เอล คนทะลุมิติ chapter 1

ฮัค เฟนดี

วายร้ายเหนือมนุษย์ที่หลอกล่อให้เอลเข้าสู่แดนมรณะโลกจำลองจากมนตรา และเล่นเกมมรณะซึ่งตนเองคิดว่ามีโอกาสร้อยเปอร์เซนต์ เขาคิดว่าแผนการของเขาจะช่วงชิงพลังเหนือมนุษย์ของเอลมาได้อย่างแน่นอนเพราะโอกาสแพ้เป็นศูนย์

แต่เขาคิดผิดและต้องจบชีวิตเพราะความประมาทเลินเล่อของตนเอง

นั่นเพราะเขาไม่รู้ว่ากลอนประตูของเสีย มันล๊อคไม่ได้

เขาแอบดูเอลจากห้องของเขาด้วยกล้องส่องทางไกลมาตลอดเวลาหลายเดือน 

แรกๆ เขารู้ว่าเอลมีพลังความเร็ว เขาเห็นเอลหายตัวไปต่อหน้าต่อตาของเขาหลายครั้ง แต่เขากลับไม่แน่ใจว่าเอลจะมีพลังเข้าสู่โลกต่างมิติ จนกระทั่งพบเอลดึงเอ็ทเข้าสู่ในโลกต่างมิติในวันนั้น

เขาเป็นคนส่งจดหมายเรียกให้ซินเด็กสาวนั้นมาดักรอเอลที่หน้าหอพักเซเว่น เพื่อทำให้เอลเสียสมาธิจนลืมล๊อคกลอนประตูจากในห้อง เขาคิดว่าความน่าจะเป็นที่เอลจะไม่ล็อคกลอนประตูจากในห้องมีเพียงแค่สามสิบเปอร์เซนต์ แต่หากทำให้เอลเสียสมาธิก็จะทำให้มีโอกาสมากถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าจะให้ถึงร้อยเปอร์เซนต์ต้องทำให้เอลเปิดประตูออกมาอีกครั้งโดยที่เขาสอดกระดาษมนตรานั้นไว้ที่ใกล้หน้าห้องเพื่อหลอกให้เอลสงสัยและเปิดประตูออกมาอีกครั้งเพื่อดูว่าใครเป็นคนสอดกระดาษนั้นเข้ามาในห้อง

และเมื่อเอลซึ่งเป็นพวกไอคิวสูงเห็นคำในกระดาษมนตรานั้นจะต้องยกขึ้นลองอ่าน และเมื่ออ่านมนตรา มันก็จะดึงเอาเขาและคู่ต่อสู้เข้าสู่แดนมรณะ โลกซึ่งสร้างขึ้นจากพลังมนตราของเขา

และเมื่อนั้นเขาก็จะเล่นเกมมรณะซึ่งเขาวางเอาไว้อย่างแยบยล

ใครถูกแตะก่อนคนนั้นแพ้และพลังอำนาจจะเป็นของผู้ชนะ

เกมมรณะนั้นเขามีโอกาสชนะเอลมากถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

แต่ความประมาททำให้เขากลับไม่รู้ว่ากลอนประตูห้องของเขาเสียและล๊อคไม่อยู่ และชะตากรรมนำพาให้เดลมาเป็นผู้มาทำลายความหวังของเขาจนสิ้น แค่เดลออกแรงบิดลูกบิดแรง ประตูก็ปลดล๊อคไปในทันที

เขาเสียชีวิตในทันทีที่เดลแตะต้องไปที่ร่างของเขา

ฮัค เฟนดี ผู้ดูแลเครื่องส่งสัญญาณภาพและระบบไฟฟ้าในโรงเรียนเซนต์แอนเจิ้ลบรรจงวางกับดักซ้อนกับดักไว้อย่างแยบยลตั้งแต่ตอนติดตั้งกล้องในโรงเรียนเพื่อคอยดูพฤติกรรมของเอล กล้องในห้องเก็บของที่โรงเรียนคือกล้องซึ่งสามารถส่งภาพของแอนนาและเอลส่งออกไปทั่วโรงเรียน

เขาคือคู่ขาของเอ็ท ดีโด้คบหามีความสัมพันธ์กันมาสองสามปี ก่อนหน้านั้นเขาพบกับพลังอำนาจเหนือมนุษย์เมื่อห้าปีที่แล้ว เมื่อพบว่าเอ็ทซึ่งมีนิสัยใจคอตรงกันและเป็นพวกเหนือมนุษย์ด้วยกันจึงคบหากันอย่างลับๆและร่วมมือกันตามหาพวกเหนือมนุษย์ด้วยสัมผัสพิเศษเหนือมนุษย์ เขาเชื่อเรื่องราวของกฎเหนือโลกที่เอ็ทเล่าให้ฟังและใช้สิ่งที่กฎเหนือโลกบอกคอยระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา

เขาวางแผนเล่นงานพวกเหนือมนุษย์มาแล้วสองคน และแบ่งพลังกันไปครอบครองเท่าๆกัน แต่เขารู้ว่าเอ็ทเป็นคนไว้ใจไม่ได้ สักวันเอ็ทจะต้องจัดการกับเขาอย่างแน่นอนเมื่อทนอำนาจด้านมืดไม่ได้ เขาเองก็เช่นกัน เขาเองก็ไม่ไว้ใจอำนาจด้านมืดของตนเองเช่นกัน แม้เขาเองก็อาจจะฆ่าคู่ขาเอ็ทได้หากตกอยู่ในด้านมืด เขาจึงวางแผนซ้อนแผนเพื่อจัดการกับเอ็ทไปด้วยเมื่อจัดการกับเอลได้แล้ว

เขาไปที่รถไฟฟ้าและเขียนบอกทางให้เอลมาหาเอ็ทบนกระจกรถไฟฟ้านั้น  

ขณะที่เอลไปหาเอ็ทที่บ้านพัก

เขาเห็นเอลใช้พลังข้ามมิติดึงเอ็ทเข้าสู่โลกต่างมิติ จึงลองใช้มนตราเข้าสู่แดนมรณะและพบว่ามันสามารถมองทะลุและมองเห็นโลกต่างมิติของเอลได้ เขาแอบคอยดูเอ็ทกับเอลว่าจะทำอย่างไรกัน และเขาจะได้พลังของเอลมาได้อย่างไร

เขาเห็นภูตินรกเป็นครั้งแรก และเห็นมันจัดการกับเอ็ทกับตา

เขาเห็นดวงตาอันน่ากลัวของปีศาจซึ่งจ้องมองมาที่เขาหลังจากจัดการเอ็ทไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาสงสัยไม่หายก็คือทำไมภูตินรกจึงไม่คร่าชีวิตเอลไปด้วยทั้งที่มันมีโอกาส

มันปล่อยเอลไว้ทำไม คือสิ่งที่เป็นปริศนาในใจเขามาตลอด

เอลมีสัมพันธ์อะไรกับภูตินรก หรือว่ากุมความลับสำคัญอันใดไว้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาต้องเอาพลังข้ามมิติของเอลมาให้ได้ เขาจึงพยายามหาทางเล่นงานเอลมาตลอด

                แผนซึ่งฮัควางเอาไว้อย่างดีนั้นกลับพังทลายลงอย่างไม่น่าเชื่อ

นั่นเพราะชะตาของเขาขาด

……………………………………………………………………….

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย”

เสียงของฮัคร่ำร้องให้คนช่วย

เมื่อจิตของเขาเห็นเดลเปิดประตูห้องเข้ามา เขาก็รู้ถึงชะตากรรมของเขาแล้ว

เดลก้าวเท้าเข้าหาเขาพร้อมๆกับล้องก์ซึ่งเดินเข้าหาเอล

มันเป็นการพิสูจน์ว่าดวงของใครจะดีกว่ากัน

ระหว่างล้องก์กับเดลใครจะถึงตัวใครก่อนกัน

ฮัคมองเดลอย่างใจสั่นระริก ความตายคืบคลานเข้ามา เขาไม่เคยคิดว่าจะพบกับเหตุการณ์คับขันเช่นนี้

เขาจำได้ว่าเขาแตะหนังสือเล่มหนึ่ง หนังสือสีขาวเล่มหนึ่ง กฎเหนือโลกซึ่งเอ็ทบอกว่ามีอยู่จริง เมื่อเขาแตะต้องหนังสือเล่มนั้น เขากลับมองเห็นหน้าพวกเหนือมนุษย์มากมาย คนหนึ่งในนั้นคือเอล และชายอีกสองสามคนซึ่งอยู่ในเมืองนี้

ที่สำคัญเขาได้เห็นภาพของตนเองยืนอยู่ต่อหน้าภูตินรก แต่เขาไม่รู้ว่านั่นคือจุดจบแห่งชีวิตของเขา

เวลานี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว มันเป็นความจริงซึ่งเลี่ยงไม่ได้สักนิด

คนถึงฆาตก็ต้องตาย

ภูตินรกเห็นอายุขัยของทุกคน ที่ภูตินรกละเว้นเอลก็เพราะว่ามันเห็นว่าเอลไม่ถึงฆาต

พลังเหนือมนุษย์ซึ่งนำเขาเข้าสู่แดนมรณะไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลยสักนิด พลังนำพาเขาสู่จุดจบอย่างที่เขาคาดไม่ถึง

เขาเคยหลอกพวกเหนือมนุษย์คนหนึ่งเข้าสู่แดนมรณะและใช้เงื่อนไขเกมมรณะเช่นเดียวกันนี้

ใครถูกแตะก่อนคนนั้นแพ้

วันนั้นเขาชนะ วันนี้เขาแพ้

เขาเห็นมันแล้ว

ไม่เพียงเห็นเดลซึ่งแตะต้องร่างของเขาจนทำให้จิตของเขาหลุดออกจากร่างอย่างถาวระ แต่เขากลับเห็นเจ้านั่น     

ภูตินรก มันอยู่ตรงหน้าของเขา

มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่...อย่านะ..

ฮัครู้ว่าการพบเห็นภูตินรกครั้งนี้ คงไม่รอดอย่างแน่นอน ภูตินรกหน้ากระโหลกผีลอยตัวอยู่เหนือร่างของเดล แต่มันซ้อนทับอยู่คนละมิติ และเจ้านั่นไม่ทำอะไรเดล

แต่มันกำลังจะเชือดเขา

“แก.. อย่านะ อย่า….”

ฮัคร้องออกไป

“เจ้าโง่”

เสียงอันเย็นเยือกดังขึ้นพร้อมเคียวปีศาจซึ่งยื่นออกมาอย่างรวดเร็ว มันกระชับเคียวและฟันมันลงไปที่ร่างของฮัคอย่างแรง

“อย่ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

เคียวปีศาจฟันลงไปผ่าร่างฮัคออกเป็นสองท่อน ไฟนรกลุกไหม้ร่างนั้นจนกลายเป็นผงธุลี

จิตของฮัคถูกทำลายจนสิ้นสูญ

เขาตายลงอย่างเจ็บแค้น

ฮัค เฟนดี อายุสามสิบห้าปี ผู้มีคาถาถอดวิญญาณเข้าสู่แดนมรณะ ได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา

                แพทย์ลงความเห็นว่าเขาหัวใจวายกระทันหัน

                ……………………………………………………………………………………..