The opera concerto เำพลงรักในยามวิกาล

-

เขียนโดย LoverPF

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.38 น.

  9 บท
  1 วิจารณ์
  16.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 19.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) You are the music in me เธอคือเสียงเพลงในใจฉัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่แปด You are the music in me

(เธอคือเสียงเพลงในใจฉัน)

 

                งานวิวาห์สำหรับเมฆและพลอยผ่านพ้นไปแล้ว วันนี้พวกเขาจะไปฮันนีมูนกันที่อังกฤษประเทศแห่งความฝันของใครหลายคน พ่อแม่ของเมฆมาส่งพร้อมกับหมอก หอม และตะวัน เขาทั้งคู่โบกมือลาทุกคนและเข้าเกทอย่างยิ้มแย้ม

 

                     เขาและเธอมาถึงที่หมายแล้วเมฆเขาไม่ตื่นเต้นหรอกเพราะเขาเคยมาแล้วกับครอบครัวของเขา มีแต่พลอยนี่แหละที่ตื่นเต้นสุดฤทธิ์เขาจะพาเธอเที่ยวเอง แต่เขาต้องล้างแค้นเธอก่อนที่ตอนเข้าหอเธอมาหลับไปเสียดื้อๆ มาฮันนีมูนครั้งนี้แหละเขาจะล้างแค้นเธอ พลอยตื่นเต้นมากๆจูงมือเขาให้ไปเร็วๆ เขาและเธอพักอยู่ที่ ‘โรงแรมฮัลคิน’ ที่ลอนดอนการอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต,ห้องปลอดบุหรี่ เขาและเธอเช็คอิน พลอยรีบเดินไปก่อนเหมือนกับลูกกระต่ายตัวน้อยที่ได้มาเที่ยวดีใจยกใหญ่ พลอยมาถึงห้องก่อนและรีบกระโจนลงเตียงทันทีอย่างเหนื่อยหน่ายอย่างน่ารัก

 

“พลอยครับพี่เหนื่อยจังเลยอ่ะ”เขาพูดเสร็จก็กระโจนลงไปตรงเตียงตามเธอและกอดเธอให้มาซบที่หน้าอกเขาอย่างอบอุ่น

 

“อื้อ...พี่เมฆพลอยเหนื่อยนะค่ะ”เธอพูดบูดๆใส่เขา

 

“อ้าว!เมื้อกี้พี่เห็นเราดีใจยกใหญ่ที่ได้มาเที่ยว”

 

“พลังงานมันหมดไปแล้วค่ะ แหะๆ”เธอพูดอย่างน่ารักจนทำให้เขาอดหอมแก้มลงไปที่เธอไม่ได้

 

ฟอด...

 

“พี่เมฆ!”เธอตะวาดใส่เขา

 

“อื้ม...พลอยของพี่นี่ยังหอมเหมือนเดิมเลยนะ”เขาพูดจบก็ลงริมฝีปากลงบนหน้าผาก จมูก แก้มเนียนใส ซอกคอ และก็...ริมฝีปาก “พลอยครับ...พี่ขอนะ นะครับ คืนวันเข้าหอพี่ยังไม่ได้ล้างแค้นเราเลยนะ ที่เราชิงหลับไปก่อน”เขาพูดอย่างดุๆใส่เธอ

 

“อ้าว...พลอยหลับเหรอค่ะ ฮิฮิ”เธอแกล้งอำเขาเล่นๆ

 

“อ้าวพลอยเรามากวนพี่อีกนะ ไม่ได้ๆต้องโดนทำโทษ”เขาพูดเสร็จก็...จูบเธอทิ้งทายไว้และเขาก็...เริ่มการล้างแค้นเธออย่างโดยดีแต่ทว่าเขากำลังจะฝากรอยรักไว้ที่ลำคอเธอก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่เมฆไม่สนใจและจะยังเริ่มต่อไปอีก  โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ส่งเสียอีก

 

“พี่เมฆ...ไปรับโทรศัพท์เถอะนะค่ะ”เธอหวังให้เขาไปรับโทรศัพท์เพราะเธออาจจะรอดวันนี้ก็ได้

 

“เดี๋ยวก็ดับไปเอง”เขากำลังจะจูบเธออีกรอบ แล้วก็ไม่มีวี่แววที่เสียงโทรศัพท์จะดับเขาเลยยิ้มเห่ยๆและไปรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดูชื่อ

 

“ฮัลโหลครับ...”เขาพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ทำไมต้องมาขัดจังหวะทุกทีนะ

 

(เฮลโล...ไอ้เมฆ/พี่เมฆ)เสียงสามคนประสานพร้อมกันนั้นก็คือ หมอก หอม และตะวัน

 

“โหย...โทรมาขัดจังหวะเลยพวกนี้!”เขาพูดอย่างเบาๆ

 

(อะไรนะ! ขัดจังหวะ ทำอะไรกันอยู่ฮ่ะ!) หอมพูดอย่างทึ่งๆสาบานว่าเธอหูดี

 

“เฮ้ย!ป่าวๆว่าแต่โทรมาทำไมกันครับ พี่ครับ”

 

(ก็อยากจะถามว่าถึงกันหรือยังงั้นแกพักผ่อนให้หายเหนื่อยเถอะ ฉันไม่กวนแกละ ไอ้เมฆ)ตะวันพูดอย่างงอนๆ

 

“ไอ้ตะวันอย่างเพิ่งงอนผมสิครับ เดี๋ยวผมซื้อของฝากที่พี่ตะวันชอบไปฝากนะครับ”เมฆพูดอย่างกวนๆ

 

(เออโอเคๆ)ตะวันพูดอย่างดีใจแม้น้ำเสียงห้วนๆก็ตาม

 

“แล้วหอมหล่ะ เฮ้ยๆยัยหมอกอยู่หรือเปล่า?”

 

(อยู่! พี่เมฆหมอกเอาช๊อกโกแลต...ซื้อมาเยอะๆนะ)หมอกผู้หลงไหลขนมมากเอ่ยขึ้น

 

“โอเคๆ ยัยหอมหล่ะ”

 

(ฉันอยากได้เครื่องสำอางเดี๋ยวฉันโทรบอกยัยพลอยเองและขอหลานด้วยนะ)

 

        ถ้าไม่โทรมาเมื้อกี้ก็น่าจะได้อยู่หรอก!

 

“พลอยอยู่นี่จะคุยไหม อ่าวพลอยหลับไปแล้ว ฮ่าๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”

 

(บาย!)สามคนประสานเสียงกันและวางสายไป โทรทางไกลมันเปลือง!

 

“พลอยครับ พลอย”เขาไปเรียกภรรยาสาวที่หลับไปตอนไหนไม่รู้เพราะเตียงมันนุ่มหรือเปล่านะเธอถึงหลับไป...

 

 ไม่มีเสียงตอบรับของพลอยเธอกำลังหลับสบายในเตียงอันหนานุ่มและเคลิ้มฝัน เมฆจึงห่มผ้าให้เธอและจูบลงบนหน้าผากเธออย่างแสนรัก “ฝันดีนะครับ พลอยที่รัก” เขาพูดจบก็ไปสวมกอดเธอและหลับไปด้วยกัน เขากับพลอยเดินทางตอนแปดโมงใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมงมาถึงก็เวลาที่ไทย สองทุ่ม แต่ที่นี้เวลา ตีสอง ไทยกับลอนดอนต่างกันประมาณ 7 ชั่วโมง  เขาจึงนอนพักผ่อนให้เพื่อจะนำเที่ยวเธอในวันพรุ่งนี้...

 

        แสงอาทิตย์ส่องลงมายังในโรงแรม สาวน้อยที่นอนในอ้อมกอดของชายหนุ่มถึงกับขยี้ตาและเหมือนมีหมีตัวโตมาโอบกอดเธออยู่ เธอลืมตาขึ้นและพบว่าคนที่กอดเธอก็คือ สามีของเธอนั่นเอง เธอเอามือจับที่แก้มเขาและไล่ลงไปตามเครารู้สึกจั้กจี้ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีใครเอามือมาจับเขา เขาลืมตาขึ้นและพบว่าคือภรรยาของเขานั่นเอง เขาเอามือจับมือเธอและลงมาจูบอย่างรักใคร่

 

“อรุณสวัสดิ์ครับ สาวน้อย”

 

“สาวน้อย ภรรยา ที่รัก พลอยจะเรียกชื่อไหนกันค่ะ?”เธอถามเขาอย่างตลกๆ

 

“เรียกหมดเพราะพลอยคือคนที่พี่รัก และจะรักตลอดไป”เขาพูดจบก็กอดเธออย่างหวงแหน

 

“อื้อ...พลอยจะไปอาบน้ำแล้วค่ะ ไปเที่ยวกัน”เธอพูดอย่างน่าเอ็นดู

 

“ไม่ต้องอาบก็ได้ พลอยของพี่หอมตลอดอยู่แล้ว”เขาหอมแก้มเธอดัง ฟอด อย่างไม่อายฟ้าอายดิน

 

“พี่เมฆ!”เธอทำเสียงดุๆใส่เขา

 

“โอเคครับๆพี่ปล่อยเราไปก่อนก็ได้ แต่คืนนี้เราไม่รอดแน่”

 

“แบร่! เผด็จการ!”เธอพูดจบก็ผลักเขาและวิ่งไปห้องน้ำทันที

 

       น่ารัก สดใส ยิ้มหวาน

 

เขาและเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วและลงไปทานอาหารที่โรงแรมขอบอกว่าโรงแรมฮัลคินนี้อาหารชั้นเลิศอร่อยจนไม่อยากอิ่มบริกรยิ้มทักทายสดใส ตอนนี้เวลาที่นี้เก้าโมงเช้า เขาได้นอนหกชั่วโมงกับพลอยไปเต็มๆ กินอิ่มแล้วก็ต้องเดินทางไปเที่ยวที่ลอนดอนกันเลย!

 

    ที่แรกที่เขาจะพาไปคือหอนาฬิกาบิ๊กเบน  บิ๊กเบน ตึกสภาเวสต์มินสเตอร์ ทั้งหมดคือ สัญลักษณ์ของลอนดอนที่ไม่เคยเสื่อมความสำคัญ ตัวบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภาตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ขณะนี้กำลังขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่จึงเห็นเป็นสีทองอร่าม ไม่ดำหม่นมัวด้วยคราบเขม่าควันและการเวลาเหมือนในอดีต มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์กำลังซ่อมแซมเช่นกัน เหมือนกับสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ในบริเวณใกล้เคียงที่ทำให้การเดินข้ามถนนไปมา 

 

“โห...สวยจังค่ะพี่เมฆ”เธอพูดด้วยแววตาประกาย

 

“ความจริงหอนาฬิกานี้ถูกสร้างหลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม โดยชาลส์ แบร์รี เป็นผู้ออกแบบ หอนาฬิกามีความสูง 96.3 เมตร โดยที่ตัวนาฬิกาอยู่สูงจากพื้น 55 เมตร ตัวอาคารสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย”เขาพูดอย่างเชี่ยวชาญเพราะเขาเคยมากับครอบครัวครั้งหนึ่ง น้องสาวครั้งหนึ่ง และตะวันครั้งหนึ่ง ถ้ามาเที่ยวนี้คงรอบที่ 4

 

“ว้าว! พี่เมฆนี้รู้เยอะจังเลยนะค่ะ”เธอตบมือให้เขาสองสามแปะและยิ้มให้

 

“แน่นอนพี่นี่นะกูรูลอนดอนเลยหล่ะ”เขายักคิ้วให้เธออย่างหล่อเหลา ตอนนี้เขาโตขึ้นกว่าเดิมมาก ตัวสูงขึ้น หนวดเคราที่ขึ้นตามเวลา มือใหญ่หนานุ่มที่คอยจับมือเธอตลอดเวลา เธอเหม่อและจ้องมองหน้าเขาจนเขาอดสงสัยไม่ได้

 

“พลอย พลอยครับ”

 

“เอ่อ คะ! พี่เมฆเรียกพลอยทำไมเหรอค่ะ?”เธอตื่นจากพวังค์และมองหน้าเขาอย่างสงสัย

 

“พี่เห็นพลอยจ้องหน้าพี่ อยากจูบพี่เหรอครับ?”เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ

 

    เออใช่! เอ้ย! ไม่ใช่ คิดบ้าอะไรอยู่ยัยพลอย

 

“จะบ้าเหรอค่ะ พี่เมฆพลอยไปดูฝั่งนู่นดีกว่า แบร่!”เธอรีบวิ่งไปและก้มหน้าด้วยความอายพร้อมบวกอมยิ้มไปด้วย

 

“อ้าว! พลอยรอพี่ด้วย”เขารีบวิ่งตามเธอไปและจับมือเธออย่างหวงแหน

 

   เขาและเธอชมเสร็จก็ไปที่พระราชวังบัคคิงแฮม  เดิมชื่อ คฤหาสน์บัคคิงแฮม เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรเป็น สถานที่ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน และยังเป็นที่รวมพลังใจทั้งในการฉลองและในยามคับขันของชาวอังกฤษ    

  

เขาและเธอเดินเข้าไปชมซึ่งภายในห้องต่างๆจะมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น ห้องบังลังก์ของกษัตริย์ ห้องแกลอรี่ ห้องเสวยพระกายาหาร จะมีการผลัดเปลี่ยนเวรยาม มีการแสดงในเวลา 11.30 น. เมฆและพลอยรู้สึกสนุกมากและได้เวลา 12.15 แล้ว เมฆพาพลอยที่ร้านอาหาร The Ledburyเป็นร้านอาหารที่ได้ที่ 3 ของลอนดอน ที่แรกจะเปิดตอนกลางคืน ส่วนได้ที่สองจะเป็นบาร์  อาหารรสชาติดีที่เดียว พนักงานออกมารับเมนูและยิ้มทักทายด้วยความสดใส

 

“รับอะไรดีค่ะ?”พนักงานถามภาษาอังกฤษอย่างแม่นยำ

 

“เอ่อ...ที่นี้มีอะไรแนะนำไหมครับ?”เมฆพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่อง

 

“มีค่ะเรามีหอยเชลล์ย่างซอสค่ะ และ เสต็กปลารมควัน คู่กับไวน์ค่ะ”เธอตอบภาษาอังกฤษอย่างสดใสตามบริการ

 

“งั้นเอาทั้งสองครับแต่ไม่เอาไวน์นะ ขอน้ำเปล่า”เขาตอบและยื่นเมนูให้

 

“ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ”พนักงานยิ้มและเดินออกไป

 

“แหมๆพี่เมฆนี้รู้เยอะจังเลยนะค่ะ”พลอยยกมือสองนิ้วให้เขา

 

“พี่มาที่นี้บ่อยอาหารของเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลหน่ะ”เมฆตอบอย่างผู้เชียวชาญ

 

“อ้อค่ะ...”พลอยยิ้มให้เขาและได้ยินเสียงโทณศัพท์ของตนเอง

 

“ฮัลโหล...”พลอยแทบจะหูแตกเมื้อได้ยินเสียงของหอม

 

(ยัยพลอยย...ฉันคิดถึงแก ฮือ...)

 

“นี่ยัยหอมร้อยวันพันปีแกไม่เคยร่ำไห้หาฉันเลยนะ”เธอถามอย่างสงสัย

 

(แหะๆก็นิดนึง ว่าแต่ที่นู่นกี่โมงแล้วอ่ะแก?)

 

“เที่ยงครึ่ง!”

 

(ที่นี้หกโมงครึ่ง! ฉันเพิ่งไปเที่ยวกับพี่ตะวันมาเนียะ อุ๊บ!)หอมตอบไปอย่างลืมตัว

 

“หะ! อะไรนะ แกไปเที่ยวกับพี่ตะวัน อันแน่มีอะไรแอบแฝงป่าวย่ะ?”

 

(ป่าว! ก็แค่ไปเที่ยวเฉยๆ)หอมตอบอย่างไม่รู้ไม่ชี้

 

“ย่ะ! เอ้อ...แล้วแกจะเอาอะไรไหม?”

 

(ฉันอยากได้น้ำหอม)

 

“หะ! แกเนี่ยะนะอยากได้น้ำหอมจะเอาไปฉีดสลบพี่ตะวันหรือไง?”

 

(จะบ้าเหรอ ฉันก็เป็นผู้หญิงนะย่ะ! อยากรักสวยรักงามบ้าง)

 

“โอเคๆ เดี๋ยวฉันดูให้ แค่นี้ก่อนนะ”

 

(เดี๋ยวยัยพลอยแกอย่าลืมทำหลานให้ฉันนะ ไปละบายจุ้บ)

 

“ยัยหอม! เฮ้ ฮัลโหล”

 

“มีอะไรเหรอพลอย?”เมฆที่พยายามแอบฟังว่าทั้งสองคุยไรกันบ้างแต่แล้วก็ต้องทำหน้าตามเดิม

 

“อ๋อยัยหอมสั่งน้ำหอมนะค่ะ”พลอยพูดจบและอาหารก็มาพอดี “ว้าว...น่าอร่อยจังเลยค่ะ”เธอทำหน้าอย่างน่ารักและแลบลิ้น

 

“กินเลยครับ พี่เลี้ยง”

 

“ยังไงพี่เมฆก็ต้องเลี้ยงพลอยอยู่ดี ฮิฮิ”เธอตอบอย่างกวนๆ จนทำเอาเขาอดยิ้มไม่ได้

 

“กินเบาๆก็ได้ เลอะหมดแล้ว”เขาพูดพลางหยิบผ้าเช็ดปากเช็ดให้เธอ

 

 

“โหย...หิวนี่ค่ะ วันนี้พลังงานออกไปหมดเลย”เธอตอบอย่างมุ่ยๆ

 

“เดี๋ยวเราต้องหมดพลังงานอีกเพราะพี่จะพาเราไปพิพิธภัณฑ์เชอร์ล๊อกโฮล์มส์”

 

“มีพิพิภัณฑ์ด้วยเหรอค่ะ?”พลอยตาโตและเหมือนกับว่าอยากไปเร็วๆ

 

 

“ใช่! ความจริงพี่ก็ไม่รู้หรอกแต่ตอนนั้นมากับยัยหมอก ยัยหมอกชอบอ่านนิยายของโฮมส์เลยศึกษามาอย่างดี ถ้าพลอยไปพลอยจะบอกว่า สุดยอด”เมฆพูดพร้อมมีเสต็กอยู่ในปาก

 

“จริงเหรอค่ะ? โอเคค่ะวันนี้พลอยจะเที่ยวให้หนำใจไปเลย”เธอตอบอย่างยิ้มๆ

 

 เขาและเธอเช็คบิลเสร็จก็เดินทางไปพิพิธภัณฑ์เชอร์ล๊อคโฮมส์เลย และพอดิบพอดีที่ยัยหมอกโทรมาหา

 

“ฮัลโหลน้องสาว”เมฆเอ่ยอย่างเสียงสดใส

 

(เฮลโล...พี่เมฆหมอกมาขัดจังหวะหรือเปล่าเนี่ยะ?)

 

มากเลย!

 

“ไม่เลยๆพี่อยู่พิพิธภัณฑ์โฮมส์อยู่เนียะ”

 

(กรี๊ด...!) เธอกรี๊ดอย่างดีใจ (เฮ้ยพี่เมฆฝากซื้อหนังสือนิยายเล่มใหม่ของโฮมส์ที่ลอนดอนหน่อยดิ ขอบคุณนะค่ะ พี่ชายสุดหล่อ ฝากความคิดถึงถึงพี่พลอยด้วย ไปเรียนละ บายจุ้บ!) หมอกวางสายไปทันทีก่อนที่ครูศิลปะจะพาเธอไปเฉือน!

 

“ฮัลโหลยัยหมอก เฮ้ย ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะ ฮัลโหล” เมฆส่ายหน้าไปมากับคำที่ทะเล้นของน้องสาว ไอ้คำว่า ‘บายจุ้บ’เธอเอามาจากไหน?

 

“พี่เมฆเร็วๆสิค่ะ”พลอยที่เข้าไปตอนไหนไม่รู้หันมากวักมือเรียกเหมือนเด็กที่ขอให้พ่อแม่มาในสวนสนุกเร็วๆ

 

“ครับๆ”เขายิ้มก่อนและค่อยตามไป

 

ในพิพิธภัณฑ์ค่าข้าวของลอนดอนราคา 6 ปอนด์ ถ้าเทียบที่ไทยจะ 300 บาท รวมสองคนก็ 600 บาท ถ้าเขามาแรกๆก็จะเห็นห้องแรกคือ ห้องรับแขก และห้องนอนของโฮมส์ จะจำลองมาจากนิยายของโฮมส์ ห้องรับแขกจะมีพวกไวโอลีน ไปป์ และเราสามารถถ่ายที่นั่งของโฮมส์ได้ด้วย และต่อไปคือห้องนอนของโฮมส์แน่นอนจำลองมา มีพวกหมวก ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่บนเตียง และต่อไปเป็นหุ่นขี้ผึ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น คดีปริศนาชายปากเบี้ยว คดีบ้านคอปเปอร์บีช คดีสายสลับลาย พลอยกับเมฆต่างถ่ายรูปไปอวดเอ้ยไปให้หมอกดู เขาทั้งสองอยู่จนคุ้มก็เวลาปาไปบ่ายสี่โมง และทั้งคู่ก็กลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน เมฆก็เอะใจว่าเรามา ฮันนีมูน หรือ เที่ยวกันแน่ว่ะ!

 

“พี่เมฆคะ พลอยชอบห้องนอนของโฮมส์มากเลยค่ะ สับซ้อนดี ฮิฮิ”เธอพูดอย่างน่ารัก

 

“อืม...พี่ชอบห้องนั่งเล่นครับ เพราะว่ามันดูลึกลับน่าค้นหาดี”เขายิ้มให้พลอยและจับมือเธอไปด้วยกัน จนเขาเจอของอย่างนึง

 

“พลอยครับ! เราเข้าไปในร้านนั้นกันดูไหม?” เมฆชี้ไปร้านเครื่องประดับร้านนึง

 

“ไปสิค่ะ ยัยหอมฝากพลอยซื้อด้วย ไปกันค่ะ”พลอยเดินหน้าไปก่อนและรีบๆจูงเขาเข้าไป เอ๊ะ! ใครอยากไปกันแน่

 

“พี่เมฆคะ พลอยขอไปดูสร้อยให้ยัยหอมก่อนนะค่ะ”เธอหันมาบอกเขาและรีบไปดูทันที

 

“ครับ”เขายิ้มให้เธอและหันหน้าไปคุยกับพนักงาน “สวัสดีครับ ผมอยากดูสร้อยข้อมือที่หน้าร้านหน่อยนะครับ”เขาพูดภาษาอังกฤษกับพนักงาน

 

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ”พนักงานตอบยิ้มๆและเดินไปเอาให้เขา

 

“นี่เป็นคอลเลกชั่นใหม่เลยนะค่ะ”พนักงานเอาสร้อยข้อมือให้เขาดู เป็นสร้อยข้อมือสีเงินมีผีเสื้อห้อยอยู่สองตัว

 

“กี่บาทครับ”เขาพูดยิ้มๆ

 

“สิบเอ็ดปอนด์ค่ะ”พนักงานพูดอย่างยิ้ม ๆ แปลเงินเป็นไทยคงราวๆ 500 กว่าบาท เมฆยื่นเงินให้และพนักงานก็ใส่กล่องให้ พอดีกับที่พลอยเดินถือสร้อยมาพอดีเลย

 

“เท่าไหร่ค่ะ”เธอมาที่เคาท์เตอร์และยื่นสร้อยให้ เป็นสร้อยรูปหัวใจเธอคิดว่าหอมคงจะชอบ เพราะตอนนี้เธอกำลังอินเลิฟอยู่หน่ะสิ

 

“10 ปอนด์ค่ะ”พนักงานตอบและใส่กล่องให้เธอ

 

“พี่เมฆไม่ซื้ออะไรเหรอค่ะ?”

 

 

“ไม่อ่ะครับ”เขากะจะเซอร์ไพส์เธอ เขาเห็นแววตาของเธอเศร้าๆแต่ฝืนยิ้มให้

 

“ค่ะ”เธอพูดจบก็รับของจากพนักงานและเมฆก็รีบจับมือเธอทันที สาวน้อยที่รักของเขางอนซะแล้ว

 

   เขาและเธอนั่งรถจนมาถึงโรงแรมก็ปาไปหกโมงกว่าๆเพราะรถติดมากจนภรรยาของเขาหลับไปซะแล้วเขาเลยอุ้มเธอไปโรงแรมไม่มีท่าทีที่ว่าจะหนักเลยสักนิด พนักงานโรงแรมของลอนดอนถึงกับอิจฉาเป็นแถวๆ ถึงแม้พวกเธอจะเป็นฝรั่งก็ตามที เขาอุ้มเธอวางลงบนเตียงจนพลอยรู้สึกตัวก็ป๊ะ! ที่หน้าของเขาอย่างจังจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน จนเมฆอดไม่ได้ที่จะจูบเธอที่ริมฝีปากของเธอแต่แล้วเธอก็ไม่ได้ขัดขืนเมฆจูบไปที่ริมฝีปาก หน้าผาก จมูก แก้ม จนไล่มาถึงซอกคอ จนเขาและเธอติดอยู่ในห้วงแห่งความรักจนเขาอดไม่ได้

 

“พลอยครับ พี่ขอนะคนดี…”เขาพูดอย่างอ่อนหวานให้เธอ เธอไม่ตอบแปลว่าเธอตกลง  เขาเลยบรรเลงเพลงไปเรื่อยๆ

 

แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักระหว่างเขากับเธอจะไม่มีวันจบ แสงอาทิตย์ของลอนดอนหมดลงกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยวและดวงดาวระยิบระยับเต็มฟ้า เสียงเพลงบรรเลง เธอคือเสียงเพลงในใจฉัน

 


You are the music in me
You know the words
"Once Upon A Time"
Make you listen?
There's a reason.
When you dream there's a chance you'll find


A little laughter
or happy ever after


your harmony to the melody
It's echoing inside my head
A single voice (Single voice)
Above the noise
And like a common thread


Hmm, you're pulling me


When I hear my favorite song
I know that we belong
Oh, you are the music in me
Yeah it's living in all of us
And it's brought us here because
Because you are the music in me
Na na na na (Ohh)
Na na na na na
Yeah yeah yeah
(Na na na na)
You are the music in me

 

http://www.keedkean.com

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา