เอล คนทะลุมิติ chapter 1
-
เขียนโดย pong43
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.
48 ตอน
0 วิจารณ์
56.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
24) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 24 แพ้หมดรูป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแพ้หมดรูป
เสียงของเอลหายไป
พลังของมัน....
“ฉันปิดปากแกอยู่ รับรองแกไม่มีทางส่งเสียงออกมาได้หรอก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่า”
ไอ้บ้า แกจะเอายังไง....
เอลไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับพวกเดียวกันที่ร้ายกาจเช่นนี้
“นี่ไม่ใช่พลังพระเจ้าแล้วจะเรียกว่าอะไรกันล่ะเอล”
อย่า.. อย่า...
เสียงของเอลติดที่ลำคอเหมือนมีก้อนอะไรอุดปากอยู่ พยายามบีบคออ้าปากก็ไม่มีเสียงออกมา
อุ๊บบบบบ..
ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่มีเสียง เขาจึงยกมือกำหมัดตั้งท่าสู้ เขาเพิ่งรู้สึกว่าพลังเหนือมนุษย์นั้นใช้ให้ดีก็ได้ ใช้ให้เลวก็เลวได้สุดขั้วทีเดียว
เจ้านี่มันร้ายกาจ..จะทำยังไงดี..
ทันใดนั้นเขาก็ตาเหลือกลานเมื่อเห็นแอนนากำลังจะแกะกระดุมเม็ดสุดท้ายแล้ว
อย่าทำนะแอนนา...อย่า...
ร่างของแอนนาตรงหน้าแม้ยังใส่เสื้ออยู่แต่ก็เผยให้เห็นยกทรงชั้นในเต็มตา
“อย่าลืมขอบใจฉันที่ทำให้แกได้สมหวังเสียล่ะ..”
จู่ๆ แอนนาก็พุ่งเข้ามากอดเอลไว้อย่างรวดเร็วจนเอลตั้งตัวไม่ทัน
อุ๊บบบบบบ.. เฮ้ย...
เอลตาเหลือกลาน หน้าอกของแอนนาเข้ามาเบียดแน่นที่หน้าอกของเขา เธอกอดรัดเขาแน่นจนเขาอึดอัด แบบนี้ไม่เห็นจะรู้สึกดีสักนิดเลยให้ตายสิ...
เขากำลังคิดว่าก่อนหน้านี้ทำไมไม่รีบหนีไปนะ ปล่อยให้มันเล่นงานแบบนี้มีหวังแย่แน่ และตอนนี้ถ้าพาแอนนาหนีออกไปด้วยเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยแบบนี้ ถ้ามีคนพบเห็นเข้าคงแย่แน่
ร่างของเขาแข็งทื่อปล่อยให้แอนนายิ่งกอดรัดแน่นมากขึ้น เขาคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถูกหญิงสาวกอด จู่แอนนาตาแป๋วก็พยายามประกบริมฝีปากเข้าหาเขา แต่เขาพยายามหลบซ้ายหลบขวาทำให้เธอไม่สามารถประกบปากได้
อย่านะไอ้ชั่ว...
ไม่มีเสียงออกจากปากของเขา ไม่ว่าจะร้องด่าอย่างไร เจ้าวายร้ายคงไม่ได้ยิน
“คุณชอบฉันมากไม่ใช่หรือ จะหนีทำไมกันคะ ทำไมไม่ทำตามที่ใจสั่งล่ะ”
เอลอึ้งกับคำพูดนั้น พูดจบแอนนาก็ใช้วงแขนกอดรัดเขาจนแน่น เขาไม่สามารถสะบัดเธอออกไปได้
เอาวะเป็นไงเป็นกัน..
เขาปล่อยให้แอนนาประกบปาก ริมฝีปากทั้งสองประกบกัน แอนนาเป็นฝ่ายจูบเขาอย่างดูดดื่มตามการสั่งการของผู้บุกรุก เขาก็ปล่อยให้ทำทั้งที่หลับตาปี๋ เขาคิดแผนโอนอ่อนผ่อนตามเพื่อหาโอกาสหนี
“จะเล่นงานฉันอีท่าไหนไม่ทราบเอล” จิตนั้นล่วงรู้ความคิดของเอลตลอดเวลา ขณะนี้มันรับรู้แล้วว่าเอลกำลังวางแผนเพื่อโต้กลับ
“แกโดนดีแน่ในห้องนี้มีกล้องซ่อนอยู่หลายตัว มันกำลังจับภาพคู่ของแกอยู่และถ่ายทอดสดไปทั่วโรงเรียนแล้วล่ะ”
เฮ้ย...อะไรวะ...
เอลกำลังคิดว่าแผนโอนอ่อนผ่อนตามยิ่งทำให้แย่เข้าไปใหญ่ถ้ามีกล้องกำลังแอบถ่ายอยู่จริง เขาหมดทางแก้ตัวแน่..ไม่น่าเลย...
“แกจะดังในชั่วข้ามคืน เกมโอเว่อร์ลัคกี้บอยกู้ดบาย”
เอลรู้ว่าวายร้ายกำลังจะไปแล้วจึงจับแขนแอนนาไว้มั่นแล้วดันตัวออกไป ก่อนที่จะร้องออกมาได้ เพราะไม่ได้ถูกควบคุมอะไรแล้ว เขาพูดได้แล้ว
“อย่าเพิ่งไปสิวะไอ้บ้า อย่าเพิ่งไปปปปปปปปป”
จิตนั้นยังถอนตัวจากแอนนา ทำให้เธอได้สติกลับคืนมาในทันใด
เมื่อเธอเมื่อเห็นเอลจับแขนอยู่ก็ถึงกับร้องลั่นห้อง
“ช่วยด้วยยยยยยยยยย”
เอลถึงกับหน้าซีดเผือดใช้มืออุดปากเธอไว้ไม่ให้ร้อง แอนนาตาเหลือกลานหยุดร้องในทันที แต่น้ำตาเธอไหลอาบหน้าไปแล้ว
“อย่าเสียงดังสิเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน ฉันจะอธิบายให้ฟัง”
เอลปล่อยมือและวิ่งไปบนกองเก้าอี้ปีนขึ้นไปถึงเพดานเพื่อมองหากล้องที่วายร้ายพูดถึง
“อยู่ไหน กล้องอยู่ไหน”
เขาเห็นกล้องตัวหนึ่งวางอยู่ในกองเก้าอี้ที่ซ้อนทับกันอยู่ เมื่อหยิบขึ้นมาก็จ้องมองไปที่รูรับภาพ ทันใดนั้นเหมือนเขาได้เห็นใบหน้าใครคนหนึ่งจากอีกฝากของสายสัญญาณ
“ไอ้ชั่ว” เขาร้องและขว้างกล้องลงพื้นก่อนจะกระทืบมันจนแหลกคาเท้า เขาวิ่งไปหากล้องตัวอื่นอีก แต่ก็หากล้องตัวอื่นไม่พบ
“มันส่งภาพเราไปแล้ว”
เอลสัมผัสได้ถึงเรื่องร้ายๆที่กำลังรอเขาในอนาคตข้างหน้า กล้องคงส่งภาพเมื่อครู่นี้ไปยังเครือข่ายของมันแล้ว และตอนนี้คงออกอากาศสดอย่างที่มันพูดไปแล้ว ทำลายไปก็ไม่มีประโยชน์
“โอย...”
เอลทรุดลงไปนั่งกับพื้นเอามือกุมศีรษะหลับตาเหมือนคนสิ้นหวัง
“เธอทำอะไรกับฉันฮือๆๆๆๆๆ”
เอลไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของแอนนา เกิดมาไม่เคยสิ้นหวังแบบนี้มาก่อน แต่เสียงสะอึกสะอื้นของแอนนาก็ทำให้เขารู้สึกตัว เขาหันมามองเธอ
“แอน...” เขาพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ไม่ว่าแกคือใครก็ตาม ฉันจะต้องหาตัวแกให้เจอ จะอัดแกให้เละเละเละไปเลย ไอ้ชั่ว...
“แอนนา”
ไม่ทันขาดคำแอนนาก็กระโจนออกไปเปิดประตูวิ่งหนีออกจากห้องโดยไม่ฟังเสียงของเขาอีก
เด็กหญิงชายสองสามคนที่หน้าห้องนั้นจ้องมองแอนนาซึ่งวิ่งสวนออกไป แต่กลับมองไม่เห็นเอลซึ่งวิ่งตามออกมาด้วย เพราะเอลใช้ความเร็วเหนือมิติออกจากที่นั่นไปหยุดนิ่งอยู่ที่ชั้นล่างของตัวตึกด้วยความเหนื่อยหอบ สีหน้าของเอลซีดเผือด สมองของเขาตื้อไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เมื่อมองไปเห็นทีวีจอใหญ่ที่ติดข้างฝาก็พบว่ามันกำลังถ่ายทอดภาพเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่
ไอ้ชั่ว...
เขาถึงกับตาเหลือกโตด้วยความตกใจ จนทรุดนั่งลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น
“จะทำยังไงดี... ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที...”
เอลตกอยู่ในสภาพทางตัน เหงื่อกาฬไหลย้อยเต็มหน้า เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี.. เขาไม่มีทางแก้ตัวอะไรได้อีกแล้ว โลกทั้งโลกกำลังพังทลายลงแล้ว
.....................................................................................................................................
เช้าวันถัดมา
เรื่องของทั้งสองคนเป็นที่โจษจันกันทั่วโรงเรียน
วิดีโอคลิปเรทอาร์ส่วนตัวของคนทั้งคู่เมื่อค่ำคืนที่แล้วถูกถ่ายทอดออกรายการโทรทัศน์ภายในโรงเรียน เป็นข่าวฮือฮากันตลอดทั้งวัน ภาพเคลื่อนไหวทั้งหมดถูกส่งไปยังห้องควบคุมสัญญาณโทรทัศน์ มีนักเรียนจำนวนมากมาขอดูแต่อาจารย์ใหญ่กลับไม่อนุญาตและสั่งปิดการถ่ายทอดโทรทัศน์ทั้งวัน
วายร้ายทำสำเร็จมันได้ภาพจากกล้องนั้นก่อนที่เอลจะกระทืบมันจนพัง
เอลก้มหน้ามาตลอดทั้งวันไม่พูดไม่จา เพื่อนๆ ในห้องก็ไม่มีใครกล้าถาม ได้แต่ซุบซิบและแอบมองเขา จนเขารู้สึกอึดอัด
ส่วนแอนนาที่อยู่อีกห้องได้แต่นั่งร่ำไห้ที่ห้องโดยมีเพื่อนคอยปลอบเธออยู่ ชิลด์พยายามไล่คนอื่นให้ไปและอย่าพูดถึงเรื่องนั้น
“เธอทำเรื่องบ้าๆนั่นได้ยังไงนี่ ไม่รักนวลสงวนตัวเลย เสียดายที่ฉันดูคนผิดไปจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะไร้ยางอายแบบนี้” เอมมี่เพื่อนหญิงคนหนึ่งในห้องส่งเสียงเกรี้ยวกราดต่อว่าแอนนา
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ทำ ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้...”
แอนนาพยายามอธิบายทั้งน้ำตา
“ยังมาโกหกอีกหลักฐานก็ทนโท่ออกอย่างนั้น ยังจะเถียงให้มันได้อะไรขึ้นมาแอนนา” วานน่าเพื่อนอีกคนพูดขึ้นด้วยอารมณ์เช่นกัน เธอสนิทกับแอนนาและนั่งอยู่โต๊ะข้างหน้าแอนนา
“ก็ฉันไม่รู้ตัวนี่นา ฉันไม่รู้ตัว” แอนนาร่ำไห้อย่างสะอึกสะอื้น “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...”
“หยุดว่าเธอได้แล้ว ฉันเชื่อว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล ทุกคนหยุดก่อนเถอะ เราต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนถึงตัดสินเธอ”
ชิลด์ร้องลั่น ทุกคนในห้องต่างหยุดวิพากษ์วิจารณ์
“ไม่รู้ตัวได้อย่างไร” หัวหน้าห้องซาดาโกะโกรธมากลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่อยู่หลังห้องตะโกนมาจนแอนนาสะท้าน เพราะซาดาโกะนั้นถือว่าเป็นพี่ใหญ่สำหรับเด็กๆในห้องนี้ทีเดียว
“ข้ออ้างแย่ๆแบบนี้ไม่น่าออกมาจากปากเธอเลยนะแอนนา ถ้าพี่ชายเธอรู้เข้า มันจะเสียหายไปทั้งตระกูล ภาพก็เห็นโต้งๆออกอย่างนั้นจะแก้ตัวอะไรได้อีก ชิลด์นายเงียบไปเลยดีกว่า ก่อนทำทำไมไม่คิดให้ดีเสียก่อนสมองเธอก็มีนี่ ทำไมคิดไม่เป็น”
“พี่ชาย?” แอนนาสะท้านกับคำพูดที่พาดพิงไปถึงเดลพี่ชายของเธอ ตั้งแต่เล็กเธอไม่เคยทำเรื่องอะไรให้เดล พี่ชายผู้ซึ่งเปรียบเสมือนบิดาต้องเป็นห่วงเท่าครั้งนี้ เมื่อเธอนึกถึงพี่ชายแล้วก็ยิ่งร่ำไห้เข้าไปใหญ่ สุดท้ายต้องฟุบลงไปกับโต๊ะ
ซาดาโกะเห็นเช่นนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง ความรู้สึกที่เธอให้กับแอนนาตั้งแต่ที่แอนนาย้ายมาจากโรงเรียนอื่น มันคือความจริงใจของเธอ เมื่อได้ต่อว่าแอนนาไปแล้วเธอจึงคลายความโกรธลงได้ ในใจของเธอเริ่มคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
และแอนนากลับไม่โกรธซาดาโกะสักนิดเพราะเธอเข้าใจในความหวังดีของพี่ใหญ่คนนี้
………………………………………………….................
เสียงของเอลหายไป
พลังของมัน....
“ฉันปิดปากแกอยู่ รับรองแกไม่มีทางส่งเสียงออกมาได้หรอก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่า”
ไอ้บ้า แกจะเอายังไง....
เอลไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับพวกเดียวกันที่ร้ายกาจเช่นนี้
“นี่ไม่ใช่พลังพระเจ้าแล้วจะเรียกว่าอะไรกันล่ะเอล”
อย่า.. อย่า...
เสียงของเอลติดที่ลำคอเหมือนมีก้อนอะไรอุดปากอยู่ พยายามบีบคออ้าปากก็ไม่มีเสียงออกมา
อุ๊บบบบบ..
ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่มีเสียง เขาจึงยกมือกำหมัดตั้งท่าสู้ เขาเพิ่งรู้สึกว่าพลังเหนือมนุษย์นั้นใช้ให้ดีก็ได้ ใช้ให้เลวก็เลวได้สุดขั้วทีเดียว
เจ้านี่มันร้ายกาจ..จะทำยังไงดี..
ทันใดนั้นเขาก็ตาเหลือกลานเมื่อเห็นแอนนากำลังจะแกะกระดุมเม็ดสุดท้ายแล้ว
อย่าทำนะแอนนา...อย่า...
ร่างของแอนนาตรงหน้าแม้ยังใส่เสื้ออยู่แต่ก็เผยให้เห็นยกทรงชั้นในเต็มตา
“อย่าลืมขอบใจฉันที่ทำให้แกได้สมหวังเสียล่ะ..”
จู่ๆ แอนนาก็พุ่งเข้ามากอดเอลไว้อย่างรวดเร็วจนเอลตั้งตัวไม่ทัน
อุ๊บบบบบบ.. เฮ้ย...
เอลตาเหลือกลาน หน้าอกของแอนนาเข้ามาเบียดแน่นที่หน้าอกของเขา เธอกอดรัดเขาแน่นจนเขาอึดอัด แบบนี้ไม่เห็นจะรู้สึกดีสักนิดเลยให้ตายสิ...
เขากำลังคิดว่าก่อนหน้านี้ทำไมไม่รีบหนีไปนะ ปล่อยให้มันเล่นงานแบบนี้มีหวังแย่แน่ และตอนนี้ถ้าพาแอนนาหนีออกไปด้วยเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยแบบนี้ ถ้ามีคนพบเห็นเข้าคงแย่แน่
ร่างของเขาแข็งทื่อปล่อยให้แอนนายิ่งกอดรัดแน่นมากขึ้น เขาคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถูกหญิงสาวกอด จู่แอนนาตาแป๋วก็พยายามประกบริมฝีปากเข้าหาเขา แต่เขาพยายามหลบซ้ายหลบขวาทำให้เธอไม่สามารถประกบปากได้
อย่านะไอ้ชั่ว...
ไม่มีเสียงออกจากปากของเขา ไม่ว่าจะร้องด่าอย่างไร เจ้าวายร้ายคงไม่ได้ยิน
“คุณชอบฉันมากไม่ใช่หรือ จะหนีทำไมกันคะ ทำไมไม่ทำตามที่ใจสั่งล่ะ”
เอลอึ้งกับคำพูดนั้น พูดจบแอนนาก็ใช้วงแขนกอดรัดเขาจนแน่น เขาไม่สามารถสะบัดเธอออกไปได้
เอาวะเป็นไงเป็นกัน..
เขาปล่อยให้แอนนาประกบปาก ริมฝีปากทั้งสองประกบกัน แอนนาเป็นฝ่ายจูบเขาอย่างดูดดื่มตามการสั่งการของผู้บุกรุก เขาก็ปล่อยให้ทำทั้งที่หลับตาปี๋ เขาคิดแผนโอนอ่อนผ่อนตามเพื่อหาโอกาสหนี
“จะเล่นงานฉันอีท่าไหนไม่ทราบเอล” จิตนั้นล่วงรู้ความคิดของเอลตลอดเวลา ขณะนี้มันรับรู้แล้วว่าเอลกำลังวางแผนเพื่อโต้กลับ
“แกโดนดีแน่ในห้องนี้มีกล้องซ่อนอยู่หลายตัว มันกำลังจับภาพคู่ของแกอยู่และถ่ายทอดสดไปทั่วโรงเรียนแล้วล่ะ”
เฮ้ย...อะไรวะ...
เอลกำลังคิดว่าแผนโอนอ่อนผ่อนตามยิ่งทำให้แย่เข้าไปใหญ่ถ้ามีกล้องกำลังแอบถ่ายอยู่จริง เขาหมดทางแก้ตัวแน่..ไม่น่าเลย...
“แกจะดังในชั่วข้ามคืน เกมโอเว่อร์ลัคกี้บอยกู้ดบาย”
เอลรู้ว่าวายร้ายกำลังจะไปแล้วจึงจับแขนแอนนาไว้มั่นแล้วดันตัวออกไป ก่อนที่จะร้องออกมาได้ เพราะไม่ได้ถูกควบคุมอะไรแล้ว เขาพูดได้แล้ว
“อย่าเพิ่งไปสิวะไอ้บ้า อย่าเพิ่งไปปปปปปปปป”
จิตนั้นยังถอนตัวจากแอนนา ทำให้เธอได้สติกลับคืนมาในทันใด
เมื่อเธอเมื่อเห็นเอลจับแขนอยู่ก็ถึงกับร้องลั่นห้อง
“ช่วยด้วยยยยยยยยยย”
เอลถึงกับหน้าซีดเผือดใช้มืออุดปากเธอไว้ไม่ให้ร้อง แอนนาตาเหลือกลานหยุดร้องในทันที แต่น้ำตาเธอไหลอาบหน้าไปแล้ว
“อย่าเสียงดังสิเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน ฉันจะอธิบายให้ฟัง”
เอลปล่อยมือและวิ่งไปบนกองเก้าอี้ปีนขึ้นไปถึงเพดานเพื่อมองหากล้องที่วายร้ายพูดถึง
“อยู่ไหน กล้องอยู่ไหน”
เขาเห็นกล้องตัวหนึ่งวางอยู่ในกองเก้าอี้ที่ซ้อนทับกันอยู่ เมื่อหยิบขึ้นมาก็จ้องมองไปที่รูรับภาพ ทันใดนั้นเหมือนเขาได้เห็นใบหน้าใครคนหนึ่งจากอีกฝากของสายสัญญาณ
“ไอ้ชั่ว” เขาร้องและขว้างกล้องลงพื้นก่อนจะกระทืบมันจนแหลกคาเท้า เขาวิ่งไปหากล้องตัวอื่นอีก แต่ก็หากล้องตัวอื่นไม่พบ
“มันส่งภาพเราไปแล้ว”
เอลสัมผัสได้ถึงเรื่องร้ายๆที่กำลังรอเขาในอนาคตข้างหน้า กล้องคงส่งภาพเมื่อครู่นี้ไปยังเครือข่ายของมันแล้ว และตอนนี้คงออกอากาศสดอย่างที่มันพูดไปแล้ว ทำลายไปก็ไม่มีประโยชน์
“โอย...”
เอลทรุดลงไปนั่งกับพื้นเอามือกุมศีรษะหลับตาเหมือนคนสิ้นหวัง
“เธอทำอะไรกับฉันฮือๆๆๆๆๆ”
เอลไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของแอนนา เกิดมาไม่เคยสิ้นหวังแบบนี้มาก่อน แต่เสียงสะอึกสะอื้นของแอนนาก็ทำให้เขารู้สึกตัว เขาหันมามองเธอ
“แอน...” เขาพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ไม่ว่าแกคือใครก็ตาม ฉันจะต้องหาตัวแกให้เจอ จะอัดแกให้เละเละเละไปเลย ไอ้ชั่ว...
“แอนนา”
ไม่ทันขาดคำแอนนาก็กระโจนออกไปเปิดประตูวิ่งหนีออกจากห้องโดยไม่ฟังเสียงของเขาอีก
เด็กหญิงชายสองสามคนที่หน้าห้องนั้นจ้องมองแอนนาซึ่งวิ่งสวนออกไป แต่กลับมองไม่เห็นเอลซึ่งวิ่งตามออกมาด้วย เพราะเอลใช้ความเร็วเหนือมิติออกจากที่นั่นไปหยุดนิ่งอยู่ที่ชั้นล่างของตัวตึกด้วยความเหนื่อยหอบ สีหน้าของเอลซีดเผือด สมองของเขาตื้อไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เมื่อมองไปเห็นทีวีจอใหญ่ที่ติดข้างฝาก็พบว่ามันกำลังถ่ายทอดภาพเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่
ไอ้ชั่ว...
เขาถึงกับตาเหลือกโตด้วยความตกใจ จนทรุดนั่งลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น
“จะทำยังไงดี... ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที...”
เอลตกอยู่ในสภาพทางตัน เหงื่อกาฬไหลย้อยเต็มหน้า เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี.. เขาไม่มีทางแก้ตัวอะไรได้อีกแล้ว โลกทั้งโลกกำลังพังทลายลงแล้ว
.....................................................................................................................................
เช้าวันถัดมา
เรื่องของทั้งสองคนเป็นที่โจษจันกันทั่วโรงเรียน
วิดีโอคลิปเรทอาร์ส่วนตัวของคนทั้งคู่เมื่อค่ำคืนที่แล้วถูกถ่ายทอดออกรายการโทรทัศน์ภายในโรงเรียน เป็นข่าวฮือฮากันตลอดทั้งวัน ภาพเคลื่อนไหวทั้งหมดถูกส่งไปยังห้องควบคุมสัญญาณโทรทัศน์ มีนักเรียนจำนวนมากมาขอดูแต่อาจารย์ใหญ่กลับไม่อนุญาตและสั่งปิดการถ่ายทอดโทรทัศน์ทั้งวัน
วายร้ายทำสำเร็จมันได้ภาพจากกล้องนั้นก่อนที่เอลจะกระทืบมันจนพัง
เอลก้มหน้ามาตลอดทั้งวันไม่พูดไม่จา เพื่อนๆ ในห้องก็ไม่มีใครกล้าถาม ได้แต่ซุบซิบและแอบมองเขา จนเขารู้สึกอึดอัด
ส่วนแอนนาที่อยู่อีกห้องได้แต่นั่งร่ำไห้ที่ห้องโดยมีเพื่อนคอยปลอบเธออยู่ ชิลด์พยายามไล่คนอื่นให้ไปและอย่าพูดถึงเรื่องนั้น
“เธอทำเรื่องบ้าๆนั่นได้ยังไงนี่ ไม่รักนวลสงวนตัวเลย เสียดายที่ฉันดูคนผิดไปจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะไร้ยางอายแบบนี้” เอมมี่เพื่อนหญิงคนหนึ่งในห้องส่งเสียงเกรี้ยวกราดต่อว่าแอนนา
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ทำ ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้...”
แอนนาพยายามอธิบายทั้งน้ำตา
“ยังมาโกหกอีกหลักฐานก็ทนโท่ออกอย่างนั้น ยังจะเถียงให้มันได้อะไรขึ้นมาแอนนา” วานน่าเพื่อนอีกคนพูดขึ้นด้วยอารมณ์เช่นกัน เธอสนิทกับแอนนาและนั่งอยู่โต๊ะข้างหน้าแอนนา
“ก็ฉันไม่รู้ตัวนี่นา ฉันไม่รู้ตัว” แอนนาร่ำไห้อย่างสะอึกสะอื้น “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...”
“หยุดว่าเธอได้แล้ว ฉันเชื่อว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล ทุกคนหยุดก่อนเถอะ เราต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนถึงตัดสินเธอ”
ชิลด์ร้องลั่น ทุกคนในห้องต่างหยุดวิพากษ์วิจารณ์
“ไม่รู้ตัวได้อย่างไร” หัวหน้าห้องซาดาโกะโกรธมากลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่อยู่หลังห้องตะโกนมาจนแอนนาสะท้าน เพราะซาดาโกะนั้นถือว่าเป็นพี่ใหญ่สำหรับเด็กๆในห้องนี้ทีเดียว
“ข้ออ้างแย่ๆแบบนี้ไม่น่าออกมาจากปากเธอเลยนะแอนนา ถ้าพี่ชายเธอรู้เข้า มันจะเสียหายไปทั้งตระกูล ภาพก็เห็นโต้งๆออกอย่างนั้นจะแก้ตัวอะไรได้อีก ชิลด์นายเงียบไปเลยดีกว่า ก่อนทำทำไมไม่คิดให้ดีเสียก่อนสมองเธอก็มีนี่ ทำไมคิดไม่เป็น”
“พี่ชาย?” แอนนาสะท้านกับคำพูดที่พาดพิงไปถึงเดลพี่ชายของเธอ ตั้งแต่เล็กเธอไม่เคยทำเรื่องอะไรให้เดล พี่ชายผู้ซึ่งเปรียบเสมือนบิดาต้องเป็นห่วงเท่าครั้งนี้ เมื่อเธอนึกถึงพี่ชายแล้วก็ยิ่งร่ำไห้เข้าไปใหญ่ สุดท้ายต้องฟุบลงไปกับโต๊ะ
ซาดาโกะเห็นเช่นนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง ความรู้สึกที่เธอให้กับแอนนาตั้งแต่ที่แอนนาย้ายมาจากโรงเรียนอื่น มันคือความจริงใจของเธอ เมื่อได้ต่อว่าแอนนาไปแล้วเธอจึงคลายความโกรธลงได้ ในใจของเธอเริ่มคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
และแอนนากลับไม่โกรธซาดาโกะสักนิดเพราะเธอเข้าใจในความหวังดีของพี่ใหญ่คนนี้
………………………………………………….................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ