ป่วนรักยกกำลังสองของยัยฝาแฝด (Twin soul-mate)

-

เขียนโดย tofu_baby

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.

  2 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,569 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22.35 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) EP 29 - END

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

...29...

"ตอนนี้สมใจนายแล้วล่ะฮัน จุนกอล

ต่อไปนี้นาบีจะไม่มาที่นี่อีก

และอีกไม่นานเธอคงลืมนายได้

นาบีไม่ใช่คนที่อดทนต่อความเจ็บปวดได้เหมือนคนอื่นๆ หรอก

วันนี้นายได้ทำร้ายผู้หญิงที่มองโลกสวยคนหนึ่ง

อย่างร้ายกาจที่สุด ไม่ว่านายจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม

นายควรจะบอกกับเธอ ไม่ใช่นิ่งเงียบอยู่แบบนี้

หึหึ ที่ฉันอยากจะพูดก็มีเท่านี้

เอากลับไปคิดซะ"

"..."

"แต่ไม่ว่ายังไงวันพรุ่งนี้ หวังว่านายคงจะมีความเป็นมืออาชีพพอ

ที่จะไม่ทำให้พวกเรา Zenith คนอื่นๆ ต้องขายหน้า"

ดาบินออกจากห้องไปด้วยความเดือดดาล

เพราะการนิ่งเงียบของจุนกอล

คือการยั่วโมโหที่ร้ายกาจที่สุด

 

"นาบี ฉันรักเธอ ฉันมันคนขี้ขลาด ไม่เอาไหน

ไม่สมควรที่เธอมารัก ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ"

จุนกอลร้องไห้ฟูมฟายคนเดียวในห้องอาบน้ำที่บริษัท

จุนฮา และดาบินบังเอิญผ่านมาได้ยินพอดี

พวกเขารู้สึกสงสารทั้งจุนกอลและนาบีจับใจ

 

...

ทันทีที่จุนฮาและดาบินบอกกับซึงจุน..พี่ชายของจุนกอล

เกี่ยวกับเรื่องของนาบี ซึงจุนที่เพิ่งว่างจากตารางงาน

ก็รีบมาหาน้องชายของเขาทันที

"ไม่เจอกันนานเลยนะไอ้น้องชาย"

"ถึงผมจะยุ่ง แต่คงยุ่งน้อยกว่าฮันรยูสตาร์อย่างพี่

แล้ววันนี้มีอะไรรึเปล่าถึงแวะมาได้

เชิญนั่งก่อนสิฮะ"

ซึงจุนนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก

"ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ฉันมีอะไรบางอย่าง

อยากจะบอกกับนาย ก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินไป"

"พี่พูดอะไรแปลกๆ ไม่สมเป็นพี่เลยนะฮะ"

"นายฟังให้ดีนะ เรื่องแม่ของเราน่ะ

ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายเข้าใจ"

"หมายความว่ายังไง"

"ความจริงคนที่ทำให้ครอบครัวของเรามีปัญหา

คนๆ นั้นก็คือพ่อของเราไม่ใช่แม่

แม่ไม่ได้หนีไปมีครอบครัวใหม่อย่างที่นายเข้าใจ"

"..."

"เพราะแม่รู้ตัวว่าจะอยู่ต่อไปได้ไม่นาน

เขาอยากให้พ่อที่เอาแต่เมาเหล้า ไม่สนใจอะไร

เลี้ยงดูเราในวันที่แม่จากโลกนี้ไป

แม่เลยเลือกที่จะจากไปอย่างเงียบๆ

แม่เลือกที่จะเก็บความเสียใจนี้ไว้คนเดียว

จนกระทั่งแม่ได้จากโลกนี้ไป"

"อะไรนะ"

"การโกหกไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไปหรอกนะจุนกอล

การโกหกเพื่อทำให้คนที่เรารักสบายใจน่านับถือจะตาย

แม่ของเราก็ทำแบบนั้น"

"ถ้าอย่างงั้นที่พ่อบอกกับเราก็คือ เรื่องโกหกหรอครับ"

"แม้ว่าเขาจะผิดแต่เขาก็ยังเป็นพ่อของเราไม่ใช่หรอ

เพราะฉันรู้ว่านายรักและศรัทธาในตัวเขาแค่ไหน

ฉันเลยปกปิดความจริงข้อนี้ไว้ ฉันเลยให้นายเข้าใจไปตามนั้น

แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อเรื่องความรักของนาย"

จุนกอลร้องไห้ออกมาอย่างไม่สามารถอดกั้นได้อีกต่อไป

"แม่ครับ ผมขอโทษ ขอโทษที่เกลียดแม่"

ซึงจุนกิดน้องชายของเขาไว้

"ชีวิตคนเรามันสั้นนะจุนกอล เพราะงั้นอะไรที่ทำให้เราสบายใจ

และไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรม ไม่ทำให้ใครต้องเสียใจก็จงทำสิ่งนั้นเถอะ

ให้อภัยคนรักของนายเถอะ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่เกินการให้อภัยนะ

เหมือนกับที่ฉันให้อภัยพ่อไง"

"พี่ครับ ฮือๆ"

"เลิกร้องได้แล้ว เสียลุคนักร้องหน้าใหม่แห่งปีหมด"

"ครับ"

จุนกอลรีบปาดน้ำตาทันที

เมื่ออยู่กับพี่ชายตามลำพัง

เขาที่ไม่ว่จะตัวโตแค่ไหน

แต่เมื่ออยู่กับพี่ชายเขาก็ยังเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ เสมอ

จุนกอลได้พบความจริงอะไรบางอย่าง

ก่อนจะตัดสินใจเลือกหัวใจของตัวเอง

แทนกำแพงแห่งความเศร้าโศกเสียใจที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

 

+++

 

..และนาบีก็หายหน้าไปอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ

เธอบินไปปารีสเพื่อไปเตรียมโปรเจคยักษ์ใหญ่

ที่ได้รับมอบหมายมา และถือเป็นงานใหญ่ชิ้นแรกในชีวิต

หลังจากที่เรียนจบหมาดๆ

ความจริงแล้วนาบีแค่ถอยมาตั้งหลักเท่านั้น

แต่พอได้แรงยุจากพี่ๆ และเพื่อนๆ เธอก็เดินทางกลับเกาหลีทันที

และถ้าครั้งนี้จุนกอลยังเฉยชากับเธออีก

เธอคงต้องยอมแพ้จริงๆ

แต่เธอแค่อยากรู้เหตุผลจากปากเขาก็เท่านั้น

ไม่ใช่หลบหน้าและไม่ยอมพูดจากันแบบนี้

โดนจิกกัดยังจะรู้สึกดีซะกว่า...

"ฉันจะยอมสู้ดูอีกครั้ง และถ้ามันไม่สำเร็จ

ฉันคงต้องยอมแพ้จริงๆ ขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยฉันนะคะ

แต่ไม่ต้องห่วงนาบี ผีเสื้อน้อยตัวนี้ไม่มีทางทำร้ายตัวเองแน่

ตกลงฉันจะไปประเทศไทยกับทุกๆ คน"

พลพรรคคนรักนาบี ได้แก่ แทยัง จินจู นาอึน

ดาบิน แทอึน ยองแอ ยิ้มพอใจกับคำตอบของเธอ

ก่อนที่ทั้งหมดจะเตรียมตัวเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ต

สุดท้ายของหนุ่มๆ Zenith ก่อนจะเบรกยาว

เพื่อเตรียมตัวทำอัลบั้มที่ 2

ในกลางปี 2013

 

...

การแสดงในคอนเสิร์ตThe Star Family Tour 2013

Live in Bangkok

ในวันนี้เป็นไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ

อลังการ์ทั้งแสง สี เสียง และเวทีขนาดใหญ่

อีกทั้งเหล่าZippie Thailand ก็ออกมาโชว์พลัง

ของพวกเขาอย่างเต็มที่ แท่งไฟรูปหมีขั้วโลก(polar bear)

อันเป็นสัญลักษณ์ของวงพร้อมด้วยแสงไฟสีขาว

สาดส่องทั่วฮอลล์แสดง ลูกโป่งสีขาวที่สกรีน

รูปหมีขั้วโลก 4 ตัว ที่เป็นตัวแทนของเมมเบอร์แต่ละคน

ถูกโบกไปมาในเพลง together ที่เป็นเพลงช้าสไตล์ป๊อบ

อีกทั้งอังกอร์ที่ดังสนั่นก็สร้างความประทับใจให้กับศิลปิน

และเหล่าแฟนคลับของพวกเขา ภาพบรรยากาศแบบนี้

จะถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำของทุกคนที่นี่อย่างไม่รู้ลืม

นาบีมองจุนกอลจากมุมไกลๆ ก่อนจะค่อยๆ ตัดใจและเดินออกจากฮอลล์ไป

ก่อนที่การแสดงจะจบลง

...วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมองเขาได้อย่างเต็มตา

 

 

...หลังเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ต

The Star Family Tour 2013 Live in Bangkok

เหล่าศิลปินในค่ายต่างก็ทะยอยกันกลับเกาหลี

 บ้างก็ถ่ายรายการโทรทัศน์

หรือร่วมกิจกรรมอื่นๆ อีก

โดยหนุ่มๆ วง Zenith ต้องร่วมกิจกรรมแฟนไซน์ต่อ

เนื่องจากเพิ่งได้รับตำแหน่ง

พรีเซนเตอร์คนล่าสุดของผลิตภัณฑ์...

เครื่องดื่มชาเขียวยี่ห้อดังของประเทศไทย

 

ดูเหมือนในวันนี้จุนกอลก็ยังหลบหน้านายีอยู่

แม้ว่าที่ผ่านมานาบีพยายามง้อเขาทุกวิถีทาง...

แต่นักร้องหนุ่มก็ยังมีท่าทางเฉยชา

ดูไม่เหมือนกับฮัน จุนกอลที่เธอรู้จัก

จนครั้งนี้...หญิงสาวเริ่มเป็นฝ่ายล่าถอยออกมาเอง

เพราะเธอทนสายตาที่เย็นชาคู่นี้ไม่ได้อีกต่อไป

จุนกอลเดินแยกออกไปคนเดียว

แทอึนจะตามไป แต่ดาบินห้ามไว้

ในตอนนี้จึงมีแค่ดาบิน แทอึน จุนฮา

นาอึนและนาบีที่อยู่ในห้องแต่งตัว

 

"เสร็จงานนี้แล้วเราคงไม่ได้เจอกันอีกสักพักใหญ่ๆเลยนะ

ฉันคงไม่มีโอกาสได้ทำชุดเท่ๆ ที่เหมาะกับพวกนายอีก

ดาบิน ในฐานะเพื่อนของนาย ฉันอาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีนัก

แต่ฉันก็ดีใจและภูมิใจในตัวนายจริงๆ"

นาบีพูดไปด้วยตบไหล่กว้างของดาบินไปด้วย

และตาของเธอก็เริ่มรื้นด้วยน้ำตา

"อื้ม ฉันก็เหมือนกัน ถ้าฉันไม่ได้ความกล้า บ้าบิ่นจากเธอ

ฉันคงต้องหลบอยู่ในเงาตัวเองอีกนาน นานจนฉันเองคงนึกไม่ถึงว่า

ตัวเองจะมีความกล้าขึ้นมาเมื่อไหร่"

"ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้จริงๆ "

นาอึนพูด ก่อนที่แทอึนจะจับมือเธอแน่นขึ้น

เขาเอามือโอบเอวบางของนาอึนแบบเนียนๆ

...ส่วนจุนฮาก็สวมกอดนาบีนูน่าจนตัวเธอแทบปลิว

"ผมไม่มีพี่สาว เพราะงั้นนาบีนูน่าจะเป็นนูน่าของผมตลอดไป"

"ดูแลตัวเองด้วยล่ะ นายจะต้องเติบโตบนสายทางสายนี้อีกต่อไป

ส่วนเรื่องเรียนมีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาฉันได้ตลอดนะ

ขอบใจที่เห็นฉันเป็นพี่สาว เพราะฉันเองก็ไม่มีน้องที่ไหน

นายก็จะเป็นน้องชายของฉันตลอดไป"

"ส่วนพี่สาวเธอฉันจะดูแลให้เป็นอย่างดี"

แทอึนพูด

"อื้ม ขอบใจ งั้นก็ลากันตรงนี้นี่ล่ะ

เดี๋ยวพวกนายจะไปอัดรายการวิทยุของที่นี่ไม่ทัน

ฉันเคยได้ยินว่ากรุงเทพรถติดมาก พวกนายก็รักษาเวลากันเถอะ

ส่วนฉันจะไปสนามบินก่อน โชคดีนะทุกคน"

"ฉันจะไม่บอกลาเธอ เพราะยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอีก"

"อึนนา ฉันรักเธอจัง ฝากดูแลคุณปู่ด้วยนะ"

"ได้ สู้ๆ นะ ซน นาบี น้องสาวที่สวยน้อยกว่าฉัน"

"วันนี้ฉันยอมสวยน้อยกว่าเธอ พี่สาว"

 

+++

 

...เครื่องบินที่นาบีโดยสารอยู่...ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

อีกสองชั่วโมงต่อมาทีมงาน รวมถึงหนุ่มๆ Zenith

ก็ตามมาที่สนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับเกาหลี

 

"หวังว่าสองคนนั้นคงไม่ตีกันตายบนเครื่องบินนะ"

นาอึนว่า

"ไม่หรอก ความจริงจุนกอลมันโกรธนาบีไม่ลงหรอก

ก็แค่น้อยใจอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เจ้านั่นมันคิดได้แล้วล่ะ"

"รู้ใจกันจริงๆ นะ นายกับจุนกอลน่ะ"

"หึหึ แต่คนที่ฉันอยากให้เป็นคนรู้ใจ...มีได้แค่คนเดียว"

"นายก็ไปบอกคนๆ นั้นเองละกัน"

"ก็กำลังบอกอยู่นี่ไง ไม่รู้ว่าเขาจะตอบยังไง

เธอช่วยตอบทีสิ"

"อื้ม"

"อื้มนี่คือตกลงแล้วนะ"

"อื้ม"

"นาอึนที่ขี้บ่นคนนั้นไปไหนแล้วนะ"

แทอึนแกล้งยั่ว

"จะมีนาอึนที่ึทั้งสวย และโหดกว่าเดิม

จะลองมั้ยล่ะ"

นาอึนยกกำปั้นขึ้นมาขู่

"กลัวแล้วคร้าบบบ"

 

"อะแฮ่มๆ"

จินจูแกล้งกระแอม

"เดี๋ยวมือไวเป็นปลาหมึกเชียวนะ

คิม แทอึน นาอึนนี่น้องสาวท่านประธานเชียวนะ

นายไม่กลัวจะมีปัญหารึไง"

"มีนาอึนอยู่ เรื่องอะไรจะต้องกลัว

แต่ถึงผมไม่ได้เป็นนักร้อง แต่รับรองว่าStar Ent.

จะได้โปรดิวเซอร์ที่มีฝีมือเพิ่มมาอีกคน

อีกอย่างผมก็มีว่าที่คุณนายของท่านประธานเป็นพวกด้วย

ไม่มีอะไรน่ากลัวนี่ฮะ"

"ไอ้เด็กบ้า"

แทยังที่เพิ่งเดินมา และได้ยินที่ศิลปินหนุ่มพูด

"พูดดีนี่ ไอ้น้องเขย"

"แทคทีมกันจนได้นะคะ เราไปเดินเล่นใน Duty free ของสนามบิน

ดีกว่านะนาอึน"

จินจูจูงมือนาอึนไป ปล่อยให้สองหนุ่มได้เผชิญหน้ากัน..

ตามลำพังเป็นครั้งแรก

 

..30..

+++เที่ยวบินที่ TG431 จากกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

มุ่งตรงสู่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มหานครแห่งแฟชั่นระดับโลก

เครื่องบินแอร์บัสลำโตกำลังทะยานขึ้นสูท้องฟ้าเหนือน่านฟ้าไทย

ในที่นั่งชั้น Business class

นาบีหยิบสร้อยคอที่มีจี้รูปผีเสื้อที่จุนกอลเคยให้ไว้

ออกมาดู เธอจ้องมันราวกับว่ากลัวมันจะหายไปไหน

"ไหนบอกว่าจะไม่ทิ้งกันไง แล้วนี่อะไร

คนเขาก็รู้ตัวแล้วว่าผิด ยกโทษให้ไม่ได้เชียวหรอ

แค่จะขอกำลังใจก่อนไปทำงานสำคัญไม่ได้รึไง"

นาบีพึมพำ

แต่ดูเหมือนผู้โดยสารหนุ่มที่นั่งที่ริมหน้าต่างติดกับเธอ

จะหลับสบายไปหน่อย

เขาซบลงที่ไหลของนาบี

จนเธอต้องใช้มือดันศีรษะของเขาออกไปหลายครั้ง

จนครั้งสุดท้าย เธอต้องพ่นภาษาอังกฤษออกมาเป็นชุด

"นี่คุณจะนอนก็นอนไปสิ แต่อย่ารบกวนคนอื่นเขาจะได้ไหม"

นาบีรู้สึกเหมือนโดนขัดใจ

จมูกโด่งตั้งเป็นสันดูเชิดขึ้นอีกครั้ง

คิ้วสวยเริ่มขมวดเป็นปม

ก่อนที่ริมฝีปากรูปกระจับสวย

จะเม้มเข้าหากัน

ชายหนุ่มยิ้มขำที่มุมปาก แต่เพราะเขาสวมผ้าปิดปากไว้

จึงทำให้ไม่อาจเห็นใบหน้าที่บดบังอยู่

"ขอโทษครับ พอดีผมนึกว่าคุณเป็นแฟนผม

เลยเสียมารยาท ขอโทษอีกทีครับ"

"อ้าวคนเกาหลีหรอเนี่ย ไงก็นั่งดีๆ แล้วกันนะคุณ

เราไม่รู้จัก แค่เพื่อนร่วมเดินทาง มาถูกเนื้อต้องตัวกันไม่ดีหรอก"

"อ่อ ครับ เข้าใจแล้วครับ"

แต่นาบีเริ่มรู้สึกคุ้นๆ เสียงของชายหนุ่มที่นั่งคิดกับเธอ

"เอ่อ เดี๋ยวนะคุณ คือว่า"

"จุ๊ๆ ผมเอง"

"จะ จะ จุ จุนกอล"

"ก็ว่าจะแอบตามมาห่างๆ แต่ไม่นึกว่า

นาอึนจะจองตั๋วให้ติดกันซะนี่

พอใกล้เธอทีไร ฉันก็ห้ามใจไม่ไหว"

จุนกอลเอาผ้าปิดปากออก

ก่อนจะจ้องนาบีชนิดที่สายตาของเขาแทบจะกลืนกิน

หญิงสาวตรงหน้า

 

ตุบ ตุบ ตุบ

นาบีทุบหน้าอกกว้างของจุนกอลหลายที

จนมือบางเริ่มแดงไปหมด

แต่คนโดนตียังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี

อยู่ๆ นาบีก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กๆ

ชายหนุ่มจึงถือโอกาสรวบตัวคนที่นั่งข้างๆ มากอดไว้

แล้วปลอบโยนเธอ

"ฮือๆ นาย คนบ้า"

"เป็นคนบ้าที่หน้าตาดีสุดๆ ด้วยล่ะ"

"นายเกือบจะทำให้ฉันตายจริงๆ น่ะรู้ไหม

ฉันทนแทบไม่ไหวที่นายเป็นแบบนี้

มีอะไรทำไมไม่พูดออกมา"

"ขอโทษที่ฉันทำให้เธอเสียใจ

นับจากวินาทีนี้ไป ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก"

จุนกอลก้มหน้าลงจูบไปที่เปลือกตาของนาบี

ไล่ไปที่ข้างแก้มทั้งสอง จมูก

ก่อนจะประทับจูบที่ริมฝีปากอวบของเจ้าหล่อน

นาบีกัดที่ริมฝีปากจุนกอล เพื่อเป็นการแก้แค้น

"โอ๊ย"

"สมน้ำหน้า อยากทำให้คนอื่นเสียใจดีนัก"

"เค้าขอโทษน้า ตัวเอง"

"จะหายโกรธก็ต่อเมื่อ...นายต้องยอมให้ฉันจับแต่งตัวเป็นตุ๊กตา

ไม่งั้นไม่หายโกรธ"

นาบียิ้มเจ้าเล่ห์ จนดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยว

ของเธอหยิบหยี และลักยิ้มคู่นั้นที่ทำให้ดวงหน้า

ของเธอดูสวยขึ้นไปอีก

เขาอยากเก็บรอยยิ้มนี้ไว้กับเธอตลอดกาล...

นาบีเองก็เพิ่งรู้เหตุผลสองข้อที่จุนกอลเลือกที่จะปฏิเสธเธอ

เรื่องแรกคือเรื่องการโกหกของเธอ

ที่จุดปมในอดีตเรื่องแม่ของเขาขึ้นมา

 และอีกเรื่องคือความเหมาะสม

ที่เขาทึกทักเอาเองทั้งนั้น...

 

...เพราะคำพูดของดาบินที่ทำให้เขาต้องยอมรับหัวใจตัวเอง

มากกว่าการหาเหตุผลบ้าๆ ที่เขาใช้มันมาทำร้ายทั้งตัวเขาเอง

นาบี และคนที่อยู่รอบข้าง

 

...ช่วงที่นาบีกับเพื่อนๆ กำลังเตรียมงานแฟชั่นโชว์

จุนกอลเริ่มเห็นมุมที่แตกต่างออกไปของเจ้าหล่อน

เธอดูเป็นมืออาชีพที่สามารถจัดแจงทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่ว

ยิ่งได้เห็นเสื้อผ้าในคอเลคชั่น 'Paradise way' เส้นทางแห่งสรวงสวรรค์

ในแบบของเธอ ทั้งยังออกแบบและตัดเย็บเอง

เขายิ่งทึ่งที่คนตัวเล็กขนาดนี้...ช่างทำอะไรที่ใหญ่เกินตัวได้ขนาดนี้เชียวหรอ

เขาหยิบสมาร์ทโฟนสุดไฮเทคขึ้นมาและกดปุ่มบันทึกภาพ

เกือบทุกอริยาบถของเธอไว้

...จะติดก็ตรงมีเพื่อนฝรั่งทั้งผมดำผมทอง

ทักทายเธอด้วยการหอมแก้มนี่แหละ

ที่ทำให้เขาหงุดหงิด

"โมโหอะไรเนี่ยคุณนักร้อง หิวมั้ย เหนื่อยรึเปล่า

หรือว่าเบื่อที่ต้องนั่งรอนานๆ"

"แค่เห็นหน้าสวยๆ ของเธอ ฉันก็ไม่หิว ไม่เหนื่อย

ไม่เมื่อย ไม่เบื่อเลย"

"แหวะ อ้อพอดีนึกขึ้นได้ว่าต้องการแรงงาน

ลุกขึ้นมาเลยละกัน"

นาบีดึงมือชายหนุ่มให้ไปด้วยกันกับเธอ

นี่เป็นอีกก้าวที่เขาเข้าใกล้โลกของเธอมากขึ้นไปอีก

 

 

2 วันต่อมา..

งานParis Fashion week

ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ ท่ามกลางผู้ชมจำนวนมาก

ที่เดินทางมาร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก

จุนกอลที่ตอนนี้ได้กลายสภาพเป็นจินนี่

สาวสวย หุ่นสะบึม ที่มีชายหนุ่มหลายคนเข้ามาทำความรู้จัก

เขาแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย แต่นาบีเอาแต่หัวเราะชอบใจ

และถ่ายรูปเขาไว้หลายช๊อต

"ใครจะรู้ว่าจินนี่ในคืนนี้คือฮัน จุนกอลผู้โด่งดัง

ฮ่าๆ ไหนๆ ยิ้มให้กล้องหน่อยสิ"

"เสร็จงานนี้เมื่อไหร่ เธอโดนเอาคืนแน่

อย่างน้อยๆ ก็..."

จุนกอลเอามือชี้ที่ริมฝีปากของตัวเอง

"ก็รอให้ถึงตอนนั้นก่อนละกันนะ อา นี่ ช่วยถ่ายวิดีโอ

แฟชั่นโชว์ช่วงที่ฉันเดินแบบด้วยล่ะ

งานนี้เป็นงานใหญ่งานแรกในชีวิต

ฉันอยากให้มันออกมาดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด"

"เธอทำได้อยู่แล้วนาบี"

"โอเว่นกะวิเวียนมานู่นล่ะ

พวกเราไปต้องไปเตรียมตัวก่อน ขอตัวนะ"

"สู้ๆ นะ ที่รักของผม"

"อื้ม"

...ตอนที่นายีอยู่บนแควอร์ค เธอดูสวยเด่น

เป๊ะทั้งเสื้อผ้าหน้าผมตามแบบฉบับของซน นาบี

จนจุนกอลแทบจะไม่กระพริบตา

เธอก้าวฉับๆ เชิ่ดๆ เริ่ดๆ อย่างมั่นใจ

ธีมในวันนี้ของเธอเต็มไปด้วยสารพัดดอกไม้นานานชนิด

ชุดที่เธอสวมใส่ในวันนี้เต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสัน

กิ๊ปติดผมคริสตัลรูปผีเสื้อตัวโต..ดูสวยงามราวกับบินได้จริงๆ

เธอเหมือนเทพธิดาแห่งดอกไม้ที่หลุดออกมาจากเทพนิยายจริงๆ

แฟชั่นโชว์ในวันนี้จบลงอย่างสวยงาม

ยอดจองชุดในคอเลคชั่นของนาบี

ทำให้เธอกรี้ดจนแทบบ้า ทำให้จุนกอลยิ่งเห็นมุมน่ารักๆ ของเธอเข้าไปอีก

"เดือนหน้าฉันได้รับเชิญไปจัดงานแฟชั่นโชว์ที่มิลานด้วยล่ะ

ฉันไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน เห็นทีต้องไปเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้า

ของตัวเองที่นั่นซะละ"

นาบียิ้มอย่างมีความสุขจนดวงตาหยิบยี

จุนกอลที่อยู่ข้างๆ ก็พลอยมีความสุขไปด้วย

เขาเผลอหอมแก้มเธอ

"นี่นายกำลังทำให้คนอื่นๆ คิดว่าเราเป็นคู่เลสเบี้ยนกันนะ"

"โทษที ฉันลืมตัวน่ะว่ากำลังเป็นจินนี่อยู่

ก็ใครให้เธอทำตัวน่ารักจนฉันห้ามใจไม่ไหวล่ะ"

"ย่ะ"

 

 

...ภาพถ่ายคู่กันที่สวีทหวานของนาบีและจุนกอล

ที่ถ่ายอยู่ที่ฝรั่งเศสและมีหอไอเฟล

หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเป็นฉากพื้นหลังก็คงจะยืนยัน

ได้เป็นอย่างดีว่า คู่นี้ลงเอยกันได้สักที

ภาพเหล่านี้ถูกส่งมาทางแอบพลอเคชัน Line ของนาอึน

ในเช้าวันหนึ่ง

พวกเขาอยู่ในโรงยิมเพราะตอนนี้แทอึนก็พักจากงานเพลงชั่วคราว

เนื่องจากตารางงานที่ว่างลงของหนุ่มๆ Zenith

เพื่อหันมาทุ่มเทให้กับกีฬายิงธนูที่เขารักอีกอย่างบ้าง

โดยมีโค้ทสาวที่ชื่อซน นาอึน คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

"บทจะหวานก็เอาซะเลี่ยนจริงๆ

แบบนาบีต้องเจอคนแบบจุนกอลนี่แหละ"

นาอึนดูรูปแล้วยิ้ม

"นั่นสินะ ฉันเชื่อว่าเบื้องบนคงลิขิตเอาไว้แต่แรก

ว่าจะให้เราคู่กับใคร รวมถึงบททดสอบที่ต้องร่วมกัน

ผ่านไปให้ได้"

"อื้ม"

"เราก็มาถ่ายรูปแล้วส่งไปให้พวกเขาดูบ้างสิ"

"ได้สิ"

นาอึนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เธอกดชัตเตอร์รัว

แทอึนอาศัยจังหวะนั้นหอมแก้มนาอึนฟอดใหญ่

"ชื่นใจจัง"

"ไม่ถ่ายแล้ว นายนี่มันขี้โกงจริงๆ"

"ก็เธอทำให้ฉันเป็นแบบนี้นี่นา"

"เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น จะเป็นข่าวได้นะ"

"ก็ดีสิ ฉันอยากเป็นข่าวกับเธอจะตาย

ทีนี้ก็จะได้ถือโอกาสเปิดตัวผู้หญิงของคิม แทอึนสักที"

"โอ๊ย ไม่เอาด้วยหรอก เสียประวัติหมด"

แทอึนจ้องนาอึนจนเธอต้องแสร้งขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

ก็เธอยังไม่ชินกับการโดนเขาลวนลามด้วยสายตานี่นา

 

...ความรักระหว่างซุปเปอร์ตาร์หน้าหล่อจอมขี้เล่น

กับสาวฝาแฝดคนน้อง ผู้เป็นทายาทคนสุดท้องของค่ายเพลงชื่อดัง

ก็จบลงอย่างสวยงาม เช่นเดียวกับแรปเปอร์หน้าหยก

กับอดีตผู้จัดการจำเป็น..แฝดพี่สุดติสท์

 

++บทส่งท้าย++

หลังจากนั้นอีก 6 เดือน

บริษัท Star Ent. ก็ได้จัดงานวิวาห์ที่ยิ่งใหญ่และอบอุ่น

ให้กับท่านประธานหนุ่ม(หน้าหนวด) สุดเท่ วัย 27 ปี

กับอดีตผู้จัดการนักร้องดาวรุ่งพุ่งปรี้ด

อย่าง Zenith ลี จินจู วัย 25 ปี

ท่ามกลางความยินดีของคนในครอบครัว

ไม่ว่าจะเป็นซน แทยอง คุณปู่วัยเกษียณ

ผู้มีดนตรีในหัวใจ

ซน นาอึน รองผู้อำนวยการฝ่ายดูแลศิลปิน

ที่ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์สุดอินดี้ไปอีกตำแหน่ง

เธอใช้ชื่อในการแต่งเพลงว่า 'เอสเธอร์'

ดวงดาวที่สุกสกาวสดใส

ซน นาบี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาบุคลากร

ที่มาสานต่อความฝันของตัวเองให้เป็นจริง

ด้วยการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าสุดล้ำ

ภายใต้ขื่อ 'คีร่า (Cyra)' ที่สาวๆ เกาหลี

ต่างก็พอใจและสนุกกับการได้เลือกเสื้อผ้า

ในแบบที่เหมาะกับตัวเอง

โอเว่นกับวิเวียนเพื่อนสนิทสุดจี๊ดของเธอ

ก็มาลงขันร่สมหุ้นด้วย และคู่นี้คงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้

 

คู่แฝดได้มอบบทเพลงพิเศษผ่านการแสดงโฟร์คซอง

ให้กับพี่ชายและพี่สะใภ้ของพวกเธอในงานนี้ด้วย

ถือว่าพวกเธอได้รับกรรมพันธุ์ทางดนตรีมาเต็มๆ

สมกับเป็นทายาทเลือดใหม่แห่ง Star Ent. อย่างแท้จริง

ซน แทยัง ดูจะมีความสุขเกินกว่าใครๆทั้งหมด

 

ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักทั่วทุกหนทุกแห่ง

...นิ้วเรียวยาวของนาบีกำลังเกากีตาร์คลาสสิก

ในมืออย่างทะมัดทะแมง แม้จะอยู่ในชุดราตรีสีเขียวมรกต

นาอึนก็โชว์เสียงร้องที่หวานใส ชนิดที่คนฟังยังต้องอึ้ง

กับลุคสาวติสท์ของเธอ ศิลปินในค่ายร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน

ด้วยกลัวว่าจะตกงาน แต่มีผู้ชายนัยน์ตาโศกคนหนึ่ง

ยิ้มจนแก้มแทบปริ นาบีช่วยร้องเป็นคลอรัสให้กับนาอึน

ทำให้การแสดงสมบูรณ์ไร้ที่ติ เมื่อสองสาวฝาแฝดผนึกกำลังกัน

When you say nothing at all บทเพลงรักสุดแสนโรแมนติก

ที่ถ่ายทอดโดยเจ้าของบทเพลงต้นฉบับอย่างRonan Keating

ที่ถูกโคฟเวอร์โดยสองสาวช่างสะกดผู้ชมผู้ฟังไว้ได้จริงๆ

คู่บ่าวสาวจุมพิตกันอย่างหวานชื่น

ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานหลายร้อยชีวิต

และนี่ก็ถือเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการเพลงเกาหลีในช่วงครึ่งปีแรกของ

ปี 2013

 

"อร้าย เล็บฉีกอ่า"

นาบีแอบกรี้ด เมื่อจบการแสดง

จุนกอลเลยพาเธอไปนั่ง และช่วยตัดเล็บที่ฉีกของเธอออก

ก่อนจะช่วยแปะพลาสเตอร์ให้เธออย่างเบามือ

เขาทึ่งที่เธอพกสารพัดของตกแต่งความงามมากมายไว้ในกระเป๋า

ทั้งที่ยังแอบคิดว่าบางอย่างไม่จำเป็นสักนิด

"ทีเมื่อกี้ตอนแสดงไม่ยักเจ็บนะ"

"มันเป็นFeelings ไง

The show must go on น่ะเข้าใจมั้ย

แต่ตอนนี้มันเจ็บอ่า"

นาบีได้ทีก็อ้อนจุนกอลใหญ่

 

...ไม่นานบรรดาสาวโสดต่างก็รีบไปยื่อแย่งช่อดอกไม้จากเจ้าสาวกันใหญ่

นาบี นาอึน ยองแอ และสาวๆ ใน The Star Family ก็ร่วมด้วย

แต่สาวผู้โชคดีคนนั้นกับเป็นลีดเดอร์สาวหน้าเก๋แห่ง Cutie cute

ยุน เซนา เธอชูช่อดอกไม้อย่างดีใจ

ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับฮัน แทจุน

ลีดเดอร์มาดขรึมแห่งวงดนตรีร๊อกชื่อดัง The Occupier

 

ดาบินเองก็ดูเหมือนจะเจอสาวที่ถูกใจสักที

เธอคือหนึ่งในแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย...

ยูมิ มัทสึอิ สาวญี่ปุ่นแก้มยุ้ย ตาแบ๊วคนนั้น

น้องสาวของอากีระ มัทสึอิที่เขารู้จักดี

แต่คงไม่ง่ายที่จะฝ่าด่านพี่ชายของเธอ

รึไม่เขาอาจจะพลาดท่าเสียทีพี่ชายของเธอเสียเอง

 

"ถึงจะรับดอกไม้ไม่ได้ ใช่ว่าเราจะไม่ได้แต่งงานกันเมื่อไหร่

ตอนนี้เราก็เป็นคู่รักโปรดิวเซอร์เก๋ไปอีกแบบเธอว่ามั้ย"

"สัญญานะว่าอยู่ข้างๆกันแบบนี้ตลอดไป

เพราะฉันคงไม่สามารถมองผู้ชายคนไหนได้อีก"

แม้จะไม่ใช่คนที่ชอบพูดหวานๆ

แต่ทุกคำที่เธอพูด...เป็นจริงเสมอ

แทอึนรับรู้ได้...

"ฉันก็เหมือนกัน ฉันรักเธอนะ ซน นาอึน"

"อื้ม รู้แล้วๆ ฉันเองก็รักคิม แทอึน มาก มาก มาก"

แทอึนโอบเอวของนาอึนไว้อย่างหลวมๆ

ก่อนจะหันไปเจอ...คู่รักอีกคู่ที่แอบกุ๊กกิ๊กกันอยู่

อีกมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง

 

"นี่เธอพกยาทาเล็บมาด้วยหรอเนี่ย

เหลือเชื่อจริงๆ มีอะไรเกี่ยวกับตัวเธอที่ฉันยังไม่รู้อีกเนี่ย"

"คนอย่างซน นาบี ต้องสวย เป๊ะ เท่านั้น เข้าใจมั้ย

อย่าบ่นน่ารีบๆ ทาให้เสร็จด้วยล่ะ

ทาสวยๆ ด้วยนะ"

นาบียื่นขวดยาทาเล็บยี่ห้อ Chanel สีเขียวมรกต

โทนพาสเทลให้..

"พอแห้งแล้วเดี๋ยวทาอันนี้อีกนะ ฉันชอบอะไรวิบๆวับๆ

เก๋ๆ ชิคๆ จะตาย"

 

นาบีชูขวดยาทาเล็บอีกขวด ยี่ห้อ Dior

ที่มีสารพัดกากเพชรวิบวับตามที่เธอว่า

ก่อนจะยื่นมือให้จุนกอลช่วยทาเล็บให้เธอ

และทำตาปริบๆ เพื่ออ้อนสุดฤทธิ์

ซึ่งวิธีนี้มักใช้ได้ผลเสมอเวลาที่

ขอร้องแกมบังคับให้คุณปู่

 พี่ชายและพี่สาวฝาแฝด

ทำตามในสิ่งที่เธอขอ..

ความจริงนาบีไม้ได้สนใจหรอกว่า

เขาจะทำให้เล็บเธอออกมาสวยเริ่ด

อย่างที่ตั้งใจไว้รึเปล่า

แต่ที่เธอสนใจก็คือ..ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ

ฮัน จุนกอล คนนี้ที่ปฏิบัติต่อเธออย่างกับว่า

เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่เขาต้องคอยปกป้อง

ตลอดเวลา... นาบีจ้องมองชายหนุ่ม

ด้วยสายตาหวานซึ้ง ผีเสื้อนับร้อยตัวบินอยู่ท่ามกลางเขาและเธอ

เป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตที่เธอเคยเห็นมา

...แม้แต่ผีเสื้อตัวโตที่เกิดจากการนำคริสตัลนับพันชิ้น

มาเย็บติดกันที่เกาะอยู่บนชุดเดรสสีเขียวมรกตของเธอ

ก็คล้ายกับว่ามันจะโผลบินไปรวมกับกลุ่มเพื่อนของมัน

และผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าเธอในตอนนี้คือคนที่กุมหัวใจ

ของเธอไว้ตลอดกาล

 

...ยองแอสาวแว่นหน้าใส ที่วันนี้ขอบ๊ายบาย

แว่นตาสุดเนิร์ดไป 1 วัน

แต่เพราะไม่ชินกับการใส่คอนแทคเลนส์

ทำให้เธอมึนๆ งงๆ เล็กๆ

จนเดินชนโครมใหญ่เข้าให้กับชายหนุ่มคนหนึ่ง

"อุ้ยคุณ เจ็บตรงไหนมั้ยครับ"

ชายหนุ่มช่วยประคองเธอ

ให้เธอทรงตัวได้ดีขึ้น

"เอ่อไม่ค่ะ ขอโทษที่ฉันซุ่มซ่ามเดินชนคุณ

และก็ขอบคุณที่ช่วยฉันค่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ ด้วยความเต็มใจ เอ่อคุณคือ..."

"ฉันยองแอ ยู ยองแอค่ะ เป็นรุ่นน้องของพี่นาบีกับพี่นาอึน"

"ผมคิม จูวอนครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"

"เช่นกันค่ะ"

ชายหนุ่มยื่นมือออกมา..เพื่อจะทักทายเพื่อนใหม่

ที่เพิ่งรู้จัก หญิงสาวก็จับมือเขาไว้เช่นกัน

เพื่อเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี

 

"กรี้ด คุง ช่าย คุง จุน ฮา รึ เป่า ก๊ะ"

"ฮะ ผมจุนฮา แรปเปอร์สัดเท่ของวง Zenith ฮะ"

"ช้าน ชื่อ มิกะจัง อายุ 18 ปี มา จาก โอซาก้า

เป็ง ซิปปี้ มา จาก ญี่ ปุ่ง ค่า

ขอ ถ่าย รูป คู่ ก่า คุง ด้วย หน่า ก๊ะ"

"ได้เลยฮะๆ "

แชะ แชะ แชะ

 

"ช่วย ร้าบ นี่ ไว้ ด้วย หนะ ก๊า"

มิกะจังยื่นของขวัญกล่องโตให้นักร้องขวัญใจของเธอ

"มันคืออะไรฮะ"

"สะ เกต บอร์ด ค่า ที่ ฉัน ซื้อ มา จาก อา เม ริ กา กะ"

"งั้นคราวหน้าถ้าเรามีโอกาสได้เจอกันอีก

มิกะจังช่วยถามผมด้วยนะว่าสเก็ตบอร์ด

ที่เคยให้ไปเล่นดีรึเปล่า อย่าลืมมนะฮะ"

จุนฮาแฟนเซิร์วิสเต็มที่

ดูเหมือนสาวเจ้าจะดีใจและตกใจมาก จนเธอรีบวิ่งหนีไป

 

เธอเป็นเพื่อนสาวของยูมิ ที่ขอแอบตามมาด้วย..

"เรานี่ก็ป๊อบไม่เบาเหมือนกันนะ ลี จุนฮาเอ๊ย วะ ฮะ ฮ่า"

 

-จบ-

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา