Friend With Benefit เพื่อนกันฉัน(แอบ)รักเํธอ

9.8

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.16 น.

  8 ตอน
  226 วิจารณ์
  26.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

          หลังจากวันนั้น...วันที่โทโมะเลือกที่จะเดินหันหลังกลับออกไปโดยไม่แม้แต่จะปริปากพูดอะไรกับฉันสักคำ เราสองคนก็เหมือนตัดขาดจากกันและกันไปโดยปริยาย ทั้งที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน...แต่ฉันกลับรู้สึกว่าโลกของไม่มีภาพของฉันหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่เดินผ่าน...กระแสเย็นชาจากสายตาของโทโมะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าความสัมพันธ์ของเรา...ยุติลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

 

 

ฉันควรจะยินดีสิ...ไม่ใช่ว่ามานั่งเสียใจอยู่แบบนี้

 

 

 

“แก้ว วาเลนไทน์พรุ่งนี้ไปฉลองกันที่ทาวเวอร์นะ ปีนี้เขาจัดงานยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้วเป็นสิบเท่าเลย ไปนะๆ...แกชวนป๊อปไปด้วยก็ได้ รับรองว่าถึงฉันจะไปด้วยแต่จะไม่ทำตัวเป็นก้างขวางคอแน่”  ยัยตัวแสบคะยั้นคะยอฉันตั้งแต่เลิกเรียนจนกระทั่งกลับบ้าน

 

 

 

            ก็อยากจะปฏิเสธอยู่หรอก ฉันกล้าพูดได้เลยว่าไม่ต้องการไปเหยียบที่นั่นอีกเพราะเมื่อสองปีที่แล้ว...คนบางคน แอบพาฉันไปที่นั่น ที่ๆมีตึกสูงๆถูกประดับไว้ด้วยไฟหลากสีสัน มีเสียงดนตรีจากเวทีขับกล่อมทั้งงานวันวาเลนไทน์ที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สีหน้าของผู้คนภายในงานดูมีความสุขกับวันแห่งความรัก ต่างกับฉันเมื่อปีที่แล้ว...ฉันย้อนกลับไปที่นั่นเพียงลำพังเพราะคนบางคน...พาผู้หญิงคนอื่นไปและนั่นหมายความว่า ฉันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย...

 

 

 

“ก็ได้ๆ”   ฉันตัดบทฟางเพราะความรำคาญที่ยัยนี่แต่เขย่าแขนฉันอยู่นั่นไม่ยอมเลิกรา ก่อนที่สุดท้ายจะตัวจะร้องลั่นเหมือนเด็กๆได้ของถูกใจไม่มีผิด เหอะ! ก็แค่ไปงานวาเลนไทน์...ก็แค่นั้น วันนี้มันไม่มีความหมายกับฉันมาสองปีกว่าแล้วล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            บรรยากาศภายในงานยามเย็นดูครึกครื้นกว่าปีก่อนมาก นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อสองปีก่อนงานเพิ่งจะเริ่มจัดเป็นรอบแรกๆ อะไรหลายๆอย่างเลยยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นัก  และคงไม่ต้องให้บอกว่าผู้คนที่พากันมาที่นี่จะเป็นใครถ้าไม่ใช่คู่รักกัน...ฉันถอนหายใจลึกยาวมองภาพเหล่านั้นอย่างชินชา ปีที่ผ่านมา โทโมะก็ทำแบบนี้กับฉันมาโดยตลอด ควงผู้หญิงคนอื่น...แดสงความรักกับผู้หญิงคนอื่น...ต่อหน้าฉัน ฉันเจ็บจนเรียกได้ว่ามันชินชาเกินกว่าอะไรแล้วล่ะ

 

 

 

“ไม่สบายหรือเปล่าแก้ว ดูหน้าเธอซีดๆนะ...”  ป๊อปปี้หันมาถามฉันด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะใช้หลังมืออังหน้าผากฉันเบาๆ 

 

 

 

“เปล่าหรอก พวกเธอสองคนก็เดินดูอะไรไปก่อนก็แล้วกัน ฉันว่าจะเข้าไปนั่งเล่นในสวนสักพัก งานเริ่มแล้วโทรตามฉันด้วยนะ” 

 

 

 

“ไม่ใช่ว่าทำใจไม่ได้เพราะใครบางคนเคยพามาที่นี่หรอกนะ ชิ!”

 

 

 

“นี่ฟาง...”  ฟางประชดฉันอย่างรู้ทันพร้อมกับเบ้หน้าใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟางถึงรู้ว่าฉันคิดยังไง เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ถ้าฟางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันเลยนี่สิถือเป็นเรื่องที่แปลก

 

 

 

 

 

            ฉันไม่ได้สนใจอะไรสองคนนั้นอีกได้แต่เดินเลี่ยงออกมาจากงานแล้วตรงเข้าสู่สวนสาธารณะกว้างใหญ่ที่อยู่ติดกับทาวเวอร์ บางที...ร่มไม้สีเขียวกับมุมสลบๆพอให้ฉันไดอยู่คิดอะไรกับตัวองสักพักอาจจะทำให้ใจของฉันเย็นลงบ้างก็ได้ ไม่ต้องคิดถึงภาพเก่าๆพวกนั้นให้หัวใจเจ็บช้ำเล่นๆอีก...

 

 

 

 

            ฉันเดินไปตามทางที่ทอดยาวตลอดทางเดินได้สักพัก สียงลงฝีเท้าเบาๆก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง น่าแปลก...ทั้งที่ไม่ได้หันหลังไปมอง ทั้งที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรไปมากว่านั้น แต่ทำไมฉัน....ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคนที่อยู่ด้านหลังขนาดนี้ เสียงลากฝีเท้าดังเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ...จนฉันต้องหยุดเดินและผลก็คือ...ใครบางคนกำลังยืนทาบขนาบกับฉันอยู่จากด้านหลัง กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคย...กลิ่นนี้...ยังไม่เสื่อมคลายไปจากความทรงจำของฉัน...

 

 

 

โทโมะ...

 

 

 

 

“ตามฉันมาทำไม วันนั้น...นายเลือกที่จะเดินหนีฉันไปไม่ใช่หรือไง!”  ฉันหันหน้ากลับไปพร้อมตบฉาดใหญ่อย่างแรง ตอนนั้น...ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นเขา...

 

 

 

            ใบหน้าหล่อเหาหันไปตามแรงตบ...เป็นเขาจริงๆด้วย เป็นโทโมะจริงๆ...โทโมะเช็ดเลือดมุมปากที่ไหลซิบจากการลงมือหนักๆของฉันออกก่อนจะหันมาสบตากับฉัน นัยน์ตาของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกหลากหลายจนฉันรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าโทโมะคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ถึงเขาจะพูดว่าเสียใจกับเรื่องทั้งหมดมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้วจริงๆ!

 

 

 

“วันนี้ก็เดินมาหาแล้วนี่ไง...”  โทโมะทอดเสียงหวานพลางดึงร่างฉันเข้าไปกอด บ้าเหอะ! ไอ้ที่โดนฉันตบไปเมื่อกี้มันไม่ได้รู้สึกเจ็บระคายอะไรบ้างเลยหรือยังไง ยังจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับฉันได้ลงคออีกเหรอ บ้าที่สุด!

 

 

 

“ปล่อยนะ...อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”

 

 

 

“แก้ว...ฟังกันหน่อยสิ อย่าดื้อ”  เขาดุฉันทั้งที่กอดฉันเอาไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออกแบบนี้  ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมฉันจะต้องยืนนิ่งแทนที่จะดิ้นหนีให้รู้แล้วรู้รอด ให้ตายเหอะ...ฉันเกลียดตัวเองจัง เกลียดมากที่สุกเลยล่ะ!

 

 

 

“ดื้อเหรอ! นายไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้กับฉันเลยด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปฟังคนแปลกหน้าอย่างนาย!”

 

 

“ฉันรักเธอ...”

 

 

 

“....”

 

 

 

            แค่ประโยคเดียว...เพียงประโยคเดียวของเขาทำให้ฉันหยุดชะงักลงอย่างเถียงอะไรไม่ออก ได้แต่สบตากับเขานิ่งๆ นัยน์ตาสีนิลสุกปลั่งคู่นั้นมองฉันอย่างลึกซึ้งอ่อนโยน ทว่า...ร้อนแรงอยู่มีทีจนเกือบแผดเผาฉันทั้งเป็นได้อย่างหน้าไม่อาย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบทรมานฉันนัก เขาจะฆ่าฉันให้ตายด้วยทุกวิธีแบบนี้ไปตลอดเลยหรือไง!

 

 

 

“โทโมะรักแก้วไง...”

 

 

 

“...”

 

 

 

“นี่คือสิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่เหรอเด็กดี...วันนี้ฉันมาพูดให้เธอฟังแล้ว”  โทโมะดึ่งฉันเข้าไปกอดเต็มแรง ไม่สิ! ฉันต้องไม่ใจอ่อนกับคำพูดหลอกลวงพวกนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนใจง่ายแบบนั้น!

 

 

 

 

“ปล่อย! นายคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของคนโกหกอย่างนายได้มากน้อยแค่ไหนกันโทโมะ นายหลอกฉันมากี่ครั้ง นายทำร้ายฉันมากี่ครั้ง...แล้ววันนี้ อยู่ๆนายก็มาบอกว่านายรักฉัน บอกทีสิ...ว่าฉันควรจะเป็นนังโง่ที่หลงเชื่อคำพูดของนายมั้ยโทโมะ ตอบมาสิ!”

 

 

 

“ที่ฉันเลือกเดินหนีเธอวันนั้น เพราะฉันตัดใจจากเธอแล้วไงแก้ว..”

 

 

 

“...”

 

 

 

“ไม่สิ ฉันพยายามตัดใจจากเธอต่างหาก...เธออาจจะมองว่าฉันดกหกเธอได้เป็นร้อยเป็นพันครั้งนะแก้ว แต่ขอให้เชื่อฉันสักครั้ง แค่ครั้งเดียว...แล้วฉันจะไม่ขออะไรจากเธออีก”

 

 

 

“...”

 

 

 

“ฉันไม่กล้าบอกรักเธอรู้มั้ยเด็กดี...ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะดีพอ ไม่กล้าขอกลับไปดูแลเธอ ฉันรู้ดี...ฉันเลวกับเธอมามากและฟางคงไม่ยอมแน่ที่จะให้เธอกลับมาหาฉัน ในเมื่อเธอเองก็มีผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยแล้ว..”

 

 

 

“นายคิดไปเอง! นายไม่รู้หรือไงว่าระหว่างฉันกับป๊อปปี้ไม่ได้ทีอะไรเกี่ยวข้องกันแบบนั้น นายไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นคนแบบไหน เหอะ! ใช่สิ นายไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของฉันอยู่แล้ว ไม่เลย...ไม่สักนิด!”

 

 

 

 

            ฉันสะบัดตัวเตรียมจะเดินหนีผู้ชายใจร้ายคนนี้อีกครั้ง ทว่า...เขากลับเลือกที่จะคว้าร่างฉันไว้ กอดฉันจากทางด้านหลังอย่างแนบแน่น...ใบหน้าหล่อเหลาวางเกยลงบนไหล่ของฉัน ก่อนที่ฉันจะรู้สึกร้อนซ่านเมื่อเขาจูบเบาๆลงบนหัวไหล่ที่โผล่พ้นเสื้อของฉัน ให้ตายเหอะ! ทำไมโทโมะถึงชอบทำให้ฉันอับอายอยู่ตลอดเวลาด้วยนะ ถ้าเกิดมีคนผ่านมาเห็นเข้าฉันไม่ต้องเอาหัวมุดลงดินตายไปเลยหรือไง!

 

 

 

“ฉันแคร์เธอทุกวินาทีนะแก้ว...”

 

 

 

“ฉันไม่เชื่อ! ขอโทษทีพอดีว่าฉันคนนี้ตาสว่างแล้ว และจะไม่ยอมกลับไปเดินทางนรกที่นายฉุดฉันลงไปอีกครั้งหรอกนะโทโมะ”

 

 

 

“แล้วกันสิ...”

 

 

 

“แล้วกันสิได้ไงล่ะ อย่ามาตัดพ้อฉันแบบนั้น! คนที่ควรพูดคือฉันไม่ใช่นาย!” 

 

 

 

            โทโมะถอนหายใจหนักๆ เดาว่าเขาคงเหนื่อยใจกับฉันมากพอสมควร บ้าสิ! ฉันควรจะเป็นคนเหนื่อยใจมากกว่าเขาเป็นร้อยเป็นพันเท่านะ สาบานเลยว่าฉันเกลียดโทโมะจริงๆ ดูเอาเถอะ ขนาดฉันแสดงออกว่ารังเกียจเขาแค่ไหน คนหน้ามึนยังคงสวมกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อยแถมยังฉวยโอกาสจูบแก้มฉันได้อย่างหน้าตาเฉยไม่อายฟ้าดิน!

 

 

“เด็กดื้อก็ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรฉันเลยสินะ”

 

 

 

“นายมีเหตุผลด้วยหรือไงคนบ้า!”

 

 

 

 

“แล้วเธออยากได้เหตุผลข้อไหนล่ะ...ฉันตอบเธอได้ทุกอย่างแหละแก้ว”

 

 

 


ตอนหน้าจบสัญญาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคับบบ+0+

 

โทโมะมาง้อแก้วใจแย้วน้า อย่าว่าป๊านุกอีกล้ะอิอิ

 

รอฟังเหตุผลเค้าหน่อยยยถึงจะร้ายไปนิดเลวไปมาก?

 

แต่ร้ากกแก้วที่สุดในโลกกกก ^O^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา