหร่
ฉันจะรีบคืนตำแหน่งนี้ให้ทันที"
"เธออยากฟังเพลงที่ฉันร้องไหม"
"ก็ฟังอยู่ทุกวัน นายนี่ถามแปลกๆ นะ คิม แทอึน"
"เพลงที่ฉันแต่งเองน่ะสิ สนใจมั้ย เธอจะได้ฟังมันคนแรกเชียวนะ"
"ก็ลองดูสิ ไหนดูสิว่าทักษะการแต่งเพลงของนาย
เลวร้ายอย่างที่คิดไว้รึเปล่า"
"เธอนี่นะ ซน นาอึน"
"ใช่ชื่อนั้นชื่อฉันเอง หึหึ"
แทอึนไม่อยากจะทำให้อารมณ์ขันของหญิงสาว
หมดไป เขาค่อยๆ บรรเลงเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จให้นาอึนฟัง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่ดาบินจะมาตามทั้งคู่ไปยังห้องซ้อมเต้น
เพื่อให้นาอึนประเมินการฝึกซ้อมเป็นรอบสุดท้ายของวัน
"ฝีมือการแต่งเพลงก็โอเคนะ แต่ต้องฝึกอีกเยอะ
ไปกันเถอะทุกคนรอเรานานแล้ว"
...ความจริงแล้วแทอึนกำลังเรียนในสาขาDigital music
ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังด้านดนตรีที่ประเทศออสเตรเลีย
โดยการเรียนออนไลน์จึงไม่กระทบกับตารางงานเท่าไหร่นัก
และเมื่อไรที่ว่างหรือนึกอย่างจะแต่งเพลง
เขาก็มักจะลุกขึ้นมาสร้างสรรค์ผลงาน
การได้เจอกับนาอึน...ทำให้คนพูดน้อยอย่างเขา
อยากหาเรื่องคุยกับเธอมากขึ้น
++8++
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้นเอง
การประชุมบอร์ดบริหารในวันนี้
หัวข้อที่เป็นประเด็นใหญ่ก็คือ
การยกเลิกกฎห้ามมีแฟนของศิลปิน
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่พักใหญ่
แต่ในที่สุดทุกคนในบริษัทก็ยอมทำตาม
"ความรักเป็นสิ่งสวยงามครับ
ผมเชื่อเหลือเกินว่า คนเราทุกคนบนโลกใบนี้
มีสิทธิ์อย่างชอบธรรมที่จะรักใครก็ได้
อย่างไม่มีเงื่อนไข ศิลปินก็เช่นเดียวกัน
พวกเขาก็คือมนุษย์ธรรมดา ที่มีเลือดเนื้อ
มีจิตใจเหมือนกันกับเราๆ
เพราะฉะนั้นถ้าพวกเขาคิดจะรักใคร
ผมถึงไม่ห้าม แต่เท่ากับว่าเขาและเธอเหล่านั้นจะปกป้อง
และรักษาความรักกับที่คนรักในรูปแบบของตัวเองได้ดีขนาดไหน
คำพูดของผมวันนี้ หลายๆท่านอาจจะยังไม่เห็นด้วย
แต่ถ้าท่านทั้งหลายใช้หัวใจสัมผัส ผมเชื่อว่าทุกท่านจะเข้าใจ
ผมขอจบการประชุมในวันนี้เพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องการประชุมคราวหน้า
ขอให้ทุกท่านเตรียมผลการดำเนินโครงการปั้นศิลปินหน้าใหม่
ในไตรมาสแรกมาด้วยระครับ ขอบคุณครับ"
ซน กีอุน นึกขำกับแนวคิดเพี้ยนๆ ของหลานชาย
ก่อนจะนึกแผนร้ายอะไรขึ้นมาได้
และคอยแอบป่วนหลานชายนอกไส้ตลอดเวลา
แทยังแอบทึ่งกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของตัวเองไม่น้อย
เพราะอย่างน้อยมันก็คือการเปิดโอกาสให้เขาสามารถเข้าใกล้
จินจูได้ง่ายขึ้น
"Yes!"
เขาอุทานออกมาด้วยความโล่งใจและดีใจ
ซน กีอุนเรียกผู้อำนวยการปาร์ค กับโปรดิวเซอร์ชเวคนสนิมมาพบ
ก่อนจะให้ทั้งสองทำงานบางอย่างให้
ชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเอามือลูบเคราตัวเองอย่างพอใจ
++ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยพิเศษ โรงพยาบาลHealth of Seoul
หลังจากที่วง Zenith คู่แฝดสกุลซน และซุลซู
มาเยี่ยมอาการของจินจู
ดูเหมือนว่าผู้จัดการสาวจะอาการดีขึ้นมาก
อาการฟกช้ำตามร่างกายที่เกิดจากการกระแทก
ตอนที่รถพุ่งชนใส่เธอค่อยๆ เลือนหายไป
จะเหลือก็แต่ขาข้างขวาที่ยังใส่เฝือกเอาไว้
เลยทำให้เดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกนัก
"พวกนายดื้อหรือเกเรอะไรกับนาอึนรึเปล่า"
"โธ่ พี่จินจูก็ ใครจะกล้าฮะ ถ้าพวกเราทำแบบนั้น
พี่นาอึนก็เหนื่อยแย่ พวกเราน่ะน่ารักจะตาย
ว่ามั้ยฮะพี่แทอึน"
จุนฮาหาแนวร่วม
"เอ่อ อืม"
"ได้ทีก็อ้อนเชียวนะ แต่ขอโทษฉันไม่มีขนมให้นายหรอกจุนฮา"
จินจูว่า
"โธ่พี่จินจู ผมเปล่าอ้อนซะหน่อย"
จุนฮาเริ่มทำหน้างุ้งงิ้งๆ ตามนิสัยของตัวเอง
"รีบๆ หายนะครับพี่ จะได้กลับมาทำงานด้วยกันอีก"
"ขอบใจดาบิน นายเองก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
ฉันจะรีบหายละกัน ไม่อยากให้ใครคิดว่าเป็นอภิสิทธิ์
เพราะว่าเป็นผู้จัดการนักร้องดัง"
"ใครคิดแบบนั้นก็ใจแคบเต็มที
เรากวนพี่มานานแล้ว ขอตัวกลับละกันฮะ
ไว้เดี๋ยวพวกเรามาเยี่ยมคราวหน้า"
"ขอบใจนะจุนกอล แล้วก็ขอบใจทุกๆ คนด้วยนะ
โดยเฉพาะเธอนาอึน"
"เรื่องเล็กน้อยค่ะ อีกอย่างฉันมียัยนี่ช่วย
สบายไปหลายอย่างเลย"
นาอึนชี้ไปที่นาบี ที่ยืนเล่นเป่ายิ้งฉุบกับจุนฮา
เมื่อคนทั้งหมดกลับกันไปแล้วจินจูก็อยู่ตามลำพังเช่นเดิม
...แทยังแอบมาเยี่ยมจินจูอยู่บ่อยๆ
แต่ก็ไม่กล้าสู้หน้าเธอสักครั้ง
เพราะเรื่องราวในอดีต...ที่ทำให้เธอเจ็บปวด
ระหว่างที่เธอกำลังเข็นเสาน้ำเกลือ และเดินกระเผกๆ
ออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางทุลักทุเล
ในวินาทีที่เธอกำลังจะล้ม แทยังรีบวิ่งไปรับจินจูไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
แต่กลายเป็นจินจูที่นอนทับแทยังอยู่
ลมหายใจอ่อนๆ ของชายหนุ่ม รดเข้าที่ต้นคอของ
ผู้จัดการศิลปินสาววัย 25 ปี
สัมผัสนี้แทบจะทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง
จินจูรีบผละออกจากอกแกร่งของชายหนุ่ม
ก่อนที่แทยังเองจะรีบตั้งเสาน้ำเกลือให้เธอและ
ประคองเธอไปที่เตียง
"ขอโทษค่ะ ท่านประธาน แล้วก็ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อสักครู่"
"จินจู คือผม..."
"..."
"ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่หนีไปไหนอีก
ต่อให้คุณไล่หรือไม่สนใจผมสักนิด"
"อย่าพยายามเลยค่ะท่านประธาน
เรื่องระหว่างเราไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก"
"ก็ได้ วันนี้ผมจะกลับไปก่อน
แต่พรุ่งนี้ มะรืนนี้ และวันต่อๆไปผมก็จะมาอีก"
"ทำไมคุณต้องทำให้เรื่องมันวุ่นวายด้วยค่ะ
เราต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้วนี่คะ
ครั้งนี้ฉันแค่ถูกรถชน แต่วันต่อๆไป
ฉันอาจจะไม่ทนให้ผู้หญิงของคุณทำร้ายฉันได้อีก"
"อินนาได้ชดใช้ในสิ่งที่เธอทำแล้วล่ะ
กฎหมายและกฎแห่งกรรมศักดิ์สิทธิ์เสมอ
และอีกอย่างซง อินนาไม่ใช่ผู้หญิงของผม
และไม่มีวันเป็นด้วย"
จินจูเมินหน้าหนี เธอรู้สึกเหนื่อยใจกับเขาจริงๆ
"พักผ่อนเถอะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องงานหรือเรื่ิองอะไรทั้งนั้น
ส่วนค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าชดเชยผมจะจัดการให้ทั้งหมด
แค่รักษาตัวให้ดี อยู่ในที่ที่พี่...สามารถเห็นเธอได้ตลอด
ก็พอแล้ว"
แทยังเปลี่ยนสรรพนามจากผม...เป็นพี่ เหมือนกับแต่ก่อน
เขาเดินออกจากห้องไปอย่างหมดเรี่ยวแรง
จินจูเองก็รู้สึกสับสนไปหมด
"พี่...พี่แทยัง พี่ต้องการอะไรจากฉันกันแน่"
++9++
การถ่ายทำMV นอกสถานที่เป็นไปอย่างราบรื่น
จะติดก็แต่พระเอกmvอย่างแทอึน
ที่แสดงออกทางแววตาไม่ได้สักทีว่าหลงรักนางเอก...
จนต้องเดือดร้อนนาอึนมาช่วยบีฟอยู่หลายครั้ง
"นี่นายไม่เคยรักใครเลยรึไง"
แทอึนไม่ตอบ
"ฉันล่ะเหนื่อยใจจริงๆ เอางี้ นายลองนึกถึงตอนที่ได้ของขวัญ
รึอะไรก็ได้ที่ทำให้นายมีความสุข ไหนลองทำดูสิ"
แทอึนจ้องหน้านาอึนนิ่ง นาอึนก็เผลอสบตาคู่นี้อย่างลืมตัว
นาอึนเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่า..ในดวงตาคู่นี้มันมีพลังดึงดูด
อย่างมหาศาลทีเดียว
กว่าที่ทั้งคู่จะหลุดจากภวังค์ก็ตอนที่ผู้กำกับคิมเดินเข้ามา
"แบบนี้เลย เอาสายตาแบบนี้เลยแทอึน"
"ฮะ ผู้กับกับ"
"หมดหน้าที่แล้วฉันไปนะ"
นาอึนเดินออกมาด้วยอาการเขินๆ
แต่ก็เป็นมุมที่น่ารักสำหรับสาวติสท์ทีเดียว
+++อีกมุมหนึ่งในกองถ่ายทำmv together
"ผมว่าพี่แทอึนต้องมีปัญหาเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์แน่เลย
กล้ามเนื้อ รวมทั้งเส้นประสาทบริเวณนั้นคงฝ่อ คึคึ
นูน่าคิดดูสิ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ผมเพิ่งเห็นเขายิ้มจริงๆ จังๆ
ก็เมื่อกี้แหละ"
"งั้นนาอึนก็คงจะป่วยเหมือนแทอึนน่ะสิ
สองคนนี้เขามีอะไรคล้ายๆ กันเหมือนกันเนอะ"
"เรียกว่าเป็นคู่แท้ปาฏิหาริย์จะดีกว่า ฮ่าๆ นี่ผมพูดจริงๆ นะ
คนนึงก็พูดน้อย อีกคนแทบจะไม่พูด สงสัยเขาคุยกันด้วยพลังจิต"
"ชักอยากเห็นนาอึนของเรามีความรักกับเขาบ้างแล้วสิ
อยากรู้นักว่าจะเป็นยังไง"
"แล้วนาบีนูน่าไม่ได้ชอบพี่แทอึนอย่างที่ผมเข้าใจหรอฮะ"
"ชอบสิ ชอบมากๆ ด้วย"
"อ้าว แล้วงั้น...
"ก็ชอบแบบที่แฟนคลับปลื้ม และคลั่งไคล้ในตัวศิลปินที่รักยิ่งยังไงล่ะ
แล้วก็ชอบจะรักแบบนี้ตลอดไป
แต่ถ้าจะให้รักจริงๆ ก็คงแปลกพิลึกว่ามั้ย
ก็เหมือนกับเธอไงล่ะ จุนฮาหนึ่งในเมมเบอร์ของ
Zenith ที่อยู่บนเวที แรปเปอร์ยักษ์ที่เวลาแรพยังกะพ่นไฟออกมาได้
เท่จะตายไป แต่นั่นคือนายในแบบที่คนทั่วๆไปรู้จัก
แต่จุนฮาที่เป็นน้องชายที่น่ารักคนนี้มันต่างกันนะ
ด้วยอายุเท่านี้เธอคงสับสนหลายๆ เรื่อง
แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะสามารถจัดการ
ทุกอย่างได้ด้วยตนเอง พอถึงวันนั้นเธอจะภูมิใจในตัวเองที่สุด"
ว่าแล้วนาบีก็ดึงแก้มทั้งสองข้างของจุนฮาอย่างเอ็นดู
"ฮะนูน่า แต่ว่าผมเจอคู่ชกที่สูสีกับนูน่าแล้วล่ะ นั่นไงเดินมาโน่นแล้ว"
"ใครกัน ไหนขอดูสิ"
ฮัน จุนกอล นั่นเอง
และวันนี้เขามาในผมทรงใหม่ที่ตัดสั้น
เผยให้เห็นโครงหน้าอันหล่อเหลาได้ชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น
ผมสีบลอนด์ทองก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ผมหน้าม้าที่เคยปรกหน้าก็เผยให้เห็นคิ้วคมเข้ม
รวมถึงดวงตาคู่สวยคมได้อย่างชัดเจน
"จะตะลึงในความหล่อของฉันอีกนานมั้ย"
จุนกอลเอ่ยอย่างอารมณ์ดี จุนฮาและนาบี
ก็มองหน้ากันงงๆ ก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมา
หนุ่มๆ ทั้ง 4 คน รวมตัวกันในฉากของโกดังร้าง
เพื่อซักซ้อมท่าเต้นที่เป็นไฮไลท์ของเพลง Together
ที่เป็นเพลงเปิดตัวเพลงที่2 ของหนุ่มๆ
หลังจากที่เพลงแรกอย่างเพลง Say hi!
ฮอตฮิตติดทุกชาร์ตเพลงมาเป็นเวลา 3 เดือน
นาบีก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฮัน จุนกอล
ดูมีเสน่ห์เอามากๆ ถ้าไม่มีใจอคติ
ยิ่งได้ฟังเสียงร้องของเขาที่หวานใส จับใจ
ยิ่งเพิ่มความหล่อให้เขาเข้าไปอีกเท่าตัว
ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงไม่สังเกตเห็นนะ
นาบีกำลังไล่ความคิดนี้ออกจากหัวอยู่หลายหน
"จะส่ายหัวทำไมเนี่ย เป็นอะไรรึเปล่านาบี
รึน้ำในหูของเธอไม่เท่ากัน"
"ช่างฉันเหอะน่า"
นาอึนได้แต่งงๆ กับอาการประหลาดๆ ของน้องสาวฝาแฝดของเธอ
"ยัยนี่ชักจะประหลาดขึ้นทุกวัน หึหึ"
และนาอึนก็หันไปสนใจกับการถ่ายทำต่อ
ก่อนจะหันไปพูดคุยกับทีมงานอีกหลายคน
แต่ดูเหมือนว่ามีสิ่งที่ิยู่เหนือความคาดหมาย
กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ท่อนไม้บริเวณเหนือศีรษะของนาบีกำลังจะร่วงหล่นลงมา
และไม่มีใครทันสังเกต
จุนกอลรีบกระโดดลงมาจากฉากพุ่งมายังตัวนาบีพอดี
โชคดีที่ท่อนไม้ร่วงลงห่างจากตัวของนาบีและจุนกอล
นาบีดูจะตกใจมาก...จนพูดอะไรไม่ออก
ทีมงานรีบวิ่งกรูมาดูทั้งสองทันที
"จุนกอล ฮัน จุนกอลตื่นสิไอ้บ้า"
แทอึนเขย่าตัวจุนกอลที่นอนไม่ได้สติ
นาอึนกอดนาบีเอาไว้...ตัวเธอสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ
การถ่ายทำจึงต้องหยุดชะงักไป
++10++
จุนกอลถูกพาตัวมาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน
และไม่นานเขาก็ถูกพามาที่ห้องพักฟื้น
นาบีรู้สึกผิดที่ทำให้เขาเจ็บตัวเพราะเธอ
"ไม่ใช่แค่จุนกอลหรอกนะที่จะทำแบบนี้
ไม่ว่าฉัน จุนฮา หรือแทอึนก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราคือทีมเดียวกันนะนาบี"
ดาบินปลอบอีกคน
"อือ"
"เข้าไปเยี่ยมจุนกอลเถอะนาบี เราจะได้กลับกัน
เจ้านั่นจะได้พักผ่อน"
นาอึนบอกน้องสาว
นาบีพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปพร้อมๆ กับพี่สาว
นาบีมองดูชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง
ผ้าพันแผลถูกพันรอบศีรษะของชายหนุ่ม
นาบีลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลมาอีกกระลอก
จุนกอลจับที่แผลก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
"แม้แต่ตอนร้องไห้เธอก็ยังดูสวยนะ ยัยผีเสื้อขี้วีน"
"นายนี่มันบ้าจริงๆ ยังจะมาพูดเล่นอีก
คราวหน้าไม่ต้องมาทำอะไรเสี่ยงเพื่อฉันอีกนะ"
"เอาเลือดชั่วออกบ้าง ไม่ดีรึไง"
"นายต้องเอาหมาบ้าออกจากปากนายต่างหากล่ะ"
"ไม่ล่ะ ฉันจะเก็บไว้สู้กับเธอไง ไม่ดีหรอ"
"นอนเจ็บยังจะมายิ้มกวน พูดกวนอีก น่าจะให้หมอเย็บปากไปด้วยเลย
คนเค้าอุตส่าเป็นห่วง เชอะ"
"เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว โอ๊ย ปวดหัวจัง
ไว้ค่อยคุยกันนะนาบี ดีใจจังที่ตื่นมาก็..."
จุนกอลยังไม่ทันบอกว่าดีใจที่ตื่นมาเจอเธอ
เขาเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาชา และความเพลีย
ประกอบกับยังเจ็บแผลที่ศีรษะที่โดนเย็บไปถึง 9 เข็ม
ดาบินเดินเข้ามาตามนาบีให้กลับไปด้วยกัน
แต่ภาพที่เขาเห็นคือภาพที่นาบีกำลังก้มลงจุ๊บที่แก้มของจุนกอล
"ขอบคุณนะ"
ดาบินใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือ
ถ่ายไว้ได้ทัน...เขาคิดจะใช้ภาพนี้ต่อรองกับนาบี
ถ้าเกิดเขามีเหตุต้องจำนนเธอด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาพนี้จะช่วยเขาได้
ดาบินแกล้งกระแอมเสียงดัง และทำทีว่าเพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
"กลับกันเถอะนาบี"
"อื้ม ฉันกำลังจะออกไปพอดี"
วันรุ่งขึ้นจุนกอลก็ออกจากโรงพยาบาล
นาอึนอนุญาตให้เขาพักได้
แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมนอนคุดคู้
อยู่คนเดียวที่หอพัก..อย่างน้อยมาเดินเล่น
ยืดเส้นยืดสายที่บริษัทก็ยังดี
ความสัมพันธ์ระหว่างจุนกอลกับนาบี
เริ่มดีขึ้น จนเขาเองก็เริ่มจะรู้สึกดีกับการมีหญิงสาวเข้ามา
วุ่นวายในชีวิตของเขาในทุกๆ วัน
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทำให้ชายหนุ่มฝีปากกล้า
ชุ่มชื่นหัวใจ
"แผลนายหายดีแล้วใช่มั้ย มันจะเป็นแผลเป็นรึเปล่า"
"ดีใจจังที่รู้ว่าเธอเป็นห่วง"
"เปล่าหรอกฉันกลัวว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหาย
ที่ทำให้นายเป็นแผลเป็นต่างหากล่ะ"
"งั้นเธอต้องจ่ายคืนเยอะเลยล่ะ"
"เท่าไหร่ก็บอกมาเลย"
"เธอต้องจ่ายคืนด้วยนี่.."
จุนกอลชี้ไปที่หัวใจของเขา
ก่อนจะทำมือเป็นรูปหัวใจ
แล้วยิ้มกวน..
"แหวะ"
นาบีได้แต่ส่ายหัว แล้วเดินหนีไป
ส่วนจุนกอลก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
++ที่หอพักศิลปินย่านดาวทาวน์
ดาบินและจุนกอลเป็นรูมเมทกัน
หลังจากกลับมาจากบริษัทพวกเขาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง
ผิดกับแทอึนและจุนฮา ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในเกมส์
วินนิ่ง เกมส์ฟุตบอลยอดฮิตติดชาร์ทสำหรับลูกผู้ชายมาหลายสมัย
"นายเชื่อเรื่องตำนานด้ายแดงอะไรพวกนี้ด้วยหรอดาบิน"
จุนกอลถาม ขณะที่ดาบินพลิกหน้าหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่เพิ่งได้รับมาจากแฟนคลับมาเมื่อเช้า
"ไม่เลยสักนิด นายไม่คิดหรอว่าเรื่องนี้ก็แค่นิทานหลอกเด็ก
มันมีเปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้แทบไม่ถึง 1%
ที่จะเจอเรื่องแบบนั้นได้ ใครกันที่จะถือด้ายแดงอีกปลายด้านเพื่อมาพบกับเรา
และรักเรา ใครจะเชื่อก็เชื่อไปเหอะ ฉันนอนดีกว่า อา เล่มนี้ฉันยกให้"
ดาบินส่งหนังสือในมือในจุนกอล เขารับมาอย่าง งงๆ
"แล้วถ้าฉันเป็นหนึ่งในไม่ถึง 1% นั่นล่ะ"
จุนกอลนึกขำๆ ก่อนจะมองไปที่เศษด้ายไหมพรมสีแดง
ที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์
วันรุ่งขึ้นหนุ่มๆ มีแสดงรายการสดที่รายการ Music Music station
ที่สถานีโทรทัศน์UBN โชคดีที่ Star Ent.
มีการให้ศิลปินในค่าย
เข้าคอร์สเรียนแต่งหน้า และทำผมด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ตอนที่เป็นเทรนนี่
จึงทำให้การจัดการกับหน้า ผม ของตัวเองได้เป็นอย่างดี
แต่เรื่องเสื้อผ้ากลับตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการแทน
ด้วยพรสวรรค์ด้านแฟชั่นสุดล้ำ แสนบรรเจิดของนาบี
ทำให้ภาพลักษณ์ของ Zenith ดูทันสมัยขึ้น
และมีความเป็นผู้ชายเต็มตัว ต่างจากตอนที่เดบิวท์
ที่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กผู้ชายธรรมดส
เธอเองก็ชักสนุกกับงานที่ทำมากขึ้น
จนบางทีก็เผลอสเก็ตภาพหนุ่มๆ ในชุดคอเลคชั่นต่างๆ ของเธอ
อย่างเพลิดเพลินบนแทปเล็ตขนาดพกพาหรือไม่ก็สมุดเล่มเล็กๆ
ส่วนตัวเธอในวันนี้เลือกที่จะแต่งตัวออกมาในแนววินเทจกึ่งคลาสสิก
ด้วยการมิกซ์แอนด์แมทกันระหว่างเสื้อแขนยาวลายจุด
ที่ติดกระดุมครบทุกเม็ด และใส่แว่นตาสุดเนิร์ด
กางเกงเอวสูงสีน้ำเงินเข้ม ชาวยเพิ่มความทะมัดทะแมง
และคล่องตัวในการทำงาน เพิ่มไอเท็มความเก๋ด้วยกระเป๋่าหนังใบเล็ก
กับรองเท้าหนังดีไซน์คลาสสิก
หนุ่มๆ Zenith เลยได้สนุกกับการคาเเดาว่าในวันต่อๆไป
สาวเจ้าจะแต่งตัวออกมาแนวไหน
...ดูเหมือนว่าจุนกอลจะมีปัญหากับการผูกเนคไท
นาบีทนไม่ไหว เลยรีบวิ่งเข้าไปช่วย
ชึ๊บ (เสียงรูดเนคไทที่คล้องกับคอของจุนกอล)
"แค่นี้ก็เรียบร้อย"
นาบีพูด และหันไปสบตากับจุนกอลแบบไม่ทันตั้งตัว
เธอเองก็เพิ่งสังเกตว่า
ดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาล กลมโต
และสวยหวานมากเกินกว่าจะเป็นดวงตาของผู้ชาย
จมูกที่เป็นสันโด่งราวกับมีเชื้อสายมาทางฝั่งยุโรป
ดูยังไงก็เหมือนรูปปั้นเทพกรีกโบราณมากกว่าจะเป็นคนธรรมดา
อีกทั้งแพขนตายาวนั่น ก็ทำให้เธอต้องอิจฉา
แต่เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เวลามาสำรวจใบหน้าของชายหนุ่ม
ที่เรียกได้ว่าเป็น 'คู่กัด' เกือบจะตลอดเวลา ของเธอนี่
(จะเว้นก็แต่ช่วงที่มีงาน)
"ขอบใจนะ...นา บี"
จุนกอลพูดเบาๆ และส่งยิ้มบางๆ ให้นาบี
ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มส่งผลแปลกๆ ต่อนาบี
แต่มันก็ทำให้สาวร่างบาง
เริ่มมีอาการจุกแปลกๆ ที่หน้าอกค่อนไปทางด้านซ้าย
"อื้ม"
นาบีตอบ และรีบหันไปมองทางอื่นแทน
"นูน่าผมดูเป็นไงมั่งอ่า เท่รึเปล่า"
จุนฮารีบดึงนาบีไปอีกทาง
"น้องชาย มีใครเคยบอกรึเปล่าว่านายหล่อและเท่มาก"
"นูน่ารอดูโชว์เจ๋งๆ ของผมต่อจากนี้ได้เลย"
"ทำให้เต็มที่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะประเมินนายในฐานะแฟนคลับเอง"
"ฮะ"
นาบีตบไหล่ของมักเน่ยักษ์เสียงดังป๊าบ
และเหมือนสติของเธอที่กระเจิดกระเจิง
จะเริ่มกลับมา...
อีกด้านนาอึนก็มาเช๊คความเรียบร้อยให้กับหนุ่มๆ
"ย่าห์ ฮัน จุนกอล ช่วยเก็บสายตาหวานๆ ที่นายใช้มองน้องสาวฉันด้วย"
จุนกอลสะดุ้งเฮือก
"บ้าน่า นาอึน ฉันเปล่ามองนาบีซะหน่อย
แค่คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้นแหละ"
"แน่ใจนะ"
"แน่ใจสิ"
"แต่ถ้านายอยากรู้จักและใกล้ชิดนาบีให้มากกว่านี้
นายต้องขัดใจเธอมากๆ ยิ้มหวานๆ
ทำหน้าเท่ๆ ช้อนสายตามากๆ นั่นแหละคือจุดอ่อนของนาบี
ไปเตรียมเช็คไมค์ด้วยล่ะ ฉันกับดาบิน แล้วก็แทอึนรออยู่back stage"
นาอึนตบไหล่จุนกอลเบาๆ แล้วเดินไปตามจุนฮากับนาบี
...ความจริงนาอึนก็พูดเล่นๆ
แต่ไม่คิดว่าใครอีกคนจะคิดตาม
"นายว่าถ้าฉันยิ้มแบบนี้แล้วหล่อมั้ย
แล้วถ้าฉันตัดผมให้สั้นขึ้น แล้วเซ็ทให้ผมตั้งๆ
จะเท่ป่ะ?"
จุนกอลถามดาบินในเย็นวันหนึ่งที่หอพัก
"นายเป็นไรมากรึเปล่า
ปกตินายคือคนที่ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองที่สุด"
"คนเรามันก็ต้องเปลี่ยนกันบ้าง
นายไม่ตอบไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปถามจุนฮากับแทอึนก็ได้"
ดาบินเห็นท่าทางแปลกๆของจุนกอลก็ขำๆ
++12++
หลายวันต่อมา...
"หวัดดีฮะนูน่า วันนี้มาคนเดียวหรอแล้วนาอึนนูน่าล่ะ"
จุนฮาทักนูน่าหน้าใส และใจดีของเขา
เธอมาพร้อมกับขนมเต็มไม้เต็มมือเช่นเคย...
จุนฮาที่รู้หน้าที่ดีก็รีบมาช่วยถือ
"นาอึนไปรับเพื่อนที่สนามบินน่ะ เสร็จธุระแล้ว
เดี๋ยวคงตามมา แต่ไม่ต้องห่วงวันนี้ฉันจะดูแลทุกคนเอง"
"จะไหวเร้อ"
จุนกอลพูด นาบีก็ส่งสายตาอำมหิตไปให้เขาแทน
แทอึนหันไปปรามจุนกอล เพราะกลัวจะเสียเรื่องแต่เช้า
ดาบินที่เพิ่งกลับมาจากไปถ่ายซิทคอมพอดี
เขามาพร้อมกับคิม ซุลซู คนขับรถของวงZenith
และเป็นคนคุ้นเคยอีกคน
นาบีทักทายชายหนุ่มอายุสามสิบต้นๆ ที่หน้าตาเป็นมิตร
"เดี๋ยวตอน 11 โมง พวกนายต้องไปถ่ายรายการที่ช่องKNY
ต่อด้วยไปสัมภาษณ์รายการวิทยุ
หลังจากนั้นก็ต้องกลับไปซ้อมที่บริษัท
และน่าจะมีการวางคอนเซ็ปสำหรับอัลบั้มพิเศษ
ของพวกนายด้วย"
ทุกคนรับทราบที่นาบีแจ้ง
ก่อนจะรีบเตรียมตัวออกจากหอพัก
...หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ
หนุ่มๆ zenith พร้อมด้วยซุลซูและนาบี
ก็ตรงดิ่งไปที่ Star Ent. ทันที
"เอ่อ นา..."
แทยังเกือบเผลอตัวทักน้องสาวของเขา
ที่เจอกันอยู่หน้าบริษัท
หนุ่มๆ ทักทายท่านประธานหน้าหล่อ ผู้น่าเกรงขามของพวกเขา
นาบีก็ด้วย...
"ตั้งใจทำงานล่ะ"
"ครับ/คร๊าบ"
นาบียิ้มๆ แทนคำตอบ ก่อนจะรีบพาหนุ่มๆ ขึ้นไปบนชั้น 23
...ในห้องซ้อมร้องเพลงมีนาอึนและผู้ชายอีกคน
กำลังหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม...
จนไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่ง
จ้องมองคนทั้งคู่อย่างไม่พอใจนัก
จากสีหน้าที่เรียบเฉย กลายเป็นสายตาที่ทำให้บรรยากาศดูเย็นยะเยือก
เข้าไปอีก
ภาพชายหนุ่มหน้าคม คิ้วโก่งเป็นรูปคันศร
ถูกกันจนเป็นรูปสวย ผิดจากผู้ชายเกาหลี
ที่จะปล่อยให้คิ้วของเขาดูเข้ม หนา แต่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ผมสีดำยาวที่ถูกมัดรวบไว้เป็นหางม้า
ยิ่งตอกย้ำให้ชายหนุ่มคนนี้เหมือนหลุดมาจากหนังสือการ์ตูน
หรือหนังสือนิยายเสียมากกว่า
และเสื้อเชิ๊ตสีเขียวขี้มา(ติดกระดุมทุกเม็ด)
เข้ากันกับกางเกงยีนส์สุดชิคเป็นอย่างดี
"อากิจัง"
นาบีรีบเข้าไปทักทาย เพื่อนชายของพี่สาวฝาแฝด
"นาบีหรอเนี่ย ยังคงเก๋ กู้ด เหมือนเดิมเลยนะ"
"แน่นอน แต่ที่น่าแปลกก็คือ...นาอึนไปล่อลวงอากิจัง
มาได้ยังไง"
"ก็อยากมาช่วยทำโปรเจคสนุกๆ ไง
เลิกสงสัยได้แล้วน่าน้องหนู"
เจ้าของชื่อ อากิระ มัทสึอิ ดึงแก้มทั้งสองข้างของนาบี
อย่างเอ็นดู
...นาอึนได้แต่ยิ้มแปลกๆ
เธออยากจะตะโกนบอกนาบีเหลือเกินว่า
กว่านะลากเจ้านั่งแต่งเพลงชื่อเสียงโด่งดังมาจากญี่ปุ่นได้
เธอใช้อะไรมาต่อรองกับเขา...
ทันที่หนุ่มๆ เข้ามาในห้องกันครบทีม
นาอึนก็เริ่มแนะนำอากิจังให้ทุกคนรู้จัก
"นี่คือคุณอากิระ มัทสึอิ นักแต่งเพลงชื่อดัง
จากญี่ปุ่น จะเข้ามาช่วยพวกนายในอัลบั้มพิเศษนี้
โชคดีที่ฉันบังเอิญรู้จักเขาด้วย
และไม่ต้องห่วง อากิจังเขาพูดภาษาเกาหลีได้ดี
ทำความรู้จักกันไว้สิ ยังต้องทำงานกันอีกนาน
ตอนนี้พวกนายกับอากิจังก็เข้าไปคุยกะโปรดิวเซอร์ลีเถอะ
เดี๋ยวฉันกะนาบีจะไปรอที่คอฟฟี่ ช๊อป ข้างล่าง"
แทอึนดูจะไม่ชอบอากิระเอามากๆ
ส่วนดาบินก็รู้สึกขนลุกชอบกล เหมือนได้รับรังสีอำมหิต
ที่แผ่มาจากที่ใดสักที่ ส่วนจุนฮาก็ชวนอากิระคุยอย่างสนุกสนาน
ในขณะที่จุนกอลก็ดูจะสนใจนักแต่งเพลงชื่อดังคนนี้ขึ้นมา
...13...
อัลบั้มพิเศษของหนุ่มๆ Zenith ที่ชื่ิอว่า Thank you
เดินทางมาถึงขั้นตอนการอัดเสียง
โดยอากีระ จะเรียกเข้าไปทีละคน
เพื่อจะได้ให้ศิลปินลองดีไซน์การร้องเอง
เพื่อจะได้แนวเพลงที่แปลกใหม่
ตอนนี้เป็นคิวของดาบิน
ส่วนจุนกอลกับจุนฮา กำลังกินขนมอย่างเพลิดเพลิน
และหยอกล้อกันกับนาบี
นาอึนทนไม่ไหวกับท่าทางที่แปลกของแทอึน
เลยเรียกเขาไปพบเป็นการส่วนตัว
"นายโกรธรึไม่พอในอะไรฉันก็บอกมาตรงๆ เถอะ"
"ก็เปล่านี่"
"พูดมาเถอะ แต่ถ้านายไม่พูดออกมาตอนนี้..."
"ฉันจะไม่พูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง
แบบนี้ใช่ไหมที่เธอจะพูด..คุณผู้จัดการ"
แทอึนยิ้มออกมา นาอึนกำลังสับสนของอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของแรปเปอร์หนุ่ม
"ดูเธอสนิทกับอากิระมากจังเลยะ"
"แน่นอน ฉันกับเจ้านั้นน่ะเราซี้กันสุดๆ
เคยทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันตั้งหลายอย่าง
ล่าสุดก็ตอนที่..."
"พอเถอะ ฉันไม่อยากฟัง"
อยู่ๆ แทอึนก็เดินหนีไปซะเฉยๆ
นาอึนเดินตามไปติดๆ
และจับไหล่ด้านหนึ่งไว้ เพื่อให้เขาหยุด
แต่เหมือนเขาจะไม่ฟัง
"ฉันก็ไม่ชอบให้ใครเดินหนีฉันไปโดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุ
หยุดเดี๋ยวนี้นะคิม แทอึน"
แทอึนหยุดเดิน และหันกลับมาคว้ามือของนาอึน
แล้วพาเธอขึ้นไปคุยกันบน
สวนหย่อมริมระเบียง
"ทีนี้พร้อมที่จะพูดรึยัง"
"อือ"
"ก็พูดมาสิ"
"ฉันก็แค่ไม่ชอบเวลาที่เธออยู่กับอากีระอะไรนั่น
มันทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดี"
"อื้ม เข้าใจละ แต่จะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ
ถ้าฉันไม่ทำตัวติดหนึบกับเจ้าอากิ
คนที่จะลำบากก็คือนายนั่นแหละ"
"หมายความว่ายังไง"
"ฟังให้ชัดๆ นะ เจ้าอากิมันปิ๊งนาย
ไม่อย่างงั้น นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงอย่างเขาคงไม่ยอม
มาช่วยเราง่ายๆ หรอก หมอนั่นคิวทองจะตาย"
"ว่าไงนะ"
"ก็ตามนั้นแหละ ทีนี้นึกขอบคุณฉันขึ้นมาแล้วสิ
เอ รึว่าที่จริงนายก็ปิ๊งเจ้าอากิเหมือนกัน"
นาอึนพูดอย่างอารมณ์ดี
"ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว อีกอย่างฉันก็แมนเต็มร้อย
ฉันไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันได้หรอก"
"อื้ม ทีนี้นายจะบอกได้รึยังว่าโกรธอะไรฉัน"
"ฉันไม่มีทางโกรธเธอได้จริงๆ หรอก
แต่ฉันกำลังจะเป็นบ้า ที่เห็นเธอสนิทกับผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ"
"ฟังดูเหมือนเป็นการสารภาพรักที่แย่ที่สุดในโลก"
"แต่ฉันไม่คิดว่ามันแย่ขนาดนั้นหรอก"
แทอึนจ้องหน้าของนาอึนอย่างไม่สามารถปกปิดความรู้สึก
ของตัวเองได้อีกต่อไป
"ฉันชอบเธอ ซน นาอึน
ชอบมานานแล้วด้วย
และฉันก็จะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป"
"นี่นายกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม คิม แทอึน"
"งั้นเธอก็ลองพิสูจน์ว่าฉันพูดจริงไหม"
คิม แทอึนดึงนาอึนเข้าจูบอย่างแผ่วเบา
เขาถอนริมฝีปากออกจากเธอช้าๆ
เพื่อให้เธอได้ตั้งตัว
ก่อนจะเริ่มทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเขาทีละนิด
มือทั้งสองข้างของเขาประคองเธอไว้
เพื่อให้เธอทรงตัวได้ขึ้น
เมื่อสัมผัสได้ว่าเธอเริ่มทนไม่ไหว
เขาเลยลอบถอนริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
แทอึนฉายแววตาเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
นาอึนรีบเดินหนีเพราะความเขินอายสุดขีด
ไม่มีครั้งไหนที่สาวมั่นอย่างเธอจะเสียความมั่นใจเท่าครั้งนี้
เธอเดินชนเข้ากับดาบินที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องอัด
"อุ้ย โทษทีดาบิน พอดีฉันไม่ทันเห็นนาย"
ดาบินประคองนาอึนไม่ให้เธอล้ม ก่อนที่เธอจะทรงตัวได้เป็นปกติ
"เธอโอเครึเปล่านาอึน ไปพักก่อนมั้ย
เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง"
"งั้นฝากด้วยนะ"
ยิ่งเห็นแทอึนที่กำลังเดินตามมา
นาอึนเลยรีบแจ้นออกจากบริเวณห้องอัดไป
...14...
ณ คฤหาสน์ของตระกูลซน
อันเป็นสถานที่พักอาศัยของเจ้าของธุรกิจบันเทิงอันมีชื่อเสียง
คืนนี้เป็นคืนที่สามพี่น้องต่างก็นอนไม่หลับด้วยกันทั้งหมด
แทยังหยิบรูปสมัยไฮสคูลขึ้นมาดูหลายต่อหลายรูป
จนรูปสุดท้าย...
ในรูปมีเด็กผู้หญิงร่างอวบอ้วน
ในชุดเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ
ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโซล
เธอใส่แว่นตาหนาเตอะ และมัดผมเปียทั้งสองข้าง
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอดูน่ารักน้อยลงเลย
เธอยิ้มอย่างมีความสุข
แม้ในภาพจะไม่เห็นว่าเธอกำลังจ้องมองอะไรอยู่
แต่มันเป็นภาพถ่ายที่เขาเป็นคนถ่ายเอง
ซึ่งมันสามารถบอกได้ว่าเขาสนใจเธอคนนี้มากแค่ไหน
"จินจู เพราะพี่คือคนที่ขโมยร้อยยิ้ม
และความสุขมาจากเธอ
ต่อจากนี้พี่จะคืนมันให้กับเธอนะ"
นาอึนก็เอาแต่จับริมฝีปากของเธอ
และก็เขินหน้าแดงอยู่คนเดียว
เมื่อนึกถึงแทอึน เสือยิ้มยากคนนั้น
ที่อยู่ๆ ก็รุกร้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ..จนเธอไม่ทันตังตัว
ในที่สุดเธอก็เอาผ้าห่มมาคลุมโปง
แล้วรีบข่มตาหลับไป แต่กว่าจะสลัดภาพนั้นออกได้
ก็ใข้เวลานานทีเดียว
ส่วนนาบีก็นอนกระสับกระส่ายอยู่หลายที
เพราะมัวแต่นึกถึงภาพของจุนกอลเต็มไปหมด
"นายนี่มันไม่มีมารยาทเลยจริงๆ
เข้าบ้านคนอื่นเขาได้ยังไง
ฉันไม่ไหวแล้วนะฮัน จุนกอล
นายร้ายกาจมาก ทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย"
นาบีพูดกับจุนกอลที่ยืนกอดอกยิ้มอยู่ข้างเตียงของเธอ
ก่อนที่เขาจะหายแว้บไป(จากมโนภาพของเธอ)
หญิงสาวพลิกตัวมาอีกด้านก็เห็นจุนกอลนอนยิ้มแฉ่ง
โชว์ฟันทั้ง32ซี่ รออยู่
"เฮ๊ย มาได้ไง"
กว่าที่นาบีจะหลับไปก็เกือบตีสอง
ทำให้เธอต้องร้องกรี้ดดด ที่เห็นสภาพตัวเองตอนตื่นนอน
"อร้าย ขอบตาของช้านนนนน"
"วันนี้ฉันขอหยุด 1 วันนะนาอึน
สภาพแบบนี้ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น"
"เธอก็นอนไม่หลับเหมือนกันหรอนาบี"
นาอึนที่ดูสติเลื่อนลอยเพราะนอนน้อย
แถมยังมีใต้ตาที่ดำเหมือนหมีแพนด้า
เหมือนกันกับนาบี
"เฮ๊ย หนักกว่าฉันซะอีก อา เอานี่ไปซะ
มาร์กตาที่ซื้อมาจากฝรั่งเศสจะช่วยเธอได้
แค่ครึ่งชั่วโมงรับรอง ตาใสกริ้งเหมือนเดิม"
"อือ"
"ไหนๆ ก็ได้หยุด งั้นวันนี้ฉันจะช่วยแปลงโฉม
จากสาวเท่เป็นสาวหวานให้ละกันนะ
ห้ามปฏิเสธล่ะ"
"อือ"
นาบีชักเริ่มสงสัยกับอาการแปลกๆ ของพี่สาว
ที่ดูเลื่อนลอยชอบกล
ภายในหนึ่งชั่วโมงนาอึนก็กลายเป็นสาวหวาน
ด้วยการแปลงโฉมของดีไซน์เนอน์อย่างนาบี
เดรสสีชมพูลายจุดยาวคลุมเข่าเล็กน้อย
ที่อวดเรียวขาสวยก็ดูเข้ากันกับเธอ
"ให้ฉันขับรถไปส่งมั้ย"
"ไม่เป็นไร ฉันไปนะสายแล้ว
เดี๋ยวพวกเขาจะรอ"
นาอึนก็เดินไปเหมือนไร้วิญญาณ
"จะรอดมั้นเนี่ย ใครกันทำให้นาอึนของเรา
อ่อนปวกเปียกแบบนี้"
"บ่นอะไรกันนาบี แล้วเราไม่ต้องไปกะนาอึนเขาหรอ"
แทยังที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่เอ่ยถามน้องสาวคนเล็ก
"โอ๊ย ไม่ล่ะ วันนี้ฉันจะอู้ ได้ยินชัดแล้วนะคะท่านประธาน"
...15...
"ไม่มีใครเขากล้าขัดใจซน นาบี
สุดที่รักของคุณปู่ได้หรอก เนอะ"
แทยังนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับที่นาบีนั่งอยู่ก่อนแล้ว
"แน่นอน ลองขัดใจดูสิ พี่แทยังรู้ใจจริงๆ แบบนี้เห็นทีฉันต้องช่วยพี่ชาย
หาพี่สะใภ้แล้วล่ะไม่งั้นคุณซน แทยังคงแห้งเหี่ยว เฉาตาย
แหะๆ"
"งั้นก็มีที่เข้าเค้าอยู่คนนึง เธอเองก็รู้จักดีเชียวล่ะ"
"ใครคะ"
"ลี จินจู"
"ถ้าเป็นพี่จินจู ฉันเชียร์เต็มที่
งั้นฉันขอไปทำภารกิจหัวใจให้พี่แทยังละกันนะ
จนกว่าจะสำเร็จ ฉันถึงจะยอมกลับไปทำงานช่วยนาอึน
ตามเดิม"
"อื้ม ฝากด้วยนะนาบี แค่ได้ยินแบบนี้
พี่ก็มีกำลังใจในการทำงานเยอะเชียว
พี่ไปก่อนนะ"
"ค่ะ"
นาบีทั้งโบกมือ ส่งจูบ แถมด้วยรอยยิ้มหวานๆ
และลักยิ้มสองข้างแก้มให้พี่ชายที่เธอรัก
ก่อนจะนึกแผนการอะไรบางอย่างได้
นาบีไปเยี่ยมจินจูที่โรงพยาบาล ในช่วงสาย
เธอถือทั้งขนมที่ซื้อมาจากร้าน Bla Bla Bang
และกุหลาบช่อโต
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"หวัดดีค่ะพี่จินจู"
"อ้าวนาบีหรอกเหรอ แล้วคนอื่นๆ ล่ะจ๊ะ ไม่มาด้วยกันหรอ"
"ฉันมาคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่นๆ ไปทำงานกันหมด
ดอกกุหลาบสีเหลืองนี่ฉันจัดใส่แจกันเลยนะคะ"
"ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลย แค่มาเยี่ยมเฉยๆ ก็เกรงใจจะแย่"
"เรื่องเล็กน้อยค่ะ แล้วนี่หมอบอกรึยังคะว่าผ่าเฝือกออกได้เมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้จ้า อีกไม้กี่วันคงได้กลับไปทำงานเสียที"
"ถ้างั้นวันที่พี่จินจูออกจากโรงพยาบาล
อนุญาตให้ฉันมารับนะคะ"
จินจูมองนาบึ งงๆ
"วันนี้ฉันรบกวนพี่จินจูนานแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ
ไว้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่"
"จ้า ขอบใจนะ"
จินจูยิ้มให้นาบี ก่อนที่เธอจะออกจากห้องไป
จินจูเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปหน้าด้านข้างของนาบี
คล้ายกับใครบางคนที่เธอรู้จัก
ยิ่งลักยิ้มคู่นั้น ก็ช่างเหมือนกันจริงๆ
"ไม่มีอะไรทั้งนั้น อย่าคิดถึงเขานะลี จินจู
เธอต้องไม่แพ้ โอเค๊"
เธอบอกกับตัวเอง
...
ระหว่างที่กำลังจะกลับจากโรงพยาบาล
นาบีได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากประเทศอังกฤษ
"วิเวียนเธอเองหรอ คิดถึงจะแย่
นี่เลิกงอนโอเว่นรึยังเนี่ย สงสารเขาเถอะ"
"ก็อยากแกล้งอีกสักนิดน่ะ ที่จริงก็หายโกรธตั้งนานแล้วล่ะ"
"งั้นก็ถือว่าเป็นข่าวดี ยังไงแวะมาหาฉันเกาหลีมั่งสิ
จะพาเที่ยวให้ชุ่มปลอดเชียว"
"จะลองเอาไปคิดดูนะ แล้วนี่เธอคิดคอนเซ็ปต์ของแฟขั่นโชว์
ที่ปารีสได้รึยัง"
"ก็คิดๆ เอาไว้แล้วล่ะ
พอดียุ่งๆ เลยยังไม่มีเวลาทำจริงจังสักที
เอ่อ วิเวียนค่อยคุยกันนะ
พอดีเหมือนฉันจะเจอเพื่อนเก่าน่ะ"
"โอเคบาย นาน่า"
เพราะชื่อนาบีทำให้เพื่อนชาวต่างชาติออกจะงงๆ
คนส่วนใหญ่จึงเรียกนาบีว่านาน่า ซน
...ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาบี
นั่งอยู่บนwheel chair เธอรู้สึกคุ้นหน้า
ของเขามาก จึงเข้าไปทัก
"สวัสดีค่ะ ใช่คัง มินซู รึเปล่าคะ"
เขาจ้องเธอด้วยความสงสัย
"ครับ ผมคัง มินซู ไม่ทราบว่าคุณคือ"
"เราเองซน นาบี แฝดผีที่นายเรียกไง"
...หลังจากคุยกันอยู่พักใหญ่
นาบีจึงรู้ว่ามินซูประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน
จนต้องตัดขาข้างหนึ่งทิ้ง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการหยุดความฝันของการ
เป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ เขาจ้องมองพวงกุญแจรูปฟุตบอล
ที่ห้อยคู่กันกับรองเท้าสตัฟด้วยแววตาเศร้า...
และวันนี้เขาก็มาใส่ขาเหล็กเป็นครั้งแรก
"เธอได้เจอดาบินบ้างไหม"
จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา
"อื้ม นายอยากเจอดาบินเขาหรอ"
"ตั้งแต่เกิดเรื่องตอนนั้น ฉันคิดว่า
เขาคงไม่อยากเจอฉันอีก
ตลอดชีวิต ยิ่งตอนนี้เขาเป็นถึงนักร้อง
ที่มีชื่อเสียง ฉันไม่อยากสร้างรอยแผลให้เขาอีก
ที่ทำได้ในตอนนี้ก็แค่ติดตามข่าวของเขา
อยู่ห่างๆ"
แม้จะเห็นใจมินซูอยู่บ้าง
แต่นาบีก็เป็นห่วงความรู้สึกของดาบินมากกว่า
ในอดีตซน นาบี คัง มินซู และชเว ดาบิน
สนิทสนมกันมาก เพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน
ตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงชั้นมัธยม
ช่วงไฮสคูลจึงเป็นช่วงที่ทุกคนแยกย้ายกันไป
แต่ทว่าในตอนนั้นมินซูกับคิดเกินเลยกับดาบินมากกว่า
ความเป็นเพื่อน พอดาบินรู้จึงตีตัวออกห่าง
เพราะเขาไม่อาจรับความรู้สึกนี้ของมินซู
ที่ผิดธรรมชาตินี้ได้
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ดาบินก็เก็บตัวมากขึ้น
จนในที่สุดก็ย้ายโรงเรียน...
ในตอนนั้นนาบีไม่รู้ว่ามินซูชอบดาบิน
นึกว่าชอบเพื่อนสาวสักคนในห้อง
เลยช่วยเขาจัดฉากสารภาพรักให้
นาบีเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่มีส่วนในเรื่องนี้
แต่นาบีก็ช่วยพูดให้ดาบินกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม
...เมื่อทราบตารางงานและวันหยุดของ
หนุ่มๆ Zenith นาบีเลยโทรนัดดาบินออกมาพบ
ที่ร้านแห่งหนึ่ง...การปลอมตัวของดาบินจัดได้ว่าใช้ได้และไม่เป็นจุดสนใจ
"ทำไมไม่ไปเจอกันที่บริษัทหรือที่หอพักล่ะ
นัดฉันมาแบบนี้ ต้องมีเรื่องอะไรแน่"
"ค่อยพูดละกันเนอะ ตอนนี้นายทานเค้กช๊อกโกแลตนี่ก่อนสิ
อร่อยมาก"
งั่มๆ นาบีตักเค้กกินอย่างเอร็ดอร่อย
ดาบินชักไม่สนุกด้วย เพราะเริ่มมีสัมผัสพิเศษ
ว่าต้องเจอเกย์เก้เป็นแน่แท้
แน่ละ เพราะเจ้าของร้านเค้กชื่อดัง
อย่าง Bla Bla Bang จ้องเขาด้วยสายตาวิบวับออกจะขนาดนั้น
"มีอะไรก็รีบบอกมาเถอะนาบี
ไม่งั้นฉันจะกลับ"
"เดี๋ยวสิดาบิน ฟังฉันก่อน"
นาบีจับแขนดาบินไว้
"ว่ามา"
"มีคนๆนึง เขาอยากเจอนายมาก
ขอโอกาสให้เขาสักครั้งนะดาบิน
ตอนนี้คนๆ นั้นกำลังลำบากมาก
ถือซะว่าช่วยเขาก็แล้วกันนะ
แค่ไปเจอเขาสักครั้ง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว"
"ใครกันที่อยากเจอฉันน่ะ"
"ฟังให้ดีๆ แล้วก็อย่าตกใจไปนะ
คนที่ฉันกำลังจะบอกนายก็คือ
...คัง มินซู"
ดาบินถึงกับเหงื่อตก
นาบีจับมือเขาไว้แน่น
"ไม่เป็นไรนะดาบิน ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง
เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ"
สถานที่ที่นาบีขับรถพาดาบินมาก็คือ
สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง
มีเด็กชายอายุราวๆ 8-14 ปี อยู่หลายสิบคน
กำลังฝึกซ้อมกันอยู่
ที่ขอบสนาม มีชายคนหนึ่งกำลังมองดูไปที่สนามฟุตบอล
...16...
ดาบินมองมินซูที่มีไม้เท้าค้ำอยู่
และเขาเพิ่งสังเกตเห็นขาเหล็กที่ขาซ้ายของมินซู
นาบีตบไหล่ดาบินเพื่อให้กำลังใจ
"ไปคุยกับเขาหน่อย ส่วนฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้
โชคดีนะ ชเว ดาบิน สู้ๆ"
นาบีทำท่าไฟท์ติ้งสุดฤทธิ์
"อื้ม"
"เด็กที่นี่เยอะดีเหมือนกันนะ นึกแล้วอยากลงไปเล่นด้วยจริงๆ
นายว่ามั้ย"
"ดะ ดาบิน นายจริงๆ ด้วย"
"ใช่ ฉันเอง ดูหน้านายเหมือนไม่ดีใจเลยนะที่เจอฉัน"
"ฉันแค่ตกใจ ไม่คิดว่านาบีจะพานายมาจนได้"
"ไปนั่งคุยกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาไป"
"นายไม่ต้องประคองฉันหรอก ฉันเดินเองจะดีกว่า"
มินซูเอามือปัดมือของดาบินออก
"ฉันดีใจด้วยนะ ในที่สุดนายก็ได้เป็นนักร้องตามที่ตั้งใจไว้
เสียดายไม่รู้ว่านายจะมา ฉันจะได้เอาซีดีมาให้นายเซ็น
แล้วเอาไปฝากมินจีสักหน่อย ยัยนั่นคงดีใจ"
"เอาไอ้นี่ไปแทนละกัน"
ดาบินหยิบPhoto album พร้อมลายเซ็นครบทั้ง4 คน
ของ Zenith ที่อยู่ในกระเป๋าด้านในเสื้อโค้ทสีน้ำเงิน
ก่อนจะ ยื่นให้มินซู
"เสียใจด้วยนะกับอุบัติเหตุครั้งนั้น"
"อื้ม ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องอยู่ให้ได้
อย่างน้อยก็เพื่อมินจี น้องสาวของฉัน"
"ไว้เรามาเตะบอลด้วยกันดีไหม
ตอนที่นายหายดีแล้ว"
"ดาบิน"
"นายไม่ต้องมาส่งสายตาแบบนั้นให้ฉันเลย
เดี๋ยวผื่นฉันก็ขึ้นพอดี"
"เหอะๆ"
"ฉันล้อเล่นน่ะ เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะ
มินซู ฉันพูดจริงๆ นะ"
"คือฉัน..."
"ตอนนั้นฉันเองก็ตกใจมาก แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้าใจ
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามิตรภาพที่เราสร้างขึ้นมาหรอก
ไม่ว่าฉัน นาย รวมถึงนาบีจะเป็นยังไง
แต่ตราบใดที่เรายังคงมีกันและกัน ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่"
"นายไม่เกลียดฉันหรอ"
"เรียกว่ากลัวจะดีกว่า แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ
ไว้ฉันจะแวะมาหานายบ่อยๆ ถ้าฉันว่าง
รักษาตัวด้วยนะมินซู"
ดาบินลุกขึ้นและตบไหล่มินซูก่อนจะขอตัวกลับ
"อื้ม"
มินซูยิ้มสดใส เขาดีใจเหลือเกินที่เจอชเว ดาบิน
อีกครั้ง ผู้ชายที่มีรอยยิ้มสดใส และมีน้ำใจคนนี้
จะอยู่ในใจผู้ชายที่ชื่อคัง มินซูตลอดไป
...
ดาบินรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
เขาเดินมาหานาบีทันทีทีี่คุยกับมินซูเสร็จ
"ต่อไปนี้ฉันคงไม่มีอะไรต้องกลัวอีก
ขอบใจนะนาบี ที่ช่วยปลดพันธนาการที่ฉันสร้างมาเพื่อฆ่า
ความรู้สึกของตัวเอง"
"ถ้านายเป็นสาวสวยแทนที่จะเป็นชายหนุ่ม
ก็คงจะดี มินซูจะได้สมหวังกับเขามั่งว่ามั้ย"
"คนกำลังซึ้ง เธอยังจะมาตลกอีกนะ
ไว้ฉันจะคอยดูตอนที่เธอมีความรัก"
ดาบินยีหัวเพื่อนสาวอย่างหมั่นเขี้ยว
"จะมีใครเขาชอบคนขี้โวยวาย
และเอาแต่ใจอย่างฉันล่ะ วันนั้นคงไม่มีทางมาถึง"
"แต่ฉันกลับคิดว่าเธอจะได้เจอมันเร็วๆ นี้"
"ย่ะ ก็ขอให้มันจริง ขึ้นรถกันเถอะ นายหายออกมาแล้ว
นาอึนจะเป็นห่วงเอา"
"เดี๋ยวนาบี มีอีกเรื่องที่ฉันอยากรู้..."
"ว่ามาสิ"
"เธอสองพี่น้องคิดจะปิดบังฐานะที่แท้จริงไว้อีกนานแค่ไหน"
"ก็คงอีกไม่นานหรอก นายอย่าห่วงเลย"
"เธอคงไม่ได้สังเกตสินะว่ามีอะไรบางอย่างที่แปลกไป"
"อะไรหรอ"
"ฉันคิดว่านาอึนกับแทอึนรักกัน"
"จริงหรอ"
นาบีดูตกใจไม่น้อย
"ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็นนะ
แบบนี้จะยังไงต่อล่ะทีนี้"
"มันคงจะดีถ้านาอึนเป็นแค่ผู้ช่วยผู้จัดการจริงๆ
ไม่ใช่น้องสาวเจ้าของบริษัทจริงมั้ย
อะไรๆ ก็คงจะง่ายขึ้น"
"ฉันนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ว่าแทอึน
จะรู้สึกยังไง"
"เสียดายเจ้านั่นล่ะสิ"
"นิดหน่อยถ้าในฐานะแฟนคลับ
แต่ก็ดีใจสุดๆ ถ้าเขาจะมาเป็นว่าที่พี่เขย
แหะๆ แต่นายเองก็คงจะถูกโกรธไปด้วย"
"ฉันว่าพวกนั้นมีเหตุผลพอ แต่เรื่องบางเรื่อง
มันอาจไม่ต้องใช้เหตุผล เธอว่าจริงมั้ย"
"เฮ้อ แค่คิดก็เศร้าแทนนาอึนจัง
ขอให้อะไรๆ มันผ่านไปด้วยดีทีเถอะ"
"ก็หวังว่าอย่างงั้นนะ ตอนนี้เราต้องกลับกันจริงๆ แล้วล่ะ"
"นั่นสิ"
...17...
ภายในห้องนอนบนชั้น 3 ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเขียว ขาว และดำทั่วทั้งห้อง
อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินน์ที่ถูกออกแบบได้อย่างลงตัว
ตลอดจนพื้นที่ที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ
เหมาะสำหรับเป็นห้องชายโสดยิ่งนัก
"เฮ๊ย นาบีเธอเข้ามาได้ไงเนี่ย"
แทยังตกใจมากที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็เจอนาบี
นั่งทำหน้าตาแป้นแร้นอยู่บนเตียงนอนของเขา
ในขณะที่เขาที่เป็นเจ้าของห้องกลับนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ออกจากห้องน้ำ...
"ก็แค่ใช้กุญแจนี่ไขประตูห้องพี่เข้ามาไงคะ
ไม่เห็นจะยาก แหะๆ"
นาบีชูกุญแจที่ไปขอมาจากพ่อบ้านคิมให้พี่ชายของเธอดู
"เธอนี่นะ ไปๆ ไปรอข้างนอกนู่นไป ขอพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยคุยเถอะนะ"
แทยังเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหัวนม(สีชมพู) ของเขาอย่างเขินอาย
ก็นะ..ถึงยัยจอมแสบนี่จะเป็นน้องสาวของเขาก็เถอะ
แต่ยังไงซะ..ยัยนี่ก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี มีหรอที่เขาอยากจะให้โชว์สรีระให้เธอเห็น
แม้เขาจะจัดได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูแล รักษารูปร่างของตัวเองคนหนึ่ง
"ไม่ต้ององต้องอายหรอกน่า ทั้งซิคแพค วันแพคฉันก็เห็นมาหมดแล้ว"
"ซน นา บี"
แทยังเริ่มเก๊กโหด เพื่อไล่ยัยจอมจุ้นที่เข้ามากวนเขาแต่เช้า
"ไปก็ได้ๆ รีบๆ ด้วยล่ะ คนเขาอุตส่ามีข่าวมาบอก
...เกี่ยวกับพี่จินจูด้วยนะ ข่าวละห้าล้านวอน พี่ต้องจ่ายด้วย"
"ยัยขี้งก"
แทยังตะโกนไล่หลังนาบี แต่ก็แอบยิ้มดีใจ
...นาบีเอาสูทสีกรมท่าที่มีลายดอกไม้ทั่วทั้งตัว
ให้แทยังสวมใส่ กางเกงยีนส์ขาเดปที่สาวเจ้า
จัดเตรียมให้พี่ชายของเธอ
"แค่นี้ก็กระชากวัยเต็มที จาก 27 เหลือแค่ 20 ต้นๆ เชียวนะ
พีี่เชื่อเทสในการเลือกเสื้อผ้าของน้องสาวคนนี้ได้เลย"
นาบีบอกอย่างมั่นใจ แทยังที่ปฏิเสธในตอนแรก
แต่ก็ยอมทำตามคนร่างบางแต่โดยดี
"รองเท้าหนังสีน้ำตาล ฉันเตรียมให้พี่เรียบร้อย
แค่นี้ก็ไปรับพี่จินจูออกจากโรงพยาบาลได้"
"ขอบใจนะนาบี ถ้าแผนนี้สำเร็จ
ทุกอย่างที่เธอต้องการ... เธอจะได้มันไป"
"สัญญาแล้วนะ"
"อื้ม สัญญา"
...นาบียื่นกุหลาบสีเหลืองช่อโตให้แทยัง
"จินจูจะชอบดอกไม้นี่หรอ"
"พี่จินจูบอกฉันเองว่าชอบ ไปไป๊ เข้าไปได้แล้วพี่จ๋า
หมดหน้าที่ฉันแล้ว ต่อจากนี้พี่ต้องใช้ความสามารถเอาเองนะ"
นาบีดันหลังพี่ชายของเธอจนแทบติดประตูห้องพักของจินจู
...จินจูกำลังเก็บข้าวของต่างๆ ยัดลงใส่กระเป๋า
เธอตกใจเล็กน้อยที่เห็นแทยังมาพร้อมกับกุหลาบสีเหลืองช่อโต
"พี่มารับเธอกลับบ้าน...จินจู"
จินจูมองหน้าแทยังอย่างเฉยชา
แต่ก็ก้มศีรษะเล็กน้อย เพื่อทักทายเขาตามมารยาท
และที่สำคัญเขาคือเจ้านายของเธอ
"ฉันกลับเองได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องนะคะท่านประธาน
ไว้ฉันจะชดใช้คืนให้"
"เมื่อไหร่เธอจะยอมรับความรู้สึกของพี่สักที
หรือเธอแกล้งไม่รู้ว่าพี่รู้สึกกับเธอยังไง"
จินจูพยายามจะเดินหนี
แต่แทยังก็มาขวางทางเธอไว้
"ช่วยไปที่หนึ่งด้วยกันก่อน
แล้วพี่จะไม่ยุ่งกับเธออีกเลย"
...สถานที่ที่แทยังพาจินจูมาก็คือ
โรงเรียน St. Anna สถานที่ที่ทำให้เขาและเธอ
ได้เรียนด้วยกันและรู้จักกัน
ภาพเบื้องหน้าของเขาและเธอคือโรงละคร
ของโรงเรียน...ที่ผนังยังมีรอยจางๆ
ของภาพวาด ซึ่งใช้เป็นฉากแบลคกราวน์ของเรื่อง
ในตอนนั้น
...ในอดีตซน แทยัง เป็นประธานนักเรียนที่ป๊อบสุดๆ
ด้วยความที่เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน
และยังร่วมเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ จนมีวงดนตรีที่ชื่อ 'Yawl'
ซง อินนา เพื่อนร่วมชั้นของลี จินจู
เป็นเด็กสาวที่หน้าตาสะสวย และเป็นที่หมายปอง
ของหนุ่มๆ ในโรงเรียน
แต่คนๆ เดียวที่เธอต้องตาต้องใจ คือ ซน แทยัง
รุ่นพี่โปรไฟร์เริ่ดคนนั้น
"ละครเวทีในปีนี้ฉันต้องได้รับคัดเลือกให้ได้
เพราะอะไรรู้มั้ยจินจู ก็พี่แทยังได้เล่นบทพระเอกน่ะสิ
แค่คิดฉันก็ตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับ
เธอต้องช่วยฉันนะ"
จินจูขยับแว่นเล็กน้อยก่อนตอบ
"เธอก็มีทักษะทางการแสดงที่ดีนี่
คงไม่ต้องให้ฉันช่วยหรอกมั้ง"
"ฉันเคยได้ยินเธอร้องเพลงกับเพื่อนๆในชมรมดนตรี
เสียงเธอทั้งหวาน ใส และกังวาน
ถ้าเธอช่วยร้องเพลงให้ฉันตอนออดิชั่น
บวกกับทักษะทางการแสดงของฉัน
รับรองว่าไม่มีใครสู้พวกเราได้"
"แต่มันเป็นการโกงคนอื่นนะ"
"เรื่องแค่นี้เธอช่วยเหลือฉันที่เป็นของเธอไม่ได้เลยหรอ
อย่าลืมสิว่าฉันคือคนที่ช่วยเธอไว้ตอนเธอจมนน้ำตอน 9 ขวบนะ"
ซง อินนารบเร้าจินจูอยู่นาน..สุดท้ายก็ใช้ไม้ตายกับเธอ
จนเธอต้องยอมตอบตกลง
...และก็เป็นไปตามคาดที่ซง อินนา
ได้รับคัดเลือกให้เป็นนางเอกละครเวทีในปีนั้น
(กลับมาที่ปัจจุบัน)
จินจูมองเวทีด้วยความปวดร้าว
เพราะเธอเป็นได้แค่เงาเสียงของอินนา
"เรามาทำให้มันจบเถอะนะ จินจู"
"..."
"เธอจำฉากเต้นรำได้ไหม เรามาเล่นฉากนั้นกันเถอะนะ"
แทยังช้อนสายตามองจินจูด้วยสายตาเว้าวอน
อีกมุมหนึ่งในโรงละคร...
โชคดีที่นาบียังพอมีรุ่นน้องที่สนิทกันอย่างยู ยองแอ
สาวแว่นแก้มยุ้ยที่ตอนนี้กลายมาเป็นครูสาว
ที่สอนวิชาดนตรี เธอกับรุ่นน้องเลยแอบมาเซ็ทฉาก
และเตรียมซาวน์ดนตรีเตรียมไว้
"ยองแอ พอได้รับสัญญาณจากพี่แทยัง
เธอเปิดเพลงได้เลยนะ ส่วนฉันจะไปดู
ความเรียบร้อยหลังเวที"
"ค่ะ รุ่นพี่นาบี ไม่คิดเลยนะคะว่าเราจะได้มาเล่นสนุกๆ
อะไรแบบนี้อีก"
"แหะๆ ไว้สำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะเลี้ยงเธอมื้อใหญ่เลยล่ะ"
สองสาวยิ้มให้กันก่อนแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจ(รัก)ลับ
จินจูยังคงนิ่งเงียบ...
ไม่ว่าแทยังจะพูดอะไรกับเธอ
"ก่อนที่เธอจะตอบรับหรือปฏิเสธพี่
ขอให้เธอได้ดูไดอารี่เล่มนี้ก่อนจะได้ไหม"
เขายัดไดอารี่ที่เอาออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทลายดอกด้านใน
ใส่มือเธอ
ภาพแรก... เป็นภาพที่เธอกำลังจ้องมองไปที่เวที
อย่างมีความสุข เธอยืนท่ามกลางเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
แม้ว่าหน้าตาเธอจะดูไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับน้ำหนักและขนาดตัว
แบะเมื่อเทียบกับเด็กสาวร่างบางที่ยืนข้างๆ
แต่รอยยิ้มสดใส และพวงแก้มสีชมพู ก็ทำให้เธอน่ารักสมวัย
และภาพต่อๆ มาก็เป็นภาพแอบถ่ายในอิริบาบถต่างๆของเธอ
จนรูปสุดท้าย...เป็นรูปที่เธอกำลังยืนร้องเพลงอยู่ในห้องควบคุม
หลังเวที
"ฉันไม่รู้จักเด็กคนนี้หรอก คุณเอาของพวกนี้ให้ผิดคนแล้ว"
จินจูปฏิเสธ
"อย่าปฏิเสธเลยว่าเธอไม่ใช่ลี จินจู ปี 1 ห้อง B
เด็กสาวผมเปีย แก้มยุ้ยที่ยิ้มมีความสุขคนนั้น"
"ไม่มีใครชอบคนอ้วนที่หนักเกือบร้อยกิโลได้หรอกคะ"
"นี่ใช่ไหมคือเหตุผลที่เธอไม่มาเจอพี่อีกเลย"
"ฉันได้ยินทุกคำที่คุณพูดกับอินนา"
"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ คือตอนนั้นพีี..."
"คุณแค่รู้สึกผิดที่ทำให้ฉันเสียใจในตอนนั้น
แต่ในวันนี้ไม่มีลี จินจูที่อ่อนแออีกแล้วล่ะค่ะ"
แทยังตัดสินใจรวบตัวจินจูเข้ามาสวมกอด
เธอดิ้นเพื่อหลุดจากอ้อมกอด..
แต่ทว่ายิ่งดิ้น แทยังก็ยิ่งกอดเธอแน่น
...18...
"แค่อยู่เฉยๆ สักพัก ได้โปรดฟังคำสารภาพจากผู้ชายคนนี้ด้วย"
แทยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แต่มันมีผลทำให้หญิงสาว..ใจสั่นไหวเป็นที่สุด
"ตอนนั้นฉันโกรธซง อินนามาก
เพราะเธอพูดดูถูกเพื่อนสาวของตัวเอง
อย่างไม่น่าให้อภัย..."
"..."
"ภายใต้หน้าตาสะสวย มีแต่ความอิจฉา ริษยาเต็มไปหมด
อินนาต้องการเด่นดังกว่าคนอื่นๆ ตอนนั้นที่บริษัทของคุณปู่
กำลังมีโครงการจะปั้นนักร้อง นักแสดงหน้าใหม่
คิม จูวอน เพื่อนสนิทของพี่บอกว่าคนที่เหมาะสมที่จะไปออดิชั่น
คือเธอนะ ลี จินจู พี่เห็นด้วยและคิดจะไปชวนเธอด้วยตัวเอง
แต่อินนากลับพูดให้เธอในทางที่ไม่ดี"
"แล้วยังไงต่อคะ"
จินจูตั้งใจฟังในเรื่องราวที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
"เธอบอกว่าไม่มีใครรับยัยช้างน้ำเป็นนักร้องหรอก"
"..."
"พี่เลยบอกเธอไปว่า...ใช่ไม่มีใครรับคนแบบนั้นหรอก
แต่ถ้าเธออยู่ฟังให้จบ เธอจะได้ยินในสิ่งที่พี่พูดกับอินนาคืออะไร"
"..."
"พี่ไม่ต้องการคนที่สวยแต่ภายนอก
แต่จิตใจกลับดำมืดแบบนั้นหรอก
คนที่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ
คนแบบนั้นน่ากลัวเหลือเกิน
แม้แต่พี่ที่เป็นผู้ชายก็ยังกลัวคนแบบซง อินนา
แต่ไม่คิดว่าเธอจะหนีไปซะก่อน ก่อนที่พี่จะได้บอกเธอ"
"คำพูดของพี่ทำให้ฉันลดน้ำหนักจนแทบบ้า
ฉันเกือบตาย เพราะคำพูดนั้นของพี่
ฉันไม่อยากจะร้องเพลงอีกเลย
แต่ฉันไม่รู้เลยว่าพี่จะตอบอินนาไปแบบนั้น
และฉันก็รู้ตัวดีว่าถึงยังไงยัยอ้วนอย่างฉันไม่มีทางคู่ควร
กับประธานนักเรียนอย่างพี่ ฮือๆ"
น้ำตาของสาวแกร่งรินไหลจนเปื้อนแก้มทั้งสอง
เธอซุกหน้าเข้ากับแผงอกแกร่ง
เพื่อหาที่พักพิง เธอร้องไห้โฮราวกับเด็กๆ
นั่นก็ทำให้แทยังกระชับร่างเธอแน่นเข้าไปอีก
"ตอนนี้เราเข้าใจกันสักทีนะ"
แทยังปลอบ
จินจูยังคงนิ่งไปตอบ
แทยังใช้นิ้วเรียวยาวของเขา
ปาดน้ำตาที่สองข้างแก้มให้หญิงสาว
ก่อนจะใช้ริมฝีปากของตัวเอง
สัมผัสอย่างแผ่วเบาไปที่ริมฝีปากอวบของจินจู
ก่อนที่ทั้งคู่จะโบยบินไปกับบทเพลงบรรเลงแห่งรัก
ที่มีแต่คนทั้งคู่เท่านั้นที่ได้ยิน
"ผู้ชายคนนี้ตกหลุมรักเสียงเพลงของเธอ
ตั้งแต่ตอนที่ไปโบสถ์ St. Paul
เขารออย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้ถึงวันอาทิตย์สักที
ยิ่งรู้ว่าได้เรียนที่เดียวกัน เขาดีใจมาก
แต่เธอก็มักจะผลักไสเพื่อนของเธอให้กับเขาเสมอ"
"..."
"อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะจินจู กลับมาร้องเพลงอีกสักครั้งเถอะนะ
อย่างน้อยก็เพื่อตัวเธอเอง คนเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเองไม่ใช่หรอ
สิ่งที่เธอบอกกับZenithมาตลอด มันคือความจริง"
"พี่รักฉันขนาดนี้เลยหรอคะ"
จินจูถามตรงๆ
"ถ้าเธอไม่เชื่อ เราแต่งงานกันวันนี้ยังได้นะ"
"ลูกเป็ดขี้เหร่อย่างฉัน ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน"
"ต่อจากนี้ไป มาช่วยกันสร้าง Star Ent.
ให้ดียิ่งขึ้นเถอะนะ"
"ค่ะ"
"แล้วเราก็มาสร้างครอบครัวกัน"
"เรื่องนั้นฉันขอไม่ตอบ ตอนนี้ปล่อยได้แล้วล่ะค่ะ
ฉันแทบจะสำลักความสุขตาย"
แม้จะเป็นใบหน้าไร้เครื่องสำอางที่เปื้อนน้ำตา
แต่รอยยิ้มที่เปร่งประกายตาม
ก็ทำให้ลี จินจู สวยขึ้นไปอีก
และทำให้ชายหนุ่มตรงหน้า
แทบจะไม่อยากละสายตาไปจากเธอ
ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ดูพิเศษมากๆ ในสายตาเขา
"ตอนนี้พี่ได้คืนรอยยิ้มนั้นให้เธอ
ตามที่ได้สัญญาไว้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไป พี่จะเป็นรักษารอยยิ้มนี้ไว้เองนะ"
"ค่ะ"
จินจูประติดประต่อเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
จนเข้าใจ...
ภาพเหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นมาในมโนภาพ..ชัดเจนขึ้น
...หลังจากเรื่องปมในอดีตผ่านพ้นไป
ความชุ่มชื่นในหัวใจก็ตามมา
"ฉันจะไม่ร้องเพลงเพื่อใครอีก
ฉันไม่อยากเป็นแค่เงาของใคร
ฉันจะร้องเพลงเพื่อตัวเองเท่านั้น"
นี่คือคำพูดในวันนั้นที่ลี จินจู จำทันได้เป็นอย่างดี
เธอก็เลือกที่จะซ่อนเสียงของตัวเองเอาไว้ให้ลึกที่สุด
สิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจเธอก็คือเสียงเพลง
ที่ดังมาจากใจของคนอื่น...
การทำหน้าที่ผู้จัดการศิลปิน
ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น
แต่เธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่า
การเข้ามาทำงานที่ Star Ent.
จะทำให้เธอได้พบแทยังอีกครั้ง
และได้ลงเอยกับพี่ชายสุดเท่ที่เธอ
ปลื้มเอามากๆ
"ตั้งแต่นี้ต่อไป พี่จะไม่ให้ผู้จัดการสาวๆ
ต้องดูแลศิลปินหนุ่มอีกต่อไป รวมทั้งเธอด้วย
เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นเลขาฯให้พี่นะรู้มั้ย"
"ไม่ มี ทาง"
"Bravo!"
นาบีตบมือชอบใจกับยองแอ
ที่หลบอยู่ข้างเวที
"ยังกะฉากในหนังเลยนะคะรุ่นพี่
แถมรุ่นพี่แทยัง ไว้เคราด้วย ฉันกรี้ดมากเลยค่ะ"
"นั่นสิเนอะ ฉันเองก็เพิ่งสังเกตว่ามีพี่ชายหน้าตาดี
ดีใจจังตาลุงนั่นสมหวังกะเขาสักที"
"เราไปกันเถอะค่ะรุ่นพี่
มีคนอยากเจอรุ่นพี่เต็มไปหมด
อย่าไปแอบดูคนเขาสวีทกันอีกเลย"
"อื้ม ไปสิ แต่เธอต้องพาฉันไปกินขนมอร่อยๆ
ที่โรงอาหารด้วยนะยองแอ"
"ได้ค่ะรุ่นพี่"
..นาบีแอบคิดถึงวีรกรรมสมัยเรียนของตัวเอง
เพราะที่แห่งนี้ที่ทำให้เธออยากเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง
...19...
ณ กองถ่ายนอกสถานที่ของนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง 'Fad'
นาอึนกะซุลซูไปรับหนุ่มๆ จากหอพักในตอนตี5
ส่วนนาบีตามมาสมทบทีหลังในช่วงประมาณ 9 โมง
ทันทีที่ถึงสถานที่ถ่ายแบบ...จุนฮาแทบจะกระโดดกอดนาบี
เมื่อเห็นหน้าเธอ พร้อมขนมเต็มไม้เต็มมือ
"หายไปตั้งหลายวัน คิดถึงแทบแย่แหนะนูน่า"
"จริงหรอจุนฮา ฉันนึกว่านายจะคิดถึงแต่ขนมของฉันซะอีก
ความจริงฉันมีธุระยุ่งๆ ที่ต้องจัดการน่ะ"
"ใครเขาจะคิดอย่างงั้นกันล่ะฮะ แต่เรื่องขนมก็คิดแค่นิดหน่อย
แหะๆ ก็ผมเป็นเด็กวัยกำลังโตนี่นา
อ้อ แต่มีอยู่คนหนึ่งอาการหนักเชียวล่ะ
เพราะคิดถึงนูน่าจนจะเป็นบ้า"
จุนฮาชี้ไปที่จุนกอลที่นั่งทำหน้าเซ็งๆ
เขารอถ่ายรูปเป็นคนต่อจากดาบินและแทอึน
ที่กำลังถ่ายอยู่ ...เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
และยังคงไม่รับรู้ถึงการมาของคนที่เขาคิดถึงตลอดหลายวันที่ผ่านมา
"เห้อออออ"
"ได้นับบ้างรึเปล่าว่าถอนหายใจไปกี่กิโลแล้วฮะ
ทำหน้าเป็นหมาเหงาไปได้ แฮกๆๆ"
นาบีทำท่าล้อเลียนสุนัขเวลาดีใจที่เจอเจ้าของ
"นาบี"
จุนกอลตาลุกวาว ราวกับเพิ่งมีคนกดปุ่มเปิดสวิตซ์ในตัวเขา
"ใช่ ฉันเอง นายก่อกวนอะไรระหว่างที่ฉันไม่อยู่รึเปล่าเนี่ย
เอ๊ะ! แทอึนสุดที่รักของฉันหายไปไหนนะ"
นาบีสอดส่องสายตาไปทั่ว
"เธอกล้าพูดถึงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสามีได้ยังไงเนี่ย"
"อยากตายรึไง ฮะ ฮัน จุนกอล
เก็บปากนายไว้กินข้าวกับร้องเพลงเพราะๆ เถอะ
น่าจะมีประโยชน์ซะกว่า"
นาบียกกำปั้นขึ้นมาหมายจะชกจุนกอล
"แต่ปากฉัน...ทำอะไรได้มากกว่านั้นอีกนะ
เธอจะลองดูสักหน่อยมั้ย"
จุนกอลยิ้มท้าทาย
"ถ้าว่างนักก็กินไอ้นี่ซะ ปากจะได้ไม่ว่าง"
นาบียัดคุกกี้ใส่ปากจุนกอล
แล้วเดินไปสมทบกับทีมงานอีกหลายคน
นาบีช่วยพี่ๆ คอสตูมจัดแต่งเสื้อผ้าให้หนุ่มๆ Zenith อย่างสนุกสนาน
บางทีก็เสนอไอเดียที่แปลกใหม่ และดึงความเป็นตัวตนของหนุ่มๆ
แต่ละคนออกมาได้อย่างลงตัว เป็นการทำงานที่สนุกสำหรับเธอ
แม้แต่ผ้าพันคอสีแสบตาจากปารีสเธอก็สละให้จุนกอล
อย่างง่ายดาย เพราะมันเข้ากันกับเสื้อที่เขาใส่มาก
นาบีแอบมาดูรูปกับทีมงานด้วย...เพื่อเลือรูปที่ดีที่สุดลงหน้าปก
ฉบับล่าสุดที่กำลังจะวางแผง
ในฐานะแฟนคลับเธอหลงรักเจ้าชายแวมไพร์
อย่างแทอึนเอามากๆ
วันนี้เขาแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและแววตาได้ดี
ดาบินอยู่ในชุดที่สามารถมองเห็นกล้ามโตๆ ของเขา
ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แววตาขี้เล่น ซุกซน
กลับมาอีกครั้ง
จุนฮา...น้องชายหมายเลข 1 หนึ่งเธอก็ดูหล่อ น่ารักสมวัย
เวลาที่เขาโชว์ลีลาการเล่นสเก็ตบอร์ดก็เท่ไม่เบา
แต่รูปที่สามารถทำให้นาบีแทบจะหายใจไม่สะดวก
ก็คือรูปของฮัน จุนกอล ทุกรูป
สายตาของเขาดูมีอำนาจดึงดูดอย่างมหาศาล
คิ้วเข้มได้รูป แพขนตายาวและหนา
จมูกโด่งเป็นสันราวกับมีเชื้อสายมาจากโซนยุโรป
บรัชออนสีโอรส ตัดกับริมฝีปากอวบสีพีช
ถ้าแทอึนคือเจ้าชายแวมไพร์
จุนกอลก็คือเจ้าชายหมาป่าที่หล่อสูสี และลึกลับไม่แพ้กัน
ดังนั้นวง Zenith จึงมีหน้าตาของวงถึง 2 คน
เพราะว่าตัดสินไม่ได้จริงๆ ถ้าวัดกัน ณ จุดนี้
นาบีแอบคิดเล่นๆ ว่า...ฮัน จุนกอลคนนี้เป็นคนรึรูปปั้นของเทพกรีกโรมันกันแน่
จนเธอแอบคิดว่าถ้าเผลอมองรูปเขานานกว่านี้
เธอคงต้องโดนสาปเป็นหิน...โทษฐานที่มองชายหนุ่มนานไปหน่อย
โดยรวมแล้วพวกเขา Zenithเหมาะจะเป็นFlower boy แห่งปี 2012 จริงๆ
ความจริงไม่ว่าพวกเขา4 หนุ่มจะขยับตัวทำอะไร
ที่ไหน ก็มีบรรดาZippie Boy และ Zippie Girl
ให้ความสนใจทั้งข่าวและติดตามไปทุกๆ ที่
ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชน และพวกเขาก็ดังถล่มทลาย
ในsocail network
เบื้องหลังภาพที่ต้องตาต้องใจของจุนกอล
มาจากภาพๆ หนึ่งในโทรศัพท์ของดาบินนั่นเอง
(ก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมง)
"ไง อร่อยมากมั้ยคุกกี้ชิ้นนั้นน่ะ"
"ก็ดี นายถามทำไมหรอคุณลีดเดอร์"
"เปล่า แต่ฉันมีอะไรบางอย่างจะให้นายดู
รับรองว่าต้องถูกใจนาย"
ดาบินเอาภาพที่นาบีแอบหอมแก้มจุนกอล
ที่โรงพยาบาลออกมาให้เขาดู
จุนกอลยิ้มชอบใจ
"ขนาดนอนหลับ มีผ้าพันแผลก็ยังดูดีเหมืิอนกันนะเนี่ยฮัน จุนกอลเอ๊ย"
"นายนี่จริงๆ เลยนะ แต่ก็ดูสูสีกับยัยนาบีดี
ถ้าเป็นนายฉันก็วางใจ ที่จะฝากยัยตัวแสบนี่"
"นายดูออกขนาดนั้นเลยหรอว่าฉันคิดกับยัยผีเสื้อขี้วีนนั่นยังไง"
"นายชอบนาบีมากแค่ไหน มีหรอที่พวกเราจะไม่รู้
ขนาดจุนฮา เจ้านั่นยังรู้เลย"
"แล้วฉันต้องทำยังไง"
"ฉันว่านายมีคำตอบให้กับเรื่องนี้ในใจแล้วล่ะ
ไปเถอะ ถึงคิวนายกับเจ้าเด็กยักษ์แล้ว
ทำให้นาบีตะลึงในความเท่ของนาย
ยัยนั่นแพ้คนตาสวยน่ะรู้ไหม ทำตาหวานๆ เข้าไว้ล่ะ"
ดาบินตบไหล่จุนกอลก่อนเดินไปนัั่งพักกับแทอึน
...20...
หลังจากเสร็จจากงานถ่ายแบบแล้ว
นาอึนก็ใจดีพาหนุ่มๆ รวมทั้งนาบีและซุลซู
ไปทานมื้อใหญ่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ที่ได้จองไว้ล่วงหน้า หรือเรียกได้ว่า
จองเพื่อปิดร้านฉลองจะดีกว่า...แต่ลุงเจ้าของร้านก็เต็มใจที่สุด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการกินเนื้อย่าง
แทอึนก็ฉวยโอกาสนี้พานาอึนแยกตัวออกมา..
"ชุดนี้นาบีเลือกให้เธอสินะ เธอใส่กระโปรงสวยดีนะนาอึน"
"อื้ม นาบีชอบจับฉันแต่งตัวตามใจเธอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ
แต่ฉันก็ชอบที่จะขัดใจเธอ สนุกดี
มาตอนนี้ก็ยังงงๆ ตัวเองอยู่เลย
ว่ายอมให้เธอจับแต่งตัวอีกได้ยังไง"
นาอึนมองเดรสสไตล์โบฮีเมียนของเธอ
ซึ่งเข้าคู่กันได้ดีกับบู๊ทสีน้ำตาล
ผมตัดซอยสั้น..มีกิ๊ปคริสตัลติดอยู่
ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงหน้าเรียวนี้เก๋เข้าไปอีก
แทอึนดึงมือนาอึนขึ้นมาจับ
"ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกนี้
ซน นาอึน"
"พูดอะไรของนายเนี่ย คนเขาเขินหมด
ขืนนายเป็นแบบนี้ ฉันคงทำงานกับนายต่อไปไม่ได้อีก"
"ฮ่าๆ"
"ขำอะไร อยากโดนอัดรึไง"
"เปลี่ยนเป็นจูบแทนได้ไหม"
"พอเถอะน่าแทอึน
เดี๋ยวนี้นายชักเอาใหญ่นะ"
"ฉันเริ่มเป็นคนแบบนี้ก็ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าชอบเธอนั่นแหละ
อีกอย่างจูบแรกของฉัน เธอต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ นาอึน"
"อะไรกัน นายเป็นคนเริ่มก่อนนะ"
"ไม่รู้ล่ะ ไม่งั้นฉันจะไปฟ้องท่านประธานซน แทยัง"
นาอึนหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินชื่อพี่ชายของเธอ
ก่อนจะชวนแทอึนกลับเข้าไปในร้านตามเดิม
...
ในช่วงจังหวะที่นาบีขอตัวมาเข้าห้องน้ำ
เธอแอบผ่านมาเห็นพี่สาวฝาแฝดของเธอ
กำลังกุ๊กกิ๊กๆ กับแทอึน
"พูดอะไรกันนะ เบาจัง"
นาบีเอาหูแนบกับกระจก..เพื่อแอบฟัง
"มาแอบดูคนอื่นจู๋จี๋กันแบบนี้ได้ไงเนี่ย
ยัยผีเสื้อ"
"ว๊าย ตกใจหมด ฉันเกือบหัวใจวายเพราะนาย
รู้ไหม โอ๊ยให้ตายสิ"
"ก็ดีสิ"
นาบีหันไปค้อนชุดใหญ่เข้าให้
"นี่เธอมานี่เลย ปล่อยเขาสวีทกันเถอะน่า
อีกอย่างพี่สาวเธอก็ไม่ได้เป็นเด็กกะโปโลแบบเธอซะที่ไหน"
"โอ๊ย ไม่ไป ลากฉันทำไมยะ ปล่อยนะ ปล่อย"
จุนกอลพานาบี ขึ้นมาบนดาดฟ้าของร้าน
ซึ่งบนนี้สามารถเห็นวิวของย่านคังนัมได้เป็นอย่างดี
"ว้าว สวยจัง สวยสุดๆ ไม่ได้เห็นวิวแบบนี้มานานแค่ไหนนะ
แหะๆ "
นาบีเผยรอยยิ้มสดใส ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวก็ยิ้มตามไปด้วย
ลักยิ้มสองข้างแก้ม...ทำให้ชายหนุ่มข้างๆ ยิ้มไปด้วยเช่นกัน
"มานั่งดูดาวด้วยกันตรงนี้เถอะยัยผีเสื้อ"
ชายหนุ่มชี้ไปที่ที่นั่งตรงม้านั่งที่ว่างอยู่
นาบียอมทำตามอย่างว่าง่าย
แต่ดูเหมือนจะนานไปหน่อย
หญิงสาวจึงสิ้นฤทธิ์โดยง่าย
เธอเผลอหลับซบไหล่ของจุนกอล
อย่างสบายอารมณ์
จุนกอลค่อยๆ ประคองศีรษะเธอให้นอนในอิริยาบถ
ที่ผ่อนคลายขึ้น ขาของเขากลายสภาพเป็นหมอนนุ่มๆ
ให้เธอหนุนนอน จุนกอลนั่งมองดวงดาวบนท้อง
แล้วยิ้มอย่างมีความสุข ดวงจันทร์ในคืนนี้ก็สวยงามเช่นกัน
นาบีค่อยๆ ลืมตาขึ้น
พบว่าจุนกอลช้อนสายตารอเธออยู่ก่อนแล้ว
"โทษทีนะ เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
นายคงเมื่อยแย่"
"นิดหน่อยเอง เราลงไปจากที่นี่กันเถอะ
คนอื่นคงรอเราแย่"
"อื้ม"
ระหว่างที่จุนกอลกำลังจะลุกขึ้นยืน
เขาก็เซล้มลงไป
"ขาเป็นเหน็บน่ะ สงสัยคนบางคนจะนอนทับนานไปหน่อย"
จุนกอลยิ้ม และเป็นรอยยิ้มที่นาบีคิดว่า
สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ประกอบกับดวงตาหวานใส
ที่แอบทะเล้นนั่น...ถ้าต้องเห็นแบบนี้ทุกวัน
เธอต้องแย่แน่ๆ
และคล้ายกับว่าใบหน้าลามไปถึงใบหูของเธอจะค่อยๆ
เปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนเจ้าหัวใจนี่ก็เต้นยังกะจะหลุดออกมาข้างนอก
เธอหวังว่าคนหน้าทะเล้นจะไม่ทันสังเกตอาการแปลกๆ นี้
"งั้นฉันจะประคองนายเองละกันนะ"
"อือ"
...21...
นาบีคิดว่าคืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น
ดวงดาวบนท้องฟ้าก็เช่นกัน ไม่ว่าจะมองมาจากมุมไหนๆ
แม้แต่มองมาจากห้องนอนชั้น 3 ของบ้าน
และคืนนี้เป็นอีกคืนที่ทำให้เธอนอนหลับฝันดี
...ผีเสื้อนับร้อยตัวบินออกมาจากตัวเธอ
จนเต็มห้องนอนไปหมด นั่นคือภาพที่นาบีเห็นในฝัน
...วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งถึงงานประกาศรางวัลด้านงานเพลงที่รวบรวมเอาศิลปินทุกค่าย
เข้าไว้ด้วยกัน...ที่ถูกจัดขึ้นทุกๆ ปี ในช่วงเดือนธันวาคม
การแสดงสดที่เรียกความสนใจของสื่อทุกสถาบันได้เป็นอย่างดี
งานประกาศรางวัลในค่ำคืนนี้คืองาน Banana Music Award 2012
"และแล้วก็เดินทางมาถึงรางวัลสุดท้ายของงาน
เมื่อสัก 8 ปีที่แล้ว ผมยังจำได้วันที่ 2Uมารับรางวัลศิบปินหน้าใหม่ได้
เหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี่เองนะครับ เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ขอเชิญคุณคิม กอนวู The Occupier
คุณยุน เซนา Cutie cute มาเป็นผู้ประกาศรางวัลนี้ด้วยครับ"
ฮัน ซึงจุน พิธีกรหลักของงานในวันนี้ประกาศอยู่ตรงมินิสเตจ
ก่อนส่งต่อหน้าที่ให้พิธีกรรับเชิญทั้งสองทำหน้าที่ต่อ
บนเมนสเตจ
"สวัสดีค่ะ ดิฉันลีดเดอร์เท้าไฟแห่ง Cutie cute ยุน เซนาค่ะ"
"สวัสดีครับ ผมมักเน่หน้าใส คิม กอนวู The Occupier ครับ"
"ค่ะ ต่อไปเราจะประกาศชื่อผู้เข้าชิงในสาขานี้นะคะ มีใครกันบ้างค่ะ
คุณกอนวู"
"ครับศิลปินกลุ่มแรกคือ 5สาวOxygen ที่น่ารักสดใสครับ"
กรี้ดดด กร้าดดดด
"ศิลปินกลุ่มต่อไปคือ 4 หนุ่มสุดฮอต Zenithค่ะ
ดิฉันแอบเชียร์กลุ่มนี้เป็นพิเศษนะคะ
ค่ะต่อไปคือ..."
กรี้ดดด กร้าดดดด
"6 หนุ่มสไตล์อินดี้The Super band"
กรี้ดดดด กร้าดดดด
"ตอนนี้ผลรางวัลอยู่ในมือดิฉันแล้วนะคะ ตื่นเต้นมากเลย
ค่ะ..รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 'super rookie'
ในปีนี้ได้แก่..."
"ได้แก่..."
"4 หนุ่ม Zenith ค่ะ"
"ดีใจด้วยนะครับ เชิญขึ้นมารับรางวัลเลยครับ"
"3 2 1 สวัสดีครับ พวกเราเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุด
Zenith ครับ"
4หนุ่มพูดพร้อมกัน และมีการทำท่าที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเป็นการกล่าวทักทายทุกคน
"ครับก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณท่านประธานซน
ที่ให้โอกาสเด็กธรรมดาอย่างพวกเรา
ได้ทำตามความฝัน ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ
The Star Family ทุกคน ขอบคุณครอบครัว
ของผมและMember คนอื่นๆที่ช่วยสนับสนุนพวกเรา
และสุดท้ายขอบคุณZippie
คนในครอบครัวของ Zenith
ทั้งที่เกาหลีและทั่วโลกที่ช่วยโหวตให้กับพวกเรา
พวกเราสัญญาว่าจะพัฒนาผลงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพให้ได้ชมกันนะครับ
รางวัลนี้เป็นของทุกคนครับ ขอบคุณครับ"
ดาบินพูดก่อนจุ๊บไปที่ถ้วยรางวัล
ก่อนจะชูถ้วยรางวัลขึ้น ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากคนทั้งงาน
ได้ดีทีเดียว
4 หนุ่มกอดกันกลม ดูเหมือนน้องเล็กอย่างจุนฮา
จะไม่สามารถซ่อนน้ำตาเอาไว้ได้
พวกเขาทำความเคารพรอบทิศอย่างสวยงาม
ก่อนจะเดินลงเวทีไปอย่างสง่างามด้วยชุดสูทสีสันเจ็บจี๊ด
ดีไซน์ล้ำจากฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของนาบี
และถือเป็นรางวัลแรก
ที่สมศักดิ์ศรี...ในฐานะศิลปิน
แสงแฟลชจากบรรดาสื่อมวลชนสำนักต่างๆ
สาดส่องที่ใบหน้าของพวกเขา
เช่นเดียวกับเสียงชัดเตอร์ที่กดรัว
เพื่อหามุมภาพที่ดูสมบูรณ์ที่สุด
เพื่อเป็นภาพในพาดหัวข่าวในสกู๊ปพิเศษ
นาบีที่มองดูพวกเขาอยู่บนเวทีอย่างชื่นชม
เธอแทบจะไม่เขื่อสายตาตัวเอง
ว่านี่คือZenith ที่เธอรู้จัก
นาอึนและพี่จินจูรวมถึงคนอื่นๆ
คงภูมิใจในตัวพวกเขาไม่น้อย
...ยิ่งมองดูชุดที่พวกเขาสวมใส่ในวันนี้
เธอก็ยิ้มปลื้มจนแทบแก้มปริ
...ก่อนหน้านี้สามอาทิตย์
เมื่อหนุ่มๆได้รับแจ้งจากทางผู้จัดงานว่า
พวกเขามีรายชื่อเข้าชิงในสองสาขาคือสาขาเพลงยอดนิยมแห่งปี
และสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี
นาอึนก็เรียกให้น้องสาวของเธอไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าที่หนุ่มๆ
จะต้องใช้ใส่ไปร่วมงาน Banana Music Award 2012 นี้
...นาบีเริ่มวัดตัวให้หนุ่มๆ ทีละคน
เริ่มจากดาบิน จุนฮา แทอึน และคนสุดท้ายจุนกอล
ที่เล่นเอาเธอถึงกับเหงื่อตก
"ถ้านายไม่ยืนตัวตรงๆ ให้ฉันวัดตัว
นายก็ไปหาชุดที่จะใส่ไปงานเองเถอะ"
"แน่ใจนะว่าถ้าฉันยืนดีๆ เธอจะทำงานของเธอได้จริงๆ"
จุนกอลช้อนสายตาหวานซึ้งสุดๆ ให้นาบี
จนเธอเป็นฝ่ายประหม่าแทน
"แค่นายให้ความร่วมมือ แค่นั้นงานฉันก็จบ"
จุนกอลยืนตัวแข่งทื่อให้นาบีวัดตัว
นาบีวัดตรงส่วนนั้น ส่วนนี้
แล้วก้มลงจดยิกๆ ในสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือ
เธอยิ้มเมื่อนึกถึงไอเดียที่เพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ
ก่อนจะรีบสเก็ตภาพไว้ จุนกอลได้แต่มองคนหน้าสวย
อย่างตะลึง ก่อนจะแกล้งยั่วเธอกลับ
"เธอก็รู้สัดส่วนฉันหมดแล้ว ฉันเองก็อยากรู้สัดส่วน
ตรงนั้น ตรงนู้น ตรงนี้ของเธอจัง"
"ไอ้คนทะลึ่ง ออกไปได้แล้ว นายนี่มัน...
กวนได้โล่ห์จริงๆ"
"โอ๊ย เกือบไปแล้ว เฮ้อ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
ต้องแย่แน่เลย ใจจ๋าใจช่วยหยุดเต้นแรงๆ ที
พี่นาบีคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ"
เธอพูดกับตัวเอง เมื่อนึกถึงตอนที่ใช้สายวัด
วัดที่รอบเอวของเขา มันเหมือนว่าเธอกำลังกอดเขาไว้มากกว่า
ชุดแรกเป็นชุดของดาบิน
เสื้อเชิ๊ตสีขาวรายจุดสีแดงเล็กๆ เน็กไทด์ลายสก๊อต
แจ๊คเก็ตสีพีชเรียบหรู กับกางเกงขายาวสีชมพู
รองเท้าหนังสือขาวเกลี้ยง...ทุกอย่างนี้ดูเหมาะกับดาบินจริงๆ
จุนกอลในเสื้อสูทสีดำมีลายจุดเล็กๆ สีขาว
สวมทับกับเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายดอกไม้ทั่วทั้งตัวสีสันแสบตา
กางเกงสีเหลืองสุดจี๊ด รองเท้าหนังสีดำทรงเตี้ยจาก Repetto
และนาฬิกาสีเหลืองสะดุดตา โดยรวมแล้วชุดนี้ทำให้เขาโดดเด่นสุดๆ
ชุดต่อมาคือชุดของแทอึน เป็นเสื้อยืดสีขาวลายกราฟฟิก ที่สวมทับกับ
เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์เดนิมสีซีด
บวกกับรองเท้าหนังสือน้ำตาลหัวแหลม ยิ่งเพิ่มเสน่ห์
ให้ชวนมอง
และชุดสุดท้ายที่เป็นของมักเน่ยักษ์ จุนฮา
เสื้อกล้ามสีเขียวขี้มาลายมิกกี้เมาส์
สวมทับกับเสื้อสูทลายดอกสีชมพู
และกางเกงขาสั้นลายเดียวกัน
พร้อมด้วยรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดัง
ก็ทำให้เขาดูหล่อ น่ารัก สมวัย
หลังจากได้รับรางวัลมา..บริษัทก็ย้ายที่อยู่ใหม่ให้กับหนุ่มๆ
เป็นเพนท์เฮาส์สุดหรูที่มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้น 1
ที่ตั้งอยู่ ใจกลางกรุงโซล
มีดาราและนักร้องดังระดับประเทศอาศัยอยู่
โดยบ้านใหม่ของหนุ่มๆ มีห้องนอนด้วยกัน 3 ห้อง
ห้องแรกเป็นห้องนอนใหญ่ เป็นห้องนอนของดาบินและจุนฮา
ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องที่อยู่ข้างๆ กัน คือห้องนอนของจุนกอลและแทอึน
คนละห้อง โดยในห้องนอนแต่ละห้องก็มีห้องน้ำในตัว
ถัดจากห้องนอนออกไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น
เป็นที่ที่หนุ่มๆ มักจะมานั่งเล่นกันพร้อมหน้าพร้อมตา
บางครั้งก็จะมานั่งคุยงาน หรือดูหนังกัน
แต่ส่วนมากแทอึนและจุนฮาจะยึดเป็นที่ดวลกันมนเกมส์มากกว่า
ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นดูจะถูกใจหนุ่มรักสุขภาพและชอบทำอาหารอย่างดาบิน
มีบันไดวนต่อขึ้นไปเป็นชั้นลอยเล็กๆ และถูกจัดแต่ง
ให้เป็นมุมอ่านหนังสือของหนุ่มรักการอ่านอย่างจุนกอล
นาอึนซื้อของใช้มาให้หนุ่มๆ ตามที่เห็นสมควร
และก็แอบมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับหนุ่มๆ
"ทำไมพวกเราสามคนถึงได้กล่องแค่นี้
ทีพี่แทอึนกล่องใหญ่เบ้อเริ่ม
แบบนี้พี่นาอึนก็สองมาตรฐานนี่ครับ"
นาอึนไม่ตอบอะไร ได้แต่เก๊กขรึม
ทำไม่รู้ไม่ชี้
"เด็กบ้า ช่างพวกเขาเหอะน่า นายมานี่เลย
มาช่วยฉันจัดห้องดีกว่า"
จุนกอลลากคอจุนฮาไปกับเขาด้วย
เพื่อเปิดทางให้แทอึนกับนาอึน
ส่วนดาบินก็ชวนนาบีไปคุยกันในห้องครัว
"ทีนี้จะเอายังไงต่อ เธอจะไม่บอกความรู้สึกของเธอ
ให้เจ้านั่นได้รู้หรอ"
"นายพูดถึงเรื่องอะไร ฉันไม่เห็นจะเข้าใจ"
"เธอนี่นะนาบี เข้าใจความรู้สึกคนอื่นเสมอ
แต่เธอกลับไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองสักนิด
โดยเฉพาะเรื่ิองของหัวใจ"
"ฉันเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่กัน ฉันซน นาบี
รู้ใจตัวเองดีที่สุด"
"ถ้าอย่างงั้นก็ขอให้เธอโชคดีละกันนะ
ยัยแฝดผี"
"ย่ะ นายกล้ามปู"
เมื่อรอจนจุนฮา กับดาบิน ออกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ แล้ว
นาบีก็เอาของขวัญชิ้นพิเศษมาให้จุนกอลถึงในห้องบ้าง
"อา ของนายเอาไปสิ"
นาบียื่นกรอบรูปที่ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีแดง
ผูกด้วยริบบิ้นสีขาว พร้อมกับการ์ด
"ถ้าไม่เอา ฉันเอาไปทิ้งนะ"
"เฮ๊ย ไม่ได้ๆ ให้แล้วก็ให้เลยสิ"
"ลองแกะดูสิ"
จุนกอลส่งยิ้มโชว์ฟันครบทั้ง 32 ซี่
ประหนึ่งพรีเซ็นเตอร์ยาสีฟันในโฆษณาให้นาบี
ก่อนจะค่อยๆ แกะของขวัญที่เพิ่งได้รับมา
อย่างทะนุถนอม
ภาพวาดสีน้ำมันที่เป็นภาพเหมือนของจุนกอล
ทำให้เขามองมันอย่างแปลกใจ
"ความจริงนายก็ไม่ได้ดูดีเหมือนในภาพหรอกนะ
ฉันแค่อยากวาดให้มันออกมาดูดีก็แค่นั้นแหละ
จะแขวนตรงไหนดีล่ะ เดี๋ยวฉันช่วย"
นาบีพูดแก้เขิน
"ขอบคุณมากนะนาบี
แต่คราวหน้าขอเป็นรูปเธอได้ไหม
ฉันจะได้เอาไว้ดูก่อนนอน และคงจะนอนหลับฝันดี"
"ฝันร้ายสิไม่ว่า"
จุนกอลหมั่นเขี้ยวเลยดึงสาวเจ้า...นั่งบนตักของเขา
เพื่อให้เธอมานั่งที่เตียงด้วยกัน
"นายทำอะไรน่ะ"
"ขอกอดหน่อยเถอะนะ นะยัยผีเสื้อ
อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้...ใจของฉันเลย"
จุนกอลกระซิบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา
กลิ่นแชมพูอ่อนๆ ลอยมาแตะที่ปลายจมูก
ของชายหนุ่ม เขาเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เลือดในกายหนุ่มสูบฉีดอย่างรวดเร็ว
"หมดหน้าที่ฉันแล้วล่ะ พอถึงพรุ่งนี้
พี่จินจูจะกลับมา ทีนี้นายก็จะได้อารมณ์ดี
ที่ไม่มีคนมาทะเลาะด้วย"
"แล้วถ้าฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะ"
"แบบไหน"
นาบีลืมตัวหันไปหาจุนกอล
ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยว
ประสานเข้ากับดวงตาคู่หวานคม
และทรงเสน่ห์ของชายหนุ่ม
เขายิ้มเหี้ยมเกรียมเหมือนราชสีห์ที่กำลังตะครุบเหยื่อ
ไม่ช้าร่างบางก็ถูกดันในนอนลงบนฟูกที่หนานุ่ม
หญิงสาวไร้เดียงสา..ที่มองโลกสวยงาม
กลายเป็นกวางสาวที่ตกหลุมพรางสายตาอันเย้ายวน
ของราชสีห์หนุ่มอย่างง่ายดาย
นาบีหลับตาพริ้มตาแบบฉบับสาวจินตนาการล้ำเลิศ
ที่ชอบอ่านนิยายโรมานซ์
จุนกอลได้ทีก็สวมบทพระเอกผู้แสนอบอุ่น
มอบจูบที่แสนพิเศษนี้แทนคำพูดนับร้อยนับพัน
ริมฝีปากอุ่นของจุนกอลค่อยๆ ดูดซับ
ความหอมหวานจากนาบี
เขารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ
ทีละนิด ลิ้นยาวสัมผัสกับลิ้นนุ่ม
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างคลอเคลียและดื่มด่ำ
มือทั้งสองประคองลำคอระหงส์ของ
เธอไว้เป็นอย่างดี
กว่าที่คนทั้งคู่จะถอนริมฝีปากออกจากกัน
ก็ตอนที่จุนฮาตะโกนโวยวาย
เคาะห้องนี่แหละ
"ไอ้เด็กแสบนี่ น่าเตะจริงๆ"
จุนกอลฉุนเล็กๆ
ก่อนที่ทั้งคู่จะมองหน้ากันด้วยความรัก
ที่เอ่อล้นในดวงตาและดวงใจที่ค่อยๆ ผูกไว้ด้วยกัน
จุนกอลเผลอมองที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของตัวเอง
และเขาก็พบเส้นด้ายสีแดงที่ผูกไว้ที่นิ้วก้อยข้างขวาของนาบีเช่นกัน
เขาเชื่อในตำนานด้ายแดงที่เหลือเชื่อนี้จริงๆ
เมื่อสติกลับมา...
สาวจิ้นก็ได้วิเคราะห์แล้วว่ารสจูบนี้ช่างหอมหวานนัก..
และที่สำคัญมันติดตรึงใจทั้งเธอและเขา
ไม่ว่าว่าปากของเธอจะบวมเจ่อ รึบวมเป่ง
ตามที่นิยายได้เขียนบรรยายไว้ก็ช่างมันเถอะ
แต่สิ่งที่คิดได้ในตอนนี้คือ จูบ..มันมีรสหวานแปลกๆ ติดที่ปลายลิ้น
และริมฝีปากอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าให้เปรียบจูบ
กับขนมหวานก็คงไม่แปลก
...ลิปสติกสีแดงเลือดนกติดที่ปากของจุนกอล
อย่างไม่ต้องสงสัย
นาบีหัวเราะก๊าก เมื่อเห็นหน้าของชายหนุ่ม
แดงก่ำ... และเขาก็หายใจติดขัด
และเริ่มไอแค๊กๆ เหมือนคนไม่สบาย
ก็เขาเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเริ่มเอง...
นาอึนกับแทอึน รวมทั้งดาบิน
ช่วยกันทำอาหารสำหรับมื้อเย็นที่แสนพิเศษ
จุนฮาที่อาสาเป็นลูกมือแทนการช่วยจุนกอลกับนาบีทำความสะอาด
อยู่ๆ เขาก็แอบกินนู่นกินนี่จนดาบินต้องหันไปดุ
"แหะๆ ผมจะไม่ทำอีกแล้วคร้าบ แหะๆ"
จุนฮาอาศัยความเป็นมักเน่
ทำให้พี่ๆ โกรธเขาไม่ลงจริงๆ
ผ้ากันเปื้อนลายคุณหมีใส่ชุดพ่อครัว
ดูไม่ค่อยเข้ากันกับกล้ามใหญ่ๆ ของดาบินเอาซะเลย
แต่ดูจากทักษะการหยิบจับอุปกรณ์เครื่องครัวอย่างคล่องมือ
ก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อหนุ่มคนนี้เข้าครัวด้วยชั่วโมงบินสูงขนาดไหน
ขัดจากสาวติสท์หนึ่งเดียวในครัวที่ดูจะเก้ๆ กังๆ
“แหะๆ สงสัยฉันคงต้องฝึกอีกเยอะเลย”
นาอึนหันไปยิ้มแหยๆ กับพ่อครัวเอกของ Zenith
...อาหารมื้อเย็นที่แสนพิเศษจัดขึ้นอย่างอบอุ่น
เป็นการเลี้ยงฉลองกันเล็กๆ
ในบ้านหลังใหม่ของหนุ่มๆ Zenith
โดยมีพี่ๆ ในค่ายอย่าง 3 หนุุ่ม
The Occupier ประกอบด้วย
ปาร์ค แทซอง ลีดเดอร์มาดเนี้ยบ
ลี แจชิน มือกีตาร์หน้าหล่อ
และ คิม กอนวู มือกลองหน้าใส
...และสาวๆ Cutie cute
รวมถึงฮัน ซึงจุน ที่ตั้งใจมาเยี่ยมน้องชาย
ที่ไม่ได้เจอกันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา..
อาหารจานแรกคือสลัดกุ้งสดตัวโตๆ
พร้อมกับสารพัดผักและผลไม้หลากสีสัน
ที่ถูกจัดวางอย่างน่าทาน
โดยน้ำสลัดสูตรพิเศษจาดชเว ดาบิน
ผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหาร
เนื่องจากที่บ้านของเขาเปิดร้านอาหาร
อยู่ที่ชิคาโก้ จานที่สองเป็นสเต๊กปลาแซลมอน
ราดซอสครีมส้ม จานสุดท้ายเป็นไก่ทอดพริกไทยดำ
ตบท้ายด้วยวาฟเฟิลราดน้ำผึ้ง จัดหน้าด้วยวิปครีม
และสตอเบอร์รี่ จุนฮาที่ดูจะถูกใจกับอาหารแต่ละจาน
เครื่องดื่มในวันนี้ก็เป็นว้อดก้าชั้นเยี่ยม
และน้ำพั้นช์สูตรพิเศษจากนาบี
มีแต่จุนฮาที่ต้องดื่มโคล่ากระป๋อง
เพราะว่าเขาอายยุยังไม่ถึง อึนนาเลยไม่อนุญาต
"ฮยองว่าผมต้องรีบมีแฟนดีมั้ย
ดูพี่แทอึนกับพี่จุนกอลทำสิ คนเค้าอิจฉารู้มั้ยเนี่ย"
"นายไม่ต้องรีบหาแฟนหรอกน่า
เดี๋ยวความรักดีๆ ก็วิ่งตามนายเองนั่นแหละ
อีกอย่างเรามี Zippie ทั่วโลก ก็เพียงพอแล้วล่ะ"
ดาบินพูด ก่อนที้งหัวจุนฮาเล่น
"พี่นี่มันผู้ชายโลกสวยตัวจริงเลยนะเนี่ย
เพราะแบบนี้สินะในแฟนฟิค(ชั่น)
พี่ถึงเป็นฝ่ายโดนกระทำตลอด"
"นายหมายความว่าไง แฟนฟิคอะไรกัน"
"แหะๆ พี่อย่ารู้ดีกว่านะ"
จุนฮายิ้มอย่างมีนัยแอบแฝง
แต่ก็แกล้งยัดของกินที่อยู่ตรงหน้าเข้าปากคำโต
ขืนเขาบอกไปตรงๆ ว่า
แฟนฟิคที่เขาอ่านตามบล็อก(เป็นงานอดิเรก)
มันมีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับพวกเขา.. Zenith
ชนิดที่ทั้งเรื่องเป็นความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่าง
ชายรักชาย ดาบินต้องช็อคตายแน่
ที่สำคัญคนที่แนะนำให้จุนฮาเข้าถึงแฟนคลับของพวกเขา
ด้วยวิธีนี้คือ คิม กอนวู รุ่นพี่ในค่ายที่เขาสนิทด้วยสุดๆ นั่นเอง
นี่คือตัวอย่างบทสนทนาในSocial network
ที่จุนฮาของเราแอบเล่น กับซิปปี้สาวนางหนึ่ง
Giant Rapper : ฉันเพิ่งอ่านฟิคตอนล่าสุดที่เธอลงไว้ สนุกมากเลย
ช่วยแอบสปอยด์ตอนหน้านิดๆ หน่อยๆ ได้ไหม
ฉันลุ้นแทบแย่ พี่ดาบินจะลงเอยกับพี่จุนกอลรึเปล่า?
Zippie jung : เสียใจ นายต้องรอต่อไปนะจ๊ะ นาย@Giant Rapper
Giant Rapper : ใจร้ายๆ ถ้าฉันเป็นจุนฮา ฉันต้องโกรธเธอมากๆ เลย
Zippie jung : งั้นฉันก็เป็นคงเป็นภรรยาชเว ดาบิน ㅋㅋㅋ
Giant Rapper : ㅠ,ㅠ
"แบบนี้เราก็เป็นคู่รักแรปเปอร์แทฮาน่ะสิ
ไม่เอาๆ ฉันอยากคู่กับพี่ดาบินคนเดียวนี่นา"
จุนฮาแอบฟิน หลังจากที่ได้อ่านแฟนฟิค
++++
...เช้าวันรุ่งขึ้น
...ห้องทำงานบนชั้น 37 ของ Bottle Building
อันเป็นห้องทำงานของซน แทยัง
"ภารกิจของพวกเธอจบลงแล้วนะสองสาว
ต่อไปนี้หน้าที่ดูแล Zenith ให้เป็นหน้าที่ของ
คุณชเว คังโฮเถอะ เขาคือคนที่พี่เชื่อใจได้"
นาอึนกับนาบีมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกใจหาย
เพราะการที่หนุ่มๆได้รับรางวัล
super rookie แห่งปีก็เท่ากับภารกิจบรรลุผล
และพวกเธอก็หมดหน้าที่ที่มีต่อหนุ่มๆ
แต่ทว่าภารกิจหัวใจ..เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น
"รายละเอียดต่างๆ ของเจ้าพวกนั้น
ทั้งฉันแล้วก็นาอึนจดในสมุดบันทึกนี่ให้แล้วนะคะ
ต่อไปนี้เราคงไม่ได้ไปดูแลพวกเขาอีก"
ลี จินจู อดีตผู้จัดการวงพูดอย่างเศร้าๆ
"นาบีเดี๋ยวเธอช่วยพี่เตรียมงานครบรอบของStar Ent.ทีนะ
ส่วนนาอึน ตอนนี้เธอได้เป็นรองประธานฝ่ายดูแล
และจัดการศิลปินเต็มตัวแล้วนะ ส่วนเรื่องที่เธอจะมาเป็นหนึ่งใน
โปรดิวเซอร์ด้วยพี่ก็ไม่ขัดข้องอะไร พี่ได้เตรียมการสำหรับ
ตำแหน่งใหม่ของพวกเธอแล้วล่ะ
อ้อ อีกเรื่อง ห้องทำงานของเธออยู่ที่ชั้น 36
ขาดเหลืออะไรบอกได้นะ"
"ค่ะ พี่ เอ้ย ท่านประธานซน"
"ส่วนคุณแค่อยู่ข้างๆ อย่าหนีผมไปไหนก็พอ"
"นี่พี่หน้าหนวดคะ จะสวีทกันใครเขาก็ไม่ว่าหรอกคะ
แต่ช่วยรอฉันกับนาบีออกไปก่อนจะได้ไหมคะ"
"ก็คนเขารักกัน อ๊าก"
จินจูหยิกที่ต้นแขนของประธานหนุ่ม
"สมน้ำหน้า เราไปกันเถอะนาบี ไม่อยากเป็นส่วนเกิน"
"นั่นสิ คนนี้ยกให้แล้วไม่รับคืนนะคะพี่จินจู"
จินจูยิ้มรับแทนคำตอบ
...บ่ายวันเดียวกันนั้นเอง
แทยังตามให้กีอุน ลุงของเขาไปพบที่ห้อง
"เชิญนั่งครับคุณลุง จะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ"
"ฮะๆ อย่าลำบากเลยหลานชาย มีอะไรก็ว่ามาเถอะ"
"เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ...ผมทราบเรื่องที่คุณลุง
กับพรรคพวกยักยอกเงินบริษัท คุณลุงคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงครับ"
"อย่ามากล่าวหากันลอยๆ นะแทยัง ฉันฟ้องแกได้นะ"
"ก็เชิญสิครับ คุณคิดว่าผมไม่มีหลักฐานเอาผิดกับคุณหรอครับ
คุณซน กีอุน"
"แก...ไอ้เด็กเมื่อวานซืน"
"ผมจะให้โอกาสคุณลุงไปสารภาพกับคุณปู่
แล้วผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ
แต่เรื่องเงินที่คุณลุงเอาไป จะต้องหามาใช้คืนให้บริษัท
อย่างครบถ้วน"
ซน กีอุน หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
ก่อนจะทุบโต๊ะเสียงดัง
"ผมยังเห็นคุณลุงเป็นในครอบครัวอยู่นะครับ
ผมหวังว่าคุณลุงคงไม่คิดทำเรื่องไม่ดีขึ้นอีก"
"ได้ ฉันรับข้อเสนอแก ฉันผิดเองที่อยากมีธุรกิจ
เป็นของตัวเอง แต่ฉันก็ทำพลาด ฉันอยากรักษาธุรกิจของตัวเองเอาไว้
เลยต้องคิดชั่ว ทำผิดกับStar Ent.แบบนี้"
ซน กีอุนตีหน้าเศร้า แท้จริงแล้วเขายังไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำเลยสักนิด
แต่ในใจคิดแต่จะหาทางแก้แค้นอย่างสาสม
"ขอบใจที่ให้โอกาสฉัน ขอบใจมาก"
"จบธุระแล้วคุณลุงไปทำงานต่อเถอะครับ
อีก 10 นาที ผมมีประชุม"
กีอุนจากไปด้วยความแค้นใจ
"เลขาฯ คิม เข้ามาพบผมหน่อย"
แทยังเป็นห่วงคนในครอบครัวจะเกิดอันตราย
จึงได้จ้างบอร์ดี้การ์ดคุ้มกันอย่างเงียบๆ
ครอบครัวของลี จินจูและตัวเธอก็เช่นกัน
"ถ้าเกิดผมเป็นอะไรไปในตอนนี้
มีคนเดียวเท่านั้น คุณรู้ใช่ไหมว่าใคร"
"ครับ คุณแทยัง"
"จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
ผมไม่อยากให้งานเลี้ยงครบรอบของบริษัทต้องมีปัญหา"
แทยังหันไปสั่งงานเครียดกับเลขาฯ คู่ใจ
รวมทั้งสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อนไหวของซน กีอุน
และพรรคพวก และคอยรายงานเขาทุกระยะ
...22...
งานเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 26 ของ Star Ent.
ถูกจัดขึ้นที่Paradise Hotel สาขาเกาะเชจู
และบรรยากาศก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน
สองสาวหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะงานนี้นอกจากจะเป็นการฉลองให้กับบริษัท
แต่ยังเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะทายาทสายดนตรี
ของอดีตประธานซน แทยอง
หนุ่มๆ Zenith เองก็แปลกใจที่สองสาวฝาแฝด
บอกให้ไปเจอกันในงานเลย ทั้งที่สัญญากันดิบดี
ว่านะมางานนี้พร้อมๆ กัน
จุนกอลที่เลือกเสื้อผ้าไม่ได้สักที
จนคนอื่นๆ ต้องเข้ามาเร่ง เพราะใกล้จะถึงเวลางานเต็มที
"ใส่ๆ ไปเหอะพี่ ยังไงพี่ก็ไม่หล่อไปกว่านี้แล้วล่ะ"
"อยากโดนเตะรึไงจุนฮา ออกไปเลยไป"
"ถ้านาบีนูน่าอยู่ช่วยเลือกคงจะดีนะฮะ"
"ก็บอกให้ออกไปไง ไอ้เด็กบ้า"
"ออกก็ได้คร้าบ แบร่"
จุนฮาแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียน
"นั่นสิ ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ยัยนั่นเลือก
ยังไงก็ต้องออกมาดีที่สุด"
จุนกอลหยิบสร้อยคอทองคำขาว
ที่มีจี้ห้อยรูปผีเสื้อที่เขาสั่งทำพิเศษ
เพื่อเตรียมเอาไว้ให้กับยัยผีเสื้อขี้วีน
ของเขา...ผีเสื้อที่ชื่อซน นาบี
ครอบครัวของแทยังมาถึงที่โรงแรมด้วยเครื่องบินส่วนตัวตั้งแต่ช่วงสาย
เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของงาน
นาบีออกแบบและตัดเย็บชุดราตรีสีทองที่เธอสวมใส่ด้วยตัวเอง
ส่วนนาอึนก็เลือกซื้อชุดเดรสสั้นยาวกรอมเข่าสีชมพู
ที่มีดีไซน์เหมาะกับบุคลิกของเธอที่สุด
นาบีรวบผมแบบลวกๆ แต่มีสไตล์
เธอแต่งตาด้วยอายไลเนอร์
เขียนขอบตาคมกริบ เขียนใต้ตาด้วยชิมเมอร์สีนู้ด
ก่อนจะปัดแก้มด้วยบลัชออนสีส้มสดใส
กลางเรียวแก้ม ทาอายแชโดร์โทนสีน้ำตาลทอง
ทาปากด้วยลิปสติกสีส้มโฉบเฉี่ยว
ปิดท้ายด้วยการดัดขนตา
ให้งอนงาม เธอนึกอิจฉาแพขนตายาวของจุนกอล
ขึ้นมาทุกครั้งที่แต่งหน้า เพราะเจ้าสิ่งนี้จึงทำให้ดวงตาคู่นั้นหวานซึ้ง
อย่างเป็นธรรมชาติ
ก่อนจะหันไปจัดการกับใบหน้าเรียวเก๋ของพี่สาวฝาแฝด
ที่ลงรองพื้นบนใบหน้ารอ...จนเมื่อย
นาบีเลือกใช้อายแชโดร์ชนิดครีมสีโอรสทาที่เปลือกตา
ก่อนจะกรีดอายไลเนอร์บางๆ
ใช้บรัชออนสีชมพูทาไปที่กลางเรียวแก้มป่องๆ
ของนาอึน แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูนู้ด
ก่อนจะหันไปสั่งให้พี่สาวดัดขนตาของตัวเอง
"แค่นี้ก็สวยหวานจนแทอึนต้องตะลึงไปหลายนาทีเลยล่ะ
ถ้าไม่ใช่พี่สาวสุดที่รักของฉันน่ะนะ
ฉันไม่มีทางยกแทอึนให้เด็ดขาด"
นาบีแกล้งกระเซ้า ก่อนจะมองไปที่กระจก
และกอดคอพี่สาวของเธอไว้
ในกระจกปรากฏภาพของสองสาวที่มีหน้าตา
เหมือนกันราวกับแกะ
"แต่ฉันกลับคิดถึงอีกเรื่องที่น่าหนักใจกว่า"
"เธอหมายถึง..."
"แทอึนและคนอื่นๆ จะคิดว่าเราหลอกลวงพวกเขา
ถึงจะมีดาบินที่เข้าใจ แต่ฉันก็ยังนึกกลัวอยู่ดี"
"ดูไม่เหมือนกับนาอึนที่ตัดสินใจอะไรไม่เคยพลาดเลยนะ"
"นั่นน่ะสิ ฉันเองก็ยังแปลกใจตัวเอง
ก็ได้แต่หวังว่าแทอึนจะยอมรับฟัง
เรื่องของความรักนี่ใช้สมองแก้ไขไม่ได้จริงๆ"
"คงใช่"
นาบีเองก็นึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาทันที
ถ้าเกิดนายจอมกวนโกรธจนไม่อยากพูดกับเธออีก
เธอคงทนไม่ได้
...23...
...งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง
คุณปู่วัย 65 ก็ขึ้นมาโชว์ลูกคอเสียหลายเพลง
และก็มีการจับรางวัลเพื่อสร้างสีสันตลอดทั้งงาน
อาหารชั้นเลิศถูกจัด้ตรียมไว้บริการในหลายๆ จุด
มีการเต้นรำเปิดฟลอร์เต้นรำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
"ให้เกียรติเต้นรำกับพี่สักเพลงนะจินจู"
"ค่ะ"
คู่ของแทยังกับจินจูเต้นรำราวกับคู่เจ้าชายเจ้าหญิงในนิทาน
และสะกดแขกในงานไปตามๆ กัน แต่ก็มีทีมงานและศิลปิน
ขึ้นมาเต้นรำกลางฟลอร์ สร้างความครึกครื้น
ก่อนที่จะมีการสลับสับเปลี่ยน..หมุนเวียนเป็นการแสดงสด
ของเหล่าศิลปินในค่ายและร่วมอวยพร
นาอึนชวนแทอึนออกไปเดินเล่นริมสระว่ายน้ำอีกฝั่งหนึ่ง
เธออยากสารภาพกับเขาก่อนที่เขาจะรู้ความจริงจากคนอื่นก่อน..
"ดูเหมือนเธอมีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉัน ใช่ไหม"
"ใช่ เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันหนักใจมาตลอดหลายวันนี้"
"มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกมาเถอะ"
"จริงๆ นะ"
แทอึนจับมือหญิงสาวขึ้นมากุมไว้
เพื่อมอบพลังให้กับเธอ...
"ถ้าฉันไม่ได้เป็นฉันอย่างที่นายรู้จักและเข้าใจ
นายจะยัง..."
อยู่ๆ คำพูดที่นาอึนเตรียมมาพูดก็จุกอยู่ที่ปาก
"ฉันเชื่อในเซ้นส์ของตัวเองเสมอ
เธอเป็นยังไงไม่ใช่ฉันหรอที่รู้ดีที่สุด
เลิกกังวลได้แล้วนะ"
"ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดาในบริษัท
แต่ฉันเป็นน้องสาวท่านประธานนายจะว่ายังไง"
แทอึนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"แต่เธอก็คือซน นาอึน และตัวตนของเธอ
ก็คือสิ่งที่ฉันสัมผัสได้ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ไม่ใช่หรอ
เธอคงไม่ได้หลอกฉัน...เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม"
"แทอึน คือฉัน"
"ฉันก็แค่...ต้องทำตัวให้ดีให้สมกับที่น้องสาวของท่านประธาน
ยอมลดตัวมาคบด้วย"
"นายอย่าพูดอย่างนั้น นายมีค่าสำหรับฉันเสมอ
ขอบคุณนะที่ไม่โกรธ ไม่เกลียดฉัน ฮือๆ"
...ในวินาทีนี้เองที่นาอึนรู้ตัวว่าเธออ่อนแอเหลือเกิน
น้ำตาของเธอไหลลงมาอย่างไม่มีเหตุผล
สาวตรรกะเป็นเลิศ...รู้ว่าสมองของเธอตอนนี้
มันช่างว่างเปล่าไปหมด
แทอึนสบตานาอึนนิ่ง ก่อนจะจูบปลอบเธอ
"ขอแค่เป็นเธอ ฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
ต่อให้ท่านประธานไม่ยอมรับ ฉันก็จะพิสูจน์
ให้เห็นถึงความจริงใจของฉัน อยู่ข้างๆ ฉันตลอดไปนะ
นาอึน"
"ขอบใจนะแทอึน ขอบใจจริงๆ"
แทอึนกระชับกอดแน่นขึ้น
มือทั้งสองข้างสัมผัสกับผิวขาวเนียน
ตรงบริเวณแผ่นหลังที่เปิดเปลือยของนาอึน
ก่อนจะกระซิบอย่างแผ่วเบา
"ตอนเธอร้องไห้นี่เซ็กซี่เหมือนกันนะ"
นาอึนรีบปาดน้ำตา ก่อนจะเปลี่ยนโหมดกับมาโหดใส่เขาคืน
ด้วยการทุบหน้าอกเขาแทน
"เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะนายน่ะ"
"เธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ
ที่ปลุกร่างอสูรร้ายที่หลับไหลในตัวฉันออกมา"
แทอึนจูบที่หน้าผากของนาอึนหนึ่งที
ก่อนที่ทั้งคู่จะชวนกันกลับเข้าไปในงาน
...ลูกน้องของซน กีอุน กำลังเดินเกมส์ตามแผนที่วางไว้
ยู แจมิน คือหนึ่งในพนักงานของ Star Ent.
ที่โดนไล่ออก เพราะแอบเอาข้อมูลศิลปิน
ไปบอกกับนักข่าวและบริษัทคู่แข่ง
แต่ซน กีอุนก็แอบเลี้ยงดูเขาไว้ใช้งาน
รวมถึงเพื่อนอันธพาลหัวไม้อีก 2 คน
ของยู แจมิน
+++24+++
นาบีที่เดินพล่านทั่วทั้งงานอย่างร้อนใจ
สาวเจ้าเริ่มหน้าตูมขึ้นมาทันที
เมื่อไม่เจอเป้าหมายอย่างฮัน จุนกอล
"ดาบิน นายเห็นจุนกอลรึเปล่า
ฉันเดินหาซะทั่วงาน ยังไม่เจอเลย"
"เห็นไปคุยกะรุ่นพี่ The Occupier ตรงล๊อบบี้น่ะ"
"ขอบใจมากนะดาบิน แล้วค่อยคุยกันนะ ฉันรีบ"
ท่าทางของนาบีรีบร้อนอย่างที่เธอว่าจริงๆ
เพราะเธอหายไปจากห้องจัดเลี้ยงอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษนะคะ ขอยืมตัวฮัน จุนกอลสักครู่"
นาบีลากจุนกอลออกมาจากวงสนทนา
แต่ 3 หนุ่ม The Occupier พอรู้มาบ้างว่าเธอคือใคร
เลยไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาแค่ยิ้มทักทายเธอตามมารยาท
"ลากฉันออกมาแบบนี้มีอะไรรึเปล่า"
"ก็มีนิดหน่อย แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี"
"ก็พูดมาสิ ถ้าเธอไม่พูดฉันจะรู้ได้ยังไง"
"คือว่าฉัน..."
"ถ้าเธอไม่พูด งั้นฉันขอพูดก่อนละกันนะ"
"เอ่อ อืมม์ นายเชิญพูดก่อนได้เลย"
"ตั้งใจฟังดีๆ ล่ะ"
"อื้ม"
"แม้ว่าพระจันทร์บนทองฟ้ายามค่ำคืนจะสวยมากแค่ไหน
แต่เมื่อเทียบกับเธอ มันสวยน้อยกว่า"
"นายไปจำคำพูดเชยๆ นี่มาจากไหนเนี่ย"
"ฉันเหมือนคนบ้าที่ยิ้มและหัวเราะคนเดียวได้
ฉันเริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเอง
ก็ตอนที่มองหน้าเธออยู่"
"..."
"ฉันแอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าเธอหายไปจากชีวิตฉัน
แม้แต่วันเดียว ฉันจะเป็นยังไง"
"อา..."
"ฉันอยู่โดยขาดเธอไม่ได้ เธอคือออกซิเจน
ของฉัน ซน นาบี"
"จุนกอล อา"
จุนกอลหยิบสร้อยคอออกจากกระเป๋าเสื้อสูท
ก่อนจะสวมไปที่ลำคอยาวระหงส์ของนาบี
"สร้อยคอเส้นนี้อาจไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร
แต่ฉันมั่นใจว่า...จะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่คู่ควร
กับสร้อยเส้นนี้ได้เหมือนกับเธอ"
"ถ้าเอาไปขายจะได้สักกี่วอนกันนะ"
นาบีพูดแก้เขิน
"เธออยากตายรึไง ทำไมถึงชอบทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้"
"ล้อเล่นน่ะ ฉันจะรักษามันเป็นอย่างดี
ผีเสื้อบนจี้ รวมทั้งผีเสื้อตัวนี้ จะโบยบินอยู่ๆ ข้างๆ
ดวงดาวอย่างนายด้วยปีกและกำลังของตัวเอง
และจะไม่หนีไปไหน แม้ว่านายจะไล่ไปก็ตาม"
ผีเสื้ออีกตัวที่นาบีหมายถึงก็คือตัวเธอเอง
"เธอก็ใช้คำพูดได้เชยไม่แพ้ฉันเหมือนกันนั่นแหละ"
"งั้นเราก็เสมอกันนะ"
"เธอจะไม่บอกหน่อยหรอว่ารักฉัน"
"ไม่เอา ไม่บอกหรอก"
"น่านะ สักครั้งให้ฉันได้ชื่นใจ ไม่ได้เลยหรอ"
"If you look at my eyes, you'll know all about of
my heart that saying I love you"
"I lose my control when I look at your adorable smile."
"บอกแล้วนะความรู้สึกของฉันน่ะ แต่มีอีกเรื่องที่ฉันจะบอกก็คือ..."
อยู่ๆ ก็มีพนักงานของโรงแรมเข้ามาขัดจังหวะคนทั้งคู่
"คุณนาบีครับ ท่านประธานให้มาตามไปพบครับ"
"ตอนนี้เลยหรอ นายนี่ช่างมาไม่ถูกเวลาจริงๆ"
นาบีนึกโกรธพนักงานชายในโรงแรมคนนี้้ซะเหลือเกิน
"เธอรีบเข้าไปเถอะ ส่วนฉันจะตามไปทีหลัง"
จุนกอลบอก
"แต่เรื่องที่เราคุยกันค้างไว้ตะกี้..จุ๊บ"
นาบีกระโดดจุ๊บจุนกอลชนิดที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว
"ไว้เรามาคุยกันต่อนะจุนกอล"
นาบีก้าวฉับๆ ตามพนักงานคนนั้นไป
...ไม่นานจุนกอลก็กลับเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง
และก็เป็นช่วงที่พิธีกรกำลังประกาศหา ซน นาบี พอดี
จุนกอลชะงักเมื่อได้ยินชื่อนี้...
"จุนกอลนายมาก็ดีแล้ว นายเห็นนาบีรึเปล่า"
ดาบินถาม
"ก็เห็นนะ แต่เธอน่าจะอยู่ในนี้แล้วนี่นา
ก็ตะกี้มีพนักงานของโรงแรมบอกว่าท่านประธาน
ให้มาตาม ก็น่าจะสัก 10 นาทีก่อนหน้านี้"
"หายไปไหนของเขานะนะ นี่ฉันโทรตามจนมือหงิกแล้ว
เธอก็ไม่รับสักที"
นาอึนก็ร้อนใจไม่แพ้กัน
"งั้นฉันจะไปบอกให้คนอื่นๆ ช่วยกันตามหา"
นาอึนว่า
"งั้นฉันไปกับเธอเอง ส่วนนายดาบิน จุนกอล
แล้วก็จุนฮาแยกย้ายกันหา แล้วกลับมาเจอกันที่ล๊อบบี้โรงแรมตกลงมั้ย"
แทอึนออกความเห็น
แต่ดูเหมือนว่าจุนกอลจะออกไปโดยที่ไม่ได้ฟังอะไรเลย
"ปล่อยเขาไป ส่วนคนอื่นๆ ทำตามที่ฉันว่า"
แทอึนบอกกับคนอื่นๆ
...นาอึนรีบเดินมาบอกแทยังที่อยู่ข้างเวทีกับจินจู
"ว่าไงนะพี่ นาบีหายไปหรอ"
"ใช่ค่ะ พี่แทยัง แต่ตอนนี้เราจะให้คุณปู่รู้ไม่ได้ว่าน้องหายไป"
"เข้าใจล่ะ เรื่องคุณปู่ พี่จะจัดการเอง"
"ที่เหลือฉัน กับแทอึนแล้วก็คนอื่นๆ จะจัดการเอง"
"ฝากด้วยนะ"
"ค่ะ"
...ดูเหมือนว่าแทยังจะประเมินกีอุน ลุงของเขาต่ำไป
เขาหันไปสั่งตำรวจนอกเครื่องแบบ
และทีมบอร์ดี้การ์ดชั้นเยี่ยม
ให้ระดมกำลังตามหานาบีทั่วทั้งเกาะเซจู
"ไม่ว่ายังไงน้องสาวของฉันจะต้องปลอดภัย
จับคนร้ายมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย"
แทยังดูแววตาดุดันขึ้นจนน่าตกใจ
...และงานเลี้ยงก็เป็นอันต้องจบลง
ก่อนที่ทุกคนจะทะยอยขึ้นห้องพักไป
++++
นาบีถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้
ก่อนที่จะถูกดึงเอาผ้าคลุมหน้าออก
เธอมองไปรอบๆ มันเหมือนกับโกดังร้างสักที่
ที่น่าจะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
ชายฉกรรจ์ 3 คน เดินเข้ามาพร้อมกับชายอีก 1 คน
ที่เธอคุ้นหน้ามาทั้งชีวิต
"คุณลุงช่วยหนูด้วย คนพวกนี้จับหนูมา"
"ช่วยหรอ ฝันไปเถอะ ฉันวางแผนแทบตาย
กว่าจะจับแกมาได้"
"คุณลุงต้องการอะไร ทำไมคุณลุงพูดแบบนี้ค่ะ"
"ก็ปู่ของแกน่ะสิ เขาไม่เคยรักฉันเลย
เขารักแต่ไอ้แทมิน ไอ้คนอ่อนแอคนนั้น
ถ้าไม่มีมันเกิดมาบนโลกนี้ ปู่กับย่าของแก
รวมถึงชินเอก็จะรักฉัน ซน กีอุนคนนี้
ฉันจะได้เป็นเจ้าของ Star Ent.
เพียงคนเดียว ฮ่าๆ"
"ที่คุณลุงต้องเป็นแบบนี้ ก็เพราะความเห็นแก่ตัวและละโมภของคุณลุงเองทั้งนั้น
ถ้าคุณลุงเป็นคนที่ไว้ใจได้คุณปู่คงไม่ต้องให้พี่แทยังมาบริหารบริษัทหรอกค่ะ"
เปรี๊ยะ!
กีอุนโมโหตบหน้านาบีฉาดใหญ่
จนมีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก
และมีรอยแดงเป็นรูปนิ้วทั้ง5นิ้วอยู่บนหน้า
เธอแสบไปทั้งหน้าและแผลที่มุมปาก
ดูเหมือนว่าการยั่วโมโหคนๆ นี้
จะไม่ปลอดภัยซะแล้ว
นาบีเลยทำทีเป็นขอร้องดูบ้าง
"คุณลุงปล่อยหนูไปเถอะนะคะ
ถ้าคุณลุงบริหารบริษัทจริงๆ
หนูจะช่วยพูดกับคุณปู่แล้วก็พี่แทยังให้"
นาบีทำใจสู้ ทั้งๆ ที่กลัวเต็มที
ซน กีอุนในตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
หน้าตาเขาทั้งแดงก่ำ แววตาดุดัน
และคำพูดที่หยาบคาย ดูไม่เหมือนคุณลุงกีอุน
ที่ใจดี ที่เธอรู้จัก
"เธอเคยเห็นฉันเป็นลุงด้วยหรอนาบี
เหอะๆ ตอนนี้ไอ้แก่นั่นคงแทบจะเป็นบ้า
ในเมื่อตอนนี้ฉันก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เพราะงั้นเธอคงทำเงินให้ฉันได้เยอะทีเดียว
ฮ่าๆ"
ซน กีอุน หัวเราะสะใจ
"เฝ้ามันไว้ให้ดี เดี๋ยวฉันติดต่อกับพี่ชายของมันดู"
"ครับ เจ้านาย"
ชายที่สวมชุดพนักงานโรงแรมพูด
ก่อนจะหันไปยิ้มแบบหื่นๆ ให้นาบี
แต่โชคดีที่เขาตามลุงของเธออกไปด้วย
"เห้ออออ"
นาบีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนไว้ที่ช่องลับ
ตรงกางเกงซับในที่เธอทำขึ้น
เธอนึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาทันที
ก่อนจะรีบโทรหาจุนกอลทันที...
อีกอึดใจเดียวจุนกอลก็ตามมาพบนาบี
ที่อยู่ในโกดังร้าง..จากสถานที่ที่เธออัพเดต
บนFacebook
นี่ถ้าไม่ใช่สถานการณ์คับขัน เธอคงจะถ่ายรูป
ของเธอพร้อมๆ ไปด้วย
"จุนกอล นายจริงๆ ด้วย"
"เบาๆ สิ เดี๋ยวพวกมันก็แห่มาหรอก"
จุนกอลรีบแกะเชือกให้เธอ
ก่อนจะรีบพาเธอหนีออกไปจากที่นี่
++25++
จุนกอลกอดนาบีไว้เพราะรู้ว่าเธอกำลังเสียขวัญ
ก่อนจะพาเธอออกจากโกดังนี่
พวกเขามุ่งหน้าเดินเข้าป่าไป...
นาบีรีบดึงเข็มกลัดออก เพื่อปลดชายกระโปรงที่ยาวจนถึงพื้นทิ้งไป
เพื่อให้วิ่งหนีหรือต่อสู้ได้ถนัดๆ รองเท้าส้นสูงก็ถูกหักส้นทั้งสองออก
แม้จะเสียดายรองเท้าคู่โปรดไม่น้อย แต่การรักษาชีวิตไว้
น่าจะดีกว่า..ในสถานการณ์เช่นนี้
นาบีเตะลูกน้องของกีอุน จนนอนร้องครวญครางไปสองคน
ส่วนจุนกอลก็กำลังสู้กับหัวหน้าพวกมันอยู่
"เฮ๊ย เตะสูงขนาดนั้นเลยหรอเธอยอดมากซน นาบี"
"ฉันเคยเรียนคาราเต้ตอนเป็นเด็กน่ะ
แถมมีไอดอลอยู่ในการ์ตูน
แต่ตอนนี้เรารีบหนีกันก่อนเถอะ
ก่อนที่คุณลุงจะพาพวกกลับมาจัดการกับเรา"
จุนกอลพานาบีหนีเข้าป่าไป...
ไม่นานคนร้าย 3 คน ก็ตามมา
ปัง!
"โอ๊ย"
"จุนกอล ฮัน จุนกอล"
จุนกอลโดนยิงที่ไหล่ซ้าย
นาบีโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
เตะคนร้ายที่ยิงจุนกอลจนสะบักสะบอม
ก่อนจะแย่งปืนมาได้
นี่แหละหนาที่ว่า..ยามคนเราโกรธสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ
"หนีไปซะ ไม่งั้นฉันจะยิงพวกแกทั้งสามคนเลย"
คนร้ายวิ่งหนีแทบไม่คิดชีวิต
เมื่อนาบียิงปืนขึ้นฟ้า สามนัด
เธอฉีกแขนเสื้อของจุนกอลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเขา
เลือดของเขาเริ่มหยุดไหล
"เธอหนีไปเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นก็ไปตามพรรคพวกของมันมาอีก"
"ถ้าจะหนีก็ต้องหนีด้วยกัน
นายคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังรึไง"
นาบีประคองชายหนุ่ม หน้าของเขาเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
"งั้นก็หาที่หลบจนกว่าจะมีคนมาช่วยแล้วกันนะ"
นาบีเริ่มเป็นที่พึ่งให้จุนกอลบ้าง
แม้จะตัวเล็กกว่าเขามาก
แต่เธอก็ใช้พลังงานทุกอณูในร่างกายออกมา
เพื่อปกป้องเขาบ้าง
ในบริเวณนี้เป็นป่ารกและชื้น
เธอกลัวยิ่งเดินจะยิ่งหลงเข้าไปในป่าขึ้นไปอีก
และจุนกอลคงจะไหว เธอประคองเขาให้นอนพิงต้นไม้
ก่อนจะออกไปสำรวจบริเวณใกล้ๆ
โชคดีที่มีศาลาเล็กๆ ที่พอจะใช้พักนอนได้
นาบีรีบพาจุนกอลที่เริ่มจะมีไข้ เข้ามาหลบในศาลา
เธอเดาว่าที่นี่น่าจะเป็นอุทยานสักที่บนเกาะนี้
"อย่าเป็นอะไรไปนะ ฮัน จุนกอล ฉันขอสั่งนาย"
"หนาว หนาวจัง"
เขาเริ่มเพ้อเพราะพิษไข้ และก็ร้องเรียกชื่อตลอด...
นาบีรีบกอดชายหนุ่มไว้ เพื่อมอบไออุ่นจากตัวเธอให้เขา
เธอกอดเขาไว้ทั้งคืน จนกระทั่งเช้า
รอยฟกช้ำตามร่างกายของเธอดูจะชัดขึ้นมาก
แต่เธอกลับเป็นห่วงเขามากกว่าแผลพวกนั้น
...นาบีจูบชายหนุ่มทั้งน้ำตา
ชายหนุ่มก็จูบเธอตอบอย่างอ่อนแรง
นั่นคือการตอบสนองที่ดี..ว่าเขายังมีสติอยู่
ไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่อุทยานมาเจอพวกเขา
พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบและบอร์ดี้การ์ด
ที่เป็นคนของแทยัง
และพวกเขาก็รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
...
เป็นอีกครั้งที่ฮัน จุนกอล ต้องเจ็บตัว(ด้วยความเต็มใจ)
เพราะต้นเหตุมาจากนาบี
เธอร้องไห้ฟูมฟามจนตาบวมปูด
แม้คนอื่นๆ จะบอกว่าจุนกอลจะต้องปลอดภัย
นาบีร้องไห้จนหมดสติไป ดีที่แทยังมารับตัวของเธอไว้ได้ทัน
เธอถูกพาตัวมาพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ
ซน แทยอง นั่งอยู่ข้างเตียงของหลานสาวคนเล็ก
"ปู่ขอโทษที่ทำเรื่องวุ่นวายให้นาบี"
นาอึนมองสภาพของน้องสาวก็นึกสงสาร
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้...ทำไมเธอถึงโชคร้ายนัก
"คุณลุงไม่น่าทำกับเราแบบนี้ ทั้งที่คุณปู่"
"ความผิดปู่เองที่ละเลยเจ้ากีอุน
ถ้าเขาเลือกเดินทางที่ถูกต้อง ไม่อิจฉา
ในวันนี้ปู่คงมอบตำแหน่งให้เขาอย่างเต็มใจ
แต่ปู่ก็ดีใจที่เลือกคนไม่ผิด
แทยัง หลานกับน้องๆ คือลมหายใจของปู่
Star Ent.ก็คือชีวิต ถ้าปู่ไม่มีสองสิ่งนี้เหนี่ยวรั้ง
ปู่คงตรอมใจตั้งแต่รู้ข่าวอุบัติเหตุของคุณย่า แล้วก็พ่อแม่ของหลาน"
"คุณปู่คะ"
"ปู่ครับ"
นาอึนและแทยังนั่งคุกเข่ากับพื้น
และกอดชายแก่แน่น
ความรู้สึกอบอุ่นที่คนทั้งสามมีให้กัน
ถูกถ่ายทอดออกมาจากอ้อมกอดนี้
แทยองจูบที่ศีรษะของหลานทั้งสอง
ก่อนจะหันไปมองคนร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง
นาบีนอนหลับไปหลายชั่วโมง
เพราะความอ่อนเพลีย
++
แทยังและนาอึนมาเยี่ยมจุนกอลในห้องพัก
โดยในห้องมีจินจู แทอึน ดาบิน จุนฮา และซึงจุนพี่ชายของจุนกอลเฝ้าอยู่ก่อน
"ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ช่วยชีวิตน้องสาวของฉันไว้
ถ้าไม่มีนายนาบีคง"
จุนกอลทำหน้างงๆ
ก่อนจะเริ่มคิดตาม
ถ้านาบีเป็นน้องสาวของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง
และสมาร์ทคนนี้ ก็เท่ากับว่าเธอคือเจ้านายของเขานั่นเอง
"ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่
อีกอย่างคุณก็ไม่ต้องรู้สึกขอบคุณอะไรผมมาก
เพราะผมเองก็ต้องขอบคุณ..นาบี เอ่อคุณนาบีเหมือนกันครับ"
นาอึนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
"ฉันจะตอบแทนนายอย่างดีที่สุด
อะไรที่นายต้องการ แค่นายบอกมาคำเดียว"
"อย่าดีกว่าครับ ผมขอแค่ได้พักจนกว่าแผลจะหายดี
แล้วกลับไปทำงานตามตารางงานเดิมก็พอครับ
ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ
ผมอยากจะพัก เชิญทุกคนกลับไปได้
รวมทั้งพวกนายด้วยนะ"
จุนกอลหันไปบอกดาบิน แทอึน และจุนฮา
...เมื่อเทียบกันกับแทอึน ที่มีพ่อเป็นอัยการชื่อดังที่ปูซาน
และมีแม่เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา
กับเขาที่เป็นลูกของนักแต่งเพลงขี้เมาก็เทียบกันไม่ติดฝุ่น
และยิ่งดูห่างไกลกับหลานสาวของอดีตประธานซน แทยองอยู่มาก
จุนกอลเลยเลือกที่จะเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจนี้ไว้คนเดียว
...26...
เมื่อคนอื่นๆ กลับไปแล้ว นาบีก็แอบไปเยี่ยมจุนกอล
น่าแปลกที่เขาดูไม่ดีใจเลยที่เจอเธอ
ทั้งที่เมื่อคืนทั้งคู่ต่างก็ผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาด้วยกัน
"นายเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย"
นาบีนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง
"ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ผมไม่เป็นอะไรมาก
เชิญคุณกลับไปได้ ผมอยากพักผ่อน"
"อะไร ทำไม ทำไมนายเป็นแบบนี้ล่ะ
นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหมฮัน จุนกอล"
"ผมไม่กล้าล้อเล่นกับน้องสาวของท่านประธานหรอกครับ"
จุนกอลหันหน้าหนีไปอีกด้านหนึ่ง
"เข้าใจแล้ว ที่นายทำเป็นเย็นชาแบบนี้
เพราะฉันเป็นน้องสาวของพี่แทยังใช่ไหม
แต่มันคือความจริงที่ฉันปฏิเสธไม่ได้
และนี่ก็คือเรื่องที่ฉันอยากจะบอกกับนาย
เมื่อคืน แต่ระหว่างเราเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอฮัน จุนกอล"
"อืม ผมเข้าใจ เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว
แต่ผมคงอยู่กับคนโกหกไม่ได้ คุณออกไปเถอะครับ
ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วว่าผมจะพักผ่อน
เรื่องระหว่างเรา คุณก็ลืมๆ มันไปเถอะ
ผมจะถือว่ามันเป็นฝันร้าย"
"อะไรนะ ฝันร้ายอย่างงั้นหรอ"
จุนกอลไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับความเสียใจในครั้งนี้
เขาเลยรู้สึกเสียใจและสับสน..ที่นาบีไม่ยอมบอกว่าเธอเป็นใครกันแน่
การที่ได้รู้จากปากของคนอื่นจึงทำให้เขาเสียใจมาก
ความรู้สึกสับสนวุ่นวายต่างๆนาๆ ประดังประเดเข้ามา
แม้ดาบิน แทอึน นาอึน รวมถึงจุนฮา
จะช่วยพูดให้เข้าใจก็ตาม
เหตุการณ์นี้ทำให้เขานึกถึงผู้หญิงอีกคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
ที่โกหกและทิ้งเขากับพี่ชายไปมีครอบครัวใหม่
และไม่เคยเหลียวหลังมามองเขากับพี่ชายอีกเลย
..นาบีเดินร้องไห้เสียใจออกไปจากห้องของจุนกอล
เหตุการณ์เมื่อตะกี้มันอะไรกัน..
... ทางบริษัทได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการป่วยของจุนกอล
โดยเขาขอร้องให้บริษัทให้บอกกับบรรดาสื่อมวลชนทุกสำนัก
แต่เพียงว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากการซ้อมเท่านั้น
..ส่วนเรื่องคดีความ ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 3 คนไว้ได้ทันควัน
ส่วนซน กีอุน กำลังถูกตำรวจน้ำตามล่า
เพราะเขาหนีขึ้นเรือเพื่อไปขึ้นที่ท่าเรือของประเทศญี่ปุ่น
และคาดว่าน่าจะจับตัวได้ในเร็ววัน
...หลังจากนั้นจุนกอลก็คอยหลบหน้านาบี
และตลอด 2 เดือนมานี้ นาบีจึงหันมาทุ่มเทกับ
วิทยานิพนธ์ของเธอจนเสร็จ และเรียนจบเป็นที่เรียบร้อย
แม้ภายนอกจะดูไม่มีอะไร
แต่ในใจเธอเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว
"ก็ลองดูว่านายจะใจแข็งได้ถึงเมื่อไหร่
คนอย่างซน นาบี ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก"
นาบีแวะเวียนไปดูจุนกอลและหนุ่มๆ Zenith ซ้อมใหญ่
เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทัวร์คอนเสิร์ต
พวกเขาตั้งใจและทุ่มเทกับการซ้อมมาก
ผู้จัดการคนใหม่ ชเว คังโฮ ก็จัดแจงรายละเอียดต่างๆ
ได้อย่างมืออาชีพสมกับที่พี่ชายของเธอไว้วางใจ
ระหว่างที่จุนกอลกำลังร้องเพลง 'Tear'
นาบีก็แทบจะร้องไห้ เพราะเนื้อเพลงที่มัน
ตอกย้ำ(ซ้ำเติม)ความรู้สึกของตัวเธอ
และยิ่งมันคือเพลง solo ของเขา
ทันทีที่เขาหันมา เธอก็วาดรูปผีเสื้อ
แล้วรูปหัวใจ...ตรงกระจกด้านนอก
ก่อนจะเดินคอตกออกไป..
เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาคู่นั้น
เขาดูน่ากลัวซะยิ่งกว่าแทอึนอีกสิบเท่า
"ไม่เป็นไรจุนฮา ถึงวันนี้เขาจะไม่อยากคุยกับฉัน
แต่วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป ฉันจะมาอีก
วันนี้นายทำได้ดีมากเลยนะ
ฉันจะรอดูคอนเสิร์ตของพวกนายนะ"
"นูน่า"
นาบีเดินจากไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
จุนฮาสงสารนูน่าของเขาจับใจ
...ด้วยเหตุนี้จึงเกิดปฏิบัติการ(รัก)ลับเฉพาะกิจ
โดยมีซน แทยังเป็นหัวหน้าทีม
การประชุมเกิดขึ้นที่ห้องทำงานของประธานหนุ่ม
นาอึนกับแทอึนช่วยกันวางแผนอย่างดิบดี
ก่อนจะเริ่มดำเนินการตามแผนทีละขั้น
จุนฮาที่ดูตื่นเต้นมาก ดาบินก็ช่วยเสนอความคิดเห็น
ในฐานะเพื่อนของนาบี
"ขอให้สำเร็จทีเถอะค่ะ เพราะนาบีฉันกับพี่
ถึงได้สมหวัง"
จินจูบอกกับแทยัง
........
ณ เพนเฮาส์ของหนุ่มๆ Zenith
วันนี้เป็นวันว่างของพวกเขา
ผู้จัดการชเว คังโฮ จึงอนุญาตให้พวกเขา
พักผ่อนได้ตามสบาย
หลังจากที่มีตารางงานที่ยุ่งมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
จุนกอลที่เพิ่งลุกออกจากที่นอนได้
ก็ออกมาหาอะไรกินในครัว
ดาบินยืนขวางจุนกอลเอาไว้
"ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมจุนกอล"
"ถ้าเป็นเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อซน นาบี ฉันไม่คุย"
"นี่นายจะไม่มากเกินไปหน่อยหรอฮัน จุนกอล"
"ฉันทำอะไรเกินไปตรงไหนไม่ทราบคุณลีดเดอร์"
ดาบินเริ่มโมโห เขากระชากคอเสื้อของจุนกอล
แต่หนุ่มมาดกวนกลับมองหน้าเขานิ่ง
อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
"ต่อยฉันเลยสิ หรืออยากทำอะไรก็เชิญ"
"ก็ได้ๆ นายจะให้จบแบบนี้ก็ได้
ถ้าฉันเกิดรักนาบีขึ้นมาจริงๆ
ฉันไม่ปล่อยเธอคืนให้นายแน่
แล้วนายจะต้องเสียใจฮัน จุนกอล"
ลีดเดอร์หน้าหวาน กลายร่างเป็นชายหนุ่มที่โกรธจัด
ซึ่งขัดกับบุคลิกของคนยิ้มง่าย..ที่สุด
"ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ฉันก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกัน"
จุนกอลเดินชนดาบิน ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
โชคดีที่สองหนุ่มไม่มีการวางมวยกันเกิดขึ้น
...
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่อากาศสดใส
นาบีตัดสินใจที่จะไม่ไปที่บริษัท
เธอเลือกที่ไปขับรถเล่นนอกเมืองคนเดียว
พอรู้ตัวอีกทีเธอก็ถึงเกาะเซจูในช่วงสาย
เธอจอดรถทิ้งไว้ ก่อนจะเดินเล่นบนหาดทรายขาวสะอาดตา
เมื่อเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับผืนทราย
เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
เธอใช้เศษกิ่งไม้ขีดเขียนบนพื้นทราย
ราวกับว่าเป็นผืนผ้าใบหรือเศษกระดาษ
ให้เธอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
"ฮัน จุนกอล ไอ้คนบ้า"
นาบีตะโกนสุดเสียง
ลมเย็นพัดโชยมาประทะที่หน้าของเธอ
ราวกับว่าช่วยปลอบประโลม
นาบีเดินเที่ยวเล่นตามสถานที่ที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ที่น่าสนใจบนเกาะเซจู
ตอนนี้เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่กับตุ๊กตาหมี
หลากหลายสไตล์ที่พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์
ตุ๊กตาหมีสีแดง โบว์สีขาวจึงเป็นเพื่อนร่วมเดินทางตัวใหม่
ของเธอ นาบีเลือกชุดที่เป็นชุดเลียนแบบ
หนุ่มๆ Zenith
"ถ้านายยิ้มให้ฉันเหมือนกับเจ้าหมีนี่
ฉันคงมีความสุขมาก"
เธอพึมพำกับตัวเอง
ก่อนจะไปนั่งชิลๆ ชิมเค้กชาเขียวและดื่มกาแฟ
ที่ค่าเฟ่ดีไซน์สุดชิคที่ O'sulloc Museum อย่างสบายอารมณ์
ระหว่างที่นาบีกำลังจะข้ามถนนเพื่อไปเอารถ
ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเค้กคาเฟ่ แอนด์ คอฟฟี่ช็อป
เธอเห็นเจ้าตูบพันธุ์ปั๊กตัวอ้วนกำลังเดินบนถนนอยาางเชื่องช้า
ในจังหวะนั้นเองที่มีรถบรรทุกสินค้าขับผ่านมาพอดี
เอี๊ยดดดดดด
คนขับรถบรรทุกเบรกจนตัวโก่ง
นาบีถอนหายใจโล่งที่ช่วยชีวิตเจ้าตูบได้ทันเวลา
ก่อนที่เจ้าของสุนัขสองสามีภรรยาจะช่วยพาเธอส่งโรงพยาบาล
...
นาบีดีใจที่แพทย์เวรในวันนี้คืิอคิม จูวอน
เพื่อนพี่ชายของเธอที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
พอโตขึ้น...ด้วยหน้าที่การงานก็ทำให้เจอกันยากขึ้น
"เรานี่ยังซนเหมือนเดิมเลยนะนาบี
ดีนะที่ไม่มีแผลเป็น ไม่งั้นโตมาเสียโฉมแย่
แล้ววันนี้ยังจะเสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าตูบตัวนั้น
จนแขนหักอีก เธอนี่มันสาวน้อยมหัศจรรย์จริงๆ"
"พี่จูวอนก็ ฉันไม่ได้ซนสักหน่อย
น้องหมาตัวนั้นกำลังจะโดนรถชนนะคะ
ถ้าปล่อยให้มันตายไป ฉันคงรู้สึกเสียใจมาก"
"เจ้าของหมาตัวนั้นเขารอพบเธอด้วยนะ
เดี๋ยวใส่เฝือกเสร็จพี่จะพาเธออกไปเอง"
"ขอบคุณนะคะพี่จูวอน"
"จ้า"
จูวอนมองนาบีอย่างเอ็นดู
เธอยังคงน่ารัก สดใส เหมือนในวัยเด็ก
พลอยทำให้เขาคิดไปถึงพี่ชายของเธอ
ที่เป็นเพื่ิอนสุดซี้สมัยมัธยมของเขา
...27...
เจ้าของสุนัขจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นาบี
ก่อนจะมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นสินน้ำใจ
แต่เธอปฏิเสธ เจ้าของสุนัขสามีภรรยา
เลยชวนเธอกับจูวอนไปทานข้าวเย็นที่บ้าน
เพื่อเป็นการตอบแทน นาบีไม่อยากปฏิเสธน้ำใจนี้
เธอให้ จูวอนช่วยโทรไปบอกที่บ้านเพื่อขออนุญาต
และบังเอิญเธอดันมาทำโทรศัพท์หายด้วย
ป่านนี้คงเป็นห่วงกันไปหมด
จูวอนอาสาขับรถพาเธอไปส่งบ้านตามที่ได้บอกกับคุณปู่ของเธอ
และถือโอกาสนี้ลางานด้วยเลย
...ระหว่างเดินทางกลับโซลในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ
"น่าอิจฉาคุณลุงคุณป้าคู่นั้นนะคะ
ที่รักกันมากและอยู่ด้วยกันมาตลอดหลายปี
ทั้งที่พวกเขาไม่มีลูก แต่พวกเขาก็รักเจ้าแรมโบ้มากๆ
ถ้าฉันไม่ช่วยมัน ฉันคงรู้สึกผิดต่อพวกเขา"
จูวอนเริ่มเห็นความเศร้าในตัวสาวน้อย
ที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างคนขับ
"นั่นสิ พี่เองก็แอบอิจฉา
พี่น่ะเริ่มทำงานตั้งแต่เรียนจบ
พอรู้ตัวอีกทีก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่เกิน
ที่จะไปสนใจผู้หญิงที่ไหน
จนที่บ้านเริ่มเป็นห่วง และจัดการเรื่องนัดบอร์ดให้
น่าตลกดีเนอะ"
"..."
"ทำไมเงียบไป รึพี่พูดอะไรผิดไป"
"เปล่าค่ะ ฉันแค่ แค่ไม่รู้จะบอกกับที่บ้านยังไง
เรื่องที่แขนหัก"
นาบีแกล้งเฉไฉไปเรื่องอื่น
"อื้ม เดี๋ยวพี่จะเรียนคุณปู่ให้เอง
ส่วนไอ้เจ้าแทยังคงไม่น่ามีปัญหา"
"ขอบคุณนะคะ"
นาบีเปิดเพลงไปเจอรายการวิทยุ
ช่องหนึ่งที่กำลังเปิดเพลง
tear ที่ร้องโดยจุนกอล Zenith
เธอเผลอร้องไห้ออกมาจนจูวอนตกใจ
"นาบีเป็นอะไรน่ะ รึว่าเจ็บที่แผล"
"เจ็บค่ะ เจ็บมากด้วย
เจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว"
"กินยาแก้ปวดดีไหม เดี๋ยวพี่แวะซื้อน้ำ
ที่ร้่านสะดวกซื้อข้างหน้าให้ละกัน"
"ค่ะ"
นาบีตอบสั้นๆ และเธอเริ่มรู้ตัวว่าทำให้จูวอนเริ่มเป็นห่วง
เมื่อมาถึงที่บ้านทุกคนในบ้านก็เป็นห่วงนาบีเป็นการใหญ่
ยิ่งเธอทำโทรศัพท์หายแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่ ทุกคนจะยิ่งเป็นห่วง
"นาบี เป็นห่วงแทบแย่ นี่อะไรเนี่ย
ทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกแล้วใช่ไหม"
"เล็กน้อยน่านาอึน อีกอย่างได้ชีวิตเจ้าตูบตัวอ้วนไว้
ดีจะตายไป"
"พี่แทบไม่เป็นอันทำงานเลยรู้มั้ย"
"ขอโทษนะคะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว
ขอตัวก่อนนะคะ เขิญคุยกันตามสบาย"
นาบีแยกจากพี่ชายและพี่สาว
ก่อนจะหันไปขอบคุณจูวอนที่ช่วยขับรถมาส่ง
"เดี๋ยวฉันไปดูยัยนั่นให้เองไป
เชิญสองหนุ่มคุยกันตามสบายนะคะ"
นาอึนพูดก่อนจะรีบเดินตามนาบีไป
...28...
จูวอนเมื่อเจอแทยังก็ดีใจมาก
เพราะคราวที่แทยังชวนมางานเลี้ยงของบริษัท
เขาจำต้องปฏิเสธเพราะมีเคสผ่าตัดใหญ่
ถึง 3 ราย
"ไงไอ้เสือ หายไปเลยนะ"
"ก็ทำงานทุกวันนี่หว่า จะมีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระที่ไหนกัน
แม้แต่เวลาที่ใช้หาว่าที่ภรรยาก็ยิ่งยาก"
จูวอนออกตัว
"น่าสงสารจังเลยนะครับคุณหมอคิม จูวอน"
"หาให้สักคนสิ"
"ไอ้บ้า ของแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหนกันล่ะ
แต่นายมาก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องให้ช่วยพอดี"
แทยังเริ่มเล่าแผนการให้จูวอยฟังคร่าวๆ
"น่าสนุกดีนี่ หวังว่าการหยุดใน 3 วันนี้
จะพอช่วยน้องสาวของนายได้"
"ขอบใจนายจริงๆ เพื่อน"
แทยังกอดคอจูวอนอย่างสนิทสนม
"ด้วยความเต็มใจคร้าบท่านประธาน"
...
แทยังทำทีชวนจูวอนให้มาเยี่ยมชมบริษัทของเขา
นาอึนเห็นดีเห็นงามด้วย
"วง Yawl ของพวกเราจะได้ไปรื้อฟื้นความหลังยังไงล่ะ"
"กลัวว่าจะเข้าหม้อจริงๆ น่ะสิ"
"อะไรกันพูดแบบนี้ไม่สมกับเป็นคิม จูวอน
กีตาร์เทพในตำนานเลยนะนายน่ะ"
"งั้นมาดวลกันสักหน่อยดีกว่ามั้ง"
"จัดไปครับไอ้คุณหมอ"
แทยังให้นาบีช่วยเป็นไกด์พาจูวอนทัวร์ที่บริษัท
ในขณะที่จูวอนก็ช่วยดูแลนาบี...ที่เป็นคนไข้ของเขาอย่างดี
"ชั้นต่อไป ชั้น 23 เขากำลังซ้อมใหญ่สำหรับคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้
ก่อนจะย้ายไปซ้อมที่ Seoul nation stadiumค่ะ
พี่จูวอนอยากไปดูมั้ยคะ"
"ครับ อยากดูมากๆ ช่วยพาพี่ไปทีนะนาบี"
เมื่อเห็นหน้าจุนกอลชัดๆ จูวอนก็ปฏิเสธไม้ได้เลยว่า
ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าที่เป็นสัดส่วนทองคำจริงๆ
"รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันมา
จะไปพบดาบินสักหน่อย พี่จูวอนจำดาบิน
เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักๆ คนนั้นได้ใช่ไหมค่ะ
เขานี่แหละลีดเดอร์ของ Zenith"
"อ๋อ อืม ชักจะคุ้นๆ แล้วล่ะ"
นาบีเขามาพบดาบินในห้องซ้อมเต้น
เขาเห็นเฝือกอ่อนที่คล้องอยู่ที่มือข้างหนึ่ง
ของเพื่อนสาวก็อดแปลกใจไม่ได้
"หายไปหนึ่งวันก็ได้เรื่องเชียวนะ
แล้วนี่ไปโดนอะไรมาล่ะ"
"ช่วยน้องหมาที่จะโดนรถชน
เพื่อนนายเจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ"
"ยัยเพี้ยน ห่วงตัวเองสักทีเถอะ"
"วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะมาเจอพวกนายที่นี่
ต่อจากนี้ฉันจะไม่มาวุ่นวายอีกแล้ว
การแสดงพรุ่งนี้ ทำมันให้เต็มที่นะ
ฉันจะมองพวกนาย Zenith
ในฐานะZippie และเพื่อนของนาย"
ดาบินดึงนาบีเข้ามากอดเพื่อปลอบ
"เธอกลายเป็นยัยขี้แยไปตั้งแต่เมื่อไหร่
หยุดร้องซะ ไม่มีใครบอกรึไง
ว่าตอนเธอร้องไห้ โคตรน่าเกลียดเลย"
"ไอ้คนปากเสีย ชเว ดาบิน"
ดาบินยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นาบี
เธอรีบใช้มันเช็ดน้ำตาของตัวเอง
"ฝากบอกแทอึนกับจุนฮาด้วยนะ
ว่าฉันรอดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาอยู่
ฉันไปนะพี่จูวอนรอฉันอยู่"
พอนาบีเปิดประตูออกมาก็เจอจุนกอล
ในระยะประชิดพอดี
เขามองไปที่เธอแขนของเธออย่างสงสัย
ก่อนจะเดินหนีไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนจะแกล้งไปควงแขนกับปาร์ค ยูริ
แดนเซอร์สาวที่มีท่าทีว่าสนใจเขาอยู่
นาบีหันไปมองเล็กน้อย เมื่อทั้งคู่เดินออกไป
เธอเดินอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ก็แกล้งยิ้มสดใสให้จูวอน
ก่อนที่เขาประคองเธอออกจากชั้น 23 ไป
และตรงดิ่งกลับบ้านทันที
รถสปอร์ตเบนซ์สีดำที่มีนาบีและจูวอนนั่งออกไปด้วยกัน
ได้ขับหายไปจากตึกBottle building
จุนกอลที่แอบมองพวกเขาอยู่ที่มุมไกลๆ
รู้สึกปวดร้าวไปทั้งหัวใจ
เขาอยากปัดมือคู่นั้นของจูวอนออกเหลือเกิน
"ฉันคิดถึงนายจังจุนกอล
ฉันคิดถึงฮัน จุนกอลจอมทะเล้นคนนั้น
ฉันคิดถึงรอยยิ้มของนาย
ฉัน..."
นาบีพึมพำอยู่คนเดียวในรถ
ก่อนจะเผลอหลับไป
...จูวอนรีบโทรรายงานให้แทยังทราบความเคลื่อนไหว
ก่อนจะให้ยาลดไข้และยาแก้อักเสบให้กับนาบี
แทยังทุบโต๊ะเสียงดัง เขาเริ่มจะหมดความอดทนกับฮัน จุนกอล
หลังจากที่กำลังซ้อมร้อง และซ้อมเต้นกันอยู่
ในเย็นวันหนึ่งท่านประธานซน แทยังให้คนไปตามนักร้องหนุ่ม
มาหาถึงห้องทำงานส่วนตัว
"นั่งลงก่อนสิ"
"ขอบคุณครับท่านประธาน"
"ฉันจะไม่อ้อมค้อมหรอกนะ
ถ้านายยังเป็นลูกผู้ชายพอ ตอบมาตามตรง
นายรู้สึกยังไงกับน้องสาวฉัน ซน นาบีกันแน่"
"รัก รักครับ รักมากด้วย"
จุนกอลตอบด้วยแววตามุ่งมั่น
"อืม ตอบดีนี่"
"แต่ว่าผมมันก็แค่นักร้องธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ไม่คู่ควรกับน้องสาวของท่านประธาน"
"นายเอาเกณฑ์อะไรมาตัดสิน
นายเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเสี่ยงชีวิตช่วยนาบี
โดยไม่คิดถึงตัวเอง แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ"
"ผมมีเหตุผลของผม ที่บอกคุณไม่ได้
หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ ขอตัวก่อนนะครับ
ผมต้องซ้อมเพื่อการแสดงพรุ่งนี้"
จุนกอลเดินออกไปอย่างไม่กลัวเกรง
แทยังสักนิด
"ไอ้เด็กบ้า ดูสิจะใจแข็งได้แค่ไหนกัน"
แทยังคิดว่าความเหมาะสมเป็นแค่องค์ประกอบรองๆ
แต่ใจที่ตรงกันของคนสองคนต่างหากที่สำคัญ
เขาไม่เคยคิดเรื่องความแตกต่างอะไรเลย
เพราะเขาเองก็ต้องทุกข์ใจกับเรื่องนี้อยู่นาน
ป่วนรักยกกำลังสองของยัยฝาแฝด
By dollitsumu_jung
+++++++++++++++
++1++
ห้องประชุมสุดหรู บนชั้น 33 ของอาคารรูปทรงสะดุดตา
อย่างรูปขวดน้ำทรงแปดเหลี่ยม ที่มีความสูง 37 ชั้น...
อย่างอาคารBottle Building ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้
ทายาทรุ่นที่สามของธุรกิจบันเทิงของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
ที่ชื่อ Star Entertainment
กำลังเข้ารับตำแหน่ง CEO คนล่าสุด
หลังจาก ซน แทซอง คุณปู่ วัย 65 ปี ของเขาจำต้องอำลาจากตำแหน่งอย่างอาลัยเป็นที่สุด
Star Ent. ถือเป็นค่ายเพลงที่คว่ำหวอดในวงการเพลงเกาหลี
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ซน กีอุน วัย 48 ปี รูปร่างสันทัด
ลูกบุญธรรมของท่านประธานซน แทยอง
ขยับเก้าอี้ เตรียมจะลุกขึ้น แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ลุกขึ้นทรงตัวในท่ายืนตรง
ประธานซนก็เรียกให้ชายหนุ่มหน้าเข้มขรึม(ไปด้วยเครางาม)
ที่นั่งอยู่ติดกับซน กีอุนแทน
"แทยังออกมานี่สิ"
เจ้าของชื่อ แทยังในชุดสูทสีน้ำตาล
และมีลูกเล่นตรงส่วนแขนที่แซมสีกรมเท่าได้อย่างลงตัว
เขาเดินไปหาผู้เป็นปู่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ CEO
ผู้ที่เป็นเบอร์1 ของ Star Ent.
"ต่อไปนี้แทยัง หลานชายของฉัน คือตัวแทนของฉัน
แนะนำหลานชายฉันด้วยนะ
ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่แทยังตอนเรียนรู้จากพวกคุณ"
แทซองแตะบ่าของชายหนุ่มเจ้าของชื่อ... ซนแทยัง
ชายหนุ่มวัย 27 ปี ยิ้มบางๆ ให้กับผู้เป็นปู่
ก่อนจะทำความเคารพบอร์ดบริหาร
เพื่อฝากเนื้อฝากตัว
เลขาฯยุน เลขาวัยกลางคนของซน แทยอง
ประคองผู้อาวุโสของบริษัทออกไปจากห้องไปประชุมไปยังห้องรับรองที่อยู่ข้างๆ
เลขาฯ หนุ่มนึกชอบใจที่ประธานซน
ทำให้ใครคนหนึ่งไม่สมหวังในสิ่งเขาต้องการ
แต่กระนั้น ลูกชายนอกไส้ของท่านประธาน
ก็ได้นั่งตำแหน่งที่สำคัญๆ ใน Star Ent.อยู่นานหลายปี
"เจ้าเด็กฝึกงานคนนั้น...นี่"
ผู้อำนวยการปาร์คกระซิบกันกับโปรดิวเซอร์ชเว
ซึ่งเขาก็หนาวๆ ร้อนๆ เพราะเคยเรียกใช้งาน
ชายหนุ่ม(นอกเหนือหน้าที่)อยู่ไม่น้อย
"ผอ.ปาร์คครับ แล้วอย่างนี้เราสองคน เอ่อ จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย"
"ไม่หรอกน่า ไว้เราสองคนค่อยหาเหตุผลดีๆ ไปขอโทษเขาละกัน"
เพียงครู่หนึ่งแทยังก็ส่งสายตาไปมอง(อดีต)คู่กรณีทั้งสอง
และแจกรอยยิ้มพิฆาตไปอีกหนึ่งดอกเพื่อเป็นการเปิดฉากเบาๆ
... แทยัง แนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับบอร์ดบริหารอีกครั้ง
รวมถึงพูดเกี่ยวกับทิศทางการบริหารบริษัทต่อไป
ก่อนหน้านี้ 1 ปี แทยังเข้ามาเป็นเด็กฝึกงานของ Star Ent.
และหลังจากนั้น 3 เดือน เขาก็ได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยของโค-โปรดิวเซอร์อีกที
การเข้าออกบริษัทนี้จึงทำเขาสอดส่องสายตา
และเข้าถึงพนักงานและรับรู้ถึงปัญหาได้เป็นอย่างดี
จะมีก็แต่ชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัด
ที่เรียกตัวเองว่าคนในครอบครัวของแทยัง
ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจกับการมอบตำแหน่งสำคัญในวันนี้
แม้ว่าตนเองเพิ่งจะได้นั่งเก้าอี้ในตำแหน่งที่สูงขึ้น
แต่ก็ยังคงเป็นได้แค่เบอร์ 2 ของที่นีี่
ซน แทยัง จบการศึกษาระดับปริญญาโท
ด้านดนตรี ที่Newcastle University ประเทศอังกฤษ
และระดับปริญญาเอก
ด้านบริหารธุรกิจ ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์
หรือ MIT ถือเป็นคนหนุ่มไฟแรง เหมาะสมต่อการเข้ารับตำแหน่งในวันนี้
เป็นที่สุด
นอกจากแทยังที่เป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวแล้ว
เขายังมีน้องสาวฝาแฝด คือ นาอึน และนาบี
ที่เป็นกำลังสำคัญด้วย แต่ทว่าในตอนนี้สองสาวต่างก็
กำลังเคร่งเครียดกับการเรียนเสียมากกว่า..
"เห็นทีเราต้องมีตัวช่วยซะหน่อย หึหึ"
แทยังยิ้มให้กับไอเดียที่เพิ่งผุดออกมาจากสมองส่วนเซเรบรัมของตนเอง
คนที่น่าจะปกป้องลี จินจู รักครั้งแรกของเขา
ท่ามกลางเจ้าพวกหนุ่มๆ ดอกไม้หรือ flower boy นั่น
จะเป็นใครอื่นใดไปไม่ได้
นอกจากซน นาอึน มีวางอันดับหนึ่งของเขา
ซน นาอึน แฝดผู้พี่ สาวติสท์สุดเท่ ผู้มีบุคลิก
ปราดเปรียว ตัดสินใจเฉียบคม
ผู้หลงเสน่ห์ของดนตรีตั้งแต่ 2 ขวบ
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านดนตรี
ในสาขาวิชา Audio Engineering และ
ปริญาโทในสาขา Music Business
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อนจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ 2 เดือน
เพื่อหาประสบการณ์การทำดนตรีที่เจ๋งๆ
ตามแบบฉบับของสาวสุดติสท์
ซน นาบี แฝดผู้น้อง ที่ช่างเจรจา
สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเหบือคนอื่น(จนเกินเหตุ)
ลักยิ้มคู่นั้นที่ถูกแต่งแต้มบนหน้าของเธอ
ยิ่งตอกย้ำเสน่ห์ความน่ารัก ขี้อ้อนแบบฉบับ
หลานสาวคนเล็กของบ้านได้อย่างพอดิบพอดี
เธอกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท ในเทอมสุดท้าย
ในสาขาแฟชั่นดีไซน์และออกแบบสิ่งทอ
รวมถึงปริญาโทใบที่สองในสาขาบริหารงานด้านแฟชั่น
ที่Central St. Martin Of Arts and Design
หนึ่งในสถาบันแฟชั่นที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
และตอนนี้เธอก็ได้บินไปเก็บข้อมูลและหาแรงบันดาลใจ
พร้อมกับโอเว่น เพื่อนซี้แบบสุดๆ ของเธอ
ในการทำวิทยานิพนธ์ เธอเลือกที่จะเดินตามรอย
ดีไซเนอร์สัญชาติฝรั่งเศสที่เป็นไอดอลของเธอ...ปีแอร์ บาลเมน
(Pierre Balmain)
++2++
สามเดือนก่อน...
นาอึนเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นการด่วน
ในค่ำวันหนึ่ง..
บ้านหลังใหญ่ ดีไซน์หรูที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม
ยุโรปและเอเชียได้อย่างลงตัว อันเป็นบ้านของผู้มีอิทธิพล
ในวงการเพลงเกาหลีอย่าง ซน แทยอง อดีตCEO ค่าย Star Ent.
ที่เพิ่งปลดเกษียณตัวเองมาหมาดๆ
"คิดถึงคุณปู่จังคะ ขอหนูขอหอมให้หายคิดถึงทีนะคะ"
นาอึนทั้งกอดทั้งหอมคุณปู่ที่เป็นที่รักของเธอ..
จนคนแก่ตรงหน้าแทบจะช้ำไปทั้งตัว
"ปู่ก็คิดถึงนาอึนจะแย่ แล้วนี่ไอ้ตัวแสบไม่กลับมากันด้วยหรอ"
"นาบียังมีเรื่องให้ต้องจัดการที่ปารีสน่ะคะ
ท่าทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็น่าจะกลับมาเร็วๆ นี้"
"ไหนๆ วันนี้หลานสาวคนโตของปู่ก็กลับมาแล้ว
อยู่ทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันก่อนสิ"
"ค่ะ ด้วยความยินดีและเต็มใจ"
นาอึนหันเป็นไปยิ้มให้กับพี่ชายหุ่นนายแบบของเธอ
เธอประคองคุณปู่ไปที่โต๊ะอาหาร
แทยัง ยิ้มแบบมีมาด ก่อนจะรีบสาวท้าวยาวๆของเขาไป
และเลื่อนเก้าอี้ให้คุณปู่ของเขานั่ง
การสนทนาอย่างออกรสออกชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
บรรยากาศของการรับประทานอาหารในค่ำคืนนี้จึงดูคึกคักเป็นพิเศษ
...นาอึนเอาแฟ้มศิลปินหน้าใหม่ในค่าย
ที่กองเกือบท่วมหัวของเธอมานั่งดูอย่างละเอียดทีละแฟ้ม ทีละแฟ้ม
แต่ที่ทำให้เธอต้องหยุดก็คือสายตาคู่สวยคม ที่แฝงไปด้วยความเศร้า
แต่ก็มีพลังดึงดูดให้ชวนมอง
สายตาคู่นั้นของเด็กหนุ่มที่ชื่ิอว่า...คิม แทอึน
เด็กหนุ่มที่เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติคนนั้น
แทยังถือแก้วนมอุ่นๆ มาให้น้องสาวของเขาในห้องทำงานของคุณปู่
ที่บัดนี้ได้กลายเป็นห้องสมุดขนาดย่อมๆ และเป็นที่ประชุมเฉพาะกิจ
ของนาอึนและแทยัง
"ขอบคุณนะพี่"
นาอึนรับแก้วนมมาจากแทยัง เธอดื่มนมหมดในครั้งเดียว
ก่อนจะปิดแฟ้มที่เปิดค้างไว้
"ฉันดูแฟ้มพวกนี้หมดแล้ว
พี่มีอะไรก็ว่ามา"
"อยากลองทำอะไรสนุกๆ มั้ย
รับรองว่าถ้าเธอทำสำเร็จ เธอจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ"
"ฟังดูน่าสนุกนะ งั้นพูดเงื่อนไขของพี่มาสิ
ท่ามันฟังดูเข้าท่าฉันจะทำ"
"อยากปลอมตัวเป็นพนักงานในบริษัทดูมั่งมั้ย
ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการศิลปิน รึที่เรียกง่ายๆ ก็คือ..."
"Co-manager"
"อืม ใช่ แต่มันคงสนุกดี ถ้าเธออยู่กับพวกเขาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์
จนถึงตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จ คิดดูสิว่า
โอกาสแบบนี้จะมีได้ง่ายๆ หรอ ถือเป็นcase study
ที่ไม่ได้ลองทำกันได้ง่ายๆิจริงมั้ย"
แทยังเริ่มหยั่งเชิงน้องสาว
"ได้เลย ฉันรับคำท้า ฉันจะทำให้ศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังจะเดบิวต์
อย่าง Zenith โด่งดังให้ได้ และฉันก็มั่นใจว่าพวกเขาต้องคว้ารางวัล
ศิลปินหน้าใหม่แห่งปีได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้น ฉันคิดว่าพี่คงจะอนุญาต
ให้ฉันได้ทำตามฝันของตัวเองซะที"
นาอึนตอบอย่างมั่นใจ
"เธอสนใจเจ้าสี่คนนั่นเหรอ"
"โดยรวมแต่ละคนก็มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจดีนะ
งั้นฉันจะใช้ความรู้ ความสามารถที่มีทั้งหมดลองทำภารกิจนี้ก็แล้วกัน"
"เธอต้องช่วยพี่ดูแลStar Ent. ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป ตกลงมั้ย...นาอึน"
"แน่นอน เพราะ Star Ent. คือลมหายใจของพวกเรา
คุณปู่สร้างบริษัทนี้ขึ้นมาจากห้องซ้อมดนตรีเล็กๆ
จนกลายเป็นอุตสาหกรรมดนตรีที่มีขื่อเสียงได้ขนาดนี้
ฉันปล่อยให้มันพังไม่ได้หรอก"
แทยังพอใจกับคำตอบของน้องสาว ก่อนจะลูบศีรษะเธอด้วยความเอ็นดู
พลอยทำให้นึกถึงน้องสาวอีกคนที่อยู่กันคนละซีกโลก
ป่านนี้ยัยจอมป่วนนาบีกำลังทำอะไรอยู่นะ
อีกซีกโลกหนึ่ง ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เด็กสาวที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกันกับนาอึน
เจ้าของชื่อ ซน นาบีกำลังจดปรายพู่กันลงบนผืนผ้าใบ
อย่างอารมณ์ดีในบริเวณสวนของบ้านพักสุดโมเดิร์น
ตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปในยุคเรเนสซองส์
หลังจากที่เธอไปหาแรงบันดาลใจ
ในการสร้างผลงานที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (The Louvre)
อยู่หลายครั้ง สถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียง เก่าแก่
และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในอดีตถูกใช้เป็นพระราชวังหลวงมาก่อน
แต่ในปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปะที่มีคุณค่าระดับโลกมากมาย
เช่น ภาพเขียนโมนาลิซ่า ผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินซี
ภาพหญิงสาวในชุดเดรสสั้นเสมอเข่าสีเขียวสด
ที่โดดเด่นสะดุดตาก็คงหนีไม่พ้น ผีเสื้อตัวโตลวดลายวิจิตรงดงาม
ที่เกาะอยู่บนเนินอกของหญิงสาว
"ถ้าเราปักเจ้าผีเสื้อตัวนี้เสร็จเมื่อไหร่
ชุดนี้จะต้องเริ่ดแน่ๆ เลย ชักอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จัง"
...
3 month later,
ในช่วงประมาณ 10 โมง ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศฝรั่งเศส
โทรศัพท์สายด่วนก็ต่อตรงถึงนาบี ที่ห่างจากเวลาที่ประเทศเกาหลีถึง 7 ชั่วโมง
นาบีฝากถุงผ้าหลายถุงรวมถึงสารพัดของตกแต่งให้โอเว่น
เพื่อนชายสุดซี้สัญชาติฝรั่งเศสและเจ้าของบ้านพักสุดหรูช่วยถือให้
ก่อนจะเอามือล้วงไปหยิบสมาร์ทโฟนที่มีโลโก้เป็นผลไม้ยอดฮิตทั่วโลกขึ้นมารับสาย
" ฉันเอง.. นาอึน ว่างคุยมั้ยนาบี"
"ได้ๆ คุยได้ ว่าไงหรอ รึว่าคุณปู่ไม่สบาย"
นาบีร้อนใจ
"เปล่า คุณปู่สบายดี
ฉันอยากให้เธอกลับมาช่วยฉันดูแล Zenith
ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ด่วน"
"อะไรนะ? ช่วยพูดอีกทีสิ"
ซน นาบีถามแฝดผู้พี่ด้วยความแปลกใจสุดๆ แต่ก็แอบดีใจมากด้วยเช่นกัน
ที่จะได้ใกล้ชิดศิลปินที่รักยิ่งของเธอ...
เธอตีโอเว่นไปหลายครั้งด้วยความตื่นเต้น และดีใจ
"เธอได้ยินชัดพอแล้วล่ะนาบี เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง"
นาบีกำหัวแกร๊กๆ และพอจะนึกหน้านาอึนในตอนนี้ออก
แต่เธอก็แสนจะชินกับท่าทางดิบห่ามของพี่สาวคนนี้แล้ว
ความจริงเธอน่าจะเกิดเป็นฝาแฝดคู่กะพี่แทยัง คงจะเข้าท่ากว่านี้
เมื่อรวบรวมตรรกะในสมองได้ครบถ้วน นาบีก็รีบกรอกเสียงหวานๆ
ไปตามสายตาโทรศัพท์ทางไกลทันที
"นี่เธอพูดจริงๆ หรอนาอึน เธอจะให้ฉันไปช่วยงานเธอที่ Star Ent.จริงๆ หรอ"
"ตามนั้นแหละ แค่เดือนเดียวหรืออาจจะมากกว่านั้น เอ่อที่จริงก็จนกว่าพี่จินจูจะเดินได้เป็นปกติ
ตอนนี้เธอก็เหลือแค่หาข้อมูลและแรงบันดาลใจในการทำthesis ไม่ใช่หรอ"
ซน นาอึนพูดถึงลี จินจู ผู้จัดการส่วนตัวของหนุ่มๆ วง Zenith ที่ดันประสบอุบัติเหตุ
จนทำให้ต้องพักรักษาตัวอยู่แบบไม่มีกำหนด
"ตกลง ฉันจะบินกลับเกาหลีให้เร็วที่สุด แต่เธอพูดแล้วห้ามคืนคำนะ"
"อื้ม เธอเห็นฉันเคยพูดเล่นรึไงนาบี รีบกลับมาล่ะ คุณปู่บ่นคิดถึงทุกวันเลย"
"รอรับฉันที่สนามบินได้เลย แค่นี้นะนาอึน ฉันขอไปจัดกระเป๋่าก่อน"
"แล้วเจอกันนะนาบี"
ความจริงแล้ว แม้นาบีมาเรียนไกลถึงปารีส
แต่เธอกลับชื่นชอบศิลปินวง Zenith
ศิลปินสัญชาติเกาหลี ภายใต้สังกัด Star Ent. (ธุรกิจของครอบครัว)
ถึงขั้นคลั่งไคล้ทีเดียว ผลงานต่างๆ รวมถึงของที่ระลึกLimited Edition
ถูกขอร้องปนบังคับให้ส่งมาตรงจากเกาหลี ในทันทีื
จนต้องเดือดร้อนถึงCEOคนล่าสุดของStar Ent.
แต่คนที่คลั่งไคล้เป็นที่สุด...คือ คิม แทอึน ชายหนุ่มผู้มีดวงตาที่สวยคม
ประดุจนักล่าในหนังแนวแฟนตาซีจำพวกหมาป่ารึแวมไพร์อะไรพวกนั้น
ตามที่เธอชอบอ่านเป็นงานอดิเรก
++3++
...4 หนุ่ม 4 สไตล์ ในนาม Zenith (ซี นิธ) ภายใต้สังกัด Star Ent.
สังกัดเดียวกันกับ The Occupier (ดิ อ๊อกคิวเพีย) 3 หนุ่มสุดร๊อกผู้โด่งดังไปทั่วโลก
4 หนุ่มบอยแบนด์หน้าใส หลากสไตล์ และมากความสามารถ
เพราะพวกเขาคือสุดยอดเด็กหนุ่ม ต่างที่มา ที่เหมาะสมกับชื่อ Zenith เป็นที่สุด
พวกเขาโด่งดังจากเพลง 'Say Hi!' โดยเพลงส่วนใหญ่ของพวกเขา
เป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นไอความเป็นตะวันออก
และตะวันตกได้อย่างลงตัว
พวกเขาเป็นนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังเป็นที่จับตามอง
ของวงการเพลงเกาหลีในขณะนี้
พวกเขาเริ่มเดบิวต์ตั่งแต่ต้นปี 2012
ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่..
ชเว ดาบิน leaderหน้าหวาน พี่ใหญ่ของวง ผู้มีส่วนสูง 179 เซนติเมตร
และมีหุ่นล่ำกำยำราวกับนักกีฬาอีกทั้งยังรั้งตำแหน่ง vocalist เสียงใส
และกุมหัวใจสาวๆ เอาไว้ซะอยู่หมัด นอกจากนี้เขายังมีสัมผัสประหลาด
ที่มีคลื่นความถี่ในการสแกนชายรักชายได้เป็นอย่างดี
ไม่แปลกที่เขาจะเป็นขวัญใจชาวสีม่วง
ฮัน จุนกอล main vocal สุดหล่อ ผู้มีรอยยิ้มและสายตาสุดหวานซึ้ง(พิฆาตใจสาว)
ส่วนสูง 182 เซนติเมตร เป็นพี่ใหญ่ในวงรองจากดาบิน
ผมสีบลอนด์ทองนั่นก็ช่วยให้เขาโดดเด่นไม่แพ้ใคร
และเขาก็ยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของฮัน ซึงจุน อดีตเมมเบอร์ของบอยแบรนด์ชื่อดัง
อย่างวง 2U (ทูยู) ที่เป็นบอยแบรนด์ระดับตำนานของค่าย
Star Ent. และวงการเพลงเกาหลี ที่ตอนนี้ได้ผันตัวเองมาเป็น
พิธีกร นักแสดง และคอมเมนต์เตอเตอร์ชื่อดัง
คิม แทอึน แรปเปอร์สุดเท่ ผู้มีสายตาประดุจเหยี่ยว ผู้มีพรสวรรค์ในการแต่งเพลง
แถมยังมีดีกรีเป็นถึงนักกีฬายิงธนูทีมชาติอีกด้วย ส่วนสูง 180 เซนติเมตร
ฉายา เจ้าชายแวมไพน์แห่งเกาหลี ก็ดูจะเหมาะกับเขามากๆ
คนสุดท้าย ลี จุนฮา มักเน่ยักษ์ของวง ที่สูงถึง 184 เซนติเมตร
นอกจากจะมีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยม ยังเป็นคู่หูคู่แรพที่ลงตัวของแทอึนได้เป็นอย่างดี
นี่คือเด็กหนุ่มสี่คนที่นาอึนหมายมั่นปั้นมือไว้แต่แรก
การเข้าไปคลุกคลีกับพวกเขาก็เป็นอะไรที่ไม่ยากเกินความสามารถของเธอ
และตอนนี้แผนการทั้งหมดก็ดูเหมือนจะก้าวข้ามผ่านไปทีละสเต็ปอย่างสวยงาม
...หลังจากอัดวิดีโอคลิปเนื่องในโอกาสที่Zenith เดบิวต์จนเดินทางมาถึงวันที่ 100
ที่จะครบกำหนดจริงๆ ในอีก 2 วันข้างหน้านี้ จบลง
นาอึนก็เรียกสี่หนุ่มมาคุยสรุปงาน และบอกตารางงานคร่าวๆ ในวันรุ่งขึ้น
"ถึงพวกนายจะเบื่อหน้าฉัน แต่ก็ช่วยอดทนกันหน่อย
อ้อ ลำพังฉันคนเดียวอาจจะดูแลพวกนายได้ไม่ดีพอ
เพราะงั้นมะรืนนี้ฉันจะพาน้องสาว มาช่วยดูแลพวกนายอีกที
ช่วยทำตัวดีๆ กับเธอด้วยล่ะ วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว
พวกนายไปพักเถอะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้"
นาอึนพูดๆ ไป ขณะที่ในมือก็จดยุกยิกๆ บน
สมุดเล่มขนาดพอดีมือ
เจ้าของสายตาคู่คมและใบหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ความรู้สึก
ของเขาได้... แทอึนจ้องหน้านาอึนอยู่นาน
ก่อนจะหันไปหาจุนกอล เมมเบอร์ที่สนิทที่สุด
"ถ้าไม่ติดว่านาอึนดุไปหน่อย ความจริงฉันว่าเธอก็สวยดีเหมือนกันนะ
นายว่ามั้ย..แทอึน"
จุนกอลถามตามพะสาหนุ่มฝีปากกล้า
"นายนี่ก็ถามอะไรไร้สาระจริงๆ วันนี้เหนื่อยจนเพี้ยนรึไง"
"ก็แค่อยากรู้ความคิดเห็นของนายเฉยๆ
ว่าผู้หญิงแบบไหนที่นายสนใจ
ทำไมต้องทำท่าอารมณ์เสียด้วยฮะ
แอะๆ รึนายสนใจเธอ"
"บ้าน่า"
แทอึนกระทุ้งศอกใส่จุนกอลก่อนเดินออกจากห้องซ้อมเต้นไป
จุนกอลยิ้มขำๆ กับท่าทางของแทอึน ก่อนจะเดินตามออกไปอีกคน...
สำหรับแทอึนแล้ว...เขานึกชอบในความพูดตรง ตัดสินใจเฉียบขาด และจริงใจ
ของนาอึน อีกทั้งรูปลักษณ์ที่ดูเป็นผู้หญิงที่สามารถดูแลตัวเอง
ได้เป็นย่างดี ผมตัดซอยสั้นที่ถูกจัดแต่งทรงเป็นอย่างดี
เผยให้เห็นดวงหน้าเรียวเก๋ราวกับตุ๊กตา
หูทั้งสองข้างก็มีต่างหูสุดเท่ใส่อยู่
เพิ่มลูกเล่นด้วการกรีดอายไลเนอร์ที่ขอบตา
ปัดบรัชออนบางๆ และทาลิปกลอสสีนู้ด
เสื้อยืดสีขาวลายกราฟฟิกสวมทับกับแจ๊คเก็ตหนังสีน้ำตาลตัวโปรด
กางเกงยีนส์เดนิมสีซีด และมีรอยขาดเป็นทาง
รองเท้าบู๊ทสีน้ำตาลคู่เก่ง...นั่นคือการแต่งตัว
ที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าหล่อน
มือคู่สวยถูกทาด้วยยาทาเล็บสีดำของแบรนด์NARS
มีกำไลหนังสีดำสวมอยู่
ที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นรอยสักรูปดาว
ที่อยู่บนท้ายทอยของเธอ...
ระหว่างนั้นจุนฮาก็ซักประวัติน้องสาวของนาอึนเป็นการใหญ่
แต่มีหรือที่นาอึนจะบอก...
"เดี๋ยวนายก็รู้จักและเห็นเธอเองนั่นแหละ
ฉันบอกไปก็หมดสนุกสิ"
นาอึนแกล้งยั่ว มักเน่ยักษ์อย่างสบายใจ
ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างโล่งอก ที่เคลียร์ตารางงาน
ของสี่หนุ่มให้ผ่านพ้นไปได้ในแต่ละวัน
เธอเข้าใจพี่จินจูมากขึ้นเป็นสิบเท่า.. และอยากจะให้พี่ชายของเธอขึ้นเงินเดือน
ให้ผู้จัดการสาวคนสวยอีกสัก5เท่า
"นูน่าใจร้ายจัง ผมงอนแล้วด้วย
กลับดีกว่า"
จุนฮาจึงเป็นคนต่อไปที่เก็บกระเป๋าออกจากห้องไป
ท่าทางงุ้งงิ้งๆ ของเขาช่างไม่เหมาะกับเด็กอายุ 15 ปี
ที่สูงถึง 184 เซนติเมตรจริงๆ
"ไงคุณลีดเดอร์ นายจะนอนที่นี่หรอ ไม่ออกไปสักที
รึมีอะไรจะคุณกับฉัน"
"นาบี จะมาช่วยเธอดูแลพวกเราจริงๆ หรอ"
"อืม ใช่ นายคิดถึงเพื่อนซี้ตัวแสยสมัยเรียนใช่มั้ยล่ะ
ถ้านาบีรู้คงดีใจแย่ แต่ไม่ต้องห่วงนายกับนาบี
ยังไงก็ได้เจอกัน"
ดาบิน เหมือนจะกลืนคำพูดลงคอจนหมด..
"ว่าไง มีอะไรจะพูดกะฉันรึเปล่า"
"เปล่า ไม่มี เอ่อ ขอบใจนะที่ดูแลพวกเรา
เป็นอย่างดี ระหว่างที่พี่จินจูไม่อยู่เธอคงเหนื่อยแย่"
"อื้ม กลับกันเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว"
"อือ เธอเองก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยล่ะ"
เมื่อดาบินออกไปแล้ว นาอึนจึงโทรศัพท์ไปหาท่านประธานบริษัท
เป็นการด่วน
"เดี๋ยวฉันไปหาที่ห้องทำงานนะคะ
เพิ่งเสร็จธุระค่ะ โอเคค่ะพี่
แล้วเจอกันค่ะ"
...เครื่องบินจากฝรั่งเศสลงจอดที่สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
ในช่วงประมาณทุ่มสามเศษๆ ตามเวลาท้องถิ่น
ซน นาบี ก้าวฉับๆ ราวกับกำลังเดินอยู่บทแคทวอร์ก
แสงไฟในสนามบิน คล้ายกับสปอร์ตไลท์ที่สาดส่องมาที่ตัวเธอ
ด้วยความสูง 172 เซนติเมตร ทำให้เธอดูโดดเด่นไม่เบา
นาบีขยับแว่นตาดีไซน์เก๋แบรนด์Gucciเล็กน้อย
ก่อนจะพบว่ามีคนมาคอยรับเธออยู่แล้ว
"พี่แทยัง นาอึน"
เธอโบกมือให้กับพี่ๆ ก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งไปหา
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะยัยตัวยุ่ง"
แทยังยื่นช้อดอกลิลลี่สีขาวช่อโตส่งให้นาบี
"สวยจังคะ ขอบคุณนะคะพี่แทยัง"
"รีบกลับเถอะค่ะ ป่านนี้คุณปู่หิ้วท้องรอพวกเราจะแย่ล่ะ
นี่มีกระเป๋าแค่นี้ใช่ไหม"
นาอึนพูด
"มีสองใบนี่แหละ ใบแรกเป็นเสื้อผ้า อีกใบเป็นของฝากให้ทุกคนแหนะ
ส่วนของใช้ที่เหลือ เดี๋ยวโอเว่นให้บริษัทที่บ้านส่งมาให้"
"ไปกันสาวๆ เดี๋ยวกระเป๋านี่ พี่จัดการเอง"
แทยังด้นร่างสองสาวฝาแฝดให้เดินนำเขาออกไป
ส่วนตัวเองก็เข็นรถเข็นกระเป๋าไปให้จนถึงที่รถ Range Rover คันโตที่จอดอยู่
++5++
"คุณปู่ค๊าาาาาา"
นาบีกรอกเสียงใสๆ ไปทักทายคุณปู่ของเธอ...
ทันทีมาถึงก็พบว่าผู้อาวุโสของบ้านยืนรออยู่ที่ห้องรับแขก
นาบีแทบจะกระโจนใส่คุณปู่ของเธอ
"นาบีของปู่"
ซน แทยองกอดหลานสาวคนโปรดแน่น
นาบีก็กอดรัดไม่แพ้กัน หอมซ้ายที ขวาที จนผู้อาวุโสของบ้าน
แทบหายใจไม่ออก
...หลังร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษกันเสร็จ
นาบีก็เอาใจคุณปู่และพี่ๆ ของเธอ ด้วยการนำของฝากจากฝรั่งเศสมาให้
"เสื้อโค้ทตัวนี้เหมาะกับคุณปู่ม๊ากมากค่ะ สีก็สวยด้วย อ้อ ผ้าพันคอผืนนี้
นาบีกับเพื่อนลองฝึกทำกันดูน่ะค่ะ ไม่คิดว่าพอทำออกมาก็ดูดีเอามากๆ
ขนาดนี่แค่ลองทำครั้งแรกนะคะ สวยมั้ยคะ"
แทยังกับนาอึนสบตากันอย่างเข้าใจ
แล้วหันไปยิ้มให้กับท่าทางเอาอกเอาใจของนาบี
และรอยยิ้มมีความสุขของคุณปู่
ก่อนที่พ่อบ้านคิมจะมาพาคุณปู่ไปเข้านอน
ทีนี้สามพี่น้องก็ได้เปลี่ยนอิริยาบถมาอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของบ้าน
"อะไรกันมาถึงก็ชวนเที่ยวแล้วหรอ ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยรึไงเรา
ฉัน ไม่เอาด้วยหรอก พรุ่งนี้ฉันมีคิวพาหนุ่มๆ Zenith ไปอัดรายการที่
ช่อง UBN เธอไปกับท่านประธาน เอ่อ พี่แทยังเถอะ"
"โห นาอึนใจร้ายจัง ไปด้วยกันเถอะนะ นะ นะ นะ"
"เสียใจ ไว้คราวหน้าละกัน วันนี้ฉันเหนื่อยมาก
บ๊าย บาย"
นาอึนรีบอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหนีขึ้นห้องไป
และคนที่ตกที่นั่งลำบากก็คือแทยัง
"นาบี เห็นใจพี่เถอะนะ พี่เองก็เพิ่งได้รับตำแหน่งได้ไม่นาน
แถมวันนี้ก็มีงานให้ต้องสะสางตั้งแต่เช้าไว้วันหลังเถอะนะ"
แทยังหาทางบ่ายเบี่ยง
"นี่ใจคอจะทิ้งกันจริงๆ ใช่ไหม"
คิ้วของนาบีคล้ายๆ จะเริ่มผูกกันเป็นโบ
จมูกเป็นสันเชิดรั้น
เป็นอาการเริ่มต้น.. เมื่อถูกใครขัดใจหรือมีใครทำอะไรให้ไม่พอใจ
"ก็ได้ๆ ฉันไปคนเดียวก็ได้ เชอะ"
นาบีรีบเดินหายเข้าห้องไป ก่อนจะกลับออกมา
ด้วยชุดสีแดงสดใส...
แทยังได้แต่เหนื่อยใจกับนาบี
"แล้วแบบนี้จะรอดมั้ยเนี่ย รึยัยนาบี
จะทำให้นาอึนเหนื่อยกว่าเดิม"
แทยังได้แต่ถอนใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
และยังกำชับยัยตัวแสบ ขี้เอาแต่ใจ
ให้ขับรถอย่างระวัง
บรื๋นนนนนนนนนน
++6++
ชุดเดรสไหมพรมสีแดงสด ยาวกรอมเข่า
และมีลูกเล่นโดยการปักคริสตัลสีสันสวยงาม
สีแดงสดที่ขับกับผิวสีขาวน้ำนมของนาบี
อีกทั้งรองเท้าส้นสูงสีทองที่มีลูกเล่นตรงเชือกพันรัดทั้งข้อเท้าบวกกับความสูงราว5 นิ้ว
ทำให้เธอดูโดดเด่นเข้าไปอีก
แข่งกับแสงไฟที่สาดส่องบนท้องถนนในยามค่ำคืน
สถานที่ที่นาบีไปไม่ใช่ไนท์คลับแต่อย่างใด
แต่เป็นร้านอาหารข้างทางที่เธอแสนคิดถึง
นาบีเพลิดเพลินกับการกินอยู่นาน
ก่อนจะมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้คือเวลา
เกือบห้าทุ่ม...เธอรีบออกจากร้านไป
และกำลังเดินกลับไปที่รถบีเอ็ม ดับเบิ้ลยูสีขาวป้ายแดงที่จอดอยู่
อยู่ๆ หิมะแรกของปีก็ตกลงมาอย่างช้าๆ
นาบีหยุดเดิน แล้วหันไปให้ความสนใจ
กับหิมะที่ตกลงมา
"พวกเธอคงมาแสดงความยินดีที่ฉันกลับบ้านใช่ไหม
ขอบใจนะ"
นาบีพูดและยิ้มคนเดียว เมื่อทึกทักเอาเองตามความคิดของเธอ
มือบางเอื้อมไปรับหิมะแรกของปี...อย่างเพลิดเพลิน
ชายหนุ่มร่างสูง นัยน์ตาสวย ประดุจกวางหนุ่ม
หยุดยืนมองหญิงสาวหน้าตาคุ้น ที่อยู่เบื้องหน้า
เขามองเธอ ผู้หญิงที่เขาเห็นหน้าอยู่ทุกวัน
แต่ตอนนี้มันช่างแตกต่าง หน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ของเธอ
บัดนี้มีรอยยิ้มเปื้อนหน้าเต็มไปหมด และเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า
เธอมีลักยิ้มด้วย จุนกอลเห็นผีเสื้อหลายสิบตัวบินอยู่รอบๆ
ตัวเธอ มันเป็นภาพที่สวยงามมากในค่ําคืนนี้
"ผะ ผะ ผีเสื้อหรอเนี่ย ในเวลาแบบนี้นี่นะ"
จุนกอลอุทานเบาๆ ก่อนยิ้มขำ
แต่ทว่าเขาคงจ้องเธอนานไปหน่อย หญิงสาวจึงรีบหุบยิ้มทันที
จุนกอลเดินไปหาหญิงสาวอย่างคุ้นเคย
"วันหลังจะมาเที่ยวกะบอกกันบ้าง ฉันจะได้มาเป็นเพื่อน
แต่เธอแต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ"
นาบีไม่สนใจจึงเดินผ่านชายหนุ่มไป
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า นายคนนี้ก็หน้าคล้ายกันกับ
ฮัน จุนกอล แห่งวง Zenith เหมือนกันนะ
แต่นาอึนคงไม่ปล่อยให้ศิลปินในความดูแล
มาเดินเพ่นพ่านในตอนนี้หรอก
แต่ดูเหมือนนาบีจะไม่ทันสังเกตเห็นว่า
ชายกระโปรงของเธอเกี่ยวเข้าให้กับ
โซ่คล้องกระเป๋าเงินของชายหนุ่ม
ในช่วงจังหวะที่เดินสวนกันในระยะประชิด
จนกระโปรงของเธอหดสั้นลงอย่างรวดเร็ว
เหลือความยาวเพียงคืบเดียวเท่านั้น
"อร้ายยยยยยยยย"
นาบีกรีดร้องเสียงดัง จนจุนกอลต้องหันกลับมาโดยเร็ว
เพราะเขาเองก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง
เกี่ยวรั้งเขาไว้...
หญิงสาวแลดูจะเริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็เอากระเป๋าถือใบโตมาบังเรียวขานั่นไว้
จุนกอลเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
เขารีบแกะเส้นด้ายสีแดงออกจากโซ่คล้องทันที
"ฉันขอโทษนาอึน ขอโทษจริงๆ "
นาบีซัดหมัดน้อยๆ เข้าที่ท้องของชายหนุ่ม
และเอากระเป๋าถือฟาดตามตัวของเขา
"ไอ้โรคจิต เชอะ"
เขาร้องโอดโอย แล้วเอามือมาปัดป้อง
ก่อนที่นาบีจะกระทุ้งที่เท้าของจุนกอลเต็มเหนี่ยว
เพื่อสั่งลา แล้วรีบวิ่งขึ้นรถและขับหายไปในความมืด
อย่างรวดเร็ว
จุนกอลได้แต่งงงวยกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
"นี่มันวันซวยอะไรของเราวะเนี่ย
ดีนะที่ไม่โดนตบแถมด้วยเนี่ย"
++7++
วันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 100 วัน ที่หนุ่มๆ วง Zenith เดบิวต์
พวกเขาปล่อยคลิปวิดีโอที่ได้อัดกันไปเมื่อวันก่อนสู่social network
ช่อง The Star Family
โดยในวันนี้ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของหนุ่มๆ
ก็ได้ถือกำเนิดในชื่อ 'Zippie' ที่เกิดจากการเล่นคำ
ในภาษาอังกฤษของคำว่า Zippy ที่มีความหมายว่า เป็นกำลังใจ
ดังนั้นครอบครัวของZenith จึงเป็นอันสมบูรณ์ เพราะมีกำลังใจ
และความรักจากบรรดาแฟนคลับทั่วทุกมุมโลก
...การปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของนาบีทำให้หนุ่มๆ Zenith
ดูผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยที่นาบีเป็นคนช่างพูด ผิดจากแฝดผู้พี่ที่เงียบขรึม
แต่ดูมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน
และที่สะดุดตาก็คงจะเป็นชุดที่เธอสวมใส่อยู่
เสื้อลูกไม้แขนยาวสีดำกับกระโปรงสีชมพูแป๋น
และรองเท้าส้นสูง 5 นิ้วสีเดียวกับกระโปรงของเธอ
ชุดที่นาบีบอกว่าธรรมดาที่สุดแล้ว
เรื่องหน้า ผม ก็เป๊ะอย่างกะหลุดมาจากนิตยสารแฟชั่นจากต่างประเทศ
รอยยิ้มที่ยิ้มจนตาหยิบหยีกับลักยิ้มคู่สวยก็เหมาะกับเธออย่างยิ่ง
และเธอมีที่ท่าสนใจคิม แทอึนเป็นพิเศษ
จุนฮาดูเหมือนจะถูกใจ ที่ได้เพื่อน(เล่น)คนใหม่
ทั้งที่อายุในความเป็นจริงออกจะห่างกันมากโข
ในขณะที่แทอึนมองนาอึนสลับกับนาบีไปมา...ฝาแฝดคู่นี้
ช่างเป็นแฝดเหมือน ที่ไม่เหมือนกันเอามากๆ
ถ้ามองจากท่าทางการวางตัว บุคลิก การแต่งตัว การพูดการจา
เท่านี้ก็สามารถแยกได้อย่างง่ายดายว่าใครเป็นใคร
ส่วนจุนกอลที่ตามมาสมทบทีหลังก็ถึงกับปากค้าง
เขาจำแม่สาวชุดแดงที่เจอกันเมื่อวันก่อนได้อย่างแม่นยำ...
จากตอนแรกที่คิดว่าเธอเป็นนาอึน ที่ตนรู้จัก
และไม่แปลกที่นาบีจะจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
แต่ที่น่าแปลกก็คือ...ทันทีที่ดาบิน ลีดเดอร์หน้าหวานได้เจอกับนาบี
เขาก็ดูจะลนลานไม่น้อย เพราะอะไรน่ะหรอ
ซน นาบี..คือผู้กุมความลับที่น่าอับอายของเขาเมื่อสมัยเด็กนั่นเอง
เมื่ออยู่กันตามลำพัง...
"หวัดดีดาบิน โตขึ้นนายเองก็หล่อไม่เบานะเนี่ย
โอ้ ว้าว ดูไม่เหมือนกับ..."
นาบีพูดค้างไว้...และยิ้มเจ้าเล่ห์
เธอเข้าไปกอดคอดาบินอย่างสนิทสนม
ดาบินรีบเอามือของนาบีออกแบบด่วนจี๋
ก่อนจะลากนาบีไปยังสวนหย่อมริมระเบียง
ที่ถูกตกแต่งอย่างลงตัว
"นาบี ฉันมีเรื่องจะขอร้องเธอ..."
"ว่ามาสิ"
"คืิอเรื่องเมื่อตอนเด็กๆ น่ะ เธอช่วยลืมๆ มันไปได้ไหม"
"อื้มๆ นึกว่าเรื่ิองอะไร ที่แท้ก็..."
"ฉันขอร้อง ซน นาบี"
ชเว ดาบินร้องเสียงหลง
"งั้นนายก็ต้องช่วยฉันกะพี่นาอึนด่วยล่ะ
ทำให้พวกเมมเบอร์คนอื่นๆของนายน่ารักๆ หน่อย
โดยเฉพาะคนที่ชื่อฮัน จุนกอลอะไรนั่น
ในระหว่างที่พี่จินจูไม่อยู่ ฉันสัญญาว่าความลับ
ของนายจะเป็นความลับต่อไป"
"ตกลง"
ทั้งนาบีและดาบินต่างก็ยื่นมือออกมาเพื่อเกี่ยวก้อยสัญญา
และดูเหมือนว่าจะมีสายตาคู่หนึ่งที่มองดูคนทั้งคู่อยู่ที่มุมไกลๆ
"ขนาดเจ้าดาบินที่อยู่กันมาตั้งนาน
ยังดูไม่สนิทสนมกับนาอึนเท่านี้มาก่อน
แต่กลับสนิทกับยัยผีเสื้อจอมวีนขนาดนี้...มันยังไงกันนะ"
ชายหนุ่มได้แต่นึกสงสัย
จุนฮาอาสาเป็นไกด์ทัวร์ให้นาบีชมห้องทำงานของเขา
แต่ก็ต้องยอมรับว่านาบีทำการบ้านมาอย่างดี
เพราะเธอสามารถจดจำรายละเอียดของงาน
และห้องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี..ก็แน่ล่ะสิ เพราะเธอเป็น...
"นี่ๆ จุนฮา ถ้านายว่างนะ พี่สาวขอยืมตัวเธอเป็นนายแบบ
หน่อยสิ ชักคันไม้คันมือ อยากลองทำชุดที่เริ่ด สุดบรรเจิดให้
นายได้ใส่น่ะ สนใจมั้ย รับรองว่านายต้องชอบ"
"จริงหรอนูน่า น่าสนใจดีนะ"
ท่าทางสนิทสนมของนาบีกับใครต่อใครรอบๆ ตัว
ของจุนกอล ทำให้เขาอดหมั่นไส้หญิงสาวไม่ได้
จนแทอึนต้องปรามเขาให้เก็บอาการไว้บ้าง
เพราะกลัวผู้ช่วยผู้จัดการ(ชั่วคราว)คนดี..ต้องเหนื่อยใจแทน
"นี่ฉันคิดถูกรึคิดผิดนะ ที่เรียกยัยนี่กลับมา
โทษทีนะถ้าทำให้ใครต้องอึดอัดเพราะน้องสาวของฉัน"
นาอึนรีบออกตัว อย่างคนที่ประเมินสถานการณ์มาอย่างดี
"บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ เธอเองก็ไม่ต้องคิดมากหรอก
นาบีก็น่ารักดีนิ่"
ทั้งนาอึนกับจุนกอลต่างก็ตกใจไม่น้อยกับคำพูดแปลกๆ ของแทอึน
ส่วนดาบินก็ได้แต่ยิ้มๆ โดยส่วนตัวเขาแอบหวังว่า ซน นาบี
ในวัย 23 ปี จะโตเป็นผู้ใหญ่ จะไม่คิดทำอะไรแผลงๆ อีก
...ห้องสุดท้ายที่หนุ่มๆ Zenith กับองครักษ์พิทักษ์ทั้งสอง
มาก็คือห้องซ้อมเต้น โดยเทรนเนอร์หนุ่มร่างบึ๊ก
กำลังออกแบบท่าเต้นให้กับซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขาอยู่
หลังจากที่ได้ดูหนุ่มๆ ซ้อมร้องซ้อมเต้นครบทีม
นาบีก็ออกอาการปลื้มสุดๆ
จนเวลาล่วงเลยไปนาน เมมเบอร์แต่ละคนต่างแยกย้ายไปพัก
หรือไม่ก็ยังคงแยกกันซ้อมอยู่คนละมุมห้อง
เพื่อให้ทุกการแสดงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
นาบีแย่งขวดน้ำและผ้าขนหนูมาจากนาอึน
เธอเอาไปให้เมมเบอร์แต่ละคนอย่างกระตือรือร้น
"อ้าว แล้วของฉันล่ะ"
จุนกอลถามหาน้ำและผ้าขนหนูของตัวเองบ้าง
"เสียใจไม่มีของนายหรอก คนไร้มายาท"
นาบีจ้องหน้าเขานิ่ง ริมฝีปากอวบเม้มเข้าหากันทันที
สายตาของเธอมองเขาอย่างไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
"เรื่องวันนั้น ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นอุบัติเหตุ"
"ก็ได้ในเมื่อนายขอโทษ ฉันเองก็จะลืมๆ มันไป
ในเมื่อเราคงต้องเจอหน้ากันทุกวัน...อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
"อื้ม"
จุนกอลตอบ เขายิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
...หนุ่มๆ Zenith เริ่มซ้อมกันอีกครั้ง
หลังจากพักเบรกมาประมาณครึ่งชั่วโมง
นาบีกำลังดูการซ้อมอย่างเพลิดเพลิน
ในขณะที่นาอึนกำลังคุยกับโปรดิวเซอร์
และทีมงานอีกหลายคนอยู่ข้างนอกห้องซ้อม
อยู่ๆ จุนกอลก็เดินมาหยุดยืนข้างๆ นาบี
"เจ้านั่นน่ะ มันไม่มีทางสนใจเธอหรอกน้องหนู
ต่อให้เธอมองมันจนตาหวานหยดย้อยขนาดไหน"
คำพูดจิกกัดของฮัน จุนกอล ทำให้นาบีเริ่มหงุดหงิด
เธอละสายตาจากคิม แทอึน ที่กำลังซ้อมเต้นอย่างหนักหน่วง
ก่อนที่จะหันมาเผชิญกับชายหนุ่ม
ดวงหน้าสวยๆ บูดบึ้งไปเล็กน้อย จมูกเชิดรั้นขึ้น
แต่ก็ทำให้เธอดูน่ารักไปอีกแบบ
"ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ฉันคงช่วยพี่สาวทำงานที่นี่ได้ไม่นานหรอก
เพราะงั้นเราควรจะทำดีต่อกันไว้นะคุณนักร้อง แต่ถึงนายจะพูดยังไง
ฉันก็ไม่มีทางละสายตาจากแทอึนได้หรอก ขอโทษที่ทำให้นายรำคาญใจ
แต่ฉันไม่มีทางเป็นแฟนคลับของนายกรอก แบร่"
นาบีพูด ก่อนจะแลบลิ้นให้จุนกอล แล้วเดินจากไปทันที
สาวร่างบางแกล้งเดินชนคนตัวโตที่ยืนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
และไปนั่งรวมกับจุนฮาและดาบินที่เพิ่งเลิกซ้อมไป
จุนกอลนึกหมั้นเขี้ยวเธอขึ้นมาทันที
หรืออาจจะเริ่มสนใจเธออยู่โดยไม่รู้ตัว
"ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ล่ะก็ จะจับตีก้นซะให้เข็ด
แก่นเซี้ยวนักใช่ไหม ซน นาบี ยัยผีเสื้อขี้วีน"
นาอึนแอบเข้ามาในห้องซ้อมดนตรีข้างๆ
มือสองวางลงคีย์บอร์ดเปียโน เมโลดี้สั้นๆ
ถูกบรรเลงขึ้น เธอหยิบกระดาษบรรทัดห้าเส้น
มาเขียนโน๊สเพลง พร้อมกับเนื้อร้องที่แต่งสดๆ
ตามFeeling ในตอนนั้น ก่อนจะพับมันเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อหนัง
เธอเผลอร้องเพลงโปรดออกมาอย่างเพลิดเพลิน
ท่อนHook ของเพลง As long as you love me
ของหนุ่มๆ ในตำนานอย่าง Backstreetboys
I don't care who you're
Where your from
what you did
As long as you love me
Who you're
Where your from
Don't care what you did
As long as you love me, baby
นาอึนเผยให้เห็นรอยยิ้มสดใส
และพลอยทำให้ชายหนุ่มที่แอบมองเธออยู่เงียบๆ
ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที...
รอยยิ้มแบบที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ
เขาแกล้งเคาะกระจกห้องเสียงดัง
และทำทีมาตามเธอที่หายออกเสียนาน
ก่อนจะเดินตามไปนั่งข้างๆ เธอ
นาอึนขยับตัวเล็กน้อย
"ไม่ยักรู้ว่า เล่นเล่นเปียโนได้พริ้วขนาดนี้
แถมร้องเพราะนะ"
"เคยเรียนตั้งแต่เด็กน่ะ อีกอย่างฉันยังทำอะไรได้มากกว่านี้
รับรองว่าถ้านายรู้นายจะต้องทึ่ง และถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ
วงZenithต้องได้เจอคู่แข่งที่ฝีมือสูสีกันแน่"
นาอึนพูดอย่างอารมณ์ดี
ในตอนนี้ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวของเธอกำลังยิ้มตาม
กับปากรูปกระจับอันอวบอิ่มที่ทาด้วยลิปติกสีพีชสดใส
"ไม่ยักรู้ว่าเธอก็ขี้โม้เหมือนกันนะคุณผู้จัดการ"
แทอึนพูดและยิ้มตอบเธอบ้าง
นาอึนรู้สึกหวั่นไหวกับรอยยิ้มนั้น
เธอเลยเอามือปัดผมหน้าม้ายาวมาทัดที่ข้างหนู
"แค่ผู้จัดการชั่วคราวต่างหากล่ะ พี่จินจูกลับมาเมื่อไหร่
ฉันจะรีบคืนตำแหน่งนี้ให้ทันที"
"เธออยากฟังเพลงที่ฉันร้องไหม"
"ก็ฟังอยู่ทุกวัน นายนี่ถามแปลกๆ นะ คิม แทอึน"
"เพลงที่ฉันแต่งเองน่ะสิ สนใจมั้ย เธอจะได้ฟังมันคนแรกเชียวนะ"
"ก็ลองดูสิ ไหนดูสิว่าทักษะการแต่งเพลงของนาย
เลวร้ายอย่างที่คิดไว้รึเปล่า"
"เธอนี่นะ ซน นาอึน"
"ใช่ชื่อนั้นชื่อฉันเอง หึหึ"
แทอึนไม่อยากจะทำให้อารมณ์ขันของหญิงสาว
หมดไป เขาค่อยๆ บรรเลงเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จให้นาอึนฟัง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่ดาบินจะมาตามทั้งคู่ไปยังห้องซ้อมเต้น
เพื่อให้นาอึนประเมินการฝึกซ้อมเป็นรอบสุดท้ายของวัน
"ฝีมือการแต่งเพลงก็โอเคนะ แต่ต้องฝึกอีกเยอะ
ไปกันเถอะทุกคนรอเรานานแล้ว"
...ความจริงแล้วแทอึนกำลังเรียนในสาขาDigital music
ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังด้านดนตรีที่ประเทศออสเตรเลีย
โดยการเรียนออนไลน์จึงไม่กระทบกับตารางงานเท่าไหร่นัก
และเมื่อไรที่ว่างหรือนึกอย่างจะแต่งเพลง
เขาก็มักจะลุกขึ้นมาสร้างสรรค์ผลงาน
การได้เจอกับนาอึน...ทำให้คนพูดน้อยอย่างเขา
อยากหาเรื่องคุยกับเธอมากขึ้น
++8++
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้นเอง
การประชุมบอร์ดบริหารในวันนี้
หัวข้อที่เป็นประเด็นใหญ่ก็คือ
การยกเลิกกฎห้ามมีแฟนของศิลปิน
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่พักใหญ่
แต่ในที่สุดทุกคนในบริษัทก็ยอมทำตาม
"ความรักเป็นสิ่งสวยงามครับ
ผมเชื่อเหลือเกินว่า คนเราทุกคนบนโลกใบนี้
มีสิทธิ์อย่างชอบธรรมที่จะรักใครก็ได้
อย่างไม่มีเงื่อนไข ศิลปินก็เช่นเดียวกัน
พวกเขาก็คือมนุษย์ธรรมดา ที่มีเลือดเนื้อ
มีจิตใจเหมือนกันกับเราๆ
เพราะฉะนั้นถ้าพวกเขาคิดจะรักใคร
ผมถึงไม่ห้าม แต่เท่ากับว่าเขาและเธอเหล่านั้นจะปกป้อง
และรักษาความรักกับที่คนรักในรูปแบบของตัวเองได้ดีขนาดไหน
คำพูดของผมวันนี้ หลายๆท่านอาจจะยังไม่เห็นด้วย
แต่ถ้าท่านทั้งหลายใช้หัวใจสัมผัส ผมเชื่อว่าทุกท่านจะเข้าใจ
ผมขอจบการประชุมในวันนี้เพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องการประชุมคราวหน้า
ขอให้ทุกท่านเตรียมผลการดำเนินโครงการปั้นศิลปินหน้าใหม่
ในไตรมาสแรกมาด้วยระครับ ขอบคุณครับ"
ซน กีอุน นึกขำกับแนวคิดเพี้ยนๆ ของหลานชาย
ก่อนจะนึกแผนร้ายอะไรขึ้นมาได้
และคอยแอบป่วนหลานชายนอกไส้ตลอดเวลา
แทยังแอบทึ่งกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของตัวเองไม่น้อย
เพราะอย่างน้อยมันก็คือการเปิดโอกาสให้เขาสามารถเข้าใกล้
จินจูได้ง่ายขึ้น
"Yes!"
เขาอุทานออกมาด้วยความโล่งใจและดีใจ
ซน กีอุนเรียกผู้อำนวยการปาร์ค กับโปรดิวเซอร์ชเวคนสนิมมาพบ
ก่อนจะให้ทั้งสองทำงานบางอย่างให้
ชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเอามือลูบเคราตัวเองอย่างพอใจ
++ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยพิเศษ โรงพยาบาลHealth of Seoul
หลังจากที่วง Zenith คู่แฝดสกุลซน และซุลซู
มาเยี่ยมอาการของจินจู
ดูเหมือนว่าผู้จัดการสาวจะอาการดีขึ้นมาก
อาการฟกช้ำตามร่างกายที่เกิดจากการกระแทก
ตอนที่รถพุ่งชนใส่เธอค่อยๆ เลือนหายไป
จะเหลือก็แต่ขาข้างขวาที่ยังใส่เฝือกเอาไว้
เลยทำให้เดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกนัก
"พวกนายดื้อหรือเกเรอะไรกับนาอึนรึเปล่า"
"โธ่ พี่จินจูก็ ใครจะกล้าฮะ ถ้าพวกเราทำแบบนั้น
พี่นาอึนก็เหนื่อยแย่ พวกเราน่ะน่ารักจะตาย
ว่ามั้ยฮะพี่แทอึน"
จุนฮาหาแนวร่วม
"เอ่อ อืม"
"ได้ทีก็อ้อนเชียวนะ แต่ขอโทษฉันไม่มีขนมให้นายหรอกจุนฮา"
จินจูว่า
"โธ่พี่จินจู ผมเปล่าอ้อนซะหน่อย"
จุนฮาเริ่มทำหน้างุ้งงิ้งๆ ตามนิสัยของตัวเอง
"รีบๆ หายนะครับพี่ จะได้กลับมาทำงานด้วยกันอีก"
"ขอบใจดาบิน นายเองก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
ฉันจะรีบหายละกัน ไม่อยากให้ใครคิดว่าเป็นอภิสิทธิ์
เพราะว่าเป็นผู้จัดการนักร้องดัง"
"ใครคิดแบบนั้นก็ใจแคบเต็มที
เรากวนพี่มานานแล้ว ขอตัวกลับละกันฮะ
ไว้เดี๋ยวพวกเรามาเยี่ยมคราวหน้า"
"ขอบใจนะจุนกอล แล้วก็ขอบใจทุกๆ คนด้วยนะ
โดยเฉพาะเธอนาอึน"
"เรื่องเล็กน้อยค่ะ อีกอย่างฉันมียัยนี่ช่วย
สบายไปหลายอย่างเลย"
นาอึนชี้ไปที่นาบี ที่ยืนเล่นเป่ายิ้งฉุบกับจุนฮา
เมื่อคนทั้งหมดกลับกันไปแล้วจินจูก็อยู่ตามลำพังเช่นเดิม
...แทยังแอบมาเยี่ยมจินจูอยู่บ่อยๆ
แต่ก็ไม่กล้าสู้หน้าเธอสักครั้ง
เพราะเรื่องราวในอดีต...ที่ทำให้เธอเจ็บปวด
ระหว่างที่เธอกำลังเข็นเสาน้ำเกลือ และเดินกระเผกๆ
ออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางทุลักทุเล
ในวินาทีที่เธอกำลังจะล้ม แทยังรีบวิ่งไปรับจินจูไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
แต่กลายเป็นจินจูที่นอนทับแทยังอยู่
ลมหายใจอ่อนๆ ของชายหนุ่ม รดเข้าที่ต้นคอของ
ผู้จัดการศิลปินสาววัย 25 ปี
สัมผัสนี้แทบจะทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง
จินจูรีบผละออกจากอกแกร่งของชายหนุ่ม
ก่อนที่แทยังเองจะรีบตั้งเสาน้ำเกลือให้เธอและ
ประคองเธอไปที่เตียง
"ขอโทษค่ะ ท่านประธาน แล้วก็ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อสักครู่"
"จินจู คือผม..."
"..."
"ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่หนีไปไหนอีก
ต่อให้คุณไล่หรือไม่สนใจผมสักนิด"
"อย่าพยายามเลยค่ะท่านประธาน
เรื่องระหว่างเราไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก"
"ก็ได้ วันนี้ผมจะกลับไปก่อน
แต่พรุ่งนี้ มะรืนนี้ และวันต่อๆไปผมก็จะมาอีก"
"ทำไมคุณต้องทำให้เรื่องมันวุ่นวายด้วยค่ะ
เราต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้วนี่คะ
ครั้งนี้ฉันแค่ถูกรถชน แต่วันต่อๆไป
ฉันอาจจะไม่ทนให้ผู้หญิงของคุณทำร้ายฉันได้อีก"
"อินนาได้ชดใช้ในสิ่งที่เธอทำแล้วล่ะ
กฎหมายและกฎแห่งกรรมศักดิ์สิทธิ์เสมอ
และอีกอย่างซง อินนาไม่ใช่ผู้หญิงของผม
และไม่มีวันเป็นด้วย"
จินจูเมินหน้าหนี เธอรู้สึกเหนื่อยใจกับเขาจริงๆ
"พักผ่อนเถอะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องงานหรือเรื่ิองอะไรทั้งนั้น
ส่วนค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าชดเชยผมจะจัดการให้ทั้งหมด
แค่รักษาตัวให้ดี อยู่ในที่ที่พี่...สามารถเห็นเธอได้ตลอด
ก็พอแล้ว"
แทยังเปลี่ยนสรรพนามจากผม...เป็นพี่ เหมือนกับแต่ก่อน
เขาเดินออกจากห้องไปอย่างหมดเรี่ยวแรง
จินจูเองก็รู้สึกสับสนไปหมด
"พี่...พี่แทยัง พี่ต้องการอะไรจากฉันกันแน่"
++9++
การถ่ายทำMV นอกสถานที่เป็นไปอย่างราบรื่น
จะติดก็แต่พระเอกmvอย่างแทอึน
ที่แสดงออกทางแววตาไม่ได้สักทีว่าหลงรักนางเอก...
จนต้องเดือดร้อนนาอึนมาช่วยบีฟอยู่หลายครั้ง
"นี่นายไม่เคยรักใครเลยรึไง"
แทอึนไม่ตอบ
"ฉันล่ะเหนื่อยใจจริงๆ เอางี้ นายลองนึกถึงตอนที่ได้ของขวัญ
รึอะไรก็ได้ที่ทำให้นายมีความสุข ไหนลองทำดูสิ"
แทอึนจ้องหน้านาอึนนิ่ง นาอึนก็เผลอสบตาคู่นี้อย่างลืมตัว
นาอึนเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่า..ในดวงตาคู่นี้มันมีพลังดึงดูด
อย่างมหาศาลทีเดียว
กว่าที่ทั้งคู่จะหลุดจากภวังค์ก็ตอนที่ผู้กำกับคิมเดินเข้ามา
"แบบนี้เลย เอาสายตาแบบนี้เลยแทอึน"
"ฮะ ผู้กับกับ"
"หมดหน้าที่แล้วฉันไปนะ"
นาอึนเดินออกมาด้วยอาการเขินๆ
แต่ก็เป็นมุมที่น่ารักสำหรับสาวติสท์ทีเดียว
+++อีกมุมหนึ่งในกองถ่ายทำmv together
"ผมว่าพี่แทอึนต้องมีปัญหาเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์แน่เลย
กล้ามเนื้อ รวมทั้งเส้นประสาทบริเวณนั้นคงฝ่อ คึคึ
นูน่าคิดดูสิ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ผมเพิ่งเห็นเขายิ้มจริงๆ จังๆ
ก็เมื่อกี้แหละ"
"งั้นนาอึนก็คงจะป่วยเหมือนแทอึนน่ะสิ
สองคนนี้เขามีอะไรคล้ายๆ กันเหมือนกันเนอะ"
"เรียกว่าเป็นคู่แท้ปาฏิหาริย์จะดีกว่า ฮ่าๆ นี่ผมพูดจริงๆ นะ
คนนึงก็พูดน้อย อีกคนแทบจะไม่พูด สงสัยเขาคุยกันด้วยพลังจิต"
"ชักอยากเห็นนาอึนของเรามีความรักกับเขาบ้างแล้วสิ
อยากรู้นักว่าจะเป็นยังไง"
"แล้วนาบีนูน่าไม่ได้ชอบพี่แทอึนอย่างที่ผมเข้าใจหรอฮะ"
"ชอบสิ ชอบมากๆ ด้วย"
"อ้าว แล้วงั้น...
"ก็ชอบแบบที่แฟนคลับปลื้ม และคลั่งไคล้ในตัวศิลปินที่รักยิ่งยังไงล่ะ
แล้วก็ชอบจะรักแบบนี้ตลอดไป
แต่ถ้าจะให้รักจริงๆ ก็คงแปลกพิลึกว่ามั้ย
ก็เหมือนกับเธอไงล่ะ จุนฮาหนึ่งในเมมเบอร์ของ
Zenith ที่อยู่บนเวที แรปเปอร์ยักษ์ที่เวลาแรพยังกะพ่นไฟออกมาได้
เท่จะตายไป แต่นั่นคือนายในแบบที่คนทั่วๆไปรู้จัก
แต่จุนฮาที่เป็นน้องชายที่น่ารักคนนี้มันต่างกันนะ
ด้วยอายุเท่านี้เธอคงสับสนหลายๆ เรื่อง
แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะสามารถจัดการ
ทุกอย่างได้ด้วยตนเอง พอถึงวันนั้นเธอจะภูมิใจในตัวเองที่สุด"
ว่าแล้วนาบีก็ดึงแก้มทั้งสองข้างของจุนฮาอย่างเอ็นดู
"ฮะนูน่า แต่ว่าผมเจอคู่ชกที่สูสีกับนูน่าแล้วล่ะ นั่นไงเดินมาโน่นแล้ว"
"ใครกัน ไหนขอดูสิ"
ฮัน จุนกอล นั่นเอง
และวันนี้เขามาในผมทรงใหม่ที่ตัดสั้น
เผยให้เห็นโครงหน้าอันหล่อเหลาได้ชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น
ผมสีบลอนด์ทองก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ผมหน้าม้าที่เคยปรกหน้าก็เผยให้เห็นคิ้วคมเข้ม
รวมถึงดวงตาคู่สวยคมได้อย่างชัดเจน
"จะตะลึงในความหล่อของฉันอีกนานมั้ย"
จุนกอลเอ่ยอย่างอารมณ์ดี จุนฮาและนาบี
ก็มองหน้ากันงงๆ ก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมา
หนุ่มๆ ทั้ง 4 คน รวมตัวกันในฉากของโกดังร้าง
เพื่อซักซ้อมท่าเต้นที่เป็นไฮไลท์ของเพลง Together
ที่เป็นเพลงเปิดตัวเพลงที่2 ของหนุ่มๆ
หลังจากที่เพลงแรกอย่างเพลง Say hi!
ฮอตฮิตติดทุกชาร์ตเพลงมาเป็นเวลา 3 เดือน
นาบีก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฮัน จุนกอล
ดูมีเสน่ห์เอามากๆ ถ้าไม่มีใจอคติ
ยิ่งได้ฟังเสียงร้องของเขาที่หวานใส จับใจ
ยิ่งเพิ่มความหล่อให้เขาเข้าไปอีกเท่าตัว
ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงไม่สังเกตเห็นนะ
นาบีกำลังไล่ความคิดนี้ออกจากหัวอยู่หลายหน
"จะส่ายหัวทำไมเนี่ย เป็นอะไรรึเปล่านาบี
รึน้ำในหูของเธอไม่เท่ากัน"
"ช่างฉันเหอะน่า"
นาอึนได้แต่งงๆ กับอาการประหลาดๆ ของน้องสาวฝาแฝดของเธอ
"ยัยนี่ชักจะประหลาดขึ้นทุกวัน หึหึ"
และนาอึนก็หันไปสนใจกับการถ่ายทำต่อ
ก่อนจะหันไปพูดคุยกับทีมงานอีกหลายคน
แต่ดูเหมือนว่ามีสิ่งที่ิยู่เหนือความคาดหมาย
กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ท่อนไม้บริเวณเหนือศีรษะของนาบีกำลังจะร่วงหล่นลงมา
และไม่มีใครทันสังเกต
จุนกอลรีบกระโดดลงมาจากฉากพุ่งมายังตัวนาบีพอดี
โชคดีที่ท่อนไม้ร่วงลงห่างจากตัวของนาบีและจุนกอล
นาบีดูจะตกใจมาก...จนพูดอะไรไม่ออก
ทีมงานรีบวิ่งกรูมาดูทั้งสองทันที
"จุนกอล ฮัน จุนกอลตื่นสิไอ้บ้า"
แทอึนเขย่าตัวจุนกอลที่นอนไม่ได้สติ
นาอึนกอดนาบีเอาไว้...ตัวเธอสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ
การถ่ายทำจึงต้องหยุดชะงักไป
++10++
จุนกอลถูกพาตัวมาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน
และไม่นานเขาก็ถูกพามาที่ห้องพักฟื้น
นาบีรู้สึกผิดที่ทำให้เขาเจ็บตัวเพราะเธอ
"ไม่ใช่แค่จุนกอลหรอกนะที่จะทำแบบนี้
ไม่ว่าฉัน จุนฮา หรือแทอึนก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราคือทีมเดียวกันนะนาบี"
ดาบินปลอบอีกคน
"อือ"
"เข้าไปเยี่ยมจุนกอลเถอะนาบี เราจะได้กลับกัน
เจ้านั่นจะได้พักผ่อน"
นาอึนบอกน้องสาว
นาบีพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปพร้อมๆ กับพี่สาว
นาบีมองดูชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง
ผ้าพันแผลถูกพันรอบศีรษะของชายหนุ่ม
นาบีลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลมาอีกกระลอก
จุนกอลจับที่แผลก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
"แม้แต่ตอนร้องไห้เธอก็ยังดูสวยนะ ยัยผีเสื้อขี้วีน"
"นายนี่มันบ้าจริงๆ ยังจะมาพูดเล่นอีก
คราวหน้าไม่ต้องมาทำอะไรเสี่ยงเพื่อฉันอีกนะ"
"เอาเลือดชั่วออกบ้าง ไม่ดีรึไง"
"นายต้องเอาหมาบ้าออกจากปากนายต่างหากล่ะ"
"ไม่ล่ะ ฉันจะเก็บไว้สู้กับเธอไง ไม่ดีหรอ"
"นอนเจ็บยังจะมายิ้มกวน พูดกวนอีก น่าจะให้หมอเย็บปากไปด้วยเลย
คนเค้าอุตส่าเป็นห่วง เชอะ"
"เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว โอ๊ย ปวดหัวจัง
ไว้ค่อยคุยกันนะนาบี ดีใจจังที่ตื่นมาก็..."
จุนกอลยังไม่ทันบอกว่าดีใจที่ตื่นมาเจอเธอ
เขาเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาชา และความเพลีย
ประกอบกับยังเจ็บแผลที่ศีรษะที่โดนเย็บไปถึง 9 เข็ม
ดาบินเดินเข้ามาตามนาบีให้กลับไปด้วยกัน
แต่ภาพที่เขาเห็นคือภาพที่นาบีกำลังก้มลงจุ๊บที่แก้มของจุนกอล
"ขอบคุณนะ"
ดาบินใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือ
ถ่ายไว้ได้ทัน...เขาคิดจะใช้ภาพนี้ต่อรองกับนาบี
ถ้าเกิดเขามีเหตุต้องจำนนเธอด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาพนี้จะช่วยเขาได้
ดาบินแกล้งกระแอมเสียงดัง และทำทีว่าเพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
"กลับกันเถอะนาบี"
"อื้ม ฉันกำลังจะออกไปพอดี"
วันรุ่งขึ้นจุนกอลก็ออกจากโรงพยาบาล
นาอึนอนุญาตให้เขาพักได้
แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมนอนคุดคู้
อยู่คนเดียวที่หอพัก..อย่างน้อยมาเดินเล่น
ยืดเส้นยืดสายที่บริษัทก็ยังดี
ความสัมพันธ์ระหว่างจุนกอลกับนาบี
เริ่มดีขึ้น จนเขาเองก็เริ่มจะรู้สึกดีกับการมีหญิงสาวเข้ามา
วุ่นวายในชีวิตของเขาในทุกๆ วัน
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทำให้ชายหนุ่มฝีปากกล้า
ชุ่มชื่นหัวใจ
"แผลนายหายดีแล้วใช่มั้ย มันจะเป็นแผลเป็นรึเปล่า"
"ดีใจจังที่รู้ว่าเธอเป็นห่วง"
"เปล่าหรอกฉันกลัวว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหาย
ที่ทำให้นายเป็นแผลเป็นต่างหากล่ะ"
"งั้นเธอต้องจ่ายคืนเยอะเลยล่ะ"
"เท่าไหร่ก็บอกมาเลย"
"เธอต้องจ่ายคืนด้วยนี่.."
จุนกอลชี้ไปที่หัวใจของเขา
ก่อนจะทำมือเป็นรูปหัวใจ
แล้วยิ้มกวน..
"แหวะ"
นาบีได้แต่ส่ายหัว แล้วเดินหนีไป
ส่วนจุนกอลก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
++ที่หอพักศิลปินย่านดาวทาวน์
ดาบินและจุนกอลเป็นรูมเมทกัน
หลังจากกลับมาจากบริษัทพวกเขาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง
ผิดกับแทอึนและจุนฮา ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในเกมส์
วินนิ่ง เกมส์ฟุตบอลยอดฮิตติดชาร์ทสำหรับลูกผู้ชายมาหลายสมัย
"นายเชื่อเรื่องตำนานด้ายแดงอะไรพวกนี้ด้วยหรอดาบิน"
จุนกอลถาม ขณะที่ดาบินพลิกหน้าหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่เพิ่งได้รับมาจากแฟนคลับมาเมื่อเช้า
"ไม่เลยสักนิด นายไม่คิดหรอว่าเรื่องนี้ก็แค่นิทานหลอกเด็ก
มันมีเปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้แทบไม่ถึง 1%
ที่จะเจอเรื่องแบบนั้นได้ ใครกันที่จะถือด้ายแดงอีกปลายด้านเพื่อมาพบกับเรา
และรักเรา ใครจะเชื่อก็เชื่อไปเหอะ ฉันนอนดีกว่า อา เล่มนี้ฉันยกให้"
ดาบินส่งหนังสือในมือในจุนกอล เขารับมาอย่าง งงๆ
"แล้วถ้าฉันเป็นหนึ่งในไม่ถึง 1% นั่นล่ะ"
จุนกอลนึกขำๆ ก่อนจะมองไปที่เศษด้ายไหมพรมสีแดง
ที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์
วันรุ่งขึ้นหนุ่มๆ มีแสดงรายการสดที่รายการ Music Music station
ที่สถานีโทรทัศน์UBN โชคดีที่ Star Ent.
มีการให้ศิลปินในค่าย
เข้าคอร์สเรียนแต่งหน้า และทำผมด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ตอนที่เป็นเทรนนี่
จึงทำให้การจัดการกับหน้า ผม ของตัวเองได้เป็นอย่างดี
แต่เรื่องเสื้อผ้ากลับตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการแทน
ด้วยพรสวรรค์ด้านแฟชั่นสุดล้ำ แสนบรรเจิดของนาบี
ทำให้ภาพลักษณ์ของ Zenith ดูทันสมัยขึ้น
และมีความเป็นผู้ชายเต็มตัว ต่างจากตอนที่เดบิวท์
ที่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กผู้ชายธรรมดส
เธอเองก็ชักสนุกกับงานที่ทำมากขึ้น
จนบางทีก็เผลอสเก็ตภาพหนุ่มๆ ในชุดคอเลคชั่นต่างๆ ของเธอ
อย่างเพลิดเพลินบนแทปเล็ตขนาดพกพาหรือไม่ก็สมุดเล่มเล็กๆ
ส่วนตัวเธอในวันนี้เลือกที่จะแต่งตัวออกมาในแนววินเทจกึ่งคลาสสิก
ด้วยการมิกซ์แอนด์แมทกันระหว่างเสื้อแขนยาวลายจุด
ที่ติดกระดุมครบทุกเม็ด และใส่แว่นตาสุดเนิร์ด
กางเกงเอวสูงสีน้ำเงินเข้ม ชาวยเพิ่มความทะมัดทะแมง
และคล่องตัวในการทำงาน เพิ่มไอเท็มความเก๋ด้วยกระเป๋่าหนังใบเล็ก
กับรองเท้าหนังดีไซน์คลาสสิก
หนุ่มๆ Zenith เลยได้สนุกกับการคาเเดาว่าในวันต่อๆไป
สาวเจ้าจะแต่งตัวออกมาแนวไหน
...ดูเหมือนว่าจุนกอลจะมีปัญหากับการผูกเนคไท
นาบีทนไม่ไหว เลยรีบวิ่งเข้าไปช่วย
ชึ๊บ (เสียงรูดเนคไทที่คล้องกับคอของจุนกอล)
"แค่นี้ก็เรียบร้อย"
นาบีพูด และหันไปสบตากับจุนกอลแบบไม่ทันตั้งตัว
เธอเองก็เพิ่งสังเกตว่า
ดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาล กลมโต
และสวยหวานมากเกินกว่าจะเป็นดวงตาของผู้ชาย
จมูกที่เป็นสันโด่งราวกับมีเชื้อสายมาทางฝั่งยุโรป
ดูยังไงก็เหมือนรูปปั้นเทพกรีกโบราณมากกว่าจะเป็นคนธรรมดา
อีกทั้งแพขนตายาวนั่น ก็ทำให้เธอต้องอิจฉา
แต่เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เวลามาสำรวจใบหน้าของชายหนุ่ม
ที่เรียกได้ว่าเป็น 'คู่กัด' เกือบจะตลอดเวลา ของเธอนี่
(จะเว้นก็แต่ช่วงที่มีงาน)
"ขอบใจนะ...นา บี"
จุนกอลพูดเบาๆ และส่งยิ้มบางๆ ให้นาบี
ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มส่งผลแปลกๆ ต่อนาบี
แต่มันก็ทำให้สาวร่างบาง
เริ่มมีอาการจุกแปลกๆ ที่หน้าอกค่อนไปทางด้านซ้าย
"อื้ม"
นาบีตอบ และรีบหันไปมองทางอื่นแทน
"นูน่าผมดูเป็นไงมั่งอ่า เท่รึเปล่า"
จุนฮารีบดึงนาบีไปอีกทาง
"น้องชาย มีใครเคยบอกรึเปล่าว่านายหล่อและเท่มาก"
"นูน่ารอดูโชว์เจ๋งๆ ของผมต่อจากนี้ได้เลย"
"ทำให้เต็มที่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะประเมินนายในฐานะแฟนคลับเอง"
"ฮะ"
นาบีตบไหล่ของมักเน่ยักษ์เสียงดังป๊าบ
และเหมือนสติของเธอที่กระเจิดกระเจิง
จะเริ่มกลับมา...
อีกด้านนาอึนก็มาเช๊คความเรียบร้อยให้กับหนุ่มๆ
"ย่าห์ ฮัน จุนกอล ช่วยเก็บสายตาหวานๆ ที่นายใช้มองน้องสาวฉันด้วย"
จุนกอลสะดุ้งเฮือก
"บ้าน่า นาอึน ฉันเปล่ามองนาบีซะหน่อย
แค่คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้นแหละ"
"แน่ใจนะ"
"แน่ใจสิ"
"แต่ถ้านายอยากรู้จักและใกล้ชิดนาบีให้มากกว่านี้
นายต้องขัดใจเธอมากๆ ยิ้มหวานๆ
ทำหน้าเท่ๆ ช้อนสายตามากๆ นั่นแหละคือจุดอ่อนของนาบี
ไปเตรียมเช็คไมค์ด้วยล่ะ ฉันกับดาบิน แล้วก็แทอึนรออยู่back stage"
นาอึนตบไหล่จุนกอลเบาๆ แล้วเดินไปตามจุนฮากับนาบี
...ความจริงนาอึนก็พูดเล่นๆ
แต่ไม่คิดว่าใครอีกคนจะคิดตาม
"นายว่าถ้าฉันยิ้มแบบนี้แล้วหล่อมั้ย
แล้วถ้าฉันตัดผมให้สั้นขึ้น แล้วเซ็ทให้ผมตั้งๆ
จะเท่ป่ะ?"
จุนกอลถามดาบินในเย็นวันหนึ่งที่หอพัก
"นายเป็นไรมากรึเปล่า
ปกตินายคือคนที่ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองที่สุด"
"คนเรามันก็ต้องเปลี่ยนกันบ้าง
นายไม่ตอบไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปถามจุนฮากับแทอึนก็ได้"
ดาบินเห็นท่าทางแปลกๆของจุนกอลก็ขำๆ
++12++
หลายวันต่อมา...
"หวัดดีฮะนูน่า วันนี้มาคนเดียวหรอแล้วนาอึนนูน่าล่ะ"
จุนฮาทักนูน่าหน้าใส และใจดีของเขา
เธอมาพร้อมกับขนมเต็มไม้เต็มมือเช่นเคย...
จุนฮาที่รู้หน้าที่ดีก็รีบมาช่วยถือ
"นาอึนไปรับเพื่อนที่สนามบินน่ะ เสร็จธุระแล้ว
เดี๋ยวคงตามมา แต่ไม่ต้องห่วงวันนี้ฉันจะดูแลทุกคนเอง"
"จะไหวเร้อ"
จุนกอลพูด นาบีก็ส่งสายตาอำมหิตไปให้เขาแทน
แทอึนหันไปปรามจุนกอล เพราะกลัวจะเสียเรื่องแต่เช้า
ดาบินที่เพิ่งกลับมาจากไปถ่ายซิทคอมพอดี
เขามาพร้อมกับคิม ซุลซู คนขับรถของวงZenith
และเป็นคนคุ้นเคยอีกคน
นาบีทักทายชายหนุ่มอายุสามสิบต้นๆ ที่หน้าตาเป็นมิตร
"เดี๋ยวตอน 11 โมง พวกนายต้องไปถ่ายรายการที่ช่องKNY
ต่อด้วยไปสัมภาษณ์รายการวิทยุ
หลังจากนั้นก็ต้องกลับไปซ้อมที่บริษัท
และน่าจะมีการวางคอนเซ็ปสำหรับอัลบั้มพิเศษ
ของพวกนายด้วย"
ทุกคนรับทราบที่นาบีแจ้ง
ก่อนจะรีบเตรียมตัวออกจากหอพัก
...หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ
หนุ่มๆ zenith พร้อมด้วยซุลซูและนาบี
ก็ตรงดิ่งไปที่ Star Ent. ทันที
"เอ่อ นา..."
แทยังเกือบเผลอตัวทักน้องสาวของเขา
ที่เจอกันอยู่หน้าบริษัท
หนุ่มๆ ทักทายท่านประธานหน้าหล่อ ผู้น่าเกรงขามของพวกเขา
นาบีก็ด้วย...
"ตั้งใจทำงานล่ะ"
"ครับ/คร๊าบ"
นาบียิ้มๆ แทนคำตอบ ก่อนจะรีบพาหนุ่มๆ ขึ้นไปบนชั้น 23
...ในห้องซ้อมร้องเพลงมีนาอึนและผู้ชายอีกคน
กำลังหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม...
จนไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่ง
จ้องมองคนทั้งคู่อย่างไม่พอใจนัก
จากสีหน้าที่เรียบเฉย กลายเป็นสายตาที่ทำให้บรรยากาศดูเย็นยะเยือก
เข้าไปอีก
ภาพชายหนุ่มหน้าคม คิ้วโก่งเป็นรูปคันศร
ถูกกันจนเป็นรูปสวย ผิดจากผู้ชายเกาหลี
ที่จะปล่อยให้คิ้วของเขาดูเข้ม หนา แต่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ผมสีดำยาวที่ถูกมัดรวบไว้เป็นหางม้า
ยิ่งตอกย้ำให้ชายหนุ่มคนนี้เหมือนหลุดมาจากหนังสือการ์ตูน
หรือหนังสือนิยายเสียมากกว่า
และเสื้อเชิ๊ตสีเขียวขี้มา(ติดกระดุมทุกเม็ด)
เข้ากันกับกางเกงยีนส์สุดชิคเป็นอย่างดี
"อากิจัง"
นาบีรีบเข้าไปทักทาย เพื่อนชายของพี่สาวฝาแฝด
"นาบีหรอเนี่ย ยังคงเก๋ กู้ด เหมือนเดิมเลยนะ"
"แน่นอน แต่ที่น่าแปลกก็คือ...นาอึนไปล่อลวงอากิจัง
มาได้ยังไง"
"ก็อยากมาช่วยทำโปรเจคสนุกๆ ไง
เลิกสงสัยได้แล้วน่าน้องหนู"
เจ้าของชื่อ อากิระ มัทสึอิ ดึงแก้มทั้งสองข้างของนาบี
อย่างเอ็นดู
...นาอึนได้แต่ยิ้มแปลกๆ
เธออยากจะตะโกนบอกนาบีเหลือเกินว่า
กว่านะลากเจ้านั่งแต่งเพลงชื่อเสียงโด่งดังมาจากญี่ปุ่นได้
เธอใช้อะไรมาต่อรองกับเขา...
ทันที่หนุ่มๆ เข้ามาในห้องกันครบทีม
นาอึนก็เริ่มแนะนำอากิจังให้ทุกคนรู้จัก
"นี่คือคุณอากิระ มัทสึอิ นักแต่งเพลงชื่อดัง
จากญี่ปุ่น จะเข้ามาช่วยพวกนายในอัลบั้มพิเศษนี้
โชคดีที่ฉันบังเอิญรู้จักเขาด้วย
และไม่ต้องห่วง อากิจังเขาพูดภาษาเกาหลีได้ดี
ทำความรู้จักกันไว้สิ ยังต้องทำงานกันอีกนาน
ตอนนี้พวกนายกับอากิจังก็เข้าไปคุยกะโปรดิวเซอร์ลีเถอะ
เดี๋ยวฉันกะนาบีจะไปรอที่คอฟฟี่ ช๊อป ข้างล่าง"
แทอึนดูจะไม่ชอบอากิระเอามากๆ
ส่วนดาบินก็รู้สึกขนลุกชอบกล เหมือนได้รับรังสีอำมหิต
ที่แผ่มาจากที่ใดสักที่ ส่วนจุนฮาก็ชวนอากิระคุยอย่างสนุกสนาน
ในขณะที่จุนกอลก็ดูจะสนใจนักแต่งเพลงชื่อดังคนนี้ขึ้นมา
...13...
อัลบั้มพิเศษของหนุ่มๆ Zenith ที่ชื่ิอว่า Thank you
เดินทางมาถึงขั้นตอนการอัดเสียง
โดยอากีระ จะเรียกเข้าไปทีละคน
เพื่อจะได้ให้ศิลปินลองดีไซน์การร้องเอง
เพื่อจะได้แนวเพลงที่แปลกใหม่
ตอนนี้เป็นคิวของดาบิน
ส่วนจุนกอลกับจุนฮา กำลังกินขนมอย่างเพลิดเพลิน
และหยอกล้อกันกับนาบี
นาอึนทนไม่ไหวกับท่าทางที่แปลกของแทอึน
เลยเรียกเขาไปพบเป็นการส่วนตัว
"นายโกรธรึไม่พอในอะไรฉันก็บอกมาตรงๆ เถอะ"
"ก็เปล่านี่"
"พูดมาเถอะ แต่ถ้านายไม่พูดออกมาตอนนี้..."
"ฉันจะไม่พูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง
แบบนี้ใช่ไหมที่เธอจะพูด..คุณผู้จัดการ"
แทอึนยิ้มออกมา นาอึนกำลังสับสนของอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของแรปเปอร์หนุ่ม
"ดูเธอสนิทกับอากิระมากจังเลยะ"
"แน่นอน ฉันกับเจ้านั้นน่ะเราซี้กันสุดๆ
เคยทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันตั้งหลายอย่าง
ล่าสุดก็ตอนที่..."
"พอเถอะ ฉันไม่อยากฟัง"
อยู่ๆ แทอึนก็เดินหนีไปซะเฉยๆ
นาอึนเดินตามไปติดๆ
และจับไหล่ด้านหนึ่งไว้ เพื่อให้เขาหยุด
แต่เหมือนเขาจะไม่ฟัง
"ฉันก็ไม่ชอบให้ใครเดินหนีฉันไปโดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุ
หยุดเดี๋ยวนี้นะคิม แทอึน"
แทอึนหยุดเดิน และหันกลับมาคว้ามือของนาอึน
แล้วพาเธอขึ้นไปคุยกันบน
สวนหย่อมริมระเบียง
"ทีนี้พร้อมที่จะพูดรึยัง"
"อือ"
"ก็พูดมาสิ"
"ฉันก็แค่ไม่ชอบเวลาที่เธออยู่กับอากีระอะไรนั่น
มันทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดี"
"อื้ม เข้าใจละ แต่จะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ
ถ้าฉันไม่ทำตัวติดหนึบกับเจ้าอากิ
คนที่จะลำบากก็คือนายนั่นแหละ"
"หมายความว่ายังไง"
"ฟังให้ชัดๆ นะ เจ้าอากิมันปิ๊งนาย
ไม่อย่างงั้น นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงอย่างเขาคงไม่ยอม
มาช่วยเราง่ายๆ หรอก หมอนั่นคิวทองจะตาย"
"ว่าไงนะ"
"ก็ตามนั้นแหละ ทีนี้นึกขอบคุณฉันขึ้นมาแล้วสิ
เอ รึว่าที่จริงนายก็ปิ๊งเจ้าอากิเหมือนกัน"
นาอึนพูดอย่างอารมณ์ดี
"ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว อีกอย่างฉันก็แมนเต็มร้อย
ฉันไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันได้หรอก"
"อื้ม ทีนี้นายจะบอกได้รึยังว่าโกรธอะไรฉัน"
"ฉันไม่มีทางโกรธเธอได้จริงๆ หรอก
แต่ฉันกำลังจะเป็นบ้า ที่เห็นเธอสนิทกับผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ"
"ฟังดูเหมือนเป็นการสารภาพรักที่แย่ที่สุดในโลก"
"แต่ฉันไม่คิดว่ามันแย่ขนาดนั้นหรอก"
แทอึนจ้องหน้าของนาอึนอย่างไม่สามารถปกปิดความรู้สึก
ของตัวเองได้อีกต่อไป
"ฉันชอบเธอ ซน นาอึน
ชอบมานานแล้วด้วย
และฉันก็จะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป"
"นี่นายกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม คิม แทอึน"
"งั้นเธอก็ลองพิสูจน์ว่าฉันพูดจริงไหม"
คิม แทอึนดึงนาอึนเข้าจูบอย่างแผ่วเบา
เขาถอนริมฝีปากออกจากเธอช้าๆ
เพื่อให้เธอได้ตั้งตัว
ก่อนจะเริ่มทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเขาทีละนิด
มือทั้งสองข้างของเขาประคองเธอไว้
เพื่อให้เธอทรงตัวได้ขึ้น
เมื่อสัมผัสได้ว่าเธอเริ่มทนไม่ไหว
เขาเลยลอบถอนริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
แทอึนฉายแววตาเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
นาอึนรีบเดินหนีเพราะความเขินอายสุดขีด
ไม่มีครั้งไหนที่สาวมั่นอย่างเธอจะเสียความมั่นใจเท่าครั้งนี้
เธอเดินชนเข้ากับดาบินที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องอัด
"อุ้ย โทษทีดาบิน พอดีฉันไม่ทันเห็นนาย"
ดาบินประคองนาอึนไม่ให้เธอล้ม ก่อนที่เธอจะทรงตัวได้เป็นปกติ
"เธอโอเครึเปล่านาอึน ไปพักก่อนมั้ย
เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง"
"งั้นฝากด้วยนะ"
ยิ่งเห็นแทอึนที่กำลังเดินตามมา
นาอึนเลยรีบแจ้นออกจากบริเวณห้องอัดไป
...14...
ณ คฤหาสน์ของตระกูลซน
อันเป็นสถานที่พักอาศัยของเจ้าของธุรกิจบันเทิงอันมีชื่อเสียง
คืนนี้เป็นคืนที่สามพี่น้องต่างก็นอนไม่หลับด้วยกันทั้งหมด
แทยังหยิบรูปสมัยไฮสคูลขึ้นมาดูหลายต่อหลายรูป
จนรูปสุดท้าย...
ในรูปมีเด็กผู้หญิงร่างอวบอ้วน
ในชุดเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ
ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโซล
เธอใส่แว่นตาหนาเตอะ และมัดผมเปียทั้งสองข้าง
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอดูน่ารักน้อยลงเลย
เธอยิ้มอย่างมีความสุข
แม้ในภาพจะไม่เห็นว่าเธอกำลังจ้องมองอะไรอยู่
แต่มันเป็นภาพถ่ายที่เขาเป็นคนถ่ายเอง
ซึ่งมันสามารถบอกได้ว่าเขาสนใจเธอคนนี้มากแค่ไหน
"จินจู เพราะพี่คือคนที่ขโมยร้อยยิ้ม
และความสุขมาจากเธอ
ต่อจากนี้พี่จะคืนมันให้กับเธอนะ"
นาอึนก็เอาแต่จับริมฝีปากของเธอ
และก็เขินหน้าแดงอยู่คนเดียว
เมื่อนึกถึงแทอึน เสือยิ้มยากคนนั้น
ที่อยู่ๆ ก็รุกร้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ..จนเธอไม่ทันตังตัว
ในที่สุดเธอก็เอาผ้าห่มมาคลุมโปง
แล้วรีบข่มตาหลับไป แต่กว่าจะสลัดภาพนั้นออกได้
ก็ใข้เวลานานทีเดียว
ส่วนนาบีก็นอนกระสับกระส่ายอยู่หลายที
เพราะมัวแต่นึกถึงภาพของจุนกอลเต็มไปหมด
"นายนี่มันไม่มีมารยาทเลยจริงๆ
เข้าบ้านคนอื่นเขาได้ยังไง
ฉันไม่ไหวแล้วนะฮัน จุนกอล
นายร้ายกาจมาก ทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย"
นาบีพูดกับจุนกอลที่ยืนกอดอกยิ้มอยู่ข้างเตียงของเธอ
ก่อนที่เขาจะหายแว้บไป(จากมโนภาพของเธอ)
หญิงสาวพลิกตัวมาอีกด้านก็เห็นจุนกอลนอนยิ้มแฉ่ง
โชว์ฟันทั้ง32ซี่ รออยู่
"เฮ๊ย มาได้ไง"
กว่าที่นาบีจะหลับไปก็เกือบตีสอง
ทำให้เธอต้องร้องกรี้ดดด ที่เห็นสภาพตัวเองตอนตื่นนอน
"อร้าย ขอบตาของช้านนนนน"
"วันนี้ฉันขอหยุด 1 วันนะนาอึน
สภาพแบบนี้ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น"
"เธอก็นอนไม่หลับเหมือนกันหรอนาบี"
นาอึนที่ดูสติเลื่อนลอยเพราะนอนน้อย
แถมยังมีใต้ตาที่ดำเหมือนหมีแพนด้า
เหมือนกันกับนาบี
"เฮ๊ย หนักกว่าฉันซะอีก อา เอานี่ไปซะ
มาร์กตาที่ซื้อมาจากฝรั่งเศสจะช่วยเธอได้
แค่ครึ่งชั่วโมงรับรอง ตาใสกริ้งเหมือนเดิม"
"อือ"
"ไหนๆ ก็ได้หยุด งั้นวันนี้ฉันจะช่วยแปลงโฉม
จากสาวเท่เป็นสาวหวานให้ละกันนะ
ห้ามปฏิเสธล่ะ"
"อือ"
นาบีชักเริ่มสงสัยกับอาการแปลกๆ ของพี่สาว
ที่ดูเลื่อนลอยชอบกล
ภายในหนึ่งชั่วโมงนาอึนก็กลายเป็นสาวหวาน
ด้วยการแปลงโฉมของดีไซน์เนอน์อย่างนาบี
เดรสสีชมพูลายจุดยาวคลุมเข่าเล็กน้อย
ที่อวดเรียวขาสวยก็ดูเข้ากันกับเธอ
"ให้ฉันขับรถไปส่งมั้ย"
"ไม่เป็นไร ฉันไปนะสายแล้ว
เดี๋ยวพวกเขาจะรอ"
นาอึนก็เดินไปเหมือนไร้วิญญาณ
"จะรอดมั้นเนี่ย ใครกันทำให้นาอึนของเรา
อ่อนปวกเปียกแบบนี้"
"บ่นอะไรกันนาบี แล้วเราไม่ต้องไปกะนาอึนเขาหรอ"
แทยังที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่เอ่ยถามน้องสาวคนเล็ก
"โอ๊ย ไม่ล่ะ วันนี้ฉันจะอู้ ได้ยินชัดแล้วนะคะท่านประธาน"
...15...
"ไม่มีใครเขากล้าขัดใจซน นาบี
สุดที่รักของคุณปู่ได้หรอก เนอะ"
แทยังนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับที่นาบีนั่งอยู่ก่อนแล้ว
"แน่นอน ลองขัดใจดูสิ พี่แทยังรู้ใจจริงๆ แบบนี้เห็นทีฉันต้องช่วยพี่ชาย
หาพี่สะใภ้แล้วล่ะไม่งั้นคุณซน แทยังคงแห้งเหี่ยว เฉาตาย
แหะๆ"
"งั้นก็มีที่เข้าเค้าอยู่คนนึง เธอเองก็รู้จักดีเชียวล่ะ"
"ใครคะ"
"ลี จินจู"
"ถ้าเป็นพี่จินจู ฉันเชียร์เต็มที่
งั้นฉันขอไปทำภารกิจหัวใจให้พี่แทยังละกันนะ
จนกว่าจะสำเร็จ ฉันถึงจะยอมกลับไปทำงานช่วยนาอึน
ตามเดิม"
"อื้ม ฝากด้วยนะนาบี แค่ได้ยินแบบนี้
พี่ก็มีกำลังใจในการทำงานเยอะเชียว
พี่ไปก่อนนะ"
"ค่ะ"
นาบีทั้งโบกมือ ส่งจูบ แถมด้วยรอยยิ้มหวานๆ
และลักยิ้มสองข้างแก้มให้พี่ชายที่เธอรัก
ก่อนจะนึกแผนการอะไรบางอย่างได้
นาบีไปเยี่ยมจินจูที่โรงพยาบาล ในช่วงสาย
เธอถือทั้งขนมที่ซื้อมาจากร้าน Bla Bla Bang
และกุหลาบช่อโต
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"หวัดดีค่ะพี่จินจู"
"อ้าวนาบีหรอกเหรอ แล้วคนอื่นๆ ล่ะจ๊ะ ไม่มาด้วยกันหรอ"
"ฉันมาคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่นๆ ไปทำงานกันหมด
ดอกกุหลาบสีเหลืองนี่ฉันจัดใส่แจกันเลยนะคะ"
"ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลย แค่มาเยี่ยมเฉยๆ ก็เกรงใจจะแย่"
"เรื่องเล็กน้อยค่ะ แล้วนี่หมอบอกรึยังคะว่าผ่าเฝือกออกได้เมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้จ้า อีกไม้กี่วันคงได้กลับไปทำงานเสียที"
"ถ้างั้นวันที่พี่จินจูออกจากโรงพยาบาล
อนุญาตให้ฉันมารับนะคะ"
จินจูมองนาบึ งงๆ
"วันนี้ฉันรบกวนพี่จินจูนานแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ
ไว้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่"
"จ้า ขอบใจนะ"
จินจูยิ้มให้นาบี ก่อนที่เธอจะออกจากห้องไป
จินจูเพิ่งสังเกตเห็นว่ารูปหน้าด้านข้างของนาบี
คล้ายกับใครบางคนที่เธอรู้จัก
ยิ่งลักยิ้มคู่นั้น ก็ช่างเหมือนกันจริงๆ
"ไม่มีอะไรทั้งนั้น อย่าคิดถึงเขานะลี จินจู
เธอต้องไม่แพ้ โอเค๊"
เธอบอกกับตัวเอง
...
ระหว่างที่กำลังจะกลับจากโรงพยาบาล
นาบีได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากประเทศอังกฤษ
"วิเวียนเธอเองหรอ คิดถึงจะแย่
นี่เลิกงอนโอเว่นรึยังเนี่ย สงสารเขาเถอะ"
"ก็อยากแกล้งอีกสักนิดน่ะ ที่จริงก็หายโกรธตั้งนานแล้วล่ะ"
"งั้นก็ถือว่าเป็นข่าวดี ยังไงแวะมาหาฉันเกาหลีมั่งสิ
จะพาเที่ยวให้ชุ่มปลอดเชียว"
"จะลองเอาไปคิดดูนะ แล้วนี่เธอคิดคอนเซ็ปต์ของแฟขั่นโชว์
ที่ปารีสได้รึยัง"
"ก็คิดๆ เอาไว้แล้วล่ะ
พอดียุ่งๆ เลยยังไม่มีเวลาทำจริงจังสักที
เอ่อ วิเวียนค่อยคุยกันนะ
พอดีเหมือนฉันจะเจอเพื่อนเก่าน่ะ"
"โอเคบาย นาน่า"
เพราะชื่อนาบีทำให้เพื่อนชาวต่างชาติออกจะงงๆ
คนส่วนใหญ่จึงเรียกนาบีว่านาน่า ซน
...ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาบี
นั่งอยู่บนwheel chair เธอรู้สึกคุ้นหน้า
ของเขามาก จึงเข้าไปทัก
"สวัสดีค่ะ ใช่คัง มินซู รึเปล่าคะ"
เขาจ้องเธอด้วยความสงสัย
"ครับ ผมคัง มินซู ไม่ทราบว่าคุณคือ"
"เราเองซน นาบี แฝดผีที่นายเรียกไง"
...หลังจากคุยกันอยู่พักใหญ่
นาบีจึงรู้ว่ามินซูประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน
จนต้องตัดขาข้างหนึ่งทิ้ง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการหยุดความฝันของการ
เป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ เขาจ้องมองพวงกุญแจรูปฟุตบอล
ที่ห้อยคู่กันกับรองเท้าสตัฟด้วยแววตาเศร้า...
และวันนี้เขาก็มาใส่ขาเหล็กเป็นครั้งแรก
"เธอได้เจอดาบินบ้างไหม"
จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา
"อื้ม นายอยากเจอดาบินเขาหรอ"
"ตั้งแต่เกิดเรื่องตอนนั้น ฉันคิดว่า
เขาคงไม่อยากเจอฉันอีก
ตลอดชีวิต ยิ่งตอนนี้เขาเป็นถึงนักร้อง
ที่มีชื่อเสียง ฉันไม่อยากสร้างรอยแผลให้เขาอีก
ที่ทำได้ในตอนนี้ก็แค่ติดตามข่าวของเขา
อยู่ห่างๆ"
แม้จะเห็นใจมินซูอยู่บ้าง
แต่นาบีก็เป็นห่วงความรู้สึกของดาบินมากกว่า
ในอดีตซน นาบี คัง มินซู และชเว ดาบิน
สนิทสนมกันมาก เพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน
ตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงชั้นมัธยม
ช่วงไฮสคูลจึงเป็นช่วงที่ทุกคนแยกย้ายกันไป
แต่ทว่าในตอนนั้นมินซูกับคิดเกินเลยกับดาบินมากกว่า
ความเป็นเพื่อน พอดาบินรู้จึงตีตัวออกห่าง
เพราะเขาไม่อาจรับความรู้สึกนี้ของมินซู
ที่ผิดธรรมชาตินี้ได้
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ดาบินก็เก็บตัวมากขึ้น
จนในที่สุดก็ย้ายโรงเรียน...
ในตอนนั้นนาบีไม่รู้ว่ามินซูชอบดาบิน
นึกว่าชอบเพื่อนสาวสักคนในห้อง
เลยช่วยเขาจัดฉากสารภาพรักให้
นาบีเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่มีส่วนในเรื่องนี้
แต่นาบีก็ช่วยพูดให้ดาบินกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม
...เมื่อทราบตารางงานและวันหยุดของ
หนุ่มๆ Zenith นาบีเลยโทรนัดดาบินออกมาพบ
ที่ร้านแห่งหนึ่ง...การปลอมตัวของดาบินจัดได้ว่าใช้ได้และไม่เป็นจุดสนใจ
"ทำไมไม่ไปเจอกันที่บริษัทหรือที่หอพักล่ะ
นัดฉันมาแบบนี้ ต้องมีเรื่องอะไรแน่"
"ค่อยพูดละกันเนอะ ตอนนี้นายทานเค้กช๊อกโกแลตนี่ก่อนสิ
อร่อยมาก"
งั่มๆ นาบีตักเค้กกินอย่างเอร็ดอร่อย
ดาบินชักไม่สนุกด้วย เพราะเริ่มมีสัมผัสพิเศษ
ว่าต้องเจอเกย์เก้เป็นแน่แท้
แน่ละ เพราะเจ้าของร้านเค้กชื่อดัง
อย่าง Bla Bla Bang จ้องเขาด้วยสายตาวิบวับออกจะขนาดนั้น
"มีอะไรก็รีบบอกมาเถอะนาบี
ไม่งั้นฉันจะกลับ"
"เดี๋ยวสิดาบิน ฟังฉันก่อน"
นาบีจับแขนดาบินไว้
"ว่ามา"
"มีคนๆนึง เขาอยากเจอนายมาก
ขอโอกาสให้เขาสักครั้งนะดาบิน
ตอนนี้คนๆ นั้นกำลังลำบากมาก
ถือซะว่าช่วยเขาก็แล้วกันนะ
แค่ไปเจอเขาสักครั้ง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว"
"ใครกันที่อยากเจอฉันน่ะ"
"ฟังให้ดีๆ แล้วก็อย่าตกใจไปนะ
คนที่ฉันกำลังจะบอกนายก็คือ
...คัง มินซู"
ดาบินถึงกับเหงื่อตก
นาบีจับมือเขาไว้แน่น
"ไม่เป็นไรนะดาบิน ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง
เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ"
สถานที่ที่นาบีขับรถพาดาบินมาก็คือ
สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง
มีเด็กชายอายุราวๆ 8-14 ปี อยู่หลายสิบคน
กำลังฝึกซ้อมกันอยู่
ที่ขอบสนาม มีชายคนหนึ่งกำลังมองดูไปที่สนามฟุตบอล
...16...
ดาบินมองมินซูที่มีไม้เท้าค้ำอยู่
และเขาเพิ่งสังเกตเห็นขาเหล็กที่ขาซ้ายของมินซู
นาบีตบไหล่ดาบินเพื่อให้กำลังใจ
"ไปคุยกับเขาหน่อย ส่วนฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้
โชคดีนะ ชเว ดาบิน สู้ๆ"
นาบีทำท่าไฟท์ติ้งสุดฤทธิ์
"อื้ม"
"เด็กที่นี่เยอะดีเหมือนกันนะ นึกแล้วอยากลงไปเล่นด้วยจริงๆ
นายว่ามั้ย"
"ดะ ดาบิน นายจริงๆ ด้วย"
"ใช่ ฉันเอง ดูหน้านายเหมือนไม่ดีใจเลยนะที่เจอฉัน"
"ฉันแค่ตกใจ ไม่คิดว่านาบีจะพานายมาจนได้"
"ไปนั่งคุยกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาไป"
"นายไม่ต้องประคองฉันหรอก ฉันเดินเองจะดีกว่า"
มินซูเอามือปัดมือของดาบินออก
"ฉันดีใจด้วยนะ ในที่สุดนายก็ได้เป็นนักร้องตามที่ตั้งใจไว้
เสียดายไม่รู้ว่านายจะมา ฉันจะได้เอาซีดีมาให้นายเซ็น
แล้วเอาไปฝากมินจีสักหน่อย ยัยนั่นคงดีใจ"
"เอาไอ้นี่ไปแทนละกัน"
ดาบินหยิบPhoto album พร้อมลายเซ็นครบทั้ง4 คน
ของ Zenith ที่อยู่ในกระเป๋าด้านในเสื้อโค้ทสีน้ำเงิน
ก่อนจะ ยื่นให้มินซู
"เสียใจด้วยนะกับอุบัติเหตุครั้งนั้น"
"อื้ม ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องอยู่ให้ได้
อย่างน้อยก็เพื่อมินจี น้องสาวของฉัน"
"ไว้เรามาเตะบอลด้วยกันดีไหม
ตอนที่นายหายดีแล้ว"
"ดาบิน"
"นายไม่ต้องมาส่งสายตาแบบนั้นให้ฉันเลย
เดี๋ยวผื่นฉันก็ขึ้นพอดี"
"เหอะๆ"
"ฉันล้อเล่นน่ะ เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะ
มินซู ฉันพูดจริงๆ นะ"
"คือฉัน..."
"ตอนนั้นฉันเองก็ตกใจมาก แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้าใจ
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามิตรภาพที่เราสร้างขึ้นมาหรอก
ไม่ว่าฉัน นาย รวมถึงนาบีจะเป็นยังไง
แต่ตราบใดที่เรายังคงมีกันและกัน ความเป็นเพื่อนก็ยังคงอยู่"
"นายไม่เกลียดฉันหรอ"
"เรียกว่ากลัวจะดีกว่า แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ
ไว้ฉันจะแวะมาหานายบ่อยๆ ถ้าฉันว่าง
รักษาตัวด้วยนะมินซู"
ดาบินลุกขึ้นและตบไหล่มินซูก่อนจะขอตัวกลับ
"อื้ม"
มินซูยิ้มสดใส เขาดีใจเหลือเกินที่เจอชเว ดาบิน
อีกครั้ง ผู้ชายที่มีรอยยิ้มสดใส และมีน้ำใจคนนี้
จะอยู่ในใจผู้ชายที่ชื่อคัง มินซูตลอดไป
...
ดาบินรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
เขาเดินมาหานาบีทันทีทีี่คุยกับมินซูเสร็จ
"ต่อไปนี้ฉันคงไม่มีอะไรต้องกลัวอีก
ขอบใจนะนาบี ที่ช่วยปลดพันธนาการที่ฉันสร้างมาเพื่อฆ่า
ความรู้สึกของตัวเอง"
"ถ้านายเป็นสาวสวยแทนที่จะเป็นชายหนุ่ม
ก็คงจะดี มินซูจะได้สมหวังกับเขามั่งว่ามั้ย"
"คนกำลังซึ้ง เธอยังจะมาตลกอีกนะ
ไว้ฉันจะคอยดูตอนที่เธอมีความรัก"
ดาบินยีหัวเพื่อนสาวอย่างหมั่นเขี้ยว
"จะมีใครเขาชอบคนขี้โวยวาย
และเอาแต่ใจอย่างฉันล่ะ วันนั้นคงไม่มีทางมาถึง"
"แต่ฉันกลับคิดว่าเธอจะได้เจอมันเร็วๆ นี้"
"ย่ะ ก็ขอให้มันจริง ขึ้นรถกันเถอะ นายหายออกมาแล้ว
นาอึนจะเป็นห่วงเอา"
"เดี๋ยวนาบี มีอีกเรื่องที่ฉันอยากรู้..."
"ว่ามาสิ"
"เธอสองพี่น้องคิดจะปิดบังฐานะที่แท้จริงไว้อีกนานแค่ไหน"
"ก็คงอีกไม่นานหรอก นายอย่าห่วงเลย"
"เธอคงไม่ได้สังเกตสินะว่ามีอะไรบางอย่างที่แปลกไป"
"อะไรหรอ"
"ฉันคิดว่านาอึนกับแทอึนรักกัน"
"จริงหรอ"
นาบีดูตกใจไม่น้อย
"ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็นนะ
แบบนี้จะยังไงต่อล่ะทีนี้"
"มันคงจะดีถ้านาอึนเป็นแค่ผู้ช่วยผู้จัดการจริงๆ
ไม่ใช่น้องสาวเจ้าของบริษัทจริงมั้ย
อะไรๆ ก็คงจะง่ายขึ้น"
"ฉันนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ว่าแทอึน
จะรู้สึกยังไง"
"เสียดายเจ้านั่นล่ะสิ"
"นิดหน่อยถ้าในฐานะแฟนคลับ
แต่ก็ดีใจสุดๆ ถ้าเขาจะมาเป็นว่าที่พี่เขย
แหะๆ แต่นายเองก็คงจะถูกโกรธไปด้วย"
"ฉันว่าพวกนั้นมีเหตุผลพอ แต่เรื่องบางเรื่อง
มันอาจไม่ต้องใช้เหตุผล เธอว่าจริงมั้ย"
"เฮ้อ แค่คิดก็เศร้าแทนนาอึนจัง
ขอให้อะไรๆ มันผ่านไปด้วยดีทีเถอะ"
"ก็หวังว่าอย่างงั้นนะ ตอนนี้เราต้องกลับกันจริงๆ แล้วล่ะ"
"นั่นสิ"
...17...
ภายในห้องนอนบนชั้น 3 ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเขียว ขาว และดำทั่วทั้งห้อง
อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินน์ที่ถูกออกแบบได้อย่างลงตัว
ตลอดจนพื้นที่ที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ
เหมาะสำหรับเป็นห้องชายโสดยิ่งนัก
"เฮ๊ย นาบีเธอเข้ามาได้ไงเนี่ย"
แทยังตกใจมากที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็เจอนาบี
นั่งทำหน้าตาแป้นแร้นอยู่บนเตียงนอนของเขา
ในขณะที่เขาที่เป็นเจ้าของห้องกลับนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ออกจากห้องน้ำ...
"ก็แค่ใช้กุญแจนี่ไขประตูห้องพี่เข้ามาไงคะ
ไม่เห็นจะยาก แหะๆ"
นาบีชูกุญแจที่ไปขอมาจากพ่อบ้านคิมให้พี่ชายของเธอดู
"เธอนี่นะ ไปๆ ไปรอข้างนอกนู่นไป ขอพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยคุยเถอะนะ"
แทยังเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหัวนม(สีชมพู) ของเขาอย่างเขินอาย
ก็นะ..ถึงยัยจอมแสบนี่จะเป็นน้องสาวของเขาก็เถอะ
แต่ยังไงซะ..ยัยนี่ก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี มีหรอที่เขาอยากจะให้โชว์สรีระให้เธอเห็น
แม้เขาจะจัดได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูแล รักษารูปร่างของตัวเองคนหนึ่ง
"ไม่ต้ององต้องอายหรอกน่า ทั้งซิคแพค วันแพคฉันก็เห็นมาหมดแล้ว"
"ซน นา บี"
แทยังเริ่มเก๊กโหด เพื่อไล่ยัยจอมจุ้นที่เข้ามากวนเขาแต่เช้า
"ไปก็ได้ๆ รีบๆ ด้วยล่ะ คนเขาอุตส่ามีข่าวมาบอก
...เกี่ยวกับพี่จินจูด้วยนะ ข่าวละห้าล้านวอน พี่ต้องจ่ายด้วย"
"ยัยขี้งก"
แทยังตะโกนไล่หลังนาบี แต่ก็แอบยิ้มดีใจ
...นาบีเอาสูทสีกรมท่าที่มีลายดอกไม้ทั่วทั้งตัว
ให้แทยังสวมใส่ กางเกงยีนส์ขาเดปที่สาวเจ้า
จัดเตรียมให้พี่ชายของเธอ
"แค่นี้ก็กระชากวัยเต็มที จาก 27 เหลือแค่ 20 ต้นๆ เชียวนะ
พีี่เชื่อเทสในการเลือกเสื้อผ้าของน้องสาวคนนี้ได้เลย"
นาบีบอกอย่างมั่นใจ แทยังที่ปฏิเสธในตอนแรก
แต่ก็ยอมทำตามคนร่างบางแต่โดยดี
"รองเท้าหนังสีน้ำตาล ฉันเตรียมให้พี่เรียบร้อย
แค่นี้ก็ไปรับพี่จินจูออกจากโรงพยาบาลได้"
"ขอบใจนะนาบี ถ้าแผนนี้สำเร็จ
ทุกอย่างที่เธอต้องการ... เธอจะได้มันไป"
"สัญญาแล้วนะ"
"อื้ม สัญญา"
...นาบียื่นกุหลาบสีเหลืองช่อโตให้แทยัง
"จินจูจะชอบดอกไม้นี่หรอ"
"พี่จินจูบอกฉันเองว่าชอบ ไปไป๊ เข้าไปได้แล้วพี่จ๋า
หมดหน้าที่ฉันแล้ว ต่อจากนี้พี่ต้องใช้ความสามารถเอาเองนะ"
นาบีดันหลังพี่ชายของเธอจนแทบติดประตูห้องพักของจินจู
...จินจูกำลังเก็บข้าวของต่างๆ ยัดลงใส่กระเป๋า
เธอตกใจเล็กน้อยที่เห็นแทยังมาพร้อมกับกุหลาบสีเหลืองช่อโต
"พี่มารับเธอกลับบ้าน...จินจู"
จินจูมองหน้าแทยังอย่างเฉยชา
แต่ก็ก้มศีรษะเล็กน้อย เพื่อทักทายเขาตามมารยาท
และที่สำคัญเขาคือเจ้านายของเธอ
"ฉันกลับเองได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องนะคะท่านประธาน
ไว้ฉันจะชดใช้คืนให้"
"เมื่อไหร่เธอจะยอมรับความรู้สึกของพี่สักที
หรือเธอแกล้งไม่รู้ว่าพี่รู้สึกกับเธอยังไง"
จินจูพยายามจะเดินหนี
แต่แทยังก็มาขวางทางเธอไว้
"ช่วยไปที่หนึ่งด้วยกันก่อน
แล้วพี่จะไม่ยุ่งกับเธออีกเลย"
...สถานที่ที่แทยังพาจินจูมาก็คือ
โรงเรียน St. Anna สถานที่ที่ทำให้เขาและเธอ
ได้เรียนด้วยกันและรู้จักกัน
ภาพเบื้องหน้าของเขาและเธอคือโรงละคร
ของโรงเรียน...ที่ผนังยังมีรอยจางๆ
ของภาพวาด ซึ่งใช้เป็นฉากแบลคกราวน์ของเรื่อง
ในตอนนั้น
...ในอดีตซน แทยัง เป็นประธานนักเรียนที่ป๊อบสุดๆ
ด้วยความที่เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน
และยังร่วมเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ จนมีวงดนตรีที่ชื่อ 'Yawl'
ซง อินนา เพื่อนร่วมชั้นของลี จินจู
เป็นเด็กสาวที่หน้าตาสะสวย และเป็นที่หมายปอง
ของหนุ่มๆ ในโรงเรียน
แต่คนๆ เดียวที่เธอต้องตาต้องใจ คือ ซน แทยัง
รุ่นพี่โปรไฟร์เริ่ดคนนั้น
"ละครเวทีในปีนี้ฉันต้องได้รับคัดเลือกให้ได้
เพราะอะไรรู้มั้ยจินจู ก็พี่แทยังได้เล่นบทพระเอกน่ะสิ
แค่คิดฉันก็ตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับ
เธอต้องช่วยฉันนะ"
จินจูขยับแว่นเล็กน้อยก่อนตอบ
"เธอก็มีทักษะทางการแสดงที่ดีนี่
คงไม่ต้องให้ฉันช่วยหรอกมั้ง"
"ฉันเคยได้ยินเธอร้องเพลงกับเพื่อนๆในชมรมดนตรี
เสียงเธอทั้งหวาน ใส และกังวาน
ถ้าเธอช่วยร้องเพลงให้ฉันตอนออดิชั่น
บวกกับทักษะทางการแสดงของฉัน
รับรองว่าไม่มีใครสู้พวกเราได้"
"แต่มันเป็นการโกงคนอื่นนะ"
"เรื่องแค่นี้เธอช่วยเหลือฉันที่เป็นของเธอไม่ได้เลยหรอ
อย่าลืมสิว่าฉันคือคนที่ช่วยเธอไว้ตอนเธอจมนน้ำตอน 9 ขวบนะ"
ซง อินนารบเร้าจินจูอยู่นาน..สุดท้ายก็ใช้ไม้ตายกับเธอ
จนเธอต้องยอมตอบตกลง
...และก็เป็นไปตามคาดที่ซง อินนา
ได้รับคัดเลือกให้เป็นนางเอกละครเวทีในปีนั้น
(กลับมาที่ปัจจุบัน)
จินจูมองเวทีด้วยความปวดร้าว
เพราะเธอเป็นได้แค่เงาเสียงของอินนา
"เรามาทำให้มันจบเถอะนะ จินจู"
"..."
"เธอจำฉากเต้นรำได้ไหม เรามาเล่นฉากนั้นกันเถอะนะ"
แทยังช้อนสายตามองจินจูด้วยสายตาเว้าวอน
อีกมุมหนึ่งในโรงละคร...
โชคดีที่นาบียังพอมีรุ่นน้องที่สนิทกันอย่างยู ยองแอ
สาวแว่นแก้มยุ้ยที่ตอนนี้กลายมาเป็นครูสาว
ที่สอนวิชาดนตรี เธอกับรุ่นน้องเลยแอบมาเซ็ทฉาก
และเตรียมซาวน์ดนตรีเตรียมไว้
"ยองแอ พอได้รับสัญญาณจากพี่แทยัง
เธอเปิดเพลงได้เลยนะ ส่วนฉันจะไปดู
ความเรียบร้อยหลังเวที"
"ค่ะ รุ่นพี่นาบี ไม่คิดเลยนะคะว่าเราจะได้มาเล่นสนุกๆ
อะไรแบบนี้อีก"
"แหะๆ ไว้สำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะเลี้ยงเธอมื้อใหญ่เลยล่ะ"
สองสาวยิ้มให้กันก่อนแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจ(รัก)ลับ
จินจูยังคงนิ่งเงียบ...
ไม่ว่าแทยังจะพูดอะไรกับเธอ
"ก่อนที่เธอจะตอบรับหรือปฏิเสธพี่
ขอให้เธอได้ดูไดอารี่เล่มนี้ก่อนจะได้ไหม"
เขายัดไดอารี่ที่เอาออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทลายดอกด้านใน
ใส่มือเธอ
ภาพแรก... เป็นภาพที่เธอกำลังจ้องมองไปที่เวที
อย่างมีความสุข เธอยืนท่ามกลางเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
แม้ว่าหน้าตาเธอจะดูไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับน้ำหนักและขนาดตัว
แบะเมื่อเทียบกับเด็กสาวร่างบางที่ยืนข้างๆ
แต่รอยยิ้มสดใส และพวงแก้มสีชมพู ก็ทำให้เธอน่ารักสมวัย
และภาพต่อๆ มาก็เป็นภาพแอบถ่ายในอิริบาบถต่างๆของเธอ
จนรูปสุดท้าย...เป็นรูปที่เธอกำลังยืนร้องเพลงอยู่ในห้องควบคุม
หลังเวที
"ฉันไม่รู้จักเด็กคนนี้หรอก คุณเอาของพวกนี้ให้ผิดคนแล้ว"
จินจูปฏิเสธ
"อย่าปฏิเสธเลยว่าเธอไม่ใช่ลี จินจู ปี 1 ห้อง B
เด็กสาวผมเปีย แก้มยุ้ยที่ยิ้มมีความสุขคนนั้น"
"ไม่มีใครชอบคนอ้วนที่หนักเกือบร้อยกิโลได้หรอกคะ"
"นี่ใช่ไหมคือเหตุผลที่เธอไม่มาเจอพี่อีกเลย"
"ฉันได้ยินทุกคำที่คุณพูดกับอินนา"
"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ คือตอนนั้นพีี..."
"คุณแค่รู้สึกผิดที่ทำให้ฉันเสียใจในตอนนั้น
แต่ในวันนี้ไม่มีลี จินจูที่อ่อนแออีกแล้วล่ะค่ะ"
แทยังตัดสินใจรวบตัวจินจูเข้ามาสวมกอด
เธอดิ้นเพื่อหลุดจากอ้อมกอด..
แต่ทว่ายิ่งดิ้น แทยังก็ยิ่งกอดเธอแน่น
...18...
"แค่อยู่เฉยๆ สักพัก ได้โปรดฟังคำสารภาพจากผู้ชายคนนี้ด้วย"
แทยังพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แต่มันมีผลทำให้หญิงสาว..ใจสั่นไหวเป็นที่สุด
"ตอนนั้นฉันโกรธซง อินนามาก
เพราะเธอพูดดูถูกเพื่อนสาวของตัวเอง
อย่างไม่น่าให้อภัย..."
"..."
"ภายใต้หน้าตาสะสวย มีแต่ความอิจฉา ริษยาเต็มไปหมด
อินนาต้องการเด่นดังกว่าคนอื่นๆ ตอนนั้นที่บริษัทของคุณปู่
กำลังมีโครงการจะปั้นนักร้อง นักแสดงหน้าใหม่
คิม จูวอน เพื่อนสนิทของพี่บอกว่าคนที่เหมาะสมที่จะไปออดิชั่น
คือเธอนะ ลี จินจู พี่เห็นด้วยและคิดจะไปชวนเธอด้วยตัวเอง
แต่อินนากลับพูดให้เธอในทางที่ไม่ดี"
"แล้วยังไงต่อคะ"
จินจูตั้งใจฟังในเรื่องราวที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
"เธอบอกว่าไม่มีใครรับยัยช้างน้ำเป็นนักร้องหรอก"
"..."
"พี่เลยบอกเธอไปว่า...ใช่ไม่มีใครรับคนแบบนั้นหรอก
แต่ถ้าเธออยู่ฟังให้จบ เธอจะได้ยินในสิ่งที่พี่พูดกับอินนาคืออะไร"
"..."
"พี่ไม่ต้องการคนที่สวยแต่ภายนอก
แต่จิตใจกลับดำมืดแบบนั้นหรอก
คนที่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ
คนแบบนั้นน่ากลัวเหลือเกิน
แม้แต่พี่ที่เป็นผู้ชายก็ยังกลัวคนแบบซง อินนา
แต่ไม่คิดว่าเธอจะหนีไปซะก่อน ก่อนที่พี่จะได้บอกเธอ"
"คำพูดของพี่ทำให้ฉันลดน้ำหนักจนแทบบ้า
ฉันเกือบตาย เพราะคำพูดนั้นของพี่
ฉันไม่อยากจะร้องเพลงอีกเลย
แต่ฉันไม่รู้เลยว่าพี่จะตอบอินนาไปแบบนั้น
และฉันก็รู้ตัวดีว่าถึงยังไงยัยอ้วนอย่างฉันไม่มีทางคู่ควร
กับประธานนักเรียนอย่างพี่ ฮือๆ"
น้ำตาของสาวแกร่งรินไหลจนเปื้อนแก้มทั้งสอง
เธอซุกหน้าเข้ากับแผงอกแกร่ง
เพื่อหาที่พักพิง เธอร้องไห้โฮราวกับเด็กๆ
นั่นก็ทำให้แทยังกระชับร่างเธอแน่นเข้าไปอีก
"ตอนนี้เราเข้าใจกันสักทีนะ"
แทยังปลอบ
จินจูยังคงนิ่งไปตอบ
แทยังใช้นิ้วเรียวยาวของเขา
ปาดน้ำตาที่สองข้างแก้มให้หญิงสาว
ก่อนจะใช้ริมฝีปากของตัวเอง
สัมผัสอย่างแผ่วเบาไปที่ริมฝีปากอวบของจินจู
ก่อนที่ทั้งคู่จะโบยบินไปกับบทเพลงบรรเลงแห่งรัก
ที่มีแต่คนทั้งคู่เท่านั้นที่ได้ยิน
"ผู้ชายคนนี้ตกหลุมรักเสียงเพลงของเธอ
ตั้งแต่ตอนที่ไปโบสถ์ St. Paul
เขารออย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้ถึงวันอาทิตย์สักที
ยิ่งรู้ว่าได้เรียนที่เดียวกัน เขาดีใจมาก
แต่เธอก็มักจะผลักไสเพื่อนของเธอให้กับเขาเสมอ"
"..."
"อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะจินจู กลับมาร้องเพลงอีกสักครั้งเถอะนะ
อย่างน้อยก็เพื่อตัวเธอเอง คนเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเองไม่ใช่หรอ
สิ่งที่เธอบอกกับZenithมาตลอด มันคือความจริง"
"พี่รักฉันขนาดนี้เลยหรอคะ"
จินจูถามตรงๆ
"ถ้าเธอไม่เชื่อ เราแต่งงานกันวันนี้ยังได้นะ"
"ลูกเป็ดขี้เหร่อย่างฉัน ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน"
"ต่อจากนี้ไป มาช่วยกันสร้าง Star Ent.
ให้ดียิ่งขึ้นเถอะนะ"
"ค่ะ"
"แล้วเราก็มาสร้างครอบครัวกัน"
"เรื่องนั้นฉันขอไม่ตอบ ตอนนี้ปล่อยได้แล้วล่ะค่ะ
ฉันแทบจะสำลักความสุขตาย"
แม้จะเป็นใบหน้าไร้เครื่องสำอางที่เปื้อนน้ำตา
แต่รอยยิ้มที่เปร่งประกายตาม
ก็ทำให้ลี จินจู สวยขึ้นไปอีก
และทำให้ชายหนุ่มตรงหน้า
แทบจะไม่อยากละสายตาไปจากเธอ
ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ดูพิเศษมากๆ ในสายตาเขา
"ตอนนี้พี่ได้คืนรอยยิ้มนั้นให้เธอ
ตามที่ได้สัญญาไว้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไป พี่จะเป็นรักษารอยยิ้มนี้ไว้เองนะ"
"ค่ะ"
จินจูประติดประต่อเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
จนเข้าใจ...
ภาพเหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นมาในมโนภาพ..ชัดเจนขึ้น
...หลังจากเรื่องปมในอดีตผ่านพ้นไป
ความชุ่มชื่นในหัวใจก็ตามมา
"ฉันจะไม่ร้องเพลงเพื่อใครอีก
ฉันไม่อยากเป็นแค่เงาของใคร
ฉันจะร้องเพลงเพื่อตัวเองเท่านั้น"
นี่คือคำพูดในวันนั้นที่ลี จินจู จำทันได้เป็นอย่างดี
เธอก็เลือกที่จะซ่อนเสียงของตัวเองเอาไว้ให้ลึกที่สุด
สิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจเธอก็คือเสียงเพลง
ที่ดังมาจากใจของคนอื่น...
การทำหน้าที่ผู้จัดการศิลปิน
ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น
แต่เธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่า
การเข้ามาทำงานที่ Star Ent.
จะทำให้เธอได้พบแทยังอีกครั้ง
และได้ลงเอยกับพี่ชายสุดเท่ที่เธอ
ปลื้มเอามากๆ
"ตั้งแต่นี้ต่อไป พี่จะไม่ให้ผู้จัดการสาวๆ
ต้องดูแลศิลปินหนุ่มอีกต่อไป รวมทั้งเธอด้วย
เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นเลขาฯให้พี่นะรู้มั้ย"
"ไม่ มี ทาง"
"Bravo!"
นาบีตบมือชอบใจกับยองแอ
ที่หลบอยู่ข้างเวที
"ยังกะฉากในหนังเลยนะคะรุ่นพี่
แถมรุ่นพี่แทยัง ไว้เคราด้วย ฉันกรี้ดมากเลยค่ะ"
"นั่นสิเนอะ ฉันเองก็เพิ่งสังเกตว่ามีพี่ชายหน้าตาดี
ดีใจจังตาลุงนั่นสมหวังกะเขาสักที"
"เราไปกันเถอะค่ะรุ่นพี่
มีคนอยากเจอรุ่นพี่เต็มไปหมด
อย่าไปแอบดูคนเขาสวีทกันอีกเลย"
"อื้ม ไปสิ แต่เธอต้องพาฉันไปกินขนมอร่อยๆ
ที่โรงอาหารด้วยนะยองแอ"
"ได้ค่ะรุ่นพี่"
..นาบีแอบคิดถึงวีรกรรมสมัยเรียนของตัวเอง
เพราะที่แห่งนี้ที่ทำให้เธออยากเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง
...19...
ณ กองถ่ายนอกสถานที่ของนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง 'Fad'
นาอึนกะซุลซูไปรับหนุ่มๆ จากหอพักในตอนตี5
ส่วนนาบีตามมาสมทบทีหลังในช่วงประมาณ 9 โมง
ทันทีที่ถึงสถานที่ถ่ายแบบ...จุนฮาแทบจะกระโดดกอดนาบี
เมื่อเห็นหน้าเธอ พร้อมขนมเต็มไม้เต็มมือ
"หายไปตั้งหลายวัน คิดถึงแทบแย่แหนะนูน่า"
"จริงหรอจุนฮา ฉันนึกว่านายจะคิดถึงแต่ขนมของฉันซะอีก
ความจริงฉันมีธุระยุ่งๆ ที่ต้องจัดการน่ะ"
"ใครเขาจะคิดอย่างงั้นกันล่ะฮะ แต่เรื่องขนมก็คิดแค่นิดหน่อย
แหะๆ ก็ผมเป็นเด็กวัยกำลังโตนี่นา
อ้อ แต่มีอยู่คนหนึ่งอาการหนักเชียวล่ะ
เพราะคิดถึงนูน่าจนจะเป็นบ้า"
จุนฮาชี้ไปที่จุนกอลที่นั่งทำหน้าเซ็งๆ
เขารอถ่ายรูปเป็นคนต่อจากดาบินและแทอึน
ที่กำลังถ่ายอยู่ ...เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
และยังคงไม่รับรู้ถึงการมาของคนที่เขาคิดถึงตลอดหลายวันที่ผ่านมา
"เห้อออออ"
"ได้นับบ้างรึเปล่าว่าถอนหายใจไปกี่กิโลแล้วฮะ
ทำหน้าเป็นหมาเหงาไปได้ แฮกๆๆ"
นาบีทำท่าล้อเลียนสุนัขเวลาดีใจที่เจอเจ้าของ
"นาบี"
จุนกอลตาลุกวาว ราวกับเพิ่งมีคนกดปุ่มเปิดสวิตซ์ในตัวเขา
"ใช่ ฉันเอง นายก่อกวนอะไรระหว่างที่ฉันไม่อยู่รึเปล่าเนี่ย
เอ๊ะ! แทอึนสุดที่รักของฉันหายไปไหนนะ"
นาบีสอดส่องสายตาไปทั่ว
"เธอกล้าพูดถึงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสามีได้ยังไงเนี่ย"
"อยากตายรึไง ฮะ ฮัน จุนกอล
เก็บปากนายไว้กินข้าวกับร้องเพลงเพราะๆ เถอะ
น่าจะมีประโยชน์ซะกว่า"
นาบียกกำปั้นขึ้นมาหมายจะชกจุนกอล
"แต่ปากฉัน...ทำอะไรได้มากกว่านั้นอีกนะ
เธอจะลองดูสักหน่อยมั้ย"
จุนกอลยิ้มท้าทาย
"ถ้าว่างนักก็กินไอ้นี่ซะ ปากจะได้ไม่ว่าง"
นาบียัดคุกกี้ใส่ปากจุนกอล
แล้วเดินไปสมทบกับทีมงานอีกหลายคน
นาบีช่วยพี่ๆ คอสตูมจัดแต่งเสื้อผ้าให้หนุ่มๆ Zenith อย่างสนุกสนาน
บางทีก็เสนอไอเดียที่แปลกใหม่ และดึงความเป็นตัวตนของหนุ่มๆ
แต่ละคนออกมาได้อย่างลงตัว เป็นการทำงานที่สนุกสำหรับเธอ
แม้แต่ผ้าพันคอสีแสบตาจากปารีสเธอก็สละให้จุนกอล
อย่างง่ายดาย เพราะมันเข้ากันกับเสื้อที่เขาใส่มาก
นาบีแอบมาดูรูปกับทีมงานด้วย...เพื่อเลือรูปที่ดีที่สุดลงหน้าปก
ฉบับล่าสุดที่กำลังจะวางแผง
ในฐานะแฟนคลับเธอหลงรักเจ้าชายแวมไพร์
อย่างแทอึนเอามากๆ
วันนี้เขาแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและแววตาได้ดี
ดาบินอยู่ในชุดที่สามารถมองเห็นกล้ามโตๆ ของเขา
ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แววตาขี้เล่น ซุกซน
กลับมาอีกครั้ง
จุนฮา...น้องชายหมายเลข 1 หนึ่งเธอก็ดูหล่อ น่ารักสมวัย
เวลาที่เขาโชว์ลีลาการเล่นสเก็ตบอร์ดก็เท่ไม่เบา
แต่รูปที่สามารถทำให้นาบีแทบจะหายใจไม่สะดวก
ก็คือรูปของฮัน จุนกอล ทุกรูป
สายตาของเขาดูมีอำนาจดึงดูดอย่างมหาศาล
คิ้วเข้มได้รูป แพขนตายาวและหนา
จมูกโด่งเป็นสันราวกับมีเชื้อสายมาจากโซนยุโรป
บรัชออนสีโอรส ตัดกับริมฝีปากอวบสีพีช
ถ้าแทอึนคือเจ้าชายแวมไพร์
จุนกอลก็คือเจ้าชายหมาป่าที่หล่อสูสี และลึกลับไม่แพ้กัน
ดังนั้นวง Zenith จึงมีหน้าตาของวงถึง 2 คน
เพราะว่าตัดสินไม่ได้จริงๆ ถ้าวัดกัน ณ จุดนี้
นาบีแอบคิดเล่นๆ ว่า...ฮัน จุนกอลคนนี้เป็นคนรึรูปปั้นของเทพกรีกโรมันกันแน่
จนเธอแอบคิดว่าถ้าเผลอมองรูปเขานานกว่านี้
เธอคงต้องโดนสาปเป็นหิน...โทษฐานที่มองชายหนุ่มนานไปหน่อย
โดยรวมแล้วพวกเขา Zenithเหมาะจะเป็นFlower boy แห่งปี 2012 จริงๆ
ความจริงไม่ว่าพวกเขา4 หนุ่มจะขยับตัวทำอะไร
ที่ไหน ก็มีบรรดาZippie Boy และ Zippie Girl
ให้ความสนใจทั้งข่าวและติดตามไปทุกๆ ที่
ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชน และพวกเขาก็ดังถล่มทลาย
ในsocail network
เบื้องหลังภาพที่ต้องตาต้องใจของจุนกอล
มาจากภาพๆ หนึ่งในโทรศัพท์ของดาบินนั่นเอง
(ก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมง)
"ไง อร่อยมากมั้ยคุกกี้ชิ้นนั้นน่ะ"
"ก็ดี นายถามทำไมหรอคุณลีดเดอร์"
"เปล่า แต่ฉันมีอะไรบางอย่างจะให้นายดู
รับรองว่าต้องถูกใจนาย"
ดาบินเอาภาพที่นาบีแอบหอมแก้มจุนกอล
ที่โรงพยาบาลออกมาให้เขาดู
จุนกอลยิ้มชอบใจ
"ขนาดนอนหลับ มีผ้าพันแผลก็ยังดูดีเหมืิอนกันนะเนี่ยฮัน จุนกอลเอ๊ย"
"นายนี่จริงๆ เลยนะ แต่ก็ดูสูสีกับยัยนาบีดี
ถ้าเป็นนายฉันก็วางใจ ที่จะฝากยัยตัวแสบนี่"
"นายดูออกขนาดนั้นเลยหรอว่าฉันคิดกับยัยผีเสื้อขี้วีนนั่นยังไง"
"นายชอบนาบีมากแค่ไหน มีหรอที่พวกเราจะไม่รู้
ขนาดจุนฮา เจ้านั่นยังรู้เลย"
"แล้วฉันต้องทำยังไง"
"ฉันว่านายมีคำตอบให้กับเรื่องนี้ในใจแล้วล่ะ
ไปเถอะ ถึงคิวนายกับเจ้าเด็กยักษ์แล้ว
ทำให้นาบีตะลึงในความเท่ของนาย
ยัยนั่นแพ้คนตาสวยน่ะรู้ไหม ทำตาหวานๆ เข้าไว้ล่ะ"
ดาบินตบไหล่จุนกอลก่อนเดินไปนัั่งพักกับแทอึน
...20...
หลังจากเสร็จจากงานถ่ายแบบแล้ว
นาอึนก็ใจดีพาหนุ่มๆ รวมทั้งนาบีและซุลซู
ไปทานมื้อใหญ่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ที่ได้จองไว้ล่วงหน้า หรือเรียกได้ว่า
จองเพื่อปิดร้านฉลองจะดีกว่า...แต่ลุงเจ้าของร้านก็เต็มใจที่สุด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการกินเนื้อย่าง
แทอึนก็ฉวยโอกาสนี้พานาอึนแยกตัวออกมา..
"ชุดนี้นาบีเลือกให้เธอสินะ เธอใส่กระโปรงสวยดีนะนาอึน"
"อื้ม นาบีชอบจับฉันแต่งตัวตามใจเธอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ
แต่ฉันก็ชอบที่จะขัดใจเธอ สนุกดี
มาตอนนี้ก็ยังงงๆ ตัวเองอยู่เลย
ว่ายอมให้เธอจับแต่งตัวอีกได้ยังไง"
นาอึนมองเดรสสไตล์โบฮีเมียนของเธอ
ซึ่งเข้าคู่กันได้ดีกับบู๊ทสีน้ำตาล
ผมตัดซอยสั้น..มีกิ๊ปคริสตัลติดอยู่
ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงหน้าเรียวนี้เก๋เข้าไปอีก
แทอึนดึงมือนาอึนขึ้นมาจับ
"ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกนี้
ซน นาอึน"
"พูดอะไรของนายเนี่ย คนเขาเขินหมด
ขืนนายเป็นแบบนี้ ฉันคงทำงานกับนายต่อไปไม่ได้อีก"
"ฮ่าๆ"
"ขำอะไร อยากโดนอัดรึไง"
"เปลี่ยนเป็นจูบแทนได้ไหม"
"พอเถอะน่าแทอึน
เดี๋ยวนี้นายชักเอาใหญ่นะ"
"ฉันเริ่มเป็นคนแบบนี้ก็ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าชอบเธอนั่นแหละ
อีกอย่างจูบแรกของฉัน เธอต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ นาอึน"
"อะไรกัน นายเป็นคนเริ่มก่อนนะ"
"ไม่รู้ล่ะ ไม่งั้นฉันจะไปฟ้องท่านประธานซน แทยัง"
นาอึนหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินชื่อพี่ชายของเธอ
ก่อนจะชวนแทอึนกลับเข้าไปในร้านตามเดิม
...
ในช่วงจังหวะที่นาบีขอตัวมาเข้าห้องน้ำ
เธอแอบผ่านมาเห็นพี่สาวฝาแฝดของเธอ
กำลังกุ๊กกิ๊กๆ กับแทอึน
"พูดอะไรกันนะ เบาจัง"
นาบีเอาหูแนบกับกระจก..เพื่อแอบฟัง
"มาแอบดูคนอื่นจู๋จี๋กันแบบนี้ได้ไงเนี่ย
ยัยผีเสื้อ"
"ว๊าย ตกใจหมด ฉันเกือบหัวใจวายเพราะนาย
รู้ไหม โอ๊ยให้ตายสิ"
"ก็ดีสิ"
นาบีหันไปค้อนชุดใหญ่เข้าให้
"นี่เธอมานี่เลย ปล่อยเขาสวีทกันเถอะน่า
อีกอย่างพี่สาวเธอก็ไม่ได้เป็นเด็กกะโปโลแบบเธอซะที่ไหน"
"โอ๊ย ไม่ไป ลากฉันทำไมยะ ปล่อยนะ ปล่อย"
จุนกอลพานาบี ขึ้นมาบนดาดฟ้าของร้าน
ซึ่งบนนี้สามารถเห็นวิวของย่านคังนัมได้เป็นอย่างดี
"ว้าว สวยจัง สวยสุดๆ ไม่ได้เห็นวิวแบบนี้มานานแค่ไหนนะ
แหะๆ "
นาบีเผยรอยยิ้มสดใส ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยวก็ยิ้มตามไปด้วย
ลักยิ้มสองข้างแก้ม...ทำให้ชายหนุ่มข้างๆ ยิ้มไปด้วยเช่นกัน
"มานั่งดูดาวด้วยกันตรงนี้เถอะยัยผีเสื้อ"
ชายหนุ่มชี้ไปที่ที่นั่งตรงม้านั่งที่ว่างอยู่
นาบียอมทำตามอย่างว่าง่าย
แต่ดูเหมือนจะนานไปหน่อย
หญิงสาวจึงสิ้นฤทธิ์โดยง่าย
เธอเผลอหลับซบไหล่ของจุนกอล
อย่างสบายอารมณ์
จุนกอลค่อยๆ ประคองศีรษะเธอให้นอนในอิริยาบถ
ที่ผ่อนคลายขึ้น ขาของเขากลายสภาพเป็นหมอนนุ่มๆ
ให้เธอหนุนนอน จุนกอลนั่งมองดวงดาวบนท้อง
แล้วยิ้มอย่างมีความสุข ดวงจันทร์ในคืนนี้ก็สวยงามเช่นกัน
นาบีค่อยๆ ลืมตาขึ้น
พบว่าจุนกอลช้อนสายตารอเธออยู่ก่อนแล้ว
"โทษทีนะ เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
นายคงเมื่อยแย่"
"นิดหน่อยเอง เราลงไปจากที่นี่กันเถอะ
คนอื่นคงรอเราแย่"
"อื้ม"
ระหว่างที่จุนกอลกำลังจะลุกขึ้นยืน
เขาก็เซล้มลงไป
"ขาเป็นเหน็บน่ะ สงสัยคนบางคนจะนอนทับนานไปหน่อย"
จุนกอลยิ้ม และเป็นรอยยิ้มที่นาบีคิดว่า
สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ประกอบกับดวงตาหวานใส
ที่แอบทะเล้นนั่น...ถ้าต้องเห็นแบบนี้ทุกวัน
เธอต้องแย่แน่ๆ
และคล้ายกับว่าใบหน้าลามไปถึงใบหูของเธอจะค่อยๆ
เปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนเจ้าหัวใจนี่ก็เต้นยังกะจะหลุดออกมาข้างนอก
เธอหวังว่าคนหน้าทะเล้นจะไม่ทันสังเกตอาการแปลกๆ นี้
"งั้นฉันจะประคองนายเองละกันนะ"
"อือ"
...21...
นาบีคิดว่าคืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น
ดวงดาวบนท้องฟ้าก็เช่นกัน ไม่ว่าจะมองมาจากมุมไหนๆ
แม้แต่มองมาจากห้องนอนชั้น 3 ของบ้าน
และคืนนี้เป็นอีกคืนที่ทำให้เธอนอนหลับฝันดี
...ผีเสื้อนับร้อยตัวบินออกมาจากตัวเธอ
จนเต็มห้องนอนไปหมด นั่นคือภาพที่นาบีเห็นในฝัน
...วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งถึงงานประกาศรางวัลด้านงานเพลงที่รวบรวมเอาศิลปินทุกค่าย
เข้าไว้ด้วยกัน...ที่ถูกจัดขึ้นทุกๆ ปี ในช่วงเดือนธันวาคม
การแสดงสดที่เรียกความสนใจของสื่อทุกสถาบันได้เป็นอย่างดี
งานประกาศรางวัลในค่ำคืนนี้คืองาน Banana Music Award 2012
"และแล้วก็เดินทางมาถึงรางวัลสุดท้ายของงาน
เมื่อสัก 8 ปีที่แล้ว ผมยังจำได้วันที่ 2Uมารับรางวัลศิบปินหน้าใหม่ได้
เหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี่เองนะครับ เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ขอเชิญคุณคิม กอนวู The Occupier
คุณยุน เซนา Cutie cute มาเป็นผู้ประกาศรางวัลนี้ด้วยครับ"
ฮัน ซึงจุน พิธีกรหลักของงานในวันนี้ประกาศอยู่ตรงมินิสเตจ
ก่อนส่งต่อหน้าที่ให้พิธีกรรับเชิญทั้งสองทำหน้าที่ต่อ
บนเมนสเตจ
"สวัสดีค่ะ ดิฉันลีดเดอร์เท้าไฟแห่ง Cutie cute ยุน เซนาค่ะ"
"สวัสดีครับ ผมมักเน่หน้าใส คิม กอนวู The Occupier ครับ"
"ค่ะ ต่อไปเราจะประกาศชื่อผู้เข้าชิงในสาขานี้นะคะ มีใครกันบ้างค่ะ
คุณกอนวู"
"ครับศิลปินกลุ่มแรกคือ 5สาวOxygen ที่น่ารักสดใสครับ"
กรี้ดดด กร้าดดดด
"ศิลปินกลุ่มต่อไปคือ 4 หนุ่มสุดฮอต Zenithค่ะ
ดิฉันแอบเชียร์กลุ่มนี้เป็นพิเศษนะคะ
ค่ะต่อไปคือ..."
กรี้ดดด กร้าดดดด
"6 หนุ่มสไตล์อินดี้The Super band"
กรี้ดดดด กร้าดดดด
"ตอนนี้ผลรางวัลอยู่ในมือดิฉันแล้วนะคะ ตื่นเต้นมากเลย
ค่ะ..รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 'super rookie'
ในปีนี้ได้แก่..."
"ได้แก่..."
"4 หนุ่ม Zenith ค่ะ"
"ดีใจด้วยนะครับ เชิญขึ้นมารับรางวัลเลยครับ"
"3 2 1 สวัสดีครับ พวกเราเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุด
Zenith ครับ"
4หนุ่มพูดพร้อมกัน และมีการทำท่าที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเป็นการกล่าวทักทายทุกคน
"ครับก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณท่านประธานซน
ที่ให้โอกาสเด็กธรรมดาอย่างพวกเรา
ได้ทำตามความฝัน ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ
The Star Family ทุกคน ขอบคุณครอบครัว
ของผมและMember คนอื่นๆที่ช่วยสนับสนุนพวกเรา
และสุดท้ายขอบคุณZippie
คนในครอบครัวของ Zenith
ทั้งที่เกาหลีและทั่วโลกที่ช่วยโหวตให้กับพวกเรา
พวกเราสัญญาว่าจะพัฒนาผลงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพให้ได้ชมกันนะครับ
รางวัลนี้เป็นของทุกคนครับ ขอบคุณครับ"
ดาบินพูดก่อนจุ๊บไปที่ถ้วยรางวัล
ก่อนจะชูถ้วยรางวัลขึ้น ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากคนทั้งงาน
ได้ดีทีเดียว
4 หนุ่มกอดกันกลม ดูเหมือนน้องเล็กอย่างจุนฮา
จะไม่สามารถซ่อนน้ำตาเอาไว้ได้
พวกเขาทำความเคารพรอบทิศอย่างสวยงาม
ก่อนจะเดินลงเวทีไปอย่างสง่างามด้วยชุดสูทสีสันเจ็บจี๊ด
ดีไซน์ล้ำจากฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของนาบี
และถือเป็นรางวัลแรก
ที่สมศักดิ์ศรี...ในฐานะศิลปิน
แสงแฟลชจากบรรดาสื่อมวลชนสำนักต่างๆ
สาดส่องที่ใบหน้าของพวกเขา
เช่นเดียวกับเสียงชัดเตอร์ที่กดรัว
เพื่อหามุมภาพที่ดูสมบูรณ์ที่สุด
เพื่อเป็นภาพในพาดหัวข่าวในสกู๊ปพิเศษ
นาบีที่มองดูพวกเขาอยู่บนเวทีอย่างชื่นชม
เธอแทบจะไม่เขื่อสายตาตัวเอง
ว่านี่คือZenith ที่เธอรู้จัก
นาอึนและพี่จินจูรวมถึงคนอื่นๆ
คงภูมิใจในตัวพวกเขาไม่น้อย
...ยิ่งมองดูชุดที่พวกเขาสวมใส่ในวันนี้
เธอก็ยิ้มปลื้มจนแทบแก้มปริ
...ก่อนหน้านี้สามอาทิตย์
เมื่อหนุ่มๆได้รับแจ้งจากทางผู้จัดงานว่า
พวกเขามีรายชื่อเข้าชิงในสองสาขาคือสาขาเพลงยอดนิยมแห่งปี
และสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี
นาอึนก็เรียกให้น้องสาวของเธอไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าที่หนุ่มๆ
จะต้องใช้ใส่ไปร่วมงาน Banana Music Award 2012 นี้
...นาบีเริ่มวัดตัวให้หนุ่มๆ ทีละคน
เริ่มจากดาบิน จุนฮา แทอึน และคนสุดท้ายจุนกอล
ที่เล่นเอาเธอถึงกับเหงื่อตก
"ถ้านายไม่ยืนตัวตรงๆ ให้ฉันวัดตัว
นายก็ไปหาชุดที่จะใส่ไปงานเองเถอะ"
"แน่ใจนะว่าถ้าฉันยืนดีๆ เธอจะทำงานของเธอได้จริงๆ"
จุนกอลช้อนสายตาหวานซึ้งสุดๆ ให้นาบี
จนเธอเป็นฝ่ายประหม่าแทน
"แค่นายให้ความร่วมมือ แค่นั้นงานฉันก็จบ"
จุนกอลยืนตัวแข่งทื่อให้นาบีวัดตัว
นาบีวัดตรงส่วนนั้น ส่วนนี้
แล้วก้มลงจดยิกๆ ในสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือ
เธอยิ้มเมื่อนึกถึงไอเดียที่เพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆ
ก่อนจะรีบสเก็ตภาพไว้ จุนกอลได้แต่มองคนหน้าสวย
อย่างตะลึง ก่อนจะแกล้งยั่วเธอกลับ
"เธอก็รู้สัดส่วนฉันหมดแล้ว ฉันเองก็อยากรู้สัดส่วน
ตรงนั้น ตรงนู้น ตรงนี้ของเธอจัง"
"ไอ้คนทะลึ่ง ออกไปได้แล้ว นายนี่มัน...
กวนได้โล่ห์จริงๆ"
"โอ๊ย เกือบไปแล้ว เฮ้อ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
ต้องแย่แน่เลย ใจจ๋าใจช่วยหยุดเต้นแรงๆ ที
พี่นาบีคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ"
เธอพูดกับตัวเอง เมื่อนึกถึงตอนที่ใช้สายวัด
วัดที่รอบเอวของเขา มันเหมือนว่าเธอกำลังกอดเขาไว้มากกว่า
ชุดแรกเป็นชุดของดาบิน
เสื้อเชิ๊ตสีขาวรายจุดสีแดงเล็กๆ เน็กไทด์ลายสก๊อต
แจ๊คเก็ตสีพีชเรียบหรู กับกางเกงขายาวสีชมพู
รองเท้าหนังสือขาวเกลี้ยง...ทุกอย่างนี้ดูเหมาะกับดาบินจริงๆ
จุนกอลในเสื้อสูทสีดำมีลายจุดเล็กๆ สีขาว
สวมทับกับเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายดอกไม้ทั่วทั้งตัวสีสันแสบตา
กางเกงสีเหลืองสุดจี๊ด รองเท้าหนังสีดำทรงเตี้ยจาก Repetto
และนาฬิกาสีเหลืองสะดุดตา โดยรวมแล้วชุดนี้ทำให้เขาโดดเด่นสุดๆ
ชุดต่อมาคือชุดของแทอึน เป็นเสื้อยืดสีขาวลายกราฟฟิก ที่สวมทับกับ
เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์เดนิมสีซีด
บวกกับรองเท้าหนังสือน้ำตาลหัวแหลม ยิ่งเพิ่มเสน่ห์
ให้ชวนมอง
และชุดสุดท้ายที่เป็นของมักเน่ยักษ์ จุนฮา
เสื้อกล้ามสีเขียวขี้มาลายมิกกี้เมาส์
สวมทับกับเสื้อสูทลายดอกสีชมพู
และกางเกงขาสั้นลายเดียวกัน
พร้อมด้วยรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดัง
ก็ทำให้เขาดูหล่อ น่ารัก สมวัย
หลังจากได้รับรางวัลมา..บริษัทก็ย้ายที่อยู่ใหม่ให้กับหนุ่มๆ
เป็นเพนท์เฮาส์สุดหรูที่มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้น 1
ที่ตั้งอยู่ ใจกลางกรุงโซล
มีดาราและนักร้องดังระดับประเทศอาศัยอยู่
โดยบ้านใหม่ของหนุ่มๆ มีห้องนอนด้วยกัน 3 ห้อง
ห้องแรกเป็นห้องนอนใหญ่ เป็นห้องนอนของดาบินและจุนฮา
ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องที่อยู่ข้างๆ กัน คือห้องนอนของจุนกอลและแทอึน
คนละห้อง โดยในห้องนอนแต่ละห้องก็มีห้องน้ำในตัว
ถัดจากห้องนอนออกไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น
เป็นที่ที่หนุ่มๆ มักจะมานั่งเล่นกันพร้อมหน้าพร้อมตา
บางครั้งก็จะมานั่งคุยงาน หรือดูหนังกัน
แต่ส่วนมากแทอึนและจุนฮาจะยึดเป็นที่ดวลกันมนเกมส์มากกว่า
ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นดูจะถูกใจหนุ่มรักสุขภาพและชอบทำอาหารอย่างดาบิน
มีบันไดวนต่อขึ้นไปเป็นชั้นลอยเล็กๆ และถูกจัดแต่ง
ให้เป็นมุมอ่านหนังสือของหนุ่มรักการอ่านอย่างจุนกอล
นาอึนซื้อของใช้มาให้หนุ่มๆ ตามที่เห็นสมควร
และก็แอบมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับหนุ่มๆ
"ทำไมพวกเราสามคนถึงได้กล่องแค่นี้
ทีพี่แทอึนกล่องใหญ่เบ้อเริ่ม
แบบนี้พี่นาอึนก็สองมาตรฐานนี่ครับ"
นาอึนไม่ตอบอะไร ได้แต่เก๊กขรึม
ทำไม่รู้ไม่ชี้
"เด็กบ้า ช่างพวกเขาเหอะน่า นายมานี่เลย
มาช่วยฉันจัดห้องดีกว่า"
จุนกอลลากคอจุนฮาไปกับเขาด้วย
เพื่อเปิดทางให้แทอึนกับนาอึน
ส่วนดาบินก็ชวนนาบีไปคุยกันในห้องครัว
"ทีนี้จะเอายังไงต่อ เธอจะไม่บอกความรู้สึกของเธอ
ให้เจ้านั่นได้รู้หรอ"
"นายพูดถึงเรื่องอะไร ฉันไม่เห็นจะเข้าใจ"
"เธอนี่นะนาบี เข้าใจความรู้สึกคนอื่นเสมอ
แต่เธอกลับไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองสักนิด
โดยเฉพาะเรื่ิองของหัวใจ"
"ฉันเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่กัน ฉันซน นาบี
รู้ใจตัวเองดีที่สุด"
"ถ้าอย่างงั้นก็ขอให้เธอโชคดีละกันนะ
ยัยแฝดผี"
"ย่ะ นายกล้ามปู"
เมื่อรอจนจุนฮา กับดาบิน ออกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ แล้ว
นาบีก็เอาของขวัญชิ้นพิเศษมาให้จุนกอลถึงในห้องบ้าง
"อา ของนายเอาไปสิ"
นาบียื่นกรอบรูปที่ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีแดง
ผูกด้วยริบบิ้นสีขาว พร้อมกับการ์ด
"ถ้าไม่เอา ฉันเอาไปทิ้งนะ"
"เฮ๊ย ไม่ได้ๆ ให้แล้วก็ให้เลยสิ"
"ลองแกะดูสิ"
จุนกอลส่งยิ้มโชว์ฟันครบทั้ง 32 ซี่
ประหนึ่งพรีเซ็นเตอร์ยาสีฟันในโฆษณาให้นาบี
ก่อนจะค่อยๆ แกะของขวัญที่เพิ่งได้รับมา
อย่างทะนุถนอม
ภาพวาดสีน้ำมันที่เป็นภาพเหมือนของจุนกอล
ทำให้เขามองมันอย่างแปลกใจ
"ความจริงนายก็ไม่ได้ดูดีเหมือนในภาพหรอกนะ
ฉันแค่อยากวาดให้มันออกมาดูดีก็แค่นั้นแหละ
จะแขวนตรงไหนดีล่ะ เดี๋ยวฉันช่วย"
นาบีพูดแก้เขิน
"ขอบคุณมากนะนาบี
แต่คราวหน้าขอเป็นรูปเธอได้ไหม
ฉันจะได้เอาไว้ดูก่อนนอน และคงจะนอนหลับฝันดี"
"ฝันร้ายสิไม่ว่า"
จุนกอลหมั่นเขี้ยวเลยดึงสาวเจ้า...นั่งบนตักของเขา
เพื่อให้เธอมานั่งที่เตียงด้วยกัน
"นายทำอะไรน่ะ"
"ขอกอดหน่อยเถอะนะ นะยัยผีเสื้อ
อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้...ใจของฉันเลย"
จุนกอลกระซิบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา
กลิ่นแชมพูอ่อนๆ ลอยมาแตะที่ปลายจมูก
ของชายหนุ่ม เขาเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เลือดในกายหนุ่มสูบฉีดอย่างรวดเร็ว
"หมดหน้าที่ฉันแล้วล่ะ พอถึงพรุ่งนี้
พี่จินจูจะกลับมา ทีนี้นายก็จะได้อารมณ์ดี
ที่ไม่มีคนมาทะเลาะด้วย"
"แล้วถ้าฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะ"
"แบบไหน"
นาบีลืมตัวหันไปหาจุนกอล
ดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยว
ประสานเข้ากับดวงตาคู่หวานคม
และทรงเสน่ห์ของชายหนุ่ม
เขายิ้มเหี้ยมเกรียมเหมือนราชสีห์ที่กำลังตะครุบเหยื่อ
ไม่ช้าร่างบางก็ถูกดันในนอนลงบนฟูกที่หนานุ่ม
หญิงสาวไร้เดียงสา..ที่มองโลกสวยงาม
กลายเป็นกวางสาวที่ตกหลุมพรางสายตาอันเย้ายวน
ของราชสีห์หนุ่มอย่างง่ายดาย
นาบีหลับตาพริ้มตาแบบฉบับสาวจินตนาการล้ำเลิศ
ที่ชอบอ่านนิยายโรมานซ์
จุนกอลได้ทีก็สวมบทพระเอกผู้แสนอบอุ่น
มอบจูบที่แสนพิเศษนี้แทนคำพูดนับร้อยนับพัน
ริมฝีปากอุ่นของจุนกอลค่อยๆ ดูดซับ
ความหอมหวานจากนาบี
เขารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ
ทีละนิด ลิ้นยาวสัมผัสกับลิ้นนุ่ม
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างคลอเคลียและดื่มด่ำ
มือทั้งสองประคองลำคอระหงส์ของ
เธอไว้เป็นอย่างดี
กว่าที่คนทั้งคู่จะถอนริมฝีปากออกจากกัน
ก็ตอนที่จุนฮาตะโกนโวยวาย
เคาะห้องนี่แหละ
"ไอ้เด็กแสบนี่ น่าเตะจริงๆ"
จุนกอลฉุนเล็กๆ
ก่อนที่ทั้งคู่จะมองหน้ากันด้วยความรัก
ที่เอ่อล้นในดวงตาและดวงใจที่ค่อยๆ ผูกไว้ด้วยกัน
จุนกอลเผลอมองที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของตัวเอง
และเขาก็พบเส้นด้ายสีแดงที่ผูกไว้ที่นิ้วก้อยข้างขวาของนาบีเช่นกัน
เขาเชื่อในตำนานด้ายแดงที่เหลือเชื่อนี้จริงๆ
เมื่อสติกลับมา...
สาวจิ้นก็ได้วิเคราะห์แล้วว่ารสจูบนี้ช่างหอมหวานนัก..
และที่สำคัญมันติดตรึงใจทั้งเธอและเขา
ไม่ว่าว่าปากของเธอจะบวมเจ่อ รึบวมเป่ง
ตามที่นิยายได้เขียนบรรยายไว้ก็ช่างมันเถอะ
แต่สิ่งที่คิดได้ในตอนนี้คือ จูบ..มันมีรสหวานแปลกๆ ติดที่ปลายลิ้น
และริมฝีปากอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าให้เปรียบจูบ
กับขนมหวานก็คงไม่แปลก
...ลิปสติกสีแดงเลือดนกติดที่ปากของจุนกอล
อย่างไม่ต้องสงสัย
นาบีหัวเราะก๊าก เมื่อเห็นหน้าของชายหนุ่ม
แดงก่ำ... และเขาก็หายใจติดขัด
และเริ่มไอแค๊กๆ เหมือนคนไม่สบาย
ก็เขาเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเริ่มเอง...
นาอึนกับแทอึน รวมทั้งดาบิน
ช่วยกันทำอาหารสำหรับมื้อเย็นที่แสนพิเศษ
จุนฮาที่อาสาเป็นลูกมือแทนการช่วยจุนกอลกับนาบีทำความสะอาด
อยู่ๆ เขาก็แอบกินนู่นกินนี่จนดาบินต้องหันไปดุ
"แหะๆ ผมจะไม่ทำอีกแล้วคร้าบ แหะๆ"
จุนฮาอาศัยความเป็นมักเน่
ทำให้พี่ๆ โกรธเขาไม่ลงจริงๆ
ผ้ากันเปื้อนลายคุณหมีใส่ชุดพ่อครัว
ดูไม่ค่อยเข้ากันกับกล้ามใหญ่ๆ ของดาบินเอาซะเลย
แต่ดูจากทักษะการหยิบจับอุปกรณ์เครื่องครัวอย่างคล่องมือ
ก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อหนุ่มคนนี้เข้าครัวด้วยชั่วโมงบินสูงขนาดไหน
ขัดจากสาวติสท์หนึ่งเดียวในครัวที่ดูจะเก้ๆ กังๆ
“แหะๆ สงสัยฉันคงต้องฝึกอีกเยอะเลย”
นาอึนหันไปยิ้มแหยๆ กับพ่อครัวเอกของ Zenith
...อาหารมื้อเย็นที่แสนพิเศษจัดขึ้นอย่างอบอุ่น
เป็นการเลี้ยงฉลองกันเล็กๆ
ในบ้านหลังใหม่ของหนุ่มๆ Zenith
โดยมีพี่ๆ ในค่ายอย่าง 3 หนุุ่ม
The Occupier ประกอบด้วย
ปาร์ค แทซอง ลีดเดอร์มาดเนี้ยบ
ลี แจชิน มือกีตาร์หน้าหล่อ
และ คิม กอนวู มือกลองหน้าใส
...และสาวๆ Cutie cute
รวมถึงฮัน ซึงจุน ที่ตั้งใจมาเยี่ยมน้องชาย
ที่ไม่ได้เจอกันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา..
อาหารจานแรกคือสลัดกุ้งสดตัวโตๆ
พร้อมกับสารพัดผักและผลไม้หลากสีสัน
ที่ถูกจัดวางอย่างน่าทาน
โดยน้ำสลัดสูตรพิเศษจาดชเว ดาบิน
ผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหาร
เนื่องจากที่บ้านของเขาเปิดร้านอาหาร
อยู่ที่ชิคาโก้ จานที่สองเป็นสเต๊กปลาแซลมอน
ราดซอสครีมส้ม จานสุดท้ายเป็นไก่ทอดพริกไทยดำ
ตบท้ายด้วยวาฟเฟิลราดน้ำผึ้ง จัดหน้าด้วยวิปครีม
และสตอเบอร์รี่ จุนฮาที่ดูจะถูกใจกับอาหารแต่ละจาน
เครื่องดื่มในวันนี้ก็เป็นว้อดก้าชั้นเยี่ยม
และน้ำพั้นช์สูตรพิเศษจากนาบี
มีแต่จุนฮาที่ต้องดื่มโคล่ากระป๋อง
เพราะว่าเขาอายยุยังไม่ถึง อึนนาเลยไม่อนุญาต
"ฮยองว่าผมต้องรีบมีแฟนดีมั้ย
ดูพี่แทอึนกับพี่จุนกอลทำสิ คนเค้าอิจฉารู้มั้ยเนี่ย"
"นายไม่ต้องรีบหาแฟนหรอกน่า
เดี๋ยวความรักดีๆ ก็วิ่งตามนายเองนั่นแหละ
อีกอย่างเรามี Zippie ทั่วโลก ก็เพียงพอแล้วล่ะ"
ดาบินพูด ก่อนที้งหัวจุนฮาเล่น
"พี่นี่มันผู้ชายโลกสวยตัวจริงเลยนะเนี่ย
เพราะแบบนี้สินะในแฟนฟิค(ชั่น)
พี่ถึงเป็นฝ่ายโดนกระทำตลอด"
"นายหมายความว่าไง แฟนฟิคอะไรกัน"
"แหะๆ พี่อย่ารู้ดีกว่านะ"
จุนฮายิ้มอย่างมีนัยแอบแฝง
แต่ก็แกล้งยัดของกินที่อยู่ตรงหน้าเข้าปากคำโต
ขืนเขาบอกไปตรงๆ ว่า
แฟนฟิคที่เขาอ่านตามบล็อก(เป็นงานอดิเรก)
มันมีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับพวกเขา.. Zenith
ชนิดที่ทั้งเรื่องเป็นความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่าง
ชายรักชาย ดาบินต้องช็อคตายแน่
ที่สำคัญคนที่แนะนำให้จุนฮาเข้าถึงแฟนคลับของพวกเขา
ด้วยวิธีนี้คือ คิม กอนวู รุ่นพี่ในค่ายที่เขาสนิทด้วยสุดๆ นั่นเอง
นี่คือตัวอย่างบทสนทนาในSocial network
ที่จุนฮาของเราแอบเล่น กับซิปปี้สาวนางหนึ่ง
Giant Rapper : ฉันเพิ่งอ่านฟิคตอนล่าสุดที่เธอลงไว้ สนุกมากเลย
ช่วยแอบสปอยด์ตอนหน้านิดๆ หน่อยๆ ได้ไหม
ฉันลุ้นแทบแย่ พี่ดาบินจะลงเอยกับพี่จุนกอลรึเปล่า?
Zippie jung : เสียใจ นายต้องรอต่อไปนะจ๊ะ นาย@Giant Rapper
Giant Rapper : ใจร้ายๆ ถ้าฉันเป็นจุนฮา ฉันต้องโกรธเธอมากๆ เลย
Zippie jung : งั้นฉันก็เป็นคงเป็นภรรยาชเว ดาบิน ㅋㅋㅋ
Giant Rapper : ㅠ,ㅠ
"แบบนี้เราก็เป็นคู่รักแรปเปอร์แทฮาน่ะสิ
ไม่เอาๆ ฉันอยากคู่กับพี่ดาบินคนเดียวนี่นา"
จุนฮาแอบฟิน หลังจากที่ได้อ่านแฟนฟิค
++++
...เช้าวันรุ่งขึ้น
...ห้องทำงานบนชั้น 37 ของ Bottle Building
อันเป็นห้องทำงานของซน แทยัง
"ภารกิจของพวกเธอจบลงแล้วนะสองสาว
ต่อไปนี้หน้าที่ดูแล Zenith ให้เป็นหน้าที่ของ
คุณชเว คังโฮเถอะ เขาคือคนที่พี่เชื่อใจได้"
นาอึนกับนาบีมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกใจหาย
เพราะการที่หนุ่มๆได้รับรางวัล
super rookie แห่งปีก็เท่ากับภารกิจบรรลุผล
และพวกเธอก็หมดหน้าที่ที่มีต่อหนุ่มๆ
แต่ทว่าภารกิจหัวใจ..เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น
"รายละเอียดต่างๆ ของเจ้าพวกนั้น
ทั้งฉันแล้วก็นาอึนจดในสมุดบันทึกนี่ให้แล้วนะคะ
ต่อไปนี้เราคงไม่ได้ไปดูแลพวกเขาอีก"
ลี จินจู อดีตผู้จัดการวงพูดอย่างเศร้าๆ
"นาบีเดี๋ยวเธอช่วยพี่เตรียมงานครบรอบของStar Ent.ทีนะ
ส่วนนาอึน ตอนนี้เธอได้เป็นรองประธานฝ่ายดูแล
และจัดการศิลปินเต็มตัวแล้วนะ ส่วนเรื่องที่เธอจะมาเป็นหนึ่งใน
โปรดิวเซอร์ด้วยพี่ก็ไม่ขัดข้องอะไร พี่ได้เตรียมการสำหรับ
ตำแหน่งใหม่ของพวกเธอแล้วล่ะ
อ้อ อีกเรื่อง ห้องทำงานของเธออยู่ที่ชั้น 36
ขาดเหลืออะไรบอกได้นะ"
"ค่ะ พี่ เอ้ย ท่านประธานซน"
"ส่วนคุณแค่อยู่ข้างๆ อย่าหนีผมไปไหนก็พอ"
"นี่พี่หน้าหนวดคะ จะสวีทกันใครเขาก็ไม่ว่าหรอกคะ
แต่ช่วยรอฉันกับนาบีออกไปก่อนจะได้ไหมคะ"
"ก็คนเขารักกัน อ๊าก"
จินจูหยิกที่ต้นแขนของประธานหนุ่ม
"สมน้ำหน้า เราไปกันเถอะนาบี ไม่อยากเป็นส่วนเกิน"
"นั่นสิ คนนี้ยกให้แล้วไม่รับคืนนะคะพี่จินจู"
จินจูยิ้มรับแทนคำตอบ
...บ่ายวันเดียวกันนั้นเอง
แทยังตามให้กีอุน ลุงของเขาไปพบที่ห้อง
"เชิญนั่งครับคุณลุง จะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ"
"ฮะๆ อย่าลำบากเลยหลานชาย มีอะไรก็ว่ามาเถอะ"
"เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ...ผมทราบเรื่องที่คุณลุง
กับพรรคพวกยักยอกเงินบริษัท คุณลุงคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงครับ"
"อย่ามากล่าวหากันลอยๆ นะแทยัง ฉันฟ้องแกได้นะ"
"ก็เชิญสิครับ คุณคิดว่าผมไม่มีหลักฐานเอาผิดกับคุณหรอครับ
คุณซน กีอุน"
"แก...ไอ้เด็กเมื่อวานซืน"
"ผมจะให้โอกาสคุณลุงไปสารภาพกับคุณปู่
แล้วผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ
แต่เรื่องเงินที่คุณลุงเอาไป จะต้องหามาใช้คืนให้บริษัท
อย่างครบถ้วน"
ซน กีอุน หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
ก่อนจะทุบโต๊ะเสียงดัง
"ผมยังเห็นคุณลุงเป็นในครอบครัวอยู่นะครับ
ผมหวังว่าคุณลุงคงไม่คิดทำเรื่องไม่ดีขึ้นอีก"
"ได้ ฉันรับข้อเสนอแก ฉันผิดเองที่อยากมีธุรกิจ
เป็นของตัวเอง แต่ฉันก็ทำพลาด ฉันอยากรักษาธุรกิจของตัวเองเอาไว้
เลยต้องคิดชั่ว ทำผิดกับStar Ent.แบบนี้"
ซน กีอุนตีหน้าเศร้า แท้จริงแล้วเขายังไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำเลยสักนิด
แต่ในใจคิดแต่จะหาทางแก้แค้นอย่างสาสม
"ขอบใจที่ให้โอกาสฉัน ขอบใจมาก"
"จบธุระแล้วคุณลุงไปทำงานต่อเถอะครับ
อีก 10 นาที ผมมีประชุม"
กีอุนจากไปด้วยความแค้นใจ
"เลขาฯ คิม เข้ามาพบผมหน่อย"
แทยังเป็นห่วงคนในครอบครัวจะเกิดอันตราย
จึงได้จ้างบอร์ดี้การ์ดคุ้มกันอย่างเงียบๆ
ครอบครัวของลี จินจูและตัวเธอก็เช่นกัน
"ถ้าเกิดผมเป็นอะไรไปในตอนนี้
มีคนเดียวเท่านั้น คุณรู้ใช่ไหมว่าใคร"
"ครับ คุณแทยัง"
"จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
ผมไม่อยากให้งานเลี้ยงครบรอบของบริษัทต้องมีปัญหา"
แทยังหันไปสั่งงานเครียดกับเลขาฯ คู่ใจ
รวมทั้งสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อนไหวของซน กีอุน
และพรรคพวก และคอยรายงานเขาทุกระยะ
...22...
งานเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 26 ของ Star Ent.
ถูกจัดขึ้นที่Paradise Hotel สาขาเกาะเชจู
และบรรยากาศก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน
สองสาวหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะงานนี้นอกจากจะเป็นการฉลองให้กับบริษัท
แต่ยังเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะทายาทสายดนตรี
ของอดีตประธานซน แทยอง
หนุ่มๆ Zenith เองก็แปลกใจที่สองสาวฝาแฝด
บอกให้ไปเจอกันในงานเลย ทั้งที่สัญญากันดิบดี
ว่านะมางานนี้พร้อมๆ กัน
จุนกอลที่เลือกเสื้อผ้าไม่ได้สักที
จนคนอื่นๆ ต้องเข้ามาเร่ง เพราะใกล้จะถึงเวลางานเต็มที
"ใส่ๆ ไปเหอะพี่ ยังไงพี่ก็ไม่หล่อไปกว่านี้แล้วล่ะ"
"อยากโดนเตะรึไงจุนฮา ออกไปเลยไป"
"ถ้านาบีนูน่าอยู่ช่วยเลือกคงจะดีนะฮะ"
"ก็บอกให้ออกไปไง ไอ้เด็กบ้า"
"ออกก็ได้คร้าบ แบร่"
จุนฮาแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียน
"นั่นสิ ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ยัยนั่นเลือก
ยังไงก็ต้องออกมาดีที่สุด"
จุนกอลหยิบสร้อยคอทองคำขาว
ที่มีจี้ห้อยรูปผีเสื้อที่เขาสั่งทำพิเศษ
เพื่อเตรียมเอาไว้ให้กับยัยผีเสื้อขี้วีน
ของเขา...ผีเสื้อที่ชื่อซน นาบี
ครอบครัวของแทยังมาถึงที่โรงแรมด้วยเครื่องบินส่วนตัวตั้งแต่ช่วงสาย
เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของงาน
นาบีออกแบบและตัดเย็บชุดราตรีสีทองที่เธอสวมใส่ด้วยตัวเอง
ส่วนนาอึนก็เลือกซื้อชุดเดรสสั้นยาวกรอมเข่าสีชมพู
ที่มีดีไซน์เหมาะกับบุคลิกของเธอที่สุด
นาบีรวบผมแบบลวกๆ แต่มีสไตล์
เธอแต่งตาด้วยอายไลเนอร์
เขียนขอบตาคมกริบ เขียนใต้ตาด้วยชิมเมอร์สีนู้ด
ก่อนจะปัดแก้มด้วยบลัชออนสีส้มสดใส
กลางเรียวแก้ม ทาอายแชโดร์โทนสีน้ำตาลทอง
ทาปากด้วยลิปสติกสีส้มโฉบเฉี่ยว
ปิดท้ายด้วยการดัดขนตา
ให้งอนงาม เธอนึกอิจฉาแพขนตายาวของจุนกอล
ขึ้นมาทุกครั้งที่แต่งหน้า เพราะเจ้าสิ่งนี้จึงทำให้ดวงตาคู่นั้นหวานซึ้ง
อย่างเป็นธรรมชาติ
ก่อนจะหันไปจัดการกับใบหน้าเรียวเก๋ของพี่สาวฝาแฝด
ที่ลงรองพื้นบนใบหน้ารอ...จนเมื่อย
นาบีเลือกใช้อายแชโดร์ชนิดครีมสีโอรสทาที่เปลือกตา
ก่อนจะกรีดอายไลเนอร์บางๆ
ใช้บรัชออนสีชมพูทาไปที่กลางเรียวแก้มป่องๆ
ของนาอึน แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูนู้ด
ก่อนจะหันไปสั่งให้พี่สาวดัดขนตาของตัวเอง
"แค่นี้ก็สวยหวานจนแทอึนต้องตะลึงไปหลายนาทีเลยล่ะ
ถ้าไม่ใช่พี่สาวสุดที่รักของฉันน่ะนะ
ฉันไม่มีทางยกแทอึนให้เด็ดขาด"
นาบีแกล้งกระเซ้า ก่อนจะมองไปที่กระจก
และกอดคอพี่สาวของเธอไว้
ในกระจกปรากฏภาพของสองสาวที่มีหน้าตา
เหมือนกันราวกับแกะ
"แต่ฉันกลับคิดถึงอีกเรื่องที่น่าหนักใจกว่า"
"เธอหมายถึง..."
"แทอึนและคนอื่นๆ จะคิดว่าเราหลอกลวงพวกเขา
ถึงจะมีดาบินที่เข้าใจ แต่ฉันก็ยังนึกกลัวอยู่ดี"
"ดูไม่เหมือนกับนาอึนที่ตัดสินใจอะไรไม่เคยพลาดเลยนะ"
"นั่นน่ะสิ ฉันเองก็ยังแปลกใจตัวเอง
ก็ได้แต่หวังว่าแทอึนจะยอมรับฟัง
เรื่องของความรักนี่ใช้สมองแก้ไขไม่ได้จริงๆ"
"คงใช่"
นาบีเองก็นึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาทันที
ถ้าเกิดนายจอมกวนโกรธจนไม่อยากพูดกับเธออีก
เธอคงทนไม่ได้
...23...
...งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง
คุณปู่วัย 65 ก็ขึ้นมาโชว์ลูกคอเสียหลายเพลง
และก็มีการจับรางวัลเพื่อสร้างสีสันตลอดทั้งงาน
อาหารชั้นเลิศถูกจัด้ตรียมไว้บริการในหลายๆ จุด
มีการเต้นรำเปิดฟลอร์เต้นรำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
"ให้เกียรติเต้นรำกับพี่สักเพลงนะจินจู"
"ค่ะ"
คู่ของแทยังกับจินจูเต้นรำราวกับคู่เจ้าชายเจ้าหญิงในนิทาน
และสะกดแขกในงานไปตามๆ กัน แต่ก็มีทีมงานและศิลปิน
ขึ้นมาเต้นรำกลางฟลอร์ สร้างความครึกครื้น
ก่อนที่จะมีการสลับสับเปลี่ยน..หมุนเวียนเป็นการแสดงสด
ของเหล่าศิลปินในค่ายและร่วมอวยพร
นาอึนชวนแทอึนออกไปเดินเล่นริมสระว่ายน้ำอีกฝั่งหนึ่ง
เธออยากสารภาพกับเขาก่อนที่เขาจะรู้ความจริงจากคนอื่นก่อน..
"ดูเหมือนเธอมีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉัน ใช่ไหม"
"ใช่ เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันหนักใจมาตลอดหลายวันนี้"
"มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกมาเถอะ"
"จริงๆ นะ"
แทอึนจับมือหญิงสาวขึ้นมากุมไว้
เพื่อมอบพลังให้กับเธอ...
"ถ้าฉันไม่ได้เป็นฉันอย่างที่นายรู้จักและเข้าใจ
นายจะยัง..."
อยู่ๆ คำพูดที่นาอึนเตรียมมาพูดก็จุกอยู่ที่ปาก
"ฉันเชื่อในเซ้นส์ของตัวเองเสมอ
เธอเป็นยังไงไม่ใช่ฉันหรอที่รู้ดีที่สุด
เลิกกังวลได้แล้วนะ"
"ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดาในบริษัท
แต่ฉันเป็นน้องสาวท่านประธานนายจะว่ายังไง"
แทอึนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"แต่เธอก็คือซน นาอึน และตัวตนของเธอ
ก็คือสิ่งที่ฉันสัมผัสได้ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ไม่ใช่หรอ
เธอคงไม่ได้หลอกฉัน...เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม"
"แทอึน คือฉัน"
"ฉันก็แค่...ต้องทำตัวให้ดีให้สมกับที่น้องสาวของท่านประธาน
ยอมลดตัวมาคบด้วย"
"นายอย่าพูดอย่างนั้น นายมีค่าสำหรับฉันเสมอ
ขอบคุณนะที่ไม่โกรธ ไม่เกลียดฉัน ฮือๆ"
...ในวินาทีนี้เองที่นาอึนรู้ตัวว่าเธออ่อนแอเหลือเกิน
น้ำตาของเธอไหลลงมาอย่างไม่มีเหตุผล
สาวตรรกะเป็นเลิศ...รู้ว่าสมองของเธอตอนนี้
มันช่างว่างเปล่าไปหมด
แทอึนสบตานาอึนนิ่ง ก่อนจะจูบปลอบเธอ
"ขอแค่เป็นเธอ ฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
ต่อให้ท่านประธานไม่ยอมรับ ฉันก็จะพิสูจน์
ให้เห็นถึงความจริงใจของฉัน อยู่ข้างๆ ฉันตลอดไปนะ
นาอึน"
"ขอบใจนะแทอึน ขอบใจจริงๆ"
แทอึนกระชับกอดแน่นขึ้น
มือทั้งสองข้างสัมผัสกับผิวขาวเนียน
ตรงบริเวณแผ่นหลังที่เปิดเปลือยของนาอึน
ก่อนจะกระซิบอย่างแผ่วเบา
"ตอนเธอร้องไห้นี่เซ็กซี่เหมือนกันนะ"
นาอึนรีบปาดน้ำตา ก่อนจะเปลี่ยนโหมดกับมาโหดใส่เขาคืน
ด้วยการทุบหน้าอกเขาแทน
"เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะนายน่ะ"
"เธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ
ที่ปลุกร่างอสูรร้ายที่หลับไหลในตัวฉันออกมา"
แทอึนจูบที่หน้าผากของนาอึนหนึ่งที
ก่อนที่ทั้งคู่จะชวนกันกลับเข้าไปในงาน
...ลูกน้องของซน กีอุน กำลังเดินเกมส์ตามแผนที่วางไว้
ยู แจมิน คือหนึ่งในพนักงานของ Star Ent.
ที่โดนไล่ออก เพราะแอบเอาข้อมูลศิลปิน
ไปบอกกับนักข่าวและบริษัทคู่แข่ง
แต่ซน กีอุนก็แอบเลี้ยงดูเขาไว้ใช้งาน
รวมถึงเพื่อนอันธพาลหัวไม้อีก 2 คน
ของยู แจมิน
+++24+++
นาบีที่เดินพล่านทั่วทั้งงานอย่างร้อนใจ
สาวเจ้าเริ่มหน้าตูมขึ้นมาทันที
เมื่อไม่เจอเป้าหมายอย่างฮัน จุนกอล
"ดาบิน นายเห็นจุนกอลรึเปล่า
ฉันเดินหาซะทั่วงาน ยังไม่เจอเลย"
"เห็นไปคุยกะรุ่นพี่ The Occupier ตรงล๊อบบี้น่ะ"
"ขอบใจมากนะดาบิน แล้วค่อยคุยกันนะ ฉันรีบ"
ท่าทางของนาบีรีบร้อนอย่างที่เธอว่าจริงๆ
เพราะเธอหายไปจากห้องจัดเลี้ยงอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษนะคะ ขอยืมตัวฮัน จุนกอลสักครู่"
นาบีลากจุนกอลออกมาจากวงสนทนา
แต่ 3 หนุ่ม The Occupier พอรู้มาบ้างว่าเธอคือใคร
เลยไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาแค่ยิ้มทักทายเธอตามมารยาท
"ลากฉันออกมาแบบนี้มีอะไรรึเปล่า"
"ก็มีนิดหน่อย แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี"
"ก็พูดมาสิ ถ้าเธอไม่พูดฉันจะรู้ได้ยังไง"
"คือว่าฉัน..."
"ถ้าเธอไม่พูด งั้นฉันขอพูดก่อนละกันนะ"
"เอ่อ อืมม์ นายเชิญพูดก่อนได้เลย"
"ตั้งใจฟังดีๆ ล่ะ"
"อื้ม"
"แม้ว่าพระจันทร์บนทองฟ้ายามค่ำคืนจะสวยมากแค่ไหน
แต่เมื่อเทียบกับเธอ มันสวยน้อยกว่า"
"นายไปจำคำพูดเชยๆ นี่มาจากไหนเนี่ย"
"ฉันเหมือนคนบ้าที่ยิ้มและหัวเราะคนเดียวได้
ฉันเริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเอง
ก็ตอนที่มองหน้าเธออยู่"
"..."
"ฉันแอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าเธอหายไปจากชีวิตฉัน
แม้แต่วันเดียว ฉันจะเป็นยังไง"
"อา..."
"ฉันอยู่โดยขาดเธอไม่ได้ เธอคือออกซิเจน
ของฉัน ซน นาบี"
"จุนกอล อา"
จุนกอลหยิบสร้อยคอออกจากกระเป๋าเสื้อสูท
ก่อนจะสวมไปที่ลำคอยาวระหงส์ของนาบี
"สร้อยคอเส้นนี้อาจไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร
แต่ฉันมั่นใจว่า...จะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่คู่ควร
กับสร้อยเส้นนี้ได้เหมือนกับเธอ"
"ถ้าเอาไปขายจะได้สักกี่วอนกันนะ"
นาบีพูดแก้เขิน
"เธออยากตายรึไง ทำไมถึงชอบทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้"
"ล้อเล่นน่ะ ฉันจะรักษามันเป็นอย่างดี
ผีเสื้อบนจี้ รวมทั้งผีเสื้อตัวนี้ จะโบยบินอยู่ๆ ข้างๆ
ดวงดาวอย่างนายด้วยปีกและกำลังของตัวเอง
และจะไม่หนีไปไหน แม้ว่านายจะไล่ไปก็ตาม"
ผีเสื้ออีกตัวที่นาบีหมายถึงก็คือตัวเธอเอง
"เธอก็ใช้คำพูดได้เชยไม่แพ้ฉันเหมือนกันนั่นแหละ"
"งั้นเราก็เสมอกันนะ"
"เธอจะไม่บอกหน่อยหรอว่ารักฉัน"
"ไม่เอา ไม่บอกหรอก"
"น่านะ สักครั้งให้ฉันได้ชื่นใจ ไม่ได้เลยหรอ"
"If you look at my eyes, you'll know all about of
my heart that saying I love you"
"I lose my control when I look at your adorable smile."
"บอกแล้วนะความรู้สึกของฉันน่ะ แต่มีอีกเรื่องที่ฉันจะบอกก็คือ..."
อยู่ๆ ก็มีพนักงานของโรงแรมเข้ามาขัดจังหวะคนทั้งคู่
"คุณนาบีครับ ท่านประธานให้มาตามไปพบครับ"
"ตอนนี้เลยหรอ นายนี่ช่างมาไม่ถูกเวลาจริงๆ"
นาบีนึกโกรธพนักงานชายในโรงแรมคนนี้้ซะเหลือเกิน
"เธอรีบเข้าไปเถอะ ส่วนฉันจะตามไปทีหลัง"
จุนกอลบอก
"แต่เรื่องที่เราคุยกันค้างไว้ตะกี้..จุ๊บ"
นาบีกระโดดจุ๊บจุนกอลชนิดที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว
"ไว้เรามาคุยกันต่อนะจุนกอล"
นาบีก้าวฉับๆ ตามพนักงานคนนั้นไป
...ไม่นานจุนกอลก็กลับเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง
และก็เป็นช่วงที่พิธีกรกำลังประกาศหา ซน นาบี พอดี
จุนกอลชะงักเมื่อได้ยินชื่อนี้...
"จุนกอลนายมาก็ดีแล้ว นายเห็นนาบีรึเปล่า"
ดาบินถาม
"ก็เห็นนะ แต่เธอน่าจะอยู่ในนี้แล้วนี่นา
ก็ตะกี้มีพนักงานของโรงแรมบอกว่าท่านประธาน
ให้มาตาม ก็น่าจะสัก 10 นาทีก่อนหน้านี้"
"หายไปไหนของเขานะนะ นี่ฉันโทรตามจนมือหงิกแล้ว
เธอก็ไม่รับสักที"
นาอึนก็ร้อนใจไม่แพ้กัน
"งั้นฉันจะไปบอกให้คนอื่นๆ ช่วยกันตามหา"
นาอึนว่า
"งั้นฉันไปกับเธอเอง ส่วนนายดาบิน จุนกอล
แล้วก็จุนฮาแยกย้ายกันหา แล้วกลับมาเจอกันที่ล๊อบบี้โรงแรมตกลงมั้ย"
แทอึนออกความเห็น
แต่ดูเหมือนว่าจุนกอลจะออกไปโดยที่ไม่ได้ฟังอะไรเลย
"ปล่อยเขาไป ส่วนคนอื่นๆ ทำตามที่ฉันว่า"
แทอึนบอกกับคนอื่นๆ
...นาอึนรีบเดินมาบอกแทยังที่อยู่ข้างเวทีกับจินจู
"ว่าไงนะพี่ นาบีหายไปหรอ"
"ใช่ค่ะ พี่แทยัง แต่ตอนนี้เราจะให้คุณปู่รู้ไม่ได้ว่าน้องหายไป"
"เข้าใจล่ะ เรื่องคุณปู่ พี่จะจัดการเอง"
"ที่เหลือฉัน กับแทอึนแล้วก็คนอื่นๆ จะจัดการเอง"
"ฝากด้วยนะ"
"ค่ะ"
...ดูเหมือนว่าแทยังจะประเมินกีอุน ลุงของเขาต่ำไป
เขาหันไปสั่งตำรวจนอกเครื่องแบบ
และทีมบอร์ดี้การ์ดชั้นเยี่ยม
ให้ระดมกำลังตามหานาบีทั่วทั้งเกาะเซจู
"ไม่ว่ายังไงน้องสาวของฉันจะต้องปลอดภัย
จับคนร้ายมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย"
แทยังดูแววตาดุดันขึ้นจนน่าตกใจ
...และงานเลี้ยงก็เป็นอันต้องจบลง
ก่อนที่ทุกคนจะทะยอยขึ้นห้องพักไป
++++
นาบีถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้
ก่อนที่จะถูกดึงเอาผ้าคลุมหน้าออก
เธอมองไปรอบๆ มันเหมือนกับโกดังร้างสักที่
ที่น่าจะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
ชายฉกรรจ์ 3 คน เดินเข้ามาพร้อมกับชายอีก 1 คน
ที่เธอคุ้นหน้ามาทั้งชีวิต
"คุณลุงช่วยหนูด้วย คนพวกนี้จับหนูมา"
"ช่วยหรอ ฝันไปเถอะ ฉันวางแผนแทบตาย
กว่าจะจับแกมาได้"
"คุณลุงต้องการอะไร ทำไมคุณลุงพูดแบบนี้ค่ะ"
"ก็ปู่ของแกน่ะสิ เขาไม่เคยรักฉันเลย
เขารักแต่ไอ้แทมิน ไอ้คนอ่อนแอคนนั้น
ถ้าไม่มีมันเกิดมาบนโลกนี้ ปู่กับย่าของแก
รวมถึงชินเอก็จะรักฉัน ซน กีอุนคนนี้
ฉันจะได้เป็นเจ้าของ Star Ent.
เพียงคนเดียว ฮ่าๆ"
"ที่คุณลุงต้องเป็นแบบนี้ ก็เพราะความเห็นแก่ตัวและละโมภของคุณลุงเองทั้งนั้น
ถ้าคุณลุงเป็นคนที่ไว้ใจได้คุณปู่คงไม่ต้องให้พี่แทยังมาบริหารบริษัทหรอกค่ะ"
เปรี๊ยะ!
กีอุนโมโหตบหน้านาบีฉาดใหญ่
จนมีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก
และมีรอยแดงเป็นรูปนิ้วทั้ง5นิ้วอยู่บนหน้า
เธอแสบไปทั้งหน้าและแผลที่มุมปาก
ดูเหมือนว่าการยั่วโมโหคนๆ นี้
จะไม่ปลอดภัยซะแล้ว
นาบีเลยทำทีเป็นขอร้องดูบ้าง
"คุณลุงปล่อยหนูไปเถอะนะคะ
ถ้าคุณลุงบริหารบริษัทจริงๆ
หนูจะช่วยพูดกับคุณปู่แล้วก็พี่แทยังให้"
นาบีทำใจสู้ ทั้งๆ ที่กลัวเต็มที
ซน กีอุนในตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
หน้าตาเขาทั้งแดงก่ำ แววตาดุดัน
และคำพูดที่หยาบคาย ดูไม่เหมือนคุณลุงกีอุน
ที่ใจดี ที่เธอรู้จัก
"เธอเคยเห็นฉันเป็นลุงด้วยหรอนาบี
เหอะๆ ตอนนี้ไอ้แก่นั่นคงแทบจะเป็นบ้า
ในเมื่อตอนนี้ฉันก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เพราะงั้นเธอคงทำเงินให้ฉันได้เยอะทีเดียว
ฮ่าๆ"
ซน กีอุน หัวเราะสะใจ
"เฝ้ามันไว้ให้ดี เดี๋ยวฉันติดต่อกับพี่ชายของมันดู"
"ครับ เจ้านาย"
ชายที่สวมชุดพนักงานโรงแรมพูด
ก่อนจะหันไปยิ้มแบบหื่นๆ ให้นาบี
แต่โชคดีที่เขาตามลุงของเธออกไปด้วย
"เห้ออออ"
นาบีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนไว้ที่ช่องลับ
ตรงกางเกงซับในที่เธอทำขึ้น
เธอนึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาทันที
ก่อนจะรีบโทรหาจุนกอลทันที...
อีกอึดใจเดียวจุนกอลก็ตามมาพบนาบี
ที่อยู่ในโกดังร้าง..จากสถานที่ที่เธออัพเดต
บนFacebook
นี่ถ้าไม่ใช่สถานการณ์คับขัน เธอคงจะถ่ายรูป
ของเธอพร้อมๆ ไปด้วย
"จุนกอล นายจริงๆ ด้วย"
"เบาๆ สิ เดี๋ยวพวกมันก็แห่มาหรอก"
จุนกอลรีบแกะเชือกให้เธอ
ก่อนจะรีบพาเธอหนีออกไปจากที่นี่
++25++
จุนกอลกอดนาบีไว้เพราะรู้ว่าเธอกำลังเสียขวัญ
ก่อนจะพาเธอออกจากโกดังนี่
พวกเขามุ่งหน้าเดินเข้าป่าไป...
นาบีรีบดึงเข็มกลัดออก เพื่อปลดชายกระโปรงที่ยาวจนถึงพื้นทิ้งไป
เพื่อให้วิ่งหนีหรือต่อสู้ได้ถนัดๆ รองเท้าส้นสูงก็ถูกหักส้นทั้งสองออก
แม้จะเสียดายรองเท้าคู่โปรดไม่น้อย แต่การรักษาชีวิตไว้
น่าจะดีกว่า..ในสถานการณ์เช่นนี้
นาบีเตะลูกน้องของกีอุน จนนอนร้องครวญครางไปสองคน
ส่วนจุนกอลก็กำลังสู้กับหัวหน้าพวกมันอยู่
"เฮ๊ย เตะสูงขนาดนั้นเลยหรอเธอยอดมากซน นาบี"
"ฉันเคยเรียนคาราเต้ตอนเป็นเด็กน่ะ
แถมมีไอดอลอยู่ในการ์ตูน
แต่ตอนนี้เรารีบหนีกันก่อนเถอะ
ก่อนที่คุณลุงจะพาพวกกลับมาจัดการกับเรา"
จุนกอลพานาบีหนีเข้าป่าไป...
ไม่นานคนร้าย 3 คน ก็ตามมา
ปัง!
"โอ๊ย"
"จุนกอล ฮัน จุนกอล"
จุนกอลโดนยิงที่ไหล่ซ้าย
นาบีโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
เตะคนร้ายที่ยิงจุนกอลจนสะบักสะบอม
ก่อนจะแย่งปืนมาได้
นี่แหละหนาที่ว่า..ยามคนเราโกรธสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ
"หนีไปซะ ไม่งั้นฉันจะยิงพวกแกทั้งสามคนเลย"
คนร้ายวิ่งหนีแทบไม่คิดชีวิต
เมื่อนาบียิงปืนขึ้นฟ้า สามนัด
เธอฉีกแขนเสื้อของจุนกอลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเขา
เลือดของเขาเริ่มหยุดไหล
"เธอหนีไปเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นก็ไปตามพรรคพวกของมันมาอีก"
"ถ้าจะหนีก็ต้องหนีด้วยกัน
นายคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังรึไง"
นาบีประคองชายหนุ่ม หน้าของเขาเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
"งั้นก็หาที่หลบจนกว่าจะมีคนมาช่วยแล้วกันนะ"
นาบีเริ่มเป็นที่พึ่งให้จุนกอลบ้าง
แม้จะตัวเล็กกว่าเขามาก
แต่เธอก็ใช้พลังงานทุกอณูในร่างกายออกมา
เพื่อปกป้องเขาบ้าง
ในบริเวณนี้เป็นป่ารกและชื้น
เธอกลัวยิ่งเดินจะยิ่งหลงเข้าไปในป่าขึ้นไปอีก
และจุนกอลคงจะไหว เธอประคองเขาให้นอนพิงต้นไม้
ก่อนจะออกไปสำรวจบริเวณใกล้ๆ
โชคดีที่มีศาลาเล็กๆ ที่พอจะใช้พักนอนได้
นาบีรีบพาจุนกอลที่เริ่มจะมีไข้ เข้ามาหลบในศาลา
เธอเดาว่าที่นี่น่าจะเป็นอุทยานสักที่บนเกาะนี้
"อย่าเป็นอะไรไปนะ ฮัน จุนกอล ฉันขอสั่งนาย"
"หนาว หนาวจัง"
เขาเริ่มเพ้อเพราะพิษไข้ และก็ร้องเรียกชื่อตลอด...
นาบีรีบกอดชายหนุ่มไว้ เพื่อมอบไออุ่นจากตัวเธอให้เขา
เธอกอดเขาไว้ทั้งคืน จนกระทั่งเช้า
รอยฟกช้ำตามร่างกายของเธอดูจะชัดขึ้นมาก
แต่เธอกลับเป็นห่วงเขามากกว่าแผลพวกนั้น
...นาบีจูบชายหนุ่มทั้งน้ำตา
ชายหนุ่มก็จูบเธอตอบอย่างอ่อนแรง
นั่นคือการตอบสนองที่ดี..ว่าเขายังมีสติอยู่
ไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่อุทยานมาเจอพวกเขา
พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบและบอร์ดี้การ์ด
ที่เป็นคนของแทยัง
และพวกเขาก็รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
...
เป็นอีกครั้งที่ฮัน จุนกอล ต้องเจ็บตัว(ด้วยความเต็มใจ)
เพราะต้นเหตุมาจากนาบี
เธอร้องไห้ฟูมฟามจนตาบวมปูด
แม้คนอื่นๆ จะบอกว่าจุนกอลจะต้องปลอดภัย
นาบีร้องไห้จนหมดสติไป ดีที่แทยังมารับตัวของเธอไว้ได้ทัน
เธอถูกพาตัวมาพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ
ซน แทยอง นั่งอยู่ข้างเตียงของหลานสาวคนเล็ก
"ปู่ขอโทษที่ทำเรื่องวุ่นวายให้นาบี"
นาอึนมองสภาพของน้องสาวก็นึกสงสาร
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้...ทำไมเธอถึงโชคร้ายนัก
"คุณลุงไม่น่าทำกับเราแบบนี้ ทั้งที่คุณปู่"
"ความผิดปู่เองที่ละเลยเจ้ากีอุน
ถ้าเขาเลือกเดินทางที่ถูกต้อง ไม่อิจฉา
ในวันนี้ปู่คงมอบตำแหน่งให้เขาอย่างเต็มใจ
แต่ปู่ก็ดีใจที่เลือกคนไม่ผิด
แทยัง หลานกับน้องๆ คือลมหายใจของปู่
Star Ent.ก็คือชีวิต ถ้าปู่ไม่มีสองสิ่งนี้เหนี่ยวรั้ง
ปู่คงตรอมใจตั้งแต่รู้ข่าวอุบัติเหตุของคุณย่า แล้วก็พ่อแม่ของหลาน"
"คุณปู่คะ"
"ปู่ครับ"
นาอึนและแทยังนั่งคุกเข่ากับพื้น
และกอดชายแก่แน่น
ความรู้สึกอบอุ่นที่คนทั้งสามมีให้กัน
ถูกถ่ายทอดออกมาจากอ้อมกอดนี้
แทยองจูบที่ศีรษะของหลานทั้งสอง
ก่อนจะหันไปมองคนร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง
นาบีนอนหลับไปหลายชั่วโมง
เพราะความอ่อนเพลีย
++
แทยังและนาอึนมาเยี่ยมจุนกอลในห้องพัก
โดยในห้องมีจินจู แทอึน ดาบิน จุนฮา และซึงจุนพี่ชายของจุนกอลเฝ้าอยู่ก่อน
"ฉันต้องขอบคุณเธอมากที่ช่วยชีวิตน้องสาวของฉันไว้
ถ้าไม่มีนายนาบีคง"
จุนกอลทำหน้างงๆ
ก่อนจะเริ่มคิดตาม
ถ้านาบีเป็นน้องสาวของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง
และสมาร์ทคนนี้ ก็เท่ากับว่าเธอคือเจ้านายของเขานั่นเอง
"ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่
อีกอย่างคุณก็ไม่ต้องรู้สึกขอบคุณอะไรผมมาก
เพราะผมเองก็ต้องขอบคุณ..นาบี เอ่อคุณนาบีเหมือนกันครับ"
นาอึนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
"ฉันจะตอบแทนนายอย่างดีที่สุด
อะไรที่นายต้องการ แค่นายบอกมาคำเดียว"
"อย่าดีกว่าครับ ผมขอแค่ได้พักจนกว่าแผลจะหายดี
แล้วกลับไปทำงานตามตารางงานเดิมก็พอครับ
ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ
ผมอยากจะพัก เชิญทุกคนกลับไปได้
รวมทั้งพวกนายด้วยนะ"
จุนกอลหันไปบอกดาบิน แทอึน และจุนฮา
...เมื่อเทียบกันกับแทอึน ที่มีพ่อเป็นอัยการชื่อดังที่ปูซาน
และมีแม่เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา
กับเขาที่เป็นลูกของนักแต่งเพลงขี้เมาก็เทียบกันไม่ติดฝุ่น
และยิ่งดูห่างไกลกับหลานสาวของอดีตประธานซน แทยองอยู่มาก
จุนกอลเลยเลือกที่จะเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจนี้ไว้คนเดียว
...26...
เมื่อคนอื่นๆ กลับไปแล้ว นาบีก็แอบไปเยี่ยมจุนกอล
น่าแปลกที่เขาดูไม่ดีใจเลยที่เจอเธอ
ทั้งที่เมื่อคืนทั้งคู่ต่างก็ผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาด้วยกัน
"นายเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย"
นาบีนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง
"ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ผมไม่เป็นอะไรมาก
เชิญคุณกลับไปได้ ผมอยากพักผ่อน"
"อะไร ทำไม ทำไมนายเป็นแบบนี้ล่ะ
นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหมฮัน จุนกอล"
"ผมไม่กล้าล้อเล่นกับน้องสาวของท่านประธานหรอกครับ"
จุนกอลหันหน้าหนีไปอีกด้านหนึ่ง
"เข้าใจแล้ว ที่นายทำเป็นเย็นชาแบบนี้
เพราะฉันเป็นน้องสาวของพี่แทยังใช่ไหม
แต่มันคือความจริงที่ฉันปฏิเสธไม่ได้
และนี่ก็คือเรื่องที่ฉันอยากจะบอกกับนาย
เมื่อคืน แต่ระหว่างเราเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอฮัน จุนกอล"
"อืม ผมเข้าใจ เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว
แต่ผมคงอยู่กับคนโกหกไม่ได้ คุณออกไปเถอะครับ
ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วว่าผมจะพักผ่อน
เรื่องระหว่างเรา คุณก็ลืมๆ มันไปเถอะ
ผมจะถือว่ามันเป็นฝันร้าย"
"อะไรนะ ฝันร้ายอย่างงั้นหรอ"
จุนกอลไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับความเสียใจในครั้งนี้
เขาเลยรู้สึกเสียใจและสับสน..ที่นาบีไม่ยอมบอกว่าเธอเป็นใครกันแน่
การที่ได้รู้จากปากของคนอื่นจึงทำให้เขาเสียใจมาก
ความรู้สึกสับสนวุ่นวายต่างๆนาๆ ประดังประเดเข้ามา
แม้ดาบิน แทอึน นาอึน รวมถึงจุนฮา
จะช่วยพูดให้เข้าใจก็ตาม
เหตุการณ์นี้ทำให้เขานึกถึงผู้หญิงอีกคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
ที่โกหกและทิ้งเขากับพี่ชายไปมีครอบครัวใหม่
และไม่เคยเหลียวหลังมามองเขากับพี่ชายอีกเลย
..นาบีเดินร้องไห้เสียใจออกไปจากห้องของจุนกอล
เหตุการณ์เมื่อตะกี้มันอะไรกัน..
... ทางบริษัทได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการป่วยของจุนกอล
โดยเขาขอร้องให้บริษัทให้บอกกับบรรดาสื่อมวลชนทุกสำนัก
แต่เพียงว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากการซ้อมเท่านั้น
..ส่วนเรื่องคดีความ ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 3 คนไว้ได้ทันควัน
ส่วนซน กีอุน กำลังถูกตำรวจน้ำตามล่า
เพราะเขาหนีขึ้นเรือเพื่อไปขึ้นที่ท่าเรือของประเทศญี่ปุ่น
และคาดว่าน่าจะจับตัวได้ในเร็ววัน
...หลังจากนั้นจุนกอลก็คอยหลบหน้านาบี
และตลอด 2 เดือนมานี้ นาบีจึงหันมาทุ่มเทกับ
วิทยานิพนธ์ของเธอจนเสร็จ และเรียนจบเป็นที่เรียบร้อย
แม้ภายนอกจะดูไม่มีอะไร
แต่ในใจเธอเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว
"ก็ลองดูว่านายจะใจแข็งได้ถึงเมื่อไหร่
คนอย่างซน นาบี ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก"
นาบีแวะเวียนไปดูจุนกอลและหนุ่มๆ Zenith ซ้อมใหญ่
เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทัวร์คอนเสิร์ต
พวกเขาตั้งใจและทุ่มเทกับการซ้อมมาก
ผู้จัดการคนใหม่ ชเว คังโฮ ก็จัดแจงรายละเอียดต่างๆ
ได้อย่างมืออาชีพสมกับที่พี่ชายของเธอไว้วางใจ
ระหว่างที่จุนกอลกำลังร้องเพลง 'Tear'
นาบีก็แทบจะร้องไห้ เพราะเนื้อเพลงที่มัน
ตอกย้ำ(ซ้ำเติม)ความรู้สึกของตัวเธอ
และยิ่งมันคือเพลง solo ของเขา
ทันทีที่เขาหันมา เธอก็วาดรูปผีเสื้อ
แล้วรูปหัวใจ...ตรงกระจกด้านนอก
ก่อนจะเดินคอตกออกไป..
เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาคู่นั้น
เขาดูน่ากลัวซะยิ่งกว่าแทอึนอีกสิบเท่า
"ไม่เป็นไรจุนฮา ถึงวันนี้เขาจะไม่อยากคุยกับฉัน
แต่วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป ฉันจะมาอีก
วันนี้นายทำได้ดีมากเลยนะ
ฉันจะรอดูคอนเสิร์ตของพวกนายนะ"
"นูน่า"
นาบีเดินจากไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
จุนฮาสงสารนูน่าของเขาจับใจ
...ด้วยเหตุนี้จึงเกิดปฏิบัติการ(รัก)ลับเฉพาะกิจ
โดยมีซน แทยังเป็นหัวหน้าทีม
การประชุมเกิดขึ้นที่ห้องทำงานของประธานหนุ่ม
นาอึนกับแทอึนช่วยกันวางแผนอย่างดิบดี
ก่อนจะเริ่มดำเนินการตามแผนทีละขั้น
จุนฮาที่ดูตื่นเต้นมาก ดาบินก็ช่วยเสนอความคิดเห็น
ในฐานะเพื่อนของนาบี
"ขอให้สำเร็จทีเถอะค่ะ เพราะนาบีฉันกับพี่
ถึงได้สมหวัง"
จินจูบอกกับแทยัง
........
ณ เพนเฮาส์ของหนุ่มๆ Zenith
วันนี้เป็นวันว่างของพวกเขา
ผู้จัดการชเว คังโฮ จึงอนุญาตให้พวกเขา
พักผ่อนได้ตามสบาย
หลังจากที่มีตารางงานที่ยุ่งมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
จุนกอลที่เพิ่งลุกออกจากที่นอนได้
ก็ออกมาหาอะไรกินในครัว
ดาบินยืนขวางจุนกอลเอาไว้
"ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมจุนกอล"
"ถ้าเป็นเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อซน นาบี ฉันไม่คุย"
"นี่นายจะไม่มากเกินไปหน่อยหรอฮัน จุนกอล"
"ฉันทำอะไรเกินไปตรงไหนไม่ทราบคุณลีดเดอร์"
ดาบินเริ่มโมโห เขากระชากคอเสื้อของจุนกอล
แต่หนุ่มมาดกวนกลับมองหน้าเขานิ่ง
อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
"ต่อยฉันเลยสิ หรืออยากทำอะไรก็เชิญ"
"ก็ได้ๆ นายจะให้จบแบบนี้ก็ได้
ถ้าฉันเกิดรักนาบีขึ้นมาจริงๆ
ฉันไม่ปล่อยเธอคืนให้นายแน่
แล้วนายจะต้องเสียใจฮัน จุนกอล"
ลีดเดอร์หน้าหวาน กลายร่างเป็นชายหนุ่มที่โกรธจัด
ซึ่งขัดกับบุคลิกของคนยิ้มง่าย..ที่สุด
"ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ฉันก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกัน"
จุนกอลเดินชนดาบิน ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
โชคดีที่สองหนุ่มไม่มีการวางมวยกันเกิดขึ้น
...
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่อากาศสดใส
นาบีตัดสินใจที่จะไม่ไปที่บริษัท
เธอเลือกที่ไปขับรถเล่นนอกเมืองคนเดียว
พอรู้ตัวอีกทีเธอก็ถึงเกาะเซจูในช่วงสาย
เธอจอดรถทิ้งไว้ ก่อนจะเดินเล่นบนหาดทรายขาวสะอาดตา
เมื่อเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับผืนทราย
เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
เธอใช้เศษกิ่งไม้ขีดเขียนบนพื้นทราย
ราวกับว่าเป็นผืนผ้าใบหรือเศษกระดาษ
ให้เธอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
"ฮัน จุนกอล ไอ้คนบ้า"
นาบีตะโกนสุดเสียง
ลมเย็นพัดโชยมาประทะที่หน้าของเธอ
ราวกับว่าช่วยปลอบประโลม
นาบีเดินเที่ยวเล่นตามสถานที่ที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ที่น่าสนใจบนเกาะเซจู
ตอนนี้เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่กับตุ๊กตาหมี
หลากหลายสไตล์ที่พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์
ตุ๊กตาหมีสีแดง โบว์สีขาวจึงเป็นเพื่อนร่วมเดินทางตัวใหม่
ของเธอ นาบีเลือกชุดที่เป็นชุดเลียนแบบ
หนุ่มๆ Zenith
"ถ้านายยิ้มให้ฉันเหมือนกับเจ้าหมีนี่
ฉันคงมีความสุขมาก"
เธอพึมพำกับตัวเอง
ก่อนจะไปนั่งชิลๆ ชิมเค้กชาเขียวและดื่มกาแฟ
ที่ค่าเฟ่ดีไซน์สุดชิคที่ O'sulloc Museum อย่างสบายอารมณ์
ระหว่างที่นาบีกำลังจะข้ามถนนเพื่อไปเอารถ
ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเค้กคาเฟ่ แอนด์ คอฟฟี่ช็อป
เธอเห็นเจ้าตูบพันธุ์ปั๊กตัวอ้วนกำลังเดินบนถนนอยาางเชื่องช้า
ในจังหวะนั้นเองที่มีรถบรรทุกสินค้าขับผ่านมาพอดี
เอี๊ยดดดดดด
คนขับรถบรรทุกเบรกจนตัวโก่ง
นาบีถอนหายใจโล่งที่ช่วยชีวิตเจ้าตูบได้ทันเวลา
ก่อนที่เจ้าของสุนัขสองสามีภรรยาจะช่วยพาเธอส่งโรงพยาบาล
...
นาบีดีใจที่แพทย์เวรในวันนี้คืิอคิม จูวอน
เพื่อนพี่ชายของเธอที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
พอโตขึ้น...ด้วยหน้าที่การงานก็ทำให้เจอกันยากขึ้น
"เรานี่ยังซนเหมือนเดิมเลยนะนาบี
ดีนะที่ไม่มีแผลเป็น ไม่งั้นโตมาเสียโฉมแย่
แล้ววันนี้ยังจะเสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าตูบตัวนั้น
จนแขนหักอีก เธอนี่มันสาวน้อยมหัศจรรย์จริงๆ"
"พี่จูวอนก็ ฉันไม่ได้ซนสักหน่อย
น้องหมาตัวนั้นกำลังจะโดนรถชนนะคะ
ถ้าปล่อยให้มันตายไป ฉันคงรู้สึกเสียใจมาก"
"เจ้าของหมาตัวนั้นเขารอพบเธอด้วยนะ
เดี๋ยวใส่เฝือกเสร็จพี่จะพาเธออกไปเอง"
"ขอบคุณนะคะพี่จูวอน"
"จ้า"
จูวอนมองนาบีอย่างเอ็นดู
เธอยังคงน่ารัก สดใส เหมือนในวัยเด็ก
พลอยทำให้เขาคิดไปถึงพี่ชายของเธอ
ที่เป็นเพื่ิอนสุดซี้สมัยมัธยมของเขา
...27...
เจ้าของสุนัขจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นาบี
ก่อนจะมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นสินน้ำใจ
แต่เธอปฏิเสธ เจ้าของสุนัขสามีภรรยา
เลยชวนเธอกับจูวอนไปทานข้าวเย็นที่บ้าน
เพื่อเป็นการตอบแทน นาบีไม่อยากปฏิเสธน้ำใจนี้
เธอให้ จูวอนช่วยโทรไปบอกที่บ้านเพื่อขออนุญาต
และบังเอิญเธอดันมาทำโทรศัพท์หายด้วย
ป่านนี้คงเป็นห่วงกันไปหมด
จูวอนอาสาขับรถพาเธอไปส่งบ้านตามที่ได้บอกกับคุณปู่ของเธอ
และถือโอกาสนี้ลางานด้วยเลย
...ระหว่างเดินทางกลับโซลในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ
"น่าอิจฉาคุณลุงคุณป้าคู่นั้นนะคะ
ที่รักกันมากและอยู่ด้วยกันมาตลอดหลายปี
ทั้งที่พวกเขาไม่มีลูก แต่พวกเขาก็รักเจ้าแรมโบ้มากๆ
ถ้าฉันไม่ช่วยมัน ฉันคงรู้สึกผิดต่อพวกเขา"
จูวอนเริ่มเห็นความเศร้าในตัวสาวน้อย
ที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างคนขับ
"นั่นสิ พี่เองก็แอบอิจฉา
พี่น่ะเริ่มทำงานตั้งแต่เรียนจบ
พอรู้ตัวอีกทีก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่เกิน
ที่จะไปสนใจผู้หญิงที่ไหน
จนที่บ้านเริ่มเป็นห่วง และจัดการเรื่องนัดบอร์ดให้
น่าตลกดีเนอะ"
"..."
"ทำไมเงียบไป รึพี่พูดอะไรผิดไป"
"เปล่าค่ะ ฉันแค่ แค่ไม่รู้จะบอกกับที่บ้านยังไง
เรื่องที่แขนหัก"
นาบีแกล้งเฉไฉไปเรื่องอื่น
"อื้ม เดี๋ยวพี่จะเรียนคุณปู่ให้เอง
ส่วนไอ้เจ้าแทยังคงไม่น่ามีปัญหา"
"ขอบคุณนะคะ"
นาบีเปิดเพลงไปเจอรายการวิทยุ
ช่องหนึ่งที่กำลังเปิดเพลง
tear ที่ร้องโดยจุนกอล Zenith
เธอเผลอร้องไห้ออกมาจนจูวอนตกใจ
"นาบีเป็นอะไรน่ะ รึว่าเจ็บที่แผล"
"เจ็บค่ะ เจ็บมากด้วย
เจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว"
"กินยาแก้ปวดดีไหม เดี๋ยวพี่แวะซื้อน้ำ
ที่ร้่านสะดวกซื้อข้างหน้าให้ละกัน"
"ค่ะ"
นาบีตอบสั้นๆ และเธอเริ่มรู้ตัวว่าทำให้จูวอนเริ่มเป็นห่วง
เมื่อมาถึงที่บ้านทุกคนในบ้านก็เป็นห่วงนาบีเป็นการใหญ่
ยิ่งเธอทำโทรศัพท์หายแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่ ทุกคนจะยิ่งเป็นห่วง
"นาบี เป็นห่วงแทบแย่ นี่อะไรเนี่ย
ทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกแล้วใช่ไหม"
"เล็กน้อยน่านาอึน อีกอย่างได้ชีวิตเจ้าตูบตัวอ้วนไว้
ดีจะตายไป"
"พี่แทบไม่เป็นอันทำงานเลยรู้มั้ย"
"ขอโทษนะคะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว
ขอตัวก่อนนะคะ เขิญคุยกันตามสบาย"
นาบีแยกจากพี่ชายและพี่สาว
ก่อนจะหันไปขอบคุณจูวอนที่ช่วยขับรถมาส่ง
"เดี๋ยวฉันไปดูยัยนั่นให้เองไป
เชิญสองหนุ่มคุยกันตามสบายนะคะ"
นาอึนพูดก่อนจะรีบเดินตามนาบีไป
...28...
จูวอนเมื่อเจอแทยังก็ดีใจมาก
เพราะคราวที่แทยังชวนมางานเลี้ยงของบริษัท
เขาจำต้องปฏิเสธเพราะมีเคสผ่าตัดใหญ่
ถึง 3 ราย
"ไงไอ้เสือ หายไปเลยนะ"
"ก็ทำงานทุกวันนี่หว่า จะมีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระที่ไหนกัน
แม้แต่เวลาที่ใช้หาว่าที่ภรรยาก็ยิ่งยาก"
จูวอนออกตัว
"น่าสงสารจังเลยนะครับคุณหมอคิม จูวอน"
"หาให้สักคนสิ"
"ไอ้บ้า ของแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหนกันล่ะ
แต่นายมาก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องให้ช่วยพอดี"
แทยังเริ่มเล่าแผนการให้จูวอยฟังคร่าวๆ
"น่าสนุกดีนี่ หวังว่าการหยุดใน 3 วันนี้
จะพอช่วยน้องสาวของนายได้"
"ขอบใจนายจริงๆ เพื่อน"
แทยังกอดคอจูวอนอย่างสนิทสนม
"ด้วยความเต็มใจคร้าบท่านประธาน"
...
แทยังทำทีชวนจูวอนให้มาเยี่ยมชมบริษัทของเขา
นาอึนเห็นดีเห็นงามด้วย
"วง Yawl ของพวกเราจะได้ไปรื้อฟื้นความหลังยังไงล่ะ"
"กลัวว่าจะเข้าหม้อจริงๆ น่ะสิ"
"อะไรกันพูดแบบนี้ไม่สมกับเป็นคิม จูวอน
กีตาร์เทพในตำนานเลยนะนายน่ะ"
"งั้นมาดวลกันสักหน่อยดีกว่ามั้ง"
"จัดไปครับไอ้คุณหมอ"
แทยังให้นาบีช่วยเป็นไกด์พาจูวอนทัวร์ที่บริษัท
ในขณะที่จูวอนก็ช่วยดูแลนาบี...ที่เป็นคนไข้ของเขาอย่างดี
"ชั้นต่อไป ชั้น 23 เขากำลังซ้อมใหญ่สำหรับคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้
ก่อนจะย้ายไปซ้อมที่ Seoul nation stadiumค่ะ
พี่จูวอนอยากไปดูมั้ยคะ"
"ครับ อยากดูมากๆ ช่วยพาพี่ไปทีนะนาบี"
เมื่อเห็นหน้าจุนกอลชัดๆ จูวอนก็ปฏิเสธไม้ได้เลยว่า
ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าที่เป็นสัดส่วนทองคำจริงๆ
"รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันมา
จะไปพบดาบินสักหน่อย พี่จูวอนจำดาบิน
เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักๆ คนนั้นได้ใช่ไหมค่ะ
เขานี่แหละลีดเดอร์ของ Zenith"
"อ๋อ อืม ชักจะคุ้นๆ แล้วล่ะ"
นาบีเขามาพบดาบินในห้องซ้อมเต้น
เขาเห็นเฝือกอ่อนที่คล้องอยู่ที่มือข้างหนึ่ง
ของเพื่อนสาวก็อดแปลกใจไม่ได้
"หายไปหนึ่งวันก็ได้เรื่องเชียวนะ
แล้วนี่ไปโดนอะไรมาล่ะ"
"ช่วยน้องหมาที่จะโดนรถชน
เพื่อนนายเจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ"
"ยัยเพี้ยน ห่วงตัวเองสักทีเถอะ"
"วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะมาเจอพวกนายที่นี่
ต่อจากนี้ฉันจะไม่มาวุ่นวายอีกแล้ว
การแสดงพรุ่งนี้ ทำมันให้เต็มที่นะ
ฉันจะมองพวกนาย Zenith
ในฐานะZippie และเพื่อนของนาย"
ดาบินดึงนาบีเข้ามากอดเพื่อปลอบ
"เธอกลายเป็นยัยขี้แยไปตั้งแต่เมื่อไหร่
หยุดร้องซะ ไม่มีใครบอกรึไง
ว่าตอนเธอร้องไห้ โคตรน่าเกลียดเลย"
"ไอ้คนปากเสีย ชเว ดาบิน"
ดาบินยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นาบี
เธอรีบใช้มันเช็ดน้ำตาของตัวเอง
"ฝากบอกแทอึนกับจุนฮาด้วยนะ
ว่าฉันรอดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาอยู่
ฉันไปนะพี่จูวอนรอฉันอยู่"
พอนาบีเปิดประตูออกมาก็เจอจุนกอล
ในระยะประชิดพอดี
เขามองไปที่เธอแขนของเธออย่างสงสัย
ก่อนจะเดินหนีไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนจะแกล้งไปควงแขนกับปาร์ค ยูริ
แดนเซอร์สาวที่มีท่าทีว่าสนใจเขาอยู่
นาบีหันไปมองเล็กน้อย เมื่อทั้งคู่เดินออกไป
เธอเดินอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ก็แกล้งยิ้มสดใสให้จูวอน
ก่อนที่เขาประคองเธอออกจากชั้น 23 ไป
และตรงดิ่งกลับบ้านทันที
รถสปอร์ตเบนซ์สีดำที่มีนาบีและจูวอนนั่งออกไปด้วยกัน
ได้ขับหายไปจากตึกBottle building
จุนกอลที่แอบมองพวกเขาอยู่ที่มุมไกลๆ
รู้สึกปวดร้าวไปทั้งหัวใจ
เขาอยากปัดมือคู่นั้นของจูวอนออกเหลือเกิน
"ฉันคิดถึงนายจังจุนกอล
ฉันคิดถึงฮัน จุนกอลจอมทะเล้นคนนั้น
ฉันคิดถึงรอยยิ้มของนาย
ฉัน..."
นาบีพึมพำอยู่คนเดียวในรถ
ก่อนจะเผลอหลับไป
...จูวอนรีบโทรรายงานให้แทยังทราบความเคลื่อนไหว
ก่อนจะให้ยาลดไข้และยาแก้อักเสบให้กับนาบี
แทยังทุบโต๊ะเสียงดัง เขาเริ่มจะหมดความอดทนกับฮัน จุนกอล
หลังจากที่กำลังซ้อมร้อง และซ้อมเต้นกันอยู่
ในเย็นวันหนึ่งท่านประธานซน แทยังให้คนไปตามนักร้องหนุ่ม
มาหาถึงห้องทำงานส่วนตัว
"นั่งลงก่อนสิ"
"ขอบคุณครับท่านประธาน"
"ฉันจะไม่อ้อมค้อมหรอกนะ
ถ้านายยังเป็นลูกผู้ชายพอ ตอบมาตามตรง
นายรู้สึกยังไงกับน้องสาวฉัน ซน นาบีกันแน่"
"รัก รักครับ รักมากด้วย"
จุนกอลตอบด้วยแววตามุ่งมั่น
"อืม ตอบดีนี่"
"แต่ว่าผมมันก็แค่นักร้องธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ไม่คู่ควรกับน้องสาวของท่านประธาน"
"นายเอาเกณฑ์อะไรมาตัดสิน
นายเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนเสี่ยงชีวิตช่วยนาบี
โดยไม่คิดถึงตัวเอง แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ"
"ผมมีเหตุผลของผม ที่บอกคุณไม่ได้
หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ ขอตัวก่อนนะครับ
ผมต้องซ้อมเพื่อการแสดงพรุ่งนี้"
จุนกอลเดินออกไปอย่างไม่กลัวเกรง
แทยังสักนิด
"ไอ้เด็กบ้า ดูสิจะใจแข็งได้แค่ไหนกัน"
แทยังคิดว่าความเหมาะสมเป็นแค่องค์ประกอบรองๆ
แต่ใจที่ตรงกันของคนสองคนต่างหากที่สำคัญ
เขาไม่เคยคิดเรื่องความแตกต่างอะไรเลย
เพราะเขาเองก็ต้องทุกข์ใจกับเรื่องนี้อยู่นาน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ