Friend With Benefit เพื่อนกันฉัน(แอบ)รักเํธอ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.16 น.
แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หลังจากวันนั้น...วันที่โทโมะเลือกที่จะเดินหันหลังกลับออกไปโดยไม่แม้แต่จะปริปากพูดอะไรกับฉันสักคำ เราสองคนก็เหมือนตัดขาดจากกันและกันไปโดยปริยาย ทั้งที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน...แต่ฉันกลับรู้สึกว่าโลกของไม่มีภาพของฉันหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่เดินผ่าน...กระแสเย็นชาจากสายตาของโทโมะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าความสัมพันธ์ของเรา...ยุติลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ฉันควรจะยินดีสิ...ไม่ใช่ว่ามานั่งเสียใจอยู่แบบนี้
“แก้ว วาเลนไทน์พรุ่งนี้ไปฉลองกันที่ทาวเวอร์นะ ปีนี้เขาจัดงานยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้วเป็นสิบเท่าเลย ไปนะๆ...แกชวนป๊อปไปด้วยก็ได้ รับรองว่าถึงฉันจะไปด้วยแต่จะไม่ทำตัวเป็นก้างขวางคอแน่” ยัยตัวแสบคะยั้นคะยอฉันตั้งแต่เลิกเรียนจนกระทั่งกลับบ้าน
ก็อยากจะปฏิเสธอยู่หรอก ฉันกล้าพูดได้เลยว่าไม่ต้องการไปเหยียบที่นั่นอีกเพราะเมื่อสองปีที่แล้ว...คนบางคน แอบพาฉันไปที่นั่น ที่ๆมีตึกสูงๆถูกประดับไว้ด้วยไฟหลากสีสัน มีเสียงดนตรีจากเวทีขับกล่อมทั้งงานวันวาเลนไทน์ที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สีหน้าของผู้คนภายในงานดูมีความสุขกับวันแห่งความรัก ต่างกับฉันเมื่อปีที่แล้ว...ฉันย้อนกลับไปที่นั่นเพียงลำพังเพราะคนบางคน...พาผู้หญิงคนอื่นไปและนั่นหมายความว่า ฉันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย...
“ก็ได้ๆ” ฉันตัดบทฟางเพราะความรำคาญที่ยัยนี่แต่เขย่าแขนฉันอยู่นั่นไม่ยอมเลิกรา ก่อนที่สุดท้ายจะตัวจะร้องลั่นเหมือนเด็กๆได้ของถูกใจไม่มีผิด เหอะ! ก็แค่ไปงานวาเลนไทน์...ก็แค่นั้น วันนี้มันไม่มีความหมายกับฉันมาสองปีกว่าแล้วล่ะ
บรรยากาศภายในงานยามเย็นดูครึกครื้นกว่าปีก่อนมาก นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อสองปีก่อนงานเพิ่งจะเริ่มจัดเป็นรอบแรกๆ อะไรหลายๆอย่างเลยยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นัก และคงไม่ต้องให้บอกว่าผู้คนที่พากันมาที่นี่จะเป็นใครถ้าไม่ใช่คู่รักกัน...ฉันถอนหายใจลึกยาวมองภาพเหล่านั้นอย่างชินชา ปีที่ผ่านมา โทโมะก็ทำแบบนี้กับฉันมาโดยตลอด ควงผู้หญิงคนอื่น...แดสงความรักกับผู้หญิงคนอื่น...ต่อหน้าฉัน ฉันเจ็บจนเรียกได้ว่ามันชินชาเกินกว่าอะไรแล้วล่ะ
“ไม่สบายหรือเปล่าแก้ว ดูหน้าเธอซีดๆนะ...” ป๊อปปี้หันมาถามฉันด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะใช้หลังมืออังหน้าผากฉันเบาๆ
“เปล่าหรอก พวกเธอสองคนก็เดินดูอะไรไปก่อนก็แล้วกัน ฉันว่าจะเข้าไปนั่งเล่นในสวนสักพัก งานเริ่มแล้วโทรตามฉันด้วยนะ”
“ไม่ใช่ว่าทำใจไม่ได้เพราะใครบางคนเคยพามาที่นี่หรอกนะ ชิ!”
“นี่ฟาง...” ฟางประชดฉันอย่างรู้ทันพร้อมกับเบ้หน้าใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟางถึงรู้ว่าฉันคิดยังไง เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ถ้าฟางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันเลยนี่สิถือเป็นเรื่องที่แปลก
ฉันไม่ได้สนใจอะไรสองคนนั้นอีกได้แต่เดินเลี่ยงออกมาจากงานแล้วตรงเข้าสู่สวนสาธารณะกว้างใหญ่ที่อยู่ติดกับทาวเวอร์ บางที...ร่มไม้สีเขียวกับมุมสลบๆพอให้ฉันไดอยู่คิดอะไรกับตัวองสักพักอาจจะทำให้ใจของฉันเย็นลงบ้างก็ได้ ไม่ต้องคิดถึงภาพเก่าๆพวกนั้นให้หัวใจเจ็บช้ำเล่นๆอีก...
ฉันเดินไปตามทางที่ทอดยาวตลอดทางเดินได้สักพัก สียงลงฝีเท้าเบาๆก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง น่าแปลก...ทั้งที่ไม่ได้หันหลังไปมอง ทั้งที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรไปมากว่านั้น แต่ทำไมฉัน....ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคนที่อยู่ด้านหลังขนาดนี้ เสียงลากฝีเท้าดังเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ...จนฉันต้องหยุดเดินและผลก็คือ...ใครบางคนกำลังยืนทาบขนาบกับฉันอยู่จากด้านหลัง กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคย...กลิ่นนี้...ยังไม่เสื่อมคลายไปจากความทรงจำของฉัน...
โทโมะ...
“ตามฉันมาทำไม วันนั้น...นายเลือกที่จะเดินหนีฉันไปไม่ใช่หรือไง!” ฉันหันหน้ากลับไปพร้อมตบฉาดใหญ่อย่างแรง ตอนนั้น...ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นเขา...
ใบหน้าหล่อเหาหันไปตามแรงตบ...เป็นเขาจริงๆด้วย เป็นโทโมะจริงๆ...โทโมะเช็ดเลือดมุมปากที่ไหลซิบจากการลงมือหนักๆของฉันออกก่อนจะหันมาสบตากับฉัน นัยน์ตาของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกหลากหลายจนฉันรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าโทโมะคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ถึงเขาจะพูดว่าเสียใจกับเรื่องทั้งหมดมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้วจริงๆ!
“วันนี้ก็เดินมาหาแล้วนี่ไง...” โทโมะทอดเสียงหวานพลางดึงร่างฉันเข้าไปกอด บ้าเหอะ! ไอ้ที่โดนฉันตบไปเมื่อกี้มันไม่ได้รู้สึกเจ็บระคายอะไรบ้างเลยหรือยังไง ยังจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับฉันได้ลงคออีกเหรอ บ้าที่สุด!
“ปล่อยนะ...อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“แก้ว...ฟังกันหน่อยสิ อย่าดื้อ” เขาดุฉันทั้งที่กอดฉันเอาไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออกแบบนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมฉันจะต้องยืนนิ่งแทนที่จะดิ้นหนีให้รู้แล้วรู้รอด ให้ตายเหอะ...ฉันเกลียดตัวเองจัง เกลียดมากที่สุกเลยล่ะ!
“ดื้อเหรอ! นายไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้กับฉันเลยด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปฟังคนแปลกหน้าอย่างนาย!”
“ฉันรักเธอ...”
“....”
แค่ประโยคเดียว...เพียงประโยคเดียวของเขาทำให้ฉันหยุดชะงักลงอย่างเถียงอะไรไม่ออก ได้แต่สบตากับเขานิ่งๆ นัยน์ตาสีนิลสุกปลั่งคู่นั้นมองฉันอย่างลึกซึ้งอ่อนโยน ทว่า...ร้อนแรงอยู่มีทีจนเกือบแผดเผาฉันทั้งเป็นได้อย่างหน้าไม่อาย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบทรมานฉันนัก เขาจะฆ่าฉันให้ตายด้วยทุกวิธีแบบนี้ไปตลอดเลยหรือไง!
“โทโมะรักแก้วไง...”
“...”
“นี่คือสิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่เหรอเด็กดี...วันนี้ฉันมาพูดให้เธอฟังแล้ว” โทโมะดึ่งฉันเข้าไปกอดเต็มแรง ไม่สิ! ฉันต้องไม่ใจอ่อนกับคำพูดหลอกลวงพวกนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนใจง่ายแบบนั้น!
“ปล่อย! นายคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของคนโกหกอย่างนายได้มากน้อยแค่ไหนกันโทโมะ นายหลอกฉันมากี่ครั้ง นายทำร้ายฉันมากี่ครั้ง...แล้ววันนี้ อยู่ๆนายก็มาบอกว่านายรักฉัน บอกทีสิ...ว่าฉันควรจะเป็นนังโง่ที่หลงเชื่อคำพูดของนายมั้ยโทโมะ ตอบมาสิ!”
“ที่ฉันเลือกเดินหนีเธอวันนั้น เพราะฉันตัดใจจากเธอแล้วไงแก้ว..”
“...”
“ไม่สิ ฉันพยายามตัดใจจากเธอต่างหาก...เธออาจจะมองว่าฉันดกหกเธอได้เป็นร้อยเป็นพันครั้งนะแก้ว แต่ขอให้เชื่อฉันสักครั้ง แค่ครั้งเดียว...แล้วฉันจะไม่ขออะไรจากเธออีก”
“...”
“ฉันไม่กล้าบอกรักเธอรู้มั้ยเด็กดี...ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะดีพอ ไม่กล้าขอกลับไปดูแลเธอ ฉันรู้ดี...ฉันเลวกับเธอมามากและฟางคงไม่ยอมแน่ที่จะให้เธอกลับมาหาฉัน ในเมื่อเธอเองก็มีผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยแล้ว..”
“นายคิดไปเอง! นายไม่รู้หรือไงว่าระหว่างฉันกับป๊อปปี้ไม่ได้ทีอะไรเกี่ยวข้องกันแบบนั้น นายไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นคนแบบไหน เหอะ! ใช่สิ นายไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของฉันอยู่แล้ว ไม่เลย...ไม่สักนิด!”
ฉันสะบัดตัวเตรียมจะเดินหนีผู้ชายใจร้ายคนนี้อีกครั้ง ทว่า...เขากลับเลือกที่จะคว้าร่างฉันไว้ กอดฉันจากทางด้านหลังอย่างแนบแน่น...ใบหน้าหล่อเหลาวางเกยลงบนไหล่ของฉัน ก่อนที่ฉันจะรู้สึกร้อนซ่านเมื่อเขาจูบเบาๆลงบนหัวไหล่ที่โผล่พ้นเสื้อของฉัน ให้ตายเหอะ! ทำไมโทโมะถึงชอบทำให้ฉันอับอายอยู่ตลอดเวลาด้วยนะ ถ้าเกิดมีคนผ่านมาเห็นเข้าฉันไม่ต้องเอาหัวมุดลงดินตายไปเลยหรือไง!
“ฉันแคร์เธอทุกวินาทีนะแก้ว...”
“ฉันไม่เชื่อ! ขอโทษทีพอดีว่าฉันคนนี้ตาสว่างแล้ว และจะไม่ยอมกลับไปเดินทางนรกที่นายฉุดฉันลงไปอีกครั้งหรอกนะโทโมะ”
“แล้วกันสิ...”
“แล้วกันสิได้ไงล่ะ อย่ามาตัดพ้อฉันแบบนั้น! คนที่ควรพูดคือฉันไม่ใช่นาย!”
โทโมะถอนหายใจหนักๆ เดาว่าเขาคงเหนื่อยใจกับฉันมากพอสมควร บ้าสิ! ฉันควรจะเป็นคนเหนื่อยใจมากกว่าเขาเป็นร้อยเป็นพันเท่านะ สาบานเลยว่าฉันเกลียดโทโมะจริงๆ ดูเอาเถอะ ขนาดฉันแสดงออกว่ารังเกียจเขาแค่ไหน คนหน้ามึนยังคงสวมกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อยแถมยังฉวยโอกาสจูบแก้มฉันได้อย่างหน้าตาเฉยไม่อายฟ้าดิน!
“เด็กดื้อก็ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรฉันเลยสินะ”
“นายมีเหตุผลด้วยหรือไงคนบ้า!”
“แล้วเธออยากได้เหตุผลข้อไหนล่ะ...ฉันตอบเธอได้ทุกอย่างแหละแก้ว”
ตอนหน้าจบสัญญาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคับบบ+0+
โทโมะมาง้อแก้วใจแย้วน้า อย่าว่าป๊านุกอีกล้ะอิอิ
รอฟังเหตุผลเค้าหน่อยยยถึงจะร้ายไปนิดเลวไปมาก?
แต่ร้ากกแก้วที่สุดในโลกกกก ^O^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ