K - chaos หอพักอลเวง (ฉบับ New remix)
9.9
เขียนโดย because_for_love
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.54 น.
29 ตอน
35 วิจารณ์
41.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 22.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ฝาแฝดอัจฉริยะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ k school @ class room
ห้องเรียนที่แสนจะครื่นเครงห้องนี้ ที่จริงแล้ว ยังมีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่ ยังมีกลุ่มๆนึงกำลังจับหัวคุยกัน โดยไม่ฟังคำสอนจากอาจารย์ของพวกเขา กลุ่มๆนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าึคน จริงๆแล้วมีหกแต่เขาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากเขาคิดว่าการเรียนมันน่าเบื่อหน่ายเกินกว่าจะรับไหว ในขณะที่ทุกคนปรึกษากันอยู่นั้น เหล่านักเรียนที่นั่งรายล้อมพวกเขา่ ต่างพากันซุบซิบนินทา ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวอาจารย์เอง ก็มีเอี่ยวกับพวกเขาด้วย คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กเกเรและมีปัญหา แต่ในทางกลับกัน ตัวของพวกเขาเองมากกว่าที่คิดว่า ตนพิเศษกว่าใครๆ จนทำให้คนอื่นๆต้องคอยอิจฉาพวกเขา
" ดูเจ้าพวกนั้นสิ คิดจะแข็งข้อกับอาจารย์หรือยังไงกัน " นักเรียน A พูดขึ้น
" พวกเด็กมีปัญหาก็แบบนี้แหละ " นักเรียน B พูดตาม
" สมแล้วล่ะ ที่ต้องไปอยู่หอแบบนั้น " นักเรียน C ปิดท้าย
และนี่แหละ คือสิ่งที่สมาชิกในกลุ่มได้ยินซ้ำๆทุกๆวัน มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ที่จะต้องฟังคำพูดที่ไม่ได้รับการศึกษาแบบนั้น แต่สำหรับพวกเขาแล้ว หาใช่เรื่องสำคัญไม่ ต่างแต่รู้สึกสมเพชเวทนาซะมากกว่า ใครกันเล่าที่เป็นตัวประหลาด ใครกันเล่าที่แตกต่างออกไป คำถามเหล่านั้น ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้ พวกเขาขอแค่เพียงให้ทุกคนยอมรับในตัวพวกเขาก็เท่านั้น
" ฟาง ! เธอกำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ " ชายหนุ่มท่าทางใจดี เอ่ยถามหญิงสาวร่างเล็กที่ชื่อว่าฟางด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากสีหน้าที่ดูเป็นกังวลของเธอ ทำเอาชายหนุ่มหนักใจยิ่งนัก
" ป๊อปปี้ นายคิดว่า นักเรียนที่ย้ายมาใหม่ จะเป็นคนแบบไหน ? " ฟางเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มพูดถึง
" ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่า เขาอาจจะมีบางอย่างที่เหมือนกับพวกเราก็ได้ " คนที่ชื่อป๊อปปี้ตอบกลับมา
" อาจจะซื่อบื้อเหมือนไอ้เคนตะก็ได้นะ " ชายหนุ่มท่าทางพูดมาก บอกกับคนในกลุ่มของเขา
" ไอ้เขื่อน ทำไมเรื่องที่นายพูด จะต้องมีฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะวะ ? " ชายที่ชื่อเคนตะ เอ่ยถามคนที่ชื่อเขื่อนอย่างไม่พอใจ
" ก็ความคิดของฉันนี่นา ทำไงได้ล่ะ " เขื่อนบอกเหตุผล ถึงคำพูดของเขา และด้วยคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจนั้น ทำเอาอารมณ์โกรธของเคนตะ เริ่มที่จะปะทุขึ้น
" ไอ้-เขื่อน ! นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ " เคนตะเริ่มจะเดือดขึ้นมาแล้ว แต่ท่ามกลางคนหมู่มาก และสิ่งที่เพื่อนสนิทของเขาได้เตือนเอาไว้ เขาจึงยังไม่ได้แสดงกริยาที่รุนแรงออกมามากนัก
" เอาน่าๆ .. ใจเย็นๆกันหน่อยสิ ไอ้หมอนี่ก็แค่ปากหมาเท่านั้นเอง " หญิงสาวแก้มป่องพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไร แต่ดูเหมือนประโยคสุดท้าย จะมีความหมายที่พาดพิงอย่างชัดเจน
" นี่เธอ ! กล้าว่าฉันปากเหมือนหมาเหรอ ? " เขื่อนต่อว่าเธอคนนั้นทันที
" นายพูดเองน่า " เฟย์ยังคงสนุกกับการทำให้เขื่อนหงุดหงิด
" ยัย .. คอยดูเถอะ ! " เขื่อนชักจะทนไม่ไหว เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว และเมื่อได้จังหวะกับระยะที่เหมาะสม เขื่อนจึงลั่นวาจาขึ้น
" รับไปซะยัยถั่วเน่า ท่าไม้ตายของไอ้เขื่อน จุมพิตพิฆาตตตต ! " เขื่อนพุ่งใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังเร็วไม่พอที่จะรอดพ้นจากสายตาของเธอ เฟย์ยิ้มเยาะอย่างมั่นใจ ราวกับว่าจุมพิตนั่นจะไม่มีทางโดนใบหน้าของเธอ
" เคนตะบาเรียยย ! " เฟย์ร่ำร้องท่าป้องกันของตน ก่อนที่เธอจะกระชากตัวของเคนตะเข้ามากันไว้ เสมือนบาเรียปกป้องสิ่งแปลกปลอมไม่มีผิด และจากเหตุการณ์นั่นเอง ทำให้ปากของเขื่อน ไปชนกับปากของเคนตะโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นเหมือนดั่งฝันร้ายสำหรับพวกเขาทั้งสอง ที่จะต้องเจออะไรที่น่าขยะแขยงแบบนั้น และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ ภาพอุบาททั้งหมด ถูกจับตามองด้วยเพื่อนนักเรียนของพวกเขา แม้กระทั้งตัวอาจารย์เอง ก็ยังอึ้งกับภาพบาดตา ที่ส่งผลกระทบต่อสมองของเด็กอนุบาลเป็นอย่างมาก
" คิดจะกินกันเองหรือไงเนี่ย " นักเรียน A พูดขึ้นอย่างแปลกใจ
" พี่แกช่างกล้าซะจริงๆ " นักเรียน B กล่าวขึ้นอย่างสงสัย
" ผีขนุนจงเจริญ " นักเรียน C ใช้น้ำเสียงอย่างเยือกเย็น ก่อนที่ทั้งสามจะยกมือขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นทั้งสองก็รีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว มันเร็วยิ่งกว่าเสียงซะอีก แต่ทั้งเขื่อนกับเคนตะต่างก็หน้าแดงกร่ำทั้งคู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเขินอายหรือความอุบาทที่ทำไว้กันแน่
" นี่ ! พวกนายเลิกไร้สาระกันได้แล้ว มาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า " เฟย์เปลี่ยนประเด็นอย่างเร็ว ราวกับว่า เรื่องทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้นเลย
" มันเป็นเพราะเธอไม่ใช่หรือไงห่ะ ยัยถั่วเน่า " เขื่อนยังคงโกรธเฟย์อยู่ เพราะเธอเป็นต้นเหตุทำให้เขาเสียจูบแรกให้กับเคนตะ ส่วนเคนตะเอง ก็แค้นเคืองเธอเช่นกัน เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เขาไม่ค่อยจะถูกชะตากับเขื่อนซักเท่าไร
" นั่นอะไรน่ะเฟย์ " ฟางถามน้องสาวของตนทันทีที่เห็นเฟย์กำลังหยิบสมุดเล่มนึงขึ้นมา
" อ่อ ! นี่เป็นข้อมูลของเด็กใหม่น่ะ กว่าจะรวบรวมมาได้ แทบจะไม่ได้นอนเลยล่ะ " เฟย์บอกกับฟาง ถึงเรื่องที่เธอต้องทุ่มเทค้นคว้าหาข้อมูลใหม่ๆมาบอกพวกเขา
" แล้วในนั้น มีข้อมูลของเด็กใหม่ที่จะย้ายมาอยู่ในหอของเราด้วยหรือป่าว ? " ป๊อปปี้ถามเฟย์อย่างสงสัย
" แน่นอนสิ อยู่ไหนน่า ~ " เฟย์เริ่มเปิดสมุดบันทึกของเธอทันที
" อ่ะ .. เจอแล้ว นี่ไง ! " เฟย์พูดขึ้นอย่างตกใจ จากนั้นเธอก็เริ่มอ่านข้อมูลที่เพิ่งรวบรวมมาได้ให้พวกเขาได้ฟัง
" ดูเหมือนสมาชิกใหม่จะมีสองคนนะ " เฟย์บอกกับเพื่อนๆ
" มีสองคนเหรอ ? " เคนตะพูด
" งั้นหอเราก็เต็มพอดีน่ะสิ " เขื่อนบ่นขึ้น
" ที่สำคัญก็คือ พวกเขาน่ะ เป็นฝาแฝดกัน " เฟย์อธิบายต่อ
" แฝดยังงั้นเหรอ เป็นหญิงหรือชายล่ะ " เขื่อนถามเฟย์อย่างมีความหวัง
" เป็นแฝดชาย - หญิงน่ะ คนพี่ชื่อจองเบ ส่วนคนน้องชื่อว่าแก้ว " เฟย์บอกกับทุกคน
" แก้วกับจองเบยังงั้นเหรอ ? ไม่เห็นจะคล้องจองกันเลยสักนิด " ฟางเริ่มจับประเด็นหลักของข้อมูลนั่น
" เรื่องนั้น ฉันก็ไม่รู้หรอก " เฟย์ทำหน้าเหมือนจะไม่เข้าใจ เกี่ยวกับชื่อของพวกเขา
" ว่าแต่ พวกเขาเป็นคนแบบไหนกันล่ะ " ป๊อปปี้ถามทันที
" พวกเขาชอบดื่มนมน่ะ " เฟย์อธิบายพฤติกรรมของเด็กใหม่
" ดื่มนมเหรอ ก็ปกติดีนี่น่า " ฟางพูดขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะว่าเด็กปกติอย่างพวกเขา ทำไมต้องมาอยู่ที่ k-chaos ด้วย
" ปกติเหรอ ! ฉันว่าไม่นะ อย่างคนน้องที่ชื่อว่าแก้วเนี่ย เธอเป็นช่างกล้องมือหนึ่งระดับโลกเลยเชียวนะ ภาพของเธอน่ะ ได้รับรางวัลมามากมายทั่วโลกเลยล่ะ " เฟย์ยังคงอ่านสมุดบันทึกเล่มนั้นต่อไป
" ขนาดนั้นเลยเหรอ " ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้ฟังประวัติอันทรงเกียรติของผู้หญิงที่ชื่อแก้ว
" ส่วนคนพี่ก็ ขึ้นชื่อว่าเป็นนักออกแบบอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่ดีที่สุดในโลกเลยด้วย ถึงขนาดทหารอเมริกัน ยังขอซื้ออุปกรณ์ของเขาไปพัฒนาต่อเลย " เฟย์อธิบายอย่างต่อเนื่อง
" นั่นมันอัจฉริยะเกินไปแล้วนะ " เคนตะยังคงตกใจกับประวัติของเด็กใหม่
" พี่ชายเป็นคนสร้าง ส่วนน้องสาวเป็นคนใช้ยังงั้นเหรอ ช่างเป็นพี่น้องที่อัจฉริยะจริงๆ " ป๊อปปี้บ่นขึ้นอย่างตื่นเต้่น
" แต่เราก็มีนักเขียนระดับโลกเป็นเพื่อนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ? " เคนตะพยายามแ้ย้ง
" โทโมะน่ะเหรอ เจ้านั่นสนใจโลกซะที่ไหนล่ะ วันๆเอาแต่นอน แถมยังไม่ยอมมาโรงเรียนอีก " เขื่อนบอกกับทุกคน ถึงข้อบกพร่องของเพื่อน
" ว่าแต่ ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม พวกเขาถึงต้องมาอยู่ใน k-chaos " ป๊อปปี้ยังคงแครงใจกับสิ่งที่เขาสงสัย
" เคยได้ยินหรือเปล่าว่า อัจฉริยะน่ะก็มีข้อบกพร่องอยู่เหมือนกัน " เฟย์พยายามจะสื่อบางอย่าง
" นั่นมันคำพูดของไอ้โทโมะนี่ " เคนตะจำคำพูดของเพื่อนได้แม่น
" ใช่แล้วล่ะ ประโยคนี้น่ะ มันเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ แม้แต่อัจฉริยะที่ไม่ว่าจะเลิศเลอแค่ไหน ก็ยังต้องมีข้อเสียที่ร้ายแรงอยู่บ้าง " เฟย์ยังคงใช้คำพูดที่เข้าใจยาก
" แล้วพวกเขามีข้อเสียอะำไรล่ะ " ฟางเอ่ยถามอย่างสงสัย
" เริ่มจากคนน้องก่อนเลย ยัยนั่นน่ะเป็นอัจฉริยะด้านการถ่ายภาพก็จริง แต่เธอก็เป็นพวกประเภทแอบจิตอยู่อย่างหนึ่ง สิ่งนั่นก็คือ การเฝ้ามองเป็นระยะเวลานานๆยังไงล่ะ " เฟย์อธิบาย
" หมายถึง .. การถ้ำมองน่ะเหรอ ? " ป๊อปปี้พูด
" แบบไหนก็เหมือนกัน แ่ต่เอาเป็นว่า เธอชอบสังเกตุการณ์ผู้คนที่เธอสนใจ โดยไม่ทำให้เขารู้สึกตัวได้ นั่นล่ะ ข้อเสียของเธอ " เฟย์เล่าต่อ
" ฟังดูเหมือนโรคจิตยังไงก็ไม่รู้ " เคนตะชักจะขนลุกขึ้นมา
" แล้วคนพี่ล่ะ " ฟางถามต่อ
" ส่วนพี่ชายที่ชื่อจองเบน่ะ หมอนี่ก็โรคจิตพอๆกัน ได้ยินมาว่า เขาจะกินอาหารแค่มื้อเดียวเท่านั้น " เฟย์เล่ารายละเอียดอย่างต่อเนื่อง
" กินมื้อเดียว แล้วอีกสองมื้อล่ะ " ป๊อปปี้ถามบ้าง
" ถ้าไม่ใช่นม ก็เลือดล่ะมั้ง " เฟย์พูดขึ้น อย่างไม่รู้สึกอะไร แต่ทำเอาเพื่อนๆของเธอต่างหวาดกลัวยิ่งนัก
" เธอหมายถึง ผีดูดเลือดยังงั้นเหรอ " เขื่อนชักจะกลัวขึ้นมา
" เรื่องเลือดนั่นน่ะ ฉันล้อเล่น " เฟย์ยิ้มอย่างสะใจนิดๆ
" ยัยถั่วเน่าเอ้ย " เขื่อนเริ่มไม่พอใจ
" เอาเป็นว่า หมอนั่นกินข้าวหนึ่งมื้อ ส่วนที่เหลือ ก็แล้วแต่เขาล่ะกัน " เฟย์พูดจบก็ปิดสมุดบันทึกของเธอลง เพื่อแสดงให้เห็นว่า การอภิปรายไ้ด้สิ้นสุดลงแล้ว
" คงจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย " ฟางยิ้มอย่างมั่นใจ
จบไปแล้วกับตอนที่ชื่อว่า ฝาแฝดอัจฉริยะ ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะครับ
ห้องเรียนที่แสนจะครื่นเครงห้องนี้ ที่จริงแล้ว ยังมีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่ ยังมีกลุ่มๆนึงกำลังจับหัวคุยกัน โดยไม่ฟังคำสอนจากอาจารย์ของพวกเขา กลุ่มๆนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าึคน จริงๆแล้วมีหกแต่เขาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากเขาคิดว่าการเรียนมันน่าเบื่อหน่ายเกินกว่าจะรับไหว ในขณะที่ทุกคนปรึกษากันอยู่นั้น เหล่านักเรียนที่นั่งรายล้อมพวกเขา่ ต่างพากันซุบซิบนินทา ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวอาจารย์เอง ก็มีเอี่ยวกับพวกเขาด้วย คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กเกเรและมีปัญหา แต่ในทางกลับกัน ตัวของพวกเขาเองมากกว่าที่คิดว่า ตนพิเศษกว่าใครๆ จนทำให้คนอื่นๆต้องคอยอิจฉาพวกเขา
" ดูเจ้าพวกนั้นสิ คิดจะแข็งข้อกับอาจารย์หรือยังไงกัน " นักเรียน A พูดขึ้น
" พวกเด็กมีปัญหาก็แบบนี้แหละ " นักเรียน B พูดตาม
" สมแล้วล่ะ ที่ต้องไปอยู่หอแบบนั้น " นักเรียน C ปิดท้าย
และนี่แหละ คือสิ่งที่สมาชิกในกลุ่มได้ยินซ้ำๆทุกๆวัน มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ที่จะต้องฟังคำพูดที่ไม่ได้รับการศึกษาแบบนั้น แต่สำหรับพวกเขาแล้ว หาใช่เรื่องสำคัญไม่ ต่างแต่รู้สึกสมเพชเวทนาซะมากกว่า ใครกันเล่าที่เป็นตัวประหลาด ใครกันเล่าที่แตกต่างออกไป คำถามเหล่านั้น ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้ พวกเขาขอแค่เพียงให้ทุกคนยอมรับในตัวพวกเขาก็เท่านั้น
" ฟาง ! เธอกำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ " ชายหนุ่มท่าทางใจดี เอ่ยถามหญิงสาวร่างเล็กที่ชื่อว่าฟางด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากสีหน้าที่ดูเป็นกังวลของเธอ ทำเอาชายหนุ่มหนักใจยิ่งนัก
" ป๊อปปี้ นายคิดว่า นักเรียนที่ย้ายมาใหม่ จะเป็นคนแบบไหน ? " ฟางเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มพูดถึง
" ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่า เขาอาจจะมีบางอย่างที่เหมือนกับพวกเราก็ได้ " คนที่ชื่อป๊อปปี้ตอบกลับมา
" อาจจะซื่อบื้อเหมือนไอ้เคนตะก็ได้นะ " ชายหนุ่มท่าทางพูดมาก บอกกับคนในกลุ่มของเขา
" ไอ้เขื่อน ทำไมเรื่องที่นายพูด จะต้องมีฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะวะ ? " ชายที่ชื่อเคนตะ เอ่ยถามคนที่ชื่อเขื่อนอย่างไม่พอใจ
" ก็ความคิดของฉันนี่นา ทำไงได้ล่ะ " เขื่อนบอกเหตุผล ถึงคำพูดของเขา และด้วยคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจนั้น ทำเอาอารมณ์โกรธของเคนตะ เริ่มที่จะปะทุขึ้น
" ไอ้-เขื่อน ! นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ " เคนตะเริ่มจะเดือดขึ้นมาแล้ว แต่ท่ามกลางคนหมู่มาก และสิ่งที่เพื่อนสนิทของเขาได้เตือนเอาไว้ เขาจึงยังไม่ได้แสดงกริยาที่รุนแรงออกมามากนัก
" เอาน่าๆ .. ใจเย็นๆกันหน่อยสิ ไอ้หมอนี่ก็แค่ปากหมาเท่านั้นเอง " หญิงสาวแก้มป่องพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไร แต่ดูเหมือนประโยคสุดท้าย จะมีความหมายที่พาดพิงอย่างชัดเจน
" นี่เธอ ! กล้าว่าฉันปากเหมือนหมาเหรอ ? " เขื่อนต่อว่าเธอคนนั้นทันที
" นายพูดเองน่า " เฟย์ยังคงสนุกกับการทำให้เขื่อนหงุดหงิด
" ยัย .. คอยดูเถอะ ! " เขื่อนชักจะทนไม่ไหว เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว และเมื่อได้จังหวะกับระยะที่เหมาะสม เขื่อนจึงลั่นวาจาขึ้น
" รับไปซะยัยถั่วเน่า ท่าไม้ตายของไอ้เขื่อน จุมพิตพิฆาตตตต ! " เขื่อนพุ่งใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังเร็วไม่พอที่จะรอดพ้นจากสายตาของเธอ เฟย์ยิ้มเยาะอย่างมั่นใจ ราวกับว่าจุมพิตนั่นจะไม่มีทางโดนใบหน้าของเธอ
" เคนตะบาเรียยย ! " เฟย์ร่ำร้องท่าป้องกันของตน ก่อนที่เธอจะกระชากตัวของเคนตะเข้ามากันไว้ เสมือนบาเรียปกป้องสิ่งแปลกปลอมไม่มีผิด และจากเหตุการณ์นั่นเอง ทำให้ปากของเขื่อน ไปชนกับปากของเคนตะโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นเหมือนดั่งฝันร้ายสำหรับพวกเขาทั้งสอง ที่จะต้องเจออะไรที่น่าขยะแขยงแบบนั้น และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ ภาพอุบาททั้งหมด ถูกจับตามองด้วยเพื่อนนักเรียนของพวกเขา แม้กระทั้งตัวอาจารย์เอง ก็ยังอึ้งกับภาพบาดตา ที่ส่งผลกระทบต่อสมองของเด็กอนุบาลเป็นอย่างมาก
" คิดจะกินกันเองหรือไงเนี่ย " นักเรียน A พูดขึ้นอย่างแปลกใจ
" พี่แกช่างกล้าซะจริงๆ " นักเรียน B กล่าวขึ้นอย่างสงสัย
" ผีขนุนจงเจริญ " นักเรียน C ใช้น้ำเสียงอย่างเยือกเย็น ก่อนที่ทั้งสามจะยกมือขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นทั้งสองก็รีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว มันเร็วยิ่งกว่าเสียงซะอีก แต่ทั้งเขื่อนกับเคนตะต่างก็หน้าแดงกร่ำทั้งคู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเขินอายหรือความอุบาทที่ทำไว้กันแน่
" นี่ ! พวกนายเลิกไร้สาระกันได้แล้ว มาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า " เฟย์เปลี่ยนประเด็นอย่างเร็ว ราวกับว่า เรื่องทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้นเลย
" มันเป็นเพราะเธอไม่ใช่หรือไงห่ะ ยัยถั่วเน่า " เขื่อนยังคงโกรธเฟย์อยู่ เพราะเธอเป็นต้นเหตุทำให้เขาเสียจูบแรกให้กับเคนตะ ส่วนเคนตะเอง ก็แค้นเคืองเธอเช่นกัน เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เขาไม่ค่อยจะถูกชะตากับเขื่อนซักเท่าไร
" นั่นอะไรน่ะเฟย์ " ฟางถามน้องสาวของตนทันทีที่เห็นเฟย์กำลังหยิบสมุดเล่มนึงขึ้นมา
" อ่อ ! นี่เป็นข้อมูลของเด็กใหม่น่ะ กว่าจะรวบรวมมาได้ แทบจะไม่ได้นอนเลยล่ะ " เฟย์บอกกับฟาง ถึงเรื่องที่เธอต้องทุ่มเทค้นคว้าหาข้อมูลใหม่ๆมาบอกพวกเขา
" แล้วในนั้น มีข้อมูลของเด็กใหม่ที่จะย้ายมาอยู่ในหอของเราด้วยหรือป่าว ? " ป๊อปปี้ถามเฟย์อย่างสงสัย
" แน่นอนสิ อยู่ไหนน่า ~ " เฟย์เริ่มเปิดสมุดบันทึกของเธอทันที
" อ่ะ .. เจอแล้ว นี่ไง ! " เฟย์พูดขึ้นอย่างตกใจ จากนั้นเธอก็เริ่มอ่านข้อมูลที่เพิ่งรวบรวมมาได้ให้พวกเขาได้ฟัง
" ดูเหมือนสมาชิกใหม่จะมีสองคนนะ " เฟย์บอกกับเพื่อนๆ
" มีสองคนเหรอ ? " เคนตะพูด
" งั้นหอเราก็เต็มพอดีน่ะสิ " เขื่อนบ่นขึ้น
" ที่สำคัญก็คือ พวกเขาน่ะ เป็นฝาแฝดกัน " เฟย์อธิบายต่อ
" แฝดยังงั้นเหรอ เป็นหญิงหรือชายล่ะ " เขื่อนถามเฟย์อย่างมีความหวัง
" เป็นแฝดชาย - หญิงน่ะ คนพี่ชื่อจองเบ ส่วนคนน้องชื่อว่าแก้ว " เฟย์บอกกับทุกคน
" แก้วกับจองเบยังงั้นเหรอ ? ไม่เห็นจะคล้องจองกันเลยสักนิด " ฟางเริ่มจับประเด็นหลักของข้อมูลนั่น
" เรื่องนั้น ฉันก็ไม่รู้หรอก " เฟย์ทำหน้าเหมือนจะไม่เข้าใจ เกี่ยวกับชื่อของพวกเขา
" ว่าแต่ พวกเขาเป็นคนแบบไหนกันล่ะ " ป๊อปปี้ถามทันที
" พวกเขาชอบดื่มนมน่ะ " เฟย์อธิบายพฤติกรรมของเด็กใหม่
" ดื่มนมเหรอ ก็ปกติดีนี่น่า " ฟางพูดขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะว่าเด็กปกติอย่างพวกเขา ทำไมต้องมาอยู่ที่ k-chaos ด้วย
" ปกติเหรอ ! ฉันว่าไม่นะ อย่างคนน้องที่ชื่อว่าแก้วเนี่ย เธอเป็นช่างกล้องมือหนึ่งระดับโลกเลยเชียวนะ ภาพของเธอน่ะ ได้รับรางวัลมามากมายทั่วโลกเลยล่ะ " เฟย์ยังคงอ่านสมุดบันทึกเล่มนั้นต่อไป
" ขนาดนั้นเลยเหรอ " ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้ฟังประวัติอันทรงเกียรติของผู้หญิงที่ชื่อแก้ว
" ส่วนคนพี่ก็ ขึ้นชื่อว่าเป็นนักออกแบบอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคที่ดีที่สุดในโลกเลยด้วย ถึงขนาดทหารอเมริกัน ยังขอซื้ออุปกรณ์ของเขาไปพัฒนาต่อเลย " เฟย์อธิบายอย่างต่อเนื่อง
" นั่นมันอัจฉริยะเกินไปแล้วนะ " เคนตะยังคงตกใจกับประวัติของเด็กใหม่
" พี่ชายเป็นคนสร้าง ส่วนน้องสาวเป็นคนใช้ยังงั้นเหรอ ช่างเป็นพี่น้องที่อัจฉริยะจริงๆ " ป๊อปปี้บ่นขึ้นอย่างตื่นเต้่น
" แต่เราก็มีนักเขียนระดับโลกเป็นเพื่อนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ? " เคนตะพยายามแ้ย้ง
" โทโมะน่ะเหรอ เจ้านั่นสนใจโลกซะที่ไหนล่ะ วันๆเอาแต่นอน แถมยังไม่ยอมมาโรงเรียนอีก " เขื่อนบอกกับทุกคน ถึงข้อบกพร่องของเพื่อน
" ว่าแต่ ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม พวกเขาถึงต้องมาอยู่ใน k-chaos " ป๊อปปี้ยังคงแครงใจกับสิ่งที่เขาสงสัย
" เคยได้ยินหรือเปล่าว่า อัจฉริยะน่ะก็มีข้อบกพร่องอยู่เหมือนกัน " เฟย์พยายามจะสื่อบางอย่าง
" นั่นมันคำพูดของไอ้โทโมะนี่ " เคนตะจำคำพูดของเพื่อนได้แม่น
" ใช่แล้วล่ะ ประโยคนี้น่ะ มันเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ แม้แต่อัจฉริยะที่ไม่ว่าจะเลิศเลอแค่ไหน ก็ยังต้องมีข้อเสียที่ร้ายแรงอยู่บ้าง " เฟย์ยังคงใช้คำพูดที่เข้าใจยาก
" แล้วพวกเขามีข้อเสียอะำไรล่ะ " ฟางเอ่ยถามอย่างสงสัย
" เริ่มจากคนน้องก่อนเลย ยัยนั่นน่ะเป็นอัจฉริยะด้านการถ่ายภาพก็จริง แต่เธอก็เป็นพวกประเภทแอบจิตอยู่อย่างหนึ่ง สิ่งนั่นก็คือ การเฝ้ามองเป็นระยะเวลานานๆยังไงล่ะ " เฟย์อธิบาย
" หมายถึง .. การถ้ำมองน่ะเหรอ ? " ป๊อปปี้พูด
" แบบไหนก็เหมือนกัน แ่ต่เอาเป็นว่า เธอชอบสังเกตุการณ์ผู้คนที่เธอสนใจ โดยไม่ทำให้เขารู้สึกตัวได้ นั่นล่ะ ข้อเสียของเธอ " เฟย์เล่าต่อ
" ฟังดูเหมือนโรคจิตยังไงก็ไม่รู้ " เคนตะชักจะขนลุกขึ้นมา
" แล้วคนพี่ล่ะ " ฟางถามต่อ
" ส่วนพี่ชายที่ชื่อจองเบน่ะ หมอนี่ก็โรคจิตพอๆกัน ได้ยินมาว่า เขาจะกินอาหารแค่มื้อเดียวเท่านั้น " เฟย์เล่ารายละเอียดอย่างต่อเนื่อง
" กินมื้อเดียว แล้วอีกสองมื้อล่ะ " ป๊อปปี้ถามบ้าง
" ถ้าไม่ใช่นม ก็เลือดล่ะมั้ง " เฟย์พูดขึ้น อย่างไม่รู้สึกอะไร แต่ทำเอาเพื่อนๆของเธอต่างหวาดกลัวยิ่งนัก
" เธอหมายถึง ผีดูดเลือดยังงั้นเหรอ " เขื่อนชักจะกลัวขึ้นมา
" เรื่องเลือดนั่นน่ะ ฉันล้อเล่น " เฟย์ยิ้มอย่างสะใจนิดๆ
" ยัยถั่วเน่าเอ้ย " เขื่อนเริ่มไม่พอใจ
" เอาเป็นว่า หมอนั่นกินข้าวหนึ่งมื้อ ส่วนที่เหลือ ก็แล้วแต่เขาล่ะกัน " เฟย์พูดจบก็ปิดสมุดบันทึกของเธอลง เพื่อแสดงให้เห็นว่า การอภิปรายไ้ด้สิ้นสุดลงแล้ว
" คงจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย " ฟางยิ้มอย่างมั่นใจ
จบไปแล้วกับตอนที่ชื่อว่า ฝาแฝดอัจฉริยะ ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ